Jump to content


antiseptic

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 27 มีนาคม 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2557 11:30
-----

#1069155 "กรมสุขภาพจิต" ยืนยันชาวนาฆ่าตัวตายจาก"จำนำข้าว" 9 ราย - ม็อบ...

โดย freeman911 on 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:02

1392696563-9-o.jpg

http://www.thdrama.com/?p=7014




#1069166 "กรมสุขภาพจิต" ยืนยันชาวนาฆ่าตัวตายจาก"จำนำข้าว" 9 ราย - ม็อบ...

โดย -3- on 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:06

เห็นมั้ย หลักฐานเด็ดว่าไม่ใช่ 11 คน  :angry:




#1068392 ฮีโร่ ช่วยออมสินมาแล้ว

โดย ทองดี on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 21:22

 

 

จะเป็นเหมือนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งป่าว? กรุณาไปใช้สิทธิ์ แต่ผมไม่ไปเพราะเป็นสิทธิ์ของผม? pic.twitter.com/gshUxeHRUB

 
BgrEqwjCQAAkz7h.jpg

 

ผู้ช่วยพระเอก   :D

 

 

คนนี้นี่เอง  ที่เอาเงินพัน ไปตกเงิน สิบล้าน :angry:




#1067508 ขอถามหน่อยครับ

โดย HiddenMan on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 14:58

http://manager.co.th...D=9570000018666

 

ชาวภูเก็ตแห่ปิดบัญชีออมสิน ไม่พอใจปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.จ่ายหนี้ชาวนา

 

ชาวภูเก็ตทยอยถอนเงิน และปิดบัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน สาขาภูเก็ต เป็นจำนวนมาก จนธนาคารต้องจ่ายแคชเชียร์เช็คแทนเงินสด เพราะไม่มั่นใจหลังธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.จ่ายหนี้ชาวนา ขณะที่ ธ.ก.ส.สาขาภูเก็ต พนักงานแต่งชุดดำ และติดป้ายคัดค้านนำเงินช่วยโครงการรับจำนำข้าว 

 

 

http://www.manager.c...D=9570000018601

 

ออมสินศรีราชาเงินหมดจ่ายเช็คแทน คนแห่ปิดบัญชี

 

แต่พอมาถึงทางธนาคารแจ้งว่าสามารถจ่ายเงินสดได้แค่ 30,000 บาท ในส่วนที่เป็นดอกเบื้ย แต่เงินต้น 600,000 บาท จ่ายเป็นเช็ค ได้รับการชี้แจงว่า ทางสำนักงานไม่ได้เตรียมเงินสดไว้ซึ่งรู้สึกงงมาก ซึ่งเรามาเบิกเงินจากธนาคารแทนที่จะได้เงินสดกลับบ้าน แต่กลับได้เช็คกลับไป ยิ่งทำให้รู้ไม่มั่นใจในสถานภาพของธนาคารออมสินมากขึ้น

 

557000001925704.JPEG




#1066914 The Next Move: ของ กปปส. และ ระบอบทักษิณ โดย ดร.พร วิรุฬห์รักษ์

โดย Zecret on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 09:06

The Next Move: กปปส.
ทีนี้มาลองดู กปปส. บ้างว่าเป็นอย่างไร
ความจริงที่เราต้องมอง กปปส. คือเราต้องดู Demographics ของเราก่อน
หากมอง กปปส. เหมือนองค์กรๆ หนึ่งก็ต้องมองว่าองค์กรนี้ประกอบด้วยบุคคลที่มีลักษณะอย่างไร
เอาง่ายๆ มาลอง SWOT กับสถานการณ์นี้ดูก็ได้

ผมชอบบอกลูกศิษย์เสมอว่าเวลาเราจะทำ SWOT นั้น เราต้องทำให้ตัวแปรเชิงสถานการณ์นิ่งก่อน
สถานการณ์ตอนนี้คือการไล่รัฐบาลให้หมดจากอำนาจ นี่คือเป้าหมายหลักของเรา
แล้วเราก็มา SWOT กัน ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557

Strength – ความแข็งแกร่ง
กปปส. ของเราคือคนทำงานคนชั้นกลาง สิ่งที่เราแข็งแกร่งแน่ๆ มีดังต่อไปนี้

-เงิน
ถ้ากำนันสุเทพบอกเดี๋ยวนี้ว่าจะเอาเท่าไหร่ บัญชีไหน บอกเดี๋ยวกดมือถือโอนให้ได้ทั้งนั้นทั่วประเทศ
เงินหลักพัน หรือหลักหมื่นของผู้ชุมนุมหลายๆ คนคือเรื่องเล็กๆ
หากรวมทรัพย์สินของสมาชิก กปปส. เข้าด้วยกัน บอกได้เลยว่ามากกว่าระบอบทักษิณอย่างแน่นอน
เงินมีคนละเป็นล้าน มีกันสักล้านคน ลองนับดูเองว่าเท่าไหร่ แล้วจริงๆ มีกันกี่ล้าน

-ข้อมูลข่าวสาร
เรามีนักวิชาการเพียบ แล้วเรามีสายอยู่ในกระทรวงต่างๆของรัฐบาลเพียบ
รัฐบาลทำอะไรเรารู้ก่อนเสมอ เพราะข้าราชการที่ส่งข่าวให้เรามีตลอด
แล้วเรายังมีข้อมูลเรื่องการโกง เรื่องเศรษฐกิจต่างๆ มากมายที่พร้อมบริการ

-เทคโนโลยี
ตั้งแต่เวที การใช้เครื่องมือสื่อสาร ระบบ IT ต่างๆ เรามีพร้อมที่จะสนับสนุนการเคลื่อนไหว

-การสื่อสาร
เรามีคนที่จะสร้างสารได้ทั้งไทย ทั้งอังกฤษ
พร้อมที่จะคุยกับคนทั่วโลก ส่งข้อความไปในระบบถ่ายทอดต่างๆ

Weakness
-กำลังคนในถนน
เราทุกคนส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน กินเงินเดือน นั่งห้องแอร์ ถ้าร้อนๆ ไม่กล้านั่ง เหนื่อยง่าย

-เวลา
พอต้องทำงาน มักก็ไปได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่ได้อยู่ตลอดเวลา ทำให้มีปัญหา

Opportunity
โอกาสกำลังมาทางเรา เพราะรัฐบาลกำลังอ่อนแอถึงที่สุด

Threat
ตัวเราเองประท้วงแบบปิดถนน สงบ สันติ อหิงสา ไม่ได้ผลแน่นอน
เราลองมาสามเดือนแล้ว คนออกมาอีก 10 ล้านก็ไม่ไปแน่
แล้วเราก็ไม่รู้จะยกระดับไปอย่างไรด้วยตัวเอง

Solution: กปปส. Sponsor ชาวนา
โดยสรุปหากเราดู SWOT ของ กปปส. เราก็คือฝ่ายบุ๋นนั่นเอง เราบู๊ไม่เป็นหรอก
ถึงแม้เราจะมีชาวบ้านมาอยู่กับเรา แต่ลองดูจำนวนก็ร่อยหรอลง
และส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ตาม Weakness ที่เห็น
หากเป็นอย่างนี้ต่อไปเราจะกร่อย แล้วแกนนำเราจะเป็นอันตราย

เราอย่าไปนับทหารว่าเป็นบู๊ เพราะเขาต้องคุมเชิง
ขืนเขามาบู๊กับเราก็จะมีปัญหาภาพการปฎิวัติอีก
ทหารต้องเคลื่อนที่อย่างระมัดระวังมาก
และต้องพูดตรงๆ คือทหารก็ต้องคุมความประพฤติของการ์ดเราด้วย
เราเองก็ไม่ได้มีระบบการจัดกำลังคนแบบที่ดีเป็นระเบียบมากเท่าใดนัก
ความผิดพลาดทำร้ายคนไปก็มี

ข่าวดีคือชาวนาฝ่ายบู๊นั้นขาดสิ่งที่เรามี และเรามีในสิ่งที่ชาวนาขาด
จะเป็นการรวมกำลังที่ “สุดยอด” แต่เราต้องมีแผน

1. ความสัมพันธ์ เราเป็นกองหลัง ชาวนาเป็นกองหน้าและผู้นำ
กำนันสุเทพพูดชัดเจนว่า เราต้องไม่แทรกแซง เราต้องไม่นำเขา เราอยู่ในฐานะ Sponsor
ให้ชาวนาตัดสินใจ เราตัดสินใจตามที่ชาวนาต้องการ ชาวนาลุยเรา Back ชาวนาถอยเราช่วย

2. เราสนับสนุน ปัจจัย 4 ให้ชาวนาอยู่ได้ พร้อมกับค่าเดินทางให้มากรุงเทพ
ใครอยากมา ออกค่าน้ำมันให้เลย ไปพามาเลย

3. เราสนับสนุนการให้ข้อมูลข่าวสาร พอชาวนามานั่งทวงข้าวหน้าเวทีเราเราก็เริ่ม Lecture ให้ชาวนาฟัง
เพิ่มความรู้ให้ชาวนา อย่าลืมกรุณาใช้ภาษาง่ายๆ อย่าเป็นเรื่องวิชาการเวอร์ๆ มากนัก

4. เราสนับสนุนด้านกฎหมาย หากจะฟ้องจะฟ้องอย่างไร ฟ้องที่ใคร ประชาธิปปัตย์ทำได้อยู่แล้ว

5. เราสนับสนุนให้โอกาสชาวนาได้มีเสียง ให้ชาวนามาพูดบ้าง ออกเวที
เราเองที่เป็นคนเมืองกินข้าว ไม่เคยรู้จักวิถีชีวิตของชาวนามาก่อนเลย

ผลลัพธ์ที่น่าจะเกิด
-ยิ่งบรรยากาศดี มีอาหารกิน อยู่ได้เรื่อยๆ ชาวนาจะยิ่งมาจำนวนจะมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็จะมาพร้อมกับการจัดการที่ต้องเป็นระบบเช่นกัน เพราะเคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว
การ์ด กปปส. เองก็ทำร้ายคนไปผิดตัวมีพอควร

-ความสัมพันธ์อันดีระหว่างเรากับชาวนาจะมีมากขึ้น กปปส. เป็นการเรียนรู้ระหว่างกัน
รัฐบาลที่บอกตัวเองมาตลอดว่าเป็นตัวแทนคนชั้นล่าง จะถุกล้อมโดยคนชั้นบนระดับปัญญาชน
และคนชั้นล่างคือชาวนา ให้ขยับไม่ได้

-พละกำลังของ กปปส. จะมีทิศทางที่ชัดเจน มีความชอบธรรมมากขึ้น เพราะเราสู้เพื่อคนจน

-ในขณะเดียวกันก็ต้องตรวจสอบการกู้เงินของรัฐบาลว่าจะมีผิดกฎหมายหรือไม่ ปิดให้หมด

-ระหว่างนั้นต้องสัญญากับชาวนา และมีแผนที่ชัดเจนว่าจะได้เงินคืนอย่างไร หากรัฐบาลไปแล้ว
แผนนี่ต้องชัดเจน จับต้องได้ โดยเฉพาะเรื่องจำนวน และเวลา
เพราะหากทำไม่ได้ ชาวนาจะ “ฆ่าเรา” แทน

ถึงตรงนี้ แกนนำกปปส. ที่จะระดมทุน ต้องคิดแผนการเหล่านี้ให้รอบคอบ
เพราะเวลาแห่งการยกระดับการชุมนุมจริงๆ มาถึงแล้ว
และขุนพลตัวจริงพร้อมขวานตัดหัวระบอบทักษิณอยู่ใกล้แค่เอื้อม
โดยส่วนตัวหากมองในเรื่องของเวลา
ต้องให้สถานการณ์สุกงอมมากกว่านี้สักเล็กน้อย อาจจะเป็นสงกรานต์

หากเราไม่ไปช่วย Organize ให้ชาวนา ชาวนาอาจจะดำเนินการเองแบบสะเปะสะปะ และอาจไม่สงบ
ถึงขนาดมีการจลาจลเผาเมือง แล้วรัฐบาลก็จะใช้กำลังเข้าปราบอาจจะต้องเสียเลือดเนื้อ
และถึงตอนนั้นถึงทหารออกมาก็ไม่คุ้ม

แต่หากเรามีการ Organize ให้ชาวนาจัดชุมอย่างเป็นระบบ
ชาวนาจะเป็นกำลังสำคัญมากในการล้มรัฐบาล
โดยไม่ต้องมีใครเจ็บใครตายอีก
พร้อมๆ กับบรรยากาศดี ดนตรีไพเราะ
Enemy of my Enemy is my friend
อย่างน้อยก็จนกว่าเป้าหมายของการโค่นระบอบทักษิณจะจบสิ้นลง



#1066913 The Next Move: ของ กปปส. และ ระบอบทักษิณ โดย ดร.พร วิรุฬห์รักษ์

โดย Zecret on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 09:05

รู้เขา: The Next Move of ระบอบทักษิณ
ตอนนี้สังเกตแนวทางของรัฐบาลระบอบทักษิณ ไม่มีประเด็นที่ทำให้เดือดร้อนมากเท่าเรื่องจำนำข้าว
การประท้วงของ กปปส. เราเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น ซึ่งทำให้เกิดข่าวตีแผ่ไปทั่วโลก
และเป็นการเปิดตัวตนของคนที่เกลียดระบอบทักษิณมารวมกัน

แต่การที่จะปิดถนน เปิดเวทีไล่ให้รัฐบาลออกไปนั้น หลายๆ คนก็ทราบว่า
มันเป็นไปไม่ได้สำหรับรัฐบาลที่ไร้ความรับผิดชอบชั่วดี ตรงนี้ทุกคนก็ต้องยอมรับ
แกนนำที่เดินไปปิดสถานที่ราชการหรือ ถนน ในที่สุดก็ต้องยอมเปิด
เพราะคนก็เริ่มมีความเดือดร้อน เราก็ต้องเห็นใจเขา
ทีนี้พอมีแกนใหม่อย่างชาวนา ซึ่งเป็นฐานเสียงของเขา
ที่วันนี้จงเกลียดจงชังเขาเข้ากระดูกดำ ระบอบทักษิณย่อมเดือดร้อน

ทางเลือกที่รัฐบาลมีอยู่ตอนนี้คือ
1. ขายข้าว
เป็นวิธีมาตรฐานที่ง่ายที่สุด ก็คือมีข้าว 10 กว่าล้านตัน ก็ขายออกไป
เอาเงินมาให้ชาวนา ง่าย แค่นั้น แต่เรื่องนี้มีปัญหาหลักได้แก่

-ข้าวมีอยู่จริงหรือไม่
จากที่ทราบว่ามีการทุจริต หิ้วข้าวออกไปจากระบบฟรีๆ อย่างต่อเนื่อง
แล้วจริง 10 กว่าล้านตัน แต่มีจริงๆ กี่ตัน ตรงนี้ถ้าความแตกก็เป็นเรื่องอีก

-คุณภาพของข้าวที่จะขาย
อาจจะมีการปลอมปน ต่างๆ ทำให้มีผลต่อราคาข้าวก็จะลดลงไป
G2G ไม่ต้องพูดถึง เพราะพอคนรู้ว่าเป็นข้าวที่ขายโดยรัฐบาลไทยเอง
คนก็ไม่เชื่อในคุณภาพของข้าวแล้ว เพราะรู้ว่าทุจริตกันมากขนาดไหน
หากจะขายก็ต้องขายราคาขยะๆ กันเลย เพื่อเอาแค่เงินสด
พูดง่ายๆ แบบชาวบ้านคือ กำขี้ดีกว่ากำตด
แต่ขี้นี่คือขี้จริงๆ พร้อมกับหนี้ที่ต้องจ่ายรัฐบาลต่อ

-Speed
อันนี้สำคัญที่สุด จากที่สถาบัน TDRI บอกว่า
ระบายข้าวตอนนี้ได้เร็วที่สุดคือได้เงินมา 10,000 ล้านบาทต่อเดือนอย่างมาก
ดังนั้นถ้านับกับคร่าวๆ ใบประทวนใบสุดท้ายในรอบนี้ที่จะได้รับการจ่ายเงินจำนำ
ก็น่าจะอยู่ในช่วงสงกรานต์ “ของปีหน้า”

2. กู้เงิน
จากที่เห็นชัดๆ กันอยู่ว่า ข้าวยังไงก็ขายไม่ทันแน่ๆ หรือทำให้เกิดแผลเปิดมาก
วิธีที่ดี ที่เร็วที่สุดก็คือกู้ แล้วจะกู้ใคร

-ธนาคารเอกชนภายในประเทศ
ไม่มีทางเพราะการกู้ครั้งนี้เป็นเงินกู้ที่เป็นหนี้เสียแน่นอน
คนให้กู้ก็ต้องอยากกู้และได้ดอกเบี้ย
แล้วรัฐบาลมีปัญญาหาให้ทั้งสองอย่างนี้หรือไม่
รับรองเจอผู้ถือหุ้นเอาตาย และเจอคนแห่ถอนเงิน

-ธนาคารรัฐ
ก็เช่นกัน ก็เป็นธนาคารเหมือนกัน แถมสหภาพแรงงานเข้าไปให้
คนเขาก็ต้องปกป้องเงินของเขา ไม่เอาไปเป็นหนี้เสียแน่นอน

-กู้กองทุนบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนสลาก
ทั้งหมดนี้ มีนักกฎหมายของฝ่ายตรงข้ามรอเล่นงานอยู่ และมีเจ้าของเงิน
ก็คือทั้งข้าราชการบำนาญ และประชาชนผู้จ่ายประกันสังคมรอออกมาจัดการถ้าไปแตะ
ซึ่งถามว่าจริงๆ จะแตะได้มั้ย ถ้ากล้าออกเป็นมติ ครม.ได้ กองสลากก็อาจจะยอม
เพราะไม่มีเจ้าของเงินตัวจริงชัดเจน แต่รัฐบาลก็ต้องพร้อมที่จะทำผิดกฎหมาย
เสียสละติดคุก เอาเงินมาให้ชาวนา ซึ่งรัฐบาลนี้ ไม่ใจ Sport ขนาดนั้นแน่นอน

สรุป ในประเทศแทบไม่เหลือแหล่งจะกู้ได้ แล้วจะหันไปพึ่งใครดี ก็ต้องดูต่างประเทศ
ก็ต้องถามว่าการที่สถาบันหรือแหล่งเงินจากต่างประเทศจะให้กู้เงิน เป็นหมื่นๆ ล้านหรือแสนล้าน
มาจ่ายชาวนานั้น ก็จะต้องมี การ “แลกกัน” แล้วการแลกที่ว่าจะเป็นอะไรได้บ้าง
หลักๆ ก็คือการเอาทรัพย์สินของชาติไปค้ำประกัน แล้วประชาชนที่ทราบจะยอมหรือไม่
หรือยิ่งกว่านั้นคือ Make Deal เช่นเอาบ่อก๊าซไปเลย แล้วเอาเงินมา

ซึ่งจะทำอะไรแบบนี้ ก็ผิดกฎหมายเห็นๆ เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ
ตรงนี้ก็ต้องย้ำอีกรอบว่า ที่รัฐบาลบอกว่าเป็นความผิดของ กปปส. ที่ทำให้รัฐบาลยุบสภา
เราก็คงจะจำกันได้ว่า ในวันที่เราออกมาเดินกันเป็นล้านนั้น เราไม่ได้สนใจว่าปูจะยุบสภาหรือไม่
เราต้องการให้เธอไปต่างหาก แล้วก็ไม่ได้มีการกดดันให้ใครยุบสภาในวันนั้น

ชาวนาก็จำได้ว่าการผัดผ่อนหนี้นั้นเกิดก่อนการชุมนุม จะหลอกเขาตรงนี้ไม่ง่ายแล้ว
ที่แน่ๆ คือก่อนจะยุบสภาแทนที่จะ Clear ทุกอย่างให้จบ
รวมทั้งกู้ 130,000 ล้านให้เรียบร้อยก็ไม่ทำอีก “ลืม”
เป็นการย้ำสุดยอดแห่งความ “ชั่ว” และ ความ “โง่”
ของคนในระบอบทักษิณได้ชัดเจนมากขึ้น

3. รีบกลับมาเป็นรัฐบาลเต็มรูปแบบโดยเร็ว
การกลับมาเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องสมบูรณ์ จะทำให้ข้อจำกัดในการกู้เงิน หรือ Move เงินต่างๆ จบลง
โยกงบโน้นมาปะงบนี้ได้ แต่ “ความเป็นจริง” ก็คือ การเลือกตั้งที่ยังไม่จบนี้
โดยเฉพาะในภาคใต้จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก และเมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป
การเลือกตั้งก็ไม่เสร็จเสียที ชาวนาก็จะเพิ่มแรงกดดันขึ้นเรื่อยๆ
และต่อให้กลับเข้ามาได้ โครงการนี้ก็อยู่ใน Radar ปปช. เรียบร้อย แล้ว
การที่จะทำอะไรกับกองเงินจะยากมากๆ ถ้ายังอยากจะมีแผ่นดินอยู่ในประเทศไทยสำหรับรัฐมนตรีแต่ละคน

สรุป จะขายข้าว จะกู้ หรือจะกลับมาเป็นรัฐบาลก็ไม่ง่ายสักอย่าง
แต่โดยยังไงก็ต้องหาเงินมาจ่ายชาวนาให้ได้ เพราะถ้าไม่รีบแก้ปัญหานี้โดยเร็ว
ปล่อยทุกอย่างลุกลามไปถึง Q2 ของปีนี้ รับรองได้ว่า จะ “เป็นสงกรานต์เลือดสาด”
ที่ชาวนาจะเริ่มใช้กำลัง เพราะเขาไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว
และพรรคเพื่อไทยก็น่าจะปิดประตูการเป็นพรรคใหญ่ไปตลอดกาล
พร้อมกับการสิ้นสุดของมหาทรราชชื่อทักษิณ ชินวัตร

แต่จริงๆ หากลอง เอาตนเองเป็นพรรคเพื่อไทย
แล้วลองมองดูแหล่งเงินรอบๆ ตัว ที่มีเงินมหาศาลขนาดนั้น
ก็เหลือเพียงแหล่งเดียวที่จะมีเงินถึง 130,000 ล้าน ก็คือ
“สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์”
สิ่งที่พรรคเพื่อไทยอาจทำก็คือ อาจจะไปขอกู้ สร้างแรงกดดันให้กับสำนักงานทรัพย์สิน
แล้วถ้าสำนักงานทรัพย์สินไม่ให้กู้ ก็จะมองเป็นเรื่องของอำมาตย์ ไม่ช่วยชาวนา
เป็นการโยนบาปไปแปดเปื้อนพระองค์ท่านอีก

เชื่อหรือไม่ว่าพรรคนี้ สามารถคิดชั่วได้ขนาดนั้น?
ถ้าไม่เชื่อขอให้ระวัง เพราะเขา Surprise เรามาหลายรอบแล้ว
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อาจจะต้องคิดวิธีรับมือเชิง PR ไว้ก่อน

-PR Machine: โยนความผิดให้คนรอบตัว
เรื่องสำนักงานพระมหากษัตริย์ อาจจะเป็น Scenario ที่โหดไปนิด
แต่ของแบบนี้กันไว้ดีกว่าแก้ เมื่อถึงเวลาที่รัฐบาลเข้าตาจนมากๆ
การเริ่มโยนความผิดจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดย Automatic

จากวิดีโอรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ของสรยุทธ์ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557
เราก็เริ่มเห็น “ลาย” ของสุนัขรับใช้ระบอบทักษิณชื่อ ยรรยง พวงราช
ว่าแท้จริงแล้ว ระบอบทักษิณมองชาวนาเป็นอะไรกันแน่

ไม่ได้มีอะไรมากกว่าดินที่ไว้เหยียบย่ำ ไว้เพราะปลูกเอาพืชพล
ว่างๆ ก็เอาเท้าลูบ ถ่มน้ำลายใส่ หรือถ่ายใส่เท่านั้นเอง (โดยเฉพาะดูนาทีสุดท้าย)
การปล่อย Propaganda หรือข่าวลวงโดยรัฐบาล จะมาพร้อมกับคำพูดโกหกต่อไปนี้

“ชาวนาปลอม” คนที่มาเป็นพวกที่จะมาหาผลประโยชน์ ไม่ใช่ชาวนาจริง
มาหลอกชาวนาให้เดินขบวน แล้วก็มาไถรัฐบาล

“ชาวนาส่วนน้อย” ชาวนาคนอื่นๆ เขาได้เงินไปหมดแล้ว ที่มานี่เป็นคนส่วนน้อยของประเทศ

“พวกกปปส.แปลงร่างมา” เห็นใส่นกหวีด ถือธงชาติมาก็เป็น กปปส. ไปแล้ว
ตอนนี้รัฐบาลเห็นธงชาติไทยไม่ได้ (เหมือนกับเห็นข้าศึก ก็ต้องถามต่อว่าคุณเป็นคนไทยหรือเปล่า
พอเห็นธงเขมรอาจจะดีใจก็ได้) กลยุทธ์นี้จะทำให้ชาวนาไปร่วมกับ กปปส. มากขึ้น
ประมาณว่าถ้ามึงด่ากู กูก็จะเป็นแม่งซะเลย

“ทำนาไม่ได้ผลก็มาทุกปีอยู่แล้ว” อันนี้ภาษาอังกฤษเรียกว่า Downplay คือทำให้ดูเป็นเรื่องทั่วๆ ไปเสีย


ตรงนี้เชื่อว่า ภายในเดือนนี้รัฐบาลจะเล่นตรงนี้มากๆ โดยเฉพาะผ่านช่องหอยม่วง
ผลคือจะทำให้ชาวนาทั่วประเทศเดือดดาลมากขึ้น แต่ทำให้รัฐบาลซื้อเวลาไปได้เล็กน้อย
เหลือให้คนที่ยังรักเสื้อแดงอยู่มาปกป้องรัฐบาล
ซึ่งเวลาคุยกันก็จะเป็นการโทษ กปปส. อีก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด
"ชาวนาไม่สนใจว่าทำไมรัฐบาลถึงหาเงินมาไม่ได้ ชาวนาสนใจแค่จะได้เงินเมื่อไหร่เท่านั้น"

-แตกเป็นเสี่ยง: สถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทย
เป็นที่รู้กันว่าการโกงจำนำข้าวนั้น คนที่รับกันพุงปลิ้นเลยคือ เจ๊ ด. แต่ไม่ได้แบ่งใคร
ขณะนี้ สส.พรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งได้รับเลือก และไมได้รับเลือกเข้ามาจากการเลือกตั้งคราวที่แล้ว
คือ “หนังหน้าไฟ” ที่จะต้องรองรับอารมณ์จากชาวนา ที่พร้อมจะทำอะไรหลายๆ อย่าง
รวมทั้งการใช้กำลังอย่างแน่นอน ถ้ารัฐบาลไม่ยอมใช้เงินโดยเร็ว
สส.เหล่านี้คือ ลิ่วล้อ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ
และกำลังจะเอาชีวิตเป็นเดิมพันกับชาวนา ซึ่งตอนนี้ไม่มีคำตอบอะไร

ทางเลือกที่แท้จริงอีกอย่างที่อาจารย์อัมมาร สยามวาลา เคยพูดว่า “คนที่กินไปต้องคายออกมา”
ก็คือ หมายถึงคนที่โกงเงินจำนำข้าวไป ต้องเอาเงินส่วนนั้นออกมาให้ชาวนาได้แล้ว
และขอให้เชื่อว่าเรื่องนี้มีการคุยกันในพรรคเพื่อไทยแน่นอน
แต่ใครจะเชื่อหัวหน้าแก๊งค์จะยอมคายอะไรออกมา ไม่มีทาง แม้จะเป็นการช่วยชีวิตของลูกน้องก็ตาม

“เงิน” ในเชิงการเมืองคือกระสุนที่ใช้ในการรบ หากจ่ายเงินก้อนนี้ไป
แล้วในอนาคตจะเอาที่ไหนไปซื้อเสียง ทำประชานิยมสร้างบุญคุณกับคนได้อีก
จ่ายไปก็ล่มสลาย ดังนั้นพวกลิ่วล้อ พวกมึงไปแก้ปัญหากันเอาเองก็แล้วกัน
นี่คือความระส่ำระสายในเพื่อไทย ประมาณว่านครพระเจ้ามูลเมืองใกล้แตกเต็มทน

โดยภาพรวม หากเล่นกันตรงไปตรงมา พรรคเพื่อไทยไม่มีทางเลือกมากนัก
การลาออกเป็นไปไม่ได้ เพราะการหลุดออกจากอำนาจรัฐจะทำให้เกิดการเช็คบิลทันที
ก็เหลือทางสุดท้ายทางเดียว ก็คือการก่อจลาจล แล้วเอาทหารของตัวเองที่เป็นแตงโมออกมาลุย
แต่บอกตรงๆ Option นี้ก็รอดยากอีก เพราะทหารเขาก็รู้ตัวเห็นตัว มัดตราสังข์กันเองหมดแล้ว

สรุปจริงๆ ผมเองพยายามมองตัวเองเป็นพรรคเพื่อไทย
ไม่เห็นแนวทางใดที่จะแกะปมอันนี้ออกได้เลย
นอกเสียจากซื้อเวลาไปเรื่อยๆ แล้วไปหาแนวทางเอาดาบหน้า
รอสถานการณ์ปรับเปลี่ยนมาเข้าทางเผื่อมีปาฏิหาริย์

ทีนี้มาลองดูสถานการณ์โดยรอบพรรคเพื่อไทยดู
-เอกชนทิ้ง
เพื่อนๆ ที่เป็นนักธุรกิจแดงตอนนี้เงียบหมด ถ้าถามเรื่องจำนำข้าว บอกได้คำเดียวว่ายังไงก็ต้องจ่าย
แต่นั่นคือเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้ก็จะสี่เดือนเข้าไปแล้ว ตอนนี้ฝ่ายที่เป็น Back เสื้อแดงจ๋าๆ เงียบลง

-นปช.เงิบ
จัดชุมนุมใหญ่ ตอนนี้ลองจัดดูสักจังหวัด แล้วดูว่าจะมีคนมาชุมนุมสักกี่คน
แถลงข่าวที่อิมพีเรียลลาดพร้าวทีโคตรกร่อย ลองจัดชุมนุมอยุธยาดูแล้วดูกันก็ได้
รับรองได้ว่าชาวนาจะเดินไปหา เพราะเมื่อ “วิกฤติปากท้องเข้ามา ประชาธิปไตยวิปริตก็เป็นเรื่องรองไป”

-ตำรวจเกียร์ว่าง
ตำรวจคือนกรู้ ศรส.ตอนนี้ก็นั่งกันอยู่แค่ 2 คน เหลิมบวกปึ้ง แล้วมีธาริต ออกมาปล่อยจี๊ดเล็กน้อย
แจ๊ดกับอดุลย์แทบไมได้เห็นหน้าแล้ว เพราะรู้แล้วว่ารัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำหนักจากจำนำข้าว
มีหมายจับออกมาแล้ว เมื่อวานนี้หลวงปู่พุทธอิสระนั่งคุยกับนักข่าวเป็นทีมใหญ่
มีการ์ดคนเดียวยังไม่กล้าเข้าไปจับเพราะไม่อยากมีเรื่อง
ใครจะเอาตัวไปแลกกับรัฐบาลที่คนกำลังจะมารุมกระทืบ

-สื่อจัดเต็ม
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นสื่อไหนๆ ทั้ง Free TV ทั้งวิทยุ ทั้งหนังสือพิมพ์
ประเภทที่เหยียบเรือสองแคมทั้งหลาย เล่นเรื่องนี้แบบไม่ยั้ง
เพราะถ้าไม่เข้าข้างชาวนางานนี้ ภาพของสื่อนั้น คือ “เลวถ่อยสถุลย์” แน่นอน
แม้กระทั่ง จส.100 ที่มีคนฟังทั่วประเทศยังเล่นเรื่องนี้ ไม่ยั้ง (วันนี้)
เพราะในที่สุดเราต้องเข้าใจว่า สื่อคือธุรกิจ
อะไรที่เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ และมี Drama จะขายดีมาก

ตอนนี้มีชาวนาเสียชีวิตไป 4 ศพ จากจำนำข้าว วันนี้ที่ จส.100 มีชาวนาผู้หญิงโทรเข้ามาร้องไห้
บอกว่ามีชาวบ้านบางคนดูเงื่อนไขสัญญาประกันชีวิตของ ธกส. ว่าถ้าตาย จะได้เงินแสนนึง
พร้อมค่าทำศพ เลยพิจารณาว่าจะฆ่าตัวตายดีหรือไม่ เพราะผ่านช่วงเงื่อนไขห้ามฆ่าตัวตายไปแล้ว
อย่างน้อยถ้าตาย ครอบครัวจะได้สบาย เจอประเด็นขนาดนี้เข้าไปคนน้ำตาร่วงทั่วแผ่นดิน
และสามารถด่าได้ชัดเจนว่ารัฐบาลแม่ง “ชั่ว”

ล่าสุดก็มีการขยายข่าวออกไปว่า “นายกให้เห็นใจรัฐบาลบ้าง แต่นายกยังมีข้าวกิน
วันนี้ชาวนาไม่มีข้าวกินแล้ว นายกเห็นใจชาวนามั้ย”

สรุป สื่อที่ปกติคุมได้สนิท ตอนนี้หลุดหมด คุมอะไรไม่ได้เลย
ตอนนี้มีช่องเดียวที่รัฐบาลคุมได้คือ คือช่อง “หอย” เท่านั้น
โดยร่วมๆ รัฐบาล ค่อนข้างจะ Cluster _ucked มืดแปดด้าน



#1066911 The Next Move: ของ กปปส. และ ระบอบทักษิณ โดย ดร.พร วิรุฬห์รักษ์

โดย Zecret on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 09:04

lhk7uI.gif
The Next Move: ของ กปปส. และ ระบอบทักษิณ
via : Dr.Ponn Virulrak - Politics Only (8 ก.พ. 57)

จากหนังสือ 33 Strategies of War โดย Robert Green ซึ่งเป็นหนังสือกลยุทธ์ที่ฝรั่งเขียนตามซุนหวู่
มีประโยคสำคัญในภาคแรก ก่อนที่จะพูดถึงกลยุทธ์ใดๆ คือ “Seeing things as they are”
ซึ่งหมายถึงการเปิดตา มองรอบๆตัว ดูสถานการณ์ตามความเป็นจริง ไม่ดูตามอารมณ์
ไม่ดูในแบบที่อยากให้มันเป็น ไม่อวดดี ไม่กลัว ไม่สับสน ตัดอารมณ์ทุกอย่างออกไปก่อน
สนใจแค่ “ความเป็นจริง” อย่างเดียว

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในหลายๆ สาขาของการเรียน และประกอบธุรกิจ
เพราะถ้าเราไม่เห็นความจริง หรือเห็นความจริงแต่ไม่ครบถ้วน แผนที่เราจะวางต่อไปก็คือแผนที่ผิด

หลักคิดนี่สำคัญ แต่หากมาปรับในสถานการณ์ปัจจุบัน
ก็ต้องขอเพิ่มองค์ประกอบคำว่า “at that time” เข้าไป เป็นเงื่อนไขอีกข้อที่สำคัญมาก
ซึ่งหมายถึงการพร้อมที่จะวิเคราะห์สถานการณ์ ตามเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป
องค์ประกอบของ “ความจริง” ก็ต้องเป็นความจริง “ณ เวลานั้น” ด้วย
ถ้าเป็นความจริงของเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว
เอามาวางแผนกลยุทธ์ตอนนี้อาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ใช้การไม่ได้

สำหรับการเมืองของไทยตอนนี้ การเอาความจริงเมื่อ 3 วันที่แล้ว
มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนกลยุทธ์ อาจจะเป็นยิ่งกว่าแผนทีใช้ไม่ได้
อาจจะถือว่าเป็นแผนที่ “เน่า” ไปเลยก็ได้

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ใครจะคิดว่า พรรคประชาธิปปัตย์จะเริ่มเล่นการเมืองข้างถนน

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ใครจะคิดว่า สุเทพ ที่มีภูมิหลังสกปรก
จะได้รับการยอมรับจากมวลชน ให้เกิดการประสานขั้วต่อต้านทักษิณเป็นหนึ่งเดียวกัน


เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ใครจะคิดว่าคนจะเข้ามาร่วมกระบวนการ กปปส. เป็นล้าน

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2557 ใครจะคิดว่าวิกฤติจำนำข้าวจะคลี่ออกมาเป็นดาบอาญาสิทธิ
ที่กำลังจะตัดคอระบอบทักษิณ ช้าๆ แต่โคตรชัวร์


และแล้ว วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา
เราก็ยังคงคาดไม่ถึงกับอะไรหลายๆ เรื่องที่มันกำลังเกิดอยู่
แต่เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ถึงแม้รัฐบาลจะกำลังเมาหมัด
กปปส. ของเราก็อ่อนแรงไปพอสมควรเหมือนกัน
นี่คือความจริง ซึ่งผมคิดว่าแกนนำก็รู้


หากเราจะวิเคราะห์เกม เราต้องดูความเป็นจริงก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหากลยุทธ์



#1066998 ธกส. จะกู้เงินมาเพิ่มสภาพคล่องทำหอกอะไรของมัน.

โดย 55555 on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 10:17

 

วันศุกร์ 4 ตุลาคม 2556 เวลา 23:59 น.

 

นายสมศักดิ์  กังธีระวัฒน์   รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า  สภาพคล่องของธนาคารเพียงพอในการทำธุรกิจและให้สินเชื่อ  โดยปัจจุบันสภาพคล่องส่วนเกินของธนาคารปัจจุบันอยุ่ที่ 160,000 ล้านบาท หรือประมาณ16%  จากเงินฝากที่มีอยู่ประมาณ 1.03 ล้านล้านบาท ขณะที่เกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท.กำหนดไว้ที่ 6%   ซึ่งถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ธปท. 2 เท่าครึ่ง     
สำหรับความคืบหน้าวงเงินที่จะใช้ในการรับจำนำข้าวฤดูกาลผลิตใหม่56/57 วงเงิน 270,000 ล้านบาทนั้น  กระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะหาแหล่งเงินทุนที่ไหนมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าว   ส่วนวงเงินที่ใช้รับจำนำข้าวที่เกินกรอบครม. 160,000  ล้านบาท จากกรอบที่วางไว้ 500,000 ล้านบาทนั้น  เชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์จะสามารถระบายข้าวได้และนำเงินมาคืนให้กับธ.ก.ส.ได้ภายในสิ้นปีนี้

 

 

http://www.dailynews...นสภาพคล่องแกร่ง

 

เวลาพวกมันจะแถกกันเนี่ย

 

เคยไปดูที่เคยให้สัมภาษณ์กันไว้มั่งมั๊ยเนี่ย

 

:lol: 

 

 

 




#1066992 "อดีตนายกฯโรงสีข้าวไทย" ฟันธง "จำนำข้าวพัง! เหตุจากดำเนินนโยบ...

โดย freeman911 on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 10:13

1392606620-o.jpg

http://www.thdrama.com/?p=6994




#1066112 "ออมสิน" ยอมรับอนุมัติให้ ธ.ก.ส.กู้เพื่อเสริมสภาพคล่องไม่เกี่ยว "...

โดย freeman911 on 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 16:23

1392542460-TopRankBiz-o.jpg

http://www.spiceday.com/?p=7134




#1066847 "เทือก" ได้เงินช่วยชาวนา 26.2 ล้านมอบสภาทนาย 18 ก.พ. - ระดมทุนช่วยเหล...

โดย freeman911 on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 07:55

1392598393-2621822-o.jpg

http://www.thdrama.com/?p=6984




#1066930 "อดีตนายกฯโรงสีข้าวไทย" ฟันธง "จำนำข้าวพัง! เหตุจากดำเนินนโยบ...

โดย freeman911 on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 09:16

1392603220-o.jpg

http://www.spiceday.com/?p=7153




#1066903 ผมสนับสนุนให้คปทเข้าไปกินนอนไล่รัฐบาลในทําเนียบรัฐบาล

โดย Bookmarks on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 09:00

ตอนนี้เอ็งอยู่ที่ไหนล่ะ ถึงได้มาแนะนำให้เค้าโดนคดี ถ้าให้ดีพาพ่อแม่เอ็ง เข้าไปในทำเนียบด้วยสิ ยกโคตรเลย ก็น่าจะดี 




#1066153 ดูยรรยงค์มันให้สัมภาษณ์ เรื่องข้าว...

โดย 55555 on 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 16:58

http://www.dailynews...นตามยุคปัจจุบัน

 

 

 “การค้าขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) สังคมไม่ได้รับข้อมูลที่แท้จริง เพราะปัจจุบันรูปแบบของจีทูจีเปลี่ยนไปเยอะ แต่หลักการเดิมคือการค้าขายลอตใหญ่ ๆ ขณะนี้รัฐบาลทุกประเทศทำมาค้าขายกันทั้งนั้น ทั้งรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น ในบางมณฑลของประเทศจีน ซึ่งใหญ่กว่าประเทศไทยก็ค้าขายอย่างอิสระ มีการซื้อข้าวเข้าไปขาย เดี๋ยวนี้นักการทูตทุกประเทศพูดเรื่องการค้าขายหมดแล้ว ในส่วนของประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ส่งออกข้าว ถ้ายังไม่ปรับตัวจะอยู่กันลำบาก”

 

นายยรรยง พวงราช อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ และ รมช.พาณิชย์ กล่าวกับ “เดลินิวส์” ถึงโครงการรับจำนำข้าว และการส่งออกข้าวไปต่างประเทศ ทั้งนี้นายยรรยงมองว่าผู้ส่งออกข้าวของไทยยังยึดติดกับการส่งออกในระบบเก่าเมื่อ 30-50 ปีที่แล้ว พ่อค้าบางรายยังรู้สึกมีความสุขอยู่กับการผูกขาด แต่ปัจจุบันผูกขาดไม่ได้แล้ว เพราะมีการแข่งขันมากขึ้น มีการเปิดเสรีทางการค้ามากขึ้น ทุกรัฐบาลของแต่ประเทศทำมาค้าขายกันหมดแล้ว

 

ดังนั้นการค้าแบบจีทูจีจะได้เปรียบกว่าเอกชน ถ้าเป็นเอกชนจะถูกบี้ราคา มีโอกาสถูกเบี้ยว และขายลอตใหญ่ไม่ได้ พ่อค้าเอกชนขายข้าวได้ 5 หมื่นตัน เปิดแชมเปญฉลองกันแล้ว แต่จีทูจีขายกันครั้งละหลายแสนตัน หรือเป็นล้านตัน โดยที่ผ่านมาภาวการณ์ค้าขายข้าวหอมมะลิทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศไม่ค่อยมีปัญหา ราคาข้าวหอมมะลิที่พ่อค้าคนกลางซื้อจากชาวนา กับราคาข้าวหอมมะลิในโครงการรับจำนำไม่ต่างกันมากนัก ชาวนาจำนวนไม่น้อยจึงนำข้าวหอมมะลิไปขายให้พ่อค้าคนกลาง เพราะได้ราคาที่ไม่แตกต่างจากการรับจำนำ

 

แต่ที่มีปัญหา คือ ข้าวขาวคุณภาพกลาง-ต่ำ ซึ่งข้าวไทยมีคุณภาพมากกว่าข้าวอินเดีย และข้าวเวียดนาม แต่ผู้ส่งออกไม่ยอมปรับตัว กลับไปดัมพ์ราคาแข่งกับอินเดีย และเวียดนาม ทั้งที่คุณภาพข้าวของเราดีกว่า ราคาข้าวจึงไม่ปรับตัวขึ้นเลยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สุดท้ายก็ไปบี้กับชาวนา ไปกดราคาข้าวของชาวนา มีตัวอย่างรัฐบาลในอดีตราคาข้าวขาว 5% ตกไปอยู่ที่ 280-290 ดอลลาร์/ตัน แต่รัฐบาลนี้ราคาข้าวขาว 5% เคยขึ้นไปสูงถึง 600 ดอลลาร์/ตัน แต่หลังจากนั้นมีการเล่นกันเละเทะ โจมตีโครงการรับจำนำข้าว โจมตีการขายแบบจีทูจี เล่นกันไม่เลิกเละเทะไปหมด ตอนนี้หล่นมาอยู่ที่ 400-500ดอลลาร์/ตัน

 

“วันนี้ผู้ส่งออกโดยเฉพาะรายเล็ก ๆต้องปรับตัว ต้องปรับโครงสร้าง เพราะประเทศต่าง ๆ กลายเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายรายใหญ่ไปแล้ว ดังนั้นรายเล็กจะสู้รายใหญ่ไหวมั้ย ส่วนผู้ออกรายใหญ่ของไทย 5-6 ราย ยังพอไปได้ แต่ต้องเน้นขายปลีกมากขึ้นแทนการขายส่ง ถ้าส่งข้าวออกไปเป็นกระสอบ หรือเป็นตัน จะสู้ข้าวถุงได้หรือไม่ ในพม่ามีข้าวถุงขายแล้ว”

 

รมช.พาณิชย์กล่าวเพิ่มเติมถึงผลการผลิตข้าวทั่วโลกว่า ทั่วโลกมีผลผลิตข้าวประมาณ 470 ล้านตัน/ปี เป็นปริมาณที่ใกล้เคียงกับการบริโภคในแต่ละปี บางปีมีภัยธรรมชาติรุนแรงผลผลิตจะน้อยกว่าการบริโภค บางประเทศจึงต้องนำข้าวในสต๊อกกลางออกมาใช้ เช่น จีนมีข้าวในสต๊อกกลางถึง 100 ล้านตัน อินเดียประมาณ 50 ล้านตัน ส่วนประเทศไทยมีข้าวสำรองแค่ 2-3 ล้านตันก็พอแล้ว เพราะไทยเป็นประเทศเดียวในโลก ที่มีการผลิตข้าวได้มากกว่าปริมาณการบริโภค 1 เท่า โดยประเทศจีนยังมีการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศประมาณปีละ 2.5 ล้านตัน เพื่อใช้บริโภคในประเทศหรืออาจนำไปช่วยเหลือประเทศที่ 3 ที่จีนเข้าไปลงทุน

 

ส่วนข้าวไทยถือเป็นข้าวที่มีคุณภาพ ยังเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ ประเทศไหนเศรษฐกิจดี ประชาชนมีรายได้ดีมีฐานะดีขึ้น ก็กินข้าวคุณภาพดีราคาแพง โดยรัฐบาลจะเน้นขายข้าวแบบจีทูจีมากขึ้น กับประเทศคู่ค้าหลัก ๆ เช่น จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์มาเลเซีย อิรัก อิหร่าน รวมทั้งประเทศอื่น ๆที่อยู่ระหว่างการเจรจากัน

 

“การค้าข้าวแบบจีทูจีในยุคสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีปริมาณข้าวน้อยกว่าของรัฐบาลนี้ แต่จีทูจีมีความคล้ายคลึงกัน แตกต่างกันตรงที่รัฐบาลชุดนี้จะรอบคอบรัดกุมและกระชับกว่า คือเราจะตรวจสอบว่ารัฐวิสาหกิจจากต่างประเทศที่มาซื้อข้าวจากเรา ว่าเป็นจี (Government ) มากน้อยแค่ไหน อาจจะเป็นจีมาจากส่วนกลาง หรือในระดับมณฑล ถ้าใช่ก็มีการซื้อ-ขายข้าว แล้วชำระเงินกัน ส่วนจะนำข้าวไปทำอะไรเป็นเรื่องของเขา ไม่ต้องสนใจว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ ถ้ามีการตกลงซื้อ-ขาย แล้วชำระเงินครบ ผมถือว่าจบ ไม่ต้องสนใจว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี”

 

วันนี้จึงอยากขอร้องให้ผู้ส่งออกข้าวต้องปรับตัวเอง ต้องปรับโครงสร้างให้เข้ากับยุคสมัย ถ้ายังไม่ปรับตัวเองก็ต้องไปทำอาชีพอื่น เพราะปัจจุบันการค้าขายแบบจีทูจีมีอำนาจการต่อรองมากกว่า ไม่ถูกบี้ราคา และขายกันเป็นลอตใหญ่ ๆ

วันนี้รัฐบาลดำเนินโครงการรับจำนำข้าวมาแล้ว 5 ฤดูกาลผลิต (2 ปีครึ่ง) ถือว่าทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยหมดแล้ว มีการปิดช่องโหว่ต่าง ๆ และมีการระบายข้าวที่กระชับ

มากขึ้น

 

 

นายยรรยงกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่าโครงการรับจำนำข้าว รัฐบาลคือคนกลาง โดยโครงการนี้ทำให้ชาวนามีเงินเพิ่มในกระเป๋าปีละ 150,000-160,000 ล้านบาท ชาวนามีรายได้มากขึ้น จึงมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นวันนี้ข้อมูลต่าง ๆ จากผู้ส่งออกข้าว จึงไหลทะลักไปยังสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) จากทีดีอาร์ไอก็ไหลไปสู่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทีดีอาร์ไอมีบทบาทในการทำวิจัย แต่รู้เรื่องทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวดีไปหมด โดยส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจที่โครงการรับจำนำข้าวจะถูกตรวจสอบอย่างหนักหน่วง เพราะเป็นเรื่องของหลักการที่จะต้องพิสูจน์ความจริงกันต่อไป.

 

 

 

:lol:




#1066156 ดูยรรยงค์มันให้สัมภาษณ์ เรื่องข้าว...

โดย 55555 on 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 17:04

ใครไปว่าเอ็งหากจะขายแบบ จีทูจี

 

แต่ที่เค้าสงสัยคือ เอ็งขายแบบจีทูจีจริงป่าว

 

เพราะขอดูอะไรไม่เคยได้ซักอย่าง

 

ถามอะไรก็เป็นความลับหมด

 

:D