จะโทษทางประชาชนภาคอีสานนั้นก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว หากจักต้องโทษบุคคลผู้มองหาผลประโยชน์จากจุดๆนี้มากกว่า (สถานีวิทยุเยอะจนน่ากลัว)
- aiwen^mei, เสือยิ้มยาก, HWD and 21 others like this
โดย ไนติงเกล
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:47
จะโทษทางประชาชนภาคอีสานนั้นก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว หากจักต้องโทษบุคคลผู้มองหาผลประโยชน์จากจุดๆนี้มากกว่า (สถานีวิทยุเยอะจนน่ากลัว)
โดย คนกรุงธน
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:46
ชช สวยศพ ตบแหลก @chaw099 ตอนนี้
ลืมตำรวจเลวๆคนนี้ไปเลย ฝากหน่อยนะคะ @armypr_news pic.twitter.com/UFuX11SwQi
โดย ไนติงเกล
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:32
โดย ไนติงเกล
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:23
พระเอกของพีน้องคนไทย สอยที่เดียว
ทรราชหมดประเทศ !
โดย silence
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:22
ผู้ชุมนุม เริ่มเข้าประชิดแถวเจ้าหน้าที่ทหาร มีการเผชิญหน้าแต่ไม่มีปะทะ!!! pic.twitter.com/8N7sLfFyY8
เอิ่มมม ผู้ชุมนุม หรือ ช่างภาพผู้สื่อข่าวคะ
โดย Ple Sathorn
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:21
โดย Ape
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:14
โดย redfrog53
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:11
โดย ไนติงเกล
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:11
พีน้องชาวไทยที่เคารพรัก... แชร์ อย่าได้ยั่งมือ !
โดย Ape
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:58
โดย liverproon
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:37
โดย redfrog53
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:24
โดย คนกรุงธน
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 17:40
http://www.dailynews...าลยุติธรรมทันที
ศาลปกครองเตรียมทำคดี " มาร์ค" หนีทหารส่งศาลยุติธรรมทันที หลังคณะกก.วินิจฉัย ฯ ชี้ขาดอำนาจศาลมาแล้ว
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศาลปกครองกลางได้อ่านคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ ระหว่างศาล ในคดีหมายเลขดำที่2900/2555 ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดี กรณีออกคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่1163/2555 ลงวันที่ 8 พ.ค.2555 ให้ปลด ร.ต. อภิสิทธิ์ ออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่2 มิ.ย.2531 เป็นต้นไป โดยคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดเขตอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ที่ออกมาในวันนี้ ( 26 พ.ค.)ได้วินิจฉัยว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม โดยให้เหตุผลว่าเมื่อเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ สืบเนื่องมาจากคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 1163/2555ลงวันที่ 8 พ.ย. ที่ปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ ออกจากราชการเนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารอย่างร้ายแรง โดยปรากฏข้อเท็จจริงตามคำให้การว่า ขณะร.ต.อภิสิทธิ์ ได้รับการแต่งตั้งยศแล้ว ได้นำใบสำคัญ สด. 9 แทนฉบับที่ชำรุดสูญหายไปขึ้นทะเบียนทหารกองประจำการจนทำให้เจ้าหน้าที่ สัสดีผิดหลง ออกใบสำคัญ สด.3ขั้นทะเบียนกองประจำการให้แก่ ร.ต.อภิสิทธิ์ รมว.กลาโหม ขณะนั้นจึงมีคำสั่งปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.วินัยทหาร พ.ศ. 2476และข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการ บรรจุ ปลด ย้าย เลื่อน และลดตำแหน่งข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2502 ประกอบข้อบังคับทหาร ที่ 11/16536พ.ศ.2482 ลงวันที่ 14 พ.ย. พ.ศ. 2482 ว่าด้วยการแบ่งประเภทนายทหารสัญญาบัตรซึ่งเป็นข้อบังคับและระเบียบแบบแผน เกี่ยวกับวินัยทหารตามมาตร 15 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ. 2521 กรณีจึงเป็นเรื่องวินัยทหารตามมาตร 4 แห่งพ.ร.บ. ว่าด้วยวินัยทหารพ.ศ. 2476 คดีจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับวินัยทหารที่ไม่อยู่ใน อำนาจของศาลปกครอง ตามมาตรา 9 วรรคสอง (1) ของพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 แต่อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลยุติธรรม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจ หน้าที่ระหว่างศาล ทั้งศาลปกครองและศาลยุติธรรม คือ ศาลแพ่ง ได้แสดงเหตุผลที่เห็นว่าคดีดังกล่าวควรอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลตน โดยศาลแพ่งให้เหตุผลว่าหากข้อความในเอกสารใบสำคัญดังกล่าวยังไม่ได้รับการ วินิจฉัยว่าเป็นเท็จหรือไม่ ข้อสงสัยในเอกสารก็ยังคงมีอยู่และอาจถูกนำไปอ้างให้เกิดปัญหาเป็นคดีไม่สิ้น สุดประเด็นของข้อความจึงมีความสำคัญที่ควรได้รับการวินิจฉัยโดยศาลเสียก่อน ในลำดับแรกเมื่อได้ความเช่นใดแล้วจึงจะมีการวินิจฉัยว่า คำสั่งให้ปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ออกจากราชการเป็นคำสั่งทางปกครองที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ใน ลำดับต่อไปอันเป็นประเด็นรอง ซึ่งการพิจารณาว่าเอกสารใดเป็นเอกสารเท็จหรือไม่และมีการใช้เอกสารเท็จ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนหรือไม่เป็นกระบวนการยุติธรรม ทางอาญา ที่ส่งผลให้ต้องวินิจฉัยในคดีนี้จึงอยู่ในอำนาจควบคุมตรวจสอบของศาลยุติธรรม
ส่วนที่โต้แย้งกันว่า ร.ต.อภิสิทธิ์ อยู่ในบังคับ พ.ร.บ.ว่าด้วย วินัยทหารหรือไม่ ซึ่งควรได้รับการวินิจฉัยในกรณีหลัก ไม่ควรได้รับวินิจฉัยในชั้นของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่าง ศาลเพราะอาจมีผลครอบงำให้คดีต้องมีคำพิพากษาตามทำให้ขาดอิสระในการพิจารณา พิพากษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากศาลที่จะต้องพิจารณาพิพากษาในคดีหลักยังคงเป็น ศาลเดียวกันกับศาลตามความเห็นซึ่งอยู่ในระดับหน่วยงานเดียวกันนอกจากนี้การ พิจารณาวินิจว่า ร.ต.อภิสิทธิ์อยู่ในบังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยวินัยทหารหรือไม่ก็จำเป็นต้องนำ กฎหมายว่าด้วยวินัยทหารมาพิจารณาวินิจฉัยว่าใช้บังคับแก่กรณีนี้หรือไม่ซึ่ง เป็นกรณีที่อยู่ในความหมายของคำว่า การดำเนินการเกี่ยวกับวินัยทหารตามมาตร 9 วรรคสอง(1) ศาลปกครองจึงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้จึงเห็นว่าอยู่ในอำนาจพิจารณา พิพากษาของศาลยุติธรรม
สำหรับคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลพิจารณาวินิจฉัย ชี้ขาดประกอบด้วย นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา นายสุวัฒน์ วรรธนะหทัยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุลประธานศาลปกครองสูงสุด นายจรัญ หัตถกรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครองพล.ร.ท.กฤษฎา เจริญพานิช หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร และพล.ต.พัฒนพงษ์ เกิดอุดมกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิศาลทหาร และนายจิระ บุญพจนสุนทร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ทั้งนี้นายไพโรจน์ มินเด็นโฆษกศาลปกครองชี้แจงว่า เมื่อคู่กรณีในคดีมี การโต้แย้งเกี่ยวกับเขตอำนาจของศาล โดยขั้นตอนการพิจารณาจะตกเป็นอำนาจ หน้าที่ของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลที่จะชี้ขาดใน เรื่องนี้ โดยให้ศาลที่คู่กรณีอ้างถึงทำคำชี้แจงเหตุผลที่เห็นว่าคดีดัง กล่าวอยู่ในเขตอำนาจศาลของตนเองหรือไม่ แต่สุดท้ายแล้วคณะกรรมการวินิจฉัย ชี้ขาดฯ จะเป็นผู้ชี้เป็นรายคดีไป โดยไม่อาจที่จะอุทธรณ์ได้อีกแล้ว ซึ่งในคดีนี้ คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดฯชี้ว่าคดีนี้ให้มีผลผูกพันอยู่ในอำนาจของศาล ยุติธรรมแต่เพียงศาลเดียว
“ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่คู่กรณี สำนักงานศาลปกครองจะทำการโอนสำนวนคดี ไปดำเนินการต่อในศาลยุติธรรมได้โดยทันที โดยคู่กรณีไม่ต้องไปยื่นฟ้องใหม่ แต่อย่างใดเลย ” โฆษกศาลปกครองกล่าว.
สุกำพล ก็ต้อง ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา
โดย ไนติงเกล
on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 17:36
สื่อจีนลงข่าว บอกว่าประเทศไทยโชคดีที่สุดในโลก
สื่อจีนลงข่าว บอกว่าประเทศไทยโชคดีที่สุดในโลก
阳光,蓝天,微笑,黄袍……在泰国我们会感到格外随意与亲切,穿着大裤衩和拖鞋就能够在大街上游荡一整天。能生活在这样舒适与安逸的环境里真是一种大大的幸运。
9 สิ่งที่บอกว่าประเทศไทยโชคดีที่สุดในโลก
九件小事告诉你,泰国是全世界最幸运的国家
ประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดีที่สุดในโลก !!!
เหตุผลที่ประเทศไทย เป็นสยามเมืองยิ้ม มีดังต่อไปนี้
泰国是全世界最幸运的国家
微笑国度泰国给你的理由如下:
1. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางครัวโลก ไม่ต้องกลัวอดตาย มีอาหารกินตลอดเวลา และส่งออกไปทั่วโลก
1.泰国是世界的中心厨房,永远不用担心挨饿并且还能出口全世界。
2. ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก มีป่าไม้ ภูเขา ทะเล ทองคำ จนได้ชื่อว่าดินแดนสุวรรณภูมิ
2.泰国拥有丰富的资源,有森林,山区,海洋,金矿,可以谓之为地产富饶。
3.ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตแผ่นดินไหวโดยตรง แนวแผ่นดินไหวอ้อมประเทศไทยทั้งประเทศ ในขณะที่เกือบทั้งโลกอยู่ในเขตแผ่นดินไหวรุนแรง
3.泰国不处在地震区域内,地震带绕过了整个泰国,虽然世界上大多数国家位于严重地震带上。
4. ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตพายุรุนแรง นานๆจะเจอสักครั้ง เพราะพายุไต้ฝุ่นส่วนใหญ่เกิดในทะเลจีนใต้ บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ มาถล่มหนักเวียดนาม ลาว เขมรและอ่อนตัวลง กลายเป็นพายุธรรมดาเมื่อเข้าประเทศไทย
4.泰国不位于飓风区,很久才会见到几次,因为飓风通常产生于南中国海,菲律宾一带,常在重创越南,老挝,高棉(柬埔寨)之后逐渐减弱,在进入泰国的时候就转变为了一般的大风。
5. ประเทศไทยไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก ในขณะที่ทุกประเทศในอาเซียนตกเป็นอาณานิคม
5.在东南亚各国中,泰国从不曾沦为西方国家的殖民地。
6. ประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้พ่ายแพ้ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
6.在第一次世界大战及第二次世界大战中,泰国都不是战败国。
7. คนทุกชนชาติ และทุกศาสนาในประเทศไทยมีสิทธิ เสรีภาพ มากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
7.各国人民及各宗教信仰者在泰国都拥有世界上最大的权利与自由。
8. ประเทศไทย มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนัก เพื่อพสกนิกรชาวไทย ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ ทรงมีโครงการในพระราชดำริกว่า 3,000 โครงการ โครงการส่วนพระองค์ส่วนจิตรลดาทรงก่อตั้งมูลนิธิต่างๆมากมาย เช่น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นต้น
ทรงอุปถัมถ์พระศาสนา ภาษาไทย วัฒนธรรม ประเพณี พระราชพิธี งานช่างหลวง การศึกษา การแพทย์ การคมนาคม การอนุรักษ์ดินและน้ำ ทรัพยากรป่าไม้ ป่าชายเลน เกษตรทฤษฎีใหม่ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ
8.泰国拥有为泰国人民最勤政的国王,在其统治期间,有超过三千项计划项目,项目中他创办了多个慈善基金会,如:泰国皇家Rajaprajanugroh基金会,Phra dabos基金会以及Chaipattana Foundation 基金会等。
其赞助包括宗教,泰语言,文化,传统习俗,皇家仪式,皇室公职,教育,医疗,交通,水土保持,森林及海洋资源,新学说领域,经济等等方面。
9. พระพุทธศาสนา เจริญที่สุดในโลกในประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกและทรงเป็นพุทธมามกะ
9.佛教在世界中发展最为繁荣,因为在泰国有一位拥有信仰并且是佛教徒的国王。
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net