10APR10

ดูเหมือนยุทธศาสตร์ครั้งนี้ จะเอาบทเรียนปี 49 ปี 51 มาอุดรอยช่องโหว่สะหมด คือไม่เรียกทหารปฏิวัติ ไม่ปะทะ ไม่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงให้เกิดความเสียหาย บาดเจ็บ ล้มตาย

แต่สู้ด้วยอหิงสา ความชอบธรรม ถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ โดยมีประชาชนเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก แบบนี้สิ เรียกว่าประชาธิปไตยที่แท้จริง

ถ้าทำได้สำเร็จ จะถือเป็นประวัติศาสตร์หน้า 1 ที่ถูกจารึก

ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน อย่าขัดแข้งขัดขากัน

โดยส่วนตัว พอม๊อบย้ายไปราชดำเนิน ก็กังวนเรื่องการเดินทางไปม๊อบ แต่ตอนนี้เริ่มคุ้นเคยแล้ว

จากวันแรกนั่งแท๊กซี่ตลอดทาง  (กับเพื่อนสองคน ประมาณ 250 บาท)

วันที่สอง ไปเองคนเดียว           แท๊กซี่ + รถไฟฟ้า + แท๊กซี่ (50+52+60 = 162 บาท)

วันที่สาม                                 รถสองแถว + รถไฟฟ้า + เดิน (7+52 = 59 บาท)

วันที่สี่ และต่อๆไป ถ้าเปลี่ยนวิธีแล้วจะมาเขียนเล่าให้ฟังอีกครับ

ส่วนขากลับ รถเมล์ตลอดสาย+แท๊กซี่ (9+60 = 69 บาท)

ปล. วันนี้แขวนนกหวีดตั้งแต่ออกจากออฟฟิตไปเลยครับ

จะล้างระบอบทักษิณประชาชนต้องตื่นรู้ ถ้ายังไม่ตื่นมันก็จะค้างๆคาๆ ยิ่งใช้วิธีรุนแรงก็ยิ่งไปเข้าทางฝ่ายตรงข้าม วิธีของลุงกำนันนี่แหละค่ะ ถ้าทำได้ประเทศเราใสสะอาดแน่ 

ปล. อาหารดีมั้ยไม่รู้เพราะวันที่ไปก็ไม่ได้แวะชิมซะด้วย  แต่ดนตรีนี่เพราะจริงๆค่ะ 

ตอนแกยังพูดไม่จบ แกบอกขอล้านคน ผมก็คิดในใจ...อะไรมันจะตั้งเป้าคนเยอะขนาดนั้นวะ สุเทพหาทางลงให้ตัวเองหรือเปล่า

จนมาคิดใคร่ครวญ และได้อ่านกระทู้นี้ ผมว่านี่แหละ ทางที่เราต้องไป

และ ถ้าวันนี้ประชาชนตื่นรู้ ไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้ ...ล้านคนใน พื้นที่ กทม. ก็ไม่ใช่จำนวนที่เป็นไปไม่ได้ อย่างแน่นอน

คุณสุเทพจุดติดแล้วซิน่ะ...   ส่งต่อไม้สุดท้าย ....ต่อไปก็เป็นตาของประชาชน ต้องสู้เองได้แล้ว... สู้โว้ย

รอให้พื้นที่ชุมนุม ขยายจาก อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาถึงหน้าบ้านล่ะซี ตอนนี้ก็ถึงสะพานพระปิ่นเกล้าแล้ว

ก็จะต้องลงมือช่วยๆกันให้เต็มที่

เริ่มเลยพรุ่งนี้ผมจะไปลงชื่อถอดถอน

นัดชุมนุมใหญ่ๆอีก จะพาลูกๆไปด้วยกันเลย

ถ้าแต่ละคนเพิ่มจำนวนคนร่วมทางไปด้วยได้ก็จะดีมากๆ(ทำยังกับขายตรง)

ตอนนี้ ผมค่อนข้างก็มั่นใจแล้วล่ะว่า คุณสุเทพ ไม่ได้เดินเกมและทำม๊อบแบบไม่คิด ทุกอย่างมันเป็น Jigsaw ต่อเชื่อมถึงกันหมด

ตอนแรกผมก็งงว่า ทำไม คุณสุเทพ ถึงไปยื่นเงื่อนไข ให้เวลารัฐบาลในการจัดการ ร่าง พรบ. นิรโทษกรรม ให้หายไปจากสภา ในขณะที่ผมเสนอให้ สส. ชั่ว ทั้ง 310 คน นั้นลาออกจากตำแหน่ง หรือ ทำให้พวกมันหายไปจากสภาแทน

แต่วันนี้ผมรู้แล้วว่าทำไม เพราะ คุณสุเทพ ต้องการสร้างหลักฐานที่ชัดเจนในการถอดถอน สส. เหล่านั้นผ่าน ปปช. หากจำวันที่ สส. รัฐบาล ขอถอนร่าง พรบ. หก ฉบับที่เหลือออกจากสภา แล้ว คุณอภิสิทธิ์ ถามหาเหตุผลว่าทำไมต้องถอดออกจาก สภา

ต้องยอมรับว่า การเดินทาง นอกสภาพร้อมกับการขั้นตอนในสภา  นั้นสอดคล้องกันอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นการกำจัดรัฐบาลชั่วที่ถูกต้องด้วยหลักธรรมาภิบาลโดยแท้  เรียกว่า รัฐบาลแพ้ภัยตัวเอง

ผมคิดว่า คุณสุเทพและคณะ ก็ทำได้เท่าที่ทำได้แล้วครับ ที่เหลือจะชนะหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับ การตื่นรู้ของประชาชนว่า จะฉวยโอกาสที่ สว. ซึ่งปกติไม่เคยฟังเสียงประชาชนเลย แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ สว. นั้นฟังเสียงประชาชนมากที่สุด

หากประชาชนชาวไทยที่ตื่นขึ้นมาแล้ว พอใจกับการคว่ำ พรบ. แล้วหยุดอยู่แค่นั้น สังคมไทย การเมืองไทย นักการเมืองมันก็ยังไม่เปลี่ยน แต่ถ้าเราตื่นรู้กันทั้งหมด และ ใช้พลังอำนาจของพวกเรา บีบบังคับให้ สว. ทาสทำหน้าที่ ซึ่งได้แก่

1) ตรวจสอบ ถอดถอน เครือข่ายทักษิณที่กระทำความชั่วอยุ่ในองค์กรอิสระต่างๆ

2) ตววจสอบการทำงานของ สส.

หากเราไม่ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ มัวหวังแต่พึ่งกลเม็ดของ คุณสุเทพเพียงอย่างเดียว ประเทศไทยเราก็คงสิ้นหวัง

คำประกาศชองคุณสุเทพนั้น พวกเรา สามารถช่วยกัน คนละไม้คนละมือได้ และ สุดท้าย มันจะกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เรารณรงค์กันผ่านเครือข่ายต่างๆ ทั่วประเทศ ให้ความรู้ประชาชน จัดกิจกรรมเข้าชือถอดถอน สส. 310 คนให้แพร่หลาย ต่อต้านร่าง พรบ. กำจัด สส. ชั่ว 310 คน ซึ่งจะต้องจัดเป็นกิจกรรมพร้อมๆกับ การเป่านกหวีดเพื่อปฏิรูปการเมืองไทย ผมมั่นใจว่า พลังประชาชนนั้นเปลี่ยนได้ทุกอย่างจริงๆ ครับ

ณ เวลานี้ ยิ่งลักษณ์ ถ้ายังมีจิตใจความเป็นแม่คน รักลูก รักผัว เธอต้องรีบยุบสภาชิงความได้เปรียบและรักษาฐานเสียงของเธอไว้ให้มากที่สุด ตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่า เกมยิ่งยืดเยื้อ นอกจากอำนาจรักษาไม่ได้แล้ว ครอบครัวของเธอ เธอก็จะรักษาไม่ได้ ชัยชนะที่ลูกสมุนพูดโกหกหลอกลวงให้เธอมีกำลังทำงานต่อไปนั้น เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น กว่าเธอจะรู้ตัวและตื่นจากความหลงนั้น ตระกูลชินวัตร รวมถึงครอบครัวทั้งหมดของเธอก็จะไม่มีที่ยืนบนแผ่นดินไทยเสียแล้ว

มันเป็นอะไรที่แสบเข้าไปถึงทรวงEโง่...มาคิดดูแล้ว คุณสุเทพนี่สุดยอด
ลองๆตามมาดู...
การถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง
1. ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่อาจถูกถอดถอนได้
ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด หรืออัยการสูงสุด
1) มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ
2) ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่
3) ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
4) สอ่ว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม
5) ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
6) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

***วุฒิสภามีอำนาจถอดถอนผู้นั้นออกจากตำแหน่งได้ (มาตรา 270 วรรคหนึ่ง)

2. ผู้มีสิทธิเสนอเรื่อง
    1) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา 271 วรรคหนึ่ง)
     2) สมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้วุฒิสภาถอดถอนสมาชิกวุฒิสภาออกจากตำแหน่งได้ (มาตรา 271 วรรคสอง)
*** 3) ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน (มาตรา 164)

สส.310 คนขี้ข้าแม้ว โหวตผ่านพรบ.สุดซอย โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
เพราะอะไรหรือ? ก็เพราะว่า สว.มีมติเป็นเอกฉันท์ คว่ำพรบ.สุดซอย
ก็แสดงว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดอย่างร้ายแรงถึงต้องคว่ำโดยเอกฉันท์

ที่แสบทรวงคือ สว.ทั้งหมด หลงกลคุณสุเทพ ทำการการันตีให้เรียบร้อยว่า
ไอ้สส.ขี้ข้าแม้วทั้ง310คน กระทำการ...
2) ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่
3) ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
4) สอ่ว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม
5) ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
6) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

และที่แสบซ้ำสองคือ วุฒิสภามีอำนาจถอดถอนผู้นั้นออกจากตำแหน่งได้ (มาตรา 270 วรรคหนึ่ง)

ที่นี้พอเรื่องถอดถอนส่งไปถึง สว.ก็ต้องถอดถอนอยู่แล้ว เพราะพวกสว.ทั้งหมดเป็นผู้คว่ำพรบ.สุดซอยฉบับนี้ลงไปเอง จะมากลืนน้ำลายไม่ถอดถอนได้ไง

...แสบจริงๆ คุณสุเทพ...555+

ปล.ท่านใดเห็นต่างจากนี้ ก็ช่วยๆกันคิดนะครับ

ทีนักร้องผุ้หญิง คนสองคน ไปถือไข่เอ้ยไปถือไมค์ร้องเพลงให้นักโทษหนีคุก ไม่เห็นมีใครออกมาปรามมั่งเลย

สองมาตรฐานนี่หว่า

อย่าได้กลัวครับ เสียแฟนคลับที่เป็นควาย แต่ได้ใจคนไทยทั้งประเทศ