Jump to content


nhum

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 2 พฤษภาคม 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 11:47
*****

#321748 สู่ห้องเรียน..ประวัติศาสตร์ชาติไทย

โดย ดราม่า on 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 16:23

ก่อนอื่นผมว่าเราต้องมาดูจุดยืนแต่ล่ะฝ่ายของคนยุคนี้ที่พยายามใช้กรณีสวรรคตเป็นเครื่องมือทางการเมืองคือ
- ฝ่ายรักปรีดี เช่น ส.ศิวลักษณ์ วัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือแก้ต่างว่าปรีดีไม่ได้ทำ

-ฝ่ายซ้าย เช่น สมศักดิ์ เจียมฯ วัตถุประสงค์คือใช้เป็นเครื่องมือโจมตีสถาบัน


ในหนังสือเอกกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ บทที่22มีหลักฐานที่จะตีข้อสันนิฐานของสมศักดิ์ได้

ผู้เขียนเสนอให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9)พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงใส่พระราชหฤทัยในการชันสูตรพระบรมศพอยู่มาก ทรงเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ที่ได้ออกไปสู่สายตานานาชาติ ดังนั้น จึงทรงมีพระราชดำริให้คณะกรรมการชันสูตรพระบรมศพ มีการตั้งผู้แทนจากต่างประเทศเข้ามาร่วมชันสูตรพระบรมศพด้วย และควรใช้เครื่องมืออุปกรณ์ชันสูตรที่ทันสมัย

และเมื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษทั้ง 3 คนมาร่วมชันสูตรพระบรมศพแล้ว ทั้ง 3 คนได้ออกความคิดเห็นของสาเหตุการสวรรคต

ซึ่งความเห็นของทั้ง 3 คนนี้ ไม่เป็นที่เห็นชอบของรัฐบาลไทย

วิมลพรรณ ปิตธวัชชัย ได้ค้นข้อมูลจากลอนดอน ได้ข้อสรุปว่า ได้มีการโทรเลขจากสถานทูตอังกฤษในไทยไปยังลอนดอน ประเทศอังกฤษ เรื่องการเจรจาขอให้แพทย์อังกฤษงดออกความเห็นการชันสูตรพระบรมศพ

ตรงนี้คือหลักฐานใหม่ที่คนไทยจะได้รู้



ในหน้า 34 บทที่ 23 หัวข้อ "ข้อเท็จจริงในการสวรรคต" ของหนังสือ "เอกกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ" ระบุถึงข้อมูลหนึ่ง ว่า

...คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พฤติการณ์การสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ.2489 ในการนี้จึงแจ้งพระราชประสงค์ไปยังคณะกรรมการสอบสวนพฤติการณ์ ว่า เมื่อจำเป็นจะต้องมีการชันสูตรพระบรมศพเช่นนี้แล้ว ก็ให้ทำเสียให้เสร็จสมบูรณ์ในครั้งเดียว

และเพื่อให้ปราศจากข้อขัดข้องใดๆ ควรจะมีเครื่องเอ็กซเรย์หลายๆ เครื่อง เพื่อป้องกันการติดขัด

และมีพระราชประสงค์ให้เชิญพันเอก เจ ไดรเบิร์ก แพทย์ใหญ่ทหารอังกฤษในประเทศไทยเข้าร่วม และควรจะมีผู้เชี่ยวชาญฝรั่งในทางอาวุธปืนเข้าร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของไทย ด้วย

ทั้งนี้ มิใช่จะไม่ไว้ใจแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไทย แต่เรื่องการสวรรคตนี้ระบือไปทั่วโลก การชันสูตรจึงควรกระทำให้สมบูรณ์ครบถ้วนในทุกๆ ทาง ย่อมเป็นหลักฐานดียิ่งขึ้น

คณะกรรมการสอบสวนพฤติการณ์ฯ ได้สนองพระราชประสงค์โดยครบถ้วน ได้เชิญ

พันเอก เจ ไดรเบิร์ก

พันโท เอส รีส

และ ร้อยเอก ดี.ซี. คุปตา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ของกองทหารอังกฤษในประเทศไทย ร่วมด้วย

ส่วนผู้เชี่ยวชาญทางอาวุธปืนนั้น พันเอก เจ ไดรเบิร์ก ได้เอื้อเฟื้อจัดหามาให้

นอกจากนี้ นายแพทย์อี ซี คอร์ต นายแพทย์อเมริกันก็ยังได้เข้าร่วม พร้อมทั้งผู้แทนตำรวจไทย 1 นาย

คือ พันตำรวจโท เอ็จ ณ ป้อมเพชร ผู้เชี่ยวชาญการพิสูจน์หลักฐาน

คณะกรรมการแพทย์ได้เลือกตั้ง พระยาดำรงแพทยาคุณ เป็นประธาน

พระยาลัดพลีธรรมประคัลภ์ ประธานกรรมการสอบสวนพฤติการณ์การสวรรคต จึงได้มีหนังสือเชิญไปยัง พันเอก เจ ไดรเบิร์ก ตามพระราชประสงค์นี้



ในหน้า 40 เล่มที่ 2 ของบทเดียวกัน ระบุอีกว่า

...หลังการชันสูตรพระบรมศพแล้ว แพทย์ลงความเห็นว่า สาเหตุใดมีน้ำหนักว่าเป็นไปได้มากที่สุด ปรากฏว่า ประเด็นถูกลอบปลงพระชนม์มีน้ำหนักมากที่สุด คือ

ถูกลอบปลงพระชนม์มีน้ำหนักมากที่สุด 16 เสียง

ปลงพระชนม์เองมีน้ำหนักมากที่สุด 4 เสียง

อุปัทวเหตุมีน้ำหนักมากที่สุด 2 เสียง

ความเห็นของคณะแพทย์และข้อเท็จจริงบางประการในการทดลองในการยิงศพล่วงรู้ไป ถึงหนังสือพิมพ์บางฉบับ เช่น หนังสือพิมพ์เสรี ฉบับวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2489 ลงตีพิมพ์พาดหัวว่า หมอลงความเห็นว่าถูกลอบยิง ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน...

ค่ำวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2489 นายแพทย์หลวงนิตย์เวชวิศิษฐ์ ถูก นายปรีดี พนมยงค์ เรียกไปต่อว่าสองเรื่อง คือ เรื่องที่นายแพทย์หลวงนิตย์ฯ แจ้งให้ที่ประชุมแพทย์ทราบว่า นายปรีดีเป็นผู้แนะนำและให้คำปรึกษาในการออกแถลงการณ์ฉบับแรกของสำนัก พระราชวัง ว่า พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศเสด็จสวรรคตโดยอุปัทวเหตุ

และเรื่องแพทย์ลงความเห็นถึงสาเหตุแห่งการสวรรคต นายปรีดีมีความเห็นว่าแพทย์ควรรายงานเพียงว่า ถูกอาวุธเข้าข้างไหน ออกทางไหน ถูกส่วนใด และเป็นเหตุให้ตายหรือไม่เท่านั้น ซึ่งนายแพทย์หลวงนิตย์เวชวิศิษฐ์ก็เห็นพ้องด้วย

ในขณะที่ก่อนหน้านี้ นายปรีดี พนมยงค์ ได้เรียก นายดิเรก ชัยนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลวงอดุลย์เดชจรัส และ นายดอล ที่ปรึกษาการคลังไปพบ

นายปรีดีบอกนายดิเรก ว่า ได้ทราบว่ามีการยุยงแพทย์ฝรั่งให้เล่นการเมืองนอกเหนือหน้าที่แพทย์

ทั้ง 4 คน คือ นายปรีดี นายดิเรก หลวงอดุลย์เดชจรัส และนายดอล เห็นพ้องต้องกันว่า แพทย์ควรทำหน้าที่ชันสูตรพระบรมศพอย่างเดียว ไม่ควรออกความเห็นเรื่องสาเหตุ นายปรีดีได้ใช้ให้นายดิเรกและนายดอล ไปแจ้งให้เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยทราบ ในที่สุดแพทย์กองทัพอังกฤษจึงได้ขอถอนความเห็น โดยนายแพทย์ไดรเบิร์ก (ซึ่งได้รับเชิญร่วมชันสูตรพระบรมศพ ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน) แจ้งแก่พระยาดำรงแพทยาคุณ ว่า จำต้องถอนความเห็นเพราะเป็นทหารต้องปฏิบัติตามวินัย


ดังรายงานของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย รายงานไปยังกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษที่ลอนดอน เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2489 เรื่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ไปเจรจาขอให้ทูตอังกฤษประจำประเทศไทยห้ามแพทย์ชาวอังกฤษที่ไปร่วมเป็น กรรมการชันสูตรพระบรมศพ ออกความเห็นสาเหตุแห่งการสวรรคต ดังนี้



โทรเลขฉบับนี้เป็นความลับอย่างที่สุดและควรเก็บไว้โดยผู้รับที่มีอำนาจหน้าที่เท่านั้น ไม่ให้ส่งต่อ

แจกในคณะรัฐมนตรี

F.9488 จากกรุงเทพฯ ถึงกระทรวงการต่างประเทศ

Mr.Thompson วันที่ 26 มิถุนายน 2489

No.851

ด่วน

โทรเลขของผมเลขที่ 834

".........มีการเชื่อกันอย่างกว้างขวาง (ซึ่งก็มีเหตุผล) ว่าคณะกรรมการแพทย์ที่สอบสวนกรณีสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ก่อน กำลังจะรายงานโดยเสียงข้างมากเป็นการถูกปลงพระชนม์ จริงๆ แล้วในการลงคะแนนเสียงวันนี้ เมื่อคณะกรรมการยอมรับถ้อยคำต่างๆ ในรายงานแล้ว 16 เสียงเห็นว่าเป็นการถูกปลงพระชนม์ 4 เสียงเป็นอัตวินิบาตกรรม และ 2 เสียงเป็นอุบัติเหตุ ตัวเลขเหล่านี้ไม่รวมนายทหารอังกฤษ 4 คนผู้ปฏิเสธที่จะออกความเห็นใดๆ

2. คณะกรรมการจะต้องประชุมกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เพื่อลงลายมือชื่อในรายงาน สมมติว่าระหว่างขณะนี้กับพรุ่งนี้กรรมการจะไม่เปลี่ยนใจ (ตกเป็นเหยื่อของความรวนเร) การเผยแพร่รายงานฉบับนี้จะต้องก่อให้เกิดความตื่นเต้นในระดับสูงสุดทีเดียว ผลจะเป็นอย่างไรนั้น ยากที่จะคาดได้ ผมทราบว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศนั้นกังวลใจมาก เพราะรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศมาพบผม โดยไม่ได้บอกล่างหน้าเมื่อคืนนี้ ด้วยจุดประสงค์ที่จะให้ผมช่วยพูดกับชาวอังกฤษสามคนในคณะกรรมการชุดนี้ ผมบอกท่านว่า ผมไม่ (ย้ำ ไม่) สามารถชักจูง Colonel Driberg หรือเพื่อนร่วมงานสองคนของเขาได้ แต่ผมจะแนะนำให้เขาอยู่ภายในกรอบของเงื่อนไขตั้งแต่ต้นที่เชิญให้เป็น กรรมการ อันที่จริงนี่คือสิ่งที่พวกเขาได้ปฏิบัติมา

ในเรื่องนี้ผมขอยกข้อความที่ Colonel Driberg ยืนยันว่าจะใส่ไว้ในรายงานของคณะกรรมการ (เริ่มต้น)

Colonel Driberg, Lieutenant - Colonel Rees และ Captain Gupta ไม่ออกความเห็นว่า การสวรรคตสืบเนื่องมาจากการปลงพระชนม์ อัตวินิบาตกรรมหรืออุบัติเหตุ วิธีดำเนินการนี้ เป็นไปตามข้อตกลงในหนังสือเชิญ (ได้แนบสำเนาฉบับแปลมาด้วย) ว่าขอให้มาเป็นกรรมการเพื่อช่วยในการชันสูตรพระบรมศพเท่านั้น

พวกเขารู้สึกว่าสามารถให้ความเห็นด้านการแพทย์จากข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่ ได้มาจากการชันสูตร แต่รู้สึกว่าจะเป็นการไม่เหมาะสมและนอกเหนืออำนาจที่จะให้พวกเขาออกความเห็น มากไปกว่านั้น (จบ)...."



นอกจากนี้ ในหน้า 128 เล่มที่ 2 วิมลพรรณ ปิตธวัชชัย ระบุว่า

มีรายงานที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งที่สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยรายงานไปยัง กระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรที่ลอนดอน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2489

ความว่า

ลับเฉพาะ

F 1812/327/40 กรุงเทพฯ

No.305 วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2489

From Mr.Thompson

To Mr.Bevin

12 th December 1946

ผมคิดอยู่บ่อยครั้งถึงถ้อยคำของรัฐบุรุษอาวุโสที่ไม่บังควรอย่างยิ่งที่จะ กล่าวออกมา ซึ่งนายดอลที่ปรึกษาทางด้านการคลัง ได้ยินคำพูดนี้เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ว่า กษัตริย์ไม่ควรเข้ามายุ่งกับการเมือง สองวันต่อมาพระเจ้าอยู่หัวอานันท์ก็สวรรคตอย่างโหดร้าย และมีการกระซิบกระซาบในประเทศ ว่าเป็นการซ้ำรอยเหตุการณ์ร้าย ณ ขั้นบันไดทางขึ้นโบสถ์แคนเทอร์เบอรีที่ ทอมัส อะ เบ็กเก็ต ถูกสังหาร

ผมจะส่งสำเนารายงานนี้ไปยังกรุงเบิร์น และสิงคโปร์

G.H. Thompson



ผมมิได้มุ่งหวังโจมตีนายปรีดี แต่อยากชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลนายปรีดีประกาศว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ

ซึ่งถ้าเรื่องจริงเป็นไปตามที่สมศักดิ์ เจียมฯพยายามให้ร้ายในหลวง

แล้วทำไม?พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงใส่พระราชหฤทัยในการชันสูตรพระบรมศพอยู่มาก

สู้ตามน้ำไปตามที่ปรีดีจัดการประกาศว่าเป็นอุบัติเหตุไม่ดีกว่าหรือ





*แก้ชื่อหนังสือตามที่คุณอู ฮานามิทักครับ


#321783 สู่ห้องเรียน..ประวัติศาสตร์ชาติไทย

โดย amplepoor on 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 16:45

เรียน คุณแอม

รบกวนคุณแอม เตรียมข้อมูลที่เกี่ยวกับ ประชาธิปไตยไว้ด้วยน่ะค่ะ
จะเปิดห้องเรียน เสวนาประชาธิปไตย ค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :lol:


ครูน้อยน้อมรับคำสั่งครูใหญ่
แต่ผมนั้นฝักไฝ่เผด็จการและรักอนาธิปไตย...จะเหมาะเหรอ


ฮา

ปล. ข้อมูลจากคุณดรามา ตบหน้าสมศักดิ์ฉาดใหญ่
ทำยังงัยจะเอาไปแปะในเฟสฝ่ายนั้นได้หนอ

ปล. 2
ผมเล่นเฟสไม่เป็น อยากเปิดเฟส "ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งมั่ว" ตอบโต้สมศักดิ์
คุณดราม่า ลุยกันหน่อยดีปะ


#321509 วาทะกรรมกลวงๆ "เผาบ้านเผาเมือง" ที่ใช้ไว้หลอกเมามอม "กระบือบื้อ...

โดย อาตี๋ on 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:18

อ้างคำพูดคนที่บอกว่า"ไม่รู้ว่าใครเผา"มาเป็นพยานแก้ต่างให้ตัวเองว่า"ไม่ได้เผา"
มิน่าหล่ะทำไมคดีอากงถึงได้แพ้คดี :D


#320943 เสื้อแดงเอ้ย ตามข่าวสื่อ นอกบ้างไหม ว่าดูซิเค้าว่าอะไรพวก ลื้ออ่ะ

โดย tu249cm on 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 22:31

ในขณะที่แกนนำได้กรอกหูให้พวกเสื้อแดงเชื่อว่าคุณอภิสิทธิ์คือฆาตกร80กว่าศพ
ไร้ความสามารถในการนายกรัฐมนตรี ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย แต่สื่อนอก

กลับมองคุณอภิสิทธิ์ีกมุมมองหนึ่งซึ่งน่าสนใจ

Prime Minister Abhisit is a man well-suited to function within a Western-style democracy.
Unfortunately, his character and education have so far not suited him to deal with the reality

of Thailand.

และอีกParagraph.......

Abhisit has clearly been restrained precisely because he believes in democracy. Perhaps he has sought to govern a country too prone to corruption as though it already had the levels of education and the moral constitution of the successful Western democracies.


#319783 ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

โดย SPDZ on 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 22:17

อันดับ 1 สาวสุดเซ็กซี่ คือ...







Posted Image


#319944 สู่ห้องเรียน..ประวัติศาสตร์ชาติไทย

โดย amplepoor on 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 00:53

ทีนี้จะเล่าเรื่องที่ร้อยปรีดีก็ทำไม่ได้ คือการจำกัดวงเงินของตัวเอง

กลางรัชกาลที่ 5 เราต้องสร้างทางรถไฟขนานใหญ่ เพราะอังกฤษมันเข้ามายื่นเงื่อนไขว่า
ขอสัมปทาน มันจะสร้างให้ฟรี แต่ขอที่ดินริมทางรถไฟเป็นการตอบแทน

ราชสำนักบอกว่ายอมไม่ได้ นอกจากเสียพระเกียรติยศแล้ว จะเสียบ้านเสียเมือง
เพราะลำพังแค่ปัญหาคนใต้ร่มธง เราก็แทบจะจัดการเรื่องภายในได้ยาก ซ้ำเรื่องที่ดินเข้าไป
คงสิ้นชาติแน่นอน

แต่เมื่อเขายื่นมา ถ้าเราไม่ยอม ก็ต้องสร้างเอง ไม่อย่างนั้นจะเสียทั้งภายในภายนอก
ปัญหาคือสยามมีเงินไม่พอ ที่ปรึกษาราชการทั่วไปที่เป็นฝรั่ง ก็หาทางออกว่าจะต้องกู้เงินที่ตลาดทุนยุโรป
ร. 5 ทรงอนุมัติ ฝรั่งก็ไปทำงบดุลประเทศขึ้นมา เพราะไม่มีก็ขอกู้ไม่ได้ อันนี้เป็นเรื่องใหม่

แต่เรื่องใหม่ที่คอขาดบาดตายยิ่งกว่าคือ จะต้องทำงบประมาณแผ่นดินที่แยกหมวดหมู่อีกด้วย
เขาจะได้รู้ว่า สยามมีรายรับรายจ่ายที่น่าเชื่อถือพอให้ปล่อยกู้ได้

ฝรั่งมาติดเรื่องหนึ่งคือเงินใช้สอยของพระเจ้าแผ่นดิน เขาพบว่าตัวเลขสูงมาก น่าจะสร้างปัญหา
เอามาปรึกษากรมดำรงฯ ทำนองว่า อยากจะให้ล็อบบี้ ท่านก็บอกว่า ท่านไม่กล้าก้าวก่าย
แต่แล้วไม่กี่วันต่อมา ฝรั่งก็หน้าแดงมาหาสมเด็จ บอกว่าสยามโชคดีที่มีกษัตริย์อย่างนี้
เรื่องที่ยากที่สุด สำเร็จอย่างง่ายที่สุด

ฝรั่งบอกว่า จู่ๆ พระเจ้าอยู่หัวก็เรียกพบ ตรัสเองว่า
เงินใช้สอยส่วนพระองค์นั้นน่าจะสร้างปัญหา เพราะตัวเลขสูงและไม่แน่นอน
ทรงทราบก็จะขอกำหนดเป็นวงเงินตายตัวเสียทีเดียว
ฝรั่งช๊อคครับ เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอกษัตริย์ที่เห็นแก่บ้านเมืองมากกว่าตนเอง

สรุปก็คือ เราได้ทางรถไฟมาเพราะทรงตัดเงินปีส่วนพระองค์ลง
ควรทราบด้วยว่า วงเงินที่ทรงตัดนั้น ในที่สุดก็ไม่พอใช้ ทรงกัดฟันไม่ขอเพิ่ม
แต่ให้กรมดำรงหาหนทาง ก็ได้วิธีว่า เอาที่ดินในพระองค์ออกทำผลประโยชน์

เรื่องนี้คือที่มาของสำนักงบประมาณ และสำนักงานทรัพย์สิน....
มีมาก่อนนายปรีดีจะล้มเจ้านานหลายสิบปี


#319916 สู่ห้องเรียน..ประวัติศาสตร์ชาติไทย

โดย amplepoor on 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 00:03

ผมให้ฝ่ายทักษิณตอบเรื่องนี้ดีกว่า...555555
http://vattavan.com/...php?cont_id=203
---------------------

ความขัดแย้งระหว่าง ร.7 และรัฐบาลดำเนินไปจนถึงขั้นแตกหัก พระองค์ทรงลาออกจากราชสมบัติในที่สุด เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2477 เวลา 13 นาฬิกา 45 นาที!
เมื่อทรงลาออกไปแล้ว รัฐบาลไม่รอช้าที่จะออกพระราชบัญญัติ เพื่อจัดการทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ โดยมุ่งจะยึดเอา “พระคลังข้างที่” (เงินสะสมของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี สืบมาแต่รัชกาลที่ 3 ซึ่งทรงค้าขายเก่งมาก่อนครองราชย์ และได้ทรงนำเงินนั้นใส่ “ถุงแดง” ไว้ข้างแท่นพระบรรทม จึงเรียกว่า “พระคลังข้างที่”...วาทตะวัน) โดยออกเป็นกฎหมายชื่อว่า “พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479” และเริ่มใช้บังคับตั้งแต่ 15 มิถุนายน 2479 เป็นต้นมา
พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้แยกทรัพย์สินหรือสิทธิ ออกเป็นสองส่วนคือ “ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” และ “ทรัพย์สินส่วนพระองค์” และ “ทรัพย์สินส่วนสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน”
ปัญหาการฟ้องร้องเกิดขึ้น เมื่อผู้ก่อการกลุ่มหนุ่มในตอนนั้นซึ่งอยู่ภายใต้การนำของ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม ที่จ้องมอง ‘ถุงเงิน’ อย่าง ‘พระคลังข้างที่’ ตาเป็นมัน ด้วยความมุ่งหมายที่จะยึดเอามาเป็นของรัฐ เพื่อนำมาเป็นทุนในการจัดระบอบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม (แต่ถูกวิจารณ์ว่า“คอมมิวนิสต์” ต้องแก้ตัวกันพัลวัน!) ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบบัญชีพระคลังข้างที่ ซึ่งต้องเปลี่ยนแปลงฐานะ มาอยู่ในกำกับดูของกระทรวงการคลัง ตามกฎหมายใหม่ ที่ว่าด้วยการจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ปรากฏว่าคณะกรรมการชุดนี้ ได้พบเงินหายไปหลายรายการ ซึ่งเป็นเงินที่ฝากไว้ในนามของพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าหลวง ในธนาคารของต่างประเทศ
รัฐบาลของฝ่ายผู้ก่อการได้ยื่นฟ้อง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นจำเลยที่ 1 และสมเด็จพระนางเจ้า รำไพพรรณี เป็นจำเลยที่ 2 ให้ชดใช้เงินแก่กระทรวงการคลัง เป็นจำนวนทั้งสิ้น 6,272,712 บาท 92 สตางค์ (หกล้านสองแสนเจ็ดหมื่นสองพันเจ็ดร้อยสิบสองบาท เก้าสิบสองสตางค์)
การฟ้องร้องครั้งนี้ ช็อกประชาชนคนไทยทั้งประเทศตกตะลึงพรึงเพริด เพราะไม่มีใครคาดคิดเลย ว่า
รัฐบาลนั้นจะทำอัปรีย์ ถึงขั้นฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ของชาติ...ได้ลงคอ!
ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ โจทก์คือกระทรวงการคลัง ได้ขอให้ศาลสั่งยึดทรัพย์จำเลยระหว่างการพิจารณาไว้ก่อนด้วย โดยอ้างเหตุผลคือ
เกรงจำเลยทั้งสอง จะยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน!!
อธิบดีศาลแพ่ง คุณพระสุทธิอรรถนฤมนต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งในเวลานั้นมีคำสั่งว่า “ไม่อนุญาต” ตามคำร้องของโจทก์ ที่ขอยึดทรัพย์จำเลยไว้ระหว่างการพิจารณา
แต่ท่านผู้อ่าน ที่เคารพครับ....
หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในคอนนั้น มีคำสั่งย้ายพระสุทธิอรรถนฤมนต์ ขึ้นไปดำรงตำแหน่งในศาลฎีกาเอาดื้อๆ
แต่ยังครับ ยังไม่ใช่แค่นั้น...เพราะยังมีดาบสองตามมาอีก
ที่น่าตกใจมากๆก็คือ ไม่กี่เดือนถัดมา ได้มีคำสั่งให้คุณพระสุทธิอรรถนฤมนต์ ออกจากราชการฐาน...รับราชการนาน!


นี่คือความระยำ ของฝ่ายผู้ถืออำนาจ...รังแกผู้พิพากษา!!


(คุณพระสุทธิอรรถนฤมนต์ ต้องออกจากราชการไปนานกว่า สี่ปี ก่อนมีคำสั่งจากรัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ ให้กลับเข้ารับราชการอีกครั้ง)
เมื่อย้ายคุณพระสุทธิอรรถนฤมนต์ได้แล้ว ความพยายาม ของรัฐบาลโดยผู้ก่อการกลุ่มหนุ่ม ในการเข้ายึดทรัพย์ของพระมหากษัตริย์ ก็สัมฤทธิผล โดย น.อ.หลวงกาจสงคราม รัฐมนตรีคนหนึ่ง ซึ่งเป็นกรรมการตรวจรับงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจบัญชีด้วย ได้นำเจ้าหน้าที่กองหมายของศาล และเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอีกหนึ่งโขยง บุกเข้าวังสุโขทัย เพื่อทำการปิดหมายยึดทรัพย์
...คนพวกนี้กลับรู้สึกผิดหวังเป็นอันมาก เพราะพวกเขาคิดว่าจะได้พบเงินทองและทรัพย์สินมีค่ามหาศาล กลับผิดหวังเป็นที่สุด เพราะทรัพย์สินทั้งหมด รวมอสังหาริมทรัพย์คือตัววังสุโขทัยด้วย ก็มีมูลค่าเพียง 3 ล้านกว่าบาทเท่านั้น
การพิจารณาคดีดำเนินไปหลายปี จนกระทั่งในที่สุดศาลได้มีคำสั่ง ตามคดีหมายเลขดำที่ 242/2482 คดีหมายเลขแดง ที่ 404/2484 ลงวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2484 (พิพากษาหลังสวรรคตแล้ว)
ให้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นจำเลยที่ 1 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี จำเลยที่ 2
เป็นฝ่ายแพ้คดี!




#318893 ขณะนี้ คนปทุม รวมพล หาตัว อภิสิทธิ์ ที่ รร.ประชาธิปัตย์

โดย ชาตินี้ไม่เอาตระกูลชินวัตร on 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 22:01

พวกเชื้อโรคแดงคงอยากให้ "อีปูโง่" โดนไล่แบบนี้เหมือนกัน


#317812 ////////// ทำไมคนจบอ๊อกฟ๊อด ถึงไม่กล้าดีเบตเรื่องนาซ่าครับ (ขอตั้งคำถามตัวโตๆ)

โดย ทัชชี่ on 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 11:58

เบื่อพวกทำเนียนจบ ม.สามย่านวุ้ย ถือโอกาสที่ผมเป็นคนต้นทุนต่ำ เลยแอบอ้างกันใหญ่
คนที่เค้าจบจริงเค้าไม่คุยมาหรอกวุ้ย


คนที่จบจริงเขาถึงกล้าคุยว่ะ ไอ้คนที่ไม่กล้าเนี่ย ไปซุกรูปูตายซะไป๊ อยู่ก็รกโลก แถอยู่ได้ น่ารำคาญ


#317740 ////////// ทำไมคนจบอ๊อกฟ๊อด ถึงไม่กล้าดีเบตเรื่องนาซ่าครับ (ขอตั้งคำถามตัวโตๆ)

โดย คุณนายนอกบ้าน on 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 11:27



ด่าเค้าปาวๆๆ พอเค้าท้าดีเบตก็ไม่รับคำท้าสะงั้น
หรือจะมาดีเบตกับคนจบ ม.แถวสามย่าน อย่างผมก็ได้นะ กล้าป่ะ ๆ ๆ :lol: :lol: :lol:




รหัส ของผม 35053578 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ชัวร์ตรวจสอบได้ คุณไจดี20 รหัสไรครับ


ทำไมรุ่นผม มันมี แค่ 7 หลักเอง 271xxxx
และ ระหัส 27 คือ ปีเข้า
ระหัส 1 คือ คณะวิศวะ ?



ปัจจุบัน 10 หลักค่ะ เช่น 35053578 21
21 คือคณะวิศวกรรมศาสตร์
35 คือ ปีที่เข้า

หลักที่ 3 คือ ปริญญาที่เข้า

เช่น ป.ตรีหลักสูตรปกติ
ป.ตรีหลักสูตรนานาชาติ
ป.โทหลักสูตรปกติ
ป.โทภาคพิเศษ
ป.โทหลักสูตรนานาชาติ
ป.เอก...

แต่ใช้รหัสอะไรบ้างไม่ทราบนะคะ

บอกไปแล้วใจดี20 จะได้ make รหัสถูก (แต่ก็ตรวจสอบได้อยู่ดี...5555)


#317626 ////////// ทำไมคนจบอ๊อกฟ๊อด ถึงไม่กล้าดีเบตเรื่องนาซ่าครับ (ขอตั้งคำถามตัวโตๆ)

โดย kop16 on 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:21

ด่าเค้าปาวๆๆ พอเค้าท้าดีเบตก็ไม่รับคำท้าสะงั้น
หรือจะมาดีเบตกับคนจบ ม.แถวสามย่าน อย่างผมก็ได้นะ กล้าป่ะ ๆ ๆ :lol: :lol: :lol:




รหัส ของผม 35053578 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ชัวร์ตรวจสอบได้ คุณไจดี20 รหัสไรครับ


#317589 ////////// ทำไมคนจบอ๊อกฟ๊อด ถึงไม่กล้าดีเบตเรื่องนาซ่าครับ (ขอตั้งคำถามตัวโตๆ)

โดย yenmanovic on 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:55

ตัวประกอบ/ ไหนตอบมาดิ๊ สลิปทำไมผิดเหมือนกัน

ใจหมา20/ มีอะไรใส่มาให้หมดเลยครับผมไม่กลัว ตอนนี้กำลัวกินหนมปังจิบโอวัลตินอย่างสบายอารม

ตัวประกอบ/ อย่านอกประเด็น ตอบมาทำไมสลิปผิดเหมือนกัน

ใจหมา20/ มอดครับล็อคกระทู้ที ถือว่ากระมู้นี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการและเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ

/////////////////////////////////////

ตัวประกอบ/ บอกเรียน ม.แถวสามย่าน งั้นตอบมาดิ๊ 1-2-3

ใจหมา20/ คุณเด็กปากดี
คุณจริงจังมากเกินไปหรือเปล่า กะอีแค่เรื่อง ม.คุณจะเอาเป็นเอาตายให้ได้ เอาประเด็นเรื่องนาซ่าดีกว่าครับ ถกกันในประเด็นนี้ ถ้ามีข้อคิดเห็นอย่างไร เดวผมจะคอยเสริมข้อมูลเพิ่มเติม เอาตามนี้ดีกว่าครับ

ตัวประกอบ2/ ไม่ต้องแถ ตอบมา

ใจหมา20/ อุ๊ย พอดีไม่เห็น ขอไปตอบคนอื่นก่อนนะครับ.....



ปล พูดลอยๆนะ -_-


#317577 ////////// ทำไมคนจบอ๊อกฟ๊อด ถึงไม่กล้าดีเบตเรื่องนาซ่าครับ (ขอตั้งคำถามตัวโตๆ)

โดย zutto on 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:48

ถ้าอิใจดีจบจุฬาจริง

รุ่นพี่อย่างตรู ไม่นับคนอย่างเอ็งเป็นน้องร่วมสถาบันว่ะ

จุฬาน่ะสีชมพูไม่ใช่สีแดงชั่วๆอย่างเอ็ง

แต่ถามจริงๆเหอะ เรียนจนจบ หรือโดนไทร์ออกมาวะ


#317559 ////////// ทำไมคนจบอ๊อกฟ๊อด ถึงไม่กล้าดีเบตเรื่องนาซ่าครับ (ขอตั้งคำถามตัวโตๆ)

โดย Bourne on 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:34


มั่วเหลือเกินนะใจดี ว่าแต่ จบแถวสามย่านจริงเหรอ โรงเรียนไหนล่ะ ^_^


จบมานานแล้วครับ แต่ไม่ได้เกียรตินิยมอะไรกับเค้าหลอกนะ ไปงานฟุตบอลประเพณีเกือบทุกปี รักสถาบันหน่ะ ^^


จบไรมาวะ สามย่าน โรงเรียนวัดหัวลำโพงป่าววะ หรือ ศ.ว.น. (ศึกวังน้ำเน่า) มีด้วยเหรอวะ สนามฟุตบอลโรงเรียนพวกนี้ สงสัยแอบมุดรั้วเข้าไปเตะบอลในรั้วจุฬาประจำจำสิท่า ระวังสารวัตินักเรียนนะเว้ย


#317550 ////////// ทำไมคนจบอ๊อกฟ๊อด ถึงไม่กล้าดีเบตเรื่องนาซ่าครับ (ขอตั้งคำถามตัวโตๆ)

โดย samin on 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:29



มั่วเหลือเกินนะใจดี ว่าแต่ จบแถวสามย่านจริงเหรอ โรงเรียนไหนล่ะ ^_^


จบมานานแล้วครับ แต่ไม่ได้เกียรตินิยมอะไรกับเค้าหลอกนะ ไปงานฟุตบอลประเพณีเกือบทุกปี รักสถาบันหน่ะ ^^


ไอ้ใจดี จะโม้อะไรอีก นี่จะบอกว่าจบจุฬาฯอีกรึ

พ่อแม่เอ็งสอนมาอย่างไรนี่

ส่วนตัวผมก็จบจากมหาลัยระดับ TOP 3 ของประเทศที่ตั้งอยู่แถวบางเขน
จบวิศวะเหมือนกับคุณใจดีเช่นกันครับ
ผม ตั้งข้อสังเกตุว่า Jaidee 20 ไม่น่าจะจะบจากมหาวิทยาลัยมีชื่อที่สุดของประเทศแถวสามย่านนะครับ
เพราะเพื่อนผมที่จบจากที่นี่ คุณภาพดี ไม่มีใครมารับเงินเดือนที่เอกชนแค่ 9000 อย่างที่คุณ David_Ginola บอกไว้ถูกต้องเลยครับ
มีคำถามจะถาม Jaidee 20 เพื่อช่วยพิสูจน์ความจริงหน่อย
คำถามที่ 1 Gear Games คืออะไร
คำถามที่ 2 ถ้าอ้างว่าจบจากที่นั่นจริง ขอถามว่า เป็น CU เท่าไร Intania เท่าไร จบจากภาควิชาอะไร
(คำถามข้อ 1 อาจไปถามคนที่รู้ได้ แต่คำถามข้อ 2 โกหกไม่ได้แน่ เพราะผมมีเพื่อนที่จบจากสามย่านเยอะ ทั้งตรีและโท ถ้าจะให้มันช่วยเช็คกับหน่วยงานที่ดูแลเรื่งประวัตินิสิต น่าจะไม่มีปัญหา จะได้รู้ว่าคุณจบจริงหรือเปล่า แต่ถ้าไม่กล้าตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ เพราะผมเข้าใจและรับรู้ในความสามารถและระดับสมองของ Jaidee 20 เป็นอย่างดี 555)