กระบวนการปกติ
ทั้งนี้ยังไม่รวมว่าผู้รับงานจากรัฐจะต้องเสียภาษีนิติบุคคลเองอีกด้วย
- บุคคลทั่วไป, อาบังคนเหนือ and ธีรเดชน้อย like this
โดย ม่านน้ำ on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 13:51
กระบวนการปกติ
ทั้งนี้ยังไม่รวมว่าผู้รับงานจากรัฐจะต้องเสียภาษีนิติบุคคลเองอีกด้วย
โดย dr_m on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:52
เล่าจากประสบการณ์ตรงเลยครับ
ที่ที่ผมจากมา เค้าไม่สนใจเรื่องเงินทองครับ แต่เค้าได้รับผลประโยชน์ต่างตอบแทนถาวรมากกว่า
คนแรก กระเทยโง่ๆคนหนึ่งได้บรรจุเป็นถึงครูผู้ช่วย เพราะ ป้ามันได้เป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาปีนังปูนี้แหล่ะ ไอ้ผอ.เลยบรรจุให้
คนที่สอง ไอ้ผอ.มันเรียนปริญญาเอก พอดีครูที่มันเรียนด้วยลูกชายอยากบรรจุ ก็เลยน่าจะแลกเปลี่ยนกันคือ มันได้คำนำหน้าว่าดร.ส่วนลูกชายไอ้ครูได้บรรจุ
คนที่สามคนที่มันแย่งตำแหน่งผมไป พึ่งมารู้ว่า มันเป็นเมียน้อยของเพื่อนผอ.มัน ทั้งที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิชาที่มันสอบได้เลย
คนที่สี่ เป็นมือขวารองผู้อำนวยการ เวลามีงานเลี้ยงคอยทำอาหารให้คอยตามนาย(ผอ.)ไปทุกที ตอนนี้เป็นผอ.สอบได้คนเดียวในตัวจังหวัด
คนที่ห้า พอดีสามีเป็นเพื่อนลูกผอ.ทำงานได้ปีเดียวได้เป็นพนักงานราชการรอบรรจุ
สรุปจากที่ผมเห็นมา เรื่องเงินไม่เท่าไหร่แต่ถ้าเพื่อตำแหน่งหน้าที่ในอนาคตของตัวเองจะยอมทำให้มากกว่า
เพราะเงินใต้โต๊ะกินแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หมดสู้อัพตำแหน่งตัวเองกินระยะยาวดีกว่า แถมได้หน้าทางสังคมอีก
และยังวางเครือข่ายความชั่วให้กับญาติพี่น้องต่อๆกัน
โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:52
การค้ามันต้องมีการแข่งขันอย่างเสรี แต่เพื่อนว่ามันไม่เกี่ยวที่ใหนระบบใหนก็มีการคอรัปชั่น
สั้นๆนะครับ
เพื่อนคุณจขกท. ....
1. "เห็นแก่ตัว"
2. "ไร้ความสามารถ"
เห็นแก่ตัว คือ ขอเพียงตัวเองได้ประโยชน์ จะทำผิดก็ไม่สนใจ แถมยังเถียงอีกว่าตัวเองถูก
ลืมนึกไปว่า...ถ้าวันหนึ่งมีคนยัดเงินใต้โต๊ะเยอะกว่าเพื่อนคุณ เขาก็จะไม่ได้งานอีกเลย
ไร้ความสามารถ คือ ผลงานไม่มีคุณภาพ เครดิตความน่าเชื่อถือไม่มี เอ่ยชื่อบริษัทไปไม่มีใครรู้จัก จึงมุ่งใช้แต่ระบบยัดเงินเพื่อให้ได้งาน
คนมีความสามารถ มีผลงานที่ฟ้องความน่าเชื่อถือ ไม่ต้องใช้เงินสักบาทเขาก็อยู่ได้ มีงานป้อนเข้ามาตลอด
โดย bend on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:40
ช่วงที่ยังเดินฯ กันอยู่ ได้คุยกับท่านผู้หนึ่ง สรุปคร่าวๆ
โกงบ้านโกงเมือง พวกเรา ออกมากันเยอะมาก
แต่เวลาโกงระดับท้องถิ่น รู้ก็รู้ ทำไงให้คนท้องถิ่น มีแบบนี้ เหมือนวันนี้บ้างนะ
คุยเสร็จต่างก้มหน้ากินข้าว ฝืนคอนิดๆ
...
อ่านกระทู้นี้แล้ว นึกถึง กระทู้ สรรพากร
http://webboard.seri...่ยงไรกับสิ่งที/
โดย gears on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:03
โดย อัญญา on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 13:32
เรื่องคอรัปชั่น โดยเฉพาะรับเงินใต้โต๊ะ ทำไงถึงจะลดตรงนี้ได้ ต้องช่วยกันคิด
ตอนนี้ที่เห็นพูดๆ กันคือ 20-30-40% ของงบประมาณแผ่นดิน ถูกคอรัปชั่น
ถ้าลดตรงนี้ได้ ประโยชน์อีกมหาศาล ลดคอรัปชั่นจากฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ นัการเมือง และ ลดคอรัปชัน จากฝ่ายเอกชน (ลดเสป็กงาน วัสดุ ทิ้งงานก่อนหมดสัญญา)
โดย ma_ya on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 13:51
ในเมื่อมีกระทำให้ได้งานโดยการใช้วิธีจ่ายใต้โต๊ะให้เจ้าของโครงการ(จขกทหมายถึงทางราชการหรือปล่าว)
ก็จะต้องมีคนเสียสิทธิ์ในการแข่งขันหรือไม่ได้งานมาทำ
ซึ่งเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ในกรณีนี้มีกระบวนการให้ร้องเรียนอยู่แล้ว มีปปช. มีศาลปกครอง และอื่นๆ
แต่ไม่กล้าร้องเรียน เพราะเชื่อว่าร้องเรียนไปแล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาใช้ระบบพวกพ้องช่วยกันไปมามีผลประโยชน์เอื้อกันและเอาเงินปิดคดี(ระบบทักษิณ) แถมตัวเองจะเดือดร้อนจากผู้มีอิทธิพลอีก
แล้วจะแก้ตรงไหนล่ะ?
สร้างความเชื่อมั่นว่าเมื่อมีผู้ฟ้องแล้วจะต้องเกิดผลจริงในทุกกรณี และให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ไม่ใช่รอจนคดีหมดอายุความ
โดย อู๋ ฮานามิ on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 13:21
คนมันจะเล่นลิ้น ตีความเข้าข้างตัวเอง ก็ได้หมด แต่มันแสดงซึ่งความไร้ยางอาย
ถ้ามองว่าประชาธิปไตยคือความเท่าเทียม ก็ต้องมีการแข่งขันเรื่องงาน เรื่องราคา ฯลฯ ที่เป็นธรรมสิ ถ้ามีนอกมีใน เอาเปรียบ ก็ไม่ได้ ไม่ควรทำ
แต่ทุกวันนี้ บางคนเอาลัทธิการเมืองการปกครองเป็นข้ออ้างในการหาเรื่องคอรัปชั่นเสียมากกว่า
หลงระเริงว่าตนมีพวกมาก มีคนสนับสนุนมาก ทุนเยอะ เลยทำhere อะไรก็ได้ แม้จะไม่ผิดกฎหมายแต่ก็ผิดจรรยาบรรณ ไม่เหมาะสม
โดย เช never die on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 13:16
ทุุกระบบมันต้องพอดีครับ ฟันเฟืองในระบบเศรษฐกิจมันจึงจะหมุนเวียนไปได้ราบรื่นอย่างเป็นปรกติ
การคอร์รัปชั่น มันก็คือการเอาทรายหยอดเข้าไปในฟันเฟืองแทนน้ำมันหล่อลื่นนั่นแหละ
แม้ระบบเศรษฐกิจจะยังหมุนต่อไปได้ แต่มันก็เร่งวันพังของระบบฟันเฟืองทั้งระบบให้เร็ววันขึ้น
แนวนิยมทางเศรษฐกิจ กับลัทธิการเมืองการปกครองมันเป็นคนละเรื่องนะครับ ต้องแยกให้ออก
โดย ทรงธรรม on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:54
โลกเสรี ในความคิดผมนะ
ทุกคน ต้องแข่งขัน กันได้อิสระ
อย่างถ้าผม เป็นคนจ้างนะ
ผมก็จะ มี ข้อให้คิด 2 ข้อ ใหญ่ ๆ คือ
ราคา และ คุณภาพ
ถ้างาน ที่ผมจะให้ทำ ไม่เน้นคุณภาพมาก
ผมก็มอง ราคาที่ต่ำ และคุณภาพ พอผ่านเกณฑ์
ถ้ามีการเสนอ ราคาที่ผมพอใจ แต่คุณภาพ
มีลุ้นจะไม่ผ่าน ผมก็ไม่เสี่ยง
ผมก็เลือกราคา ที่สูงกว่านิดหน่อย แล้ว
คุณภาพ ผ่านเกณฑ์พอดี ไม่ต้องลุ้น
แต่ถ้ามีเรื่องของ สินบน มา
ผมก็ต้องเลือก ราคาที่ต่ำกว่า ของเจ้าแรก
แล้วไปลุ้นเอา ว่าจะผ่านเกณฑ์ หรือไม่
ถามว่าทำไม ต้องเลือกราคาที่ต่ำกว่า
เพราะว่า ผมสามารถ " บวก " เอาได้
แล้วก็ไปตั้งกฏเกณฑ์ ให้เอื้อ ต่อรายแรก
มาก ๆ อีกหน่อย เพื่อให้เขา ดูมีเหตุผล พอให้เลือก
แล้วไปบอก รายแรก ให้เพิ่มราคาอีกหน่อย
จะได้เอาส่วนต่างนั้น มาจ่ายผม (เรื่องสมมุตินะ อย่าไปฟ้องผมเชียว)
เห็นไหม แทนที่จะได้
คุณภาพ แบบผ่านเกณฑ์ พอดี
กลับไปได้ คุณภาพ แบบต้องลุ้น
นั่นหมายความว่า ถ้า แผนกตรวจสอบคุณภาพ
รับค่าต๋ง จากผม ก็หมายความว่า
ประเทศชาติ หรือ บริษัท (แล้วแต่ใครเป็น เจ้านายผม)
ก็จะซวยไป ใช่ไหม
นี่ไง การค้า แบบนี้ ผมเรียก ไม่เสรี
เพราะมันมี อีกหนึ่งปัจจัย
ที่ทำให้ กฏ ไม่เป็น กฏ
ทำให้ กรรมการตัดสิน ว่าใครจะได้ " เอนเอียง "
ถ้าฟุตบอล กรรมการตัดสิน เอียงแบบนี้
ประท้วงตาย - ่าเลย จริงไหม
แล้วแบบนี้ เรียก เสรี ได้ไหมจ้ะ
โดย แม้ว ม.7 on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:38
โดย อาบังคนเหนือ on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:32
ประชาธิปไตยตรงไหน การได้งานมาโดยการใช้เส้นหรือยัดเงินใต้โต๊ะ.....แล้วอย่างนี้ลูกตาสียายสา ที่เพิ่งเข้ามารับงาน ไม่รู้จักใคร มิต้องเปิดห้างเพื่อรอเสียภาษีอย่างเดียวหรือ .....ที่เพื่อนของคุณ มันอ้างว่าไม่เกี่ยวในเรื่องประชาธิปไตย เพราะมันเป็นการกระทำมายาวนานจนกลายเป็นความเคยชินนะสิ
ประสบการณ์ตัวเองละกัน....เมื่อก่อนกระผมยื่นซองประมูลงาน หน่วยงานของท้องถิ่นบ่อยมาก ตอนตั้งห้างใหม่ๆ เข้าไปร่วมด้วย...ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับเค้า ก่อนถึงทางเข้ายื่นซอง มีชายมาเคลียร์ประมาณว่าหากอยากได้งานต้องจ่ายเท่านั้นเท่านีี้ หรืออ้างว่างานนี้มีคนจองแล้วนะ ยัดเงินให้กระผมอีก แทบไม่เคยได้งานกับเค้าเลย ผ่านไปเนิ่นนาน จนวันนึงต้องให้คนรู้จักที่เป็น สจ.ช่วยถึงได้งานมาแต่ไม่ได้ให้เค้าช่วยฟรีนะ กระผมก้อต้องจ่ายให้สจ.คนนี้เหมือนกัน...กระผมเองเมื่อก่อนก้อติดอยู่ในวังวนนี้เหมือนกัน จนวันนึงตัดสินใจยุบห้างมันซะเลย ออกไปทำอย่างอื่นดีกว่า เพราะช่วงหลังมามันจ่ายหลายที่จัด ทำไปก้อแทบไม่เหลือ
โดย ธีรเดชน้อย on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:39
มันเป็นสิ่งปลูกฝังกันมานานแล้วนี่ครับ การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลาในการยอมรับ ดูรูปแบบของจีนซึ่งมองเห็นว่าเป็นปัญหาสำคัญ
จึงต้องใช้ความเด็ดขาดเข้าทำ แน่นอนว่าเริม่ต้นต้องมีคนคัดค้านไม่เห็นด้วย หากผู้นำทำเป็นตัวอย่างและเอาจริงจัง มันจะดีกับอนาคต
ของประเทศแน่นอน ส่วนของไทยแค่มีความคิดที่จะทำโดยมีกระแสความตื่นตัวของประชาชน อยู่ที่ผู้นำครับว่าจริงจังแค่ไหนโดยต้องทำตัว
ให้เป็นแบบอย่างเช่นกัน รอดูครับ
โดย blue on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:21
คอรัปชั่น ขัดหลักประชาธิปไตยหรือไม่ มันอยู่ที่เพื่อนของ จขกท มองว่าประชาธิปไตย
เป็นอย่างไรมากกว่า
ถ้าเขามองว่า ประชาธิปไตยหมายถึง เสียงข้างมากคือความถูกต้อง มันก็จบแล้วครับ
คงไม่ต้องไปเถียงอะไรให้เสียเวลาทำมาหากิน เพราะถ้าเขาคิดแบบนี้ เขาก็คงยอมรับสภาพ
แล้วว่า ในอนาคต หากเขาทำมาค้าขายร่ำรวยขึ้นมาแล้วเขาถูกเสียงข้างมากสั่งยึดทรัพย์เขา
โดยเขาไม่ได้ไปโกงอะไรใคร ทำมาค้าขายโดยสุจริตจนร่ำรวย แต่เมื่อเสียงข้างมากคือความ
ถูกต้องบอกให้ยึดทรัพย์เขา เขาก็ต้องยอมรับความถูกต้องนั้น
แต่ถ้าเขามองว่า ประชาธิปไตยหมายถึง ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เขาก็ควรต่อต้านการใช้
ระเบิดยิงถล่ม องค์กรตรวจสอบการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ องค์กรตรวจสอบของเอกชน
หรือแม้แต่ศาล ไม่ใช่ออกมาต่อต้านคณะบุคคลที่เขาออกมากำจัดมาเฟียโกงชาติโกงแผ่นดิน
ปัญหาคอรัปชั่น มันมีทุกที่ เพราะมันอยู่ที่นิสัยคน ไม่ใช่อยู่ที่ระบบหรือระบอบอะไร แต่ระบอบ
ประชาธิปไตยมันสามารถกำจัดปัญหาคอรัปชั่นได้ดีกว่าระบอบอื่น ๆ เพราะมันมีความโปร่งใส
ตรวจสอบได้ เว้นแต่บางประเทศที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ไม่ยอมให้มีการตรวจสอบ ใคร
เข้าไปตรวจสอบก็ถูกอำนาจ อิทธิพล ข่มขู่ โดยอ้างว่า ประชาธิปไตยหมายถึงเสียงข้างมาก
คือความถูกต้อง นั่นแหละ
ถ้าเขายังไม่เข้าใจ ลองแนะนำให้เขาไปถาม ดร เกษียร อาจารย์ของเขา เพราะรู้สึกว่า ดร เกษียร
จะเปลี่ยน ประชาธิปไตยจากเสียงข้างมากคือความถุกต้อง มาเป็นประชาธิปไตยคือความโปร่งใส
ตรวจสอบได้ แล้ว
โดย เช never die on 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:09
น้าเชก็ ตกลงประกาศอัยการตอนนี้หวังผลเพื่อล้างบางเสื้อแดงชิมิ
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net