little

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. เจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. พร้อมแกนนำ กปปส.บางส่วน

แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) และแกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) รวม 25 คน มายังสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ตามที่พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นัดส่งตัวพร้อมสำนวนคดี ในข้อหากบฏ และข้อหาอื่นๆ รวม 8 ข้อหา เพื่อส่งตัวให้อัยการ ส่งฟ้องต่อศาลอาญา

โดยแกนนำทั้งหมดประกอบด้วย

1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 2.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 3.นายสาทิตย์ วงษ์หนองเตย 4. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 5.นายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ 6.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 7.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 8.นางทยา ทีปสุวรรณ 9.น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก 10.น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร

11.นายถาวร เสนเนียม 12.พระพุทธะอิสระ 13.นายนิติธร ล้ำเหลือ 14.นายชุมพล จุลใส 15.นายอุทัย ยอดมณี 16.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์ 17.นายสุริยะใส กตะศิลา 18.นายพิภพ ธงชัย 19.นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี 20.นายกิตติชัย ใสสะอาด

21.นายประกอบกิจ อินทร์ทอง 22.นายนัสเซอร์ ยีหมะ 23.นายพานสุวรรณ ณ แก้ว 24.นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด 25.พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ

ทั้งนี้ภายหลังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษและพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดี พิเศษ รับตัวนายสุเทพ พร้อมแกนนำกปปส. และแจ้งข้อกล่าวหาคดีร่วมกับเป็นกบฏและคดีอื่นรวม 8 ข้อหาจากกรณีปิดสถานที่ราชการจนเสร็จสิ้นแล้ว

พนักงานอัยการได้นำตัวนายสุเทพมายื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาในคดีร่วมกัน กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อัยการได้ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยเล็งเห็นผลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 กรณีที่ออกคำสั่งในนาม ศอฉ. ให้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ขอคืนพื้นที่จากกลุ่มนปช.เมื่อ 19 พฤษภาคม 2553 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย โดยภายหลังยื่นฟ้องนายสุเทพได้ยื่นหลักทรัพย์และคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวใน คดีนี้ต่อไป

นายนิติธร เปิดเผยว่า ขั้นตอนจากนี้เป็นหน้าที่ของอัยการในการส่งฟ้องศาล และเบื้องต้น เตรียมยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาล และอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าจะใช้หลักทรัพย์เท่าไหร่ในการประกันตัวสู้คดี

ส่วนการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีประกาศให้คดีความตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 และ 113 รวมทั้งคดีความที่ต่อเนื่องกันอยู่ในขอบเขตการพิจารณาของศาลทหาร แต่คดีของแกนนำ กปปส.และ คปท.เกิดขึ้นก่อนที่จะมีประกาศของ คสช. ดังนั้นคดีนี้จึงอยู่ในการพิจารณาของศาลอาญารัชดาตามเดิม

ขณะที่ นายเอกนัฏ เปิดเผยว่าวันนี้ แกนนำ กปปส. ซึ่งเป็นแกนนำ หลักเดินทางมาพบพนักงานอัยการครบทุกคน เพื่อ รายงานตัวและให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

โดยข้อหาหลัก จะเป็นคดีกบฏ ก่อการร้าย และข้อหา อื่นๆ แต่คนที่มีข้อหามากที่สุด คือนายสุเทพ เพราะมีข้อหาฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณี สั่งสลายการชุมนุม เมื่อปี 2553 ด้วย

นายเอกนัฏ กล่าวว่าระหว่างถูกคุมตัว ในค่ายทหาร ได้รับการปฏิบัติ จากทหารเป็นอย่างดี แต่ไม่ได้ติดต่อใคร โดยติดตามข่าวสาร จากหนังสือพิมพ์ และ โทรทัศน์ ซึ่งขั้นตอนหลังจาก รายงานตัวเสร็จและได้รับประกันตัวก็หวังว่าจะได้กลับบ้าน

ขณะที่ ทนายความของกลุ่ม กปปส. เปิดเผยว่า ทนายความได้ขอให้อัยการปล่อยตัวชั่วคราวก่อน และกำหนดวันนัดนำตัวส่งฟ้องศาลอีกครั้ง แต่หากอัยการไม่อนุญาตก็จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาล และต้องประกันตัวในชั้นศาลแทน

ด้าน พระพุทธะอิสระ แกนนำกปปส. กล่าวว่า ในวันนี้ได้รับการประกันตัวในชั้นอัยการสูงสุด โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 100,000 บาท โดยอัยการได้นัดให้มาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันพุธที่ 28 พ.ค. เวลา 13.00น. ที่อัยการสูงสุด พร้อมพนักงานสอบสวนดีเอสไอ

เบื้องต้นถูกแจ้ง3ข้อหาคือ ขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้า วันที่ 26 ม.ค.2556 และการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557รวมถึงข้อหากบฏ

ทั้งนี้ พระพุทธะอิสระ ยืนยันว่า การกระทำที่ผ่านมา เป็นการเรียกร้องภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่มีเจตนาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุกรุกสถานที่ราชการ พร้อมกันนี้ ยังแสดงความขอบคุณ คสช. ที่เข้ามาแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองของทุกกลุ่ม โดยเฉพาะการเร่งรัดจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าว

พระพุทธะอิสระ กล่าว ส่วนตัวเชื่อว่าท้้ัง 25คน ที่เข้ารายการตัววันนี้จะได้รับการประกันตัวแน่นอน

ต่อมา ศาลอาญา ได้อนุมัติการประกันตัวชั่วคราว แกนนำ กปปส. 25 คน โดยให้ยื่นหลักทรัพย์ประกันคนละ 1 แสนบาท ยกเว้นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ 9 คน ที่ไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ในการประกันตัว เพราะถูกพิจารณาคดีในข้อหาก่อการร้ายก่อนหน้านี้แล้ว !!!

ถ้าพวกคุณจะหยุดทำงาน แสดงการตอบโต้คำสั่ง
ก็อย่ารับเงินเดือน .. ลาออกไป
บางคนปลุกระดม ให้จับอาวุธสู้ทหาร
จากสาเหตุ แค่การแต่งตั้งท่านวัชรพล

ท่านรักนิยมชมชอบทักษิณ
เพราะเหตุผลว่า เคยเป็นตำรวจเท่านั้นเอง
โดยไม่ลืมหูลืมตาดูอย่างอื่นเลยหรือ ?

อย่าเอาคำว่า ศักดิ์ศรี
มาพูดให้ประชาชนด่าดีกว่า เพราะแทบไม่มีแล้ว

ทำไม ไม่ช่วยกันกู้ศักดิ์ศรีของเราขึ้นมา
ด้วยการทำหน้าที่ให้ประชาชนยอมรับล่ะ

อย่าลืมว่า "ตำรวจคือผู้รับใช้ประชาชน ดูแลสุข ปัดเป่าทุกข์ให้สุจริตชน"
อันถือเป็นหน้าที่ ที่ยิ่งใหญ่ และน่าภูมิใจ เป็นเกียรติด้วยซ้ำ

แล้วทำไมคนถึงเกลียดตำรวจล่ะ ?
คำถามนี้พวกคุณเอาไปคิดทบทวนซะ ผมว่าตำรวจทุกคนตอบได้

หรือ พวกคุณไม่เข้าใจคำว่า "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์"

ตราแผ่นดินที่อยู่ตรงหน้าหมวก เป็นตราที่ศักดิ์สิทธิ์
ไม่มีหน่วยงานใดได้ใช้เหมือนตำรวจ ซึ่งท่านควรภูมิใจ

อย่าให้ตำรวจที่เติบโต จากการวิ่งเต้นเส้นสาย
ได้ดี เพราะนักการเมืองมาครอบชีวิตพวกคุณเลย
เพราะรังแต่ส่วนรวมจะเสียหาย

ช่วยกันดูแลพื้นที่ให้สงบ ให้ประชาชนปลอดภัยดีกว่าครับ
ทำให้ประชาชนทั่วไปรักและยอมรับท่าน

นั่นล่ะ .. ท่านจึงจะเป็นตำรวจของประชาชน ที่แท้จริง

ไม่ใช่คอยแบมือ รับเงินจากเจ้ามือหวย บ่อน ซ่อง
กินฟรี เที่ยวผู้หญิงไม่ต้องจ่ายตังค์

.... ด้วยความปรารถนาดี จากใจจริงครับ ....

พ.ต.อ.ภาคภูมิ สุนทรศร
๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗