Lucy Van Pelt

แนวความคิดของภาษีมรดกของฝรั่งคือการที่คุณ(ผู้รับมรดก)ไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่ดีๆก็ได้เงินเฉยๆ อย่างงี้ต้องเก็บภาษีหนักๆ เพราะคนที่ทำงานจริงๆคือพ่อแม่คุณ ไม่ใช่ตัวคุณ

ซึ่งจะเห็นว่าขัดกับวิถีชีวิตของคนไทยมาก เพราะคนไทยนี่พ่อแม่ทำงานเก็บเงินสะสมให้ลูก

แต่ฝรั่งเค้ามีทางออกโดยให้ลดภาษีได้ถ้าคุณบริจาคการกุศล หรือตั้งมูลนิธิอะไรพวกนี้

ผมเห็นด้วยนะครับ แต่เท่าที่คุยมา(กับลูกน้อง) ไม่มีใครเห็นด้วยเลย

ไม่ไหวก็ออกไป ไม่มีใครบังคับ อยากอยู่ก็ต้องเจอแบบนี้ ตัวเองทำตัวเองดันโทษชาวบ้าน อ้างโน่นนี่นั่นไปเรื่อย

จริงๆแล้วผมถือว่าเป็นการเจรจาอย่างหนึ่งนะครับ เพียงแต่ไม่พูดตรงๆเท่านั้นเอง

ปกติถ้ามี event ใหญ่ๆอย่างเมื่อปีที่แล้ว แถวๆบ้านผมจะมีคนใส่เสื้อแดงขับรถมอเตอร์ไซด์วิ่งกันอุดตลุด มีรถตู้มารอรับ แต่วันนี้ไม่เห็นเลยครับ

บ้านผมอยู่ห้วยขวาง ตัวผมทำงานชลบุรี เปรียบเทียบเหตุการณ์ปี 53 กับปัจจุบันดู ตอนปี 53 ซอยบ้านผมมีคนเสื้อแดงเยอะมาก แถวบ้านผมมีคนเสื้อแดงขับมอเตอร์ไซด์เป็นกลุ่มๆวิ่งกันอย่างไม่สนใจใครในช่วงที่เหตุการณ์ร้อนแรงมากๆ

 

ปกติผมขับรถกลับจากชลบุรีเข้ากรุงเทพวันศุกร์ ทุกๆวันศุกร์ในกรุงเทพรถติดพอสมควร ถึงบ้าน 3 ทุ่มคือธรรมดามาก แต่สองอาทิตย์ที่ผ่านมาสังเกตว่าปริมาณรถน้อยลง ถึงบ้าน 2 ทุ่มตลอด สงสัยเหมือนกันว่าเป็นเพราะคนไปรวมตัวกันที่ราชดำเนินหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆไม่มีกลุ่มการเมืองมาขับรถอวดศักดาตามถนนแบบที่กลุ่มคนเสื้อแดงทำเมื่อปี 53

 

ตอนนี้ผมคิดว่ามีคนสองกลุ่ม คือกลุ่มเสื้อแดง กับกลุ่มที่ไม่ใช่เสื้อแดง แค่นั้นเอง และกลุ่มหลังก็มีพลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มขึ้นจนน่ากลัวว่าแกนนำอย่างสุเทพ เทือกสุบรรณจะเอาไม่อยู่ด้วย

ผมจำได้ว่าเคยคุยเรื่องสว.สรรหากับฝ่ายเสื้อแดงที่บอร์ดนี้อยู่ครั้งหนึ่งว่าสว.สรรหาทำให้คนจำนวนหนึ่งที่ไม่มีทุนรอนในการลงสมัครแข่งขันสามารถเป็นสว.ได้ เช่น ตัวแทนคนพิการ ตัวเทนเกษตรกร ซึ่งเจ้าตัวเค้าก็ยอมรับนะครับว่ามันมีประโยชน์ แต่ตอนนั้นเค้าตั้งข้อหาเรื่องว่าสว.สรรหาเป็นตัวแทนอำมาตย์ ผมก็เลยว่าถ้าเลือกตั้งหมด จะทำยังไงให้คนกลุ่มนี้ได้เข้ามา ซึ่งก็ไม่มีคำตอบจากสมาชิกเสื้อแดงคนนั้น

เหตุการณ์แบบนี้คงเอาไปต่อให้่เป็นเรื่องใหญ่ไม่ได้ครับ เพราะคู่กรณีเป็นใครก็ไม่รู้ อาจเป็นเหตุบังเอิญก็ได้

 

เหตุการณ์ปี 53 คือพยายามจะทำให้รัฐเป็นคู่กรณีให้ได้ แต่คราวนี้คนเสื้อแดงเป็นฝ่ายเดียวกับรัฐ ถ้าจะกวนเมืองจากเรื่องคำสั่งศาลนี่คงไม่มีใครยอมแน่ๆ เผลอๆกระแสจะตีกลับด้วย เพราะกลายเป็นว่ารัฐให้ท้ายมากวนเมือง

 

แต่ก็อย่างว่าครับ ที่มันเหลือเชื่อกว่านี้ คนพวกนี้ยังทำกันมาแล้ว อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย

ผมจำได้ว่าเป็นข้อเรียกร้องที่อ่อนมากตอนนั้น แม้แต่ตลาดหุ้นยังไม่สนใจเลย ตอนนั้นหุ้นขึ้นด้วยซ้ำ เพราะรู้ว่าเงื่อนไขมันไม่พอ เกมมาเปลี่ยนเอาตอนย้ายที่มาอยู่ราชประสงค์และเริ่มมีคนตาย มีแห่ศพกัน ยังงงว่าไม่มีใครฉุกคิดเลยเหรอว่าแกนนำอยากให้มีคนตายให้มากที่สุดเพื่อเอามาเป็นข้ออ้างในการบีบรัฐบาลให้ลาออกตอนนั้น เพราะจริงๆอภิสิทธ์ก็ยอมจะยุบสภาตอนปลายปีแล้ว จะรออีกซักห้าหกเดือนไม่ได้เหรอไง 

รถเต่าของผม 40 กว่าปีแล้ว จะจ่ายภาษียังไงล่ะเนี่ย 

พอดีเห็นเป็นกระทู้จักรยาน เลยขอแสดงความเห็นบ้างครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปทำธุระแถวๆเยาวราช ปกติผมจะขึ้น MRT แล้วไปต่อรถเมล์อีกทีนึง ตอนขากลับก็ขึ้นรถเมล์มาต่อ MRT ที่หัวลำโพง เดินผ่านเห็นที่จอดจักรยานของกทม. มีจักยานจอดอยู่ 4-5คัน มีน้องคนนึงคอยเฝ้า เห็นนั่งเล่น notebook และก็มีพัดลมเป่าให้ตัวนึง แบบนี้นี่ผมว่าไม่มีประโยชน์เลย สู้ทำทึ่จอดจักรยานให้คนเช่ายังดีกว่า

งานจักรยานนี่ก็อีหรอบเดียวกัน ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆอีกหน่อยคนคงไม่เอาด้วยแน่ๆ ผมว่าผลักดันกฏหมายหรือบังคับใช้กฏหมายเกี่ยวกับการใช้จักรยานไปเลยดีกว่าครับ

ทันสมัยสุดๆ 

ผมเข้าใจว่ากลุ่ม V ต้องการแยกตัวออกมาเพื่อสร้างการเมืองภาคประชาชนอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ยึดติดกับแกนนำ ซึ่งวิธีแบบนี้มีพลังถ้าทุกคนร่วมใจกัน แต่พอมีกลุ่มอื่นเข้ามาร่วมแล้วมีแนวทางต่างกันไปทั้งๆที่เป้าหมายเดียวกัน จะทำให้ V เสียพลัง เพราะทุกอย่างจะไปรวมอยู่กับพวกแกนนำ 

 

ผมยังคิดว่าสนธิไม่อยากเป้นแกนนำแล้วล่ะครับ เพราะรู้ตัวแล้วว่าไม่คุ้มเหนื่อย อาจจะแค้นปชป.บ้าง ก็เลยด่า แต่ถามว่าจะลุกขึ้นมาสู้หรือเปล่า? คงไม่เอาแล้ว

ผมว่าล้มรัฐบาลไม่ยากเท่าตั้งรัฐบาลให้ทุกฝ่ายยอมรับครับ 

สำหรับไทย ผมไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัตินะครับ จริงๆถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา ทางทหารจะต้องมีบทบาทในการช่วยเหลือประชาชนมากกว่าที่จะประกาศยึดอำนาจ เพราะเรื่องแบบเดิมๆก็จะวนกลับมาอีกทีนึง แต่ไม่รู้ว่าตอนนั้นคนไทยอาจจะฆ่ากันตายไปเยอะแล้วก็ได้

 

ส่วนอเมริกาหรือ UN นี่ผมว่าคงกำลังดูทิศทางลมในอียิปต์อยู่ จริงๆผมก็ไม่เห็นอเมริกาจะสนใจว่าไทยจะปฏิวัติหรือเปล่า ถ้าปฏิวัติเสร็จก็บอกว่า ให้รีบคืนอำนาจประชาชน จัดเลือกตั้ง ฯลฯ ประมาณว่าทำให้เห็นว่ามีกระบวนการประชาธิปไตยแล้วนะ ประมาณนี้ ส่วนภาคเอกชนยิ่งไม่สนใจใหญ่เลย ตราบใดที่ยังส่งของให้เค้าได้ตามเวลา