jeedee

วันแรกแรก ที่ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ร้องขอให้ มวลมหาประชาชน เดินไปส่ง คุณสุเทพฯ และ พรรคประชาธิปัตย์ เข้า สภา

การเรียกร้องในครั้งนั้นเพื่อเป็น การแสดงสัญญลักษณ์ ปฏิเสธ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ให้แก่ คุณทักษิณ ชินวัตร

ใน วันนั้น คุณสุเทพฯ ยังคงเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อยู่...

เรียน เพื่อนเพื่อน ทุกคน ตรงตรง เวลานั้น ตะนิ่นตาญี ยังไม่ใคร่เชื่อ ใน ขนมจีน-น้ำยา ของ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ มากน้อยสักเท่าไหร่

มี ผู้ใหญ่ ที่ เคารพนับถือกันมากท่านหนึ่ง บอกว่า ทำไม...ไม่ลองวัดใจ กับ คุณสุเทพฯ แก ดูเล่า? ตะนิ่นตาญี ไม่ได้ตอบคำถามนั้นครับ ได้แต่ยิ้ม

จนเมื่อ มี การชุมนุมครั้งใหญ่ ที่ สถานีรถไฟสามเสน ต่อเนื่องมาจนถึง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ละเรื่อยไป แยกปทุมวัน และ สวนลุมพินี

ย้อนกลับมาที่ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ตามลำดับ

จากวันนั้น ถึง วันนี้...จาก ส.ส. สุเทพ เทือกสุบรรณ มาเป็น พี่กำนันฯ ของ ตะนิ่นตาญี สิ่งที่ ตะนิ่นตาญี ได้เรียนรู้ ใน character ของ พี่กำนันฯ นั่นก็คือ

หัวใจ ของ พี่กำนันฯ นั้น ใหญ่เกินตัว...พี่กำนันฯ จะรู้หรือไม่ ไม่เป็นไร แต่ ขอให้ทราบโดยทั่วกัน

พี่กำนันฯ เป่านกหวีดอีกเมื่อใด ตะนิ่นตาญี ก็จะไปอีกเมื่อนั้น ไม่เชื่อก็ลองดู จะวัดใจกันกี่รอบก็ได้ นะ พี่กำนันฯ นะ   

หมายเหตุ : ขออนุญาต ลบ ภาพ นี้ ทิ้ง เพื่อป้องกันมิให้ เกิด ปัญหา ต่อ ผู้ดูแล 

ขออภัย เพื่อนเพื่อน และ ผู้ดูแล ใน ความไม่เหมาะสม ด้วยครับ

จากหน้าแรก จนใกล้ จะถึง หน้าสุดท้าย ของ กระทู้ เกาะติดสถานการณ์ฯ ของ คุณ redfrog53 นี้

สิ่งที่เห็น ได้ อย่างชัดเจน คือ น้ำใจ ของ คนเสรีไทย ทั้ง หญิง และ ชาย

น้ำใจ ของ เพื่อนเพื่อน ทุกคน นั้น ยิ่งใหญ่ มหาศาล ทุกผู้-ทุกนาม จนไม่อาจเอ่ยอ้าง ชื่อใด-ชื่อหนึ่ง หรือ ทุกชื่อ ได้ครบ

ไม่ว่า เพื่อนเพื่อน จะ อยู่ตรงไหน ใน สังคม ไม่ว่าจะเป็น เพศบรรพชิต หรือ ฆราวาส ทุกคนจะมีความห่วงใยกัน

อนาทรร้อนใจ ใน กันและกัน อยู่ตลอด ตะนิ่นตาญี คงไม่มีวันลืม ความรู้สึกดีดีเหล่านี้เป็นแน่แท้

ขอบพระคุณ เพื่อนเพื่อน ทุกคน ขอบพระคุณมากครับ   

ตะนิ่นตาญี

วันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗

เวลา ๘.๕๕ นาฬิกา

รอก่อน ขอปิดกระทู้ด้วยคน

รักทุกคนที่นี่ อบอุ่น มีความสุข และคิดถึงอยู่เสมอ เราจะเจอกันอีกในยามยากของบ้านเมือง และจะอยู่เป็นรั่วเล็กๆ ปกป้องแผ่นดินร่วมกับมวลมหาประชาชน แผ่นดินไทยชั่งส่วยงามในยามวิกฤติเสมอมา

ขอบคุณผู้ตั้งกระทู้และผู้รว่มpostทุกท่าน ได้ทั้งความรู้และ update สถานการณ์ต่างๆ ตราบใดที่ระบอบทักษิณยังอยู่หรือกลับมาอีก ผมก็จะยังร่วมสู้กับทุกท่านตลอดไปครับ...

กระทู้นี้เปรียบเสมือนหนังสือประวัติศาสตร์เล่มใหญ่ อาจจะไม่ได้เปิดอ่านครบทุกหน้า แต่ทุกๆหน้าที่ได้อ่านนั้นได้รวบรวมเอาไว้ทุกๆเรื่องจริงๆ

เมื่อก่อนยอมรับว่าตัวเองไม่สนใจการเมืองเลย มาเริ่มสนใจตอนรัฐประหารปี49นี่เอง และสนใจอย่างจริงจังเมื่อได้รู้จักบอร์ดเสรีไทย

อาจจะไม่มีความรู้ในแบบที่ลึกซึ้งนัก แต่ก็ได้ความรู้จากเสรีไทยเยอะเลย การชุมนุมประวัติศาสตร์ครั้งนี้ต้องขอจดจำไปชั่วชีวิต จากคนที่ไม่เคยสนใจการเมือง

ไม่นึกว่าตัวเองจะเข้าร่วมชุมนุมกับลุงกำนัน ขอบคุณทุกคนจริงๆค่ะ  แล้วพบกันที่มู้ใหม่ 

จิตวิญญาณอาสา สมัครและความอยากช่วยเหลือสังคมไม่ได้ยุติไปพร้อมกับการเก็บเต็นท์พยาบาล เพราะการรัฐประหาร!! เครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ได้จัดยาสามัยประจำบ้านเป็นชุดๆจำนวน 50 กล่อง เพื่อนำไปมอบให้กับบังเกอร์ทหารตามจุดต่างๆใน กทม.เพื่อเป็นกำลังใจ ยาเหล่านี้ก็คือยาที่มวลมหาประชานบริจาคมาจำนวนมากเพื่อใช้ในการดูแลมวลชนใน การชุมนุมใหญ่ แต่รัฐประหารก่อนการชุมนุมใหญ่จึงไม่ได้ใช้ ยาชุดนี้คงได้ช่วยดูแลทั้งทหารหาญและประชาชนที่เดินทางไปมาในกรุงเทพมหานคร ส่วนยาที่ไม่ใช่กลุ่มยาสามัญประจำบ้าน เป็นยาที่ควรให้แพทย์พยาบาลหรือเภสัชกรเป็นผู้สั่งช้ยานั้น จะนำไปบริจาคให้โรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวีดตาก ตามที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้แล้วครับ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาสาสมัครที่ใช้เวลายามว่างจากการทำงานมาช่วยานที่เต็นท์ พยาบาลจะเหงา เพราะระดมนัดหมายกันแป็ปเดียว คนที่ว่างมากันอย่างพร้อมเพรียง นับเป็นมิตรภาพอันอบอุ่นยิ่งครับ

ทางเครือข่ายฯได้จัดยาสามัญประจำบ้าน เช่น para ยาธาตุ ยาแก้ไอ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยานวด setทำแผลจำนวน50ชุด
เพื่อเตรียมนำไปให้ทหาร ตามบังเกอร์ เพื่อเป็นกำลังใจและขอบคุณทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่สมกับเป็นทหารของประชาชนค่ะ

คำถามจากหลายคน "ทำไมต้องอุ้มผาง" หมายความว่าทำไม เครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์และชมรมแพทย์ชนบท ถึงเลือกนำยาจากการดูแลมวลมหาประชาชนไปบริจาคให้โรงพยาบาลอุ้มผาง คำตอบชัดๆอยู่ในข่าวชิ้นนี้ครับ โรงพยาบาลอุ้มผางนั้นเป็นโรงพยาบาลหนึ่งที่ไกลที่สุดของประเทศ ไทย ดูแลคนกว่า 80,000 คน แต่คนที่มีบัตรทองมีเพียงสองหมื่นคนเศษ ที่เหลือเป็นคนไทยไร้รัฐที่รอการพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งหมายความว่ารัฐไม่ได้จัดงบมาให้ แต่โรงพยาบาลก็รักษาทุกคนที่เจ็บป่วยแม้ไม่มีบัตรและไม่มีเงิน จึงทำให้โรงพยาบาลมีหนี้สินมากมายจากการทำงานดีและดูแลทุกคนตามหลักการแพทย์ และสิทธิความเป็นคน เมื่อรัฐประหาร ยาที่เตรียมไว้ในการชุมนุมใหญ่ 4 วันเผด็จศึก และยาที่ได้รับบริจาคมาอย่างต่อเนื่องจึงเหลืออยู่ในจำนวนไม่น้อย รวมถึงเครื่องมือแพทย์ด้วย แวบแรกที่คิดถึงว่าจะบริจาคให้ใคร ชื่อโรงพยาบาลอุ้มผางจึงกระจ่างเด่นขึ้นมาในความคิดของชมรมแพทย์ชนบทในทันที และได้รับความเห็นชอบจากโรงเรียนแพทย์และอาสาสมัครในเครือข่ายอย่างเอกฉันท์ นี่คือเหตุผลครับว่า "ทำไมถึงเป็นอุ้มผาง"

ประชาคมสาธารณสุข หนึ่งในความเข้มแข็งของมวลมหาประชาชน

การจบภารกิจด้วยการยังประโยชน์แก่ผู้อื่น

เป็นการจบที่สวยงามตามความหมายของคนดี โดยแท้จริง

ปล ขออนุญาตมอด อย่าเพิ่งปิดกระทู้เร็วนักนะคะ

จะพยายามตามหาการจบภารกิจของมวลมหาประชาชนแต่ละหน่วยมาโพสต์

เพื่อให้กระทู้นี้ได้จบลงอย่างสมบูรณ์

55555 pic.twitter.com/uAbGJ4j8Z8

https://www.facebook...0023947/?type=1   

๑๕.๒๗ น. ชาวนาและประชาชน จ.สุโขทัย เดินทางไปศาลากลางจังหวัด เพื่อให้กำลังใจทหารหลังได้รับเงินจำนำข้าว

cr. พลังประชาชน โค่นล้มระบบทักษิณ

 

 

ใครจะด่าผมก็ตามสบาย แต่ผมเห็นด้วยกับคนที่บอกว่าอภิสิทธิ์ควรจะงดมาพูดเรื่องทางการเมือง แล้วหันมาลงมือมีส่วนช่วยในการทำงานเพื่อปฎิรูปประเทศเสียยังดีกว่ามาโพสต์แสดงความเห็นแบบเชิงการเมืองอุดมการณ์แบบเก่าๆอยู่ ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมงานกับคณะก็ได้ แต่ก็ลงไปดูแลชาวบ้าน ลงมือตรวจสอบงานอะไรให้มันเห็นเป็นรูปธรรมบ้าง ไม่ใช่ทำแบบที่ผ่านๆมา เล่นการเมืองกับใจเย็นมากเกิน ฟังแต่เสียงรอบข้างแล้วหวังอะไรลมๆแล้งๆ ที่คุณถูกปรามาสไว้ว่าเป็นพวกดีแต่พูดน่ะ มันไม่ใช่เกินเลยหรอก บุคลิกความเป็นผู้นำคุณมีจริง แต่ความเด็ดขาดกับการแก้ปัญหาเนี่ย หลายอย่างมันยังไม่พอ คุณยังติดกับการเล่นการเมืองแบบอุดมคติในตำราเกินไป จนไม่ดูความเป็นจริงของการเมืองไทยว่ามันเน่าแค่ไหน ถ้าคุณยังไม่ปฎิรูปตัวเองกับพรรคไปด้วย ถึงเพื่อไทยกับบรรดาสมุนของทักษิณจะตายหรือโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองถาวรยังไง ก็ไม่เห็นแนวโน้มที่พรรคคุณจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้เลย

ลาออกจากสส. ทั้งพรรคนี่ยังไม่เด็ดขาดอีกหรือครับ อย่ายกย่องคนโดยการเหยียบอีกคนเลยครับ มีวันนี้ได้เพราะหลายฝ่ายร่วมมือกันทำครับ ทุกคนต่างเล่นในบทบาทของตัวเองทั้งนั้นถ้าขาดปัจจัยใดปัจจัยนึง มันไม่มาถึงจุดนี้หรอกครับ ลองทบทวนดูเอาเองครับ ว่าใครที่คัดค้าน พรบ นิรโทษกรรม เดินสายทั่วประเทศ เป็นแม่เหล็กในการเริ่มม็อบ ทำหน้าที่ในสภา จนเกิดสูญญากาศ ทั้งประธาน สว. สส. ลาออกจากสส. ทั้งพรรคเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ไม่ลง สมัคร สส. รวมถึงแสดงเจตจำนงค์ชัดเจน ว่าจะต้องปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง บทบาทที่เขาต้องเล่นเขาก็ทำได้สมบูรณ์แล้วครับ การแสดงความเห็นแนวนี้ก็เป็นอีกบทบาทที่จำเป็นต้องแสดงออกครับ

 

 

ไม่ยักกะรู้ ว่าแค่คนเป็นนักการเมือง พูดสิ่งที่คิดในใจตามมุมมองของนักการเมือง จะถูกด่าเหมือนหมูเหมือนหมาขนาดนี้

อภิสิทธิ์สู้มาเท่าไหร่ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายถูกตีในรถ ถูกตามขู่ฆ่าเท่าไหร่ เค้าก็สู้ในมุมของเค้า ในฐานะเค้าเป็นนักการเมือง

การจัดเวทีสัญจรเรื่องต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อปูพื้นฐานของการชุมนุม เค้าก็เป็นคนทำ

ลาออกทั้งพรรค ลากกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าศาลรัฐธรรมนูญ ก็ทำแล้ว โดนข้อหาต่างๆ ตั้งกี่ข้อหา

เพียงแค่วันนี้ เค้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจในฐานะนักการเมืองตามอาชีพที่เค้าเป็น พวกคุณก็ด่าเค้าเหมือนหมูเหมือนหมา เพราะเค้าพูดไม่ถูกใจคุณแค่นั้น

ผมว่าถ้าเป็นแบบนี้อภิสิทธิ์ไม่ควรเกิดเป็นคนไทยด้วยซ้ำ ถ้าสันดานคนในประเทศนี้ยังเป็นแบบนี้

 

จริงๆแล้วถ้าคุณ barroc สนใจติดตามข่าวของคนในพรรค ปชป บ้าง แล้วคุณจะทราบว่าถึงแม้พวกเค้าจะไม่ได้เป็น สส.แล้วแต่ก็ยังคงทำงานต่อเนื่อง คุณลองเปิดใจอ่านจากเฟสคุณกรณ์หรือคุณอรรถวิทย์ดูก่อนก็ได้ เช่นเมื่อเร็วๆนี้น้ำท่วมซอยลาดพร้าวคุณอรรถวิทย์แกยังไปยืนตากฝนช่วยเหลือและประสานงานให้ประชาชนอยู่เลย ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องทำหรือจะปฏิเสธก็ได้  ส่วนคุณกรณ์นี่ทำงานเยอะและหนักกว่าตอนเป็น สส.อีกมั้ง เพียงแต่เค้าไม่ได้ออกข่าวก็แค่นั้น ในโลกนี้บางทีสิ่งที่คุณไม่ได้เห็นมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีจริงนะคะ

แปลกแฮะ ผมกลับรู้สึกว่า เหมือนอภิสิทธิ์จะชง ให้ คสช. ตอบนะครับ

ว่าต่อไปจะทำอะไรบ้าง คำถามก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ใครๆ ก็อยากรู้ว่า

ต่อไป คสช. จะดำเนินการต่อไป การถามอย่างนี้ ช่วยลดแรงกดดันได้ทั้งสองฝ่าย

ฝ่ายถาม ก็ปฏิบัติตามหน้าที่ของนักการเมือง ฝ่ายตอบ ก็ยังใช้โอกาสนี้ได้ว่า

จะทำโรดแม็บให้ชัดเจนได้ โดยอาศัยจากข้อคำถามของอภิสิทธิ์

ผมกลับมองว่า อภิสิทธิ์แกมีจุดยืนนะ

คนเช่นนี้แหละ เหลี่ยมซื้อไม่ได้

 

ใครจะด่าผมก็ตามสบาย แต่ผมเห็นด้วยกับคนที่บอกว่าอภิสิทธิ์ควรจะงดมาพูดเรื่องทางการเมือง แล้วหันมาลงมือมีส่วนช่วยในการทำงานเพื่อปฎิรูปประเทศเสียยังดีกว่ามาโพสต์แสดงความเห็นแบบเชิงการเมืองอุดมการณ์แบบเก่าๆอยู่ ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมงานกับคณะก็ได้ แต่ก็ลงไปดูแลชาวบ้าน ลงมือตรวจสอบงานอะไรให้มันเห็นเป็นรูปธรรมบ้าง ไม่ใช่ทำแบบที่ผ่านๆมา เล่นการเมืองกับใจเย็นมากเกิน ฟังแต่เสียงรอบข้างแล้วหวังอะไรลมๆแล้งๆ ที่คุณถูกปรามาสไว้ว่าเป็นพวกดีแต่พูดน่ะ มันไม่ใช่เกินเลยหรอก บุคลิกความเป็นผู้นำคุณมีจริง แต่ความเด็ดขาดกับการแก้ปัญหาเนี่ย หลายอย่างมันยังไม่พอ คุณยังติดกับการเล่นการเมืองแบบอุดมคติในตำราเกินไป จนไม่ดูความเป็นจริงของการเมืองไทยว่ามันเน่าแค่ไหน ถ้าคุณยังไม่ปฎิรูปตัวเองกับพรรคไปด้วย ถึงเพื่อไทยกับบรรดาสมุนของทักษิณจะตายหรือโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองถาวรยังไง ก็ไม่เห็นแนวโน้มที่พรรคคุณจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้เลย

ลาออกจากสส. ทั้งพรรคนี่ยังไม่เด็ดขาดอีกหรือครับ อย่ายกย่องคนโดยการเหยียบอีกคนเลยครับ มีวันนี้ได้เพราะหลายฝ่ายร่วมมือกันทำครับ ทุกคนต่างเล่นในบทบาทของตัวเองทั้งนั้นถ้าขาดปัจจัยใดปัจจัยนึง มันไม่มาถึงจุดนี้หรอกครับ ลองทบทวนดูเอาเองครับ ว่าใครที่คัดค้าน พรบ นิรโทษกรรม เดินสายทั่วประเทศ เป็นแม่เหล็กในการเริ่มม็อบ ทำหน้าที่ในสภา จนเกิดสูญญากาศ ทั้งประธาน สว. สส. ลาออกจากสส. ทั้งพรรคเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ไม่ลง สมัคร สส. รวมถึงแสดงเจตจำนงค์ชัดเจน ว่าจะต้องปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง บทบาทที่เขาต้องเล่นเขาก็ทำได้สมบูรณ์แล้วครับ การแสดงความเห็นแนวนี้ก็เป็นอีกบทบาทที่จำเป็นต้องแสดงออกครับ

 

ไม่ยักกะรู้ ว่าแค่คนเป็นนักการเมือง พูดสิ่งที่คิดในใจตามมุมมองของนักการเมือง จะถูกด่าเหมือนหมูเหมือนหมาขนาดนี้

อภิสิทธิ์สู้มาเท่าไหร่ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายถูกตีในรถ ถูกตามขู่ฆ่าเท่าไหร่ เค้าก็สู้ในมุมของเค้า ในฐานะเค้าเป็นนักการเมือง

การจัดเวทีสัญจรเรื่องต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อปูพื้นฐานของการชุมนุม เค้าก็เป็นคนทำ

ลาออกทั้งพรรค ลากกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าศาลรัฐธรรมนูญ ก็ทำแล้ว โดนข้อหาต่างๆ ตั้งกี่ข้อหา

เพียงแค่วันนี้ เค้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจในฐานะนักการเมืองตามอาชีพที่เค้าเป็น พวกคุณก็ด่าเค้าเหมือนหมูเหมือนหมา เพราะเค้าพูดไม่ถูกใจคุณแค่นั้น

ผมว่าถ้าเป็นแบบนี้อภิสิทธิ์ไม่ควรเกิดเป็นคนไทยด้วยซ้ำ ถ้าสันดานคนในประเทศนี้ยังเป็นแบบนี้

ผมคิดว่า นักการเมืองแบบอภิสิทธิ์ เนี่ย สงบปาก สงบคำ หน่อยก็ดี  อยากให้เขาสำนึกความผิดพลาดของเขาซึ่งนำพาบ้านเมืองมาถึงจุดนี้

 

หากเทียบกับ กำนันสุเทพ ผมถือว่า ลุงกำนัน ได้ทำความดี ทดแทน ความผิดพลาดในอดีตไปแล้ว แต่สำหรับคุณอภิสิทธิ์ ผมคิดว่ายังไม่ทำ และ ยังไม่เห็นอะไรที่จับต้องได้ นอกจาก การออกมาพูด เสนอความเห็นแบบนักการเมือง

 

ณ เวลานี้ คนไทย เบื่อแล้ว กับ ความเห็นของนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็น พรรค ปชป. หรือ พรรค เพื่อไทย เพราะ หลายสิบปีที่ผ่านมา พวกคุณทั้งสองพรรคก็ได้ทรยศความไว้วางใจของประชาชนหมดสิ้น

 

พรรค ปชป. เอง พันธมิตรต้องสละชีพตั้งเท่าไหร่ เพื่อให้ คุณได้มีอำนาจ ได้มีโอกาสบริหารประเทศ แต่คุณก็ทำลายโอกาสที่ พี่น้องพันธมิตรเขาสละชีพ เสียหายหมด คุณไม่เด็ดขาด ปล่อยให้ ระบอบทักษิณเจริญเติบโต สุดท้ายก็หวนกลับมาทำให้ประเทศไทยเสียหาย

 

ตอนคุณมีอำนาจ คุณก็แทบจะไม่ขยับเรื่องของการปฏิรูปเลย มีแต่ให้คนศึกษาเป็นปีๆ สุดท้าย พอจะได้ทำ คุณก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล โครงสร้างตำรวจที่มีปัญหา คุณก็ไม่ได้ทำ

 

ผมคิดว่า คุณอภิสิทธิ์ ควรจะหยุดให้ความเห็นทางการเมือง จนกว่า รัฐบาลใหม่ได้บริหารงานสักระยะ ก่อน

 

ไม่งัน้จะเหมือนกับ แม่ปู สอนลูกปู ตัวเองก็เดินเอียง แต่ยังทะลึ่งไปสอนลูกให้เดินตรง เข้าใจไหมครับ

 

นี่ผมแสดงความเห็นสุภาพมากแล้วครับ

เชื่อเถอะค่ะ ว่ากำนันกับอภิสิทธิ์ไม่มีวันตัดกันได้ การพูดการแสดงออกบางอย่าง เราคงไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ที่อภิสิทธิ์พูดแบบนั้น ก็โดนไปเยอะแล้วเพราะมีพวกเตรียมเสี้ยมอยู่ด้วย เห็นว่าพวกเราก็เอาพอหอมปากหอมคอเถอะ ไม่อยากให้ต่อความยาว รวมทั้งกรณีอี้แทนคุณด้วย

คืออยากจะบอกว่าศัตรูตัวร้ายของพวกเราและของประเทศชาติคือทักษิณและพวกพ้อง จดจ้องไปที่พวกมันอย่างเดียว ก็เหนื่อยแล้ว