Lumtakong

ผมสังเกตุเห็นหลายครั้ง ก่อนการเคลื่อนออกไปที่ใดที่หนึ่ง มักจะขึ้นกล่าวคำปราศรัย แล้วตอกย้ำหลายครั้งเช่น...

 

" พี่น้องครับ ถ้ามีตำรวจมายั่วยุ มา บลา ๆๆๆ  ผมขอให้พี่น้องมีความอดทน อย่าใช้ความรุนแรง พี่น้องสัญญาได้มัียครับ "

 

ผมเห็นทำแบบนี้หลายครั้งมาก...บนเวทีเองเวลาปราศรัยปรกติ ก็พูดกันแนวนี้บ่อย ๆ คล้ายกับการฝั่งหัว ..เพียงแต่เป็นการฝังหัวเรื่องดี ๆ 

 

เหอๆๆ...

คุณย่ากับอาม่าแก "สัญญา"

เป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่า...    

"จะไม่ใช้ความรุนแรง"      

แต่เรื่องความอดทน นั่น  แกอาจบอกว่า

"ขอคิดดูโก่น"...   

ไอ้หนีไม่ทันน่ะ ผมว่ายังดี ที่มีโอกาสหนี...

ผมเกรงว่ามันจะคาอยู่กับที่น่ะซิ...

เวรกรรมยุคดิจิตอลน่ะ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าแล้ว..  

ที่ผ่านมา... นายกยิ่งลักษณ์และรัฐบาลชุดนี้ ทำความผิดอุกฉกรรจ์หลายเรื่องหลายราว เช่น บังอาจออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดให้คนโกง... ออกกฎหมายแก้รัฐธรรมนูญที่มาส.ว.จนศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาว่ากระทำผิดหลายขั้นตอน เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย... จนคนลุกกันมาคัดค้านทั้งบ้านทั้งเมือง... 2เรื่องนี้ก็ใหญ่มากแล้ว ไม่เห็นมีใครออกมารับผิดหรือรู้สึกว่าทำผิดใดๆเลย... กลับออกมาโต้แย้งคัดค้านศาลรัฐธรรมนูญและคนที่ออกมาชุมนุม... ยังลอยหน้าลอยตาเป็นรัฐบาลอยู่ได้... หน้าด้านหน้าทน ไม่รู้สึกรู้สาอะไร... และจนกระทั่ง ณ บัดนี้ ก็ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบ...ไม่สำนึกต่อการกระทำผิดนั้นเลย... โอ้..แม่เจ้า!! ทนได้ทนดี...และยังตะแบงว่าจะอยู่ต่อไป... น่าอายนะ

ตอนนี้ก็คงต้องไปสัมภเวสีอยู่แถวเมืองเหนือ ให้พรรคพวกตัวเองแห่แหนแต๋นแต้ ไม่ได้ยินเสียงนกหวีด พรรคพวกตัวเองส่งดอกไม้ให้กำลังใจ ไชโยโห่ฮิ้วววว... น่าชื่นใจจริงจริ๊งงงง พวกตัวเองทั้งนั้น... น่าภูมิใจเนาะ! โกหกได้แม้กระทั่งตัวเอง ภูมิอกภูมิใจอยู่กับตัวเอง ยิ้มให้หัวเราะให้กับตัวเอง... แปลกเนาะ! คงต้องอยู่เมืองเหนือล่ะมั้ง... สั่งราชการอยู่ที่นั่นล่ะมั้ง... มันคงอบอุ่นดี เอ้ออ...เป็นนายกแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน... หลอกๆตัวเอง หลอกๆพรรคพวก... สนุกดีนะ

ดูหนทางที่จะเลือกตั้งแล้วน่าจะขรุขระ...ไม่ได้โล่งโปร่งสบายดังที่คิดหรอก นอกจากหลอกตัวเองเท่านั้น... ฝันไปว่าเลือกตั้งแล้ว ชนะแล้ว ฉันมาจากการเลือกตั้ง เอาการเลือกตั้งเป็นการฟอกตัวเองแล้ว...มวลมหาประชาชนเค้ารู้ทันนะว่านี่มันเป็นพิธีกรรมทำให้ตัวเองอ้างได้เท่านั้น... มันไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาของประเทศและประชาชนที่แท้จริง... ตราบใดที่ยังไม่ปฏิรูป... ตราบใดที่ยังไม่เห็นพ้องต้องกัน... เลือกตั้งไปแล้วได้เป็นรัฐบาลอีกก็จะเป็นแบบนี้แหละ... บ้านเมืองก็ยังสับสนอลหม่านแบบนี้แหละ... ทำอะไรก็ไม่ได้ แก้ปัญหาอะไรก็ไม่ได้ เดินต่อไปก็ไม่ได้... แล้วจะเลือกไปหาพระแสงอะไรกัน... ก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเรียบร้อยไม่ดีกว่ารึ? จะคิดเอาแพ้เอาชนะกันไปทำไม... เอาใจเป็นกลางๆกันบ้าง... ทั้งที่ได้เปรียบเค้าเยอะแยะอยู่แล้ว... จะเสียเปรียบไปบ้าง แพ้ไปบ้าง เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน จะเป็นไรไป... ที่พูดนี้ก็ด้วยความปรารถนาดี... ขืนดันทุรังต่อไป ผมกลัวว่าคนลุกขึ้นมารอบที่ 3 นี้.... จะหนีไม่ทันนะ

https://www.facebook...212422832134046

ถนนนั่นต่างเตียง และสองแขนก็ต่างหมอน
ราชดำเนิน...ของราษฎร ผู้สละสุขส่วนตน
ลมหนาวจะกราวกรู ก็ไม่ถอยเลยสักหน
เพื่อนฝูงจะกี่คน ที่เลิกคบก็ไม่แคร์
การงานและเงินทอง ยอมสละเพื่อเหลียวแล
บ้านเมืองต้องดีแท้ ประเทศไทยจึงเป็นไท
ขอบคุณใจงามงาม ของเหล่าผู้สละใจ
ทุ่มเทไม่ทิ้งไกล เพื่อประเทศสถาพร
ถนนนั่นต่างเตียง และกระเป๋าเข้าต่างหมอน
นอนราชดำเนินนอน เพื่อตื่นขึ้น...สู่ชัยชนะ
คารวะทุกท่าน, ด้วยหัวใจ _/\_

ปู จิตกร บุษบา
https://www.facebook...&type=1

ล็อบบี้ยิสต์ตัวแสบ ผู้ประสานงานติดต่อให้ นักการเมืองมะริกันดาหน้าถล่มประเทศไทยยามนี้

คนไทยขายชาติอีกคน ที่เดินหน้าค้าขายทุกอย่างที่ขวางหน้ากับนายทุนต่างชาติ

เอาทุกดีลที่ตัวเองได้นายหน้าโดยไม่สนใจแผ่นดินแม่

ความที่ไปโตในสังคมอเมริกันมานาน จึงพูดจาเหยียดหยามคนไทย และ หาแต่ประโยชน์ใส่พุงของตนเองตลอดเวลา

ล่าสุดเมื่อคนไกลไปพูดที่ยูเอ็น  นายคนนี้ออกมาปกป้องและรับใช้สุดฤทธิ์

แถมตะคอก ตะเพิดใส่คนไทยในอเมริกาอย่างที่คนไทยที่นั่นบอกว่า

"มันไม่น่าเรียกตัวเองว่าคนไทยแล้ว"

จบการศึกษารัฐศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรัฐแคลิฟอร์เนียลอสแองเจลิส  ( UCLA  )

และยังรับประกาศนียบัตรหลักสูตรการจัดการและการตลาดสำหรับนักบริหาร

จากมหาวิทยาลัย มิชิแกน มหาวิทยาลัยออนตาริโอ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียลอสแองเจลิส

เคยทำงานหลายที่ เช่น ซินเนอร์ไจซ์ ซัมซุง นอร์เทล สามารถ เป็นต้น

แถมด้วยเรื่องนางงามและน้ำเมาอีกโสตหนึ่งด้วย

ที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น

ส่วนตัวคิดว่าถ้าลงเลือกตั้ง  แน่นอนว่ามีผลเสียทั้งกับพรรค  และมวลมหาประชาชน

แน่นอนว่าพรรคคะแนนเสียงจะลดลง  และจำนวนคนที่ไปร่วมกับม็อบก็ลดลงเช่นกัน

เพราะดูจากตอนแรกคนออกมาชุมนุมวันที่  24 พ.ย. คนออกมาล้านกว่าเกือบสองล้าน

แต่พอวันที่ 9 ธ.ค. ทันทีที่พรรค ปชป ประกาศลาออก  คนออกมาเกือบห้าล้าน เรียกได้ว่าเป็นสองเท่ากว่า

ยิ่งตอนนี้มีนโยบายการต้อนควายเข้าคอกของเพื่อควายอีก  เงินสะพัดอย่างนั้น  ปชป  โอกาสชนะยากมาก

ถึงคะแนนเสียงจะชนะพรรคเพื่อควาย   ควายนอกฝูงอย่างไอ้เตี้ย  หรือ  ไอ้ห้อย  ก็พร้อมจะระริกระรี้ไปผสมพันธุ์ตะกวด

อีกอย่างถ้า ปชป  ออกมาเลือกตั้งมันมีผลอย่างมากกับการเคลื่อนมวลชน  อีกทั้งการพูดคุยกับองค์กรภายนอก

อย่าง  องค์กรภาคธุรกิจ  องค์กรภาคประชาชน  หรือ แม้กระทั่งกองทัพ  น้ำหนักที่พูดมันจะหายไปเยอะมากครับ

พรรคตะกวดผสมพันธุ์พยายามดันให้พรรคไปเข้าร่วมการสังฆกรรมครั้งนี้  จุดประสงค์เพื่อหวังแบ่งมวลชน กับ ผู้นิยม

พรรค ปชป แบ่งแยกออกจากกัน  

ตอนนี้อยากให้กำลังใจฝ่ายประชาชนครับ  ยังไงยื้อม็อบไว้ให้ได้ให้นานที่สุด  คอยประคองเอาไว้

พยายามรวมม็อบให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้เพื่อง่ายกับการจัดการ  และดูแลคุ้มกันผู้ชุมนุมได้สะดวก

ตอนนี้ผมยังเชื่อมั่นทั้งในตัวกองทัพ  ศาล  และ ปปช

การที่คนมองว่ากองทัพไม่ทำอะไรเลยนั้นมันก็ไม่ถูกไม่ต้องซะทีเดียว  เพราะเหมือนกับว่าตอนนี้แม้กระทั่งทหาร

ก็ถูกนักการเมืองแทรกแทรงค่อนข้างมากตัวอย่างคือ กรณีคลิปถั่งเช่า  ทหารจึงต้องจัดการองค์กรเขาก่อน

ก่อนที่จะเข้ามาช่วยฝ่ายประชาชน  

คอยดูต่อไปครับผมให้กำลังใจทั้งพรรคและมวลมหาประชาชน

ถ้าตามกำหนดการนี้  ซึ่งถ้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมการเลือกตั้งครั้งนี้

ผมเชื่อว่าถ้ามีการเชือดรัฐบาลรักษาการณ์โดยองค์กรอิสระ  หรือ ศาลเมื่อไร  

คนจะออกมาท่วมฟ้าท่วมแผ่นดิน  มากกว่าวันที่  9  แน่นอนครับ

งานนี้จะเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของแกนนำและพรรคประชาธิปัตย์แล้วล่ะครับ

ปัญหาตอนนี้ที่พูดกันคือตอนนี้การเลือกตั้งมันไม่บริสุทธิ์ มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ควรจะแก้ไขกติกาก่อนถ้าจะมีการเลือกตั้งในเร็ว ๆ นี้

ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการเลือกตั้งแบบนี้ก็ลงสมัครครับ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็ควรจะแสดงจุดยืนออกมา (ถ้าจะอ้างในนามพรรคนะ)

ดูจากรูปเกมผมคิดว่าแนวโน้มที่พรรคประชาธิปัตย์จะสมัครก็มี แต่นั่นมันก็เหมือนแสดงความไม่บริสุทธิ์ใจ เหมือนกับว่าที่ทำมา

เป็นการพยายามเปลี่ยนขั้วอำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่า งานนี้ต้องวัดใจผู้สมัครและพรรคแล้วล่ะครับ ว่าจะเลือกทางไหน

ผมเชียร์ให้ไม่ลงสมัครนะ แล้วดันการปฏิรูปให้เต็มที่ในฐานะประชาชน โดยไม่หวังตำแหน่งทางการเมือง อันนั้นดูจะสง่างามกว่า

พอดีไม่รู้จะอ้างอะไรดีครับ ขออ้างมวลมหาประชาชนนี่แหละ

ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ธงของนายอภิสิทธิ์ คือการบอยคอตการเลือกตั้ง

แต่อยากให้ทบทวนให้ดีครับ ยังไงที่ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็คือสภาผู้แทนราษฎร

พวกท่านคือตัวแทนของประชาชนสิบกว่าล้าน แต่ท่านจะไม่สามารถอ้างเช่นนั้นได้หากท่านปฏิเสธไม่ลงเลือกตั้ง 

ผมเข้าใจดีว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้กลัวแพ้ (เพราะที่ผ่านมาก็แพ้มาตลอดอยู่แล้ว  )

และท่านต้องการปฏิรูปการเมือง แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็ยังอยู่ยังไม่หายไปไหน

สิ่งที่ไม่ชอบธรรมที่เราต่อสู้คือรัฐบาลและระบอบทักษิณ เราไม่ได้ต่อต้านรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย

ไฉนเลยจะปล่อยโอกาสที่จะเพิ่มความชอบธรรมในสิ่งที่ท่านต้องการให้มันผ่านไปอย่างน่าเสียดาย

มวลมหาประชาชน แม้จะมีไม่มากเท่ามวลมหากาสร

แต่ก็ถือว่ามีจำนวนมากพอที่จะสามารถทำการปฏิรูปประเทศได้

หากแต่ว่าทุกวันนี้ ก็อ้างกันไปปากเปล่า กี่ล้านกี่สิบล้านก็ว่าไป

แต่ไม่มีอะไรมาบ่งบอกจำนวนที่แท้จริงเลย

ดังนั้น ขอจงลงเลือกตั้งครับ ท่านเข้าสภาไปจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ไม่มีใครว่า

ไม่เสนอชื่อนายกฯ ก็ได้หากท่านคิดว่าสภานั้นหาใช่สภาไม่หากมิได้ประกอบด้วยสัตบุรุษ

สิ่งที่มวลมหาประชาชนต้องการคือ เข้าคูหา กาพรรคประชาธิปัตย์ รับรองการปฏิรูปประเทศ

ในเมื่อฝ่ายนั้นเขากลัวและเข็ดขยาดกับประชามติ ก็คงมีทางเดียวครับที่มวลมหาประชาชนจะช่วยท่านได้

ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ 

 

ถ้าท่านผู้ว่าต้องถูกภัยจากระบอบไอ้แม้วเด้งออกไป หลังจากเสร็จศึกไอ้แม้วแล้ว ต้องกดดันให้เอาท่านผู้ว่ามาคุมตำแหน่งที่ใหญ่กว่าเดิมนะครับ รวมไปถึงข้าราชการอีกหลายๆท่านที่กล้าแข้งขืนต่อระบอบทรราชทักษิน ข้าราชการดีๆเหล่านี้นี่แหละที่สามารถควบคุมข้าราชการชั่วๆได้

สนับสนุนคนดี

แต่คนๆนี้ไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิด  เวทีที่ มอ  ที่ล้มไป ไม่รู้ใครหลอกชาวบ้านมาสามคันรถ  เข้ากระเป๋าไปเท่าไหร่  บอกมากกว่านี้ไม่ได้เดี่ยวงานเข้า

 

ที่นี่จะเขียนอะไรที่เป็นข้อกล่าวหา

กรุณา แจ้งหลักฐานด้วยค่ะ

ไม่งั้นจะถือว่าแดง เข้ามาป่วน

เพราะแค่คำว่า เข้ากระเป๋าไปเท่าใหร่

นี่ก็ไม่ยุติธรรมกับคนโดนพาดพิงแล้ว

เพราะเท่าที่เห็น มีแต่ม็อบควายเท่านั้นที่จ่ายเงิน

ถ้าท่านผู้ว่าต้องถูกภัยจากระบอบไอ้แม้วเด้งออกไป หลังจากเสร็จศึกไอ้แม้วแล้ว ต้องกดดันให้เอาท่านผู้ว่ามาคุมตำแหน่งที่ใหญ่กว่าเดิมนะครับ รวมไปถึงข้าราชการอีกหลายๆท่านที่กล้าแข้งขืนต่อระบอบทรราชทักษิน ข้าราชการดีๆเหล่านี้นี่แหละที่สามารถควบคุมข้าราชการชั่วๆได้

ภาพจาก Fb ที่สะใจที่สุด     

เราไปสมัครเป็นไส้ศึกกันดีไหม เขาสั่งอะไรเราก็รวมกันใส่เกียร์ว่าง

รับสมัคร ได้ครับ

แต่เวลา ถ้า อาสา เหล่านั้น ทำร้าย ผู้ชุมนุม

รัฐบาล ปฏิเสธ ความรับผิดชอบ ไม่ได้ครับ

เพราะ รัฐบาล ใช้งบหลวง ไปจ้าง พวกนี้ มาครับ

ผมมองในมุม ของรัฐบาล

ผมว่า มันไม่กล้า ให้คนพวกนี้ มาทำร้าย

ผู้ชุมนุม

อย่าลืมว่า คนพวกนี้ ถ้าเป็น เสื้อแดง

มันต้องทำร้าย พวกเรา ไม่ไว้หน้า แน่

แต่ ยิ่งทำแบบนั้น รัฐบาล ก็ยิ่งอยู่ ไม่ได้

ดังนั้น มันจะใช้ ก็ต่อเมื่อ

มันเห็นว่า อยากจะหนี ไปต่างประเทศ

ทั้งตระกูลแล้ว

เพราะอย่าลืมว่า ถ้ารัฐบาล

กล้าจ้าง กองกำลัง เสื้อแดง

ทำร้าย ผู้ชุมนุม ที่ไม่มีอาวุธ

ต่อให้ใช้ แค่ กระบอง ก็เถอะ

ย่อมถือว่า รัฐบาล สนับสนุน

ความรุนแรง ให้ เสื้อแดง มาทำร้ายคน

ทหาร ย่อมมีสิทธิ ที่จะรักษา ความสงบได้

และเมื่อนั้น รัฐบาล หมดความชอบธรรม แน่นอน

จ้างหัวละ 500 บาท ในสถานการณ์แบบนี้คงหายาก

อย่างคราวล่าสุด ที่ราชมังครา จากโพยที่เก็บได้ มันจ้างกันหัวละ 1200 บาท

ถ้า 5 หมื่นคนก็ 60 ล้านบาท รวมค่ารถ ค่าจ้างตะกวด และ อื่นอื่น ไม่น่าต่ำกว่า 70 ล้านบาท

และ เป็นที่รู้กันว่า ไอ้แม้วแม้มันจะรวยบานใดแต่ก็ขี้เหนียวสุดสุด...มันก็ถนัดนัก ที่ีจะใช้วิธีพลิกแพลงโดยใช้เงินภาษีของประชาชน

เช่น ตัวอย่าง ค่าชีวิตรเสื้อแดงที่มันจ้างมา มันให้รัฐออกหัวละ 7.8 ล้าน

คราวนี้ก็เช่นกัน....

ใช้วิธีประกาศรับสมัครอาสาซะเลย ที่แท้ก็เสื้อแดงเกือบทั้งหมดจากท้องที่ และ ภาคต่างต่างที่มันเกณฑ์มาแน่นอน

คุณสมบัติที่เขียนไว้แค่ทำให้ดูดี น่าเชื่อถือ (เช่นไม่เคยต้องอาญามาก่อน)...ความจริงคือ ใครมามันรับหมด...

เอามาทำร้าย มวลชนต้านม็อบโดยเฉพาะ

อยากให้กำนันสุเทพ เอาเรื่องนี้ไปพูดบนเวที

คำต่อคำ'ยิ่งลักษณ์-สุเทพ' ต่อหน้าผบ. 3 เหล่าทัพ
 
บนความขัดแย้งที่เกิดขึ้น คงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่คงอยากจะรู้ว่า เมื่อค่ำวันอาทิตย์ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ

คือผบ.ทบ. ผบ.ทอ. ผบ.ทร. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีและสุเทพ เทือกสุบรรณเลขาธิการคณะกรรมการประชาชน เพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)

การพูดคุยค่ำคืนนั้น เรียกว่าอยู่ท่ามกลางบรรยากาศการชุมนุมที่กระจายกันอยู่หลายแห่ง ทั้งที่ศูนย์ราชการ กระทรวงการคลัง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวมไปถึงการชุมนุมบริเวณบริเวณแยกนางเลิ้งถึงแยกพาณิชยการของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.)และอีกหลายพื้นที่

ทันทีที่ไปถึงสถานแห่งหนึ่ง พร้อมหน้าพร้อมตา ผบ.ทบ.ได้เป็นผู้เริ่มต้นการพูดคุย พร้อมกับเปิดทางให้นายกฯยิ่งลักษณ์และสุเทพได้พูดคุยกัน

นายกฯยิ่งลักษณ์มีคำถามแรกถามสุเทพ ว่าจะให้ทำอย่างไร

สุเทพตอบทันที ไม่เอายิ่งลักษณ์

นายกฯยิ่งลักษณ์ถามต่ออีกว่า จะให้ลาออกไหม

สุเทพบอกว่า ไม่เอา

นายกฯยิ่งลักษณ์ถามต่อว่า ถ้าไม่ลาออก ไม่ยุบสภา เอาอย่างไร

จากนั้นผบ.ทบ.ถามสุเทพ ถ้างั้นเอาอย่างไร

สุเทพบอกทันทีว่า จะเอาสภาประชาชน และให้ยกอำนาจให้ประชาชนเพื่อตั้งสภาประชาชนขึ้นมาใหม่

นายกฯยิ่งลักษณ์ถามต่ออีกว่า ไม่มีนายกฯจะสั่งการบริหารประเทศได้อย่างไร

สุเทพบอกว่า เขาจะเป็นผู้ตั้งนายกฯ ขึ้นมาเอง โดยให้สภาประชาชนเป็นผู้สนับสนุน

นายกฯยิ่งลักษณ์ถามต่อว่า ถ้าอย่างนั้น ในส่วนของกระทรวง ทบวง กรม จะทำอย่างไร

สุเทพบอกว่า ก็ให้ประชาชนเป็นผู้บริหาร เราจะฟังเสียงประชาชน

นายกฯยิ่งลักษณ์ถามต่อว่า เอากฎหมายใดมารองรับ

สุเทพบอกว่า ก็ให้สภาประชาชนยกร่างกฎหมายใหม่ขึ้นมา

นายกฯยิ่งลักษณ์ย้ำคำถามเดิม ทำแบบนี้ไม่มีกฎหมายรองรับ

สุเทพบอกว่า ก็ขอให้นายกฯยิ่งลักษณ์คืนอำนาจให้ประชาชน เรื่องอื่นไม่เป็นไร

การพูดคุยครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ แต่ดูเหมือนจะวนเวียนอยู่ประเด็นเดิมๆ ที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ไม่รับข้อเสนอซึ่งกันและกัน

จากนั้นสุเทพ ได้ลุกออกจากวงพูดคุย แล้วเดินทางไปยังสถานที่ชุมนุมศูนย์ราชการ จากนั้นเวลา 21.36 น.สุเทพในฐานะเลขาธิการ กปปส.ก็ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ต่อมวลชน พร้อมกับเล่าเรื่องการพบปะพูดคุยกับนายกฯยิ่งลักษณ์ พร้อมผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ ว่าการพบกันไม่ได้เจรจาต่อรองใดๆ แต่ได้ชี้แจงต่อหน้า 3 ผบ.เหล่าทัพ ว่าเป็นตัวแทนประชาชน ซึ่งประชาชนได้ลุกขึ้นทวงคืนประเทศไทยจากระบอบทักษิณ ได้บอกนายกฯว่า รัฐบาลขาดความชอบธรรมตามกฎหมายหมดแล้ว ตั้งแต่วันที่ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เป็นรัฐบาลที่หมดความชอบธรรมทางการเมือง เพราะประชาชนได้ลุกขึ้นยืนทวงคืนประเทศแล้ว นี่เป็นบางส่วนบางตอนที่สุเทพ แจ้งต่อกลุ่มผู้ชุมนุมให้ทราบความเคลื่อนไหว

แม้ สุเทพจะออกมาแจ้งข่าวสารต่อกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วก็ตาม แต่การสนทนาพูดคุยระหว่างนายกฯยิ่งลักษณ์กับ ผบ.3 เหล่าทัพ ยังไม่จบ เพราะค่ำคืนวันนั้น มีการรับประทานอาหารร่วมกันด้วย เพียงแต่สุเทพ เลือกที่จะไม่ร่วมวง แต่ได้ขอตัวออกไปก่อน

บนโต๊ะอาหารค่ำมื้อนั้น ทั้งนายกฯและ ผบ. 3 เหล่าทัพ ใช้เวลาสนทนากันพอประมาณ ถึง 4 ทุ่มกว่า ก่อนจะแยกย้ายกันไป

โดยมีคำถามหนึ่งที่น่าคิด เมื่อ 1 ใน 3 ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ถามนายกฯยิ่งลักษณ์ ว่าจะเอาอย่างไรดี หลังจากมีการพูดคุยกันไปแล้ว แต่สุเทพเลือกที่จะไม่ตอบรับอะไรเลย นายกฯยิ่งลักษณ์จึงมีคำตอบว่า

"ในเมื่อลาออกก็ไม่เอา ยุบสภาก็ไม่เอา แล้วจะให้ปูทำยังไง หากใช้ พ.ร.ก.ก็จะยุ่งกันไปใหญ่ ถ้าอย่างนั้นปูว่า...ไปเลยดีกว่าไหม ปูยอมค่ะ"

แต่ข้อเสนอที่นายกฯพูดคำนั้น ผบ.เหล่าทัพ บอก"ไม่เอา ไม่ทำ"

ว่ากันว่า งานนี้ นายกฯยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ร้องขอที่จะให้ ผบ.3 เหล่าทัพ นัดเจรจากับสุเทพด้วยซ้ำ เพราะหากเรียกเอง โอกาสสำเร็จ ท่าจะยาก...
 

ดูเหมือนว่าตอนนี้ ใน กปปส จะมีสองฝ่าย คือ สายพิราบ กับ สายเหยี่ยว ทุกท่านอยากให้เดินไปทางไหนครับ

เท่าที่เข้าใจ สายพิราบ จะเน้นสันติ ทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมาย มีสองขั้นตอน คือฉีกรัฐมนูญทั้งฉบับ กับ ฉีกรัฐมนูญบางมาตรา ซึ่งจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยปัจจัยสองอย่าง คือ สำนึกของนักการเมือง กับ ระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวนานในการดำเนินการ โอกาศที่จะสำเร็จค่อนข้างยาก เพราะรัฐบาลหุ่นเชิดของทักษิณคงไม่ยอมง่ายๆแน่นอน

สายเหยี่ยว จะเน้นความแข็งกร้าว แอบรวมกับทหารกดดันยึดอำนาจเบ็ตเสร็จ ฉีกรัฐมนูญทั้งฉบับ สร้างสภาประชาชนอุดมคติขึ้นมา ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นมาได้แน่นอน ดูๆก็น่ากลัวมาก

ทั้งสองสาย โอกาศที่การปฏิวัติประชาชนครั้งนี้จะสำเร็จช่างยากเย็นจริงๆครับ ใน กปปส ขณะนี้ความคิดของสายพิราบยังมาแรงอยู่ แต่ถ้ารัฐบาลยังดื้อด้าน อาจเห็นการขึ้นมาของสายเหยี่ยวครับ