คนๆนี้ ฉายา "อี้ กางเกงใน " ใช่ไหมนิ
ก็ไม่รู้ซินะ
อุ้ย แมวพิมพ์
- sanskrit_shower, แมวน้อยสีน้ำเงิน, พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน and 13 others like this
โดย เมาอยู่
on 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 00:55
คนๆนี้ ฉายา "อี้ กางเกงใน " ใช่ไหมนิ
ก็ไม่รู้ซินะ
อุ้ย แมวพิมพ์
โดย เมาอยู่
on 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 00:35
คนๆนี้ ฉายา "อี้ กางเกงใน " ใช่ไหมนิ
ถามผมเหรอ?
ผมไม่ตอบครับ
ผมชอบตั้งกระทู้แล้วเปิดตูดหนี
ปล.แมวพิมพ์
โดย faraway
on 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:55
ผลบุญที่ข้าพเจ้าทำทานด้วยการแจกไลค์
ขอให้ข้าพเจ้ารำ่รวยด้วยเถิด อย่าเจ็บ อย่าอด อย่ายาก อย่าจน ด้วยเทื้ด
โดย ตะนิ่นตาญี
on 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:42
หนึ่งคืน กับ หนึ่งวัน ที่ ตะนิ่นตาญี เหนื่อยมาก มา ตั้งหลักพักคิดได้ ก็ เมื่อเที่ยงวันไปแล้ว
เดินหาซื้อ น้ำหวานกระป๋องเย็นเย็น เพื่อนำไปฝากให้แก่ ทหารเด็กเด็ก ที่ กรุณา ทุ่มเท และ สละชีวิต แทน เรา
อย่างน้อย ก็ ถือเสียว่า เป็น การแสดงความขอบคุณ ใน ความเสียสละ ของ พวกเขา ที่มีให้ กับ เรา
ใครจะก่นด่าพวกเขาอย่างไรก็ได้ และ นั่น เป็นวิธีการที่ง่ายดี สำหรับ คนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็น หรือ ตาย อย่างไร
แต่ นั่น ไม่ใช่ ตะนิ่นตาญี เพราะ ใน สายตา ของ ตะนิ่นตาญี พวกเขา คือ คนกล้า ที่ พร้อมจะเสียสละทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิต ของ ตัวเอง
เดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย มารู้ตัวอีกทีก็ถึงหน้า เวทีใหญ่ เห็น น้าซู กำลังบรรเลงอยู่ผ่อนคลายความตึงเครียดให้แก่ เพื่อน-พ้อง-น้อง-พี่
เรียนเพื่อนเพื่อนทุกคนตรงตรงวันนี้ ตะนิ่นตาญี ไม่ได้ มี อารมณ์สุนทรีย์ อะไรมากมายนัก
จึงเดินผ่านไป โดย เพียงแต่ถ่ายภาพเอามาฝากเพื่อนเพื่อนเท่านั้น
มาสะดุดหยุดลงก็ตรง แยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ เห็น กลุ่มการ์ด ที่กำลังตั้งกันอยู่ ก็ ให้นึกขึ้นมาได้ ถึง คำคำหนึ่ง คือ คำว่า ศรัทธา
สิ่งใดก็ตามที่ เรา ได้กระทำลงไปนั้น พื้นฐาน มีอยู่ ก็ ด้วย ศรัทธา เท่านั้นเองไม่ใช่หรือ? รัก และ ศรัทธา ใน ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์
ไม่เสียใจอะไรใดใดทั้งสิ้นแล้วครับ ใน สิ่งที่ได้กระทำลงไป ไม่เสียใจแล้วครับ
ตะนิ่นตาญี
วันอังคารที่ ๒๐ พฤกษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
เวลา ๒๐.๔๒ นาฬิกา
หมายเหตุ : เหนื่อยเหลือเกินครับ ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ วันพรุ่งนี้ ฟ้าจะสว่างกว่าวันนี้แน่นนอนครับ
โดย โจโฉ นายกตลอดกาล
on 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 12:35
โดย กีรเต้
on 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:54
เจ้าตัวเล็กวันนี้เงียบไปเนอะ
![]()
ขอบพระคุณเจ้าค่ะที่กรุณาถามถึง
อาทิตย์นี้ยุ่งมากมายค่ะ เสียตังค์ซ่อมบ้านแล้วโดนช่างทิ้งงาน สรุปคือแย่กว่าก่อนซ่อม
ตังค์ก็เสีย บ้านก็แย่ แถมเสียความรู้สึกกันไปทั้งบ้าน โทรตามก็โดนตัดสาย ไม่รับสาย
ว่าจะไปประจานให้เพื่อนให้ครอบครัวมันในเฟสรู้ ก็ไม่ใช่นิสัยเรา
ความคิดล่าสุดคือปล่อยมัน เก็บตังค์ได้ค่อยซ่อมใหม่ค่ะ T T
เศร้าหลายเรื่องเลยย หลวงลุงรดน้ำมนต์ให้หน่อยจิคะ
เอ๊ย บ่นหน่อย ไล้ค์มาเฉยเลย
อ้ะ ก้มหัวมา
โดย กีรเต้
on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:48
คืนนี้ ถาวร แก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัยยังไง ใครทราบ รบกวนช่วยส่งข่าวด้วยนะคะ
ไม่ควรส่งข่าวทางหน้าเว็บนะ เพราะจะโชว์ให้ทุกคนสามารถรับรู้ได้
โดย คนเล็กของเล่นใหญ่
on 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:55
ตอนนี้จัดการเลือกตั้งไม่ได้แล้วนะครับ เพราะไม่มีคนที่จะทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งไม่ได้ก็มีนายกฯไม่ได้ ดังนั้นช่องทางการเลือกตั้งก็เลยถูกปิดตายโดยสมบูรณ์
ทีนี้ในมาตรา 3 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น ระบุว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ใช้อำนาจผ่านทางรัฐสภา (คือใช้อำนาจนั้นโดยการเลือกตั้ง สส. เข้ามานั่นเอง) ในมาตราลำดับถัดๆมาเขาถึงพูดถึงเรื่องการเลือกตั้ง
ทีนี้พอการเลือกตั้งมันทำไม่ได้แล้ว ก็เท่ากับอำนาจอธิปไตยอยู่ในมือของประชาชนชาวไทยทั้งหลายทั้งปวง 65 ล้านคน พูดง่ายๆตอนนี้คนไทยทุกคนได้อำนาจในการปกครองประเทศนี้อยู่ในมือของตัวเองแล้ว
จะเรียกว่าตอนนี้ทุกคนมีสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้เท่าเทียมกัน เพราะเราเลือกตั้งไม่ได้ ดังนั้นถ้ามองย้อนกลับไป ทางออกที่คุณอภิสิทธิ์เสนอไว้ จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ยังพอดิ้นได้ ทั้งเรื่องการทำประชามติ และการเลือกตั้งในข้อแม้ที่ทุกฝ่ายต้องยอมรับโดยพร้อมเพรียงกัน
แต่เมื่อฝ่ายรัฐบาลไม่ตอบรับข้อเสนอนั้น และเมื่อยิ่งลักถูกถอดถอนไปแล้วตอนนี้ก็ไม่มีใครที่จะทูลเกล้า กฤษฎีกาทั้งการเลือกตั้งและการลงประชามติได้แล้ว เพราะตามกฎหมายต้องเป็น "นายกรัฐมนตรี" เท่านั้น ถึงจะทูลเกล้าได้
จะเรียกว่าประตูทุกช่องประตูถูกปิดตายโดยสมบูรณ์เลยก็ได้
ทีนี้ไปดูมาตรา 7 ระบุไว้ประมาณว่า หากไม่สามารถดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ก็ให้ใช้ระเบียบประเพณีแต่โบราณ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินต่อเนื่องไปได้
เรียกว่ามาตรานี้เปิดช่องไว้ กรณีที่เห็นว่าหากการบริหารราชการเดิมๆหรือกระบวนการที่กล่าวไว้ ไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้ใช้มาตรานี้เป็นทางออก
แต่จุดอ่อนของมาตรานี้คือ ความไม่ชัดเจนว่าจะให้ใช้วิธีใด จะให้อำนาจกลับคือนไปสู่พระมหากษัตริย์ ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ระบุไว้แบบนั้น และถ้าเป็นแบบนั้นจริง หากการบริหารประเทศมีความผิดพลาด พระมหากษัตริย์ที่ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีที่มาที่ไป ก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งขัดกับหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแบบบ้านเรา ที่สถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องไม่ลงมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในทางการเมือง
เรื่องนี้ต้องระวังอย่างมาก ทั้งเรื่องขอพระราชวินิจฉัย หรืออะไรต่างๆ ก็ไม่ถูกไม่บังควรทั้งสิ้น
ดังนั้นเราจึงควรแก้ปัญหาด้วยการไม่ให้สถาบันต้องเข้าไปข้องเกี่ยวถึงขนาดต้องรับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นมาในภายหลัง แต่ก็นั่นแหละครับ ถ้าหากหันมามองกฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ทั้งหมดแล้ว ไม่มีทางอื่นเลยที่จะได้มาซึ่งตัวนายกรัฐมนตรี
ก็เหลือทางเดียว ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยวุฒิสภาที่มีอยู่ในขณะนี้ อาจจะแก้ไขที่มาของนายกรัฐมนตรี หรือ แก้ไขผู้ทูลเกล้าเสนอพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง
ขนาดเรื่องสภาปฏิรูปเอง ถึงตั้งมาก็ไม่มีผลทางกฎหมาย เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ ถ้าหากต้องการจะปฏิรูปก่อน ก็ต้องให้วุฒิสภาหาทางออกกฎหมายรองรับสภาปฏิรูปให้ได้
แต่การออกกฎหมายใหม่ ในรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่าต้องเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภามีหน้าที่แค่กลั่นกรองกฎหมายเท่านั้น แต่การแก้รัฐธรรมนูญ กฎหมายระบุไว้ว่าเป็นหน้าที่ของรัฐสภา
ดังนั้นเมื่อไม่มีสภาผู้แทนราษฎรแล้ว วุฒิสภาจึงเป็นช่องทางเดียวและการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องเดียวที่วุฒิสภาจะทำได้โดยลำพังในขณะนี้
สรุปก็คือ ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราที่ว่าด้วยที่มาของนายกรัฐมนตรี หรือ ผู้นำเสนอชื่อทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง หรือการทำประชามติ ซึ่งผู้แก้ไขก็คือวุฒิสภา ก็น่าจะฝ่าทางตันเรื่องการเมืองขณะนี้ได้ครับ
โดย กีรเต้
on 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:04
จะโกรธตะนิ่น ตรงโพสรูป กุ้งฯ กับ ห่อหมกทะเลตอนนี้ น่ะแหละ
โดย ตะนิ่นตาญี
on 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:57
วันนี้ ใน ช่วงเช้า ตะนิ่นตาญี ตกลงใจ สำรวจ จุด ชุมนุม ที่ ช่อง ๓-๕-๗ ด้วยการ อาศัย รถไฟฟ้า
เห็น ภาพ-ภาพ หนึ่ง ประทับใจ จนอดเสียไม่ได้ที่จะนำมาฝากเพื่อนเพื่อน เห็นแล้วมั่นใจจริงจริงครับ
อีกไม่นาน เมืองไทย ต้อง สวยใส เหมือนเดิม...
เห็นภาพ ของ มวลชน กปปส. แล้ว อดสงสัย เสียไม่ได้ ใน จำนวน มวลชน นปช. ว่ามีมากน้อยเพียงใด สมดังราคาคุยหรือไม่
ด้วยความสงสัย ใน จำนวน ผู้เข้าร่วมชุมนุม ของ นปช. จึงตัดสินใจ ขับรถไป ถนนอักษะ แต่ไปได้เพียงแค่หัวถนนเท่านั้น
ก็ตัดสินใจขับรถวนออก ไม่ใช่ เพราะ จำนวน ผู้คน ที่ ดูจะ โหรงเหรง แต่เห็นด่านเยอะเสียเหลือเกิน รำคาญมาก
มีทั้ง ด่านตรวจเทศกิจ ต่านตรวจตำรวจ และ ถ้า เพื่อนเพื่อน สังเกตุ จาก ภาพ ที่ ตะนิ่นตาญี นำมาฝาก
จะเห็นภาพหนึ่งมี รถเก๋งสีดำ ที่ ตำรวจ เรียก ตรวจ จุดที่น่าสนใจก็คือ นั่นเป็น รถ เพียงคันเดียว ที่ ถูกเรียก ตรวจ
ใน จำนวนหลายหลายคันที่ขับผ่านมา
ก็แปลกดีครับ...ภาพ ที่ ตะนิ่นตาญี ถ่าย ที่ ถนนอักษะ มานั้นเป็นการถ่ายภาพเมื่อเวลาประมาณ ๑๑ โมงกว่ากว่า เกือบเที่ยงแล้วครับ
ดังนั้นภาพที่เห็นนี้ไม่อาจยืนยันถึงจำนวนที่แท้จริงในช่วงเวลา peak ของ การชุมนุม ได้
หากแต่เมื่อ เปรียบเทียบ กัน นาทีต่อนาที แล้ว มวลชน ของ กปปส. มากกว่าครับ
หลังจากนั้นแล้ว ตะนิ่นตาญี จึงแวะมาหาข้าวทานริมแม่น้ำท่าจีน ที่ ร้านพริ้วลมชมน้ำ
ขาดไม่ได้เลยสำหรับ เมนู ที่ ต้อง สั่งมาทาน ที่ ร้านนี้ เห็นจะเป็น กุ้งทอดพริกเกลือ และ ห่อหมกทะเล
เมื่ออิ่มหนำสำราญดีแล้ว จึง ขับรถกลับเข้า กรุงเทพฯ มุ่งหน้าตรงไป ถนนราชดำเนิน
ไม่น่าแปลกใจเลย สำหรับ น้ำเอย-น้ำใจ ใน มวลหมู่มหาชน คน กปปส. เมื่อเข้าไปถึง น้ำเย็นเย็น ที่นำมา บริการ ให้ถึงที่
คำว่า บริการ ถึงที่ นี่ ไม่ใช่การเล่นคำ หากแต่พอเดินเข้าไปก็มี สุภาพสตรีเยาว์วัย นำมาให้ถึงมือ เพียงยก แก้ว ขึ้นดื่ม ก็ ชื่นอก-ชื่นใจ กันแล้ว
ไม่ใช่แต่เพียง น้ำหวาน-น้ำเย็น ที่นำมาให้ แม้แต่ ข้าวคลุกกะปิ ที่ ดูน่ากินเสียเหลือเกิน หาก ไม่ได้ทานข้าวมาก่อนแล้ว
เห็นทีคงจะต้องขออาศัย ลิ้มชิมรส มือนาง อีกเป็นแน่แท้....
ในด้านความปลอดภัยนั้น คง ไม่ต้องห่วง-ไม่ต้องกังวล มี ชุดปฏิบัติการมวลชน กองทัพบก มา ตั้ง ค่ายคู-ประตูรบ ให้ อุ่นใจ
ส่วนจำนวน เพื่อน-พ้อง-น้อง-พี่ ผู้มีหัวใจดุจดั่ง ทองคำ ก็ดูน่าชื่นใจมากกว่าที่เห็นเมื่อตอนเช้าวันนี้เป็นไหนไหน
นี่ขนาดแดดร้อนเปรี้ยงเปรี้ยง ตอน เวลา บ่ายสองโมง เท่านั้น มองจาก แยกมิสกวัน ไป สะพานมัฆวานรังสรรค์ ก็เนืองแน่น
มองไป สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ก็ เต็มเปี่ยม ไปด้วยคนหัวใจเดียวกัน ดูให้อบอุ่นดีเหลือเกิน
แต่ อยากขอร้องเพื่อนเพื่อนทุกคนสักนิดเถอะครับ หาก ออก กันไป ถนนราชดำเนิน ได้ ออก กันไปเถอะครับ ออกไปมากมาก
ออกไปเพื่อบอก คนชั่วขายชาติ ว่า กู-ไม่-กลัว-*คุณ*.....
ตะนิ่นตาญี
วันอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
เวลา ๑๙.๕๗ นาฬิกา
โดย กีรเต้
on 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:42
เสมา ขุนศึกรักสถาบัน
แจกประคำของขลังเต็มอัตราศึก ปลุกเสกสดๆ เตรียมมาหลายถุง ยังไงก็อย่าลืมหย่อนปัจจัยลงบาตรนะจ๊ะ
5555 มาเป็นกระสอบเลย
อาจารย์เราบอกไว้ว่า
น้ำมนต์ให้ปลุกเสกมา 100 วัด ถ้าผู้ประพรม ไม่อยู่ในศีลในธรรม ก็มีค่าเท่ากับน้ำเปล่า
น้ำเปล่า ถ้า ประพรมโดยผู้มีศีลธรรม มี หิริ โอตตัปปะ ก็มีค่ากว่าน้ำมนต์
โดย a.mtvv
on 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:51
.....นาย ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO)
และอดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังก์ถัด (UNCTAD)
เป็นคนหนึ่งที่น่าพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ
และความมีซื่อสัตย์สุจริต โดยเฉพาะอย่างเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมโลกเป็นอย่างสูง
โดย Zecret
on 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:24
ตะนิ่นตาญี กลับถึงบ้าน ตั้งแต่ประมาณตีสี่ แล้วครับ คุณภรรยา ไปรับ ที่ ประตูเขาดิน ฝั่งตรงข้าม วังสวนจิตรฯ
เห็นบอกว่า เมื่อคืนนี้ นอนไม่หลับทั้งคืน (อิอิอิๆๆๆ โส-นะ-น่า) กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้น...
จนเมื่อตีสามกว่า เกือบ ตีสี่แล้ว จึง โทรมาหาเพื่อจะบอก ตะนิ่นตาญี ว่าจะไปรับ ให้ กลับบ้าน
เมื่อ คืนนี้ เจอฝนครับ ได้ อาศัยหลบฝนตามเต๊นท์ใหญ่ ด้านหน้า สนามม้านางเลิ้ง
นั่ง สัปหงก หงึกหงึก จน คุณภรรยา โทรมา จึงเริ่มออกเดิน เลาะ สนามม้านางเลิ้ง ไป ถนนพระราม ๕
ถึง จุดนัด รอสักแป๊บ คุณภรรยา ก็ ขับรถมารับ
กลับมาถึงบ้าน คุณภรรยา ให้ อาบน้ำ-อาบท่า แล้วไปใส่บาตรเช้ากัน
เห็นท้องฟ้าแล้ว ให้ นึกอยู่ในใจ วันนี้เจอฝนอีกเป็นแน่แท้ แต่ไม่เป็นไร ขอทำหน้าที่ของความเป็นคนไทยให้เรียบร้อย
เสร็จแล้ว จะเป็น-จะตาย ค่อยว่ากันตะนิ่นตาญี ขอตัวไปนอนให้เต็มตาสักตื่นหนึ่งนะครับ เพื่อนเพื่อน
ตื่นมาแล้วเจอกัน แต่จะเป็นที่จุดไหนนั้น ขอพิจารณาอีกครั้งหนึ่งครับ เดี๋ยวเจอกันครับ
ตะนิ่นตาญี
วันเสาร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
เวลา ๗.๓๑ นาฬิกา
ขอประทานโทษนะค่ะ คุณตะนิ่นฯ
คิดว่ากลับเช้าไปเลยน่าจะปลอดภัยกว่าค่ะ
ออกมาตอนตีสามกว่า ๆ ตีสี่ ยังอันตรายอยู่ค่ะ
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net