หงส์แดง

สว.มีไว้เพื่อคอยตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แต่เมื่อสว.เป็นฝ่ายรัฐบาลซะเกือบหมดเป็นสภาผัวสภาเมีย หากต้องเป็นเช่นนั้นกระผมว่าอย่าไปมีมันเลยครับสว.น่ะ เปลืองเงินภาษีประเทศชาติป่าวๆ

เป็นเจ้าหน้าที่เลี้ยงดูหมีแพนด้ามากกว่ามั้งครับ ผมว่าคนธรรมดาไม่เสียใจขนาดนี้หรอก 

/人◕ ‿‿ ◕人\

โจร ขโมยเยอะขึ้นเพราะ นับพวกตำรวจเข้าไปเพิ่มด้วยน่ะสิ

ครับ......ถ้าจะนับกันจริงๆ.....ต้องนับตั้งแต่......

"อีนางยกฯ .....จนไปถึง.....ไอ้พวก...รัดทะมนตี ชุดนี้.....ทุกตัวด้วย" .........

โจร ขโมยธรรมดา......ยังปล้นแบบหลบๆซ่อนๆ....

แต่โจร ขโมย....ใส่สูทในสภา......มันปล้นแบบจะๆ กลางวันแสกๆ.....คือ....

มันปล้นเงินภาษี.......ไปจากกระเป๋าคนไทยทั้งแผ่นดิน......อย่างไม่มีทางต่อรอง...พวกมันได้เลย.......

ถุยยยยยย......ชีวิต.....ได้แต่ยืนดูพวกมันปล้นชาติ.......แล้วทำตา ปริบ ปริบ......  

นอกจากได้ไม่คุ้มเสียแล้ว เรายังต้องเป็นหนี้กันด้วยนะฮ๊าฟฟฟฟฟฟฟ..

ฉำแหละเขื่อนแม่วงก์ สั้นๆ เข้าใจง่ายครับ..

 

http://www.ryt9.com/s/iqry/1382876

คลังแจงเลื่อนปรับฐานเงินเดือน ขรก. เพราะงบประมาณไม่พอ แต่ปรับรายได้ข้าราชการ ป.ตรี เป็น 1.5 หมื่นแล้ว

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกมาชี้แจงถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเลื่อนกำหนดปรับเงินเดือนข้าราชการออกไปเป็น 1 ม.ค.57 ว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สำหรับการปรับเพิ่มรายได้ข้าราชการเข้าใหม่ที่จบปริญญาตรีเป็น 15,000 บาทนั้น รัฐบาลได้เพิ่มให้ในรูปแบบของเงินพิเศษ หรือค่าครองชีพจนถึง 15,000 บาท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมาแล้ว ส่วนที่เลื่อนออกไปเป็นปี 57 คือการปรับฐานเงินเดือน ซึ่งมติ ครม.ดังกล่าว หมายถึงการปรับโครงสร้างเงินเดือนของผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีที่ทำงานมานานแล้ว รวมทั้งข้าราชการที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก เพื่อให้มีความสอดคล้องกัน

 

http://www.slideshar...s/2556-15863377

 

 

โอ้วววววววววววววววววว

ดอนยอ เอ๊ง ที่นี่โง่ สม กะ เป็นควายแดงจริง ๆ

เอกสาร http://www.slideshar...s/2556-15863377 ที่เอ๊ง ให้มามันทำให้ตอกย้ำว่า วุฒิ ป ตรี  ได้ไม่ถึง 15000 จริง ๆ ว่ะ

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ขอบใจจริง ๆ ที่ช่วย

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ตอนหาเสียงบอก เพิ่ม"เงินเดือน"ป.ตรี ได้ 15000

พอได้รับเลือกมา บอก เงินเดือน+ค่าครองชีพ = 15000 นะจ๊ะๆ

ส่วนปรับฐานเงินเดือน 15000 นั้นหมายถึงผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีที่ทำงานมานานแล้วนะ นะจ๊ะๆ

แหม่..มันแค่เทคนิคในการหาเสียง นะจ๊ะๆ

ยังไงก็ยังจมอยู่ในปลักครับ

หูอื้อตามัวไปหมด ใครพูดอะไรไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่เข้าใจทั้งนั้น

 มีอะไีรที่หาเสียงไว้ แล้วทำได้ 100% บ้างมั้ยครับ  

มีอะไรที่เป็นเรื่องดีๆ

ท่านนายกฯโจ

ช่วยนำมาเสนอด้วยนะครับ

ผมเป็นห่วงประเทศไทยมากขึ้นทุกวันครับ

วันนี้ความดันขึ้นสูงปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

หลังจากรับทราบข่าว

กองทัพบกประกาศสงครามกับผัดกระเพรา

ขอให้กองทัพชนะศึกครั้งนี้นะครับ

ถ้าเพื่อไทย.....มางับเรื่องนี้....ให้มันโฉ่......

ผมว่า........ก็โง่....เต็มที.......

ปล่อยให้เงียบไป.....ก็ไม่เป็นกระแสแล้วครับ....................

ตัวถ่วงความเจริญชาติน่ะ ไอ้พวกอัปปรีย์ เผาบ้านเผาเมืองต่างหาก อิจฉากลัวรัฐบาลอภิสิทธิ์จะทำให้ชาติเจริญ ถึงกับต้องปลุกระดมควายแดงออกมาทำลายชาติ 

ตามกันเขาไปชมได้ที่ http://www.poramate.com/?p=724

เข้าใจ คุณ garfield มาก ๆ เลยนะ

ผมเอง ก็ไม่ชอบ โฆษณา แบบนี้ เพราะ แม่ผม เขาชอบ ไปหลงลม

กับเรื่อง แบบนี้ ผมเอง ก็ไม่อยาก ให้มี

จริง ๆ ผม แอนตี้ พวกนี้มากนะ

แต่ ตั้งแต่ ดู ลีน่าจัง มา ผมก็พอเข้าใจ พวกช่องทีวี พวกนี้

เขาอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มี สปอนเซอร์ ครับ นี่เรื่องจริง

ลีน่าจัง เขาจะโดนตัดสัญญาณ รอมร่อ แล้วครับ

เพราะไม่มีเงิน ไปจ่าย ค่าเช่าสัญญาณ

ผมเอง ก็จน ช่วย พี่เค้า ไม่ได้

อย่าง เอเอสทีวี ผมก็เข้าใจ เค้านะ ที่ต้องมีขายของ

หรือ โฆษณา พวกนี้ ไม่งั้น ก็ไม่มีเงินจ่าย ค่าเช่าสัญญาณ

หรือ ค่าจ้าง เงินเดือน พิธีกร ทีมข่าว ช่างกล้อง

รวมถึง พวกพนักงาน ธุรการ บัญชี พวกนี้

ก็ต้องเงินทั้งนั้น

ผมว่า บลูสกาย ก็ไม่ต่างกัน

เขาก็ต้อง มี ค่าใช้จ่าย เหล่านี้อะ

เราไม่ใช่ พวก เศรษฐี ดูไบ นี่ครับ

จะได้ ดำเนินธุรกิจ โดยไม่ต้อง คำนึง ถึงรายได้เลย

ถึงอยากทำช่องทีวี แค่ไหน

แต่ถ้า ไม่มีช่างกล้อง พิธีกร พนักงาน ธุรการ

บัญชี ช่างแต่งหน้า แล้ว รายการ มันจะเป็นยังไง

ไหนจะทีมข่าว ที่ต้องตระเวณ ไปที่ต่าง ๆ อีก

บางครั้ง ก็ต้อง เข้าใจ เขาด้วย อะครับ

คนเหล่านี้ เขาก็ต้องกิน ต้องใช้ เหมือนเรา

ไม่มีรายได้ มาจุนเจือ ท้ายสุด

ก็อาจต้องจบ แบบ พี่ ลีน่า สุดที่รัก ของผม ก็ได้

ควายแดงมันยอมรับของมันเอง ว่าอีปูเป็นอีโง่ กับเป็นกระหรี่ เห็นถือป้ายยอมรับอยู่นี่หว่า 

 

 

 

 

 

 

ผมมองว่า เค้าเลือกสร้างเส้นที่มีโอกาสทำกำไรมากที่สุดก่อนคือกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ส่วนเส้นทางอื่นก็ทำนำร่องเอาไว้ เพราะถ้าทำเต็มๆ จะลงทุนสูงมาก และยังมีความไม่แน่นอนเรื่องผู้โดยสาร โอกาสขาดทุนสูงกว่าเส้นเชียงใหม่มากครับ

 
สายเชียงใหม่น่าจะเป็นสายที่มีโอกาสขาดทุนสูงกว่าอีกสามสาย  เพราะไปแค่เชียงใหม่ไม่ต่อไปยังประเทศอื่นได้(ยกเว้นไปพม่า) กำลังซื้อของคนในประเทศไม่ได้สูงพอที่จะขึ้นได้ง่าย  นักท่องเที่ยวจะที่ใช้ก็ไม่น่ามากพอ  นักธุรกิจยังใช้เครื่องบินเป็นหลักอยู่ดี  สายที่น่าทำก่อนคือ สายหนองคาย  ค้มค่ามากกว่า  โอกาสถอนทุนคืนเร็วกว่าทุกสาย  ไปลาวไปจีนสะดวกกว่า  สายใต้ควรจะทำเป็นลำดับต่อไป( สายนี้มีโอกาสไปถึงอินโดนีเซีย ) สายเชียงใหม่ควรเป็นสายสุดท้ายเมื่อสามสายนี้เริ่มคืนทุนแล้ว  ความคิดส่วนตัว คิดว่า ที่สายเชียงใหม่ได้สร้างก่อนเพื่อนเพราะ แม้วเป็นคนเชียงใหม่เท่านั้นเอง  แต่ถ้าให้เลือก ก็จะเลือกสร้างรางคู่ทั่วประเทศดีกว่า  รถไฟความเร็วสูงน่ะรอได้

ผมว่าหลายคนเข้าใจไอเดียของรถไฟความเร็วสูงผิดไปมากเลย
จุดประสงค์ของรถไฟความเร็วสูงคือขนส่งผู้โดยสารระหว่างสองเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ภายในระยะเวลาที่สั้นพอที่จะแข่งกับเครื่องบินได้ สังเกตได้จากเส้นทางที่ประสบความสำเร็จนั้น จะเป็นเส้นทางที่เชื่อมสองเมืองใญ่ที่ระยะทางไม่เกิน 800 กม. ใช้เวลาในการเดินทางไม่เกินสามชั่วโมง เพราะถ้าใกลหรือนานกว่านั้น การเดินทางด้วยเครื่องบินจะเริ่มได้เปรียบ
ดังนั้น การวิเคราะห์ว่าเส้นทางไดควรสร้างรถไฟความเร็วสูง เราต้องมองที่ตลาดเป็นหลัก ว่าเส้นทางที่จะสร้างนั้น มีเขตเมืองใหญ่อยู่ระหว่างทางแค่ไหน? ระยะเวลาในการเดินทางเป็นเท่าไหร่? ปริมาณลูกค้านั้นเพียงพอไหมที่จะทำให้การเดินรถไม่ขาดทุน
และด้วยปัจจัยเหล่านี้ เส้นทางที่มีศักยภาพมากที่สุดในตอนนี้คือกรุงเทพ-เชียงใหม่ เพราะแค่ตัวเลขผู้โดยสารทางเครื่องบิน ณ ปัจจุบัน ก็เกือบห้าล้านคนต่อปีแล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย นอกจากนี้ยังมีเส้นทางรองคือ นครสวรรค์ และพิษณุโลก ทีเป็นเมืองใหญ่ทีีอยู่ระหว่างทาง และมีความเป็นไปได้สูง ที่จะดึงลูกค้าจากรถทัวร์ VIP มาได้ด้วย
ขณะที่เส้นทางอื่นนั้น ปัจจัยสู้เส้นทางขึ้นเหนือไม่ได้เลย ผู้โดยสารเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปสงขลา น้อยกว่าไปเชียงใหม่มาก แถมระยะทางก็ไกล จนต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ถ้าจะข้ามไปมาเลย์ หรือสิงคโปร์ ยิ่งใช้เวลานานขึ้นไปอีก สู้เครื่องบินไม่ได้แน่นอน
ส่วนเส้นทางอีสานนั้น ก็ด้วยเหตุผลคล้ายๆกัน ศักยภาพของผู้เดินทางยังน้อยอยู่ และยิ่งถ้าเราทำไปแล้ว ทางลาวยังไม่ทำมาเชื่อม นั่นคือหายนะทางงบประมาณอย่างแน่นอน แม้กระทั่งวีาทำเสร็จแล้ว ผมยังมองไม่ออกเลย ว่าผู้ดดยสารเส้นทางไหน หรือจากเมืองไหนในประเทศจีน ที่จะใช้เส้นทางนี้เดินทางมากรุงเทพฯ
ลองพิจารณาดูนะครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

 
ตัวเลขผู้โดยสารตํ่าสุดที่คุ้มทุนอยู่เท่าไรครับ ?

เท่าที่ทราบคือประมาณสิบล้านคนต่อปี เดี๋ยวจะไปเช็คดูอีกที พื้นฐานความคิดของผมคือ ผู้โดยสารต้องมากพอ ที่กิจการเดินรถจะทำกำไร ไม่ใช่คิดเอาค่าวางรางมาคำนวณ
ไอ้ที่คุณเคยอ้างน่ะ เค้าไม่ทำกันหรอก เอาเงินกู้เป็นตัวตั้ง คิดแบบคุณ ถนนในโลกนี้ไม่ต้องสร้างซักเส้น

 
ไม่คิดต้นทุนการวางรางเลยหรือครับ 

ขำจังเลย ตกลงคนอย่างคุณคงไม่คิดจะสร้างถนนซักเส้นเลยใช่มั้ยครับ เพราะคิดแบบคุณ มันไม่คุ้มทุน

ปล. ไม่เห็นตอบอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนะครับ ลองโชว์การคำนวณของคุณซะทีได้มั้ยครับ กระทู้ก่อนเห็นบอกว่ายังไงก็ไม่คุ้ม

 

สมมุติรัฐฯใช้งบประมาณ สิบล้านบาท เพื่อตัดถนนเข้าสู่ตำบลที่มีถนนเชื่อมต่ออยู่แล้ว แต่ถนนที่สร้างใหม่นี่สามารถย่นระยะทางการเดินทางได้หลายสิบ กม. ผลตอบแทนที่ได้รับจากโครงการนี้ คือการขนส่งผลผลิตในตำบลนั้นๆ สามารถทำได้รวดเร็วขึ้นและประหยัดกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากการค้าของประชากรทั้งตำบลนั้นให้สูงขึ้น เนื่องการค้าขายผลผลิตทำได้ดีกว่าเดิม

นี่เรียกว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นครับ ถ้าไม่สร้างถนนนี้มันก็ไม่เกิดขึ้น ซึ่งต้องประเมินแล้วไม่ต้องตํ่ากว่า (สิบล้านบาท + ค่าซ่อมบำรุงถนน) / อายุการใช้งานของถนน ถึงจะเรียกเป็นการลงทุนของรัฐที่คุ้มค่า

ผมว่าเราต้องเถียงกันในประเด็นนี่ครับ ไม่ใช่ว่ารัฐสร้างโครงสร้างพื้นฐานแล้ว แล้วจะไม่คิดมูลค่า ถ้าคิดเช่นนั้น โครงการอะไร แม้ว่าจะงี่เง่าขาดไหน จะตัดถนนเข้ารกเข้าพงลึกเพียงใด ก็พูดว่าได้คุ้มค่า ถ้าคุณเสียงแข็งพอ

การลงทุนของรัฐ ต้องยอมขาดทุนเสมอไป มันเป็นแนวคิดผิดพลาดอย่างมหันต์ครับ เพราะรัฐฯคือประชาชน การลงทุนของภาครัฐ คือการลงทุนของประชาชนนั่นเอง ซึ่งก็ควรได้ผลตอนแทนไม่ตํ่ากว่าเงินที่ลงทุนไป หรือกำไรนั่นแหละครับ