VOOTH

Dislike yingluck กด like 161552 อันดับ 6 ลืมไปได้ไง

เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่อยู่ใต้ทางด่วน ควรอดทน ทำใจให้สบาย มิฉะนั้นจะเครียด แนะนำให้อุจจาระโชว์เหมือนจิ้งเหลนจะแก้เครียดได้
ข้อแนะนำอีกประการ ไม่ควรเดินห้าง เช่น เซ็นทรัลเวิร์ล เพราะอาการเก่าจะกำเริบ

ประเด็นที่หลายคนโยงไปเรื่องวินัยและจรรยาบรรณของข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย พอจะจัดการหงอกกอลลั่มนี้ได้มั้ยครับ

พระพุทธรูป...ไม่ว่าจะเจอที่ไหน ผมเห็นผมก็ยกมือไหว้ 

ถึงแม้จะเป็นแค่รูปปัน หิน ปูน ทองเหลือง

เพราะ...พระพุทธรูปเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าผู้มีธรรมอันยิ่งใหญ่

 

แม่...ไม่ว่าจะเป็นแม่ใครก็ตาม

จะยากดีมีจน บ้านนอกคอกนา

แต่เขาไม่ทิ้งลูก ขยันทำมาหากิน เลี้ยงลูกจนเติบใหญ่

ผมก็เคารพ และนับถือในหัวจิตหัวใจความเป็นแม่ของสตรีผู้นั้น

 

แท็กซี่อีสานบ้านนอก...หน้าตาเสี่่ยวๆ

ส่งเงินล้านคืนให้เจ้าของที่ลืมไว้

ผมก็เคารพ และนับถือในความซื่อสัตย์สุจริตของเขา

 

สุนัข...ที่มันรักเจ้าของ

มันต่อสู้กับผู้ร้าย เพื่อป้องกันทรัพย์สินและชีวิตเจ้าของ จนตัวตาย

ผมก็เคารพ และนับถือในความซื่อสัตย์ของมัน

 

คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค...ผมใช้ทำงานของผม 

จนงานเสร็จทันตามเวลาอย่างมีคุณภาพ

ผู้ก็รู้สึกขอบคุณที่มีมัน ถ้าไม่มีมันผมก็คงลำบาก

 

ในหลวง...ผู้ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อประชาชนของพระองค์

ทรงรักและหวังดีกับประชาชนเสมอมา 

ต้องถามด้วยเหรอครับ...ว่าต้องเคารพหรือไม่

 

การรู้สึกขอบคุณ เคารพ ให้เกียรติผู้อื่น

มันไม่ทำให้ศักดิศรีความเป็นมนุษย์ของคุณต่ำลงแต่อย่างใดเลยครับ...อ. สมศักดิ์

ผมพยายามใช้ชีวิตอย่างมีสติครับ แต่ก็มีบ้างที่ปล่อยให้อะไรๆ มันเป็นไปตามวิถีของมัน

บางครั้งการสอนคนอาจไม่ต้องสอนทุกอย่างให้เข้าใจแจ่มแจ้ง ณ เวลานั้น
อาจเป็นแค่การสะกิดให้คิด เป็นการปูทางให้เรียนรู้เพิ่มเติม และนำไปใช้เป็นแนวทางปฏิบัติจนเกิดเป็นประสบการณ์ติดตัว เกิดคุณค่ากับตนเองและส่วนรวม
ก็ถือว่าการสอนนั้นประสบความสำเร็จ

พระราชดำรัสอาจเป็นเรื่องเฉพาะ ณ เวลานั้น ในความเป็นจริง...พระองค์อาจไม่ต้องการความสำเร็จรูป
แต่เราไปตีความว่าเป็นทั้งหมด คือที่สุดแล้ว นำไปใช้ตามขั้นตอนถึงจะถูกต้อง ถ้าไม่คิดไม่ทำตามนี้ผิดนะ จึงถกเถียงกันไม่มีที่สิ้นสุด

หลายคนอาจลืมนึกถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล และบริบท
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงก็เช่นกัน คุณค่าจะเกิดได้ก็ด้วยเรานำไปยืดถือปฏิบัติ และประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับตนเอง^^


ส่วนทักษิโนมิกอะไรนั่น มันก็แค่กระตุ้นการบริโภคสนองกิเลสคน

ผมเคยทำวิจัยเรื่องนี้บ้าง ขอแชร์ประสบการณ์
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่แค่การกำหนดพื้นที่ทำกินว่าเป็นกี่ส่วน
ไม่ใช่แค่การรัดเข็มขัด ประหยัดจนดูขี้เหนียว ไม่ช่วยเหลือสังคม
ไม่ใช่แค่การใช้จ่ายตามกำลังตน คือรวยซื้อแพงได้ถ้าไม่เดือดร้อน
ไม่ใช่แค่หลักหรือวิธีการที่จะทำให้เราร่ำรวย หรือมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ
ที่ผมเข้าใจคือเป็น "หลักคิด หลักปฏิบัติ" บนทางสายกลาง
เพื่อให้มีภูมิต้านทาน
เมื่อตนอยู่ได้ ไม่เดือดร้อน ก็พร้อมที่จะช่วยผู้อื่น ช่วยสังคม
ซึ่งประยุกต์ใช้ได้ทุกคนทั้งในการเรียน การดำเนินชีวิต การบริหารองค์กร บริหารประเทศ
ถ้ามองในเรื่องการบริหารบ้านเมือง
การจะกำหนดนโยบายอะไรก็ตามก็ควรคำนึงถึงหลักวิชา (ความรู้) และหลักคุณธรรม
(จะต้องตอบให้ได้ว่านโยบายเพื่อตัวเอง เพื่อพรรค เพื่อนายทุน หรือเพื่อประชาชนจริงๆ)
หลักการใช้จ่ายงบประมาณก็ควรคำนึงว่าจะหามาเติมหรืออุดรูรั่ว
ดังนั้นจะคิดจะทำอะไร ก็ให้รู้จักประมาณกำลังของตน
ทำด้วยเหตุด้วยผล และให้พึงระลึกเสมอว่าโลกเปลี่ยนแปลงเสมอ
การสร้างความเข้มแข็งภายในของตน (ภูมิคุ้มกัน) จึงสำคัญ ซึ่งนั่นก็คือ "สติ" ครับ

นั่นเป็นการสรุป แบบ ใช้ความคิดตัวเองเป็นหลักครับ 
หมายถึง อยากจะสรุปแบบนี้ ก็ได้ ไม่ผิด เพราะเป็นปรัชญา การดำรงชีวิต 
แต่แนวทางที่พระองค์ ทรงวางไว้ คือ การหมุนเวียน หมนุเวียน อย่างเพียงงพอ 
 
แนวคิดนี้ คือการช่วยตนเอง ถูก แต่ไม่เกี่ยวอะไรกับทางสายกลางครับ 
แต่เกี่ยวกับคำว่า ต้องมีให้พอดี 
 
30 แรก คือนาข้าว คือต้องมีพื้นที่ส่วนผลิต
30 สอง สระน้ำ เพื่อเป็นการส่งเสริม ผลผลิต 
30 สาม คือ พื้นที่ทำเกษตร อื่นๆ มีไว้เพิ่มผลผลิต นอกฤดูทำนา 
10 สุดท้าย คือพื้นที่อยู่อาศัย เก็บอุปกรณ์ หรือจิปาถะต่างๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับผลผลิต 
 
เมื่อมีครบ 4 ส่วนนี้แล้ว ไม่ต้องพึ่้งใคร ก็มีอยู่มีกิน 
 
แต่การจัดสรรต่างๆเหล่านี้ ไม่ใช่ สุดแล้ว สิ้นสุดแล้ว ยังต้องมีการสร้างเขื่อน เพื่อปันน้ำอีก
ของพวกนี้ ชาวบ้านทำเองไม่ได้ ต้องอาศัยทางการส่งเสริม 
ไม่อย่างนั้น น้ำในสระน้ำจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ในปีน้ำแล้ง? 
หรือการทำฝนเทียมต่างๆ หรือ ... จิปาถะ 
 
เมืองหลสง ที่ไม่ใช่พื้นที่เกษตรกรรม ต่างกันออกไป 
แต่หลักการ หรือแนวทางปฏิบัติ ต้องไม่ต่างกัน 
นั่นคือ การมีพื้นที่ต่างๆ ให้เพียงพอ ในการดำเนินชีวิต ของประชากรในพื้นที่ 
หากสาธารณูปโภคไม่เพียงพอ ก็ต้องทำให้พอเพียง ซึ่ง การเกิดขึ้นอย่างหนึ่ง หลายอย่างอาจต้องกำเนิดขึ้น เพื่อรองรับความต้องการให้สมดุล 

ที่คุณอ้างก็รู้ๆ กันว่าเป็น "ทฤษฎีใหม่"
ทฤษฎีใหม่ผมถือเป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง
แต่ปรัชญาของเศรษกิจพอเพียงกว้างกว่านั้นครับ
ดังนั้นต้องเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่าอะไรเป็นภาพรวมอะไรเป็นภาพย่อย

ผมเคยทำวิจัยเรื่องนี้บ้าง ขอแชร์ประสบการณ์
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่แค่การกำหนดพื้นที่ทำกินว่าเป็นกี่ส่วน
ไม่ใช่แค่การรัดเข็มขัด ประหยัดจนดูขี้เหนียว ไม่ช่วยเหลือสังคม
ไม่ใช่แค่การใช้จ่ายตามกำลังตน คือรวยซื้อแพงได้ถ้าไม่เดือดร้อน
ไม่ใช่แค่หลักหรือวิธีการที่จะทำให้เราร่ำรวย หรือมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ

ที่ผมเข้าใจคือ
เป็น "หลักคิด หลักปฏิบัติ" บนทางสายกลาง
เพื่อให้มีภูมิต้านทาน
เมื่อตนอยู่ได้ ไม่เดือดร้อน ก็พร้อมที่จะช่วยผู้อื่น ช่วยสังคม
ซึ่งประยุกต์ใช้ได้ทุกคนทั้งในการเรียน การดำเนินชีวิต การบริหารองค์กร บริหารประเทศ

ถ้ามองในเรื่องการบริหารบ้านเมือง
การจะกำหนดนโยบายอะไรก็ตามก็ควรคำนึงถึงหลักวิชา (ความรู้) และหลักคุณธรรม
(จะต้องตอบให้ได้ว่านโยบายเพื่อตัวเอง เพื่อพรรค เพื่อนายทุน หรือเพื่อประชาชนจริงๆ)
หลักการใช้จ่ายงบประมาณก็ควรคำนึงว่าจะหามาเติมหรืออุดรูรั่ว

ดังนั้นจะคิดจะทำอะไร ก็ให้รู้จักประมาณกำลังของตน
ทำด้วยเหตุด้วยผล และให้พึงระลึกเสมอว่าโลกเปลี่ยนแปลงเสมอ
การสร้างความเข้มแข็งภายในของตน (ภูมิคุ้มกัน) จึงสำคัญ ซึ่งนั่นก็คือ "สติ" ครับ

คิดได้แค่นี้ก็นั่งรถตู้ไปจนตายเช่นกันครับ

 

ขึ้นรถตู้ ผมก็นั่งนะครับ ไม่ยืนให้เมื่อยหรอก

ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี
ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด
การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติ สุขเรียบร้อย
จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี

หากอยู่ที่การส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง
และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ
ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้"

มันเป็นพัฒนาการทางการเมืองครับ การคิดต่างเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย แต่ในบ้านเรามันยังไม่สมบูรณ์ต้องใช้เวลาให้คนไทยมีการศึกษาดีขึ้นและมีจิตสำนึกต่อสังคมมากขึ้น (ไม่รู้เมื่อไร่) และต้องไม่มีคนชั่วแบบ? เข้ามาเล่นการเมืองอีก คำว่าพัฒนาการมันมีหลายระดับ บ้านเมืองเรามันเป็นแบบก้าวสามถอยสี่นี่สิครับ เราถึงนิ่งเฉยไม่ได้ อะไรไม่ดีเราก็ควรแสดงจุดยืนและเสนอแนะ ถ้าเราไม่ต่อต้านวันนี้ผมว่ายิ่งจะเละเทะกว่าที่เป็นอยู่ครับ

กบข หลักการแนวคิดดีครับ เอาเงินสมาชิกไปลงทุนต่างประเทศ(อ้างว่าลงทุนความเสี่ยงต่ำ) เพื่อผลประโยชน์ของสมาชิก
แต่สิ่งที่ทำให้ กบข มีปัญหาคือการบริหารจัดการที่ห่วยแตกนี่แหละครับ
เคยได้ยินข่าวแชร์ลอตเตอรี่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูบางแห่งไหมครับ กรรมการไม่กี่คนตัดสินใจแทนสมาชิกนำเงินไปลงทุน
แล้วพอเกิดปัญหากลับให้สมาชิกทุกคนรับผิดชอบ แต่กรรมการพวกนี้หิ้วเงินค่าลายเซ็นไม่รู้กี่สิบล้านลอยนวล

สำหรับคนไร้สาระแต่อยากดังอย่างคำผกา ต้องคู่ควรกับความคิดเห็นแบบไร้สาระครับ...สั้นๆ สามคำ "หัว นม ดำ"

ไม่เห็นเป็นอะไรเลยครับ ถ้าผมเชื่อถือในเรื่องใดหรือใครคนไหน ผมก็เคารพและนับถือในสิ่งนั้นหรือคนนั้น ผมดูเหตุผลมากกว่า กิจกรรมนี้มันก็เป็นกุศโลบาย เขาไม่ได้สอนให้ต้องหมอบกราบอะไรที่ไร้สาระนี่ครับ ถ้ามันสร้างแรงบันดาลใจ กล่อมเกลานิสิตให้มีคุณธรรม มันก็ดีนี่ครับ อีกอย่างเด็กพวกนี้เขาไม่ใช่คนไม่มีสมองสักหน่อย คนที่ออกมาวิจารณ์คิดว่าเด็กเหล่านี้คิดเองไม่เป็นเหรอครับ ถ้าอาจารย์ยังคิดได้แค่นี้ แล้วเด็กคนไหนจะมีความภูมิใจในตนเองล่ะครับ

ผมว่าเป็นข้อดีที่คะแนนออกมาแบบนี้ ต่อไป ปชป จะได้ตระหนักถึงการสร้างผลงานที่มีคุณภาพ