Jump to content


CATCAT

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 11:05
-----

#1069046 ขอถามครับ : ให้กู้เงินไป 5,000 ล้าน จะขอ " คืน " กันได้ง่ายๆเลยหรือคับ

โดย CATCAT on 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 10:05

5000 ล้านเอาคินไม่ได้แน่ แต่กู้ระหว่างแบงค์ปกติเป็นระยะสั้นไม่นาน ทุกวันนี้แบงค์ก็กู้กันเองอยู่แล้ว ไม่น่าห่วงสำหรับเหคุการณ์ปกติ แต่ตอนนี้ออมสินไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ออมสินเองต้องไปกู้แบงค์อื่นเพื่อแก้สภาพคล่องตัวเอง เรื่องนี้ต่างหากเรื่องใหญ่
  • -3- likes this


#1068488 ธ. ออมสิน อาการหนัก มีเพียงอย่างเดียวที่จะช่วยได้ คือ ???

โดย CATCAT on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 22:03

ตอนนี้ คงต้องเอา ไอ้ ผอ ตัวปล่อยกู้ ออกก่อนเลย  มันออก ประชาชน คงเชื่อมั่นว่าเงินไม่หายไปกับโครงการจำนำข้าวแน่




#1057118 เรื่อง "เขา" ว่ามา เคยได้ยินเวอร์ชั่นใดกันบ้างครัซ

โดย CATCAT on 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 17:05

 

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

 

อันนี้ผมเพิ่งได้ยินกับหูเมื่อกี้นี้เองทาง FM 106.25 วิทยุชุมชนลำปาง มันปลุกปั่นชาวบ้านกันอย่างนี้จริงๆ <_<

 

ตามด้วย ดิลจบแล้ว  ติดอีกนิดส์ที่... เดี๋ยวทหารจะออกมาปฎิวัติ ตามคิว (ตั้งแต่ก่อนปีใหม่)      แหล่งข่าวคนนี้เล่าพร้อมสำทับ  เราไม่ใช่แดงน้าาาาาาาาาาาา  เราเป็นกลาง     จนบัดนี้ไปถาม ไหนเธอว่าดิลจบแล้วไง เค้าขี้เกียจไปเป่านกหวีดแล้วน่ะ  

แม่มสะบัดหน้าหนีเฉยเลย  




#1047396 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย CATCAT on 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 00:28

1554618_1378544405727980_789210312_n.jpg

เดินนาน พอจะนั่งต้องมีคนประคองให้ขาลุงกำนันไม่ต้องรับน้ำหนักมากเกินไป — at ถนนเยาวราช.

 

 

ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักครับลุง ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว ชนะรอเราอยู่ :wub:

 

ด้วยความเคารพ เลิกเดิน หรือ เดิน 1 วัน เว้นไป 3 วันเหอะ

บอกตรงไม่อยากเห็นคนแก่ตรากตรำขนาดนี้   ลุงต้องเก็บแรงยืนระยาว  อิปูมันคงอยู่จน กว่าจะโดน ปปช สอย   กลัวลุงจะเดี้ยงไปก่อน




#1042362 กปปส ก็มีกองกำลังติดอาวุธเหมือนกันนะ

โดย CATCAT on 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 21:47

 

 

attachicon.gifIMG_398452315364075.jpeg

ตัวหนังสือตรงแขนเสื้อเขียนว่าอะไรครับอ่านได้สองตัวหลัง  NORTH FACE

The North Face น่าจะเป็นแค่ยี่ห้อเสื้อ แจ๊คเก๊ต ค่ะ

 

 

ไม่ใช่ระดับไก่กาแน่นอน  ยี่ห้อนี้แพงโคตร




#1037280 "ขอให้ทุกฝ่ายเห็นใจเกษตรกร ชาวนาที่เดือดร้อน ที่ต้องการเงินด้วยนะคะ"

โดย CATCAT on 30 มกราคม พ.ศ. 2557 - 11:45

ได้ยินแต่กู้กู้กู้ แต่ไม่เคยได้ยินอีนี่พูดแผนการชำระเงินกู้หรือ การหาเงินมาชำระเงินกู้เลย แบงค์ไหนกล้าปล่อยกู้ก็แปลกแล้ว

ดูดูไปเหมือนพฤติกรรมพวกพนันบอล กู้เงินมาจ่ายหนี้ หมุนไปเรื่อยๆ สุดท้ายล้มละลาย


#1034955 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย CATCAT on 28 มกราคม พ.ศ. 2557 - 22:58

 

"@sutthirak_ntv: มติป.ป.ช.ให้ไต่สวน'ยิ่งลักษณ์'รวม2คำร้องใช้ป.ป.ช.เต็มคณะสอบเอาผิดทั้งความผิดฐานทำขัดรธน. และความผิดอาญา"

 

วันนี้มีแต่ข่าวดี

 

 

งงฮ่ะ   เคยมีมติไต่สวนเรื่องข่าวไปแล้วไม่ใช่เหรอ  ยังสงสัยว่า ปปช ทำอะไรอยู่ทำไมชักช้า ทำไมเพิ่งมีมติวันนี้   หรือไต่สวนคนละเรื่อง  ????

 

ส่วนม็อบชาวนา  ทำไมวันนี้ข่าวนี้หายไปเลย  ????

 

กระทู้ไปไวมาก ระหว่างวันต้องอ่านจากมือถือ  เลยงง ว่าเปิดข้ามหรือเปล่า  ใครรู้ข่าวรบกวน อัพเดทให้ด้วย  ขอบคุณล่วงหน้า




#1032768 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย CATCAT on 27 มกราคม พ.ศ. 2557 - 23:11

 

คลัง- ธ.ก.ส.งุบงิบจ่ายเงินกู้กันเรียบร้อย !!
http://www.thairath.co.th/content/eco/399292

 

แม่เจ้า อยากจะร้องไห้ -*-

 

1551638_572696219482998_302456132_n.jpg

 

อ่านแล้วก็ไม่มีอะไรนี่ครับ

 

บอกว่าถ้าเอ็งกู้(จากไหนก็แล้วแต่)มาได้ ก็พร้อมจะเอาเงินนี้ไปจ่ายชาวนา

 

ไม่ได้เกี่ยวกับ ธกส.แต่อย่างใด

 

 

เห็นด้วย ไม่เห็นเกี่ยวกับการนำเงิน ธกส ไปจ่ายชาวนานิ  แค่บอกว่า กท.คลังจะไปหาเงินมาให้ ธกส มีหน้าที่ระบายเงินที่ กท.คลังหามาจ่ายให้ชาวนา ก็ถูกแล้วนิ   งุบงิบกันตรงไหน ?




#1020505 Go so big ชาวนาอีสานขู่ปิดศาลากลางกันอีก....

โดย CATCAT on 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:31

เมื่อวันอาทิตย์ได้มีโอกาสคุยกับ ลุงแดงอ่อน ข้างบ้าน   เรื่องเงินจำนำข้าว  ชาวนา และ เสื้อแดงยังมีความเชื่อกันว่า  ถ้า รบ ชุดนี้ไป หรือไม่ได้รับเลือกมาอีกครั้ง  ชาวนาจะไม่ได้เงินค่าข้าว  หนี้จะเป็นโมฆะ

ต้องไปนั่งอธิบายนานกว่าจะเข้าใจว่า  รบ ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นใครมีภาระ ที่ต้องหาเงินมาจ่าย ชาวนา  เพราะคู่สัญญา เป็น ชาวนากับ รบ

 

มีคนยังเข้าใจผิดเรื่องนี้อีกเยอะ  และจะเลือก ยิ่งลักษณ์เพราะกลัวชาวนาไม่ได้เงิน   จะด่าว่าโง่ก็สงสาร  คนไม่รู้หนังสือ ก็โดนเค้าหลอกอยู่ร่ำไป

 

กปปส  กับ ปชป  น่าจะรุกการประชาสัมพันธ์เรื่องนี้น่ะ    เพราะตอนนี้ เพื่อไทยกำลังปั่นเรื่องนี้อยู่




#1020445 ผมสังหรณ์ใจว่า พรุ่งนี้จะนองเลือดว่ะ

โดย CATCAT on 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:59

 

 18 มกราคม 2557

น.พ. สันต์  ใจยอดศิลป์
 

ขอเขียนถึงการเมืองหนึ่งครั้ง และครั้งเดียว

 
บล็อก ของผมพูดถึงแต่เรื่องสุขภาพการเจ็บป่วย จะนอกเรื่องบ้างก็เป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮาคลายเครียด เรื่องอื่นๆที่เป็นสาระแต่ไม่เกี่ยวกับสุขภาพไม่ว่าจะเป็นศาสนา หรือการเมือง ผมไม่เคยพูดถึงเลย ที่ผมไม่พูดถึงการเมืองนั้นมีเหตุผลสองอย่าง อย่างหนึ่งก็เพราะคนไข้ของผมมีทั้งสีเหลืองสีแดง ที่เป็น ส.ส. ก็มี ที่เป็นรัฐมนตรีก็มี มีทั้งฝ่ายเพื่อไทยและฝ่ายประชาธิปัตย์ แม้แต่ท่านผู้อ่านบล็อกนี้ก็มีทั้งเหลืองทั้งแดง ถ้าผมพูดเรื่องการเมืองไป ไม่ว่าจะพูดออกเหลืองหรือออกแดง ก็ต้องทะเลาะกับคนไข้ของผมเสียราวครึ่งหนึ่ง ดังนั้นผมเงียบเสียดีกว่า
 
แต่ ว่ามาถึงวันนี้บ้านเมืองของเราได้เฉียดเข้าใกล้จวนแจจะตกขอบเหวของความหายนะ ผมจึงคิดว่าเป็นเวลาที่ผมควรแหกประเพณีของบล็อก ขอเขียนเรื่องการเมืองสักหนึ่งครั้ง ครั้งเดียว แล้วจะไม่เขียนถึงอีกเลย
 
อีก เหตุผลที่ผมไม่เคยเขียนเรื่องการเมืองมาก่อนก็คือผมเองเคยตั้งใจว่าจะทำงาน เป็นหมออาชีพมุ่งใช้ชีวิตดูแลคนเจ็บไข้โดยจะไม่ยุ่งอะไรกับการเมืองอีกเลย ตั้งแต่หลังเหตุการณ์ตุลาคม 2519 เป็นต้นมา เหตุผลเรื่องนี้มันยาว แต่ผมเล่าคร่าวๆให้ท่านผู้อ่านได้ เพื่อจะได้เข้าใจเรื่องที่ผมจะเขียนวันนี้ คือหลังเหตุการณ์ที่นักศึกษาเดินขบวนขับไล่รัฐบาลทหารเมื่อ 14 ตุลาคม 2516 ผมก็เหมือนนักศึกษาในสมัยนั้นคนอื่นๆที่ฝักใฝ่การเมืองจนการเมืองเป็น มากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตัวผมเองเป็นรองนายกองค์การนักศึกษาของมหา’ลัย ซึ่งมีงานหลักคือประสานงานม็อบต่างๆนอกมหา’ลัยมากกว่างานเรียนหนังสือ วาระหลักของขบวนการนักศึกษาสมัยนั้นมีเรื่องเดียว คือทำอย่างไรจะลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนลงได้ หรือที่เรียกว่า wealth distribution วิธีการที่พวกเราตกลงกันได้เป็นเอกฉันท์มีประเด็นเดียว คือต้องต่อต้านการคืนชีพของรัฐบาลเผด็จการทหารทุกรูปแบบ แต่การจะเดินหน้าไปอย่างไรโดยไม่มีเผด็จการทหารนั้น นักศึกษาเองก็แบ่งเป็นสองแนว แนวหนึ่งนิยมระบบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง อีกแนวหนึ่งเชื่อว่าระบบเลือกตั้งไม่เวอร์ค เพราะเปิดช่องให้พวกนายทุนขุนศึกศักดินาตามเข่นฆ่าทำลายผู้นำคนจน จำต้องก่อการปฏิวัติลุกฮือของชนชั้นกรรมาชีพ แล้วตั้งรัฐบาลเผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพขึ้น เรียกง่ายๆว่าแนวทางคอมมิวนิสต์ พวกนิยมแนวทางหลังนี้บางคนก็ได้ไปติดต่อสื่อสัมพันธ์กับ พคท.(พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองนอกกฎหมายและทำงานอยู่ในป่า ตัวผมนั้นเป็นพวกไม่ชอบความรุนแรงและนิยมระบบเลือกตั้ง แม้ว่าอีกใจหนึ่งยังออกจะเห็นด้วยว่าท่ามันจะไม่เวอร์ค เพราะขณะที่พวกเราพยายามยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยอยู่นั้น ก็ได้เห็นผู้นำชาวนา ผู้นำกรรมกร ที่ลุกขึ้นมานำเรียกร้องเพื่อปากท้อง ได้ทะยอยถูก “เก็บ” หรือฆ่าตายอย่างทารุณไปหลายราย
 
แล้วทหารก็ทำรัฐประหารโหดเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 นักศึกษาจำนวนหนึ่งถูกฆ่าตาย บางคนถูกจับแขวนคอ อีกจำนวนมากหนีหัวซุกหัวซุน รวมทั้งผมด้วย ส่วนหนึ่งหนีเข้าป่าไปสมทบกับ พคท. แต่ผมหนีไปตั้งหลักไม่ไกล พอเห็นปลอดภัยก็กลับเข้าหอเรียนหนังสือต่อ ประสบการณ์ที่เหล่าผู้นำนักศึกษาได้รับจากการกระทำของขุนศึกในสมัยนั้น ผมบรรยายได้คำเดียวว่า.. “ยากที่จะลืม
 
ผม เองนั้นเป็นคนขี้ขลาด เมื่อเจอเข้าก็บอกตัวเองได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่วิธีที่ผมจะใช้ชีวิตที่ทอดยาว รอผมอยู่ข้างหน้าอีกหลายสิบปี จึงสาปส่งการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองตั้งแต่นั้น ช่วงประมาณปีพ.ศ. 2524 เมื่อเรียนจบไปเป็นหมอชนบท มีชาวบ้านนิยมนับถือมาก ก็มีคนมายุว่าคุณหมอน่าจะสมัครผู้แทน ผมได้แต่หัวเราะหึ..หึ ในช่วงเวลานั้น เมื่อไปกลับเยี่ยมบ้านเกิด เพื่อนๆมัธยมรุ่นเดียวกันซึ่งกระจายเป็นครูใหญ่ครูน้อยอยู่ทั่วเขตเลือกตั้ง ก็รุมชวนให้สมัครผู้แทนโดยอาสาว่าจะช่วย ผมก็ได้แต่หัวเราะหึ..หึ เพราะในใจผมต่อเรื่องการเมืองนั้นมีคำตอบชัดอยู่แล้ว
 
ช่วงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2519 เป็นต้นมา เป็นช่วงที่เมืองไทยใกล้จวนแจจะเกิดสงครามกลางเมือง (civil war) หมายความว่าสงครามที่ชาวบ้านรบกับชาวบ้านด้วยกันเอง
 
ฝ่าย หนึ่งก็คือฝ่ายที่พวกเราเรียกว่า “นายทุน-ขุนศึก-ศักดินา” ซึ่งมีกำลังพลหลักเป็นชาวบ้านที่ถูกปลุกปั่นให้เกลียดชังพวกคอมมิวนิสต์ที่ จะมาล้มเจ้า โดยพวกขุนศึกศักดินาได้ลงไปจัดตั้งมวลชนชาวบ้านขึ้นเป็นกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน ทั่วประเทศ เอาไว้เป็นทัพหนุนของทัพหน้า ตัวทัพหน้าเองก็เป็นชาวบ้านที่พวกขุนศึกลงไปติดอาวุธให้โดยตรง เรียกว่า “ทหารพราน”
 
ส่วน อีกฝ่ายหนึ่งคือ พคท. ซึ่งมุ่งโค่นล้มนายทุน-ขุนศึก-ศักดินา และมุ่งสถาปนารัฐบาลเผด็จการโดยชนชั้นกรรมาชีพขึ้น ฝ่ายนี้มีกองกำลังเป็นชาวบ้านเช่นกัน แต่เป็นชาวบ้านที่ พคท. ได้ปลุกระดมให้สำเหนียกถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมและให้เจ็บแค้นต่อการถูกกด ขี่ขูดรีด ส่วนที่เป็นมวลชนนั้นไม่ได้ติดอาวุธ แต่ส่วนที่เป็นแนวร่วม, เป้า ส. (หมายถึงคนที่จ่อคิวจะได้เป็นสมาชิกพรรค) และคนที่เป็นสมาชิกพรรคนั้น พคท.ได้ติดอาวุธให้ด้วย โดยที่ประมาณครึ่งหนึ่งของเพื่อนนักศึกษาที่ผมรู้จักและทำกิจกรรมด้วยกัน ได้มาอยู่กับฝ่าย พคท. 
 
ตรง กลางระหว่างสองฝ่ายนี้ก็คือพวกที่หวังอาศัยเวทีประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งใน การแก้ปัญหา ซึ่งก็มีทั้งนายทุน ปัญญาชน คนชั้นกลางทั่วไป และนักการเมืองสายไม่รุนแรงซึ่งมีเพื่อนเก่าของผมอยู่ด้วยอีกจำนวนหนึ่ง
 
แต่ เหตุการณ์ก็ผ่านมาได้อีกหลายปีโดยไม่มีสงครามกลางเมืองขนาดใหญ่จริงๆเกิด ขึ้นนอกจากยุทธการป่าล้อมเมืองระดับไม่รุนแรง เพื่อนที่อยู่กับ พคท. ได้เล่าให้ผมฟังว่า พคท. เองมีโครงสร้างภายในที่ล้าหลังพัฒนาไม่ขึ้น ไม่มีศักยภาพพอที่จะก่อการปฏิวัติยึดอำนาจรัฐมาตั้งเป็นรัฐบาลเผด็จการของชน ชั้นกรรมาชีพขึ้นได้ ท้ายที่สุด พคท. ก็ล่มสลายไป ขณะเดียวกันรัฐบาลป๋าเปรมได้เปิดอ้าแขนรับพวกเราที่เคยเข้าป่าไปอยู่กับ พคท. ให้กลับบ้าน พวกเราเกือบทั้งหมดก็กลับมา เพื่อนรุ่นพี่บางคนกลับมาเป็นหมอฝึกหัดอยู่ภายใต้ความดูแลของผมซึ่งตอนนั้น ผมเป็นแพทย์ประจำบ้านแล้ว พวกเราที่กลับมา ได้รับการกระซิบจากฝ่ายขุนศึกว่าให้อยู่แต่ในกรุงเทพฯ คนที่เป็นหมอก็ให้เป็นหมอในกรุงเทพฯ ห้ามออกไปอยู่ชนบท คนที่ยอมเชื่อฟังก็ได้รอดชีวิตมา ซึ่งบางคนกลายมาเป็นผู้นำฮาร์ดคอร์ของมวลชนเสื้อแดงอยู่ในวันนี้ เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งกลับมา เขาไม่ยอมอยู่ในกรุงเทพ แต่ไปทำร้านอาหารอยู่ริมน้ำโขงที่เชียงราย แล้ววันหนึ่งเขาก็ถูกตาม “เก็บ” ตายคาร้านของเขาอย่างโหด***มทารุณ
 
พวก เพื่อนๆที่ยังมีหัวคอมมิวนิสต์ได้เคยเปรยให้ผมฟังว่า เมื่อหมดสิ้น พคท. สำหรับคนชั้นกรรมาชีพ การจะยึดอำนาจรัฐมองไม่เห็นทางอื่น มีทางเหลืออยู่ทางเดียวคือต้องสามัคคีกับนายทุน ซึ่งเขาใช้คำว่า “นายทุนชาติ” เพื่อชิงอำนาจรัฐมาให้ได้ก่อน เมื่อได้แล้วก็ค่อยใช้อำนาจนั้นมากระจายรายได้หรือสร้าง wealth distribution ภายหลัง นั่นหมายความว่าการปฏิวัติต้องทำเป็นสองก๊อก ก๊อกแรก กรรมาชนสามัคคีกับนายทุนชาติโค่นล้มขุนศึกศักดินา ก๊อกสองกรรมาชนค่อยมาโซ้ยกับนายทุนชาติซะเองต่อเพื่อบังคับเฉลี่ยความรวยมา ให้คนจน 
 
ต่อมา ประมาณปี 2544 ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ได้มี “นายทุนใหญ่ใจถึง” เข้ามาเล่นการเมืองด้วยวิธีใช้เงินจำนวนมากซื้อสส.เข้าคอก เพื่อนผมที่เป็นนักสังคมนิยมแนวทางรุนแรงหลายคนได้เข้าไปซุกปีกนี้ พรรคของ “นายทุนใหญ่ใจถึง” ชนะเลือกตั้งอย่างง่ายดาย เรียกว่าวิธีซื้อแบบนี้ทำให้ได้อำนาจรัฐมาง่ายๆโดยแทบไม่ต้องเปลืองเลือด เนื้อเลย เพื่อนผมหลายคนแฮปปี้ ได้เป็นรัฐมนตรี และได้ผลักดันนโยบายที่หากจะเรียกจากมุมของพวกสังคมนิยมก็เรียกได้ว่าเป็น นโยบายกระจายรายได้ แต่พวกนายธนาคารเรียกว่านโยบายประชานิยม ในบรรดานโยบายเหล่านี้ ผมเห็นมีอยู่สองเรื่องที่มีผลดีต่อคนชั้นกรรมาชีพอย่างเป็นรูปธรรม คือนโยบายสามสิบบาทรักษาทุกโรค กับนโยบายกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งหากไม่มี "นายทุนใหญ่ใจถึง" ให้อาศัยใบบุญ สิ่งนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
 
แต่ ฮันนิมูนระหว่างนักสังคมนิยมหัวรุนแรงกับ “นายทุนใหญ่ใจถึง” มีอยู่ได้ไม่กี่ปี ปัญหาที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะมิชชั่นที่แท้จริงของ “นายทุนใหญ่ใจถึง” คือการสร้างอำนาจผูกขาดถาวรด้วยการกอบโกยกักตุนทุนทรัพย์ไว้สร้างอำนาจให้ ตัวเองและครอบครัวต่อๆกันไปไม่สิ้นสุด มิชชั่นนี้ก่อความไม่พอใจในหมู่นายทุนอื่นที่ถูกกีดกันไม่ให้ได้เอี่ยวในผล ประโยชน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทุนที่อิงอยู่กับขุนศึกศักดินา พวกอื่นที่ไม่พอใจก็มีนักการเมืองที่อยู่คนละพวก  (ซึ่งก็มีเพื่อนของผมอีกจำนวนหนึ่ง) และปัญญาชนคนชั้นกลางที่ต้องการให้ใช้หลักผิดชอบชั่วดีในการดูแลบ้านเมือง ทั้งสามพวกนี้ได้สามัคคีกับพวกขุนศึกศักดินาโค่นล้ม “นายทุนใหญ่ใจถึง” ซึ่ง “นายทุนใหญ่ใจถึง” ก็ทราบดี จึงด้านหนึ่งได้ใช้ยุทธการปลุกระดมและจัดตั้งมวลชนคนยากจนในชนบทไว้เป็น เกราะกันชนปกป้องตัวเองจากพวกขุนศึก อีกด้านหนึ่งได้ลงมือ “ซื้อ” ขุนศึกส่วนหนึ่งมาเป็นพวกของตน ในวันที่ถูกทหารทำรัฐประหารล้มรัฐบาลของตัวเองเมื่อปีพ.ศ. 2549 ตอนนั้นตัว “นายทุนใหญ่ใจถึง” อยู่ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อนคนหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับเขาเล่าให้ผมฟังว่านาทีแรกที่ได้รับรายงาน ข่าวรัฐประหาร นายทุนใหญ่ใจถึงเอ่ยปากถามว่า
 
“ใครทำ.. พวกเราหรือเปล่า?”
 
นั่น หมายความว่าย้อนหลังไปไกลถึงแต่สมัยนั้น (2549) การซื้อขุนศึกไว้เป็นพวกของตนก็ได้ดำเนินไปจนถึงจุดที่หากจะใช้ก่อรัฐประหาร ก็ทำได้แล้ว เพียงแต่ว่ากลุ่มขุนศึกที่ชิงลงมือในวันนั้นเป็นอีกพวกหนึ่ง การแพ้เกมกันในชั่วเวลาสั้นๆที่นับกันเป็นชั่วโมงนี้ทำให้ “นายทุนใหญ่ใจถึง” ต้องระเห็จไปอยู่ต่างประเทศและยังไม่ได้กลับเมืองไทยจนทุกวันนี้
 
การ รัฐประหารโค่นล้ม “นายทุนใหญ่ใจถึง” ได้สำเร็จในปี 2549 ทำให้ฝ่ายต่อต้าน “นายทุนใหญ่ใจถึง” กล้าแข็งขึ้น ฝ่าย “นายทุนใหญ่ใจถึง” เองกลับต้องสาละวนตกเป็นฝ่ายตั้งรับ จนชีวิตของเพื่อนๆนักสังคมนิยมที่ไปซุกอยู่ในปีกของ ” นายทุนใหญ่ใจถึง” ทุกวันนี้ไม่มีเวลามาคิดเรื่อง wealth distribution อีกต่อไปแล้ว เพราะต้องมัวแต่ยุ่งอยู่กับการต่อสู้เพื่อธำรงรักษาอำนาจรัฐผ่านการใช้เงิน และลูกเล่นทุกรูปแบบโดยเลิกคำนึงถึงหลักผิดชอบชั่วดีไปเลย ขอเพียงยืดเวลายึดกุมอำนาจรัฐออกไปให้ได้อย่างเดียว นโยบายประชานิยมซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายรายได้ที่เคยได้ผล ได้แปลงรูปมาเป็นวิธีหาเสียงแบบสุกเอาเผากินและก่อปัญหามากกว่าแก้ปัญหา เพื่อนๆของผมทุกคนดูเหมือนจะลืมพันธะกิจหลักที่จะ distribute wealth ไปหมดสิ้น ปัญหาพื้นฐานของคนจน ถ้าไม่นับเรื่องการรักษาพยาบาลซึ่งทำได้ดีเสียเรื่องหนึ่งแล้ว เรื่องอื่นยังไม่ได้รับการแก้ไขเลยแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเกือบสิบปี ปัญหาคนจนไร้ที่ดินทำกินซึ่งเป็นที่มาของ “ม็อบปากมูล” ที่หนังสือพิมพ์เคยขนานนามว่าม็อบตลอดกาล เคยมีอยู่อย่างไร ก็ยังมีอยู่อย่างนั้น ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะปฏิรูปที่ดิน ปัญหาชาวนามีต้นทุนการผลิตสูงและผลผลิตคุณภาพต่ำก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาการกระจายอำนาจและงบประมาณไปชนบทที่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ นอกจากจะไม่ได้ทำแล้วยังถูกระงับอีกต่างหาก ส่วนใหญ่เพื่อนๆเผลอลืมเพราะเผลอไปยึดติดเงินและอำนาจซึ่งเป็นเพียงเครื่อง มือที่จะบรรลุเป้าหมายแทนการมุ่งมั่นที่ตัวเป้าหมายเองเสียฉิบ กิจกรรมปกป้องอำนาจนี้ทำกันโดยทิ้งหลักผิดถูกชั่วดีไปหมด มุ่งเอาแต่ชนะและยึดกุมอำนาจรัฐให้ได้ ทำกันอยู่นานตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมา จนทำให้รากวัฒนธรรมของสังคมไทยสั่นคลอนเหมือนต้นไม้ที่ถูกดึงให้รากบางส่วน ขาด สังคมไทยทุกวันนี้ไม่มีใครสนใจแยกแยะความชั่วความดีออกจากกันอีกต่อไปแล้ว คนระดับนำของสังคมและอาจารย์มหา'ลัยพูดออกโทรทัศน์ว่าชั่วหมายความว่าดีได้ อย่างหน้าตาย และคนไทยทุกคนก็มีส่วนร่วมกันปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น อย่างน้อยก็ด้วยการทำตัวเป็น “ไทยเฉย” ดังนั้นการที่ประเทศชาติของเราเดินมาจนถึงจุดนี้ได้ จึงเป็น “กรรมหมู่” ที่คนไทยทุกๆคนร่วมกันก่อ จะโทษกันและกันไปก็ไร้ประโยชน์
 
          หลังการรัฐประหารและโดนกลศึก "ตุลาการภิวัฒน์" จนต้องหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ “นายทุนใหญ่ใจถึง” ได้ใช้ความพยายามผ่านรัฐบาลหุ่นของตนเพื่อกลับมามีอำนาจเต็มอีกครั้งให้ได้ โดยทำการอย่างไม่คำนึงถึงหลักผิดชอบชั่วดีใดๆ การกระทำดังกล่าวได้ก่อให้เกิดพลังต่อต้านขึ้นใหม่ในสังคม คือกลุ่มคนชั้นกลางที่ยังเชื่อมั่นเรื่องผิดชอบชั่วดี กลุ่มนี้ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากพันเป็นหมื่น จากหมื่นเป็นแสน จากแสนเป็นล้าน จากล้านเป็นหลายล้าน  และขยายข้ามชั่วอายุจากคนรุ่นเก่าลงไปถึงคนรุ่นใหม่ เรียกว่าเป็นการฮึดสู้ของ “ไทยเฉย” ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และคนกลุ่มนี้ได้แสดงเจตนาที่จะเข้ามาสร้างระบบการเมืองที่มีพื้นฐานอยู่บน สำนึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมาใหม่
          
     สังคมไทยได้เดินมาถึงปากเหวที่อาจเกิดสงครามกลางเมืองอีกครั้ง ซึ่งดูจะเป็นปากเหวที่ลึกและอันตรายกว่าครั้งก่อน หากสังคมไทยถลำเข้าสู่สงครามกลางเมืองคราวนี้ มันจะยืดเยื้อเรื้อรังไม่มีวันจบและประเทศชาติจะทรุดโทรมราวกับร่างกายของคน ป่วยเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจายนั่นเทียว เพราะกำลังพลแต่ละฝ่ายนั้นมหึมามหาศาลก้ำกึ่งกัน ชนิดที่ว่าหากทั้งสองฝ่ายฆ่าฝ่ายตรงข้ามตายได้หมด ประเทศไทยก็แทบไม่เหลือคนเดินถนนเลย
 
ฝ่าย หนึ่งก็คือมวลชนคนยากคนจนในชนบท ซึ่งโดยการปลุกปั่นของพวกเพื่อนๆนักสังคมนิยมแนวเผด็จการ พวกเขาถูกปั่นจนมีความเชื่อว่าชีวิตจะดีขึ้นถ้าปกป้อง “นายทุนใหญ่ใจถึง” ไว้เป็นพวกตน และทำลายล้างพวกขุนศึกศักดินาหรืออำมาตย์ให้สิ้นซากไปเสีย พวกตนก็จะได้ธำรงรักษาอำนาจรัฐที่พวกตนสามารถมีส่วนร่วมไว้ได้ และอนาคตก็จะแก้ปัญหาการปันส่วนผลผลิตที่ไม่เป็นธรรมที่เป็นเหมือนหัวอกกลัด หนองคนจนมาตลอดได้
 
          อีกฝ่ายหนึ่งคือ ไทยเฉยฮึดสู้ ซึ่งประกอบขึ้นจากนายทุนน้อย นักการเมืองที่สู้สนามเลือกตั้งที่ใช้เงินไม่ได้ ปัญญาชน-คน ชั้นกลางที่ทนสังคมแบบไร้ความผิดถูกชั่วดีอีกต่อไปไม่ไหว ฝ่ายนี้นอกจากจะถูกปลุกจิตสำนึกให้ลุกขึ้นมา "กู้ชาติ" แล้ว ยังถูกทำให้เชื่อว่าการจะนำประเทศกลับมาเป็นสังคมที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่ว ดีใหม่ได้อีกครั้งนั้น ไม่มีวิธีอื่นนอกจากต้องกำจัด “นายทุนใหญ่ใจถึง” และบริวารให้สิ้นซากไปเสียก่อน
 
ใน ท่ามกลางกำลังรบอันเปรียบเสมือนฝูงจิ้งหรีดข้างละฝูงนี้ ตรงกลางก็คือนักปั่นจิ้งหรีด ซึ่งนั่งกันอยู่สองมุม มุมหนึ่งคือ “นายทุนใหญ่ใจถึง” อีกมุมหนึ่งคือขุนศึกที่นายทุนใหญ่ยังซื้อไม่สำเร็จ ซึ่งผมขอเรียกง่ายๆว่า "ขุนศึกศักดินา" ก็แล้วกัน ดูจากเรคคอร์ดของนักปั่นจิ้งหรีดที่นั่งประจำที่ทั้งสองมุมแล้ว งานนี้คงหลีกเลี่ยงการฆ่ากันตายเป็นเบือได้ยาก เพราะนายทุนใหญ่นั้นมีเรคคอร์ดที่ชัดเจนจากทั้งกรณี “ยิงทิ้ง” ขี้ยาสองพันกว่าศพ กรณีกรือเซะ กรณีตากใบ กรณีเผาราชประสงค์ ส่วนเรคคอร์ดของฝ่ายขุนศึกศักดินานั้นก็ใช่ย่อย ผมเองเคยเห็นกับตามาแล้วสมัยเป็นนักศึกษา รวมทั้งการถูกฆ่าตายของเพื่อนสนิทของผมเองที่ริมฝั่งโขง ซึ่งผมขออนุญาตไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บนะครับ

ไป ภายหน้าเมื่อเล่าขานให้ลูกหลานฟัง มันจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่เหลือเชื่อ ที่มวลชนจำนวนมหาศาลสองฝ่ายมารบกัน ต่างฝ่ายต่างก็มีวาระของตัวเองอยู่ในมือ แต่เมื่อเปิดโผออกมา วาระของแต่ละฝ่ายนั้นกลับเป็นคนละเรื่อง และไม่ได้ขัดแย้งอะไรกันเลย แบบนิทานชาวนาสามคน คนหนึ่งอุ้มไก่ อีกคนอุ้มห่าน แล้วต้องมาตบตีกันเพราะชาวนาคนที่สามบอกว่าไก่กับห่านของทั้งสองคนจะจิกตี กันจนทำให้สัตว์เลี้ยงของฝ่ายตรงข้ามตาย ทั้งๆที่ในชีวิตจริง ไก่บ้าที่ไหนจะมาจิกตีกับห่าน
 
วัน จันทร์นี้ผมจะไปเดินถนนร่วมกับพี่ๆน้องๆหมอๆและพยาบาล ตามนัด ด้านหนึ่งไปเดินเพื่อให้น้องๆเกิดความรู้สึกอบอุ่นว่าขณะที่พวกเขาออกมาช่วย ประชาชนคนเจ็บไข้ในสนาม ผมซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่แก่แล้วได้ให้ความชื่นชมและสนับสนุนการธำรงเกียรติของ วิชาชีพที่พวกเขาได้ทำ อีกด้านหนึ่งก็เพื่อร่วมเป็น “ไทยเฉยฮึดสู้” อีกคนหนึ่ง ที่อยากแสดงออกถึงความอยากเห็นสังคมไทยกลับมาเป็นสังคมที่เปี่ยมสำนึกผิดถูก ชั่วดีดังเดิม ทั้งนี้โดยไม่ได้ให้ราคาอะไรกับพวกนักปั่นจิ้งหรีดที่อยู่เบื้องหลังไม่ว่า ข้างไหนแม้แต่น้อย
 
ทุก ครั้งที่ผมไปเดินก่อนหน้านี้ ผมพยายามมองหาทางออกของสังคมไทยที่เป็นรูปธรรมแต่ก็ยังมองไม่เห็น ผมไม่อาจคาดเดาได้ว่าผลสุดท้ายของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร บนนาทีที่ใกล้ถึงจุดหักล้างกันนี้ ผมยังมองไม่เห็นว่าจะมีโอกาสที่ฝ่ายหนึ่งซึ่งก็คือคนจนในชนบทที่ต้องการการ กระจายรายได้ที่เป็นธรรม กับอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งก็คือไทยเฉยฮึดสู้ที่ต้องการฟื้นฟูสังคมที่มีความรู้สึก ผิดชอบชั่วดีกลับขึ้นมาใหม่ จะได้มีโอกาสจูนความต้องการของกันและกัน และสร้างสรรค์สังคมใหม่ร่วมกันโดยไม่ถูกปั่นให้ฆ่าฟันกันได้อย่างไร เพราะ
 
ตราบใดที่ยังมีนักปั่นจิ้งหรีดหน้าเดิมนั่งประจำที่ทั้งสองมุมอยู่ โอกาสที่จะไม่ฆ่าฟันกันนั้นผมคิดว่า...ไม่มีเลย
 

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

ข้อเขียนของคุณหมอ สันต์ ใจยอดศิลป์
ทำให้มองภาพรวมได้ชัดเจน

http://visitdrsant.b...og-post_18.html

 

 

แปลกที่ฝ่าย  "ขุนศึกศักดินา"   ไม่ยักจัดการแกนนำแดงฮาร์ดคอ ที่ท้าทายกันอย่างเปิดเผย ทำให้ฝ่าย "นายทุนใหญ่ใจถึง" เหิมเกริมกันได้ถึงขนาดนี้  ที "คนที่ริมน้ำโขง" ยังจัดการอย่าง***มโหดได้  แต่พวกนี้กลับยังลอยนวลสร้างความวุ่นวายได้จนเดี๋ยวนี้

 

 

ขอโทษค่ะ  ที่ยังปรี๊ดอยู่กับบทความนี้   มากล่าวอ้างว่าเราเป็นจิ้งหรีด   ทั้งที่ตัวเองยังงมงายอยู่กับไพร่อำมาตย์  จนไม่ลืมตาขึ้นมามองโลกว่าคนส่วนใหญ่เค้าไปกันจนถึงไหนๆแล้ว หรือเพราะรู้ตัวว่า เคยเป็นจิ้งหรีดให้เค้าปั่นจนต่อต้าน "ขุนศึกศักดินา" มาแล้ว

 

ปรี๊ด เพราะคนเหล่านี้ ไม่เคยเห็นถึงคุณงามความดีที่ในหลวงทรงทำมาตลอดชีวิต  แต่หลงใหลพร่ำเพ้ออยู่ในวังวนของอุดมการณ์เพ้อเจ้อ มาร์กซิส เหมาเจอตุง ท่องเป็นแค่คนชนบท รากหญ้า โดยไม่คำนึงถึงภาพโดยรวมของคนทั้งประเทศ

 

ทำเอาคนที่มีการศึกษา คนในเมือง คนที่มีความคิด แทบจะกลายเป็นพลเมืองชั้นสอง ที่ต้องอยู่ภายใต้หน้ากากความน่าสงสารของคนเหล่านี้ ที่ชักใยโดยใครก็ไม่รู้

 

 

อ่านแล้วเข้าใจเลยว่า ทำไม หงอกเจียม นกแสก ใครต่อใครถึงแค้นไม่หายเสียที 

คุณหมอเองก็เหอะ  ดูปล่อยวาง  แต่ อคติในใจยังมีอยู่  

ถ้าขุนศึกศักดินา โหดแบบที่คุณหมอเล่า  ทำไมไอ้ชั่วอย่างไอ้เหลี่ยม ไอ้กี้ ไม่โดนเก็บ   เพื่อนคุณหมอที่อ้างถึง คุณหมอมั่นใจได้ไงว่าออกมาแล้ว ไม่กลับไปร่วมกับ พคท อีก จนต้องโดนเก็บ

 

เราไม่ทัน 14 ตุลา แต่ย้อนกลับไปอ่าน แล้ว แค้นน่ะ  รัฐให้โอกาส ให้ชีวิต กับพวกนี่้  แต่มันยังคิดแค้นไม่หาย  

ท่าเป็นเราเราจะจำกัดอาชีพให้กลุ่มคนพวกนี้  ไม่ให้มีอาชีพที่ชี้นำสังคม  อย่างเช่น ครู เป็นต้น  แต่อีกแหละ ป๋าเปรมเองคงไม่คิดว่าพวกนี้จะเพาะบ่มความแค้นไว้ แล้วมาเพาะผลไม้ผิดภายหลัง




#1013525 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย CATCAT on 17 มกราคม พ.ศ. 2557 - 23:40

 

"ปิยะ" ชี้ คลังอาวุธที่พบในอาคาร ถ.บรรทัดทอง เป็น "สิ่งเทียม" อาวุธทั้งหมด??

ปิยะ โฆษก ศอ.รส. เผย คลังอาวุธที่พบในอาคารร้างบริเวณถนนบรรทัดทอง ของกลางที่พบเป็นสิ่งเทียมอาวุธทั้งหมด  ขณะระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคือ ระเบิด ชนิด RGD5 ซึ่งไม่มีใช้ในราชการทหารหรือตำรวจไทย

                       วันนี้(17ม.ค.) พลตำรวจตรีปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส.เปิดเผย ความคืบหน้ากรณีตรวจพบอาวุธปืนและยุทธภัณท์ ในอาคารร้าง ใกล้กับถนนบรรทัดทอง ซึ่งเกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากว่า ล่าสุด พลตำรวจโทคำรบ ปัญญาแก้ว จเรตำรวจ และพลตำรวจตรีวัลลภ ปทุมเมือง ผู้บังคังการตำรวจนครบาล 6 ได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร โดยล่าสุด ได้รายงานว่า ของกลางที่ยึดได้ทั้งหมดเป็นสิ่งเทียมอาวุธทั้งหมด

         ทั้งนี้ โฆษก ศอ.รส.ยังตั้งข้อสังเกตุว่าก่อนที่จะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นวันนี้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เข้าไปดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมทันทีนั้น เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีการประสานแจ้งเปลี่ยนเส้นทางการเดินขบวนกับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งในเรื่องนี้ ถือว่ามีความผิดปกติ และผิดวิสัยที่กลุ่มกปปส.ได้ทำมา โดยตลอด

              พร้อมระบุ การเคลื่อนขบวนทุกครั้งจำเป็นต้องมีการประสานและแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบ  ส่วนห้องดังกล่าวตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นห้องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จ้างมาดูแลอาคารสถานที่ เบื้องต้นรู้ตัวแล้ว และอยู่ระหว่างกำลังติดตามตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนของกลางทั้งหมดได้นำมาตรวจสอบที่ สน.ปทุมวันแล้ว

             อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า สิ่งที ศอ.รส.แถลง กับการเปิดเผยของพ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)ให้ไว้ก่อนหน้านี้ไม่ตรงกันว่า จากการตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ พบหลุมระเบิดขนาดกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ลึกประมาณ 3 นิ้ว เจ้าหน้าที่สามารถเก็บหลักฐานซึ่งเป็นชิ้นส่วนระเบิด คือ กระเดื่องนิรภัย เศษสะเก็ดระเบิด และจากการตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดสังหาร แบบขว้าง ชนิด RGD5 โดยระเบิดประเภทนี้มีอานุภาพทำลายล้างรัศมี 6 เมตร ซึ่งผลิตและใช้ในประเทศจีน ไม่มีใช้ในราชการทหาร หรือตำรวจของประเทศไทย

http://www.tnews.co....วุธทั้งหมด.html

 

ไม่อยากเชื่อว่าเราจ่ายภาษีให้กับตะกวดพวกนี้

 

ไม่พูดถึงรถตู้ตราโล่ห์ที่ไว้รับส่งพวกมือระเบิดเลยนะ 

 

 

รอบที่แล้วออกมาตอแหลเรื่องที่ สนามกีฬา ไทย-ญี่ปุ่น ไม่ใช่ฝีมือตำรวจ   ยังไม่ออกมาขอโทษประชาชนเลย

หายหัวไปหลายวัน  นึกว่าไปตายที่ไหนแล้ว   กลับมายังแหลได้เหมือนเดิม

 

ต่อมสึกชั่วดีไอ้นี่นี่คงโดนตัดทิ้งไปแล้วมั้ง




#1013499 ชายชุดดำลอบสังหารสุเทพทำงานพลาดทิ้งหลักฐานอื้อ... ตายน้ำตื้น...

โดย CATCAT on 17 มกราคม พ.ศ. 2557 - 23:17

ไอ้ตัวอะไรบางตัวในกระทู้นี้นี่มันโง่ดักดานจริงๆ  เสพข่าวแต่สื่อเสื้อแดง  ไม่ได้ลืมตาดูโลกเลย ฟาย

 

ผบทบ  ออกข่าวมาเป็นอาทิตย์แล้ว สรุปสั้นๆให้ฟังแล้วกัน

1.  จัดชุดทหาร ปกป้องประชาชน     คงไม่ต้องให้ย้ำน่ะ ผู้ชุมนุมก็เป็นประชาชน

2.  จัดชุดทหาร  เอาไว้ถ่ายคลิป ถ่ายหลักฐาน  

3.  จัดชุดปรามตำรวจ ปราบปรามประชาชน

 

2-3 วันมานี้มีทหารประจำจุดหลายจุด  แถมจุดใหญ่มันอยู่ตรงสะพานหัวช้าง  ใกล้จุดเกิดเหตุนิดเดียว

 

แล้วฉะนี้  ทหารไปถึงก่อนมันแปลกตรงไหน ฟาย




#987168 สนง.ตำรวจแห่งชาติ เช่ารถให้ใคร ทำไมมากมายขนาดนี้?

โดย CATCAT on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 11:21

ราคาเช่ารถ 1-2 เอาเงินไปซื้อเลยจะถูกกว่าไหม???

ถ้าตามต่อว่า บริษัทที่ได้สัญญาเช่าไปเป็นของใคร ???   คำตอบคงเป็น พวกญาติบิดรมารดาแน่




#986775 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย CATCAT on 1 มกราคม พ.ศ. 2557 - 22:21

1526230_558792930872450_629794129_n.jpg

 

คนซ้ายท่าทางตุ้งติ้งเนี่ยใครเอ่ย

 

บอกใบ้ให้คำนึง (เผา)

 

เครดิต พลังประชาชน โค่นล้มระบอบทักษิณ

 

 

1526230_558792930872450_629794129_n.jpg

 

คนซ้ายท่าทางตุ้งติ้งเนี่ยใครเอ่ย

 

บอกใบ้ให้คำนึง (เผา)

 

เครดิต พลังประชาชน โค่นล้มระบอบทักษิณ

ไอ้เต้น




#979785 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย CATCAT on 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 18:12

เหตุการณ์วันนี้. ขอด่า. กกต. เชี่ยมาก
มันพยายามทุกทางให้เกิดการสมัคร จับเบอร์. ทั้งทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าเหตุการณ์กำลัจะบานปลาย
แล้วมาบอกว่า กกต คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องรุนแรงเนี่ยน่ะ. แถได้นรกมาก