Jump to content


Photo
- - - - -

อะไรคือต้นเหตุสำคัญที่สุดของการจัดการภัยพิบัติ ล้มเหลวของ ยิ่งลักษณ์


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
71 ความเห็นในกระทู้นี้

Poll: อะไรคือต้นเหตุสำคัญที่สุดของการจัดการภัยพิบัติ ล้มเหลวของ ยิ่งลักษณ์ (123 member(s) have cast votes)

อะไรคือต้นเหตุสำคัญที่สุดของการจัดการภัยพิบัติ ล้มเหลวของ ยิ่งลักษณ์

  1. ตัวผู้นำเอง มือไม่ถึง (59 votes [47.97%])

    Percentage of vote: 47.97%

  2. ทีมงาน ไร้ความสามารถ ไม่สามารถทำงานตามที่ได้รับมอบหมายได้ (16 votes [13.01%])

    Percentage of vote: 13.01%

  3. การเสนอภาพเสื้อแดง ทักษิณ และ สส พท ในการบริจาค ทำให้คนหลายส่วนไม่ร่วมมือ (7 votes [5.69%])

    Percentage of vote: 5.69%

  4. การเมืองภายในองค์กร ศปภ เอง(กัดกัน ไม่รับฟังจากคนที่ไม่ใช่พวก ให้ขอบริจาคแต่พวกตัวเอง) (7 votes [5.69%])

    Percentage of vote: 5.69%

  5. ข้อมูลที่ได้รับ เป็นข้อมูลเท็จ มีการปกปิดข้อมูล หรือกลัวจะให้ข้อเท็จจริง (3 votes [2.44%])

    Percentage of vote: 2.44%

  6. ข้อมูลที่ได้รับจริง แต่ประเมินผิด ชะล่าใจ เริ่มงานช้าไป (9 votes [7.32%])

    Percentage of vote: 7.32%

  7. ไม่เคยมีน้ำท่วมใหญ่ขนาดนี้ ภาครัฐหรือใครไม่มีใครมีประสบการณ์กับการเผชิญปัญหาระดับนี้จริงๆ (1 votes [0.81%])

    Percentage of vote: 0.81%

  8. แนวคิดการทำงานผิด (5 votes [4.07%])

    Percentage of vote: 4.07%

  9. อื่นๆ ระบุ (16 votes [13.01%])

    Percentage of vote: 13.01%

Vote Guests cannot vote

#51 ตามงคล

ตามงคล

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,980 posts

ตอบ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 10:19

********

http://youtu.be/s0jQUgfZsrs
นิติภูมิ นวรัตน์ ไปตรวจสอบว่า กทม.ไม่มีการสูบน้ำเพื่อลงทะเล ในเวลากลางคืน!!







นิติภูมิ นวรัตน์ "กทม.ไม่สูบน้ำลงทะเล เวลากลางคืน" เขาพูดถูกนะ 55555555

แต่ความหมายมัน(นิติภูมิ)ผิด ***......เพราะระบายในเวลากลางคืนที่เป็นเวลาน้ำขึ้น
แล้วยังระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาอีก ..มันก็จะยุบที่อื่นแล้วมาท่วมอีกที่สิวะ จากนั้นมันก็ไหลกลับไปที่เดิมตอนสูบมาอีกที่ (โง่จริงๆ นิติภูมิ)

ปล.1 คนหยิบคลิปนี้มาให้ดูผมว่า โง่...กว่านิติภูมิอีก
ปล. 2 กราฟที่เอามาให้ดู ได้แหกตาดูรายละเอียดด้วยหรือเปล่า ...(หรือดูไม่เป็น) แต่ชอบใจเลยหยิบมา ก๊ากกกกกก
ในรูปกราฟมันไม่มีเดือน ส.ค โว้ย ...

ปล.3 สรุป โพสต์ควายๆ

#52 korkang

korkang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,879 posts

ตอบ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 10:23

ตันเหตุคือการกักน้ำ เพื่อนโยบายฮวยเซ็ง

#53 rakchart thai

rakchart thai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 791 posts

ตอบ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 10:35

Posted Image


http://www.ryt9.com/s/tpd/1269909


แปะรูปแบบไม่คิดอีกแล้วนะbmp1 ...
แล้วเอารูปที่แมงดาหลายตัวเคยด่าเค้าไว้ มาลงว่า กฟผ.ไม่ได้ปล่อยน้ำน้อยลง .. แน่นอนปล่อยเท่าเดิมแต่น้ำไหลเข้าเขื่อน จากกราฟพุ่งเป็นจรวดเลย .. ดันปล่อยเท่าเดิม ..

และก็รู้ไว้ด้วย ว่าอำนาจและปริมาณน้ำที่ปล่อยออกมา กฟผ.มีเฉพาะที่ใช้ผลิตไฟฟ้าเท่านั้น .. แต่อำนาจสูงสุดอยู่ในการควบคุม ของกรมชลฯ และอยู่ในรูปคณะกรรมการจัดการน้ำ ที่มีรองนายกฯหรือรัฐมนตรีเกษตรเป็นประธาน ..

#54 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 13:58


********

http://youtu.be/s0jQUgfZsrs
นิติภูมิ นวรัตน์ ไปตรวจสอบว่า กทม.ไม่มีการสูบน้ำเพื่อลงทะเล ในเวลากลางคืน!!







นิติภูมิ นวรัตน์ "กทม.ไม่สูบน้ำลงทะเล เวลากลางคืน" เขาพูดถูกนะ 55555555

แต่ความหมายมัน(นิติภูมิ)ผิด ***......เพราะระบายในเวลากลางคืนที่เป็นเวลาน้ำขึ้น
แล้วยังระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาอีก ..มันก็จะยุบที่อื่นแล้วมาท่วมอีกที่สิวะ จากนั้นมันก็ไหลกลับไปที่เดิมตอนสูบมาอีกที่ (โง่จริงๆ นิติภูมิ)

ปล.1 คนหยิบคลิปนี้มาให้ดูผมว่า โง่...กว่านิติภูมิอีก
ปล. 2 กราฟที่เอามาให้ดู ได้แหกตาดูรายละเอียดด้วยหรือเปล่า ...(หรือดูไม่เป็น) แต่ชอบใจเลยหยิบมา ก๊ากกกกกก
ในรูปกราฟมันไม่มีเดือน ส.ค โว้ย ...

ปล.3 สรุป โพสต์ควายๆ

อย่างนี้ไง ที่เค้าเรียกความจริงครึ่งเดียว

#55 ThaILandLover

ThaILandLover

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 235 posts

ตอบ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 14:03

เพราะอำมาตย์ชั่วแกล้งปล่อยน้ำทำลายพื้นที่คนเสื้อแดง
เพราะไอ้เอ๋อ ปิดกันไม่ยอมให้น้ำลงกรุงเทพ ทำให้คนต่างจังหวัดต้องรับน้ำแทน
เพราะทหารไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ กั๊กอยู่นั่นแหล่ะ
เพราะฝ่ายค้านมัวแต่เล่นการเมือง
เพราะพวกสลิ่มจ้องแต่จะจับผิด

ชิส์
:angry: :angry: :angry:

#56 aumstar

aumstar

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,707 posts

ตอบ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 14:06

โง่

#57 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

ตอบ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 15:20

ขอตอบอื่น ๆ ระบุ
การที่รัฐบาลปู ไม่รับฟังความเห็นของผู้รู้ คือส่วนสำคัญที่สุด ตั้งแต่เรื่องการพร่องน้ำ การไม่กล้ารับทราบสถานการณ์น้ำว่ารุนแรงระดับไหน(กลัวแต่ว่าถ้าประเมินตามจริง ผู้คนจะมองถึงความล้มเหลวของตัวเอง) การเตือนภัย นิคมอุตสาหกรรม การประสานงานกับกองทัพ และ หน่วยงานอื่น ที่นอกเหนือการดูแล(เชื่อพวกตนเองมากไป เป็นศัตรูกับคนมากไป) การทำงานเอาหน้า ทำให้การแจกจ่ายของบริจาคเข้าไปไม่ทั่วถึง (ถ้าไม่ได้หน้า หรือไม่มีคนเห็นก็ไม่ทำ) การถือพวกพ้องของตน ต้องได้รับการช่วยเหลือก่อน

ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY


#58 Zelretch

Zelretch

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 387 posts

ตอบ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 15:33

(โหวตอื่นๆ ระบุ)

จริงๆ มีตัวเลือกที่ใกล้เคียงที่สุดคือ "แนวคิดการทำงานผิด" แต่ส่วนตัวผมเห็นว่าที่ผิดไม่ใช่แค่เรื่องการทำงานอย่างเดียวน่ะครับ

หากให้นิยามสั้นๆ คือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในปัจจุบัน (รัฐบาล + ศปภ. + ข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้อง) นั้น "มักง่าย(ไม่มีความรับผิดชอบ) และเห็นแก่ตัว" คือมีแนวคิดหาผลประโยชน์เข้าตัวเป็นหลัก ไม่ได้คิดหรือทำเพื่อประโยชน์คนหมู่มาก หากตัดเรื่องการเมืองที่ยังไม่ปรากฏหลักฐานชัดแจ้งว่า "จงใจ" จมประเทศนะครับ...


- ปกปิดข้อมูลที่แท้จริง ที่เห็นชัดก็กรณีที่เกิดความเสียหายกับนิคมอุตสาหกรรม -> ตัวเองไม่เสียหน้า แต่ปรากฏว่าสุดท้ายนิคมเสียหาย
- คำแนะนำมีมามากมาย แต่ไม่ตัดสินใจทำอะไรสักที -> ดูเหมือนจะเห็นว่าถ้าตัดสินใจทำแล้วพลาดก็เข้าตัว แต่ถ้าดีตัวเองไม่ได้หน้า เพราะคนอื่นแนะนำตัวเองไม่ได้คิด จึงนิ่งเฉยเอาเสียเลย... กะว่าแบบนี้ไม่ได้ไม่เสีย -> นับเป็นประโยชน์กับตัวเองมากกว่าเป็นโทษ
- ทำผิด ตัดสินใจพลาด กลับออกข่าวโจมตีคนอื่น -> ก็ปัด***ให้ตัวเองดูดี ไม่สนใจเรื่องแก้ไขข้อผิดพลาด (เพราะไม่ยอมรับว่ามันเป็นความผิดพลาด)

ที่เลวร้ายที่สุดคือผมมองว่าคนเหล่านี้ไม่คิดที่จะ "รับผิดชอบ" ใดๆ ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งนั้น จึง "กล้า" พอที่จะทำอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่เป็นชิ้นเป็นอันแบบปัจจุบัน ซึ่งผลกระทบมันไม่ใช่แค่ความเสียหายเป็นตัวเงิน หลายอย่างมันประเมินค่าไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่ใช่จะบอกว่าคิดเป็นตัวเงินแล้วกู้เอามาโปะก็จบ...

ผมไม่คิดว่าหากมีการย้ายฐานการผลิตจะเป็นเพราะ "โดนน้ำท่วม" หรอกครับ... แต่เป็นเพราะเค้าเคืองที่ "รัฐปกปิดข้อเท็จจริง" ทำให้เสียหาย ซึ่งนั่นหมายถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ "ประเทศไทย" ไม่ใช่แค่รัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือ ศปภ.

ปล. สมาชิกใหม่ แต่จริงๆ ซุ่มอ่านมาตั้งแต่สมัย '48-49 เพิ่งได้สมัคร ฝากตัวด้วยครับผม :)

#59 rakchart thai

rakchart thai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 791 posts

ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 10:16

เห็นข้อความนี้ ค่อนข้างมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เลยแปะมาให้วิเคราะห์ครับ
http://www.energytha...2011/dam-flood/

10 คำถาม น้ำสะสมในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ที่ผ่านมา ใครรับผิดชอบ?


ในช่วงที่ผ่านมามีหลายฝ่ายออกมาให้ความเห็นว่าการเกิดภาวะน้ำท่วมมากเป็นประวัติศาสตร์ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาครั้งนี้ มีสาเหตุจากการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด ไม่มีประสิทธิภาพ หรือไม่มีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งข้อเท็จจริงในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยานั้น อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยงานดังนี้
1. คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามแนวพระราชดำริ
2. คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและ การเกษตร สำนักการระบายน้ำ กทม. กรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย กฟผ. และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ (กปร.)
บทสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์การทำงานจริงช่วงหนึ่ง

อ่านบทสัมภาษณ์นี้แล้วก็พอจะรู้ว่าผู้สั่งการต้องได้รับ มติ จาก ครม. ที่รับผิดชอบทุกส่วนในประเทศไทย แต่สิ่งที่รู้สึกจะขาดไปคือ การที่แต่ละเรื่องย่อยๆ ไม่ได้ถูกเชื่อมโยงกันก่อนตัดสินใจ-การบูรณาการแล้วค่อยคิด-คิดแล้วค่อย ตัดสินใจเพื่อให้ได้มติ หรือตัดสินใจภายใต้ความต้องการการตอบสนองนโยบายบางอย่างที่ออกมาในช่วงนั้น
และนี่ก็คือสิ่งที่คุณปลอดประสพเปิดใจผ่านประชาชาติธุรกิจ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา


…ส่วนเรื่องมีคนกล่าวหาว่าผมเป็นคนสั่งให้เปิดน้ำน้ำเขื่อน มาก่อนหน้านี้นั้นเป็นไปไม่ได้ ข้อแรกคือ ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ แต่คนที่จะสั่งเปิดน้ำปิดน้ำของเขื่อนภูมิพลกับสิริกิตต์ คือ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ บอร์ดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และข้อที่สอง คือ เขาจะเปิดหรือปิดหรือไม่ที่ผ่านมา มันเป็นเรื่องในเดือนมกราคม แต่ผมเพิ่งเป็น รัฐมนตรี 2 เดือน ขณะที่การตัดสินใจปิดหรือเปิด เกิดเมื่อ 7-8 เดือนที่แล้ว ท่านธีระ(รมว.เกษตรฯ) ต้องอธิบาย ไม่ใช่มาถามปลอดประสพ…
แล้วผมเป็นคนสั่งปิดน้ำเขื่อนภูมิพลกับเขื่อนสิริกิตต์ เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ต่อหน้านายกรัฐมนตรีเพราะท่านนั่งข้างผมแล้วให้ผมโทร ผมก็บอกประธานบอร์ดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ก็คือปลัดกระทรวงผม ให้ปิดน้ำจากเขื่อน ส่วนที่เขาเปิดปิดเขื่อนให้เดือดร้อนนั่นมันเมื่อ 6-7 เดือนที่แล้ว…

มีคำถามมากมายเกี่ยวกับสาเหตุของน้ำท่วมในครั้งนี้ บ้างก็ว่าเป็นสาเหตุจากกรมชลประทาน บ้างก็ว่ามีสาเหตุจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ผู้ควบคุมเขื่อน ในที่สุดทางฝั่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) ก็มีคำตอบในเรื่องนี้ค่ะ แต่เป็นในรูปแบบเอกสารเก็บที่เว็บไซต์ของ กฟผ.
10 คำถาม – คำตอบ เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ในสถานการณ์วิกฤตน้ำท่วม

จากวิกฤตการณ์น้ำท่วม ทำให้หลายฝ่าย รวมทั้งสื่อมวลชนแขนงต่างๆ และ Social Media ได้มีการตั้งกระทู้ คำถาม และข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับการบริหารจัดการเขื่อนใหญ่ของ กฟผ. กฟผ. จึงจัดทำเป็น ถาม-ตอบ โดยเฉพาะในเรื่องการดำเนินการของเขื่อนในภาวะน้ำท่วม เพื่อเป็นข้อมูลให้สาธารณชนในประเด็นต่างๆ ดังนี้


1. การบริหารจัดการน้ำในเขื่อน กฟผ. และพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาทำอย่างไร ?
2. ทำไมเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์จึงไม่ระบายน้ำออกมาก่อนในช่วงต้นฤดูฝน
3. ทำไมเขื่อนต้องระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำล้น (Spillway)
4. เขื่อนต้องการเก็บน้ำไว้มากเพื่อประโยชน์จากการผลิตกระแสไฟฟ้า
5. ปัจจุบันเขื่อนลดปริมาณการปล่อยน้ำลงแล้ว แต่ทำไมน้ำยังท่วมอยู่
6. เขื่อนเก็บน้ำไว้ตั้งแต่ต้นมากเกินไปหรือไม่
7. เขื่อนภูมิพลช่วยบรรเทาภาวะน้ำท่วมอย่างไร
8. ทำไมไม่เร่งระบายน้ำแบบเดียวกับปี 2553 ?
9. ทำไมไม่หยุดปล่อยน้ำ ทั้งที่ไม่มีฝนตกเหนือเขื่อน ?
10. ใครเป็นผู้ตัดสินใจสั่งให้ปล่อยหรือไม่ให้ปล่อยน้ำ ?

ทั้งนี้การจัดทำเนื้อหาสาระดังกล่าว ฝ่ายสื่อสารองค์การ กฟผ. มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อถกเถียง หรือโต้แย้งความคิดเห็นที่อาจแตกต่างกันได้ แต่มุ่งให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่ถูกต้องตรงกัน อันจะเป็นประโยชน์สร้างความเข้าใจในวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น และร่วมกันพิจารณาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อส่วนรวมต่อไป ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ infocenter@egat.co.th ค่ะ
1. ถาม การบริหารจัดการน้ำในเขื่อน กฟผ. และพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทำอย่างไร

ตอบ
การบริหารจัดการน้ำในเขื่อน กฟผ. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา การบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูน้ำหลากอยู่ในความรับผิดชอบของคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ (ประกอบด้วย กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร กรมทรัพยากรน้ำ กรมอุทกศาสตร์ สำนักการระบายน้ำ กทม. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ กฟผ.) ร่วมกันติดตาม-วิเคราะห์สถานการณ์น้ำเพื่อวางแผนการระบายน้ำให้มีความเหมาะ สม โดย
- มีแผนการพร่องน้ำในอ่างฯ ในช่วงต้นฤดูฝนเพื่อรองรับน้ำที่คาดว่าจะมีมาตลอดฤดูฝน โดยประสานและวางแผนการพร่องน้ำร่วมกับกรมชลประทาน ตามข้อมูลคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา
- ควบคุมระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำด้วยเส้นระดับน้ำควบคุม (Operating Rule Curve)
- ติดตามข้อมูลฝนและระดับน้ำโดยระบบโทรมาตร เพื่อให้มีข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว
- มีศูนย์ปฎิบัติการติดตามสถานการณ์น้ำ (War Room) เพื่อประชุมติดตาม แลกเปลี่ยนข้อมูลและผลการวิเคราะห์ ประกอบการตัดสินใจ
- ประสานกับกรมชลประทานทุกสัปดาห์ หรือทุกวัน เพื่อหารือและวางแผนการระบายน้ำที่เหมาะสม
การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนของ กฟผ.

เขื่อนของ กฟผ.เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ มีหน้าที่กักเก็บน้ำไว้เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรกรรม การอุปโภคบริโภค การอุตสาหกรรมและการบรรเทาอุทกภัยเป็นหลัก ส่วนการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นเพียงผลพลอยได้จากการปล่อยน้ำผ่านเครื่องกำเนิด ไฟฟ้าตามปริมาณ เพื่อการใช้ประโยชน์ที่กล่าวข้างต้น
ทั้งนี้ การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนของ กฟผ. ตามหลักการจะพยายามควบคุมให้ระดับน้ำ อยู่ในกรอบของ “เกณฑ์ควบคุมระดับน้ำ” (Rule Curve) ซึ่งมีอยู่ 2 เกณฑ์ คือ “เกณฑ์ควบคุมน้ำตัวล่าง” (Lower Rule Curve) และ “เกณฑ์ควบคุมระดับน้ำตัวบน” (Upper Rule Curve)
- Lower Rule Curve จะทำหน้าที่บอกให้ทราบว่า หากเก็บน้ำไว้ต่ำกว่าระดับนี้ จะมีความเสี่ยงเรื่องการขาดแคลนน้ำในปีหน้า
- Upper Rule Curve จะทำหน้าที่บอกให้ทราบว่า หากเก็บน้ำไว้สูงกว่าระดับนี้จะมีความเสี่ยงเรื่อง น้ำล้นเขื่อนจนอาจต้องเปิดประตูระบายน้ำล้น (Spillway)

ในสภาวการณ์ปกติ เขื่อนจะพยายามควบคุมไม่ให้ระดับน้ำต่ำกว่า Lower Rule Curve ในช่วงฤดูแล้ง และช่วงฤดูฝน เขื่อนก็จะพยายามระบายน้ำเพื่อไม่ให้ระดับน้ำสูงเกิน Upper Rule Curve ดังนั้น Rule Curve จึงเปรียบเสมือนเกณฑ์ที่คอยควบคุมระดับน้ำในเขื่อนให้มีปริมาณน้ำเก็บกักที่ เหมาะสมเทียบกับช่วงเวลาของฤดูกาล เพื่อให้มีน้ำไว้ใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในภาพรวมตลอดทั้งปี
อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนให้อยู่ภายในกรอบของ Rule Curve ดังกล่าวนั้น ในทางปฏิบัติ อาจมีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการได้ตามแผนงานปกติ อาทิ การคาดการณ์สภาวะอากาศ ปริมาณน้ำฝน/น้ำท่าในลุ่มน้ำ ปรากฎการณ์เอลนินโญ่ หรือลานินญ่า การมีมรสุมที่ทำให้เกิดฝนตกหนักมากเป็นประวัติการณ์ หรือข้อจำกัดที่พื้นที่ท้ายน้ำของเขื่อนอยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวพืชผล หรือกำลังเกิดปัญหาอุทกภัย เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนต้องปรับ เปลี่ยนไปจากแนวปฏิบัติ
2. ถาม ทำไมเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์จึงไม่ระบายน้ำออกมาก่อนในช่วงต้นฤดูฝน

ตอบ
ช่วงต้นฤดูฝน ณ วันที่ 1 พ.ค. เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำเก็บกัก 6,076 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 45.1 ของความจุ เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำเก็บกัก 4,784 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 50.3 ซึ่งเมื่อเทียบกับระดับน้ำควบคุม (Rule Curve) ที่ใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแล้วถือว่าอยู่ใน เกณฑ์ต่ำมาก
จากข้อมูลข้างต้นทั้งสอง เขื่อนมีปริมาณน้ำเก็บกักค่อนข้างน้อย ในช่วงต้นฤดูฝน ซึ่งตามแนวปฏิบัติของการบริหารจัดการน้ำตามสถิติข้อมูลที่ใช้อ้างอิง จะต้องเก็บกักน้ำไว้ เพื่อให้สามารถมีน้ำไว้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในภาพรวมตลอดทั้งปี ดังนั้นการระบายน้ำออกจากเขื่อนในช่วงนี้ จึงทำผ่านการผลิตไฟฟ้า ตามปริมาณน้ำที่ต้องการใช้เพื่อการเกษตรกรรมและสาธารณูปโภคเป็นหลัก
แต่ต่อมาปีนี้ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุหลายลูก ได้แก่ ไหหม่า (ปลาย มิ.ย. ถึงต้น ก.ค.) และนกเตน (ปลาย ก.ค. ถึงต้น ส.ค.) จึงมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากกว่าเกณฑ์เฉลี่ยปกติมาก ทั้งนี้ มากที่สุดตั้งแต่สร้างเขื่อนภูมิพลมา (กว่า 40 ปี) และเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม ปริมาณน้ำฝนที่ตกในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย 30 ปี ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา เป็นเหตุให้ไม่สามารถระบายน้ำออกจากเขื่อนได้ เนื่องจากจะไปซ้ำเติมปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ในช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. และต่อมาในช่วงปลายเดือน ก.ย. มีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ไห่ถาง” และ “เนสาด” ทำให้ปัญหาน้ำท่วมทวีความรุนแรงมากขึ้น
3. ถาม ทำไมเขื่อนต้องระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำล้น (Spillway) เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการผลิตกระแสไฟฟ้า

ตอบ
เขื่อนสิริกิติ์มีการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำล้น ระหว่างวันที่ 25 ส.ค. – 11 ก.ย. 54
เขื่อนภูมิพลมีการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำล้น ระหว่างวันที่ 5 – 13 ต.ค. 54 และ 18 – 20 ต.ค. 54

การที่ทั้ง 2 เขื่อนจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นผ่านประตูระบายน้ำล้น นอกเหนือจากการระบายน้ำผ่านการผลิตกระแสไฟฟ้า เนื่องจากปริมาณน้ำใกล้เต็มความจุของอ่างเก็บน้ำ และจากการติดตามข้อมูลปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างยังมีแนวโน้มที่มีปริมาณสูงอ ยู่ จึงจำเป็นต้องระบายน้ำออกเพิ่มมากขึ้น เพื่อควบคุมไม่ให้ระดับเก็บกักน้ำเกินความจุของอ่าง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนและอาคารประกอบ ทั้งนี้ในระหว่างการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำล้นก็ได้มีการเฝ้าติดตาม สถานการณ์น้ำที่ไหลเข้าอ่างอย่างใกล้ชิด เมื่อพบว่ามีแนวโน้มลดลงก็ลดปริมาณการระบายน้ำ จนปัจจุบันไม่มีการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำล้นจากเขื่อนทั้งสอง
4. ถาม เขื่อนต้องการเก็บน้ำไว้มากเพื่อประโยชน์จากการผลิตกระแสไฟฟ้า

ตอบ
การผลิตกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนแต่ เป็นผลพลอยได้จากการระบายน้ำตามความต้องการใช้น้ำเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ อาทิ เช่น การอุปโภค บริโภค การเกษตรกรรม รวมทั้งการบรรเทาอุทกภัย ซึ่งการบริหารจัดการ เรื่องปริมาณน้ำที่จะต้องระบายออก ในช่วงเวลาใดๆ ในรอบปี อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของคณะกรรมการฯ ที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการ โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อพิจารณาตัดสินใจร่วมกันอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้การเก็บกักน้ำไว้เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าจะไม่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ในเรื่องรายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อ กฟผ. แต่ประการใด ทั้งนี้เนื่องจากในระบบโครงสร้าง อัตราค่าไฟฟ้าปัจจุบัน กฟผ.ได้รับรายได้กลับคืนในรูปแบบ “ผลตอบแทนเงินลงทุน” (ROIC) จึงไม่เกิดแรงจูงใจให้ กฟผ.จะต้องเก็บกักน้ำไว้ในปริมาณมากๆ แต่อย่างใด ดังนั้นปัจจุบันการระบายน้ำของเขื่อนเป็นไปตามความจำเป็นทางด้านเกษตรกรรม การบรรเทาอุทกภัย และสาธารณูปโภคเป็นหลัก
5. ถาม ปัจจุบันเขื่อนลดปริมาณการปล่อยน้ำลงแล้ว แต่ทำไมน้ำยังท่วมอยู่

ตอบ
ช่วงที่เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มีการระบายน้ำออกรวมกันวันละ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ประมาณ 800 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของมวลน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ราว 4,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งน้ำที่ผ่านจังหวัดนครสวรรค์มาจากแม่น้ำหลัก 4 สาย คือ ปิง วัง ยม และน่าน ขณะที่มีเขื่อนขนาดใหญ่กั้นอยู่เพียง 2 สาย คือ แม่น้ำปิงและน่าน ปริมาณน้ำส่วนที่เหลือจึงมาจากแม่น้ำยมและวัง รวมทั้งน้ำที่ค้างอยู่ตามทุ่งไหลลงมา ซึ่งมีปริมาณรวมถึงร้อยละ 80 ของน้ำที่ผ่าน จ.นครสวรรค์แล้วไหลสู่กรุงเทพฯและปริมณฑลไปรวมกับมวลน้ำที่ยังค้างอยู่ตาม ไร่นาจากภาวะ น้ำท่วมพื้นที่ภาคกลาง ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. ทำให้มวลน้ำที่กำลังมุ่งสู่กรุงเทพฯ ยังคงมีปริมาณมาก
6. ถาม เขื่อนเก็บน้ำไว้ตั้งแต่ต้นมากเกินไปหรือไม่

ตอบ
ในช่วงต้นฤดูฝน 2554 ระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลยังต่ำกว่าเกณฑ์กักเก็บปกติในปี 2552 และ 2553 แต่เนื่องจากปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำทั้งของเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์ ในช่วงฤดูฝนปี 2554 มีค่ามากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 2 เท่า ซึ่งจากสถิติน้ำของเขื่อนภูมิพล ตั้งแต่ก่อสร้างและเริ่มเก็บกักน้ำในปี 2507 มีน้ำไหลเข้าเฉลี่ย 5,536 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
แต่ตั้งแต่ต้นปี 2554 ถึงวันที่ 24 ตุลาคม ก็มีน้ำไหลเข้า 11,200 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือมากกว่าเกณฑ์เฉลี่ย 2 เท่าตัว
Posted Image
ภาพสีแดงแสดงปริมาณน้ำในเขื่อนปี 2554
ประกอบกับ ปีนี้เป็นปีที่น้ำมามากและมาเร็วตั้งแต่ต้นฤดูฝน และพื้นที่ท้ายเขื่อนประสบอุทกภัยทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้มากนัก จากพายุ ไห่ถัง เนสาด และนาลแก เข้ามาที่ภาคเหนือของประเทศไทยเมื่อต้นเดือนตุลาคม แม้ว่าทั้ง 2 เขื่อนจะมีการระบายน้ำเพิ่มจากแผนการระบายน้ำเดิมแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับความจริงว่า เราไม่สามารถคาดการณ์สภาพดินฟ้าอากาศล่วงหน้าได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ บางปีก็เป็นไปตามคาดการณ์ บางปีก็ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ จึงต้องอาศัยการพยากรณ์และการเก็บสถิติน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำย้อนหลังเป็น เวลาหลายปี มาประมวลจัดทำเป็นเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำ (Rule Curve) ในแต่ละเดือน สัปดาห์ และวัน นอกจากนี้ จะต้องมีการติดตามและปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง แบบวันต่อวัน เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาหากเกิดอุทกภัยหรือภัยแล้ง
7. ถาม เขื่อนภูมิพลช่วยบรรเทาภาวะน้ำท่วมอย่างไร

ตอบ
แม้จะมีน้ำมาก เขื่อนภูมิพลก็ยังสามารถบรรเทาภาวะน้ำท่วมได้ จากข้อมูลการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 13 ตุลาคม 2554 เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ ทั้งสิ้น 10,281 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในช่วง 5 เดือนครึ่งรวมกัน 2,861 ล้าน ลบ.ม. เก็บน้ำไว้ถึงกว่า 7 พันล้าน ลบ.ม. ในขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ รวม 9,760 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในช่วงเดียวกัน 5,000 ล้าน ลบ.ม. เก็บน้ำไว้เกือบ 5 พันล้าน ลบ.ม.
จะเห็นว่าตลอดช่วงฤดูฝนเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ได้เก็บน้ำไว้กว่า 12,000 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นปริมาณน้ำราวครึ่งหนึ่งของมวลน้ำที่ท่วมภาคเหนือตอนบนและภาคกลาง ที่คาดว่าจะมีมวลน้ำท่วมมากถึง 20,000 ล้าน ลบ.ม
แม้ในช่วงระหว่างวันที่ 1 – 24 ตุลาคม 2554 ที่เขื่อนภูมิพลมีน้ำเกือบเต็มความจุอ่าง ก็ได้ระบายน้ำผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและประตูระบายน้ำฉุกเฉินรวมราว 1,600 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปริมาณน้ำไหลเข้าที่มีมากถึง 2,500 ล้านลูกบาศก์เมตร
8. ถาม ทำไมไม่เร่งระบายน้ำแบบเดียวกับปี 2553


มีข้อมูลว่า
เดือนเมษายน 2554 ปริมาณน้ำในเขื่อน 50.21% แต่กลับปล่อยน้ำออกเพียง 7.0 ล้าน ลบม. ในขณะที่ปี 2553 ปริมาณน้ำ 37.95% ระบายน้ำถึง 12 ล้านลบ.ม.
เดือนพฤษภาคม 2554 ปริมาณน้ำในเขื่อน 52.63% แต่กลับปล่อยน้ำออกเพียง 7.5 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่ปี 2553 ปริมาณน้ำ 36.90% ระบายน้ำถึง 8.3 ล้าน ลบ.ม.
เดือนมิถุนายน 2554 ปริมาณน้ำในเขื่อน 60.27% แต่กลับปล่อยน้ำออกเพียง 0.0 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่ปี 2553 ปริมาณน้ำ 34.10% ระบายน้ำถึง 11.0 ล้าน ลบ.ม.
พอเริ่มปล่อยน้ำออกมาก็พอดีกันกับที่ฝนตกชุก พอน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ปล่อยลงสู่แม่น้ำน่านก็ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม

ตอบ
เนื่องจากปี 2553 มีปัญหาการขาดแคลนน้ำยาวนานจนถึงปลายปี ทำให้เขื่อนต้องวางแผนระบายน้ำเป็นปริมาณมาก โดยในช่วง เม.ย. – มิ.ย. 2553 ระบายรวมทั้งสิ้น 2,150 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็นเขื่อนภูมิพล 1,200 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนสิริกิติ์ 950 ล้าน ลบ.ม.
ขณะที่ปี 2554 ระบายน้ำตามแผนจำนวนทั้งสิ้น 1,330 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็นเขื่อนภูมิพล 530 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนสิริกิตติ์ 800 ล้าน ลบ.ม. น้อยกว่าปี 2553 จำนวน 150 ล้าน ลบ.ม.
9. ถาม ทำไมไม่หยุดปล่อยน้ำ ทั้งๆ ที่ไม่มีรายงานฝนตกเหนือเขื่อน

ตอบ
พื้นที่รับน้ำของเขื่อนขนาดใหญ่ มีบริเวณกว้าง แม้จะไม่มีรายงานฝนตก แต่ก็อาจมีฝนตกในบางพื้นที่ รวมทั้งจะมีปริมาณน้ำหลากค้างทุ่งหรือพื้นที่ป่าเขาที่ทะยอยไหลเข้าเขื่อน ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลน้ำไหลเข้าเขื่อนลดลง จะมีการประเมินสถานการณ์ เพื่อลดการระบายน้ำทันที
นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้เขื่อนยังสามารถช่วยบรรเทาสถานการณ์ความรุนแรงบางส่วนได้ ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554 เป็นต้นมา มีระดับเก็บกักเกินกว่าร้อยละ 99 ที่ระดับเก็บกักดังกล่าวนี้ เขื่อนภูมิพลจะสามารถรับน้ำได้ไม่เกินวันละ 120 ล้าน ลบ.ม.
การปล่อยน้ำบางส่วน ยังช่วยให้มีพื้นที่รับน้ำได้ดีกว่าการเก็บไว้จนเต็ม 100 % เช่น ในระหว่างวันที่ 3 – 5 ตุลาคม 2554 มีน้ำไหลเข้าวันละ 213 ถึง 289 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งหากเขื่อนเก็บกักน้ำไว้จนเต็มความจุ 100 % ก็จะต้องปล่อยน้ำที่เข้ามาในแต่ละวันออกทั้งหมด ซึ่งจะทำให้มีอัตราการไหลของน้ำรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้
10. ถาม ใครเป็นผู้ตัดสินใจสั่งให้หรือไม่ให้ปล่อยน้ำ

ตอบ
ในการวางแผนการระบายน้ำในแต่ละปี คณะทำงานวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานต่างๆกว่า 20 หน่วยงาน ที่รับผิดชอบดูแลการใช้น้ำเพื่อเกษตรกรรม อุปโภค และบริโภค จะกำหนดเป้าหมายความต้องการใช้น้ำตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ตลอดช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ รวมทั้งต้นทุนน้ำในแต่ละเขื่อน จากนั้นกรมชลประทานและ กฟผ. จึงมาร่วมกันวางแผนการระบายน้ำในรายละเอียดเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ และรายวัน ให้สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำ และประกาศให้เกษตรกรทราบ เพื่อวางแผนการใช้น้ำต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุการณ์ผิดปกติ ทั้งภัยแล้ง หรือน้ำท่วม เช่นในปี 2554 กรมชลประทานจะเรียกประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ น้ำ เพื่อติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดและพิจารณาปรับแผนการระบายน้ำตามสถานการณ์
…………..
***เรื่องของปริมาณน้ำในเขื่อนที่บ้างคิดว่าเป็นประเด็น มีเพียง 20% ของปริมาณน้ำทั้งหมดที่ไหลผ่านนครสวรรค์ หรือตอนนี้สังคมต้องการหาแพะแบบที่เป็นคนมารับผิดชอบ
เรื่องการพยากรณ์อากาศที่กรมอุตุนิยมวิทยารับไป แต่ไม่ได้รับไปเต็มที่ เพราะการหาแพะแบบที่เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ก็ง่ายดี ไม่ต่างกับนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกยึด Global Warming เป็นสาเหตุของทุกเรื่องไปก่อน
หรือจะยอมรับความจริงว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนด้านการป้องกันภัยพิบัติ เรื่องการลงทุนวิจัยจริงจังเพื่อแก้ปัญหา เป็นเรื่องที่ตกกระป๋องทุกครั้งในที่ประชุมเกือบทุกระดับในประเทศไทย
และถ้าจะลองมองให้ดี คือ ประเด็นเขื่อนถูกหยิบยกขึ้นมา เพราะเรามองข้อมูลกันแค่เป็นจุดแทนที่จะมองเส้นแนวโน้มหรือไม่ จากคำตอบที่ 7 ข้างบนทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าถ้าคนเรามีอายุสัก 300 ปี เราคงเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า จากที่ 2 เขื่อนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาหลังจากปี 2500 เราก็ยังไม่ประสบกับวิกฤตน้ำท่วมที่ทำลายสถิติปี 2485 อีกเลย จนกระทั่งปีนี้***



#60 Edge

Edge

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 258 posts

ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 10:53

ถูกทุกข้อจริงๆแหละครับ แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าข้อ 3 เป็นอะไรที่อัปปรีย์ที่สุด

#61 Zelretch

Zelretch

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 387 posts

ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 10:57

เห็นข้อความนี้ ค่อนข้างมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เลยแปะมาให้วิเคราะห์ครับ
http://www.energytha...2011/dam-flood/


**ขออนุญาตตัดทอนข้อความนะครับ

จากที่อ่านดูข้อมูลข้อเท็จจริงที่นำเสนอออกมาก็ได้ข้อสรุปเดิมตามที่หลายๆ ท่านในนี้เคยกล่าวไปแล้วอยู่ดีน่ะครับ

น้ำท่วมเป็นเรื่องธรรมชาติ
แต่ "ระดับความเสียหาย" เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ -_-

#62 คลำปม

คลำปม

    สลิ่มเต็มขั้นจ้า

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,657 posts

ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:18

ผมเลือกข้อ นายกฯมือไม่ถึงมีน้ำหนักมากสุดครับ

เรื่องการปล่อยน้ำอะไรนั่นก็สะท้อนภาวะของตัวนายกฯเอง

เพราะคนที่ดูแลกระทรวงเหล่านี้ในรัฐบาลมาร์ค ก็มาร่วมรัฐบาลนี้ด้วยและก็บริหารกระทรวงเดิม

การทำงานก็มีความต่อเนื่อง มีข้อมูลที่ครบ

ปัญหาที่เกิดขึ้นมันจึงอยู่ที่การสั่งงานของนายกฯล้วนๆ

ซึ่งปูก็ดันเป็นนายกฯที่ไม่ตัดสินใจเอง

แต่จะเลือกฟังความคิดเห็นของคนใน ครม. เสียอีก

เธอก็เลือกเชื่อ คห.ใน ครม.ตามชอบ โดยยึดแนวทางเดียวกับที่พี่ชายเธอสั่งไว้เป็นหลัก

เธอไม่มีความคิดเป็นของตัวเองอันใด

ดังนั้นการทำงานของเธอมันถึงไร้ประสิทธิภาพอย่างมาก

เพราะขาดความชัดเจนในเป้าหมาย

สังเกตจากคำพูด/ความเห็นของเธอมักจะเปลี่ยนแปลงรายวัน ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นรับข้อมูลอะไรมา

เธอทำงานแบบไม่มีเป้าหมายครับ ทำงานไปวันๆให้มันพ้นๆไป

ไม่เคยประกาศความรับผิดชอบอะไร ไม่เคยแสดงความคิดสร้างสรรค์อะไร

เรื่องเลอะเทอะแค่ไหนเขาสั่งให้เธอทำเธอก็ทำ
(ไปเปิดพิธีเรือดันน้ำก็ไป ทำแล้วภาพจะโง่แค่ไหนเธอก็ไม่รู้ เขาให็เธอพูดอะไรเธอก็พูดตาม)

บอกตามตรงตอนนี้ ผมคิดว่าประเทศเราไม่มีนายกฯนะครับ
โง่หรือฉลาดมันยังเป็นอีกเรื่องนึง แต่ตอนนี้ถือว่าไม่มีเลยครับ
ว่างเปล่าสุดๆ

วิธีการยุติระบอบทักษิณ

ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"


#63 นักเรียนตลอดชีพ

นักเรียนตลอดชีพ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,024 posts

ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:17

นี่ไม่รู้จริงๆ น่ะหรือ ใครสั่งให้กักน้ำเอาไว้ ....

ช่วย ทวนความจำนะ


"ขอเกี่่ยวข้าวก่อน"

.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..

ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม


#64 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:43

ผมเห็นด้วย มากๆ กับคุณ Zelretch นะครับ แต่ปัญหาเล่านี้จะไม่เกิด ขึ้น ถ้าผู้บริหาร เก่ง
เพราะทุกอย่างเกิดจากนโยบายของผู้บริหาร ตำแหน่งต่างๆ ก็เป็นคนแต่งตั้ง จะโทษใครครับ แต่ถ้านโยบาย หรือความคิดอ่านของผู้บริหาร เก่งจริง การจัดการก็ไม่ใช่ปัญหาเลย ดังนั้นผมกด ข้อ 1 เต็มๆ
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#65 Ladieskaka

Ladieskaka

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 108 posts

ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:08

น้ำก็เน่าพอแล้วยัง จะมาสร้างนิยายน้ำเน่าอีกหรอครับท่าน สรท ทั้งหลาย สรุปน้ำท่วมหนนี้ พัดเอาโครงการจำนำข้าวหายไปกลับสายน้ำ แล้วแบบนี้ รัฐบาลจะทำเช่นไรโครงการนี้คงไม่สำเร็จ และไหนจะต้องฟื่นฟู ประเทศอีกละ โอ้โห งานนี้ เข้าทางปืนเต็ม เด่น้ำลด รัฐบาลคงต้องเจอกับการต่อต้าน ไล่ จากม๊อบ หลากสี และอีกหลากหลายเป็นแน่
ส่วนเหตุที่ว่าน้ำท่วมเกิดจากอะไร ผมว่าประชาชนทั้งประเทศไม่ได้โง้เง่าเต่าตุน ขนาดไม่รู้เหตุและผลหลอกครับ สมัยนี้ ข้อมูลข่าวสารมันเยอะและที่สำคัญประชาชนรู้จักวิธีคิดมากขึ่น
ต้องขอบคุณ อินเตอร์เน็ด ครับ ที่พัฒนา ระดับความคิดของประชาชน พระพุทธเจ้ามีคำสอนไว้ว่า ให้ใช้เหตุและผล เพราะงั้นถ้าใครอยากรู้ว่าเหตุที่น้ำท่วมเกิดจากอะไรก็ให้ค่อยดูที่ผลนั้นครับว่าใครหน้าไหนที่เป็นผู้มารับผลนั้น แค่นั้นเองและครับ เราค่อยดูกันต่อไปครับ ว่าไอ้คนที่ได้รับผลนี้มันยังคิดว่ามันจะชนะอีกหรือไม่ดีกว่าครับ ขำพวกมันจิงปั่นกระแสหน้าดูกระแส คำว่า โง้มาแรงครับ แต่คำถามว่าตกลงคนที่ถูกกร่าวหาว่าโง้ มันโง้จิงหรือป่าว หรือไอ้คนที่กร่าวหาคนอื่น โง้ มันจะโง้ยิ่งกว่า แค่จูง ควาย เข้าครอกมันยังทำไม่ได้แล้วมัน***บอกว่าตัวมันฉลาด ไหน โชว์ ความ ฉลาด ออกมาให้ดูหน่อยจิ พวก สรท สุราเถื่อน ป่าว แวะ

#66 AnGeL.K.

AnGeL.K.

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 32 posts

ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:14

ผมว่ายิ่งลักษณ์ก็โอเค ขาดแค่การบริหารจัดการเท่านั้น...ที่แย่มาก ๆๆๆๆๆ

#67 rakchart thai

rakchart thai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 791 posts

ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:21

ถูกทุกข้อจริงๆแหละครับ แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าข้อ 3 เป็นอะไรที่อัปปรีย์ที่สุด


ส่วนตัว ผมมองเห็นความผิดปรกติในคำแก้ตัว คือ

ในสภาวการณ์ปกติ เขื่อนจะพยายามควบคุมไม่ให้ระดับน้ำต่ำกว่า Lower Rule Curve ในช่วงฤดูแล้ง และช่วงฤดูฝน เขื่อนก็จะพยายามระบายน้ำเพื่อไม่ให้ระดับน้ำสูงเกิน Upper Rule Curve ดังนั้น Rule Curve จึงเปรียบเสมือนเกณฑ์ที่คอยควบคุมระดับน้ำในเขื่อนให้มีปริมาณน้ำเก็บกักที่ เหมาะสมเทียบกับช่วงเวลาของฤดูกาล เพื่อให้มีน้ำไว้ใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในภาพรวมตลอดทั้งปี


Posted Image
เพราะถ้าเราดูจากกราฟ ปริมาณการกักเก็บน้ำ ปลาย กค.-ต้นสิงหาฯ ก็เกือบเท่าปริมาณสูงสุดของปีก่อนๆหน้า
หรือ 70%กว่าของความจุเขื่อนแล้ว ..
ทำไมถึงไม่นำ Upper Rule Curve มาเป็นเกณฑ์พิจารณาระบายน้ำ ทั้งๆที่พึ่งเลยต้นฤดูฝนมาไม่นาน ..

พวกคณะกรรมการที่นั่งประชุมอยู่ ทำงานด้านนี้มานานแล้ว โดยใช้ Rule Curve มาตลอด ตั้งแต่สร้างเขื่อนมา .. เสร็จแล้วอยู่ดีๆปีนี้จะไม่ใช้ มันแปลกไม๊ล่ะ.. ผมถึงเชื่อว่าต้องมีเบื้องหลังแน่นอน ... :ph34r: :ph34r: :ph34r:

#68 ชาวสวน

ชาวสวน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,095 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 03:32

บอกตามตรงตอนนี้ ผมคิดว่าประเทศเราไม่มีนายกฯนะครับ
โง่หรือฉลาดมันยังเป็นอีกเรื่องนึง แต่ตอนนี้ถือว่าไม่มีเลยครับ
ว่างเปล่าสุดๆ


ผมก็พยายามคิดแบบนี้

#69 zereza

zereza

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,950 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 04:42

น้ำก็เน่าพอแล้วยัง จะมาสร้างนิยายน้ำเน่าอีกหรอครับท่าน สรท ทั้งหลาย สรุปน้ำท่วมหนนี้ พัดเอาโครงการจำนำข้าวหายไปกลับสายน้ำ แล้วแบบนี้ รัฐบาลจะทำเช่นไรโครงการนี้คงไม่สำเร็จ และไหนจะต้องฟื่นฟู ประเทศอีกละ โอ้โห งานนี้ เข้าทางปืนเต็ม เด่น้ำลด รัฐบาลคงต้องเจอกับการต่อต้าน ไล่ จากม๊อบ หลากสี และอีกหลากหลายเป็นแน่
ส่วนเหตุที่ว่าน้ำท่วมเกิดจากอะไร ผมว่าประชาชนทั้งประเทศไม่ได้โง้เง่าเต่าตุน ขนาดไม่รู้เหตุและผลหลอกครับ สมัยนี้ ข้อมูลข่าวสารมันเยอะและที่สำคัญประชาชนรู้จักวิธีคิดมากขึ่น
ต้องขอบคุณ อินเตอร์เน็ด ครับ ที่พัฒนา ระดับความคิดของประชาชน พระพุทธเจ้ามีคำสอนไว้ว่า ให้ใช้เหตุและผล เพราะงั้นถ้าใครอยากรู้ว่าเหตุที่น้ำท่วมเกิดจากอะไรก็ให้ค่อยดูที่ผลนั้นครับว่าใครหน้าไหนที่เป็นผู้มารับผลนั้น แค่นั้นเองและครับ เราค่อยดูกันต่อไปครับ ว่าไอ้คนที่ได้รับผลนี้มันยังคิดว่ามันจะชนะอีกหรือไม่ดีกว่าครับ ขำพวกมันจิงปั่นกระแสหน้าดูกระแส คำว่า โง้มาแรงครับ แต่คำถามว่าตกลงคนที่ถูกกร่าวหาว่าโง้ มันโง้จิงหรือป่าว หรือไอ้คนที่กร่าวหาคนอื่น โง้ มันจะโง้ยิ่งกว่า แค่จูง ควาย เข้าครอกมันยังทำไม่ได้แล้วมัน***บอกว่าตัวมันฉลาด ไหน โชว์ ความ ฉลาด ออกมาให้ดูหน่อยจิ พวก สรท สุราเถื่อน ป่าว แวะ


เอามาให้ดูหน่อยสิข้อมูลข่าวสารที่ว่า เอามาถกกันในนี้กล้ารึเปล่า ถ้าไม่กล้าเอามามันก็แค่ข้อมูลหลอกควายอย่างที่ว่าแหละนะ <_<
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง""อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"

#70 pomthong

pomthong

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 107 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 05:05

อ้าวมันได้เบอร1 ผมก็เลือกโหวตข้อ1 555

#71 nokkrapood

nokkrapood

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 292 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 05:38

โหวต อื่นๆครับ

หลายข้อรวมกันครับ สำคัญหมด เพราะการจัดการปัญหาต้องใช้องค์รวมจะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้

แต่รัฐบาลชุดนี้ ไร้ความสามารถตั้งแต่ผู้นำจนถึงลูกน้อง

ไร้ความสามารถยังไม่พอ มากไปกว่านั้น ยังไร้ซึ่งคุณธรรม อีก ประเทศไทยคงแย่ครับคราวนี้

หลังน้ำลด คงมีเมกกะโปรเจคเพียบ พวกนี้คงแดรกกันจนอิ่มแน่กับไอ้โครงการนิวส์ไทยแลนท์นี่แหละ
"...ใน บ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คน ทุกคนเป็นดีได้ทั้งหมด การทำให้ บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ ทุกคนเป็นคนดี หาก แต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้ มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่ยวายได้..."พระบรมราโชวาท ในพิธีเปิดงานชุมชุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512

#72 คนสับปรับ

คนสับปรับ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,410 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 05:54

ถูกทุกข้อ