จริงๆบอกให้คุณกานดามาเล่นเวบนี้บ้างก็ได้จะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง
- ก่อนอื่นผมไม่ขอมาเถียงว่าคนไทยกับคนเมกันใครโง่กว่ากัน วัฒนธรรมใครดีกว่ากัน เอาเป็นว่าประเทศใครประเทศมันนะ
- ในมุมองของผม ไม่รู้ว่าเธอมีปัญหา low self esteem หรือไม่ จึงมองความเป็นไทยว่าเป็นเชื้อชาติที่ต่ำต้อย แม้จะพยายามทำให้ตัวเองเป็นคนเก่งเป็นที่ยอมรับของคนอเมริกัน แต่ก็ไม่สามารถลบคำว่า เป็นคนไทย ออกไปได้หรอก
ทางออกที่จะแนะนำให้กับคุณกานดา คือ ยอมรับในตัวตนของคุณให้ได้ มองในจุดเด่นของประเทศเราให้ออก เมื่อคุณภูมิใจในประเทศไทย คุณก็จะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวคุณเองมากขึ้น
คนอเมริกาชอบดูถูกชนชาติอื่นอยู่แล้ว(แม้ว่าคนอเมริกาก็ใช่จะเลิศเลออะไรนักหนาอย่างที่หลายท่านกล่าวมา) ดังนั้นอย่าไปใส่ใจอะไรให้มากนักและอย่าได้ดูถูกตัวเอง คนทุกคนมีทั้งปมเด่นปมด้อย ไม่มีใคร perfect จะห้ามใครมาตำหนิคงเป็นไปไม่ได้ แม้แต่พระพุทธเจ้าที่ประเสริฐที่สุดก็ยังมีคนนินทากล่าวหา การที่คุณพยายามศึกษาเล่าเรียน มีความรู้ความสามารถก็เป็นสิ่งที่ดี ยิ่งถ้าเป็นคนดีของสังคมด้วยก็จะยิ่งเป็นที่ยอมรับได้เอง อย่าได้มาคาดหวังว่าประเทศไทยจะต้องเป็นเลิศเหนือชาติใดๆในโลกแล้วคุณถึงจะได้รับการยอมรับจากทุกคน ไร้คนดูถูก แบบนั้นเป็นเรื่องอุดมคติ ในชีวิตจริงเป็นไปได้ยาก
ทำอย่างไรคุณจึงจะสามารถมองเห็นสิ่งที่มีคุณค่าในความเป็นไทย ขึ้นกับว่าคุณเข้าใจประเทศไทยดีพอหรือยัง ได้เปิดโลกทัศน์ของคุณให้มากพอหรือไม่ แล้วลองค้นหาดู คิดว่าคงไม่ยากเกินไป
จริงอยู่เรื่องพิธีแรกนาขวัญแม้จะดูเป็นเรื่องงมงาย ล้าหลัง ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนาพุทธ แต่ก็ใช่จะเป็นสิ่งเลวร้ายน่ารังเกียจ กลับเป็นการแสดงถึงภูมิปัญญาที่มีมาแต่โบราณและแสดงถึงความรักความหวงแหนในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมที่พวกเราชาวไทยได้ช่วยกันสืบทอดต่อมา นี่ล่ะที่เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ เป็นวัฒนธรรม ถ้าประเทศไทยมีประเพณีทุกอย่างเหมือนอเมริกา มีชีวิตความเป็นอยู่เหมือนอเมริกา มีความเจริญทางวัตถุเทียบเท่าอเมริกา นั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณพอใจ มากไปกว่า การที่เรามีภาษา มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามตามแบบฉบับของเราหรือ?
ความล้าหลัง ในความเห็นผม น่าจะหมายถึงการไม่พัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย(พัฒนาจากไม่ดีเป็นดี) การไม่เปิดรับสิ่งใหม่ๆ
ดังนั้น ถ้าคนไทยยังใช้โคเสี่ยงทาย เชื่อทุกอย่างตามที่โคบอก ไม่สนใจพัฒนาวิทยาศาสตร์ทางด้านอุตุนิยมวิทยา ไม่สนใจว่ากรมอุตุนิยมวิทยาบอกอะไร เชื่อแต่พระโคอย่างเดียว แน่นอนนั่นคือ ความล้าหลัง
แต่คนไทยในยุคนี้เป็นเช่นนั้นจริงเหรอ ผมตอบให้เลยว่าไม่ใช่ แต่การที่เรายังมีพิธีนี้อยู่ก็ด้วยเหตุผลหลายประการ(ถ้าสนใจค่อยมาอภิปรายเพิ่มเติมกัน) ประการหนึ่งก็เพื่อรักษาประเพณีให้คงอยู่สืบไป จึงต้องแยกให้ออกเรื่อง ประเพณี กับคำว่า ล้าหลัง ที่แปลว่าไม่พัฒนา ไม่เปลี่ยนแปลง (ถ้าฝรั่งเค้ามาดูถูกว่าบ้านคุณยังเชื่อโคทำนายอยู่เหรอ คุณก็ต้องชี้แจงไปว่านี่เป็นเพียงประเพณีที่สืบทอดกันมา ประเพณีนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร มีภูมิปัญญษอะไรที่ซ่อนอยู่ แต่คนไทยปัจจุบันไม่ได้ยึดถือแค่เรื่องโคทำนายอย่างเดียวแล้ว ปัจจุบันเรานับถือศาสนาพุทธเป็นหลักด้วยซ้ำแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งพิธีทางพราหมณ์อยู่เพราะ 1...2...3.... นี่คือสิ่งที่คุณต้องศึกษาและอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจ ไม่ใช่ไปร่วมดูถูกกับเขาเพียงเพื่อให้คุณดูดีในสายตาเขาเพียงคนเดียว แต่คนทั้งประเทศกลับโดนดูถูกเพราะความเข้าใจผิดแบบนั้น)
อย่างประเทศเราสมัยก่อนมีเรื่อง ทาส เรื่องการประหารชีวิตโดยตัดศีรษะ ถ้าปัจจุบันยังมีอยู่ก็เรียกว่าล้าหลัง สมัยก่อนมีการนับถือผี บูชาผี แต่พอศาสนาพุทธเข้ามาก็ยึดถือพระรัตนตรัยเป็นหลัก มีการปฏิบัติตามหลักศาสนา ความเชื่อแบบพราหมณ์ เชื่อไสยศาสตร์ก็ลดน้อยลงไป นี่คือสิ่งที่คุณก็ต้องบอกแก่ชาวต่างชาติให้เข้าใจ ว่ายุคสมัยที่เปลี่ยนไป สภาพสังคมไทยก็เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เป็นประเพณีที่สวยงามยังสืบทอดต่อกันมา เหมือนรำไทย ชุดไทย คนทั่วไปแต่งกันที่ไหน แต่คนไทยก็ไม่ได้ทิ้งสิ่งเหล่านั้น เรายังคงอนุรักษ์สิ่งที่ดีงามอยู่ เพราะนั่นคือความเป็น
ชาติไทย นั่นเองยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นภูมิปัญญาของไทย เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเราคิดค้นขึ้นมา ต่อให้เป็นนิทาน ตำนานที่ไม่ใช่ความเป็นจริง แต่ก็ล้วนแสดงถึงความสามารถทางปัญญาได้ เป็นสิ่งที่เราไม่ได้ไปลอกใคร แล้วจะไม่ให้ภูมิใจ หวงแหนรักษาหรือ? ทำยังไงจึงจะบอกเล่าถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษเหล่านั้นให้เยาวชนรุ่นหลังได้ภาคภูมิใจ นั่นเป็นสิ่งที่เราควรทำไม่ใช่หรือ?
อย่างทุกวันนี้เราตามก้นอเมริกาในหลายเรื่อง แม้สุดท้ายจะมีความเจริญเหมือนประเทศอื่น แต่จะเรียกว่าภูมิใจได้เต็มปากเต็มคำหรือไม่ ถ้าสุดท้ายเราไม่มีเอกลักษณ์ วัฒนธรรมใดๆที่เป็นของเราหลงเหลือเลย
ปล. ถ้าจะให้ถูกต้องที่สุด ก็คงจะมีเพียงธรรมของพระพุทธเจ้าที่เป็นอกาลิโก ทันสมัยและเป็นจริงอยู่เสมอ ต่างกับความเจริญทางวัตถุที่ย่อมมีการเสื่อมไป สิ่งที่เรามองว่าเจริญในวันนี้ อาจล้าหลังในภายหน้าก็ได้ ถ้าจะเทียบความเจริญที่แท้จริงจึงไม่ควรมองแค่ด้านวัตถุภายนอกแต่ควรดูที่จิตใจเป็นหลักจะดีกว่า (แต่ก่อนเคยดูถูกชาติตะวันตกเรื่องเจริญแต่ด้านวัตถุ ไม่มีความเจริญทางจิตใจ แต่ตอนนี้พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะคนไทยดันเดินตามตะวันตก มุ่งความเจริญทางวัตถุ ชาวตะวันตกซะอีกกลับเริ่มมามองที่จิตใจ กว่าคนไทยจะสำนึกได้เค้าอาจก้าวหน้าไปกว่าเรามาก ถ้าต่อไปต้องให้ชาวตะวันตกมาสอนเรื่องจิตใจ คงได้อายบรรพบุรุษกันแน่)
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 13 May 2012 - 13:24.