สิ่งที่มาร์คทํามันก็คือการแอบรับใช้ระบอบทักษิณอย่างแน่นอน จะมาปัดสวะหนีความรับผิดชอบไม่ได้ จะมาด่าแม้วอย่างเดียวมันอึดอัดคับข้องใจ เพราะอีกฝ่ายทําไม่ต่างจากแม้ว
เอ้าลองๆอ่านดูแล้วคิดๆดูสิว่าทําไมถึงมี 1ต่อ2แสน ใน เอกสารด่วนก่อนไปเซนและ tor 46 ที่มี 1ต่อ2แสน
1. จุดอันตรายของ MOU 2543 อยู่ที่ข้อ 1 วรรค 1 ค. :
แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ผนวก 1 ต่อท้ายคำฟ้องของกัมพูชาในคดีปราสาทพระวิหาร พ.ศ. 2505 แสดงเส้นเขตแดนที่ ฝรั่งเศสฝ่ายเดียวเป็นผู้ลากเส้น ซึ่งผิดเพี้ยนจากอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญากับพิธีสาร ค.ศ. 1907 โดยเกินเลยรุกล้ำเข้ามาในผืนแผ่นดินไทยตลอดแนว คิดเป็นเนื้อที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,800,000 ไร่
2. จุดอันตรายของ MOU 2543 แอบแฝงอยู่ในแผนที่ผนวก 1 ต่อท้ายคำฟ้องของกัมพูชาในข้อ 1 วรรค 1 ค. ดังนี้
ก. แผนที่ผนวก 1 ไม่ใช่แผนที่อันเป็นผลงานของคณะกรรมการปักปันผสมฝรั่งเศส-ไทยอย่างแท้จริง เพราะฝรั่งเศสเป็นผู้จัดทำแผนที่ฉบับนี้แต่ฝ่ายเดียวโดยไทยไม่มีส่วนร่วม ทั้งนี้ เนื่องจากในขณะนั้นไทยยังไม่มีเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคที่จะจัดทำแผนที่ทางภูมิศาสตร์ ประมาณ 30 ปีหลังจากนั้นจึงได้มีการสถาปนากรมแผนที่ทหารบกที่เรียกว่า Royal Survey Department แห่งประเทศไทย
ข. แผนที่ผนวก 1 มิได้ลากเส้นเขตแดนตรงตามบทนิยามเขตแดนในอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญากับพิธีสาร ค.ศ. 1907 แต่บิดเบือนและผิดเพี้ยนไปจากสันปันน้ำอันเป็นเส้นเขตแดนที่ตกลงร่วมกัน อนึ่ง ฝรั่งเศสได้จัดทำแผนที่ผนวก 1 ไว้ก่อนแล้วโดยผนวกดินแดนมณฑลบูรพาตามสนธิสัญญาและพิธีสาร ค.ศ. 1907 เป็นการกำหนดเขตแดนเพียงฝ่ายเดียวล่วงหน้าโดยรวมอาณาเขตเสียมราฐ พระตระบอง และศรีโสภณเป็นของฝรั่งเศส ทั้งๆ ที่ยังมิได้มีการตกลงยินยอมจากประเทศไทยแต่ประการใด
ค. ไทยจึงไม่อาจยอมรับหรือแสดงท่าทีนิ่งเฉยต่อข้อสันนิษฐานเมื่อได้รับเอกสารรวมทั้งแผนที่ผนวก 1 จากกัมพูชาโดยมิได้โต้แย้งหรือชี้แจงข้อผิดพลาดหรือความคลาดเคลื่อนที่ปรากฏอย่างชัดเจนในคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคดีปราสาทพระวิหารโดยเฉพาะคำพิพากษาแย้งของ เซอร์ เพอร์ซี สเปนเดอร์ ผู้พิพากษาชาติออสเตรเลีย อนึ่ง ข้าพเจ้าขอชี้แจงซ้ำอีกครั้งว่า คำพิพากษาแย้งมิใช่เป็นเพียง ‘ความเห็น’ ซึ่งเป็นการตีความของกระทรวงการต่างประเทศไทยในปัจจุบัน แต่ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ คำพิพากษาแย้งคือส่วนหนึ่งของคำพิพากษา มีผลเทียบเท่าคำพิพากษาหลักหรือมากกว่าโดยเฉพาะในประเด็นที่ไม่มีการชี้ขาดในคำพิพากษาหลัก เช่น ความถูกต้องของเส้นเขตแดนในแผนที่ผนวก 1 ในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในคดีปราสาทพระวิหาร
ง. เพราะฉะนั้น การรับแผนที่ฉบับนี้จากกัมพูชาภายหลัง พ.ศ. 2505 โดยมิได้ทำความเข้าใจให้ถูกต้องและชัดเจน ดังปรากฏใน MOU 2543 ข้อ 1 วรรค 1 ค. โดยมิได้ตั้งเงื่อนใขว่า “เท่าที่ไม่ขัดกับข้อบทแห่งอนุสัญญา ค.ศ. 1904 หรือสนธิสัญญาและพิธีสาร ค.ศ. 1907” จึงเสี่ยงต่อการสูญเสียโดยกัมพูชาจะอ้างได้ว่าไทยตกลงยอมรับเส้นเขตแดน (ที่ผิดพลาด) ตามที่ปรากฏบนแผนที่ 1:200,000 หรือแผนที่ผนวก 1 ต่อท้ายคำฟ้องของกัมพูชาในคดีปราสาทพระวิหาร
สังเกตได้ว่า ข้อ1ค ในmou43 มิได้ลงคําว่า “เท่าที่ไม่ขัดกับข้อบทแห่งอนุสัญญา ค.ศ. 1904 หรือสนธิสัญญาและพิธีสาร ค.ศ. 1907”ใน 1 วรรค 1 ค. ไว้เพื่อป้องกันไว้เลย แน่กับเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องนี่มันมีเอกสารไรมั่งคงจะมี 1ต่อ2แสนที่ไทยไม่เซนรับแล้วขัดกับ สนธิสัญญา 1904และ 1907ใช่ไหม ครับ 55555
ข้อสรุปอย่างเป็นทางการของ จุดอันตราย mou43
เอาง่ายๆแล้วกัน ไอ้อนุสัญญา1904 และ สนธิสัญญากับพิธีสาร 1907 ซึ่งน่าจะ เขียนได้ดีคือต้องเป็นแผนที่ ที่ ไทยยอมรับ เท่านั้น นั้นคือ 1ต่อ 5หมื่น และไทยต้องยินยอมถึงจะใช้ได้ ใช่ไหม ครับ แล้วฝรั่งเศสวันดีคืนดี แอบเขียน 1ต่อ2แสนแล้วไทยรู้ทันไม่เซนรับเท่ากับว่า ไอ้ 1ต่อ2แสนนั้นใช้การไม่ได้ ตาม อนุสัญญา 1904และ1907ไม่มีทางใช้ได้
ไอ้ข้อความที่ว่าแผนที่ทําขึ้นตามผลงานการ ปักปันเขตแดนระหว่าง สยามอินโดจีนตามปี1904 และ 1907 ปัญหา คือมีแผนที่ไรอยุ่ในนั้น ซึ่งมีหลายแผนที่ครับ และอาจจะมี 1ต่อ2แสน ปนเข้ามาด้วยซึ่งไทยไม่ยอมเซนรับ แต่ผมสงสัยตรงที่ว่า แผนที่ตามผลงานปักปันเขตแดนนี่ละครับ ว่ามีแผนที่ ไรมั่ง ถ้ามี1ต่อ2แสนจะเสียหายมาก ที่ อจ สมปอง ถึงได้บอกหลักการการเขียน mouที่ถูกว่า“เท่าที่ไม่ขัดกับข้อบทแห่งอนุสัญญา ค.ศ. 1904 หรือสนธิสัญญาและพิธีสาร ค.ศ. 1907 “ บางทีจะบอกว่าแผนที่ที่ไทยเซนรับเท่านั้นถึงจะมีผลบังคับใช้แต่ นี่ดันเขียนแบบมีช่องโหว่ทุกตารางนิ้ว ทําให้มีแผนที่ ที่มีทั้งเซนรับไม่เซนรับมันปนเปเข้ามา ผมถึงได้สงสัยไงครับว่ามันรับ1ต่อ2แสน ประจวบกับหลายเหตุการณ์ผมดูแล้วไทยเสียเปรียบ
เอาง่ายๆแล้วกันถ้าแผนที่ 1ต่อ2แสนมันมีสัญญา1904และ 1907 นี่จบเห่ไปตั้งแต่ต้นแล้วครับ ในหลวงรัชกาลที่ 5ไม่เอาด้วยแน่นอน ดังนั้นในตอนนั้นแผนที่ ที่ไทยยอมรับมันถึงได้มีผลบังคับใช้ และ 1ต่อ2แสนที่ไทยปิดตายไอ้เขมรมันแอบเอาไปใช้ และบิดเบือน 1ต่อ2แสนซึ่งขัดต่อ อนุสัญญา 1904และ 1907 การเขียนแค่ว่าแผนที่ ตาม ผลงานสยามอินโดจีนเฉยๆโดยไม่ได้เขียนกลั่นกรองว่าแผนที่ ไหนไทยยอมรับไม่ยอมรับ มันผิดตั้งแต่ต้นแล้ว
http://webboard.seri...a/page__st__500
http://www.manager.c...0006168&TabID=3
ตอนที่ไทยทําเขตแดนกับลาว ไทยเองก็ใช้ 1ต่อ2แสนเอาเปรียบเขมรเช่นกัน และการเขียน mouก็คล้ายกับของไทยเขมรคือ แผนที่ผลงานคณะกรรมการเขตแดนแต่ไม่ได้เขียนกํากับว่าแผนที่ที่ไทยเซนรับเท่านั้นที่ใช้ได้ มันคล้ายไหม ครับคล้ายเลย
ดังนั้นผมไม่แปลกเลยว่าทําไมถึงมี แผนที่ 1ต่อ2แสนของเขมรและ 1ต่อ5หมื่นของไทยมาอยู่mou43ด้วยกัน
Edited by phat21, 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 08:57.