ขณะนี้ การรู้ทันรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังขยายตัวไปสู่การต่อต้านระบอบทักษิณ
ก็เพราะพฤติการณ์ที่ผ่านมาทำให้รู้แล้ว... ชัดแล้ว... ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้น ได้กระทำการทุกวิถีทางเพียงเพื่อผลประโยชน์ของระบอบทักษิณ
ประชาชนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารและผู้ใช้งานสื่อสมัยใหม่อย่างโซเชียลมีเดีย (social media) โดยเฉพาะเฟซบุ๊คของคนกลุ่มใหญ่ได้ประกาศตัวชัดเจน จับมือร่วมกันในการที่จะคัดค้าน ค้นคว้า และตีแผ่ข้อมูลข้อเท็จจริงของการกระทำมิชอบที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ ประชาชน ในนามของ “กลุ่มเเนวร่วมเพจต้านระบอบทักษิณ”
ประกอบด้วยกลุ่มหน้าแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า พวกเราชาวไทยไม่ยุบสภาและไม่เอาคนโกงชาติทักษิณกลับคืนมา, Watch Red Shirt ศูนย์ปฏิบัติการติดตามผู้ชุมนุมเสื้อแดง, กลุ่มปัญญาชนคนอีสานไม่เอาพรรคเพื่อไทย, กลุ่มปัญญาชนคนเหนือไม่เอาพรรคเพื่อไทย, Dislike Yingluck For Concentration Citizen, ศูนย์ตรวจสอบเฝ้าระวังนโยบายพรรคเพื่อไทย, ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค, คนละหมัด เดอะซีรีย์ และคนรู้จริง ไม่เอารัฐบาลสีแดง ทั้งหมดนั้นมีสมาชิกกดไลค์จำนวนรวมหลายแสนคน
การที่คนกลุ่มนี้ประกาศจะทำเช่นนี้ สังคมส่วนรวมมีแต่จะได้กับได้
สถานการณ์ยามนี้ การที่สังคมจะหวังพึ่งสื่อกระแสหลักเพื่อบริโภคข้อมูลข่าวสารที่ตรงไปตรงมา ไม่อิงแอบเข้าข้าง หรือร่วมด้วยช่วยเหลือผู้มีอำนาจในบ้านเมืองนั้น ลำบากเต็มที
โซเชียลมีเดีย จึงเป็น “สื่อตรง” และยังเป็น “เครือข่าย” ที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
แน่นอน... หากคนกลุ่มนี้นำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนใส่ร้ายผู้หนึ่งผู้ใด คนกลุ่มนี้ก็จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย (พลพรรคเพื่อไทยและระบอบทักษิณที่กุมอำนาจรัฐอยู่คงไม่ปล่อยไว้)
วันนี้ ขออนุญาตเก็บความบางส่วนบางตอนในถ้อยแถลง คำประกาศเจตนารมณ์ ที่บอกว่าเป็น “แถลงการณ์ ฉบับที่ 1/2555” สะท้อนมุมมองที่น่าสนใจต่อสถานการณ์บ้านเมือง ดังนี้
“..นับจากการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ประเทศไทย เราก็ได้มีนายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ก็คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ในระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมานั้น การบริหารประเทศของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประสบความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าทางการเมือง ทางด้านเศรษฐกิจ หรือทางด้านสังคม รวมถึงยังมีเเนวคิดที่จะช่วยเหลือ นักโทษชาย หนีคดีอย่าง ทักษิณ ชินวัตร โดยการพยายามทำลายระบบนิติรัฐนิติธรรม
1.เริ่มตั้งเเต่การเเต่งตั้งคณะรัฐมนตรี เเทนที่จะเลือกคนดีมีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารงานประเทศ เเต่กลับเลือกที่จะตอบสนองกลุ่มทุน เเละยังมีการแทรกเเซงจากบุคคลที่ห้ามเคลื่อนไหวในทางการเมืองเข้ามาจัดการ เเต่งตั้งคณะรัฐมนตรี
2.มีการเอาคนที่มีคดีความ รวมถึงคนที่มีเเนวคิดอันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่เป็นพรรคพวกตนเอง มาเเต่งตั้งให้ดำรงตำเเหน่งในทางการเมือง
3.มีการโย้กย้ายเเต่งตั้งข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม
4.นายกฯ ไม่สนใจการทำงานในสภา โดยเฉพาะการตอบกระทู้สดของฝ่ายค้าน
5.มีการเเทรกเเซงสื่อ ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ตั้งเเต่ใช้คนในระบอบทักษิณไปข่มขู่คุกคาม สื่อมวลชน รวมถึงการเเทรกทางโดยทางตรงของทางรัฐบาลเอง ในการสั่งห้ามนางสาวสมจิตต์ นวเครือสุนทร ไปร่วมทำข่าวกับคณะของนายกฯ ที่ไปเยือนประเทศกัมพูชา
6.มีการบริหารงานผิดพลาด ในอุทกภัยน้ำท่วม 54 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ถึง 815 ราย ยังไม่นับความเสียหายในด้านอื่นๆ อีกมากมายมหาศาล รวมถึงยังมีคดีการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างถุงยังชีพที่ยังอยู่ในการตรวจสอบ
7.มีการบิดพริ้วกับนโยบายที่เคยหาเสียงไว้กับประชาชนในช่วงเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่ ในหลายโครงการตอนหาเสียงประกาศไว้ว่าจะทำทันที เเต่ในที่สุดก็ทำไม่ได้ตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ เช่น ค่าเเรง 300 เงินเดือน 15,000 การเเจกแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน ฯลฯ
8.มีการปล่อยให้เกิดการทุจริตในโครงการของรัฐบาล โดยเฉพาะที่ชัดเจนอย่างโครงการรับจำนำข้าว
9.มีการออกนโยบายที่มีผลกระทบต่อประชาชน ประเทศชาติ อย่างค่าเเรง 300 ก็ทำให้คนตกงาน SME ได้รับผลกระทบ มีการย้ายโรงงานไปประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนนโยบายจำนำข้าวก็ทำให้ไทยต้องเสียการส่งออกข้าวเป็นอันดับหนึ่ง
10.ในการปราบปรามกวาดล้างยาเสพติด ได้มีข้อร้องเรียนเป็นระยะ ว่ามีการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่รัฐ
11.ปล่อยให้ข้าวของขึ้นราคา จนประชาชนเดือดร้อนกันถ้วนทั่วทุกหัวระเเเหง
12.ส่วนพืชผลทางการเกษตรก็ราคาตกต่ำ ประชาชนเดือดร้อน ต้องออกมาประท้วงกันทั้งประเทศ
13.การแก้ปัญหาภาคใต้ยังไร้ทิศทาง ทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายเเรงอยู่ทุกวัน
14.มีการช่วยเหลือนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร ตั้งเเต่ก่อนที่ยังไม่มีการทำงานอย่างเป็นทางการ ในการที่ช่วยให้นักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้
15.ไม่ยอมขอตัวผู้ร้ายเเดนเมื่อทราบว่า นักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางไปในประเทศต่างๆ ที่ได้ทำสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย
16.ในด้านภาษา ทักษะ ไหวพริบ ภาวะการเป็นผู้นำของนางสาวยิ่งลักษ์ ชินวัตร ในฐานะผู้นำประเทศ สร้างความอับอายให้ชาวไทย ทั้งในเวทีไทยและเวทีโลก ทั้งคำพูดและการกระทำหลายต่อหลายครั้ง
17.ออกพระราชบัญญัติปรองดอง รวมถึงการแก้รัฐธรรมนูญฉบับพุทธศักราช 2550 โดยขาดความร่วมมือของภาคประชาชน เพื่อผลประโยชน์ของนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว ที่ถือว่าเป็นการกระทำที่พยายามทำลายนิติรัฐนิตธรรมที่จะส่งผลต่อความเสีย หายของประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง รวมถึงจะทำให้เกิดความเเตกเเยกขัดเเย้งในหมู่ประชาชน...”
งานนี้ นับว่าสนใจติดตามอย่างยิ่ง
อย่าลืมว่า ในโลกสมัยใหม่ ที่ผ่านมา สื่อโซเชียลมีเดียได้ถูกนำไปใช้อย่างได้ผลในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของหลายๆ ประเทศมาแล้ว
อย่าได้ดูแคลนเป็นอันขาด!
http://www.naewna.co.../columnist/1357