เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงในยุคสมัยที่ผมเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย
แนวคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพดูจะเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เนื่องเพราะได้รับอิทธิพลจากแนวคิด Existentialism จนบางคนพูดไม่อายปากว่าเป็น Existent โดยที่ไม่เคยศึกษาให้ลึกซึ้ง มอง ศึกษา และอ่านเพียงแค่ว่า"มนุษย์เกิดมาพร้อมกับสิทธิเสรีภาพในการเลือกที่จะทำหรือ เป็นอะไรก็ได้ตามแต่ใจปราถนา" แต่ลืมอ่านให้จบครบถ้วนถึงใจความสำคัญที่ว่า "ในขณะเดียวกัน เสรีภาพก็ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ในเมื่อมนุษย์มีสิทธิเลือกที่จะเป็นหรือทำ เขาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาเลือก เป็น หรือทำ โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
ในกรณีนี้เหมือนกัน ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำ เลือก และเป็น แต่ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ เลือก และเป็น
การกระทำของเด็กคนหนึ่ง และคนหัวหงอกคนหนึงมันสะท้อนถึงตรรกะหลายๆ อย่างที่บกพร่ิองในสังคมทุกวันนี้ นับตั้งแต่ระดับสังคมใหญ่ จนมาถึงสังคมเล็กๆ
"อยากมีสิทธิในการจาบจ้วงคนอื่น โดยลืมนึกถึงสิทธิของคนที่ถูกจาบจ้วง"
"ทั้งคนยุและคนเผาบ้านเผาเมือง ปล้มสดมภ์ร้านค้า ทำไปโดยไม่รับผิดชอบและไม่นึกถึงสิทธิและความเดือดร้อนของผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สิน"
ฯลฯ
หรือแม้กระทั่งเรื่องปลีกย่อยอย่างกรณีนี้ คุณมีสิทธิจะไปสักการะ หรือกระทั่งไปกอดจูบลูบคลำ หรือกระทำการดูหมิ่นต่อรูปปั้นของคุณปรีดีอย่างไรก็ได้ แต่ต้องไม่ให้กระทบหรือเดือดร้อนต่อคนอื่น
ห้ามโยงไปเรื่องแม้ว ไม่ต้องอ้างสิทธิเสรีภาพในการชาบูแม้วหรือกระทำการใดๆ โดยไม่คำนึงถึงสิทธิของผู้อื่น เพียงเพื่อจะได้กลับมาเสวยสุขแบบเท่ห์ๆ
ตราบใดที่การกระทำของแม้วและสาวกไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาติ บ้านเมือง และคนในสังคม แม้วและสาวกก็มีสิทธิธรรมในเสรีภาพนั้นๆ และผมก็จะไม่ไปยุ่งเกี่ยววิพากษ์ วิจารณ์ ด่าทอด้วย
สุดท้ายผมเห็นด้วยกับ Key Word ของศาสตราจารย์สังเวียน อินทรพิชัย
"...สิ่งที่ถูกต้องคือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น
สิ่งที่ผิดคือผิด แม้ทุกคนทำสิ่งนั้น..."
Edited by noswords, 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 19:40.