5 ความเห็นในกระทู้นี้

[halfmoon]

ผมเห็นจากรายงานข่าวทางทีวี เห็นท่านดร.พิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ลงไปช่วยงานการแก้ไขปัญหาน้ำหลากท่วมกรุงเทพฯ ดูเหมือนคล้ายว่ามาเป็นยาประสานอำนาจ ระหว่างกรุงเทพมหานครกับรัฐบาลเพื่อไทย หลังการประกาศใช้ มาตรา 31 ที่นำมาใช้ผิดที่ผิดเวลา

ด้วยว่าความสนิทสนมส่วนตัวระหว่าง หม่อมสุขุมพันธ์กับ ดร.พิจิตต ทั้งส่วนตัวและส่วนงานในอดีตสมัย ดร.พิจิตตเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร นี่คือฝ่ายหนึ่ง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคือรัฐบาลเพื่อไทย ที่เป็นฝ่ายประกาศใช้อำนาจด้วยมาตรา 31 ตาม พรบ.ป้องกันภัยและบรรเทาสาธารณะภัย อันมีข้อขัดแย้งกันหลายประการ ในที่นี้ยังไม่ขออธิบายเพิ่ม จึงต้องหาตัวยามาประสานเพื่อใช้อำนาจร่วมกันได้เป็นทันท่วงทีและรักษากรุงเทพและพื้นที่น้ำท่วมโดยรอบไว้ให้ได้ในระดับหนึ่ง จึงต้องประสานโจประสานใจ จากประจวบ ไชยสาส์น ซึ่งเป็นดั่งพี่ชายคนหนึ่งของ ดร.พิจิตต รัตตกุล

จากภาพที่เห็นตามข่าว คงพอเขียนผังความสัมพันธ์ระหว่างขั้วอำนาจสองขั้วได้ดังนี้

ฝ่ายค้าน - ประชาธิปัตย์ > กรุงเทพมหานคร (หม่อม สุขุมพันธ์) > [ดร.พิจิตต(โจ) รัตตกุล] < ประจวบ ไชยสาส์น < เพื่อไทย < รัฐบาล

หวังว่า จะผ่านพ้นไปด้วยดี

[halfmoon]

บ่อยครั้ง อำนาจต้องถูกวางไว้ หากจะเอาบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง

[ริวมะคุง]

ทุกคนเขาก็พยายามไม่แบ่งข้าง ฝ่ายค้านก็ลงพื้นที่ทำงานงุดๆไม่ออกสื่อ แต่กลับเป็นฝ่ายรัฐบาลที่โจมตีหาว่าเล่นการเมือง

หน่ายมากมาย

[halfmoon]

เขามีความกลัว ความกลัวเป็นเหตุทำให้เสื่อม

[Bookmarks]

ทุกคนเขาก็พยายามไม่แบ่งข้าง ฝ่ายค้านก็ลงพื้นที่ทำงานงุดๆไม่ออกสื่อ แต่กลับเป็นฝ่ายรัฐบาลที่โจมตีหาว่าเล่นการเมือง

หน่ายมากมาย

คนที่พังคันกั้นน้ำ กลับเป็นพวก สส ฝ่ายรัฐบาล แถม สส ฝ่ายรัฐบาล ไปเปิดประตูระบายน้ำให้ด้วย มีเล่นเกมส์การเมือง หาเสียงล่วงหน้าอีกต่างหาก หาว่า กทม ไม่ห่วงประชาชน เอาแต่ห่วงนิคมอุตสาหกรรม

[halfmoon]

ก็คงมีสภาพและสภาวะอย่างนี้แหละกระมั้ง ท่านดอกเตอร์พิจิตต จึงได้รับเชิญ ให้มาช่วยแก้ปัญหาอันฉุกละหุกโดยปลอดการเมือง