55 ความเห็นในกระทู้นี้

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550
ม.68 วรรค2

ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าวย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการดังกล่าว


นี่ไงกฏหมายหลักบอกว่ามีอำนาจให้เลิก ไม่ใช่ระงับชั่่่่วคราว และตามหลักการคือต้องมีอัยการตรวจสอบกลั่นกรองสำนวนคดีครั้งนึงก่อน
นี่อะไรอยู่ๆ รังเอง แล้วสั่งระงับเองเฉย

แล้วตอนนี้ศาลท่าน"สั่งเลิก"ร่างแก้ไขรธน.ของพวกคุณไปเลยหรือเปล่าล่ะ?
ว่ากันตรงนี้ก่อน อย่าจินตนาการเลอะเทอะไปไกล ขี้เกียจเปลี่ยนผ้าปูบ่อยๆ

[zeedzaad]

อ่านหนังสือไม่แตกเพราะไม่ชอบอ่านหนังสือ

เฮ้อ

[คนกรุงธน]

เรื่องของเรื่องมันไม่ได้มีอะไรมากมาย...

ก็แค่พวกที่จะแก้ไข หรือยกร่าง รธน.มันก็ไปอธิบายให้ศาลท่านฟัง ก็แค่นั้นเอง

...มันเป็นhereอะไรกันนักหนา...

...แต่ทีมกฎหมายมัน(พรรคเพื่อทุย)แม่มมันก็มีแต่โง่ๆทั้งนั้น สู้คดีทีไรแพ้ทุกที แม้แต่ทนายมันเองยังติดคุกเลย...

ในกระทู้นี้หลายๆคนก็อธิบายชัดเจนแล้ว มันก็ยังไม่เข้าใจ
ไอ้พวกแถๆน่ะ มันเป็นแค่
"นักอ่านกฎหมาย" เจือกจะมาตีความกฎหมาย
แล้วจะยังมีหน้าเจือกจะไปเถียง(คำสั่ง,คำวินิจฉัย)ระดับผู้พิพากษา

กฎหมายจะไปตีความตามตัวหนังสือไม่ได้นะ ติดคุกกันมามากแ้ล้ว

[คนกรุงธน]

ยกเรื่องตั้งประเด็นมาก็มั่วๆตามประสาแกนนำเสื้อแดง
เอาเรื่องยุบพรรค มาปนกับเรื่อง ยกร่างรัฐธรรมนูญ

Edited by คนกรุงธน, 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:57.

[kop16]

พวกมัน อ่านหนังสือ เกิน 3 บรรทัดป่าว

ลองดูนะครับ คำว่า ยื่น อัยการตรวจสอบ และยื่นศาลรํฐธรรมนูญน่ะ อยู่บรรทัดที่ 4

เลยอ่านไม่รู้เรื่อง

[sudthorn]

เราว่า ความต่างมันอยู่ที่ กรณียุบพรรคนะมันมีกฎหมายลูก - พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่จะพิจารณาความผิดต้องเป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองก่อน แล้วดำเนินการผ่านอัยการสูงสุด ไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนที่ศาลรับฟ้องที่ ครม สภามีมติให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทั้ง ๆ ที่เรามีรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว มันชัดเจนว่าเป็นการล้มรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจโดยตรง เพราะจะยืนได้ ทั้งอัยการสูงสุด และศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง จึงเป็นอำนาจศาลที่จะรับไว้พิจารณาได้
ตามจิตสำนึกและข้อเท็จจริง รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่จะมีเพียงช่องทางเดียวหรือที่ร้องเรียนได้ และถ้าอัยการไม่สั่งฟ้องต่อศาลเยี่ยงคดีภาษีของคุณหญิงพจมาณและพี่ชายที่ไม่ยื่นต่อศาลฏีกา ทั้ง ๆ ที่ศาลต้นกับศาลอุทธรณ์ก็เห็นต่างกัน ยิ่งต้องพึ่งศาลฎีกา แต่เปล่าคงยอมรับเหตุผลที่แปลกแต่จริง เป็นคนใจบุญได้บริจาคเงินไปแล้ว แต่เราว่าความเป็นธรรมจะเกิดขึ้นเมื่อต้องพบกับพญายมราชคงตัดสินต่างกรรมต่างวาระ ฉะนั้นมันสมควรที่จะมีการคานอำนาจกัน เป็นของธรรมดาปกติ จะรอต่อไปมันก็จะสายเสียแล้ว
ด้วยเหตุด้วยผลที่เราคิดเรารับได้ครับผม ดูแล้วเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง และ ต่อคน 50 ล้านที่เหลือด้วยครับผม

Edited by sudthorn, 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:40.