เว้ย เฮ้ย...ลิ่วล้อมันออกมายอมรับว่าE NGO ไม่รู้เรื่อง....ตายๆๆๆๆๆๆๆๆ
#1
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:09
น้ำท่วมใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ที่สร้างความเสียหายอย่างแสนสาหัสทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทยเกือบทั่วประเทศ รวมถึงในเขตกรุงเทพมหานครในขณะนี้ นับเป็นสิ่งสามานย์ที่บ่งบอกและประจานความเลวร้าย และความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลภายใต้การนำของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างเป็นรูปธรรมอย่างที่สุด ยิ่งเมื่อสำรวจแล้วได้พบความเสียหายอย่างหนักหลายแสนล้านที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย ก็จะยิ่งพบว่า ยิ่งลักษณ์ ปราศจากคุณสมบัติของการเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีอย่างไม่มีข้อต้องสงสัยประการใด
แต่ที่หนักยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เมื่อยิ่งได้ยินคำแก้ตัวสารพัดแบบของยิ่งลักษณ์ ก็ยิ่งส่งผลให้สังคมไทยตระหนักได้ชัดยิ่งขึ้นว่า ยิ่งลักษณ์ ไม่มีความรู้ในการบริหารบ้านเมือง และความรู้ในการแก้วิกฤติของประเทศแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนจบจากภาควิชาบริหารรัฐกิจ (Public Administration) จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ Kentucky State University U.S.A.ซึ่งอาจแสดงได้ว่า เป็นการเรียนที่ประสบความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
ขอให้สังคมไทยเฝ้าติดตามคำแก้ตัว และการปัด***ให้พ้นตัวของ ยิ่งลักษณ์ ให้จงดี เพราะนับจากนี้ไปวิญญูชนไทยจะพบว่า ยิ่งลักษณ์ จะออกมาแก้ตัวแบบไร้สามัญสำนึกหนักยิ่งขึ้นเป็นลำดับ ตัวอย่างหนึ่งที่วิญญูชนประจักษ์แล้วคือ การที่องครักษ์พิทักษ์ยิ่งลักษณ์ นำโดย จารุพงษ์ เรืองสุวรรณ พยายามออกมาแสดงตนเป็นหนังหน้าไฟ ยอมบูชายันต์ตนเองเพื่อรับเคราะห์แทน ยิ่งลักษณ์ โดยยอมรับตรงๆ ว่า ยิ่งลักษณ์ไม่มีความรู้เรื่องการระบายน้ำ การสั่งเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาไม่เกี่ยวข้องกับ ยิ่งลักษณ์ ทั้งๆ ที่ความจริงคือ ยิ่งลักษณ์ สั่งเปิดประตูระบายน้ำโดยขาดการไตร่ตรองถึงผลดีผลเสียที่จะเกิดกับสังคม สุดท้าย ยิ่งลักษณ์ ก็สั่งให้ปิดประตูระบายน้ำ หลังจากเกิดความฉิบหายกับพื้นที่ของกรุงเทพฯ เป็นวงกว้าง
การออกมายอมรับความจริงเช่นนี้ มิใช่เรื่องที่วิญญูชนไทยประหลาดใจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา สังคมไทยประจักษ์ตลอดเวลาว่า ยิ่งลักษณ์ ไม่รู้เรื่องการบริหารบ้านเมืองแม้แต่น้อย ยิ่งเมื่อสังเกตจากคำพูดสารพัดสารพันที่หลั่งไหลออกมาจากปากของ ยิ่งลักษณ์ ก็ทำให้สังคมรับรู้ได้โดยไม่ยากว่า ยิ่งลักษณ์ มีสติปัญญาที่จะใช้สำหรับการบริหารบ้านเมืองมากหรือน้อยเพียงใด
อีกเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ยิ่งลักษณ์ ไร้ความสามารถในการบริหารจัดการวิกฤตการณ์ของประเทศคือ เธอไม่สามารถห้าม และลงโทษ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยของ ทักษิณ ชินวัตร ได้แม้แต่น้อย ยิ่งลักษณ์ ต้องไม่ปฏิเสธว่า สาธารณชนกล่าวขานกันอื้ออึงว่า การุณ โหสกุล วิชาญ มีนชัยนันท์ และจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ มีส่วนเกี่ยวพันกับการพังทำลายแนวคันกั้นน้ำในเขตตอนเมืองเชื่อมต่อกับเขตปากเกร็ด และการพังทำลายประตูระบายน้ำคลองสามวาตามลำดับ แม้ ส.ส.เพื่อไทย ทั้งสามจะไม่ได้ลงมือทำความเสียหายให้กับคันกั้นน้ำและประตูระบายน้ำด้วยตนเอง แต่ก็มีหลักฐานชัดเจนว่า ทั้งสามเข้าไปอยู่ในบริเวณเกิดเหตุ ดังนั้น ยิ่งลักษณ์ จึงปฏิเสธความรับผิดชอบเรื่องนี้ไม่ได้
ย้ำอีกครั้งว่า วิญญูชนไทยสามารถปรับตัวรับวิกฤติน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ได้ แต่ไม่สามารถทนรับการมีนายกรัฐมนตรีโง่เขลาเบาปัญญาได้ หากขืนปล่อยให้คนโง่บริหารประเทศต่อไปบ้านเมืองบรรลัยแน่นอน
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ตายสถานเดียว ประชาชน.......ลูกน้องมันฆ่า E-NGO ตายคาที่เลยนี่หว่า ถ้านิคมบางชัน ลาดกระบังท่วม ผมอยากให้ยื่นฟ้อง E- NGO ออกมาแก้ตัวอย่านึกว่าจะปัดความรับผิดชอบพ้นนะเว้ย
#2
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:10
#3
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:12
ปัด***ชัดๆ ตกลงเคยรับผิดชอบอะไรบ้าง
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#4
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:15
และก็แสดงว่าที่เสียหายไป 7 นิคม 8 แสนกว่าล้าน
เพราะความโง่ของ ปู EM ล้วนๆ ละซิ
#5
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:18
#6
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:20
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
#7
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:20
------------------------------
"คมทหารเฉือนคมการเมือง"
"ยิ่งลักษณ์" คนเก่งออกอาการ "ปัดความรับผิดชอบ" แล้วมั้ยล่ะ หนูเหนื่อย หนูตั้งใจทำงาน ๒๔ ชั่วโมง หนูขอความเห็นใจ หนูชักไม่สนุกแล้วนะ และหนูก็ไม่รู้เรื่องประตูน้ำ พี่ๆ ผู้มีบารมีในพรรคเขาสั่งให้หนูเปิดประตู หนูก็เปิด เปิดแล้วน้ำแตกพรูเข้าท่วมกรุงเทพฯ อาจท่วมหมดทั้ง ๕๐ เขต หนูก็ไม่รู้ ๑๒-๑๗ พ.ย.นี้ หนูจะไปประชุมเอเปกที่ฮาวาย หนูจะไปแสดงวิสัยทัศน์ผู้นำถึง "วิธีเอาอยู่" ให้แต่ละประเทศเขาฟัง!
พวกผู้นำเอเปกจะบอกเวลคัม หรือเวรกรรมก็ไม่รู้นะ รู้แต่ว่าการใช้อาญาสิทธิ์ตามกฎหมายพิเศษสั่งให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาให้ทะลักเข้ากรุงเทพฯ ชั้นในครั้งนี้
ความดี-ความชอบ "ถ้ามี" ยกให้ยิ่งลักษณ์ แม่ย่านางเหนือหัวคนในพรรค นปช.เพื่อไทยแต่ผู้เดียว
แต่ถ้าไม่มี...!?
มีแต่เสียงก่นด่ากับการเอาอำนาจนายกฯ มาเล่นแบบ "หนูไม่รู้" แล้วหนูก็สนุกกับอำนาจ สั่งไปเรื่อยจนน้ำเลื้อยไล่ตามมาจ่อคอหอยถึง ศปภ.ที่กระทรวงพลังงานขณะนี้ หนูไม่ต้องเครียด หนูไม่ต้องรับผิดชอบหรอก
เพราะพวก ลุง ป้า น้า อา หัวหงอก-หัวดำทั้งหลาย เขาตั้งคณะทำงานเป็น "ตุ๊กตาเสียกบาล" แทนให้แล้วตอนนี้!
ฉะนั้น ความวิบัติจากการปล่อยให้ชาวบ้านทุบประตูคลองสามวา และที่สั่งเปิดประตูให้น้ำไหลเข้ามาชั้นใน เป็นการเอาใจนักการเมืองในพื้นที่เลือกตั้งของพรรคนั้น
ยิ่งลักษณ์ไม่รู้เรื่องด้วยนะ...
เพราะยิ่งลักษณ์เป็น "นายกฯ ลอยตัว" น่ะ!
พื้นที่กรุงเทพฯ มี ๑,๕๖๘ ตารางกิโลเมตร แต่จะจมหมด หรือจะจมบางพื้นที่ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมที่เหลือในย่านนั้นด้วย ชะตาอนาคตก็ฝากไว้ที่คลองสามวา กับคลองหกวา รวม ๙ วานี่แหละ ซึ่งผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ก็อธิบายความสำคัญให้นายกฯ ทราบครั้งแล้ว-ครั้งเล่า
ถึงขนาด "สั่งด้วยวาจา" ครั้งแรก ผู้ว่าฯ จำต้องขัดคำสั่ง เพื่อเห็นแก่สถานการณ์รวมอันเลวร้าย-ถ้าเปิด แทนที่ยิ่งลักษณ์จะใคร่ครวญทวนทบ กลับเป็นคุณหนูไขลานให้พวกมังเกี้ยม-มังกือการเมืองในพรรค ส่งคำสั่งเป็น "ลายลักษณ์อักษร" (สำหรับมัดตัวเอง) ให้ผู้ว่าฯ กทม.ต้องทำ
ธ่อ...ก็คุณเธอประกาศใช้อำนาจพิเศษ เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่ผู้เดียว เมื่อสั่งแบบมีหลักฐานเช่นนี้ กทม.ก็จำต้องเปิดประตูให้น้ำไหลเข้า จะให้เข้ากี่เซน-กี่เมตรก็ช่างเถอะ ที่แน่ๆ จากการเปิดประตูนั้น
น้ำกรูเกรียวเข้าชั้นนอก-ชั้นใน ทั้งไชชอนขึ้นมาเป็นน้ำพุตามท่อระบาย วิภาวดีรังสิต "ทั้งสาย" กลายเป็นที่ประทับแม่พระคงคา อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิก็จงเตรียมรับมือกันไว้ เมื่อดูตามเส้นทางทัพ และเดาใจแม่พระคงคา รวมถึงนาคราชาที่ยกทัพมาสมทบทางบาดาล
"ทำเนียบรัฐบาล" เป้าหมายต่อไป!
ต่อให้ตั้งบังเกอร์สูงท่วมหัวรายรอบทำเนียบฯ อย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้ก็เหอะ แล้วคอยดูความอัจฉริยะเหนือ "การหยั่งคำนวณด้วยมนุษย์" ของกองทัพน้ำ จะเห็นเองว่า ไพร่พลน้ำแทงทะลุแนวต้านทานเข้ายึดชั้นในทำเนียบรัฐบาลได้ด้วยวิธีไหน?
ทุกคนในรัฐบาลตอนนี้อยู่ในสภาพ "ปากแข็ง-ตูดนิ่ม" โดยเฉพาะยิ่งลักษณ์ ไม่สนุกในอำนาจแล้ว อยากโบ้ยภาระให้คนอื่นมารับไปแบกแทน
แต่พวกชายกระโปรงกลัวตกเก้าอี้ ทำเป็นยกยอปอปั้น ห้อมล้อมตบไม้-ตบมือให้กำลังใจ...ยิ่งลักษณ์เก่ง ยิ่งลักษณ์เป็นเลิศในธรณี ยิ่งลักษณ์หามีหญิงใดเทียม ยิ่งลักษณ์ต้องอยู่ ยิ่งลักษณ์ สู้...สู้ เป็นนายกฯ ต่อไป!
ผมเพิ่งประจักษ์กับหู-กับตาตัวเองจากข่าวบ่ายวานนี้ (๒ พ.ย.๕๔) ว่าคนที่ซ่อนคมในฝัก คนที่รู้จักเล่นกับอำนาจโดยไม่เสียอำนาจ และคนที่สามารถสลายศาตราเป็นแพรพรรณได้ดีที่สุดในสถานการณ์นี้
คือ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา"!
"ขอให้รัฐบาลสั่งมา" ทหารทำหมด ไม่บ่น-ไม่ท้อ-ไม่แย้ง-ไม่แข็งต่ออำนาจ ถูกบางคนด่า บางคนค่อนแคะ...ทหารนิ่ง เอาไงสั่งมา ทำให้ได้ทั้งนั้น เต็มที่-เต็มร้อย ไม่กั๊ก-ไม่อู้ พร้อมจมอยู่-ลอยอยู่ คู่กับพี่น้องประชาชนในทุกทิศ-ทุกที่ ที่ "แม่ทัพหญิง" บัญชา
แต่นั่นก็สามัญ แต่ที่วิสามัญคือเมื่อวานอย่างที่ว่า ท่านที่ติดตามข่าวคงทราบ ปัญหาที่คลองสามวา ด้วยนักการเมืองพื้นที่ประจบเอาใจชาวบ้าน การทำความเข้าใจกับชาวบ้านไม่ให้พังประตูระบายน้ำจึงเป็นไปได้ยาก ถึงระดับรัฐบาลเองก็ไม่มีน้ำยา
มองตากันไป-มองตากันมา แต่ไม่มีใครกล้าพูดอย่างที่ใจคิด คือในความเป็นจริงวิกฤติบ้านเมืองเช่นนี้ ที่ไหนๆ เขาก็ต้องประกาศใช้ภาวะฉุกเฉิน แต่เมื่อเขาสอนให้นายกฯ หญิงพูดเก๋ๆ ว่า เราสู้กับน้ำ ไม่ได้สู้กับคน...ไม่ใช้ก็อย่าใช้ ใครเขาจะไปว่าอะไร
แล้วก็อย่างที่เกิดกับทุกแห่งเวลานี้ ฝูงชนสับสน-วุ่นวาย กูจะเอางี้ *คุณ*จะเอางั้น ตีกัน พังพนัง พังประตูกั้นน้ำกัน แล้วใครก็จัดการใครไม่ได้ ตำรวจน่ะเรอะ
เฮอะ...อย่าพูดดีกว่า!
พูดกันชัดๆ ในใจรัฐบาลตอนนี้ อยากโบ้ยปัญหาที่บริหารกันจนเละเทะให้ทหารแบก ก็มาดูกันนะครับว่า "ทหารอาชีพ" อย่างพลเอกประยุทธ์ เมื่อ "การทหาร" ใกล้ที่จะถูก "การเมือง" ลากเข้าไปทำหน้าที่ "ลาโง่" ช่วยแบกภาระ แล้วท่านจะใช้ "คมทหาร" เฉือน "คมการเมือง" อย่างไร?
คม "พลเอกประยุทธ์" คมเช่นนี้.......
"ปัญหาที่คลองสามวาที่มีการพยายามทำลายพนังกั้นน้ำ ผมไม่ได้ตำหนิใคร ซึ่งเขาเข้าใจว่าถ้ากั้นน้ำตรงนี้ได้ ระดับน้ำจะลดลงและน้ำจะท่วมน้อยลง แต่เบี่ยงน้ำไปแล้วก็ลดลงไม่ได้ ๑๐๐% มันก็ยังท่วมอยู่เหมือนเดิม แต่ความคุ้มค่าการที่น้ำเข้ามาในพื้นที่ กทม.มากๆ จะทำให้น้ำท่วมทั้ง ๕๐ เขต หรือเข้าไปในนิคมบางชัน อาจจะทำให้หนักกว่าเดิม
ดังนั้นจะต้องดูว่าจะดูแลกันอย่างไร คิดว่าฝ่ายการเมืองคงจะดำเนินการ ผมไม่อยากไปก้าวก่าย ส่วนการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น การใช้กฎหมายมีอย่างเดียว คือการบังคับใช้ว่าทำอย่างไรไม่ให้คนทำลายพนังกั้นน้ำ คือการเอากำลังไปต่อสู้กับประชาชน ยกตัวอย่างเมื่อเดือนเมษา-พฤษภาที่ผ่านมา ไม่ให้ประชาชนออกมาชุมนุมในพื้นที่ที่กำหนด ก็จำเป็นจะต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เช่นเดียวกันต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในการห้ามประชาชนเข้ามารื้อคันกั้นน้ำ ซึ่งการเผชิญหน้ากันจะต้องสู้กันอย่างเมื่อวันก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดันกับประชาชน
สรุปว่าชาวบ้านก็ดันแนวทะลุ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำรุนแรงไม่ได้ กฎหมายปกติกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ต่างกัน การขัดขวางการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ "ผิดกฎหมาย" อยู่แล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าจะต้องรับผิดชอบก็จะต้องเอากฎหมายปกติ ถ้าใช้คนไม่ได้ก็จะต้องมีกระบี่กระบองไปสู้กัน หรือใช้มาตรการป้องกัน หรือมาตรการการปราบจลาจลในทำนองนั้น โดยตั้งแนวเจ้าหน้าที่ไม่ให้ชาวบ้านเข้ามา
แล้วท้ายที่สุดก็จะตีกัน ก็จะกลับไปเหมือนวงรอบเก่า เพราะตัวอย่างมีมาตลอด ๒ ปีที่ผ่านมา นั่นคือการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่มีประโยชน์ มันก็มีประโยชน์ แต่ถ้าใช้กันจะทำให้ทะเลาะเบาะแว้งไปเรื่อยๆ ปัญหาคือ แล้วเราจะอยู่กันด้วยการใช้กฎหมายให้มันแรงขึ้นไปเรื่อยๆ จนหาทางออกไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะถูกสั่งมา ประเทศไทยจะอยู่กันแบบนี้หรือเปล่า? ผมไม่เข้าใจ...สิ่งที่สำคัญคือ จะต้องให้ความรู้กับประชาชนให้รู้จักเสียสละ รู้จักให้-รู้จักรับ และรู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบประเทศไทย ถ้าอยู่กันด้วยกันกฎหมาย คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ จากน้ำท่วม เมื่อจบแล้วก็คงตีกันเรื่องอื่น ก็จะต้องมาบังคับใช้กฎหมาย
อยากถามว่า...วันนี้ประชาชนยอมรับกฎหมายเท่าไหร่ อยากถามว่า...มันผิดกฎหมายหรือไม่ มันก็ผิดกันทั้งหมด จะเอาจับติดคุกให้หมด ที่ทำลายพนังคันกั้นน้ำ มีรูปอยู่แล้ว ไปจับมาดำเนินคดี สิ่งนี้ทำได้หรือไม่...ก็ทำไม่ได้ ถ้าใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ก็ถูกบังคับให้ต้องทำ ท้ายที่สุดก็จะต้องตีกับประชาชน และจะได้อะไรมา แต่ผมคิดว่า..ไม่ได้ เมื่อติดคุกก็จะต้องมีการประกันตัว สถานการณ์ก็จะกลับไปวงรอบเก่า”
ครับ..อย่างนี้เรียกว่า "ฉลาดเป็นกรด" เป็นกรดด้วยส่วนผสมลงตัวระหว่างบู๊กับบุ๋น ก็ค่อยหายใจโล่งอกขึ้นหน่อยที่บ้านเมืองมีทหารที่ "เข้าใจอำนาจ-เข้าใจประชาชน" ได้แบบหยิน-หยาง
ถ้างั้นก็...๑๒-๑๗ พ.ย.นี้ ยิ่งลักษณ์ฉวยโอกาสประชุมเอเปก "ลี้ภัยความรับผิดชอบ" ไปแอ่นระแน้ที่ฮาวาย หรือจะแอบพบพี่ชายตัวดีด้วยก็ได้...รีบไปเถอะ
อยู่ก็รำคาญหู-รำคาญตาชาวบ้านที่หลงเชื่อว่า "เอาอยู่" แล้วมิดหัวเปล่าๆ แต่ที่คุยว่าจะแสดงวิสัยทัศน์ให้แต่ละประเทศเชื่อมั่นไทยด้วย "เอาอยู่โมเดล" นั้น...ไหว้ล่ะ ไม่ต้องก็ได้
ขึ้นไปอ่านผิดๆ ถูกๆ "ขายขี้หน้าประเทศ" เค้าน่ะ!
Source: http://thaipost.net/news/031111/47538
#8
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:23
#9
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:27
#10
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:30
เวลาขอส้อมเพิ่ม น่ะหวาดเสียวภาษาอังกฤษปูจริงๆ
#11
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:33
#12
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:36
เขาเขียนก็ถูกนิ. ยังดีกว่าควายประจำขาประจำ แนวหน้า ..
#13
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:50
-----------------------
'นายกฯ-ผู้ว่ากทม.'ถกน้ำท่วม
วันที่ 4 พ.ย.54 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เดินทางถึงสำนักการระบายน้ำกทม. ประชุมและเมินสถานการณ์น้ำท่วม โดย นายสัญญา ชีนิมิตร ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม. ได้รายงานสถานการณ์น้ำว่า ปีนี้น้ำเยอะมาก เหนือการควบคุมบางส่วน ฝั่งตะวันตกไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด ทั้งนี้บรรยากาศที่ประชุมเริ่มตึงเครียด และเห็นภาพชัดเจนว่าหน่วยงานรัฐไม่ค่อยกินเส้นกัน โดยกรมชลประทานได้ยืนยันว่าไม่มีหนังสือขอเครื่องสูบน้ำ หวั่นผู้ว่าฯกทม.ให้ข่าวเสียหาย ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่าไม่ได้ดูหมิ่นกรมชลฯ และยืนยันว่าส่งหนังสือถึงศปภ.แล้ว โดยนายกฯก็ได้ตัดบท บอกทุกฝ่ายมีจุดประสงค์เดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ เชื่อว่า น้ำจะท่วมหมด แต่ ผู้ว่าฯ กทม.ยังมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วมทั้งเมือง แม้ว่าระบบระบายน้ำกทม.ไม่ได้สร้างเพื่อรองรับน้ำจากเหนือไหลลงใต้ แต่กทม.เร่งจับมือทุกหน่วยงานแก้จุดอ่อนนอกปริมณฑล เนื่องจากขณะนี้เครื่องสูบน้ำล้า หลังเปิดตลอด 24 ชม.มาหลายวัน ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. ระบุ เร่งจนท.คุมมวลชน หวั่นกระทบ 50 เขตเสี่ยงท่วม เชื่อหากคุมได้กรุงเทพฯจะรอดหลายเขต
Source: http://www.komchadlu...7%E0%B8%A1.html
#14
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:10
คุณ thanong คงหมายถึง ตัวเค้าเองมั้งครับ ที่เป็นขาประจำแนวหน้าเขาเขียนก็ถูกนิ. ยังดีกว่าควายประจำ
ขาประจำ แนวหน้า ..
#15
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:33
ชอบมากที่ผู้ว่ากทม. บอกให้ทำหนังสือเรื่องเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวา สงสัยว่าแพะที่ชื่อ "ผู้ว่า กทม." จะเชือดไม่ง่ายแล้วหล่ะครับ
#16
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:34
ชาวบ้านเฮ!! เลิกปิดถนน หลัง จนท.เปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาแล้ว ตามคำสั่งนายกฯ
#17
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:46
#18
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:07
สั้นๆ ง่ายๆ
#19
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:24
http://www.matichon....atid=&subcatid=
พื้นที่"ไข่ขาว"จ่อวิกฤต "ขาใหญ่"ทำคนฝั่งธนฯอ่วม
วันที่ 04 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 11:09:09 น.
ในขณะที่รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นำโดย "ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)" ประโคมข่าว-ให้ความหวังอยู่ตลอดเวลาว่าจะระดมทุกสรรพกำลังป้องกันพื้นที่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ชั้นใน ในฐานะพื้นที่ "ไข่แดง" ของประเทศเอาไว้ให้ได้
คน กทม.ทั้ง 50 เขต จึงคาดหวังไปว่ากลางมหาอุทกภัยครั้งนี้จะยังสามารถใช้ชีวิตตามปกติ-เดินตัวแห้งต่อไปได้
แต่ เมื่อพ้นช่วงวิกฤตน้ำทะเลหนุนสูงสุดปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แล้วความจริงปรากฏว่า พื้นที่ที่รัฐบาล-ศปภ. สามารถ "เอาอยู่" มีเพียง กทม.ชั้นในไม่กี่เขตเท่านั้น
ขณะที่พื้นที่ กทม.ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกส่วนใหญ่ กลายเป็น "ไข่ขาว" ที่ภาครัฐรับมือพอเป็นพิธี
ไม่ น่าแปลกใจที่เขตสายไหม หนองจอก มีนบุรี ในเวลานี้ ต้องรับน้ำที่ถูกบิดเบือนไม่ให้วิ่งตามธรรมชาติ หรือไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ นั่นคือเขตหลักสี่ จตุจักร ดินแดง ไปเต็มๆ
จนถูกวิจารณ์เรื่องแบ่งแยกแล้วปกครอง-2 มาตรฐาน-เกิดโซน "ไพร่" และ "อำมาตย์" ในทางปฏิบัติ
กรณี ชาวบ้านเขตคลองสามวามารวมตัวกันกดดันให้รัฐบาลเปิดประตูระบายน้ำ ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการความอัดอั้น-ไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดทั้งๆ อยู่ในเมืองหลวงเหมือนกัน แต่กลับ "ท่วมไม่เท่ากัน"
ที่หนักไปกว่า กทม.ฝั่งตะวันออกไกล คือ กทม.ฝั่งตะวันตก หรือฝั่งธนบุรี ในพื้นที่ซึ่งชาวบ้านแอบเย้ยหยันตัวเองว่าเป็น "ลูกเมียน้อย" ที่เวลานี้ต้องเผชิญกับมวลน้ำมหาศาลก้อนเดียวกันกับที่เคยทำให้ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จมบาดาลในชั่วข้ามคืน
เหตุ ที่ชาวฝั่งธนฯรวมถึงคนจังหวัดใกล้เคียง ทั้ง จ.นครปฐม และสมุทรสาคร ต้องนอนหวาดผวากับน้ำทุ่งที่มีปริมาตร 2,700 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่เตรียมไหลหลากมาอย่างเงียบเชียบ เพื่อกลืนกินชีวิตประจำวันของพวกเขา
เชื่อกันว่ามี "ตัวการ" เป็นนักการเมือง "ขาใหญ่" 2 คน
"ขา ใหญ่เบอร์หนึ่ง" เป็นผู้ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แต่มีอิทธิพลเหนือกรมชลประทาน สามารถกดปุ่มให้จังหวัดบ้านเกิดตัวเองไม่ต้องเผชิญกับวารีภัยในช่วงเวลาที่ ผ่านมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
"ขาใหญ่เบอร์สอง" เป็นรัฐมนตรีที่มีบทบาทสำคัญใน ศปภ. ซึ่งน่าจะไม่พอใจพฤติกรรมของขาใหญ่เบอร์หนึ่ง จึงตัดสินใจเปิดประตูระบายน้ำสำคัญแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ตามคำแนะนำของนักวิชาการ เป็นเหตุให้น้ำทะลักเข้ามาใน จ.ปทุมธานี และนนทบุรีอย่างควบคุมไม่ได้
ผลสุดท้ายจึงลงเอยที่หายนะ!
ไม่ เพียงพฤติกรรมของนักการเมืองบางคน สภาพพื้นที่ฝั่งธนฯยังต่ำด้วยทำให้ประสิทธิภาพการเทน้ำทิ้งทะเลด้อยกว่าอีก ฝั่งอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีเพียงคลองพระยาบันลือ คลองพระพิมล และคลองมหาสวัสดิ์ ที่คอยขวางทางและส่งน้ำไปยังแม่น้ำท่าจีน สภาพพื้นที่ซึ่งยังเป็นทุ่งและสวน
ถึงขนาด "ธีระ วงศ์สมุทร" รมว.เกษตรและสหกรณ์ จากพรรคชาติไทยพัฒนา ยอมสารภาพว่า เมื่อได้ท่วมแล้ว กว่าที่ กทม.ฝั่งเมืองหลวงเก่าจะแห้ง อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 40 วัน เพราะแม่น้ำท่าจีนมีศักยภาพในการระบายน้ำเพียงวันละ 40-50 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทำให้ รมว.เกษตรฯหลุดปากถามกลางวง ครม.ว่า "สะใจหรือยัง?" ก่อนเสนอตัวเข้ามาดูแลพื้นที่ "ไข่ขาว" ด้วยตนเอง
แม้ สถานการณ์จะร้ายแรงเข้าขั้นวิกฤต แต่ดูเหมือนแกนนำรัฐบาล-ศปภ.กลับไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร เห็นได้จากการให้สัมภาษณ์ของนายกฯที่พูดถึงพื้นที่ "กทม.ฝั่งลูกเมียน้อย" นี้แบบผ่านๆ ต่างกับ "กทม.ฝั่งลูกเมียหลวง" ที่อธิบายอย่างละเอียดยิบ
ผู้ สันทัดกรณีวิเคราะห์แรงจูงใจทางการเมืองว่า อาจมาจากการที่ ส.ส.กทม.ฝั่งธนบุรีทั้ง 9 คน ไม่มีใครสวมเสื้อแดงติดตรา "เพื่อไทย" แม้แต่คนเดียว ทำให้เครื่องไม้เครื่องมือในพื้นที่เหล่านี้ด้อยกว่าพื้นที่ที่มี ส.ส.พท.อยู่หลายเท่าตัว กระทั่งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ยังถูกดึงไปช่วยระบายน้ำอีกฝั่งจนหมด
ไม่ว่าข้อวิเคราะห์ดังกล่าวจะมีมูลความจริงกี่เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นความเห็นที่สะกิดใจ "ผู้ตกทุกข์" ฝั่งธนฯ เข้าเต็มๆ
สิ่ง ที่รัฐบาลโดย ศปภ.ต้องทำคือให้ความสำคัญกับพื้นที่นี้มากขึ้น ก่อนที่วันเพ็ญเดือนสิบสอง "น้ำจะนองเต็มตลิ่ง" ในเทศกาลลอยกระทงจะมาถึง
เพราะ ถึงเวลานั้น น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้ง ที่เคยจมระดับเข่า-เอว อาจจะพุ่งไปที่ระดับอก-หัว จนเป็นไปได้ที่อาจมีคนจมน้ำตายในบ้านพักของตัวเอง
อย่า แบ่งแยกการช่วยเหลือคน กทม.เป็นโซนไพร่-โซนอำมาตย์ หรือเลือกปฏิบัติ 2 มาตรฐานแบบที่เคยใช้โจมตีรัฐบาลชุดก่อนๆ เพราะจะทำให้วาทกรรมดังกล่าวย้อนกลับมาถล่ม-ทลายรัฐบาลเสียเอง!!!
#20
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:30
#21
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:39
#22
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:41
#23
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:07
4 พย. 2554 13:30 น.
นักวิชาการต่างชาติมองว่า ภัยพิบัติน้ำท่วมและความผิดพลาดในการรับมือ ทำให้รัฐบาลของนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสียหายเกินกว่าจะซ่อมได้ และหากมีการลงมติไม่ไว้วางใจ เธอคงไม่รอดแน่ เวบไซต์เวิลด์ โพลิติกส์ รีวิว ดอต คอม เผยแพร่คำสัมภาษณ์ของพอล แชมเบอร์ส หัวหน้านักวิจัยของสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยพายัพ เมื่อวาน ระบุว่า วิกฤติน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในหลายสิบปีทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองที่สั่นคลอนรัฐบาลที่เปราะบางของนส.ยิ่งลักษณ์ โดยศูนย์กลางการต่อสู้กันทางการเมืองครั้งนี้คือ การเผชิญหน้ากันระหว่างนายกฯยิ่งลักษณ์และฝ่ายบริหารของกรุงเทพมหานครภายใต้การนำของมรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร แชมเบอร์ส บอกว่า แม้รัฐบาลของยิ่งลักษณ์มีอำนาจเหนือฝ่ายบริหารของกทม.ในการตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อป้องกันน้ำท่วม แต่ดูเหมือนว่าเธอใช้อำนาจทางการเมือง เช่นสั่งเปิดประตูระบายน้ำเพื่อบรรเท่าน้ำท่วมในพื้นที่ผู้สนับสนุนทางการเมืองและมรว.สุขุมพันธ์ได้ย้ำว่าตามกฎหมายแล้ว ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ มีอำนาจในการสั่งปิดหรือเปิดประตูระบายน้ำ ขณะนี้นส.ยิ่งลักษณ์กำลังเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากถึงขั้นเริ่มมีการพูดคุยของคนวงใน ในพรรคเพื่อไทยแล้วว่า อาจจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายแชมเบอร์สอ้างว่าจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีสองคนบอกว่า อาจมีเวลาสองเดือนกว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายในการบรรเทาภัยพิบัติน้ำท่วม และพวกเขาคาดว่าเธอคงไม่สามารถรอดพ้นมติไม่ไว้วางใจ แชมเบอร์สบอกด้วยว่า ยังมีอีกความเป็นไปได้ว่ากทม.อาจจะยื่นฟ้องต่อนส.ยิ่งลักษณ์ที่ได้ดำเนินการเกินขอบเขตอำนาจตัวเอง แม้ว่าเรื่องนี้เป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น http://breakingnews....p?newsid=537489
#24
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:20
#25
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:01
นับเป็นข่าวดีหลังจากเป็นทุกข์เพราะน้ำท่วมผู้เชี่ยวชาญต่างชาติไม่เชื่อว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะอยู่รอด
4 พย. 2554 13:30 น.
นักวิชาการต่างชาติมองว่า ภัยพิบัติน้ำท่วมและความผิดพลาดในการรับมือ ทำให้รัฐบาลของนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสียหายเกินกว่าจะซ่อมได้ และหากมีการลงมติไม่ไว้วางใจ เธอคงไม่รอดแน่ เวบไซต์เวิลด์ โพลิติกส์ รีวิว ดอต คอม เผยแพร่คำสัมภาษณ์ของพอล แชมเบอร์ส หัวหน้านักวิจัยของสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยพายัพ เมื่อวาน ระบุว่า วิกฤติน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในหลายสิบปีทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองที่สั่นคลอนรัฐบาลที่เปราะบางของนส.ยิ่งลักษณ์ โดยศูนย์กลางการต่อสู้กันทางการเมืองครั้งนี้คือ การเผชิญหน้ากันระหว่างนายกฯยิ่งลักษณ์และฝ่ายบริหารของกรุงเทพมหานครภายใต้การนำของมรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร แชมเบอร์ส บอกว่า แม้รัฐบาลของยิ่งลักษณ์มีอำนาจเหนือฝ่ายบริหารของกทม.ในการตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อป้องกันน้ำท่วม แต่ดูเหมือนว่าเธอใช้อำนาจทางการเมือง เช่นสั่งเปิดประตูระบายน้ำเพื่อบรรเท่าน้ำท่วมในพื้นที่ผู้สนับสนุนทางการเมืองและมรว.สุขุมพันธ์ได้ย้ำว่าตามกฎหมายแล้ว ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ มีอำนาจในการสั่งปิดหรือเปิดประตูระบายน้ำ ขณะนี้นส.ยิ่งลักษณ์กำลังเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากถึงขั้นเริ่มมีการพูดคุยของคนวงใน ในพรรคเพื่อไทยแล้วว่า อาจจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายแชมเบอร์สอ้างว่าจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีสองคนบอกว่า อาจมีเวลาสองเดือนกว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายในการบรรเทาภัยพิบัติน้ำท่วม และพวกเขาคาดว่าเธอคงไม่สามารถรอดพ้นมติไม่ไว้วางใจ แชมเบอร์สบอกด้วยว่า ยังมีอีกความเป็นไปได้ว่ากทม.อาจจะยื่นฟ้องต่อนส.ยิ่งลักษณ์ที่ได้ดำเนินการเกินขอบเขตอำนาจตัวเอง แม้ว่าเรื่องนี้เป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น http://breakingnews....p?newsid=537489
#26
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:24
--------------------------------
Flood victims chide Thai PM over lack of aid
BANGKOK, November 3, 2011 (AFP) - Frustrated flood victims berated Thailand's under-pressure prime minister on Thursday during a visit to inundated areas of the capital Bangkok, one-fifth of which is now under water.
The authorities have advised more than one million people to evacuate but many have chosen to stay despite risks including electrocution, disease and lack of food and drinking water, complicating relief efforts.
Prime Minister Yingluck Shinawatra, facing the first major test of her fledgling leadership, visited flood victims in hard-hit Don Mueang district in northern Bangkok where she was rebuked by disgruntled residents.
"I don't know if you've come here to help or make the situation worse," shouted a woman who missed out on an aid package because supplies ran out.
During a boat tour of areas submerged by polluted floodwaters an elderly man told Yingluck: "You're here just for fun, not really to help, so don't come back!"
The sister of ousted premier Thaksin Shinawatra has been under intense pressure since taking office less than three months ago and has shown signs of emotional strain.
"I have a heavy heart seeing people suffer, while I have to coordinate with many people in my work, so it's stressful," she told reporters at the government's flood relief centre later in the day.
"Anyway I will work to the best of my ability and please be assured that all officials will comply," she added.
While the centre of the capital remains dry, some northern and western parts have been submerged in dirty water that is waist-deep or higher in places.
"In terms of area about 20 percent of the capital is under flood water but nobody knows the exact population affected," said a spokesman for the Bangkok Metropolitan Administration, Jate Sopitpongstorn.
"There are 11,000 evacuees living in temporary shelters across the city."
Nationwide, 437 people have been killed in the disaster, though so far there have been no official reports of deaths in Bangkok.
The authorities have issued an evacuation order for eight Bangkok districts out of a total of 50 in the capital, and for certain areas in four others.
The 12 districts have a combined official population of 1.7 million people -- far more than government shelters can accommodate.
Worst-hit residents have complained that their homes are being sacrificed to save downtown Bangkok's shopping malls, luxury hotels and the houses of the wealthy elite, triggering protests and the destruction of some dykes.
The authorities are attempting to drain the floods through waterways in the east and west of the sprawling metropolis, which is home to 12 million people.
Officials have vowed to do their utmost to protect the centre of Bangkok from inundation, but have been criticised for giving confusing information about the threat level for inner parts of the capital.
The floods -- caused by three months of unusually heavy rains and failure to release enough water from dams in the early part of the monsoon -- have damaged the homes and livelihoods of millions of people around the country.
Source: http://www.thaivisa....er-lack-of-aid/
#27
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:28
#28
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:56
ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติไม่เชื่อว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะอยู่รอด
4 พย. 2554 13:30 น.
นักวิชาการต่างชาติมองว่า ภัยพิบัติน้ำท่วมและความผิดพลาดในการรับมือ ทำให้รัฐบาลของนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสียหายเกินกว่าจะซ่อมได้ และหากมีการลงมติไม่ไว้วางใจ เธอคงไม่รอดแน่ เวบไซต์เวิลด์ โพลิติกส์ รีวิว ดอต คอม เผยแพร่คำสัมภาษณ์ของพอล แชมเบอร์ส หัวหน้านักวิจัยของสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยพายัพ เมื่อวาน ระบุว่า วิกฤติน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในหลายสิบปีทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองที่สั่นคลอนรัฐบาลที่เปราะบางของนส.ยิ่งลักษณ์ โดยศูนย์กลางการต่อสู้กันทางการเมืองครั้งนี้คือ การเผชิญหน้ากันระหว่างนายกฯยิ่งลักษณ์และฝ่ายบริหารของกรุงเทพมหานครภายใต้การนำของมรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร แชมเบอร์ส บอกว่า แม้รัฐบาลของยิ่งลักษณ์มีอำนาจเหนือฝ่ายบริหารของกทม.ในการตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อป้องกันน้ำท่วม แต่ดูเหมือนว่าเธอใช้อำนาจทางการเมือง เช่นสั่งเปิดประตูระบายน้ำเพื่อบรรเท่าน้ำท่วมในพื้นที่ผู้สนับสนุนทางการเมืองและมรว.สุขุมพันธ์ได้ย้ำว่าตามกฎหมายแล้ว ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ มีอำนาจในการสั่งปิดหรือเปิดประตูระบายน้ำ ขณะนี้นส.ยิ่งลักษณ์กำลังเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากถึงขั้นเริ่มมีการพูดคุยของคนวงใน ในพรรคเพื่อไทยแล้วว่า อาจจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายแชมเบอร์สอ้างว่าจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีสองคนบอกว่า อาจมีเวลาสองเดือนกว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายในการบรรเทาภัยพิบัติน้ำท่วม และพวกเขาคาดว่าเธอคงไม่สามารถรอดพ้นมติไม่ไว้วางใจ แชมเบอร์สบอกด้วยว่า ยังมีอีกความเป็นไปได้ว่ากทม.อาจจะยื่นฟ้องต่อนส.ยิ่งลักษณ์ที่ได้ดำเนินการเกินขอบเขตอำนาจตัวเอง แม้ว่าเรื่องนี้เป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น http://breakingnews....p?newsid=537489
อภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไงรัฐบาลก็รอดครับ หลับหูหลับตายกมือกันให้พรึ่บ อย่าไปคาดหวัง
ที่รัฐบาลนี้จะล้มจริง ๆ น่ะ ก็คือเมื่อไหร่ที่ ส.ส. เพื่อไทย ชี้นิ้วไปที่บรรหารในสภา เท่านั้นเอง
#29
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 16:07
ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติไม่เชื่อว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะอยู่รอด 4 พย. 2554 13:30 น. นักวิชาการต่างชาติมองว่า ภัยพิบัติน้ำท่วมและความผิดพลาดในการรับมือ ทำให้รัฐบาลของนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสียหายเกินกว่าจะซ่อมได้ และหากมีการลงมติไม่ไว้วางใจ เธอคงไม่รอดแน่
รู้จักเมืองไทยน้อยไปซะแล้ว
#30
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 16:21
โดยเฉพาะที่ปรึกษาต้องเป็นผู้วางแผนงานที่ยอดเยี่ยมและอัจฉริยะ
แต่สำหรับรัฐบาลนี้ ผมขอบอกคำเดียวสั้นๆว่า EPIC SUCK!!! สั้นๆได้ใจความครับ
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#31
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 17:22
พวกเสื้อแดง เค้าเลือกอีปูแหล ก็เพราะคิดว่า โคลนนิ่งไอ้แม้ว ก็ต้องได้รับคำแนะนำจากไอ้แม้ว และ บ้าน 111 พวกมันหลงในภาพมายา คิดว่า ไอ้แม้ว และ 111 คือคนเก่ง สุดท้าย พวกนี้ก็แนะนำให้อีปูแหล ตกน้ำป่อมแป๋ม เพราะไอ้แม้ว และบ้าน 111 นั้นไม่ได้เก่งอย่างที่สร้างภาพกัน อาศัยสื่อ และคิดว่า อีปูแหล ก็สามารถใช้สื่อสร้างภาพได้เหมือนไอ้แม้ว ซื้อสื่อก็แล้ว แต่ผลงานรอบนี้ มันเห็นคาตา ทั้งเรื่อง เปิดประตูระบายน้ำ และการให้สัมภาษณ์ ถึงสื่อจะแก้ตัวยังไง ก็กลายเป็นว่า สื่อบิดเบือน หมดความน่าเชื่อถือ เพราะอีปูแหล มันเข็นไปไม่ไหวจริงๆตามประวัติศาสตร์ ผู้นำส่วนใหญ่เขาไม่เก่ง แต่ที่เขามีอำนาจและบารมีได้ก็เพราะลูกน้องครับ
โดยเฉพาะที่ปรึกษาต้องเป็นผู้วางแผนงานที่ยอดเยี่ยมและอัจฉริยะ
แต่สำหรับรัฐบาลนี้ ผมขอบอกคำเดียวสั้นๆว่า EPIC SUCK!!! สั้นๆได้ใจความครับ
#32
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:04
เป็นอีกครั้งที่เห็นตามคุณบุ๊คมาร์คพวกเสื้อแดง เค้าเลือกอีปูแหล ก็เพราะคิดว่า โคลนนิ่งไอ้แม้ว ก็ต้องได้รับคำแนะนำจากไอ้แม้ว และ บ้าน 111 พวกมันหลงในภาพมายา คิดว่า ไอ้แม้ว และ 111 คือคนเก่ง สุดท้าย พวกนี้ก็แนะนำให้อีปูแหล ตกน้ำป่อมแป๋ม เพราะไอ้แม้ว และบ้าน 111 นั้นไม่ได้เก่งอย่างที่สร้างภาพกัน อาศัยสื่อ และคิดว่า อีปูแหล ก็สามารถใช้สื่อสร้างภาพได้เหมือนไอ้แม้ว ซื้อสื่อก็แล้ว แต่ผลงานรอบนี้ มันเห็นคาตา ทั้งเรื่อง เปิดประตูระบายน้ำ และการให้สัมภาษณ์ ถึงสื่อจะแก้ตัวยังไง ก็กลายเป็นว่า สื่อบิดเบือน หมดความน่าเชื่อถือ เพราะอีปูแหล มันเข็นไปไม่ไหวจริงๆ
ตามประวัติศาสตร์ ผู้นำส่วนใหญ่เขาไม่เก่ง แต่ที่เขามีอำนาจและบารมีได้ก็เพราะลูกน้องครับ
โดยเฉพาะที่ปรึกษาต้องเป็นผู้วางแผนงานที่ยอดเยี่ยมและอัจฉริยะ
แต่สำหรับรัฐบาลนี้ ผมขอบอกคำเดียวสั้นๆว่า EPIC SUCK!!! สั้นๆได้ใจความครับ
ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "
#33
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:33
พวกเสื้อแดง เค้าเลือกอีปูแหล ก็เพราะคิดว่า โคลนนิ่งไอ้แม้ว ก็ต้องได้รับคำแนะนำจากไอ้แม้ว และ บ้าน 111 พวกมันหลงในภาพมายา คิดว่า ไอ้แม้ว และ 111 คือคนเก่ง สุดท้าย พวกนี้ก็แนะนำให้อีปูแหล ตกน้ำป่อมแป๋ม เพราะไอ้แม้ว และบ้าน 111 นั้นไม่ได้เก่งอย่างที่สร้างภาพกัน อาศัยสื่อ และคิดว่า อีปูแหล ก็สามารถใช้สื่อสร้างภาพได้เหมือนไอ้แม้ว ซื้อสื่อก็แล้ว แต่ผลงานรอบนี้ มันเห็นคาตา ทั้งเรื่อง เปิดประตูระบายน้ำ และการให้สัมภาษณ์ ถึงสื่อจะแก้ตัวยังไง ก็กลายเป็นว่า สื่อบิดเบือน หมดความน่าเชื่อถือ เพราะอีปูแหล มันเข็นไปไม่ไหวจริงๆ
ตามประวัติศาสตร์ ผู้นำส่วนใหญ่เขาไม่เก่ง แต่ที่เขามีอำนาจและบารมีได้ก็เพราะลูกน้องครับ
โดยเฉพาะที่ปรึกษาต้องเป็นผู้วางแผนงานที่ยอดเยี่ยมและอัจฉริยะ
แต่สำหรับรัฐบาลนี้ ผมขอบอกคำเดียวสั้นๆว่า EPIC SUCK!!! สั้นๆได้ใจความครับ
เห็นด้วยครับ ผมว่าต่อให้สร้างภาพยังไง พวกที่เป็นสาวกที่บ้าเข้าเส้นก็เชื่อครับ
แต่ถ้าเป็นสาวกที่มีสติ ยังไงเขาก็ถอยห่างแหละครับ
แต่ผมพูดตามตรงนะ รัฐบาลสมัยทักษิณก็ไม่ได้เรื่องจริงๆ นโยบายหลายอย่าง Fail เพียบ มีดีน้อยมากๆ
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#34
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:19
สื่ิอต่างประเทศประจานซะ น่าอายไปทั่วโลกเลยนะเนี่ยไหน ๆ ก็มีการแปะข่าวหลายชิ้นในกระทู้นี้แล้ว ขอโอกาสแปะอีกอันไปเลย ชิ้นนี้เป็นข่าว AFP เมื่อวาน ซึ่งรายงานว่า ตอน e-ปูโง่ ไปแจกของเมื่อวานแถวดอนเมือง มีชาวบ้านบางคนออกมาสรรเสริญ e-ปูโง่ กันอย่างเอิกเกริก
--------------------------------
Flood victims chide Thai PM over lack of aid
BANGKOK, November 3, 2011 (AFP) - Frustrated flood victims berated Thailand's under-pressure prime minister on Thursday during a visit to inundated areas of the capital Bangkok, one-fifth of which is now under water.
The authorities have advised more than one million people to evacuate but many have chosen to stay despite risks including electrocution, disease and lack of food and drinking water, complicating relief efforts.
Prime Minister Yingluck Shinawatra, facing the first major test of her fledgling leadership, visited flood victims in hard-hit Don Mueang district in northern Bangkok where she was rebuked by disgruntled residents.
"I don't know if you've come here to help or make the situation worse," shouted a woman who missed out on an aid package because supplies ran out.
During a boat tour of areas submerged by polluted floodwaters an elderly man told Yingluck: "You're here just for fun, not really to help, so don't come back!"
The sister of ousted premier Thaksin Shinawatra has been under intense pressure since taking office less than three months ago and has shown signs of emotional strain.
"I have a heavy heart seeing people suffer, while I have to coordinate with many people in my work, so it's stressful," she told reporters at the government's flood relief centre later in the day.
"Anyway I will work to the best of my ability and please be assured that all officials will comply," she added.
While the centre of the capital remains dry, some northern and western parts have been submerged in dirty water that is waist-deep or higher in places.
"In terms of area about 20 percent of the capital is under flood water but nobody knows the exact population affected," said a spokesman for the Bangkok Metropolitan Administration, Jate Sopitpongstorn.
"There are 11,000 evacuees living in temporary shelters across the city."
Nationwide, 437 people have been killed in the disaster, though so far there have been no official reports of deaths in Bangkok.
The authorities have issued an evacuation order for eight Bangkok districts out of a total of 50 in the capital, and for certain areas in four others.
The 12 districts have a combined official population of 1.7 million people -- far more than government shelters can accommodate.
Worst-hit residents have complained that their homes are being sacrificed to save downtown Bangkok's shopping malls, luxury hotels and the houses of the wealthy elite, triggering protests and the destruction of some dykes.
The authorities are attempting to drain the floods through waterways in the east and west of the sprawling metropolis, which is home to 12 million people.
Officials have vowed to do their utmost to protect the centre of Bangkok from inundation, but have been criticised for giving confusing information about the threat level for inner parts of the capital.
The floods -- caused by three months of unusually heavy rains and failure to release enough water from dams in the early part of the monsoon -- have damaged the homes and livelihoods of millions of people around the country.
Source: http://www.thaivisa....er-lack-of-aid/