หลุดภาพชายชุดดำในกลุ่มคนเสื้อแดง!
#1
Posted 26 June 2012 - 12:00
เฮ้อออออ อะไรอะไรก็กู! .......
#2
Posted 26 June 2012 - 12:18
#3
Posted 26 June 2012 - 12:20
เริ่มมีความชัดเจน ขึ้นมาเป็นลำดับ ตั้งแต่มีการจับกุม "สุรชัย เทวรัตน์" หรือหรั่ง ลูกน้องคนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง !?!
ภาพโครงข่ายนักรบชุดดำที่เข้าไปเกี่ยวพันกับการก่อการร้ายในรูป แบบต่างๆ ตั้งแต่ก่อนการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ระหว่างการชุมนุมไปจนถึงหลังการกระชับพื้นที่ของทหาร ถูกขยายผ่านคำรับสารภาพของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในคนสนิทที่ถูกเรียกใช้ งานก่อความวุ่นวายไม่น้อยกว่า 8 ครั้ง 8 คดี
ปฐมบทที่นำมาสู่การจับกุมหรั่งครั้งนี้เกิดจากชุดสืบสวนกรมสอบสวนคดี พิเศษ (ดีเอสไอ) เริ่มปฏิบัติการล่อซื้ออาวุธสงครามจากสุรชัย เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2553
ปฏิบัติการนี้เป็นการขยายผลมาจากการล่อซื้ออาวุธสงครามจากหนึ่งในการ์ด เสื้อแดงที่สวนลุมไนท์บาซาร์ อันเป็นชนวนเหตุแห่งความแค้นเคืองที่บิ๊กทหารในกองทัพยศ พ.ต.ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับเสธ.แดงและคนไกลบ้านมีต่อตำรวจ
การจับกุมครั้งนั้นสอบสวนแล้วมีการซัดทอดไปถึง "สุรชัย" ในฐานะผู้ครอบครองอาวุธสงครามเอาไว้จำนวนมาก และพร้อมจะทยอยนำออกขายทอดตลาด หากมีผู้สนใจเสนอราคางามๆ
ข่าวว่าสุรชัยมีอาวุธสงครามให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 อาก้า เอ็ม 16 และลูกระเบิดขว้างนานาชนิด
ชุดสืบสวนดีเอสไอเริ่มหาเบาะแสและวางแผนล่อซื้อเมื่อสายลับสามารถติดต่อ หรั่งได้แล้ว นัดหมายซื้อขายอาวุธกันวันที่ 6-7 มิถุนายน 2553 แถว จ.ชลบุรี มีตั้งแต่เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ปืนเล็กยาว ลูกระเบิดขว้าง และเครื่องกระสุน ในราคา 1 แสนบาท แต่สายลับต่อรองจนราคามาอยู่ที่ 6 หมื่นบาท
แต่ระหว่างการล่อซื้อจะเกิดความผิดพลาดประการใดไม่ทราบได้ หรั่งระแคะระคายและเริ่มไหวตัว เขาเล็ดลอดการจับกุมไปได้อย่างหวุดหวิด ส่วนอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนจำนวนมากถูกดีเอสไอตรวจยึดเอาไว้ได้
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าอาวุธสงครามที่ยึดได้นั้น ไม่ใช่ลอตที่นักรบชุดดำปล้นไปตอนเกิดการปะทะกันระหว่างทหารกับกลุ่มผู้ ชุมนุมเสื้อแดงที่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 53 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาวุธปืนทาโว่ที่มีใช้ในกองทัพ
จึงมีคำถามตามมาว่าแล้วอาวุธส่วนนี้มาจากไหน และใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์มากมายขนาดนี้ ?
ตามแนวทางการสืบสวนของตำรวจ ดีเอสไอ และการข่าวของทหารที่วางสายเอาไว้เช่นกันพอสรุปได้ว่า อาวุธส่วนนี้ถูกส่งมาจาก พ.ต.คนหนึ่งใน จ.สระบุรี ผู้มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับเสธ.แดง
มีการวิเคราะห์และประเมินกันว่าน่าจะเป็นอาวุธที่อยู่ระหว่างการซ่อม บำรุง หรือบางชิ้นปลดประจำการแทงจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว แต่ยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ดี พ.ต.ผู้นี้อาจจะค่อยๆ ยักยอกเก็บเล็กผสมน้อยรวบรวมเอาไว้แล้วทยอยลำเลียงส่งให้กลุ่มนักรบชุดดำ
นั่นคือข้อสันนิษฐานที่เกิดจากแนวทางการสืบสวนที่มีอยู่ !?!
ส่วนอาวุธปืนอาก้าไม่ใช่อาวุธประจำกายส่วนใหญ่ของกองทัพ มีใช้เฉพาะหน่วยเท่านั้น สิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่เจ้าหน้าที่การข่าวจะคิดได้ คือ นำมาจากชายแดนไทย-กัมพูชา
ก่อนการชุมนุมใหญ่จะมีขึ้นในวันที่ 12 มีนาคม 2553 บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ คณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศให้กรุงเทพฯ และปริมณทล 7 จังหวัด เป็นพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคง ระหว่างวันที่ 11-23 มีนาคม 2553 และ 7 เมษายน 2553 จึงตัดสินใจยกระดับให้เป็นพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในหลายพื้นที่
ระหว่างนี้เองที่เจ้าหน้าที่การข่าวมั่นใจว่า พ.ต.ผู้นี้ลักลอบทยอยนำอาวุธสงครามขึ้นรถยนต์ส่วนตัวจากสระบุรีมุ่งหน้าเข้า กรุงเทพฯ เพราะเป็นนายทหารสัญญาบัตรจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะผ่านด่านตรวจค้นที่มี อยู่หนาตาได้อย่างสะดวกสบาย
...กลับมาที่การล่อซื้ออาวุธหลังจากสุรชัยรอดพ้นการจับกุมได้เฉียดฉิว เขาหนีออกนอกประเทศไปกบดานอยู่ที่กัมพูชา แต่ช่วงนั้นชุดสืบสวนดีเอสไอยังไม่ทราบว่าหลบอยู่ที่ไหน จึงเฝ้าจับตาภรรยาของหรั่งและกิ๊กสาวอีก 2 คน กิ๊กคนแรกคือ น.ส.สุ ส่วนอีกคนคือ น.ส.เอ
สุรู้จักกับหรั่งตั้งแต่มีการชุมนุมที่แยกคอกวัว ส่วนเอเพิ่งเริ่มสนิทสนมกับหรั่งช่วงหลังการชุมนุมแล้วหนีไปอยู่ด้วยกันที่ จ.ชลบุรี ชุดสืบสวนพยายามเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวทุกด้าน ไม่นานหรั่งก็ติดต่อกับกิ๊กสาวคนหนึ่งบอกว่า กลับมาเมืองไทยแล้ว อยู่ที่ จ.ลพบุรี ดีเอสไอจึงประสาน บก.ตปพ.นำกำลังอรินทราช 26 บุกเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด
นี่คือข้อมูลที่ชุดสืบสวนมีอยู่เกี่ยวกับเส้นทางอาวุธยุทโธปกรณ์ของสุ รชัยและนักรบชุดดำ ส่วนรายละเอียดว่าเป็นของหน่วยงานไหน และจะสามารถดำเนินคดีกับ พ.ต.คนที่ว่าได้หรือไม่ แล้วอาวุธที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาอย่างไร ใครเป็นนายหน้า อยู่ระหว่างการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิด !?!
ไทยรัฐ - นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ นำอาวุธสงครามจำนวนมาก ที่อ้างว่าล่อซื้อได้จากนายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ ลูกน้องคนสนิท เสธ.แดงมาแถลงโชว์สื่อ พร้อมไขข้อข้องใจเหตุที่ล่อซื้อด้วยเงินแค่ 6 หมื่นบาท.
#5
Posted 26 June 2012 - 12:24
#6
Posted 26 June 2012 - 12:42
ทำไมผมอยากตบกบาลเจ้าของกระทู้มากกว่า หลักฐานเรื่องชายชุดดำมีเต็มไปหมดยังอุตสาหแกล้งโง่ได้อีกจับแม่งมาตบกะโหลกซักทีดิ
คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน
#7
Posted 26 June 2012 - 12:44
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน, bird, Kyubey and 1 other like this
#8
Posted 26 June 2012 - 12:45
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
#9
Posted 26 June 2012 - 12:50
ยิ่งนานวันคนเสื้อแดงยิ่งบิดเบือนเรื่องราวมากขึ้นทุกที
ยิ่งเรื่องลำดับเวลาเหตุการณ์ต่างๆเขาบิดชนิดว่าเรางง ภาพก่อนเกิดเหตุกับหลังเกิดเหตุก็ประสมกันมั่ว
กลายเป็นรัฐบาลเผาห้างให้เมียขวัญชัยปล้นเพชรซะงั้น (อันนี้มุกคุณอภิสิทธิ์บนเวทีปราศรัย)
- whiskypeak likes this
วิธีการยุติระบอบทักษิณ
ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"
#10
Posted 26 June 2012 - 12:54
#11
Posted 26 June 2012 - 13:04
" ประกาศบอยคอต ช่อง 3 ไม่ว่าจะข่าว ละคร หรือการ์ตูนลูก กรูไม่ดู !!! "
#12
Posted 26 June 2012 - 13:11
#13
Posted 26 June 2012 - 13:16
ว่าไม่มี อาวุธสงคราม
อยู่ในการชุมนุมเสื้อแดง
รู้จักคำว่า หน้าด้านไหม ถูกจับได้คาหนังคาเขา ยังมีหน้าตอแหลอีกว่า ไม่ได้ทำ ....
- idolation likes this
.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..
ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม
#14
Posted 26 June 2012 - 13:19
25 มิ.ย. 55
ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไต่สวนคำร้องการเสียชีวิตนัดแรก ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิตของ นายชาติชาญ ชาเหลา อายุ 25 ปี ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าอาคารอื้อจื่อเหลียง ในช่วงที่มีการสลายการชุมนุมของ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2553 โดยวันนี้ พนักงานอัยการ เตรียมพยานเข้าเบิกความจำนวน 2 ปาก ประกอบด้วย พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 นางพลอย ขบวนฮาม มารดาของ นายชาติชาย โดย พ.ต.อ.สืบศักดิ์ เบิกความปากแรก สรุปว่า ตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็น หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ชุดที่ 3 โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2554 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนมาให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลสอบสวน (บช.น.) สอบสวนต่อ เนื่องจากเชื่อว่า การเสียชีวิตของ นายชาติชาย เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งตนได้ทำหนังสือยื่นต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้ส่งพนักงานอัยการร่วมสืบสวนด้วย อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานเอกสารหลักฐาน ประจักษ์พยานแล้ว ไม่พบชายชุดดำปะปนกับผู้ร่วมชุมนุม จึงเชื่อว่า นายชาติชาย เสียชีวิต เนื่องจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ภายหลังศาลไต่สวนพยานปาก พ.ต.อ.สืบศักดิ์ เสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้ไต่สวน นางพลอย ต่อ และนัดไต่สวนครั้งต่อไป 23 ก.ค.นี้ และให้คู่ความทั้งสองฝ่าย ส่งเอกสารทั้งหมดให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติม
http://news.sanook.c...้อแดงเสียชีวิต/
เอาข่าวล่าสุดมาให้ดูกันชัดๆครับ
#16
Posted 26 June 2012 - 13:20
อยู่ดี ๆ ก็มาโชว์ความควายให้คนด่าเล่น
- แมวกระป๋อง likes this
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#17
Posted 26 June 2012 - 13:21
ศาลนัดไต่สวนคดีเสื้อแดงเสียชีวิต
25 มิ.ย. 55
ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไต่สวนคำร้องการเสียชีวิตนัดแรก ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิตของ นายชาติชาญ ชาเหลา อายุ 25 ปี ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าอาคารอื้อจื่อเหลียง ในช่วงที่มีการสลายการชุมนุมของ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2553 โดยวันนี้ พนักงานอัยการ เตรียมพยานเข้าเบิกความจำนวน 2 ปาก ประกอบด้วย พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 นางพลอย ขบวนฮาม มารดาของ นายชาติชาย โดย พ.ต.อ.สืบศักดิ์ เบิกความปากแรก สรุปว่า ตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็น หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ชุดที่ 3 โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2554 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนมาให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลสอบสวน (บช.น.) สอบสวนต่อ เนื่องจากเชื่อว่า การเสียชีวิตของ นายชาติชาย เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งตนได้ทำหนังสือยื่นต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้ส่งพนักงานอัยการร่วมสืบสวนด้วย อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานเอกสารหลักฐาน ประจักษ์พยานแล้ว ไม่พบชายชุดดำปะปนกับผู้ร่วมชุมนุม จึงเชื่อว่า นายชาติชาย เสียชีวิต เนื่องจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ภายหลังศาลไต่สวนพยานปาก พ.ต.อ.สืบศักดิ์ เสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้ไต่สวน นางพลอย ต่อ และนัดไต่สวนครั้งต่อไป 23 ก.ค.นี้ และให้คู่ความทั้งสองฝ่าย ส่งเอกสารทั้งหมดให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติม
http://news.sanook.c...้อแดงเสียชีวิต/
เอาข่าวล่าสุดมาให้ดูกันชัดๆครับ
อ่านแล้วน้องเข้าใจว่าไงรึ
อธิบายให้ฟังที
หรือว่าเห็นประโยคเดียวถูกใจก็คาบมาเห่าบ๊อก ๆ เลย
Edited by เพื่อนร่วมชาติ, 26 June 2012 - 13:22.
- whiskypeak likes this
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#18
Posted 26 June 2012 - 13:22
โพสแล้วหายหัว นี่ไอ้โป๊กอวตาลมาหรอวะ
นั่นสิครับ เบื่อพวกแบบนี้จริงๆ ไม่ชอบก็หัดกลางเรื่องยอมรับความจริงซะบ้าง
ยังไงเรื่องชายชุดดำนี่ก็ปฏิเสธการมีตัวตนอยู่จริงไม่ได้หรอกครับ
เมื่อน้ำค้างหยดหล่นบนดอกไม้
ลมรำเพยระเหยหายเมื่อใกล้สาง
กับชีวิตวันนี้ที่บอบบาง
เหมือนน้ำค้างระเหยหายด้วยสายลม
~¤ สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์ ¤~
#19
Posted 26 June 2012 - 13:25
#20
Posted 26 June 2012 - 13:31
Mon, 2012-06-25 22:08
25 มิ.ย. เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้อง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิตของนายชาติชาญ ชาเหลา อายุ 25 ปี ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าอาคารอื้อจื่อเหลียง ในช่วงที่มีการสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่ง ชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 13 พ.ค.53 ในสมัยรัฐบาลนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีโดยพนักงานอัยการเตรียมพยานเข้าเบิก 2 ปาก คือ พ.ต.อ. สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รองผบก.น.6 และนางพลอย ขบวนฮาม มารดาของนายชาติชาย โดย พ.ต.อ.สืบศักดิ์ เข้าเบิกความปากแรกสรุปว่า ตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ชุดที่ 3 โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ย.54 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนมาให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลสอบสวน (บช.น.) สอบสวนต่อ เนื่องจากเชื่อว่าการเสียชีวิตของนายชาติชายเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ของรัฐ จึงทำหนังสือยื่นต่อสำนักงานอัยการสูงสุดขอให้ส่งพนักงานอัยการร่วมสืบสวน คดีนี้ด้วย โดยผลการสืบสวนสรุปว่า คดีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. -19 พ.ค.53 โดยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) เริ่มชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน เพื่อขอให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ยุบสภา แต่รัฐบาลไม่ยอมทำตาม กลุ่มผู้ชุมนุมจึงขยายการชุมนุมไปหลายพื้นที่ รวมถึงแยกราชประสงค์ ซึ่งมีผู้มาร่วมชุมนุมจำนวนมาก นายอภิสิทธิ์จึงได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง แล้วออกคำสั่งตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยมีคำสั่งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีขณะนั้น เป็นผู้อำนวยการ และให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อระงับสถานการณ์รุนแรง รวมทั้งได้ประกาศห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ห้ามเข้าไปในพื้นที่การชุมนุม ห้ามเดินรถโดยสารบางพื้นที่ ห้ามให้บริการรถไฟฟ้าบางสถานี และตัดสาธารณูปโภค
พ.ต.อ. สืบศักดิ์ เบิกความต่อว่า ในวันเกิดเหตุวันที่ 13 พ.ค.53 ศูนย์ศอฉ.มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหาร เป็นผู้รับผิดชอบในการควบคุมสถานการณ์ โดยกองกำลังทหารชุดดังกล่าวประมาณ 165 นายได้ตั้งด่านแข็งแรงที่บริเวณสะพานลอยหน้าอาคารอื้อจื่อเหลียง มีอาวุธปืนเอ็ม 16 เอ็ม 653 เอชเค ปืนลูกซองกระสุนยาง กระสุนซ้อมรบ และกระสุนจริงประจำกาย ซึ่งนอกจากทหารแล้วผู้อื่นไม่สามารถเข้าไปในบริเวณนั้นได้ ขณะที่ผู้ชุมนุมจำนวนมากจากแยกถนนวิทยุมุ่งหน้าตรงเข้าหาด่านของทหาร โดยใช้พลุและตะไลยิงเข้าใส่ด่าน เจ้าหน้าที่ทหารจึงใช้ปืนยิงตอบโต้กระทั่งเวลาประมาณ 22.50 น. ขณะที่นายชาติชายซึ่งมาร่วมชุมนุมและถือกล้องวีดีโอยืนถ่ายภาพเหตุการณ์อยู่ หน้าบริษัทปริศนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ใกล้อาคารอื้อจื่อเหลียง ได้ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่หน้าผากด้านขวาทะลุศรีษะ 1 นัด เสียชีวิตที่รพ.จุฬา ภายหลังการเสียชีวิตพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน พร้อมด้วยแพทย์นิติเวช พนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพปรากฏว่า นายชาติชายถูกกระสุนความเร็วสูงยิงเข้าที่ศรีษะทำลายอวัยวะสำคัญเป็นเหตุให้ เสียชีวิต และจากการตรวจสอบพยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุพบเศษชิ้นเนื้อ เส้นผม คราบเลือดของผู้ตาย และเศษหัวกระสุนตกที่พื้นใกล้จุดที่นายชาติชาย ผู้ตายล้มลง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนตรวจพิสูจน์พบเพียงแค่รอยแนววิถีกระสุนที่นาย ชาติชายถูกยิง และยืนยันว่าเป็นกระสุนความเร็วสูง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นกระสุนชนิดใด เนื่องจากเศษกระสุนเสียสภาพมาก อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานเอกสารหลักฐาน ประจักษ์พยานแล้วไม่พบชายชุดดำปะปนกับผู้ร่วมชุมนุม จึงเชื่อว่านายชาติชายเสียชีวิตเนื่องจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ภายหลังศาลไต่สวนพยานปาก พ.ต.อ.สืบศักดิ์ เสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้ไต่สวนนางพลอยต่อ และนัดไต่สวนครั้งต่อไป 23 ก.ค. นี้ และให้คู่ความทั้งสองฝ่ายส่งเอกสารทั้งหมดให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติม
ด้านเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานการไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิต ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนการชันสูตร ศพ ของนายชาญณรงค์ พลศรีลา ผู้ร่วมชุมนุมในกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถูกยิงเสียชีวิตที่หน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ ซอยรางน้ำ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553
โดยในวันนี้พนักงานอัยการนำพยานเข้าเบิกความจำนวน 2 ปากประกอบด้วย นางศิริพร เมืองศรีนุ่น ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ และ นายไชยวัฒน์ พุ่มพวง ช่างภาพสำนักข่าวเนชั่น ซึ่งเคยได้รับบาดเจ็บจากการทำข่าวสถานการณ์การชุมนุม
นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความกล่าวภายหลังไต่สวนว่า วันนี้พยานคนแรกคือ นาง ศิริพร เมืองศรีนุ่น ขึ้นเบิกความถึงขั้นตอนระเบียบในการสลายการชุมนุม และคำสั่งของการปฏิบัติการของทหารในการสลายการชุมนุม ส่วนพยาน ปากที่ 2 นายไชยวัฒน์ เบิกความถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่าวิถีของกระสุนปืนถูกระดมยิงมาจากทางฝั่ง ที่มีทหารประจำการอยู่ และตัวของพยานเองก็โดนกระสุนยิงเข้าที่ขา และเห็นตอนนายชาญณรงค์ผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วย
ภายหลังเมื่อหมดเวลาราชการนายไชยวัฒน์ยังเบิกความไม่เเล้วเสร็จ ศาลจึงนัดไต่สวนอีกครั้งวันที่ 2 ก.ค.นี้ เวลา 09.00น. โดยอัยการจะนำพยานเบิกความในเพิ่มเติมอีก 3 ปาก คือ นายสรศักดิ์ ดุจปรีชา และนักข่าวอีก 2 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในที่เกิดเหตุ เเละนายไชยวัฒน์ มาเบิกความเพิ่มเติม รวมเป็น 4 ปากในครั้งหน้าด้วย
......................
ที่มา: เว็บไซต์เดลินิวส์, เว็บไซต์กรุงเทพธรกิจ
#21
Posted 26 June 2012 - 13:33
คุณ eAT ผมขออนุญาติเซฟข้อมูลเก็บไว้นะครับ....
อยู่ในเว็บเก่านะครับ
หรือดูได้ที่
http://apacnews.net/news/?p=23869
#22
Posted 26 June 2012 - 13:37
ศาลนัดไต่สวนคดีเสื้อแดงเสียชีวิต
25 มิ.ย. 55
ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไต่สวนคำร้องการเสียชีวิตนัดแรก ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิตของ นายชาติชาญ ชาเหลา อายุ 25 ปี ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าอาคารอื้อจื่อเหลียง ในช่วงที่มีการสลายการชุมนุมของ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2553 โดยวันนี้ พนักงานอัยการ เตรียมพยานเข้าเบิกความจำนวน 2 ปาก ประกอบด้วย พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 นางพลอย ขบวนฮาม มารดาของ นายชาติชาย โดย พ.ต.อ.สืบศักดิ์ เบิกความปากแรก สรุปว่า ตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็น หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ชุดที่ 3 โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2554 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนมาให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลสอบสวน (บช.น.) สอบสวนต่อ เนื่องจากเชื่อว่า การเสียชีวิตของ นายชาติชาย เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งตนได้ทำหนังสือยื่นต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้ส่งพนักงานอัยการร่วมสืบสวนด้วย อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานเอกสารหลักฐาน ประจักษ์พยานแล้ว ไม่พบชายชุดดำปะปนกับผู้ร่วมชุมนุม จึงเชื่อว่า นายชาติชาย เสียชีวิต เนื่องจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ภายหลังศาลไต่สวนพยานปาก พ.ต.อ.สืบศักดิ์ เสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้ไต่สวน นางพลอย ต่อ และนัดไต่สวนครั้งต่อไป 23 ก.ค.นี้ และให้คู่ความทั้งสองฝ่าย ส่งเอกสารทั้งหมดให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติม
http://news.sanook.c...้อแดงเสียชีวิต/
เอาข่าวล่าสุดมาให้ดูกันชัดๆครับ
อ่านแล้วน้องเข้าใจว่าไงรึ
อธิบายให้ฟังที
หรือว่าเห็นประโยคเดียวถูกใจก็คาบมาเห่าบ๊อก ๆ เลย
แบบMegaต้องเรียก ใจบอด เห็นแต่สิ่งที่อยากเห็น
อันไหนไม่ชอบ อยู่ตรงหน้าก็ไม่เห็น
ความเป็นกลางมันคือหลุมหลบภัยของคนขี้ขลาด - ชัย ราชวัตร
#23
Posted 26 June 2012 - 13:49
ท่านนี้เป็นพยานโจทย์ไม่ใช่หรือครับ การเบิกความของพยานโจทย์ ทั้งอาวุธปืนและวิถีกระสุน
ชี้นำให้สังคมมองว่าเป็นการกระทำของทหาร อีนิวส์ก็รีบรับลูกทันที สรุปเองทันทีว่าเป็นฝีมือทหาร
ทั้งที่เขาแบ่งให้เป็นพยานฝ่ายอัยการผู้ร้อง 17 นัด พยานฝ่ายผู้เสียหาย 15 นัด และศาล ยังต้องนัด
ไต่สวนพยานในวันที่ 9 ส.ค และนัดต่อในทุกวันพฤหัสบดี ให้ครบ 32 นัด เหมือนคุณเมกาเอาข่าวตามที่ตัวเองเชื่อ
แต่เป็นข่าวที่ยังไม่ครบ และศาลยังไม่ได้พิสูจน์ในรายละเอียดครบ มาสรุปเข้าข้างตัวเอง
คุณเมกาเข้าใจคำว่าข้อมูลและรายละเอียดอีกด้านไหมครับ ตรงนั้นมากกว่าที่จะเป็นเหตุผลขัดแย้ง
ต่อข้อมูลฝ่ายเดียวของคุณ และสามารถทำให้ผมคล้อยตามได้
คุณเมการู้ไหมว่า นายคำหล้า ชมชื่น ทำร้าย แย่งปืนไปจากทหาร และสารภาพว่า ได้นำไปร่วมก่อเหตุ
ในระหว่างการชุมนุมด้วย ซึ่งปืนกระบอกดังกล่าวได้ถูกค้นพบในวัดปทุม โดย นายคำหล้า ได้นำไปซุกซ่อนไว้
คุณเมกาคิดว่าประเด็นนี้ ขัดแย้งต่อการนำเสนอของพยานฝ่ายโจทย์ แค่ใหน เพียงใด และควรหรือไม่
ที่คุณเมกาจะรีบด่วนสรุป โดยที่ศาลยังไม่มีคำตัดสิน
- V.Junior for Vendetta, pream and whiskypeak like this
#24
Posted 26 June 2012 - 13:53
ผู้เสียชีวิตที่ 1 คือ นายสุวรรณ ศรีรักษา อายุ 30 ปี อาชีพเกษตรกร, นายอัฐชัยชุมจันทร์ อายุ 28 ปี บัณฑิตคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้เสียชีวิตที่ 2, นายมงคล เข็มทอง อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ผู้เสียชีวิตที่ 3, นายรพ สุขสถิต อายุ 66 ปี พนักงานขับรถรับจ้างในสนามบิน ผู้เสียชีวิตที่ 4, น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ25 ปี พยาบาลอาสา ผู้เสียชีวิตที่ 5
และนายอัครเดช ขันแก้ว อาชีพรับจ้าง ผู้เสียชีวิตที่ 6
พนักงานอัยการเตรียมพยานเข้าเบิกความ 7 ปาก โดยเฉพาะพ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รอง ผบก.น.6 ที่ได้ให้ข้อมูลในชั้นศาลอย่างมีนัยยะสำคัญ
พ.ต.อ.สืบศักดิ์เบิกความสรุปว่า คดีเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. ถึง 19 พ.ค. 2553 โดยกลุ่มนปช.เริ่มชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน เพื่อขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นลาออก แต่รัฐบาลไม่ยอมทำตาม พยานเบิกความต่อว่า จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงขยายการชุมนุมไปหลายพื้นที่ รวมถึงแยกราชประสงค์ มีผู้มาร่วมชุมนุมจำนวนมาก
นายอภิสิทธิ์จึงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และแต่งตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ขณะนั้นเป็น ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อระงับสถานการณ์รุนแรง รวมทั้งประกาศห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ห้ามเข้าไปในพื้นที่การชุมนุม ห้ามเดินรถโดยสารบางพื้นที่ ห้ามให้บริการรถไฟฟ้าบางสถานี และตัดสาธารณูปโภค
พ.ต.อ.สืบศักดิ์เบิกความอีกว่า ต่อมาวันที่19 พ.ค.2553 แกนนำนปช.ประกาศยุติการชุมนุมเวทีราชประสงค์ พร้อมทั้งประกาศให้ผู้ชุมนุมไปรวมตัวกันที่วัดปทุมฯ เพื่อรอเดินทางกลับบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐ 2 หน่วยงานลาดตระเวนบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน และบนสถานีรถไฟฟ้าสยาม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุเพลิงไหม้หน้าห้างสยามพารากอน ระหว่างนี้นายสุวรรณ หนึ่งในผู้เสียชีวิต กรณีวัดปทุม ที่กำลังต่อแถวเข้าห้องน้ำในวัดปทุมฯ ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ร่างกายเสียชีวิต ส่วนนายอัฐชัยถูกยิงขณะเดินข้ามถนนจากแยกเฉลิมเผ่ามาที่หน้าวัดปทุมฯในเวลาใกล้เคียงกัน นายรพ และนายมงคล ที่ยืนอยู่บริเวณประตูทางออกวัดปทุมฯ ถูกยิงเข้าที่ร่างกาย ส่วนน.ส.กมนเกด และนายอัครเดช เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ถูกยิงขณะก้มหลบกระสุนปืนบริเวณเต็นท์ภายในวัดปทุมฯ
รอง ผบก.น.6 เบิกความต่อว่า หลังเกิดเหตุนำศพทั้งหมดส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ พร้อมทั้งเชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจพิสูจน์นำศพทั้งหมดส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ พร้อมทั้งเชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจพิสูจน์วิถีกระสุนปืน พบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ศพ ยกเว้นนายอัฐชัย ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .223 หัวเขียว เป็นกระสุนที่ใช้กับปืนเอ็ม 16 และปืนทาโวร์ ที่ใช้ในราชการทหาร เข้าอวัยวะสำคัญเสียชีวิต โดยวิถีกระสุนเป็นการยิงจากบนลงล่างเท่านั้น จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ ที่ประจำรางรถไฟฟ้าให้การว่า มีชายชุดดำยิงปืนขึ้นมา จึงยิงตอบโต้ไป แต่จากการตรวจรอยวิถีกระสุนไม่พบการยิงจากล่างขึ้นบน นอกจากนี้ ภาพถ่ายของประจักษ์พยานนำมาให้เจ้าหน้าที่หลังเกิดเหตุ พบว่าบนรางรถไฟฟ้ามีเพียงเจ้าหน้าที่ประจำอยู่เท่านั้น ภายหลังศาลไต่สวน พ.ต.อ.สืบศักดิ์เสร็จสิ้นแล้ว ศาลนัดไต่สวนพยานครั้งต่อไปในวันที่ 9 ส.ค.เวลา 09.00 น. และนัดต่อเนื่องไปทุกวันพฤหัสบดี จนครบ 32 นัด แบ่งเป็นพยานฝ่ายอัยการผู้ร้อง 17 นัด และพยานฝ่ายผู้เสียหายอีก15 นัด โดยพลันที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวออกมาก็เป็นเวปไซต์คนเสื้อแดงอย่างไทยอีนิวส์ ที่หยิบฉวยไปนำเสนอ โดยการสรุปว่า 2ปีคดี6ศพวัดปทุมหลักฐานมัดคอ-รับสิ้นไส้ทหารฆ่า
การเบิกความของพ.ต.อ.สืบศักดิ์ ในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ ทั้งเรื่องวิถีกระสุน และอาวุธปืนที่นำมาใช้สังหารทั้ง 6 ศพ อาจทำให้สังคมเข้าใจว่าทหารเป็นฝ่ายกระทำ แต่สำนักข่าวที-นิวส์ก็อยากให้ได้พิจารณาข้อมูลต่อจากนี้อย่างละเอียด เนื่องจากเป็นข้อมูลข้อเท็จจริงอีกด้าน ที่อาจทำให้ความเข้าใจดังกล่าวนั้นเปลี่ยนไปคนละด้าน
ใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายสังหารประชาชน โดยเฉพาะเหตุการณ์ 6 ศพวัดปทุมฯ
เริ่มจากภาพของคนเสื้อแดงกำลังรุมทำร้ายทหารนายหนึ่ง เพื่อแย่งชิงปืนเอ็ม 16 โดยต่อมาสามารถสืบทราบหนึ่งในคนร้าย มีชื่อว่า นายคำหล้า ชมชื่น หลังจากแย่งปืนไปแล้ว นายคำหล้าก็นำอาวุธปืนเอ็ม 16 ของทหารไปก่อเหตุระหว่างการชุมนุมคนเสื้อแดง ต่อมาปรากฏว่าภายหลังการยุติการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ปืนกระบอกดังกล่าว ถูกค้นพบโดยเจ้าหน้าที่ ซึ่งถูกนำไปซุกซ่อนเอาไว้ภายในวัดปทุมวนาราม โดยหลังจากนั้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2553 เจ้าหน้าที่ก็สามารถตามจับกุมตัวนายคำหล้าได้สำเร็จ ขณะที่เจ้าตัวก็ยอมรับสิ้น ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ทำร้ายทหารเพื่อแย่งปืนเอามาก่อเหตุและนำไปซุกซ่อนที่วัดปทุมวนารามจริง ข้อมูลในส่วนนี้ อาจจะทำให้การรับรู้เรื่องการใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงสังหารผู้เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ของใครหลายๆคนเริ่มเปลี่ยนไป ภายใต้สมมติฐานที่ว่า ไม่เสมอไปที่การเสียชีวิตจากอาวุธปืนของทหาร จะเป็นทหารที่เป็นฝ่ายยิง เพราะอาวุธปืน ถูกขโมยไปโดยกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วน และที่สำคัญก็ต้องถามว่าคนเสื้อแดงขโมยปืนของทหารไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร และก็เป็นการง่ายถ้าหากจะนำไปใช้ก่อเหตุเพื่อโยนความผิดให้ทหาร กองกำลังชุดดำที่ออกปฏิบัติการณ์ในช่วงวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่นอกจากเสื้อยูนิฟอร์ม จะสลักชื่อและตราสัญลักษณ์ของนปช.อย่างชัดเจนแล้ว อาวุธปืนที่อยู่ในมือของคนกลุ่มนี้ ก็ล้วนเป็นปืนชนิดเอ็ม 16 ที่แย่งไปจากทหารทั้งสิ้น
ย้อนถอยหลังไปอีกหนึ่งวันก็คือวันที่ 9 เมษายน 2553 ในเหตุการณ์นปช.บุกสถานีดาวเทียมไทยคมลาดหลุมแก้ว ที่ปรากฏภาพการรุมทำร้ายทหาร และแย่งชิงอาวุธปืนไปนับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาแกนนำนปช.อ้างว่าได้มีการคืนอาวุธทั้งหมดให้ทหารแล้ว แต่ภายในสถานการณ์ที่ชุลมุน ก็ยังปรากฏภาพหลักฐานของการนำเอาอาวุธที่ขโมยไปได้ ไปซุกซ่อนและก่อเหตุแบบนี้ และที่ยืนยันว่าอาวุธที่ถูกขโมยไปได้ถูกนำไปใช้สร้างสถานการณ์ ด้วยการยิงผู้ชุมนุมแล้วโยนความผิดให้ทหาร ต้องลองพิจารณาด้วยเหตุและผล จากพื้นที่แนวปะทะบริเวณราชปรารภ ดังนี้
พื้นที่ปะทะบริเวณ ราชปรารภ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ก็คือนายชาญณรงค์ พลศรีลา ภาพที่เห็นเราจะเห็นแนวตั้งรับของทหารจุดสีน้ำเงิน ขยับขึ้นไปด้านบทก็จะมีแนวรั้วลวดหนาม แนวกองยางรถยนต์ของผู้ชุมนุม และตึกชีวาไท ซึ่งเป็นบริเวณที่นายชาญณรงค์ถูกยิงเสียชีวิต ถ้าลองสังเกตดีๆก็จะพบว่าด้านบนของตึกชีวาไท มีการกางเต้นท์ชั่วคราว พร้อมกับธงสีแดงที่ถูกปักเอาไว้
โดยในระหว่างที่เหตุการณ์กำลังชุลมุน ชายคนหนึ่งที่อยู่ด้านล่าง ฝั่งตรงกันข้ามตึกชีวาไท ซึ่งสวมชุดดำ และใส่ถุงมือสีขาว กำลังยื่นมือออกไป เพื่อกวักเรียก คนในกลุ่มให้กลับเข้ามายังที่ตั้ง
และในเวลาต่อมาก็มีการเผยแพร่คำบอกเล่าของช่างภาพอิสระคนหนึ่ง ซึ่งสามารถบันทึกภาพในพื้นที่เกิดเหตุว่า ผมเองในวันที่ 19 พ.ค.2553 ผมยืนอยู่ตรงจุดเผายาง ผมวิ่งหลบลูกกระสุนปืนไปมา ผมได้ยินสิ่งที่หัวหน้า ที่สั่งการ ขนยางและเผายาง พูดกับคนอื่นแถวนั้น ที่วิ่งกระเจิงหลังจากเห็นมือปืนบนตึกชีวาไทว่า เฮ้ยกลับมา พวกกูเอง พวกเราเอง ดูธงแดง เห็นไหมพวกเรา ถ้าเป็นทหาร พวกมึงตายห่าหมดแล้ว กลับมาๆ ไม่เฉพาะผู้ชุมนุมที่ตกเป็นเป้าโจมตีเพื่อสร้างสถานการณ์ ทหารเองก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน โดยก่อนที่ระเบิด อาวุธปืนจะพุ่งตรงไปที่ทหาร ก็ได้มีการใช้เลเซอร์ยิงระบุพิกัดเป้าหมายอีกด้วย
จากราชปรารภ เราไปดูพื้นที่บริเวณบ่อนกันบ้าง ก็ปรากฎภาพหลักฐานชายชุดดำพร้อมอาวุธสงครามที่วิ่งไปมาอยู่ภายในกลุ่มผู้ชุมนุม นี่คือภาพหลักฐานที่ยืนยันการขโมยอาวุธปืนของทหารไปก่อเหตุ โดยชายชุดดำส่วนประเด็นเรื่องวิถีกระสุนที่ยิงจากบนลงล่างก็มีคำอธิบายความอีกด้านดังนี้ แน่นอนว่าภาพทหารที่ประจำการอยู่บนรางรถไฟฟ้า ที่ถูกเผยแพร่อย่างกว้างของบนโลกอินเตอร์เน็ต ถูกนำมาเชื่อมโยง เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ว่าได้มีการยิงปืนมาจากรางรถไฟฟ้า เข้าใส่พื้นที่ด้านล่างก็คือวัดปทุมวนาราม แต่โดยข้อเท็จจริง ก็พบว่าบนพื้นที่รถไฟฟ้าไม่ได้มีเฉพาะทหารที่ปักหลักอยู่ เพราะสำนักข่าวต่างประเทศสามารถจับภาพกลุ่มกองกำลังชุดดำ ที่ขึ้นไปป้วนเปี้ยนอยู่พื้นที่ด้านบนของสถานีรถไฟฟ้าเหมือนกัน จากพื้นที่ด้านบน ก็คือรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงมาดูพื้นที่ด้านล่างกันบ้าง ก็พบว่ามีกองกำลังติดอาวุธกระจายตัว สวมชุดลายพรางอยู่ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะภาพภาพนี้ที่สามารถบันทึกภาพชายฉกรรจ์คนหนึ่ง ที่สวมกางเกงลายพราง ทำการซุ่มและสังเกตการณ์บางอย่าง อยู่ภายในวัดปทุม
นอกจากข้อเท็จจริงเหล่านี้แล้ว สำนักข่าวที-นิวส์ก็อยากให้พิจารณา ถึงพฤติกรรม ที่ส่อไปในทางไม่ได้ของคนเสื้อแดงบางส่วนจากความพยายาม ทำลายการบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด โดยภาพที่เห็นอยู่นี้ คนเสื้อแดงคนหนึ่งกำลังใช้ไม้สอยกล้องวงจรปิดที่บริเวณ 4 แยกคอกวัว ก่อนเหตุการณ์ปะทะในวันที่ 10 เมษายน 2553
ถามว่าถ้าคนเสื้อแดงต้องการปกป้องตัวเองจากทหารหรือการปะทะจากผู้ไม่หวังดี ทำไมถึงต้องทำลายกล้องวงจรปิด ทั้งๆที่กล้องวงจรปิดจะเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้สังคมรู้ความจริง เพราะฉะนั้นการกระทำในทางตรงกันข้าม หมายความว่าคนกลุ่มนี้พยายามที่จะปกปิดความจริงใช่หรือไม่
http://www.tnews.co....hilight_id=2994
Edited by kaidum, 26 June 2012 - 13:54.
- whiskypeak likes this
#25
Posted 26 June 2012 - 13:55
1. ในสำนวนการสอบสวนของคดี ระบุว่า ไม่มีชายชุดดำ ปะปนอยู่ผู้ร่วมชุมนม = ไม่มีชายชุดดำ อยู่ในโลกนี้
2. ส่วนพยาน ปากที่ 2 นายไชยวัฒน์ เบิกความ ไม่ชัดเจนในเนื้อหารายละเอียด = ทหารยิงประชาชน
มันก็เท่านี้แหละ
ถึงเวลา พอพิจารณาคดี แล้ว "ยกฟ้อง" เมกา ก็ได้เรื่องไปด่า ศาล ได้อีก
แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง
จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน
#26
Posted 26 June 2012 - 13:58
พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ
ท่านนี้เป็นพยานโจทย์ไม่ใช่หรือครับ การเบิกความของพยานโจทย์ ทั้งอาวุธปืนและวิถีกระสุน
ชี้นำให้สังคมมองว่าเป็นการกระทำของทหาร อีนิวส์ก็รีบรับลูกทันที สรุปเองทันทีว่าเป็นฝีมือทหาร
ทั้งที่เขาแบ่งให้เป็นพยานฝ่ายอัยการผู้ร้อง 17 นัด พยานฝ่ายผู้เสียหาย 15 นัด และศาล ยังต้องนัด
ไต่สวนพยานในวันที่ 9 ส.ค และนัดต่อในทุกวันพฤหัสบดี ให้ครบ 32 นัด เหมือนคุณเมกาเอาข่าวตามที่ตัวเองเชื่อ
แต่เป็นข่าวที่ยังไม่ครบ และศาลยังไม่ได้พิสูจน์ในรายละเอียดครบ มาสรุปเข้าข้างตัวเอง
คุณเมกาเข้าใจคำว่าข้อมูลและรายละเอียดอีกด้านไหมครับ ตรงนั้นมากกว่าที่จะเป็นเหตุผลขัดแย้ง
ต่อข้อมูลฝ่ายเดียวของคุณ และสามารถทำให้ผมคล้อยตามได้
คุณเมการู้ไหมว่า นายคำหล้า ชมชื่น ทำร้าย แย่งปืนไปจากทหาร และสารภาพว่า ได้นำไปร่วมก่อเหตุ
ในระหว่างการชุมนุมด้วย ซึ่งปืนกระบอกดังกล่าวได้ถูกค้นพบในวัดปทุม โดย นายคำหล้า ได้นำไปซุกซ่อนไว้
คุณเมกาคิดว่าประเด็นนี้ ขัดแย้งต่อการนำเสนอของพยานฝ่ายโจทย์ แค่ใหน เพียงใด และควรหรือไม่
ที่คุณเมกาจะรีบด่วนสรุป โดยที่ศาลยังไม่มีคำตัดสิน
ตรงที่ขีดเส้นใต้คือสิ่งที่คนนับถือศาสนาชินวัตรสามารถทำได้โดยไม่มีความละอายใด ๆ ทั้งสิ้นครับ
(ด้วยความสมเพชคนนับถือศาสนาชินวัตรทุกคน)
- Kyubey likes this
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#27
Posted 26 June 2012 - 13:59
eAT
ของเค้าดีจริงๆ แน่นจริงๆ
ข้าน้อยขอคารวะ
1 จอก
ขอแชร์ด้วยอีกจอก
อันสยามเป็นบ้านเกิดเมืองนอน
ดุจบิดามารดรเปรียบได้
#28
Posted 26 June 2012 - 14:01
อีกมุมหนึ่งที่ผมเห็นว่าคุณเมกา ก็ควรจะสำเหนียกนำมาเป็นข้อมูลอีกด้าน
แนะนำที่กระทู้นี้ ของคุณมังกือดำ
http://webboard.seri...กฐานพิเศษ-สรท-ก
#29
Posted 26 June 2012 - 14:04
เฮ้อออออ อะไรอะไรก็กู! .......
เฮ้ออ....
รูป'จัดตั้ง'เฮงซวยอย่างนี้
ยังหลอก megaได้..
หรือ mega แสร้งนำมาหลอกหว่า.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
Edited by ปุถุชน, 26 June 2012 - 14:14.
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#30
Posted 26 June 2012 - 14:05
#32
Posted 26 June 2012 - 14:10
- นักเรียนตลอดชีพ likes this
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#34
Posted 26 June 2012 - 14:15
รูปเสื้อดำพกอาวุธ ที่ สมาชิกเอามาโต้แย้ง
ล้วนแล้วแต่เป็นรูปจัดฉากใส่ร้าย
#35
Posted 26 June 2012 - 14:18
http://forum.seritha...499e2c13927b0f9
http://forum.seritha...php?f=2&t=36015
เน้นๆ เนื้อๆ เห็นกันชัด อ่านกันตาแฉะ
อย่าเอาผมไปอ้างเลยครับ ผมไม่ใช่ต้นฉบับ
#36
Posted 26 June 2012 - 14:19
ต้องยอมรับว่าเควี้ยแดงไม่โง่ แต่หน้าด้านทุกตัว
ขอชื่นชมจากใจเลยครับ...
#37
Posted 26 June 2012 - 14:20
ตกลงว่า ...
Mega จะพยายามสื่อว่าชายชุดดำไม่มีหรือครับ ?? แล้วหลักฐานอื่นๆๆ เนี่ย คืออะไร...งง
ใครบอกว่าผมว่าชายชุดดำไม่มี นี่ไงหลักฐานเห็นๆ
mega ไปยืนยันกับกรมสอบสวนพิเศษว่าไอ้คนนี้ถือปืนจริง มีกระสุนจริงและเคยยิงมาแล้ว.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#38
Posted 26 June 2012 - 14:25
http://forum.seritha...php?f=2&t=36015
ลองสังเกตดูนะครับ พวกชุดดำ ไม่ได้ใส่ดำทั้งหมด
แต่ใส่เสื้อนอกสีดำ ซึ่งสามารถถอดออกได้
ดังนั้น ถ้าโดนทหารยิง พรรคพวกสามารถลากศพ
มาถอดเสื้อออกได้
- hinsor likes this
#39
Posted 26 June 2012 - 14:54
จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)
#40
Posted 26 June 2012 - 14:57
คิดดูละกัน
#41
Posted 26 June 2012 - 15:00
จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)
#42
Posted 26 June 2012 - 15:02
นี่ไง ในคลิปเห็นจะจะ
ทหารสั่งการยิงเลย
นั่นสิ ก็ถ้าเสื้อแดงไม่ยิงเค้า
เค้าก็คงไม่ยิงเสื้อแดง
จะให้ทหารยืนยกมือไหว้เรอะ
#43
Posted 26 June 2012 - 15:04
http://www.youtube.com/watch?v=Vddq67ZiFNI&feature=related
เอาอีกแล้วดอนยอเอ๊ย..
#44
Posted 26 June 2012 - 15:07
จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)
#45
Posted 26 June 2012 - 15:08
ข้ารู้ว่าเอ็งทำใจไม่ได้เอ็งจึงต้องออกมาโกหกเพื่อปกป้องอีโก้ของตัวเอง
กลับไปเสียนะทำความเข้าใจตนเองเสียใหม่ คนเรานะไม่ได้ฉลาดตลอดเวลาถ้ารู้ว่าโง่ถูกเขาหลอกใช้ การกลับตัวถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องส่วนการดื้อดึง/การโกหกตนเองปฏิเสธความจริงอย่างที่เอ็งทำ มันมีแต่จะทำให้เอ็งเจ็บมากขึ้น
#46
Posted 26 June 2012 - 15:14
ไหนทหารยิงวะhttp://www.youtube.com/watch?v=Jace6SYtYUU
#47
Posted 26 June 2012 - 15:15
http://www.youtube.com/watch?v=Vddq67ZiFNI&feature=related
ไม่เห็นภาพทหารยิงประชาชนเลย
สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น
ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ
#49
Posted 26 June 2012 - 15:18
ผมเห็นแต่ประชาชนร่วง
แต่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าทหารยิง
เพราะผมยังไม่เห็นทหารที่ยิง
นอกจากจะมีข้อมูลหลักฐานที่บ่งชี้ได้ชัดเจน
สมมติว่าถ้าหากผมเปลี่ยนชื่อคลิปนี้เป็น
เสื้อแดงปล้นปืนทหาร แล้วกราดยิงพวกเดียวกัน
เพื่อสร้างสถานการณ์ให้รุนแรง
จะแปลกไหมครับ
- มารุจัง likes this
#50
Posted 26 June 2012 - 15:26
มันไม่ตลกไปหน่อยหรือไข่ดำ ขณะที่ทหารบุกยิงดาหนัาเข้ามา แต่คุณบอกว่าทหารยิงประชาชนร่วงเห็นๆ
ผมเห็นแต่ประชาชนร่วง
แต่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าทหารยิง
เพราะผมยังไม่เห็นทหารที่ยิง
นอกจากจะมีข้อมูลหลักฐานที่บ่งชี้ได้ชัดเจน
สมมติว่าถ้าหากผมเปลี่ยนชื่อคลิปนี้เป็น
เสื้อแดงปล้นปืนทหาร แล้วกราดยิงพวกเดียวกัน
เพื่อสร้างสถานการณ์ให้รุนแรง
จะแปลกไหมครับ
คนเสื้อแดงหันมายิงกันเอง ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้นะ คุณคิดได้ถึงขนาดนี้
จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users