ท่านผู้ว่ากทม. ท่านอย่าโกหกประชาชนซิครับ....
#1
ตอบ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:45
เครื่่องสูบน้ำ....นอน
ช่างพูดไปได้
http://www.suthichai...om/detail/17629
บอกว่านายกร้องให้เพราะคิดถึงพี่ชาย
ไม่ใช่เพราะสงสารประชาชน..ยังน่าเชื่อกว่าอีก
#2
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:31
คนกทม.ที่เลือกผู้ว่ามาเองกับมือ ก็เริ่มหงุดหงิดกับผู้ว่าแ้ล้วจ้ะ
เขาบอกว่ามัวแต่เล่นการเมืองกัน ยื่นเอกสารขอไป5ครั้ง ทำไมไม่โทรขอเลยง่ายดี
เขาบอกว่าตอนอุโมงค์น้ำครั้งแรกบอก สามารถระบายน้ำได้เยอะ
พอน้ำมาจริงๆ มาบอกว่าระบายได้แต่น้ำฝน
ใครพอรู้รายละเอียดบอกทีจ้ะ อยากรู้เหมือนกัน
คนเราคิดต่างได้ แต่อย่าคิดชั่ว
ไม่ว่าจะมุมนี้หรือมุมไหน ถ้ามันเป็นเรื่องงี่เง่าไม่ขอเสียเวลามองว่ะ
#3
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:37
ทำหนังสือไปตั้งนานแล้วทำไมมันไม่ตอบล่ะ?
หรือพวกมันอ่านหนังสือไม่ออก? โง่กันทั้งคณะ รัฐบาล
#4
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:40
ก็ทำถูกต้องตามขั้นตอน
#5
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 01:40
ถ้าโทรไปขอ กรมชลบอกว่าให้ทำหนังสือมาถึงได้ หรือบอกว่าจะให้ แต่ไม่ให้ จะเอาหลักฐานจากไหน เพราะมันเป็นคำพูดมันหายไปกับลม
ผู้ว่าขอให้กรมชลอย่าเทน้ำมาทางจะวันตกมาก กรมชลเทน้ำมาทางตะวันตกจน กรุงเทพฝั่งตะวันตก ท่วมวายป่วง
ผู้ว่าขอให้กรมชล ช่วยปิดประตูระบายน้ำ 8 9 10 เพื่อให้สัมพันธ์กับระบบระบายน้ำของกรุงเทพ กรมชลเปิดเอาไว้อย่างนั้น
รัฐบาลเล่นการเมืองกับผู้ว่าก่อน ใครๆก็รู้ ถามว่าผู้ว่าเล่นการเมืองกลับหรือเปล่า ตอบแฟร์ๆผู้ว่าก็เล่นการเมืองกลับเหมือนกัน
ต่างกันตรงที่ว่า รัฐบาลเล่นการเมืองกับผู้ว่า โดยทำให้คนกรุงเทพเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็น ส่งถุงกระดาษมาทำกระสอบทราย ละเลยที่จะดูแลคลองประปา จนน้ำทะลักเข้าคลองประปา ปล่อยให้มีการทำลายคันกั้นน้ำที่คลองประปา เทน้ำมาฝั่งตะวันตก เปิดประตูที่คลองสามวา ไม่ยอมปิดประตูที่คลอง 8 9 10 และปล่อยให้มีการทำลายคันกั้นน้ำตามที่ต่างๆ โดยไม่ทำอะไร
ในขณะที่ผู้ว่าเล่นการเมืองกลับ ศปภ เพื่อให้คนกรุงเทพเดือดร้อนน้อยที่สุด ถามว่าการที่ผู้ว่าขอเครื่องสูบน้ำ ผู้ว่าเอาเครื่องสูบน้ำมาสูบเพื่อใคร ถ้าไม่ใช่คนกรุงเทพ ถ้าผู้ว่าไม่ทวงออกสื่อ คิดหรือว่า ศปภ กับ กรมชลจะให้ ขนาดขอให้ปิดประตูระบายน้ำเพื่อรักษานิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นความเสียหายของ ศก ของประเทศ กรมชล ศปภ ยังไม่ยอมทำให้เลย
#6
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 01:57
ต่างจากคุณชาย เพราะถ้าปกป้องกรุงเทพชั้นในได้ ก็แค่เสมอตัว แต่หากกันไม่อยู่รับรองอ่วมแน่ครับ
ยอมรับว่าเกมของกรมชลฯ ตอนนี้กำลังทำให้กระแสพลิกกลับจริงๆ
#7
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 02:06
เราอ่านกระทู้พันทิฟมา เรื่องผู้ว่ากับกรมชลที่ ปะ ฉะ ดะกัน
คนกทม.ที่เลือกผู้ว่ามาเองกับมือ ก็เริ่มหงุดหงิดกับผู้ว่าแ้ล้วจ้ะ
เขาบอกว่ามัวแต่เล่นการเมืองกัน ยื่นเอกสารขอไป5ครั้ง ทำไมไม่โทรขอเลยง่ายดี
เขาบอกว่าตอนอุโมงค์น้ำครั้งแรกบอก สามารถระบายน้ำได้เยอะ
พอน้ำมาจริงๆ มาบอกว่าระบายได้แต่น้ำฝน
ใครพอรู้รายละเอียดบอกทีจ้ะ อยากรู้เหมือนกัน
อยากให้เห็นใจผู้ว่าครับ การโทรขอทำไม่ได้จริงอย่างที่คิดครับ หากไม่มีหนังสือราชการ คนอนุมัติมีสิทธิ์ติดคุกสูงมาก
มันเป็นแค่วาทกรรมเบี่ยงประเด็นเท่าน้น ต่อให้โทรขอไปจริงๆ อธิบดีกรมชลก็ไม่กล้าส่งเครื่องให้ครับ ต้องถามหาหนังสืออยู่ดี
ทีนี้หนังสือราชการก็ต้องไปตามลำดับสายบังคับบัญชาครับ ส่งข้ามสายมันก็มีค่าเท่าเศษกระดาษใบนึงเท่านั้น
ส่วนโครงสร้างการระบายน้ำใน กทม ถูกออกแบบมาให้รับมือกับน้ำฝนเท่านั้น ไม่ใช่น้ำหลากแบบที่เป็นอยู่
เพราะตามระบบการผันน้ำตามปกติ น้ำจะต้องถูกผลักออกไปทางตะวันออกตามแนวการระบายน้ำก่อนที่จะเข้าเมืองครับ
ปีก่อนเองก็ถือว่าน้ำมากแต่ใช้การระบายตามปกติจะเห็นว่า กทม แห้งสนิท แต่ปีนี้แหกกฎการระบายน้ำแทบทุกอย่าง
ผลมันก็คือหายนะอย่างที่เห็นไงครับ
#8
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 02:20
เราอ่านกระทู้พันทิฟมา เรื่องผู้ว่ากับกรมชลที่ ปะ ฉะ ดะกัน
คนกทม.ที่เลือกผู้ว่ามาเองกับมือ ก็เริ่มหงุดหงิดกับผู้ว่าแ้ล้วจ้ะ
เขาบอกว่ามัวแต่เล่นการเมืองกัน ยื่นเอกสารขอไป5ครั้ง ทำไมไม่โทรขอเลยง่ายดี
เขาบอกว่าตอนอุโมงค์น้ำครั้งแรกบอก สามารถระบายน้ำได้เยอะ
พอน้ำมาจริงๆ มาบอกว่าระบายได้แต่น้ำฝน
ใครพอรู้รายละเอียดบอกทีจ้ะ อยากรู้เหมือนกัน
มันไม่ใช่การเล่นการเมืองหรอกครับ แต่ในความจริงด้วยมาตรา 31 ต้องใช้เอกสารเท่านั้นจึงจะดำเนินการได้ แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ต้องสั่งการด้วยเอกสารเท่านั้น คงจะโทรไปบอกไม่ได้หรอก นอกจากโทรไปชวนกินกาแฟ และจุดรับส่งเอกสารที่ต้องถึงมือนายกรัฐมนตรีมีอยู่ที่เดียวคือ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น ต้องออกหมายรับก่อน ก่อนที่จะให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยยื่นให้นายกรัฐมนตรีหรือส่งถึงสำนักนายกรัฐมนตรี แต่หากทางสะดวกที่สุดคือ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยต้องนำส่งไปที่ ศปภ.เพื่อให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงนามรับและส่งต่อนายกรัฐมนตรี ส่วนนายกฯเองเห็นว่าด่วนก็ออกหนังสือสั่งการโดยตรงถึงผู้ปฏิบัติงานได้เลย ไม่ต้องผ่านกระทรวงเกษตรฯหรืออธิบดีกรมชลประทาน ถึงพนักงานเปิดปิดปั๊มก็ยังได้
ต้องเข้าใจว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้ใช้อำนาจตามปรกติ คือมีอำนาจมากกว่าปรกติ ส่วนจะใช้เท่าไหร่ไม่รู้ แต่อย่างน้อยต้องกระทำการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ตนยึดอำนาจบัญชาการป้องกันภัยและบรรเทาสารธารณภัยมาเต็มๆทั้งหมด
หากมองเป็นดอกจำปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เป็นดอกจำปี นายกรัฐมนตรีเด็ดดอกจำปีไปกำไว้ในมือแล้ว การต่างๆที่ต้องรับส่ง มันมาอยู่ที่ขวั้นจำปี คือปลัดกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นหนังสือหรือการสื่อสารส่งข่าวที่ต้องเป็นลายลักษณือักษร มันต้องมาที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น แล้วจึงส่งต่อถึงนายกรัฐมนตรีได้
ไม่ใช่จะให้ใครต่อใคร สื่อสารร้องขอกันเองได้ครับ จะให้ผู้ว่ากรุงเทพฯทำหนังสือหรือยกหูโทรศัพท์ไปหารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรหรืออธิบดีกรมชลประทาน มันมีความผิดข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แล้วผู้ว่าจะทำอย่างนั้นทำไม จะฆ่าตัวตายรึไง โปรดเข้าใจด้วยครับ
#9
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 02:24
เราอ่านกระทู้พันทิฟมา เรื่องผู้ว่ากับกรมชลที่ ปะ ฉะ ดะกัน
คนกทม.ที่เลือกผู้ว่ามาเองกับมือ ก็เริ่มหงุดหงิดกับผู้ว่าแ้ล้วจ้ะ
เขาบอกว่ามัวแต่เล่นการเมืองกัน ยื่นเอกสารขอไป5ครั้ง ทำไมไม่โทรขอเลยง่ายดี
เขาบอกว่าตอนอุโมงค์น้ำครั้งแรกบอก สามารถระบายน้ำได้เยอะ
พอน้ำมาจริงๆ มาบอกว่าระบายได้แต่น้ำฝน
ใครพอรู้รายละเอียดบอกทีจ้ะ อยากรู้เหมือนกัน
อยากให้เห็นใจผู้ว่าครับ การโทรขอทำไม่ได้จริงอย่างที่คิดครับ หากไม่มีหนังสือราชการ คนอนุมัติมีสิทธิ์ติดคุกสูงมาก
มันเป็นแค่วาทกรรมเบี่ยงประเด็นเท่าน้น ต่อให้โทรขอไปจริงๆ อธิบดีกรมชลก็ไม่กล้าส่งเครื่องให้ครับ ต้องถามหาหนังสืออยู่ดี
ทีนี้หนังสือราชการก็ต้องไปตามลำดับสายบังคับบัญชาครับ ส่งข้ามสายมันก็มีค่าเท่าเศษกระดาษใบนึงเท่านั้น
ส่วนโครงสร้างการระบายน้ำใน กทม ถูกออกแบบมาให้รับมือกับน้ำฝนเท่านั้น ไม่ใช่น้ำหลากแบบที่เป็นอยู่
เพราะตามระบบการผันน้ำตามปกติ น้ำจะต้องถูกผลักออกไปทางตะวันออกตามแนวการระบายน้ำก่อนที่จะเข้าเมืองครับ
ปีก่อนเองก็ถือว่าน้ำมากแต่ใช้การระบายตามปกติจะเห็นว่า กทม แห้งสนิท แต่ปีนี้แหกกฎการระบายน้ำแทบทุกอย่าง
ผลมันก็คือหายนะอย่างที่เห็นไงครับ
ขอบคุณมากๆจ้ะที่อธิบายให้เข้าใจ
คนเราคิดต่างได้ แต่อย่าคิดชั่ว
ไม่ว่าจะมุมนี้หรือมุมไหน ถ้ามันเป็นเรื่องงี่เง่าไม่ขอเสียเวลามองว่ะ
#10
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 02:26
เราอ่านกระทู้พันทิฟมา เรื่องผู้ว่ากับกรมชลที่ ปะ ฉะ ดะกัน
คนกทม.ที่เลือกผู้ว่ามาเองกับมือ ก็เริ่มหงุดหงิดกับผู้ว่าแ้ล้วจ้ะ
เขาบอกว่ามัวแต่เล่นการเมืองกัน ยื่นเอกสารขอไป5ครั้ง ทำไมไม่โทรขอเลยง่ายดี
เขาบอกว่าตอนอุโมงค์น้ำครั้งแรกบอก สามารถระบายน้ำได้เยอะ
พอน้ำมาจริงๆ มาบอกว่าระบายได้แต่น้ำฝน
ใครพอรู้รายละเอียดบอกทีจ้ะ อยากรู้เหมือนกัน
มันไม่ใช่การเล่นการเมืองหรอกครับ แต่ในความจริงด้วยมาตรา 31 ต้องใช้เอกสารเท่านั้นจึงจะดำเนินการได้ แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ต้องสั่งการด้วยเอกสารเท่านั้น คงจะโทรไปบอกไม่ได้หรอก นอกจากโทรไปชวนกินกาแฟ และจุดรับส่งเอกสารที่ต้องถึงมือนายกรัฐมนตรีมีอยู่ที่เดียวคือ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น ต้องออกหมายรับก่อน ก่อนที่จะให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยยื่นให้นายกรัฐมนตรีหรือส่งถึงสำนักนายกรัฐมนตรี แต่หากทางสะดวกที่สุดคือ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยต้องนำส่งไปที่ ศปภ.เพื่อให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงนามรับและส่งต่อนายกรัฐมนตรี ส่วนนายกฯเองเห็นว่าด่วนก็ออกหนังสือสั่งการโดยตรงถึงผู้ปฏิบัติงานได้เลย ไม่ต้องผ่านกระทรวงเกษตรฯหรืออธิบดีกรมชลประทาน ถึงพนักงานเปิดปิดปั๊มก็ยังได้
ต้องเข้าใจว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้ใช้อำนาจตามปรกติ คือมีอำนาจมากกว่าปรกติ ส่วนจะใช้เท่าไหร่ไม่รู้ แต่อย่างน้อยต้องกระทำการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ตนยึดอำนาจบัญชาการป้องกันภัยและบรรเทาสารธารณภัยมาเต็มๆทั้งหมด
หากมองเป็นดอกจำปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เป็นดอกจำปี นายกรัฐมนตรีเด็ดดอกจำปีไปกำไว้ในมือแล้ว การต่างๆที่ต้องรับส่ง มันมาอยู่ที่ขวั้นจำปี คือปลัดกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นหนังสือหรือการสื่อสารส่งข่าวที่ต้องเป็นลายลักษณือักษร มันต้องมาที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น แล้วจึงส่งต่อถึงนายกรัฐมนตรีได้
ไม่ใช่จะให้ใครต่อใคร สื่อสารร้องขอกันเองได้ครับ จะให้ผู้ว่ากรุงเทพฯทำหนังสือหรือยกหูโทรศัพท์ไปหารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรหรืออธิบดีกรมชลประทาน มันมีความผิดข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แล้วผู้ว่าจะทำอย่างนั้นทำไม จะฆ่าตัวตายรึไง โปรดเข้าใจด้วยครับ
ขอบคุณมากๆจ้ะที่อธิบายให้เข้าใจ
คนเราคิดต่างได้ แต่อย่าคิดชั่ว
ไม่ว่าจะมุมนี้หรือมุมไหน ถ้ามันเป็นเรื่องงี่เง่าไม่ขอเสียเวลามองว่ะ
#11
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 02:32
#12
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 02:59
#13
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 06:40
หรือข้อมูลผมพลาดประการใดช่วยบอกด้วยนะครับ
#14
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 07:11
มันไม่เคยใช้เอกสาร..ใช้แต่โทรไป "ขอ" อย่างเดียว
แดกกะกรมนี่อิ่มอร่อยเคียงคู่ข้าราชการมานานแล้วครับ
ใครอยู่กรมนี่ถ้าเป็นลูกผู้ชายออกมายอมรับเถอะว่าเน่ามานานแล้ว
ถ้าไม่ใช่..ก็หุบปากไปเถอะ ผมขอร้อง
#15
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 08:12
บรรหารออกทีวีช่อง TPBS พูดง่ายๆว่าน้ำท่วมสุพรรณเหมือนกัน คงไม่รู้ว่า TPBS เคยบินถ่ายภาพท้องนาสุพรรณที่กำลังปลูกข้าวรอบใหม่
แค่นี้ก็รู้กันแล้วว่าน่าเชื่อถือหรือไม่
#16
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 08:30
ผมเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายต่างห่วงประชาชน แต่ใครจะจริงใจมากกว่า
และผมเชื่อว่างานนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างถูกคนกทม.ด่าแน่ๆ
และผมไม่เคยเชื่อคำพูดของบรรหาร...เพราะคนนี้เป็นตัวอย่างที่เลวของนักการเมืองไทย
#17
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:23
่ผมเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายต่างเล่นการเมือง มากหรือน้อยตามนิสัยแต่ละฝ่าย
ผมเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายต่างห่วงประชาชน แต่ใครจะจริงใจมากกว่า
และผมเชื่อว่างานนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างถูกคนกทม.ด่าแน่ๆ
และผมไม่เคยเชื่อคำพูดของบรรหาร...เพราะคนนี้เป็นตัวอย่างที่เลวของนักการเมืองไทย
ผมก็เชื่อ แต่คุณว่าส่วนใหญ่ใครเริ่มก่อน
เช่นเรื่องการ จัดการน้ำในเขื่อน
รัฐประหาร ปกป้องชีวิตไทย พอกันที ประชาธิปไตย ด้วย M79
#18
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:57
ใครเล่นการเมืองแน่
ใครเจตนาอะไรคนฟังข่าวดูข่าวทั้งประเทศได้ยินผู้ว่าพูด
อย่างไรก็ดีทั้งพูดทั้งเถียงกันออกอากาศ
ยังไม่ใส่ใจกัน
#19
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:12
แล้วเอกสารก็ว่ากันอีกที รบทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้(หัวตอ) ใครว่าไรก็ว่าไปกรูไม่สนกรูไม่ต้องรับผิดชอบ จังหวัดแต่ละจังหวัดผู้ว่าดูแลเองแล้วจะมีนางยกไว้บนหิ้งเหรอ ชั่วร์
#20
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:17
#21
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:30
ไม่ได้หรอกค่ะ ดิฉันเป็นพ รัฐวิสาชั้นผุ้นอ้ย แต่มีอะไรก็ต้องทำเป็นหนังสือ เพราะลิ้นคนมันพลิกได้ตลอดเวลา
ใช่ครับ ไม่มีหนังสือ มันมั่วบอกได้อยู่แล้วว่า ไม่ได้รับการประสานงานมาเลย มุขนี้คนในวงการอย่างเราๆ ท่านๆ เจอกันบ่อยจะตายครับ
โทรประสานไป มันตีมึนไม่รู้เรื่องเดี๋ยวก็จะมาบอกอีกว่า
"ต้องทำหนังสือมานะครับ ไม่งั้นดำเนินการอะไรไม่ได้" แล้วก็จะหาว่า เป็น ผู้ว่าฯ กลับไม่เข้าใจระเบียบซะอีกน่ะ
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
#22
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:10
อีกอย่าง ตอนนี้นายกก็ใช้มาตรา 31 อยู่ จะโทษน้ำท่วมก็ต้องโทษนายกเนี่ยแหละ!
ตัวกาลกีณี!!!
#23
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:10
่
ผมเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายต่างเล่นการเมือง มากหรือน้อยตามนิสัยแต่ละฝ่าย
ผมเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายต่างห่วงประชาชน แต่ใครจะจริงใจมากกว่า
และผมเชื่อว่างานนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างถูกคนกทม.ด่าแน่ๆ
และผมไม่เคยเชื่อคำพูดของบรรหาร...เพราะคนนี้เป็นตัวอย่างที่เลวของนักการเมืองไทย
ผมก็เชื่อ แต่คุณว่าส่วนใหญ่ใครเริ่มก่อน
เช่นเรื่องการ จัดการน้ำในเขื่อน
ผมไม่เชื่อคำพูดแกนนำแดงทุกตัว
ถ้าคนไหนยอมเป็นมือ เป็นตรีนให้ทักษิณได้
ผมถือว่าคนคนนั้นหมดแล้วซึ่งความเป็นคนไทย
#24
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:46
โดยกรมชนดะ ที่กำลังหาแพะ
โดยรัฐบาลที่ทำงานไม่ได้เรื่อง
โดยปลอดปะศพที่อยากแก้ตัว มั่วมาหลายเรื่อง
เอี้ยรุมว่ะ
ทั้งที่ ศปภ. รวบอำนาจไปหมดแล้ว
I ปลอดฝากสื่อไปหาผู้ว่า กทม.
เอ็งช่วยโทรศัพท์ไปบอก แล้วทำหนังสือตามด้วยว่ะ
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#25
ตอบ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:58