284 replies to this topic

[naichod]

แวะมาอ่านเฉยๆ

[เพลิงสีนิล]

ขอห้อยท้าย เดินตาม คคห."คลำปม".....ฮา

สงครามโลกครั้งที่สอง.....
ญี่ปุ่นยึดประเทศไทย
จอมพล ป.เป็นนายกรัฐมนตรี....
ท่านปรีดี+มรว.เสนีย์เป็น"เสรีไทย"....

ถ้านายกฯ ป.ไม่หลิ่วตาข้างหนึ่ง ไม่"ตีสองหน้า".....
"ขบวนการเสรีไทย"จะทำงานสำเร็จหรือ....?

จอมพล ป.เป็น"อาชญากรสงคราม"ที่ถูก"ชาติพันธมิตร"ลงโทษเบากว่าที่ควรหรือไม่....?

ผมชอบ post นี้ของลุงปุ จริงๆ

ความดีความชอบ เอะอะ อะไรก็ยกให้พวกขบวนการใต้ดิน เป็นพระเอก

แต่หากลอกนึกกันดูดีๆ แล้ว ฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐจะไม่รู้เชียวหรือว่ามี ขบวนการใต้ดิน ที่ไปเข้ากับฝั่งตรงข้าม

ทำให้ ไทย สามารถตีสองหน้า ได้เนียนๆ คือ ไม่ว่าทางไหนชนะ เราก็ไม่แพ้


และถ้าตอนนัน ฝ่ายรัฐ หักดิบกับกองทัพ ญี่ปุ่น คิดกันบ้างไหนว่าถ้า รบแพ้ (ดูๆ แล้วแพ้แน่)

สภาพของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

[ปุถุชน]

ไอ้แก่ส.ศิวลึงค์ ทำตัวระยำอีกแล้ว
ในที่สุด พอคนมันรู้ตัวว่ามันใกล้ตาย ก็เลยเผยสันดาน อคติส่วนตัวออกมา

ที่มา https://www.facebook...elevant_count=1

"กองทัพไทยมีไว้ปราบปรามคนไทย"

สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ชี้ให้เห็นถึงบทบาทของกองทัพไทยว่าแท้ที่จริงแล้ว มิได้ทำหน้าที่หลักในการปกป้องประชาชนอย่างที่คนเข้าใจ แต่มีบทบาทหลักในการปกป้องอำนาจของชนชั้นปกครอง และหลายครั้งถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเข่นฆ่าประชาชน โดยดูได้ในกระทู้ถามตอบด้านล่าง:

"ถาม: เรียนถามอาจายร์ครับ อยากทราบว่า ร.5 มีกองกำลังไว้ปราบปรามประชาชนจริงไหมครับ

ส.ศิวรักษ์: จริงสิครับ อันนี้คุณไม่้ต้องเชื่อผม เพราะ ร.5 เสด็จอินเดีย ก่อนพระชนม์ครบ 20 และได้อิทธิพลจากคนอังกฤษที่อินเดียเลยว่า ถ้าเผื่อจะมีชาติ จะปกครองบ้านเมืองต้องมีกองทัพที่เกรียงไกร ไม่ใช่ไปรบกับอริราชศัตรู เพราะศัตรูของไทยเวลานี้ ข้างหนึ่งอังกฤษมันยึดพม่าไปแล้ว ยึดมลายูไปแล้ว อีกด้านฝรั่งเศส มันยึดเขมรไปแล้ว แล้วกองทัพไทยจะไปรบกับใครครับ ก็มีไว้สำหรับปราบปรามศัตรูเท่านั้นเอง นี่ท่านไปเรียนมาจากอังกฤษ ที่มันบอกมันปกครองอินเดียได้ หนึ่ง)ต้องให้การศึกษาล้างสมอง คน ให้นับถือพระเจ้าแผ่นดิน ยิ่งกว่านับถือพ่อแม่ ให้เรียนภาษาภาคกลาง ยิ่งกว่าภาษาของตัวเอง สอง)ต้องวางแผนการปกครอง ศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเทพฯ รวบอำนาจไว้ที่กรุงเทพฯทั้งหมด แต่ก่อนไม่เป็นครับ เรามีพระเจ้าเชียงใหม่ พระเจ้าน่าน พระเจ้าแพร่ ที่ปัตตานีเขาก็มีเจ้าผู้ครองนคร ปัตตานี แล้วแต่ก่อนนี้ ไทรบุรี กลันตัน ก็เป็นของเรา เขาก็มีเจ้านครทั้งนั้น ร.5ไปยึดเอามาหมดเลย แล้วถ้าเผื่อยึดอย่างนี้ พวกนั้นเขาขัดแข็ง ก็เอากองทัพไปปราบ ดังนั้นกองทัพไทยมีไว้ปราบปรามคนไทยตั้งแต่ร.5 เริ่มปราบกบฏผีบุญที่อุบลฯ กบฏเมืองแพร่ กบฏปัตตานี นี้3เมืองนี้สมัยร.5 แล้วปราบเรื่อยมาสมัยรัชกาลที่6 ก็ปราบพวก ร.ศ.130 รัชกาลที่7 ก็กบฏบวรเดชปราบพวกคณะราษฎร แต่แพ้ สมัยรัชกาลที่9 ก็ปราบมาเรื่อยเลย ตั้งแต่2490 , 2516 , 2519 พฤษภาทมิฬ แล้วที่ราชประสงค์ กองทัพปราบประชาชนแทบทั้งนั้น กองทัพทำอย่างอื่นไม่เป็นเลยครับ เพราะถ้าไม่ปราบประชาชนมันก็เล่น กอลฟ์กัน เที่ยวผู้หญิงกัน ตีกะหรี่กัน ซื้อรถยนต์แพงๆขับแข่งกัน นี้คนก็หลงมัน เหมือนที่หลงคึกฤทธิ์ ปราโมช หลวงวิจิตรฯ โอ้ กองทัพมาช่วยเรื่องน้ำท่วมหน่อย ก็ตื่นเต้นกันใหญ่ น้ำท่วมไม่ใช่หน้าที่กองทัพเลย แต่ไม่มีอะไรทำ ออกมาช่วยก็ดีเหมือนกัน ดีกว่าอยู่เปล่าๆ"

สุลักษณ์ ศิวรักษ์
7 กรกฎาคม 2555

ประเทศหนึ่งไปยึดแผ่นดิน ปกครองประเทศอื่น ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยแห่งเดียว ยุคสมัยตะวันตกล่าอาณานิคม อังกฤษ โปรตุเกส สเปน ฮอลันดา ฯลฯ....
อินเดีย พม่า มาลายู ออสเตรเลีย ตกเป็นเมืองขึ้น อาณานิคมของอังกฤษ อังกฤษกอบโกยทรัพย์สิน ทรัพยากรธรรมชาติ วัตถุโบราณ เพชรนิลจินดา ไปประเทศอังกฤษมากมาย.....

สหรัฐอาณาจักรบริเตนเคยได้สมญานาม"ดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ".เป็นการรวมสก๊อตแลนด์ อังกฤษ เวลล์และไอร์แลนด์เหนือเข้าด้วยกัน....!


ขุนศึก ศักดินา นักการเมือง ผู้นำประเทศทางการเมือง หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มีทั้งประพฤติดี ประพฤติชั่ว หรือมีดีมีชั่วในตัวตนเดียวกันก็มี.......!

น่าจะเรียนรู้การเป็นผู้นำฯ การมีอำนาจอิทธิพล การปฏิบัติหน้าที่เป็นคุณประโยชน์แก่ระบอบประชาธิปไตยฯของเรา พัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง และฉ้อราษฎร์บังหลวง หรือสมคบคิดต่างชาติกอบโกยผลประโยชน์จากประเทศไทยมามากกว่า.....

รู้ถูกต้อง ไม่งมงาย ไม่ถูกครอบงำ หลอกลวง บิดเบือน ปลอมประวัติศาสตร์โดยปรปักษ์ฝ่ายตรงข้าม ลิ่วล้อ ข้าทาสบริวาร และไม่เป็น"มือไม้"เผยแพร่ข้อเท็จจริง สิ่งแปลกปลอมคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

ขอห้อยท้าย เดินตาม คคห."คลำปม".....ฮา

สงครามโลกครั้งที่สอง.....
ญี่ปุ่นยึดประเทศไทย
จอมพล ป.เป็นนายกรัฐมนตรี....
ท่านปรีดี+มรว.เสนีย์เป็น"เสรีไทย"....

ถ้านายกฯ ป.ไม่หลิ่วตาข้างหนึ่ง ไม่"ตีสองหน้า".....
"ขบวนการเสรีไทย"จะทำงานสำเร็จหรือ....?

จอมพล ป.เป็น"อาชญากรสงคราม"ที่ถูก"ชาติพันธมิตร"ลงโทษเบากว่าที่ควรหรือไม่....?

ผมชอบ post นี้ของลุงปุ จริงๆ

ความดีความชอบ เอะอะ อะไรก็ยกให้พวกขบวนการใต้ดิน เป็นพระเอก

แต่หากลอกนึกกันดูดีๆ แล้ว ฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐจะไม่รู้เชียวหรือว่ามี ขบวนการใต้ดิน ที่ไปเข้ากับฝั่งตรงข้าม

ทำให้ ไทย สามารถตีสองหน้า ได้เนียนๆ คือ ไม่ว่าทางไหนชนะ เราก็ไม่แพ้


และถ้าตอนนัน ฝ่ายรัฐ หักดิบกับกองทัพ ญี่ปุ่น คิดกันบ้างไหนว่าถ้า รบแพ้ (ดูๆ แล้วแพ้แน่)

สภาพของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

ขอย้อนหลังไปก่อนหน้านั้น.....
ผมเชื่อว่าพม่า ลาว เขมร มาลายูไม่ใช่ต้องการเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก
แต่ไม่มีกุศโลบายหรือการดำเนินการฑูตระหว่างประเทศได้เท่าเทียม "รัชการที่ 5"และข้าราชการลำดับสูงในขณะนั้น
ในหลวง รัชการที่ 5 เดินทางไปหลายประเทศเป็นที่รู้จัก ไทยเริ่มปรับตัวเป็นอารยประเทศและคบหาชาติยุโรป
โดยเฉพาะพระเจ้าไกเซอร์แห่งเยอรมัน
.

ประเทศไทยไม่มีโอกาสชนะสงครามกับญี่ปุ่นได้ในขณะนั้น
แต่ด้วยแผนที่ตั้งประเทศ ญี่ปุ่นไม่ต้องการเสียเวลาในยึดครองประเทศไทยต้องการเป็น"ทางผ่าน"ไปที่อื่นๆ
และการสนับสนุนด้านอื่นๆจากไทย....

ในขณะเดียวกัน"รัฐบาลไทย" จอมพล ป.ก็เออออห่อหมกประกาศสงครามกับฝ่ายพันธมิตรด้วย..
แต่"ปรีดี" ผู้สำเร็จราชการฯไม่ได้ลงนามด้วย จึงเป็น"โมฆะ"....

นอกจากนั้น"นายควง"นายกรัฐมนตรีต่อมาประกาศ"สันติภาพ" ทำให้การทำสงครามกับพันธมิตรฯ เป็น"โมฆะ".....
"นายควง"เป็นนายกรัฐมนตรีที่มี"ลูกเล่น" มีไหวพริบคนหนึ่ง....
"นายทวี"นายกรัฐมนตรีชั่วคราวเพื่อรอให้"มรว.เสนีย์" หัวหน้าขบวนการเสรีไทยกลับมารับตำแหน่ง...
ล้วนทำให้จอมพลป.รอดพ้นถูกแขวนคอเช่นผู้นำประเทศอื่น และประเทศไทย"ถูกปรับ" ถูกลงโทษเบากว่าที่เป็น...

[ปุถุชน]

ประเทศไทยเข้าร่วมสงครามฝรั่งเศส-ไทย หรือ กรณีพิพาทอินโดจีนในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2483 ถึง เดือนพฤษภาคม 2484 เพื่อแย่งชิงดินแดนบางส่วนกลับคืนมาจากอินโดจีนฝรั่งเศส หลังจากนั้นในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2485ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ทันทีที่การโจมตีที่อ่าวเพิร์ลได้เริ่มต้นขึ้น ทัพญี่ปุ่นได้ทำการยกพลขึ้นบกในเช้าวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 หลังจากการปะทะกับฝ่ายไทยเพียงไม่กี่ชั่วโมง จอมพล ป.พิบูลสงครามก็ได้ประกาศหยุดยิงกับญี่ปุ่น ในวันที่ 21 ธันวาคม 2484 จึงได้มีการลงนามเป็นชาติพันธมิตรทางสงครามร่วมกัน และนายสังข์ พัธโนทัยได้อ่านเอกสารประกาศสงครามต่อประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกาออกทาง วิทยุ มรว.เสนีย์ ปราโมช เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกาไม่ได้นำเอกสารดังกล่าวส่งต่อรัฐบาล สหรัฐฯ จึงเป็นผลให้สหรัฐกระทำต่อไทยแตกต่างจากอังกฤษที่ตอบโต้ด้วยการประกาศสงคราม กับไทยและมองไทยเป็นฝ่ายศัตรู หลังจากนั้น จอมพล ป.พิบูลสงครามได้สั่งให้ฝ่ายไทยบุกโจมตีพรมแดนทางตอนเหนือของรัฐมลายู ได้แก่ ปะลิศ กลันตัน และตรังกานู เพื่อแย่งชิงดินแดนส่วนที่เสียไปให้อังกฤษจากการลงนามในสนธิสัญญาเมื่อ พ.ศ. 2452


ได้มีการก่อตั้งขบวนการเสรีไทยในชั่วเวลาไม่กี่เดือนทั้งภายในประเทศและนอก ประเทศ โดยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯทรงประสานกับเสรีไทยในประเทศอังกฤษ ส่วนนายปรีดี พนมยงค์ นำขบวนการเสรีไทยภายในประเทศ ได้มีการสร้างฐานบินลับและค่ายฝึกหลายแห่งจากการสนับสนุนจากกองทัพทำให้เจ้า หน้าที่หน่วยสืบราชการลับ OSS (ภายหลังเปลี่ยนเป็น CIA) และกองกำลังอังกฤษหน่วย “FORCE 136 ” เดินทางเข้าออกประเทศได้อย่างลับๆ ขณะที่สงครามดำเนินไป ประชาชนชาวไทยได้เริ่มต่อต้านญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายน 2487 ได้มีการปฏิวัติรัฐบาลภายใต้การนำของจอมพล ป.พิบูลสงคราม รัฐบาลคณะราษฎร์นำโดยนายควง อภัยวงศ์พยายามที่จะสนับสนุนการต่อต้านในขณะที่รักษาความสัมพันธ์ทางการทูต กับญี่ปุ่น......



http://th.wikipedia..../wiki/ฝ่ายอักษะ


ขบวนการเสรี ไทยนำโดย มรว.เสนีย์ ปราโมช ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินปรีดี พนมยงค์ และคนไทยที่ต่อต้านทหารญี่ปุ่นเหมือนหน่วยกู้ชาติใต้ดินในยุโรปทำให้ประเทศ ไทย และยอมชดใช้ค่าเสียหายให้อังกฤษและฝรั่งเศสทำให้ประเทศไทยไม่ตกที่นั่ง เหมือนชาติอักษะอื่นๆ....


ปล.ถ้าเราจะมองเห็นภาพการเมืองไทย รัฐบาลไทย สังคมไทยจาก"พล นิกร กิมหงวน"ของ ป.อินทรปาลิต.....
เราน่าจะได้บางส่วนจาก"ระย้า"ของสด กูรมะโรหิต สงครามโลกครั้งที่สองในประเทศไทย รัฐบาลไทยกับญี่ปุ่น ขบวนการเสรีไทยและขบวนการกู้ชาติชาวบ้าน....

Edited by ปุถุชน, 8 July 2012 - 16:37.

[ปุถุชน]

แวะมาอ่านเฉยๆ

มาแล้ว......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

สงครามโลกครั้งที่สอง.....
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ
ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน"ปรีดี พนมยงค์"
นายกรัฐมนตรี จอมพล ป. พิบูลย์สงคราม
นายกรัฐมนตรี นายควง อภัยวงศ์
มรว.เสนีย์ ปราโมช เอกอัครราชฑูตฯ หัวหน้าขบวนการเสรีไทย นายกรัฐมนตรี...

ท่านเหล่านี้ล้วนเห็นแก่ชาติบ้านเมืองในยามสงครามและการยึดครองของญี่ปุ่นมากกว่า
การช่วงชิงอำนาจทางการเมืองไม่เหมือนนักการเมืองปัจจุบันนี้.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

Edited by ปุถุชน, 8 July 2012 - 16:47.

[Solidus]

ขอห้อยท้าย เดินตาม คคห."คลำปม".....ฮา

สงครามโลกครั้งที่สอง.....
ญี่ปุ่นยึดประเทศไทย
จอมพล ป.เป็นนายกรัฐมนตรี....
ท่านปรีดี+มรว.เสนีย์เป็น"เสรีไทย"....

ถ้านายกฯ ป.ไม่หลิ่วตาข้างหนึ่ง ไม่"ตีสองหน้า".....
"ขบวนการเสรีไทย"จะทำงานสำเร็จหรือ....?

จอมพล ป.เป็น"อาชญากรสงคราม"ที่ถูก"ชาติพันธมิตร"ลงโทษเบากว่าที่ควรหรือไม่....?

ผมชอบ post นี้ของลุงปุ จริงๆ

ความดีความชอบ เอะอะ อะไรก็ยกให้พวกขบวนการใต้ดิน เป็นพระเอก

แต่หากลอกนึกกันดูดีๆ แล้ว ฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐจะไม่รู้เชียวหรือว่ามี ขบวนการใต้ดิน ที่ไปเข้ากับฝั่งตรงข้าม

ทำให้ ไทย สามารถตีสองหน้า ได้เนียนๆ คือ ไม่ว่าทางไหนชนะ เราก็ไม่แพ้


และถ้าตอนนัน ฝ่ายรัฐ หักดิบกับกองทัพ ญี่ปุ่น คิดกันบ้างไหนว่าถ้า รบแพ้ (ดูๆ แล้วแพ้แน่)

สภาพของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

ขอย้อนหลังไปก่อนหน้านั้น.....
ผมเชื่อว่าพม่า ลาว เขมร มาลายูไม่ใช่ต้องการเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก
แต่ไม่มีกุศโลบายหรือการดำเนินการฑูตระหว่างประเทศได้เท่าเทียม "รัชการที่ 5"และข้าราชการลำดับสูงในขณะนั้น
ในหลวง รัชการที่ 5 เดินทางไปหลายประเทศเป็นที่รู้จัก ไทยเริ่มปรับตัวเป็นอารยประเทศและคบหาชาติยุโรป
โดยเฉพาะพระเจ้าไกเซอร์แห่งเยอรมัน
.

ประเทศไทยไม่มีโอกาสชนะสงครามกับญี่ปุ่นได้ในขณะนั้น
แต่ด้วยแผนที่ตั้งประเทศ ญี่ปุ่นไม่ต้องการเสียเวลาในยึดครองประเทศไทยต้องการเป็น"ทางผ่าน"ไปที่อื่นๆ
และการสนับสนุนด้านอื่นๆจากไทย....

ในขณะเดียวกัน"รัฐบาลไทย" จอมพล ป.ก็เออออห่อหมกประกาศสงครามกับฝ่ายพันธมิตรด้วย..
แต่"ปรีดี" ผู้สำเร็จราชการฯไม่ได้ลงนามด้วย จึงเป็น"โมฆะ"....

นอกจากนั้น"นายควง"นายกรัฐมนตรีต่อมาประกาศ"สันติภาพ" ทำให้การทำสงครามกับพันธมิตรฯ เป็น"โมฆะ".....
"นายควง"เป็นนายกรัฐมนตรีที่มี"ลูกเล่น" มีไหวพริบคนหนึ่ง....
"นายทวี"นายกรัฐมนตรีชั่วคราวเพื่อรอให้"มรว.เสนีย์" หัวหน้าขบวนการเสรีไทยกลับมารับตำแหน่ง...
ล้วนทำให้จอมพลป.รอดพ้นถูกแขวนคอเช่นผู้นำประเทศอื่น และประเทศไทย"ถูกปรับ" ถูกลงโทษเบากว่าที่เป็น...

พม่าเลือกสู้รบกับอังกฤษ ผลคือแพ้ต้องตกเป็นอาณานิคม
ลาวนี่โดนสยามกับฝรั่งเศสขีดเส้นแบ่งแดน
เขมรต้องแยกเป็น 2 ส่วนคือเขมรส่วนนอกอันนี้ยินยอมเป็นอาณานิคมเองเพราะไม่ต้องการขึ้นกับสยาม ส่วนเขมรส่วนในสยามโดนฝรั่งเศสบีบให้ต้องยกให้ เลยเกิดการเทครัวมายังปราจีนโดยพ่อของควง อภัยวงศ์
ส่วนมาลายูอันนี้คงต้องแยกเป็นรัฐ ๆ กระมัง เพราะบางรัฐยอมเป็นอาณานิคมเอง อย่างเช่นปีนัง

Edited by Solidus, 8 July 2012 - 16:48.

[zeedzaad]

เอากระจกหกด้านมาดูก็จะเห็น

สงครามในแบบ สงครามนอกแบบ

สงครามในประเทศ สงครามนอกประเทศ

รบกันมาตลอด มีแต่พวกโลกสวยไม่ขวนขวายศึกษา มันก็เห็นแค่มุมเดียว

แค่เอาหนังตาเท่าหัวขลิบมาปิดตา มัหนก็มองอะไรไม่เห็นแล้ว

[bird]

แวะมาอ่านเฉยๆ

มาแล้ว......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ต้อนรับกลับบ้านค่ะ...5555

[bird]

แวะมาเก็บข้อมูลเชิงลึกค่ะ...
ก้มหน้าก้มตาเก็บเกี่ยวข้อมุลอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณทุกท่านค่ะ..

[amplepoor]

แวะมาเก็บข้อมูลเชิงลึกค่ะ...
ก้มหน้าก้มตาเก็บเกี่ยวข้อมุลอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณทุกท่านค่ะ..

ผมไปปล่อยของที่เพจนายสุลักไว้ชุดใหญ่
แต่ระบบมันไม่ดี เหมือนขยะกองใหญ่ หรือผมไม่ชินก็ไม่รู้
หาอ่านยากเกินไป

[overtherainbow]

แวะมาเก็บข้อมูลเชิงลึกค่ะ...
ก้มหน้าก้มตาเก็บเกี่ยวข้อมุลอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณทุกท่านค่ะ..

สู้เค้า
ไอ้มดแดง

[bird]

แวะมาเก็บข้อมูลเชิงลึกค่ะ...
ก้มหน้าก้มตาเก็บเกี่ยวข้อมุลอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณทุกท่านค่ะ..

ผมไปปล่อยของที่เพจนายสุลักไว้ชุดใหญ่
แต่ระบบมันไม่ดี เหมือนขยะกองใหญ่ หรือผมไม่ชินก็ไม่รู้
หาอ่านยากเกินไป

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...

[bird]

แวะมาเก็บข้อมูลเชิงลึกค่ะ...
ก้มหน้าก้มตาเก็บเกี่ยวข้อมุลอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณทุกท่านค่ะ..

สู้เค้า
ไอ้มดแดง

ขอเป็น ไอ้มด V 3 น่ะ...น่ารัก อะ

[tonythebest]

เพจของสุลักษณ์​ ดูเหมือนจะมีคนทำให้ และนำคำพูด ความคิด ของสุลักษณ์มาลงเท่านั้นครับ
สังเกตุว่าจะไม่มีการตอบโต้ มันเป็นเพียงเครื่องปล่อยอาหารเม็ดตามเวลา
ให้ไก่กาเข้ามาจิกกินเท่านั้น หากเรานำคำโต้แย้ง ไปถก ก็ไม่ได้ต่างกับโยนกรวดลงไป
นกกามันก้คุ้ยเขี่ยทิ้งเท่านั้น ผมเคยลองมาแล้วเหมือนกันครับ จนถึงตอนนี้ ผมยังหากรวดก้อนของผมไม่เจอ

[dahlia v2]

ดัน

[เพลิงสีนิล]

ยังอยาก อ่าน ลุงปุ เล่าต่อ ฯ

ประวัติศาสตร์มีประโยชน์


จริงๆ อยากตั้งประเด็น ตั้งแต่ยุกล่าอาณานิคม เลย

อยากรู้จริงๆ ถ้า ไทยเป็นอาณานิคม ของตะวันตก วันนี้จะเป็นอย่างไร

พอดีัวันนี้เจอลูกค้าเสื้อแดง มันพูดทำนองว่่า ถ้าไทยเป็นอาณานิคม ของตะวันตกแล้วจะดีกว่านี้

ผมไม่อยากเถียง เพราะเป็นลูกค้า เบื้อ แดงพวกนี้จริงๆ

[Solidus]

ยังอยาก อ่าน ลุงปุ เล่าต่อ ฯ

ประวัติศาสตร์มีประโยชน์


จริงๆ อยากตั้งประเด็น ตั้งแต่ยุกล่าอาณานิคม เลย

อยากรู้จริงๆ ถ้า ไทยเป็นอาณานิคม ของตะวันตก วันนี้จะเป็นอย่างไร

พอดีัวันนี้เจอลูกค้าเสื้อแดง มันพูดทำนองว่่า ถ้าไทยเป็นอาณานิคม ของตะวันตกแล้วจะดีกว่านี้

ผมไม่อยากเถียง เพราะเป็นลูกค้า เบื้อ แดงพวกนี้จริงๆ

ไทยจะคงเหลือแค่เหนือสุดแค่อุตรดิตถ์ อิสานสุดแค่โคราช ตะวันออกสุดที่ตราด ใต้สุดสงขลา ส่วนที่เหลือจังหวัดภาคเหนือเป็นพม่าสมใจอยาก อิสานเป็นลาวสมใจอยาก

Edited by Solidus, 9 July 2012 - 18:25.

[ดราม่า]

ยังอยาก อ่าน ลุงปุ เล่าต่อ ฯ

ประวัติศาสตร์มีประโยชน์


จริงๆ อยากตั้งประเด็น ตั้งแต่ยุกล่าอาณานิคม เลย

อยากรู้จริงๆ ถ้า ไทยเป็นอาณานิคม ของตะวันตก วันนี้จะเป็นอย่างไร

พอดีัวันนี้เจอลูกค้าเสื้อแดง มันพูดทำนองว่่า ถ้าไทยเป็นอาณานิคม ของตะวันตกแล้วจะดีกว่านี้

ผมไม่อยากเถียง เพราะเป็นลูกค้า เบื้อ แดงพวกนี้จริงๆ

ตอบไปซิว่าดีเหมือนพม่าเลยยยยย (เขมรก็ได้เอ๊า นี่ผมอ้างอิงนิสัยคนไทยนะว่าคล้ายๆ2ชาตินี้)


แต่พูดก็พูดนะ ***ขี้ข้าแม้วจริงๆ นี่แสดงว่าอยากเป็นขี้ข้าฝรั่งด้วยจึงพูดแบบนี้

Edited by ดราม่า, 9 July 2012 - 18:27.

[overtherainbow]

อยากรู้จัง
ปวศ ชาติไทยนี่มีหนังสือหรือมีตำรากี่เล่ม กี่สาย กัน
แล้วมีเล่นไหนเป้นไปในแนวทางเดียวกัน และสายไหนขัดแย้งกัน
แล้วแต่ละเล่มอ้างอิงจากอะไรกัน

ขอความรู้ด้วยค่ะ

[naichod]

อยากรู้จัง
ปวศ ชาติไทยนี่มีหนังสือหรือมีตำรากี่เล่ม กี่สาย กัน
แล้วมีเล่นไหนเป้นไปในแนวทางเดียวกัน และสายไหนขัดแย้งกัน
แล้วแต่ละเล่มอ้างอิงจากอะไรกัน

ขอความรู้ด้วยค่ะ

เท่าที่ผมพอจะทราบ มีหลายเล่มครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นไปในแนวทางเดียวกัน แต่จะมีขัดแย้งกันบ้างก็เป็นรายละเอียดในสถานการณ์ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องเล่าหรือบันทึกใดๆก็ตามที่มาจากมุมมองของแหล่งข้อมูลเดิมนั้นๆ ไม่ต่างไปจากมุมมองของคนในปัจจุบันซึ่งมองสถานการณ์ในแต่ละเรื่องอาจไปในทางเดียวกันหรือขัดแย้งกัน

การอ้างอิงส่วนใหญ่ก็จะมาจากบันทึก และบันทึกก็มาจากบุคคลต่างๆในแต่ละมุมมอง
บางส่วนก็มาจากการบอกเล่าของบุคคลในสถานการณ์นั้นๆและมีผู้นำมาเผยแพร่
บางส่วนก็มาจากข่าวของสื่อ ซึ่งไม่ทราบว่ามีที่มาและได้มาอย่างไร

ความเหมือนหรือต่างหรือแย้งกันของประวัติศาสตร์ ในมุมมองของผมนั้น มันเป็นประโยชน์ต่อชนรุ่นหลัง ที่จะนำเอามาศึกษากันในเชิงแง่มุมความคิดต่างๆใน"สมัยนั้น" ว่าผู้คนต่างคิดอ่านและกระทำการอย่างใด และเมื่อมาดูในปัจจุบัน วิธีคิด แนวความคิดนั้น ได้ถูกนำไปต่อยอด หรือปรับเปลี่ยนไปอย่างไร

เรื่องบางเรื่องในประวัติศาสตร์ที่ขัดแย้งกันนั้น ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ศึกษา(ทั้งสองด้านหรือหลายด้าน) เพราะ จะได้ทำความเข้าใจกับ "วิธีคิด" และ"แนวคิด" ในอดีต ในการศึกษาประวัติศาสตร์ ครูผมสอนผมว่า ต้องเข้าใจสภาพสังคมในยุคนั้นๆด้วยทุกด้าน ไม่จำเพาะเจาะจงไปที่สถานการณ์ของเรื่องนั้นๆอย่างเดียว สถานการณ์หนึ่งในอดีต มันเกี่ยวโยงไม่จำเพาะประวัติศาตร์ของชาตินั้นๆ แต่มันเกี่ยวโยงไปทั่ว แม้กระทั่งประเทศอื่นๆในขณะนั้นว่ามีแนวคิดและมุมมองอย่างไร

........เรื่องบางอย่างในประวัติศาสตร์ที่เห็นว่าเป็นการแก้สถานการณ์ได้ดีนั้น บางทีเราอาจไม่สามารถนำเอามาใช้ในปัจจุบันได้ เพราะองค์ประกอบของสังคมเปลี่ยนไป องคาพยพของสังคมโดยรวมทั้งโลกเปลี่ยนไป

แต่สิ่งที่เราศึกษาได้จากมันคือ วิธีคิด และแนวคิดของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ณ ห้วงเวลานั้นๆ

[ศรอรชุน]

เข้ามาลงชื่อร่วมศึกษา กับกระทู้คุณภาพ ครับ

[baboon]

อยากรู้จัง
ปวศ ชาติไทยนี่มีหนังสือหรือมีตำรากี่เล่ม กี่สาย กัน
แล้วมีเล่นไหนเป้นไปในแนวทางเดียวกัน และสายไหนขัดแย้งกัน
แล้วแต่ละเล่มอ้างอิงจากอะไรกัน

ขอความรู้ด้วยค่ะ

สายหลักคือ สายดำรงราชานุภาพ ที่เหลือก็รับใช้เจ้าลัทธิเฉพาะกิจ สายอินดี้อื่นๆตลอดจนประวัติศาสตร์ที่เพิ่งมั่วครับ
แต่ที่แนะนำให้อ่านเลยคือหนังสือต่างๆของคุณไกรฤกษ์ นานา แกลงทุนไปหาข้อมูลปฐมภูมิที่เมืองนอกเลย อ่านง่าย สุดยอดจริงๆ

Edited by baboon, 10 July 2012 - 11:55.

[amplepoor]

ดีใจได้คุยกับลุงชดอีก

ประวัติศาสตร์ชาติไทย มีหลายแนวครับ
ถ้าอยากได้ชนิดที่เรียบง่าย ตัดประเด็นขัดแย้งต่างๆ ออก
เก็บไว้แต่ที่ค่อนข้างลงรอยกัน ก็คงต้องพึ่งคณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์

แต่ที่ทำแล้วดังนั้น มักจะเป็นประวัติศาสตร์เชิงวิเคราะห์
ตัดเอาบางตอนบางประเด็นออกมาศึกษา เช่นนิธิเขียนเรื่องพระเจ้ากรุงธนบุรี
สุเนตรเขียนเรื่องพม่ารบกับไทย....ฯลฯ มีมากมายแต่ผมไม่ได้ตามเสียแล้ว

ประวัติศาสตร์แบบตัดส่วนพวกนี้สำคัญ เพราะทำดีๆ ก็ช่วยยุติความไม่แน่ชัดลง
ส่งผลให้เขียนประวัติศาสตร์แบบแรกได้ง่ายขึ้น

แต่จะหวังให้มีตำราระดับ "จากบ้านเชียงถึงราชประสงค์" ชาตินี้คงไม่เจอ
ผมไม่คิดว่าจะมีนักประวัติศาสตร์คนใหน มีความรอบรู้พอที่จะเขียนออกมาได้
แม้แต่กรรมการชำระประวัติศาสตร์ก็ตาม

Edited by amplepoor, 10 July 2012 - 14:36.

[amplepoor]

อ่านประวัติศาสตร์ให้สนุก เราต้องอ่านได้เหมือนอ่านหนังสือพิมพ์ข่าวรายวัน
คือเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น เหมือนเราอยู่ตรงนั้นตอนเกิดเหตุการณ์

แต่มันเป็นความต้องการที่เป็นไปไม่ได้ เพราะแม้เราสร้างเหตุการณ์นั้นเอง ก็ยังรู้ไม่จริง
เพราะเหตุการณ์เป็นผลมาจากพฤติกรรมของคนหมู่มาก
แถมประวัติศาสตร์ก็ยังเลือกบันทึกเฉพาะเหตุการณ์ที่คนเขียนคิดว่าสำคัญ
กลายเป็นว่า ที่จริงแล้ว คนเขียนสำคัญกว่าตัวประวัติศาตร์ เพราะประวัติศาสตร์คือเหตุการณ์ที่ถูกเขียน
อะไรไม่ถูกเขียนก็หายไป ไม่มีประวัติศาสตร์

เราก็เลยต้องย้อนมาดูว่า ใครกันที่เขียนประวัติศาสตร์ หรือที่จริงก็คือการประเมินคน ไม่ใช่ประเมินเหตุการณ์
คนที่เที่ยงธรรม มีมาตรฐาน มีปัญญา มีทักษะในสิ่งที่ทำ ก็จะน่าสนใจมากกว่าคนอยากดัง อคติ โง่....
ซึ่งคุณสมบัติพวกนี้ ตัวหนังสือที่เขาเขียนมันบอกออกมาชัดเจนครับ ถ้าเรามีประสบการณ์มากพอ

ผมเคยคุยเรื่องจารึกพ่อขุนรามไว้หน่อยหนึ่ง
ในนั้น เราต้องใช้ความเห็นของพิริยะฝ่ายเสนอ กับดร. ประเสริฐฝ่ายค้าน
เอามองท่านขึ้นชั่งน้ำหนัก ถ้าดร. ประเสริฐเป็นนักวิชาการระดับ 90 ใน 100
พิริยะก็จะได้สัก 60 / 100 หรือน้อยกว่า เท่านั้นเอง

อาจจะเรียกว่าเป็นนักประวัติศาสตร์แบบคาบเส้นก็ได้กระมั่ง...5555

[amplepoor]

ลองเล่นสนุกกันในสรท. นี้ก็ได้ครับ
เขียนประวัติศาตร์ หรือบันทึกเหตุการณ์ตั้งแต่แม้วเรืองอำนาจ มาถึงปัจจุบัน

ก็จะพบว่า เขียนไม่ได้...ฮา

[naichod]

อ่านประวัติศาสตร์ให้สนุก เราต้องอ่านได้เหมือนอ่านหนังสือพิมพ์ข่าวรายวัน
คือเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น เหมือนเราอยู่ตรงนั้นตอนเกิดเหตุการณ์

แต่มันเป็นความต้องการที่เป็นไปไม่ได้ เพราะแม้เราสร้างเหตุการณ์นั้นเอง ก็ยังรู้ไม่จริง
เพราะเหตุการณ์เป็นผลมาจากพฤติกรรมของคนหมู่มาก
แถมประวัติศาสตร์ก็ยังเลือกบันทึกเฉพาะเหตุการณ์ที่คนเขียนคิดว่าสำคัญ
กลายเป็นว่า ที่จริงแล้ว คนเขียนสำคัญกว่าตัวประวัติศาตร์ เพราะประวัติศาสตร์คือเหตุการณ์ที่ถูกเขียน
อะไรไม่ถูกเขียนก็หายไป ไม่มีประวัติศาสตร์

เราก็เลยต้องย้อนมาดูว่า ใครกันที่เขียนประวัติศาสตร์ หรือที่จริงก็คือการประเมินคน ไม่ใช่ประเมินเหตุการณ์
คนที่เที่ยงธรรม มีมาตรฐาน มีปัญญา มีทักษะในสิ่งที่ทำ ก็จะน่าสนใจมากกว่าคนอยากดัง อคติ โง่....
ซึ่งคุณสมบัติพวกนี้ ตัวหนังสือที่เขาเขียนมันบอกออกมาชัดเจนครับ ถ้าเรามีประสบการณ์มากพอ

ผมเคยคุยเรื่องจารึกพ่อขุนรามไว้หน่อยหนึ่ง
ในนั้น เราต้องใช้ความเห็นของพิริยะฝ่ายเสนอ กับดร. ประเสริฐฝ่ายค้าน
เอามองท่านขึ้นชั่งน้ำหนัก ถ้าดร. ประเสริฐเป็นนักวิชาการระดับ 90 ใน 100
พิริยะก็จะได้สัก 60 / 100 หรือน้อยกว่า เท่านั้นเอง

อาจจะเรียกว่าเป็นนักประวัติศาสตร์แบบคาบเส้นก็ได้กระมั่ง...5555

ผมชอบข้อความตรงที่ไฮไลท์สีแดงไว้น่ะครับ มันอธิบายได้อย่างชัดเจนทีเดียวก่อนที่เราจะหยิบหนังสืออะไรก็ตามเกี่ยวกับประว้ติศาสตร์ขึ้นมาอ่าน

แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเราอยากจะมอง วิธีคิด และแนวคิด ....ผมก็ว่าควรอ่านมันให้หมดแหละไม่ว่าจะของใคร เพราะมันจะทำให้เรา"เจอ" เองแหละว่าใครมันมั่วหรือเขียนขึ้นด้วยอัตตาผสมเจือเข้าไป

อ่านให้หมดก็มองได้กว้างขึ้นอีก คิดซะแบบนี้ เรามีแต่ได้ครับ

แต่หากจะเอาประวัติศาสตร์มาอ้างอิงเพื่อยืนยันอะไรสักอย่าง ก็ควรต้องเป็นไปอย่างน้าเปิ้ลบอกคือต้องเป็น คนที่เที่ยงธรรม มีมาตรฐาน มีปัญญา มีทักษะในสิ่งที่ทำ

คิดเล่นๆผมก็หัวร่องอหายไปกับรุ่นลูกหลานคนไทยอีก 100 ปีข้างหน้าแล้ว

ไม่รู้ว่าพวกเขาจะอ่านประวัติศาสตร์ช่วงเหตุการณ์เผาเมืองกันในต้นฉบับของใคร

เพราะบางคนบอกว่า ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ ซึ่งตอนนี้ ใครชนะหว่า??? (อย่าบอกแบบหล่อๆนะครับว่าไม่มีใครแพ้ใครชนะ..อิอิ)

ผมทราบแต่ว่า ผู้แพ้ตลอดกาลน่ะ คือ ประชาชน ครับ (ห้ามกร๊ากนะครับ )

[overtherainbow]

กร๊ากไม่ออก ขำไม่ได้เลยค่ะ

แต่ดีใจมีผู้ใหญ่มาร่วม ชำระ เพิ่มมาอีกหนึ่ง

จะว่าไปฝ่ายที่ออกนอกเส้นทาง พยายาม พิสูจน์ข้อสันนิษฐาน ให้ต่างไปจากของเดิม มันก็ดีนะคะ

มันทำให้ปวศ เป็นวิทยาศาสตร์ดี เพราะเรื่องทางสังคมศาสตร์ จะมำให้เป็นวิทยาศาสตร์ขึ้นมาได้ต้องใช้วิธีวิจัย

มีใครได้ทำวิจัยบ้างมั้ยคะ หรือได้แต่ตั้งข้อสมมติฐาน พอดีไม่ได้อ่านเรื่องศิลาจารึกซะด้วย คิดว่าอ่านมาบ้างแต่ไม่ค้างใจติดหัว ถือว่าไม่ได้อ่านแล้วกัน

คำถาม

อีกหน ปวศ เขียนมา เพื่อบันทึกเหตุการณ์เท่านั้นหรือ มีบ้างไหมที่มี เจตนา ล้างสมอง แล้ว ถ้ามี มีกี่คน ทำงานให้ใคร คะ

[naichod]

คำถาม

อีกหน ปวศ เขียนมา เพื่อบันทึกเหตุการณ์เท่านั้นหรือ มีบ้างไหมที่มี เจตนา ล้างสมอง แล้ว ถ้ามี มีกี่คน ทำงานให้ใคร คะ

หากเป็นประวัติศาสตร์ ก็น่าจะเป็นเพียงบันทึกเหตุการณ์ และหากเป็นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ก็จะเป็นบันทึกเหตุการณ์ที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ

แต่หากมีการนำประวัติศาสตร์มาปรุงแต่งโดยมีเจตนาล้างสมองตามที่คุณรุ้งว่านั้น ผมว่าไม่น่าจะนับเป็นหนังสือประวัติศาสตร์แต่น่าจะเป็น หนังสือเกี่ยวกับการวิเคราะห์ในมุมมองของผู้เขียนมากกว่า

ยกตัวอย่างเช่น ประวัติศาสตร์ในส่วนที่เกี่ยวกับกับ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ บางท่านเรียกว่า พระเจ้าตากสิน

จะมีการนำเอาไปปรุงแต่งเป็นเกร็ดมากมาย เช่น หลวงปู่ทวด อะไรทำนองนี้ หรือแม้กระทั่งเรื่องที่พวกเสื้อแดงบางคนเอาไปปรุงแต่งเกี่ยวกับ ทักษิณ

การนำไปปรุงเป็นเกร็ด ไม่น่าจะถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ แต่เป็นเพียง เรื่องที่อ้างอิงประวัติศาสตร์บางส่วนมาเสริมเติมเข้าไป


ส่วนที่ว่าล้างสมองนั้น คงไม่ใช่หรอกครับ ผมว่าผู้อ่านหรือศึกษาประวัติศาสตร์น่าจะมีวิจารณาญาณพอที่จะเชื่อ คงไม่ถึงขนาดล้างสมองกันได้ แต่อาจเก็บข้อมูลไปใช้ ไปคิด ออกนอกลู่ไป


ประเทศเรา ไม่ว่าจะสีไหน อย่านึกว่าเขาโง่หรืองมงายหรือถูกล้างสมองเลยครับ น้อยรายนักที่ถูกล้างสมอง แต่หากบอกว่า เราไม่ค่อยมีวิธีคิด หรือ ไม่ค่อยมีแนวคิดดีๆนั้น น่าจะใช่

สิ่งสำคัญที่คนไทยเราส่วนหนึ่งขาดหรือพร่องไปคือ วิธีคิด ซึ่งหมายรวมถึง แนวทางการจัดระบบความคิดด้วยครับ

ข้อมูลมีมากมาย แต่ควรมีวิธีคิดที่จัดการกับมันอย่างเหมาะสม

มิฉะนั้น ประชาชนอีกมากมายก็จะเป็นเหยื่อของนักการเมือง ในการครอบงำความคิด เพราะ ประชาชนเหล่านั้น ขาดวิธีคิดและระบบจัดการที่ดีพอ

[amplepoor]

ประเทศเรา ไม่ว่าจะสีไหน อย่านึกว่าเขาโง่หรืองมงายหรือถูกล้างสมองเลยครับ น้อยรายนักที่ถูกล้างสมอง
แต่หากบอกว่า เราไม่ค่อยมีวิธีคิด หรือ ไม่ค่อยมีแนวคิดดีๆนั้น น่าจะใช่

อยากให้ลุงชดคุยกับสหายปลายอ้อกอแขมดู
ผมว่ารายนี้ สมองสะอาดสะอ้าน ไม่มีเนื้อเหลือเลยแหละครับ
คนล้าง ทำงานได้ดีมาก

[bird]

รู้สึก..ดีจริง ๆ

ในฐานะ จขกท ขอเรียนตรง ๆ ว่า รู้สึก..ดีจริง ๆ ค่ะ

ขอบคุณท่านผู้อาวุโส ท่านผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทุก ๆ ท่าน
ที่ได้กรุณาแวะเวียนมาหยิบยื่นข้อมูล คามรู้ในมุมต่าง ๆ ให้เป็นวิทยาทาน
มีข้อโต้แย้ง ข้อถกเถียงกันบ้าน ตามประสาการเสวนาแบบประชาธิปไตย

ทำให้รู้ว่า...

สิ่งที่เราคิดว่าเรารู้นั้น เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของประวัติศาสตร์เท่านั้น
ยังมีแง่มุมที่เราไม่เคยรับรู้อีกมาก...ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ

อีกประเด็น...กระทู้นี้ทำให้เรารู้ว่า...

ความรู้และข้อมูลที่แท้จริง ต่างจาก ข้อมูลมั่ว ๆ ที่ไร้ข้อมูลอ้างอิงสนับสนุน
ความรู้ที่เป็นเพียงพูดไปสนุกปาก เขียนไปสนุกมือ เล่าไปเพราะความสะใจ
นั้นเป็นอย่างไร...

ขอบคุณท่านอาจารย์ทุกท่าน ท่านผู้เชียวชาญทุกท่าน..และ
ท่านที่แวะมาลงทะเบียนเรียนทุกท่านอีกครั้งค่ะ...

[ปุถุชน]

ประเทศเรา ไม่ว่าจะสีไหน อย่านึกว่าเขาโง่หรืองมงายหรือถูกล้างสมองเลยครับ น้อยรายนักที่ถูกล้างสมอง
แต่หากบอกว่า เราไม่ค่อยมีวิธีคิด หรือ ไม่ค่อยมีแนวคิดดีๆนั้น น่าจะใช่

อยากให้ลุงชดคุยกับสหายปลายอ้อกอแขมดู
ผมว่ารายนี้ สมองสะอาดสะอ้าน ไม่มีเนื้อเหลือเลยแหละครับ
คนล้าง ทำงานได้ดีมาก

เห็นด้วย....
อยากเห็น"naichod"คุยกับ"ปลายอ้อกอแขม"......ฮา
ในสมองของเขาไม่ได้สะอาดสะอ้านหรอก...
มี"ใบบอก"และ"บัตรเติมเงิน"ใช้แล้ว
ทิ้งขว้างรกสมองจำนวนหนึ่ง......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

รู้สึก..ดีจริง ๆ

ในฐานะ จขกท ขอเรียนตรง ๆ ว่า รู้สึก..ดีจริง ๆ ค่ะ

ขอบคุณท่านผู้อาวุโส ท่านผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทุก ๆ ท่าน
ที่ได้กรุณาแวะเวียนมาหยิบยื่นข้อมูล คามรู้ในมุมต่าง ๆ ให้เป็นวิทยาทาน
มีข้อโต้แย้ง ข้อถกเถียงกันบ้าน ตามประสาการเสวนาแบบประชาธิปไตย

ทำให้รู้ว่า...

สิ่งที่เราคิดว่าเรารู้นั้น เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของประวัติศาสตร์เท่านั้น
ยังมีแง่มุมที่เราไม่เคยรับรู้อีกมาก...ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ

อีกประเด็น...กระทู้นี้ทำให้เรารู้ว่า...

ความรู้และข้อมูลที่แท้จริง ต่างจาก ข้อมูลมั่ว ๆ ที่ไร้ข้อมูลอ้างอิงสนับสนุน
ความรู้ที่เป็นเพียงพูดไปสนุกปาก เขียนไปสนุกมือ เล่าไปเพราะความสะใจ
นั้นเป็นอย่างไร...

ขอบคุณท่านอาจารย์ทุกท่าน ท่านผู้เชียวชาญทุกท่าน..และ
ท่านที่แวะมาลงทะเบียนเรียนทุกท่านอีกครั้งค่ะ...

คนไทยอยากรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยของตนเองนั้น
อาภัพกว่าชนชาติอื่นที่ชำระประวัติศาสตร์แล้ว
ไม่แน่ใจว่า"ข้อเท็จจริง"ที่บันทึกไว้มี"ความจริง"มากน้อยเท่าใด
บิดเบือน ปลอมแปลง อคติอย่างใด.....

นักเรียนรุ่นผมเรียนประวัติศาสตร์ ม.1-ม.6
ตำราเรียนปีละเล่ม เนื้อหาเกือบเหมือนกันทุกปี....

นักเรียนที่ใผ่รู้ อยากเรียนประวัติศาสตร์อย่างจริงจัง
เบื่อหน่ายวิชาประวัติศาสตร์มากที่สุด

ต้องค้นหาจากแหล่งอื่นเช่นห้องสมุด หอสมุดแห่งชาติ
ก็มีหนังสือที่"ท่าน"คัดไว้ให้อ่าน....ฮา

หรือซื้อหาหนังสือ ตำราจากร้านขายหนังสือเอกชน....
นอกจากนี้ขอความรู้ พูดคุยกับนิสิต-นักศึกษา
อ้างอิงเรียนรู้จากอาจารย์ในมหาวิทยาลัย...
อาจารย์ที่เรียนวิชาประวัติศาสตร์จากต่างประเทศ
มีข้อมูล หลักฐานอ้างอิง ข้อเท็จจริงลงลึกแตกต่างกัน
เทียบเคียง คัดค้าน สนับสนุนจากอาจารย์รุ่นเก่า....

เมื่ออยู่ห้องสมุดต่างประเทศในยุโรป อเมริกา
จึงได้ข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ควรเชื่อถือมากกว่า.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


ปล.ประวัติศาสตร์ไทยเกี่ยวกับลาว เกี่่ยวกับพม่า เกี่ยวกับญวน
ตรวจทาน เปรียบเทียบก็ต่างกันแล้ว.....อา

Edited by ปุถุชน, 10 July 2012 - 21:26.

[ปุถุชน]

"ผมอยากเล่าว่า ผมเคยไปเจอท่านปรีดี พนมยงค์ที่ปารีส ก็เลยถามท่านว่า ทำไมไม่อยากลับเมืองไทยบ้าง ท่านก็บอกว่าจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่ก็ได้เพราะคดีไม่มีอะไรแล้ว แต่ท่านก็บอกว่า เป็นคนที่มีลูกศิษย์เยอะ เดี๋ยวคนนั้นคนนี้มาหากล้วรัฐบาลไม่สบายใจ ท่านจึงตัดสินใจไม่มา ผมฟังแล้วเห็นว่าเพียงแค่นี้ท่านก็ไม่มา และท่านก็ไม่ได้พูดกับผมคนเดียวแต่ก็พูดกับคนอื่น อันนี้เป็นตัวอย่างเรื่องความปรองดอง ซึ่งต้องมีคนอยากปรองดองทุกฝ่าย จึงจะเกิดขึ้น ไม่ใช่ปรองดองแต่ปาก สร้างเงื่อนไข ทำโน่นทำนี่่เหมือนคนทะเลาะกัน ก็จับมือปรองดองกัน แต่อีกมือก็ชกกัน มันก็ปรองดองไม่ได้.....".....มานิต สุขสมจิตร ประธานมูลนิธิหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและรองประธานอนุกรรมการฯ คอป.



เฉพาะความคิดเห็นนี้ ความแตกต่างระหว่างท่านปรีดีและทักษิณ นักโทษหนีคุกเห็นได้ชัด.....

ในขณะที่ทักษิณและบริวารเรียกร้องการปรองดองแห่งชาติ
ซึ่ง"คนรู้ทักษิณ"คิดว่าเป็นกฏหมายล้างความผิดให้ทักษิณทั้งหมด คืนทรัพย์สินและอำนาจให้ด้วย

ดังนั้นการอ้างชื่อท่านปรีดี เนลสัน แมนเดล่า ออง ซาน ซูจี มหาตมา คานธี จึงเป็นเรื่องเหลวไหล หลอกลวงไพร่เสื้อแดงและบัตรเติมเงินเท่านั้น.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า