คิดแบบนี้ก็เชิญตามสบายเถอะ เพราะหลักคิดคุณกับผมมันคนละอย่างแล้ว
สำหรับผมเจตนาดีไม่พอหรอก
เจตนาดีแต่เพ้อฝันอย่างคุณก็มี
เจตนาดีแต่ทำอะไรโง่ ๆ ก็มี
เจตนาดีมันต้องมาพร้อมกับความเข้าใจและสติปัญญา ถึงจะแก้ปัญหาได้
ส่วนที่คุณดึงดันจะโทษว่าปัญหาเกิดจากเจตนาของพรรคการเมือง ก็ตามสบาย
ทั้ง ๆ ที่ผมชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงตำตาไปแล้วว่า ปัญหาหลายอย่างเกิดมาก่อนจะมีพรรคการเมืองซะอีก
ถามหน่อย
นักการเมืองประเทศนี้มีอยู่ซักกี่พัน หรือกี่หมื่นคนเท่านั้น
ถ้าอีกหกสิบกว่าล้านคนไม่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเสียเอง
คนหลักพันหลักหมื่นจะสร้างปัญหาได้หลายสิบล้านได้มากมายเพียงนั้นเชียวรึ
เคยได้ยินมั้ย "หนังสือพิมพ์ดีได้เท่าคนอ่าน นักการเมืองดีได้เท่าประชาชน"
คุณภาพนักการเมืองมันก็แค่ภาพสะท้อนคุณภาพประชาชนในบ้านเรา
อยากแก้ปัญหา ถ้าแก้ที่นักการเมืองอย่างเดียว ไม่มีผลหรอก
ปัญหาบางอย่างมีมาก่อนมีนักการเมือง
แล้วยุคนี้มันยุคไหน มีกฎหมายควบคุม แก้ไขไม๊ ?
ใครเป็นผู้ใช้กฎหมาย ?
ใครเป็นผู้มีอำนาจควบคุม สั่งการ หรือมีนโยบายให้ผู้รักษากฎหมายปฎิบัติหน้าที่จริงจัง ตรงไป ตรงมา ?
ประชาชนดี ไม่ดี มีคุณภาพ ไร้คุณภาพ อยู่ที่สภาพสังคม
แล้วสังคมเสื่อมเพราะใคร ?
ก็เสื่อมเพราะคนในสังคมน่ะสิ
แล้วใครคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสังคม
ทำให้สังคมเสื่อม ผู้คนขาดศีลธรรม ไร้จิตสำนึก
ถึงขนาดวันนี้ยอมรับการโกงว่าเป็นเรื่องปกติ ?
ดูเหมือนคุณจะคิดต่อจากคำตอบสั้น ๆ ของผมไม่เป็น
จนต้องให้ผมช่วย
ผมจะยกตัวอย่าง "นิด ๆ" ละกัน
มีองค์กรที่เป็นอิสระจากภาครัฐมากพอสมควร และอยู่มาก่อนพรรคการเมืองเป็นเวลายาวนาน
นั่นคือศาสนา
ส่วนหนึ่งขององค์กรศาสนาที่สอนให้คนมัวเมากับโชคลาภ เชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรมแบบผิด ๆ
ผสมไสยศาสตร์เลอะเทอะเปรอะเปื้อน
แทนที่จะสอนให้คนมีปัญญา มีศีลธรรม กลับคอยรดน้ำให้ความโลภของชาวบ้าน
นี่ไม่ร้ายกาจพอ ๆ กับพรรคการเมือง หรือร้ายกาจกว่าพรรคการเมืองหรือ