http://webboard.seri...นเมืองกำลังวุ่/
ผม ไม่เห็นว่าอภิสิทธิ์ในตอนนี้จะแตกต่างจาก เทพไท ชวนนท์ หรือ วอลเปเปอร์เลย คือทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองกลับมาเป็นนายก ไม่เว้นแม้แต่การจะจ้องทำลายผู้หญิงก็ตาม
แมนอ่ะป่าว...ถ้าข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง จะตั้งกระทู้ขอโทษไม๊
วิดีโอ
http://www.youtube.com/watch?v=1gZSeHTQ2f0
คำต่อคำ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในการปราศรัย “ผ่าความจริง หยุดกฎหมายล้างผิด”
คำต่อคำ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ในการปราศรัย “ผ่าความจริง หยุดกฎหมายล้างผิด”
ณ เวทีลานคนเมือง เสาชิงช้า 2 มิถุนายน 2555
พี่ น้องที่เคารพรักทุกท่านครับ เขาบอกว่าตามประเพณีหนังไทย ก่อนพระเอกออกมาก็ให้ผู้ร้ายแสดงให้เต็มที่ วันนี้ผมต้องขอขอบคุณพี่น้องจำนวนมากจริง ๆ ที่เดินทางมาเพื่อฟังความจริงเกี่ยวกับกฎหมายล้างผิดคนโกง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้ตัดสินใจตั้งเวทีในวันนี้ เพราะเราทราบดีครับว่าขณะนี้ ความพยายามในการที่จะผลักดันกฎหมายทำลายชาติ ล้างความผิด คืนสิทธิ์ให้คนโกงนั้น ยังเดินหน้าอย่างเต็มที่ ผมทราบว่าพี่น้องหลายคนที่อยู่ที่นี่ ไปร่วมต่อสู้คัดค้านความไม่ถูกต้องมาแล้วหลายวัน เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่า หลายคนก็คงเหนื่อย คงล้า ผมขอแสดงความคารวะต่อจิตใจอันแน่วแน่ มั่นคงของพี่น้องที่ยังยืนหยัดต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และวันนี้ผมต้องบอกครับว่า การที่รัฐบาลต้องรีรอ ต้องเลื่อน หรือต้องถอย ไม่ใช่เพราะพรรคประชาธิปัตย์หรอกครับ จริงอยู่ เราทำหน้าที่ต่อสู้อย่างเต็มที่ ตามบทบาทอำนาจหน้าที่ของเรา แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเองครับ
วันนี้พวกเราทุกคนต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ที่ออกไปต่อสู้ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
ผมไม่ลังเลใจหรอกครับ ผมเอ่ยชื่อได้ครับว่าวันนี้ต้องขอบคุณพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ผม ต้องขอบคุณกลุ่มคนที่เรียกว่า “เสื้อหลากสี” ผมต้องขอบคุณ แฟน ๆ รายการ “สายล่อฟ้า” และอีกหลายต่อหลายกลุ่ม ซึ่งผนึกกำลังกันต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ที่กำลังเกิดขึ้น
ผม มาถึงที่นี่ตั้งแต่ 5 โมงเย็นครับ ได้ฟังเพื่อน สส. ท่านอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 2 ท่าน ท่านประธานวิป พูดจาปราศรัยให้ข้อเท็จจริงกับพี่น้องประชาชน ความจริงต้องถือว่า เนื้อหาสาระเกือบจะครบถ้วน ผมก็กังวลครับเพราะว่าฟังไปก็เงยหน้ามองฟ้า ตั้งแต่ยังเห็นจนมองไม่เห็น ฟ้าก็ขู่ลงมาเรื่อย ๆ นะครับ “สายล่อฟ้า” ก็อยู่แถวนี้ (ฝน) ตกหรือไม่ตกครับนี่ งานนี้ใช้เสียงข้างมากนะครับ เสียงข้างมากว่าไม่ตก แต่ถ้าตก จะอยู่ด้วยกันไม๊ครับ
ผมบอกพี่น้องครับ ถึงฝนจะตกหนักแค่ไหน มันชำระล้างทุกสิ่ง แต่มันไม่ล้างผิดให้คนโกง !
ผม ยืนยันว่า ที่เราต้องมาพูดมาจาในวันนี้ มันไม่ใช่อย่างที่เขาพยายามจะสร้างเรื่อง สร้างกระแส กล่าวหากันรอบใหม่ วันนี้มีอีกรายการหนึ่งเขาจัดอยู่แถวเมืองทอง มีนักเล่านิทานอีกหลายคน พยายามจะบอก จะขู่ประชาชนว่า พรรคประชาธิปัตย์ กำลังก่อการกบฎ ผมก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละครับว่า เขาก่อการกบฎด้วยการปาข้อบังคับใส่ประธานสภา
ที่ สำคัญพวกคนที่บอกว่า ประชาธิปัตย์ กำลังทำการกบฎด้วยการปาข้อบังคับ ด้วยการลากเก้าอี้ประธานสภาฯ คนเหล่านี้ครับ คือคนที่ชวนคนมาเผา ชวนคนมาบอกว่าติดอาวุธ แล้วก็ให้มาล้มล้างรัฐบาล ถ้าไม่รู้จักกบฎ กลับไปส่องกระจกดูครับ
ผม ยืนยันกับพี่น้อง ผมประกาศมาหลายครั้ง พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความมุ่งหมายในการล้มล้างรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ พี่น้องจะชอบหรือไม่ชอบ เมื่อกี้ไม่ใช่คำถามครับ พี่น้องจะชอบหรือไม่ชอบ แต่เราต้องเคารพกระบวนการของการเลือกตั้ง และระบอบประชาธิปไตย และกติกาของเรา
ผม ก็เห็นว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่รัฐบาลทำอยู่ หลายเรื่องเสียหาย แพงทั้งแผ่นดิน พืชผลตกต่ำ ความจริงถ้าพูดไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวจะยาวหลายชั่วโมง และหลายคนก็หงุดหงิด หงุดหงิดว่าผู้นำประเทศ พูดผิด พูดถูก แต่ผมถือว่าเมื่อได้รับเลือกตั้งมา ก็ให้ทำหน้าที่ไป ส่วนเข้าใจหน้าที่เป็นอย่างไรก็เป็นความเห็นต่าง บางเรื่องผมก็สู้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ครับ ผมเล่นการเมืองมา 20 ปี ผมว่ายังเปลี่ยนชุดไม่บ่อยเท่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ปีเดียว แล้วให้ผมบินไปตำส้มตำถึงออสเตรเลียผมก็ทำไม่เป็นเหมือนกันครับ
แต่ อยากให้รัฐบาลสบายใจ ผมประกาศแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองในระบบรัฐสภา เมื่อคุณมีเสียงข้างมาก คุณมีสิทธิ์บริหารประเทศ แต่เสียงข้างมากที่บริหารประเทศไม่ใช่ทำอะไรผิดกฎหมาย หรือทำลายชาติบ้านเมืองได้
หลาย เดือนที่ผ่านมาเขาสร้างวาทกรรม เขาบอก “ประชาธิปัตย์ค้านทุกเรื่อง” ไม่จริงหรอกครับ ท่านประธานวิป อยู่ตรงนี้ ท่านจะบอกได้เลยว่า เกือบ 1 ปี ที่ผ่านมา เป็นยุคที่ฝ่ายค้านยกมือสนับสนุนกฎหมายของรัฐบาล ข้อตกลงระหว่างประเทศที่เยอะที่สุดยุคหนึ่ง
เรื่อง ไหนจำเป็น เรื่องไหนเป็นประโยชน์กับประเทศ ทำไปเถอะครับ แต่เรื่องไหนที่ไม่ถูกต้อง เราก็ค้าน วันนี้สิ่งที่เราบอกมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่รัฐบาลแถลงนโยบาย ก็คือพี่น้องคาดหวังให้เข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน เดินหน้าตามคำมั่นสัญญาที่บอกจะ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ จะขึ้นค่าแรง จะขึ้นเงินเดือน เราบอกว่า ให้เดินหน้าทำอย่างจริงจัง ตามคำสัญญา แต่เราบอกตั้งแต่ต้น ผมยืนยอมรับความพ่ายแพ้ในวันเลือกตั้งที่ลานพระแม่ธรณี ผมบอกว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีความชอบธรรมที่จะทำทุกอย่างตามนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน แต่พวกผมไม่ยอมรับว่าเสียงข้างมากที่เลือก เลือกให้ท่านมาทำเพื่อคน ๆ เดียว
และพวกผมพูดตั้งแต่ต้นว่า ถ้ามีเรื่องนิรโทษกรรม ถ้ามีเรื่องการคืนทรัพย์สิน 4 หมื่น 6 พันล้าน พวกผมจะต่อสู้ทุกวิถีทางภายใต้กฎหมาย
ผมขออนุญาตพี่น้องครับ กลัวจะแพ้พวกสายล่อฟ้า วันนี้มา 2 คน แต่คนที่ 3 นั้นมาทีหลัง (ศิริโชค โสภา) เพราะนั่งอยู่ Bluesky ปั่น SMS เชียร์ ตัวเองอยู่ ผมเลยต้องเปิดคลิปบ้าง ผมอยากให้พี่น้องดูครับว่าทำไมประชาชน คนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทยหรือเลือกพรรคประชาธิปัตย์ มีความชอบธรรมที่จะต่อต้านกฎหมายล้างผิดให้คนโกงฉบับนี้ เพราะได้มีการให้คำมั่นสัญญากับประชาชน ซึ่งบัดนี้กลายเป็นการ “โกหกคำโต” ขอเชิญเปิดคลิปได้ครับ
-------- < เปิดคลิป > -------------
พี่ น้องครับ เห็นรึยังครับว่าฝ่ายไหน “ดีแต่พูด” พูดจาไม่รักษาคำพูด และผมนี่แหละครับ เตรียมมาพูดจาปราศรัยวันนี้ ก็พยายามดูข้อมูล ผมไปพบการเขียนขึ้นทางอินเทอร์เน็ตเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน (2554) เขียนเอาไว้ถึงเหตุการณ์ซึ่งพี่น้องฟังดูนะครับว่า แม่นยำขนาดไหน มีคนเขียนเอาไว้ครับบอกว่า
“นั่น ยังไม่สำคัญเท่ากับที่พี่น้องเสื้อแดง ชอบมาทวงถามความยุติธรรมเรื่องความตาย 91 ศพ ผมคิดว่า พวกท่านยกป้ายถามผิดคน พี่น้องเสื้อแดงต้องไปยกป้ายถามคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยว่า
“นิรโทษกรรมจะทำอย่างไรกับ 91 ศพ”
“นิรโทษกรรมข้าม 91 ศพ แลกเงิน 46,000 ล้านหรือ”
แล้วก็เขียนต่อไปครับว่า ..
เป็น ไปไม่ได้ที่กฎหมายนิรโทษกรรมจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรม เหตุการณ์หลังรัฐประหารมากมาย ซึ่งบทความนี้ก็เขียนต่อครับว่า คำถามของผมที่อยากให้พี่น้องเสื้อแดงได้คิด ก็คือเมื่อเขานิรโทษกรรมแล้ว ก็เท่ากับ 91 ศพจบไม่ต้องทวงถามความยุติธรรม ผมสังหรณ์ใจว่า คุณทักษิณอาจจะให้เงินครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นการเยียวยาในจำนวนที่สูง แทนที่จะค้นหาความจริง คืนความยุติธรรมให้กับร่างที่ไร้ลมหายใจเหล่านั้น ที่สำคัญคือ เงินที่จะเยียวยาคือภาษีประชาชนไม่ใช่เงินของคุณทักษิณ ที่บอกว่าจะดูแลพี่น้องเสื้อแดงอย่างดี เพราะที่ผ่านมา มีใครได้รับการดูแลบ้างนอกจากแกนนำ ขณะที่เขาคงเอาภาษีประชาชนไปเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยวงเงินสูง ๆ พร้อมกับสิ่งที่เขาจะได้รับกลับไปคือ เงินภาษีของประชาชน 4.6 หมื่นล้านบาทที่ถูกยึดทรัพย์กลับไปเป็นของตัวเอง”
บทความนี้จบลงนะครับว่า
“ถ้าพี่น้องเสื้อแดงไม่เห็นด้วยก็ต้องไปถามคุณยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยว่า จะนิรโทษกรรมเอาเงินให้ทักษิณ 46,000 ล้าน แล้วให้ลืมเรื่อง 91 ศพใช่ไหม”
(อ่านเพิ่มเติมที่) http://www.facebook....218400991534000
เขียน เมื่อ มิถุนา ปีที่แล้วครับ แม่นอย่างกับหมอดู ผู้เขียนไม่ใช่นอสตราดามุสครับ ผู้เขียนชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นจดหมายเปิดผนึกถึงพี่น้องประชาชนผ่านเฟสบุคในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แล้วหลังจากที่ผมเขียนจดหมายฉบับนี้ เราก็ไปปราศรัยที่ราชประสงค์ มีใครไปบ้างครับวันนั้น
ก็ ยืนยันละครับว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมเข้ามาเป็นรัฐบาล วาระสำคัญคือนิรโทษกรรมกับคืนเงินให้ทักษิณ พอหลังจากนั้น 1 วัน พรรคเพื่อไทยก็ออกแถลงการณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์ “คิดไปเอง” เหมือนที่พี่น้องคิดไปเองว่าของแพง ออกแถลงการณ์ปฎิเสธแล้วหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ไปดีเบตบนเวทีกับผม ที่ให้ดูในคลิปเมื่อสักครู่ บอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่นโยบายของพรรคเพื่อไทย จะไม่ทำ ถ้าทำต้องได้รับความเห็นชอบจากกรรมการบริหารพรรค
ผม ถามพี่น้องประชาชนวันนี้ครับ ผมเห็นพรรคเพื่อไทยมาทำเป็นประเด็นใหญ่ เรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในสภา ผมยอมรับครับ ว่าผมก็ไม่อยากให้ภาพอย่างนั้นเกิดขึ้นในสภา เราไม่อยากทำหรอกครับ เราไม่อยากทำ แต่ว่าที่ทำไปทั้งหมดผมบอกได้เลยว่า มันเกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่บีบคั้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
การ ประชุมสภาที่จะตัดสิทธิ์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะอภิปราย จะตั้งคำถาม จะพยายามเสนอข้อคิดเห็น ท้วงติงอะไรก็ไม่ได้ แม้กระทั่งการขอให้สภา หรือประธานสภา ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มันไม่เคยเกิดหรอกครับ ผมจึงคิดว่าใครที่เห็นเหตุการณ์โดยตลอด แล้วเข้าใจว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ผมคิดว่าจะมีความเข้าใจการกระทำของสมาชิกของพรรคมากขึ้น
ถ้า ความเสียหายเกิดขึ้น ผมยืนยันครับ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ประสงค์ให้เป็นการเสียหายของสภา ในสถานะสถาบัน เพราะสถาบันรัฐสภาต้องรักษาไว้ และผมยืนยันอีกครั้ง เรามาวันนี้ หรือเราเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่มีเรื่องที่จะไปเชื้อเชิญให้ใครมารัฐประหาร พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมรับแนวทางนั้นครับ พี่น้องครับ
แต่ ว่าความเสียหายถ้าเกิดขึ้นกับภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ผมก็ต้องยอมรับ ปฏิเสธไม่ได้ เพราะเป็นการกระทำของคนของพรรค แล้วใครจะด่าผมว่าอย่างไร ผมก็ย้ำอีกครั้งว่า ถ้าพรรคเสียภาพลักษณ์ แต่สกัดกั้นกฎหมายทำลายชาติได้ พรรคก็ต้องยอม
ผม ต้องมาย้ำอีกครั้ง หลายท่านพูดไป ความจริงค่อนข้างจะสมบูรณ์ว่า ทำไมกฎหมาย 4 ฉบับนี้ เป็นกฎหมายทำลายชาติ 4 ฉบับนั้น 3 ฉบับก็เสนอโดยคนของพรรคเพื่อไทยนั่นเอง
1 ฉบับแรกที่เสนอ เสนอโดย พล.อ.สนธิ ร่างนี้ถือว่าเป็นฉบับ “บังหน้า” เอาคำว่า “ปรองดอง” มาบังหน้าการล้างผิด เอา “บิ๊กบัง” มาบังหน้าพรรคเพื่อไทย เนื้อหาสาระเป็นอย่างไร เดี๋ยวอธิบาย แต่ว่าฉบับ “บังหน้า” นั้นมันไม่แนบเนียน เสนอมาแล้ว มีสมาชิกที่ลงชื่อเสนออยู่พรรคชาติไทยพัฒนา ประทานโทษเอ่ยนำท่าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ ให้สัมภาษณ์มาจากเมืองนอกว่า เซ็นชื่อนั้น ไม่ได้เซ็นให้มาเสนอกฎหมายแบบนี้ เพราะฉะนั้นปัญหานี้จะเป็นปัญหาใหญ่ต่อไปว่า การเสนอกฎหมายฉบับนี้มันถูกต้องหรือไม่
นั่น จึงคือที่มาของฉบับที่ 2 ที่ต้องเขียนขึ้นมาโดยสมาชิกพรรคเพื่อไทย มีนายสามารถ แก้วมีชัย เป็นคนเซ็นชื่อคนแรก ปรากฎว่าฉบับนี้กับฉบับ “บังหน้า” เนื้อหาเหมือนกันคำต่อคำ ฉบับนี้ก็คือ “ฉบับสำรอง” คือกลัวว่าถ้าฉบับแรกมีปัญหาก็เอาบอกว่าใช้ฉบับนี้แทน
ส่วน ฉบับที่ 3 เสนอโดยคุณนิยม วรปัญญา คุณนิยมนั้นก็เป็น สส. อาวุโสครับ ท่านเสนอกระทู้ ญัตติทุกเรื่อง ใครเสนอ เสนอด้วย ฉบับนี้ชื่อว่าฉบับ “ร่วมด้วยช่วยเสนอ” เนื้อหาสาระก็ อ่านแล้วก็ค่อนข้างสับสนแต่ไปแนวเดียวกัน
ส่วน ฉบับสุดท้าย ไปเรียกเขาไอ้ เขาเป็นรัฐมนตรี เสนอโดยนายณัฐวุฒิ ไสเกื้อ ฉบับนี้เดี๋ยวผมอธิบาย ชื่อว่า “ฉบับแก้เกี้ยว รับใช้นาย” 4 ฉบับ เนื้อหาเป็นอย่างไรครับ
ท่านอดีต หัวหน้าชวน อดีตนายกฯ ของเราได้อธิบายถึงข้อกฎหมายต่าง ๆ ผมก็จะพยายามสรุปให้เห็นชัด ๆ พวกเราจะได้อธิบายให้คนได้พูดต่อ ๆ กันไป เรื่องแรกที่เขาบอกว่าจะนิรโทษกรรม เขาบอกว่า การกระทำที่มันเกี่ยวข้องกับการชุมนุม เขาเอาตั้งแต่ปี 2548 มาจนถึง พฤษภา ปีที่แล้ว เขาบอกว่าการกระทำใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองนั้น ไม่ให้ถือว่าเป็นการกระทำความผิด
ไอ้ การกระทำที่ว่านั้น เขาบอกว่า เป็นการกระทำทั้งหลายของบุคคลที่เกิดจากการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง ก็คือชุมนุม หรือทำอะไรก็ตามที่อ้างว่าเป็นการแสดงออกทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่ห้ามการชุมนุม อันนี้ไม่ยากครับ คือเวลาที่มีเหตุวุ่นวายแล้วรัฐบาลจะยุคใดก็ตาม ประกาศภาวะฉุกเฉิน ก็จะมีการประกาศกฎหมายห้ามชุมนุม เช่นห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ตรงนี้ก็บอกว่า เหตุการณ์การชุมนุมที่มีคนออกมาเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนหรือกี่คนก็แล้วแต่ เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว สงบลงแล้ว ก็บอกว่าไม่ถือเป็นความผิด ผมก็เรียนครับว่า อันนี้เบาที่สุดเลยครับ สำหรับกฎหมายนี้ เบาก็ในความหมายที่ว่าอะไรครับ ผมเข้าใจ เวลาเกิดเหตุการณ์วุ่นวายแล้วมันผ่านไปนั้น จะไปไล่ดำเนินคดีกับคนชุมนุมทุกคน มันไม่เกิดประโยชน์หรอกครับ เพราะฉะนั้นตรงนี้เบาที่สุด แต่ว่าหลังจากนั้นมันไม่หยุดแค่นั้น ในอดีตนั้นเวลาเขานิรโทษกรรม เขาก็จะหยุดอยู่ประมาณนี้ครับ ว่ามาชุมนุมแล้วก็ถ้ามันชุลมุนนิดหน่อยเป็นเหตุผลสืบเนื่องเช่นไปชุมนุมแล้ว ปรากฎว่ามีการยื้อยุดกับเจ้าหน้าที่บาดเจ็บกันเล็กน้อย ก็ยกโทษกันไป
แต่ มันต่อด้วยครับว่า ไม่ใช่แค่การชุมนุมทางการเมือง การกล่าววาจาหรือโฆษณาด้วยวิธีใด เพื่อเรียกร้องให้มีการต่อต้านรัฐ ต่อสู้ขัดขืนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือการประท้วงด้วยวิธีใด ๆ รวมหมดเลยครับ ไอ้ที่ทำแสดง ทั้งบนเวที ทั้งคู่ขนานที่ไปก่อเหตุตามที่ต่าง ๆ พี่น้องฟังแล้วสิครับ มีอะไรไม่เข้าบ้างครับ มันก็เข้าหมด อย่างบอกด้วยวาจาโฆษณาด้วยวิธีใด กุเรื่องโกหก กล่าวร้ายใคร แม้แต่หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ถ้ามันอ้างว่าทำไปเพื่อเรียกร้องให้มีการต่อต้านรัฐ ต่อสู้ขัดขืนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็กลายเป็นว่า ไม่ต้องรับผิด ยอมได้ไม๊ครับอย่างนี้
ผม ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องไปบอกว่าการกระทำทั้งหลายที่เลวร้ายเหล่านี้ทุก ประการ ไม่ต้องรับผิด ทั้ง ๆ ที่ในบางกรณีกระทบเทือนกับจิตใจของคนทั้งประเทศ และในวรรคต่อไปที่เขียนว่า การประท้วงด้วยวิธีใด ๆ นี่เป็นครั้งแรกครับที่เราไม่เคารพเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ คือถ้าชุมนุมทางการเมืองบอกเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญบอกว่าการชุมนุมนั้นต้องเป็นไปโดยสงบ ปราศจากอาวุธ แต่ถ้าใช้ว่าประท้วงด้วยวิธีใด ๆ ยิง M79 ก็ได้ ยิง RPG ก็ได้ เผาศาลากลางก็ได้ เผาศูนย์การค้าก็ได้ ฆ่าคนก็ได้ แล้วเราจะมีรัฐธรรมนูญ มีกติกาไว้ในบ้านเมืองไว้ทำไม
พี่ น้องต้องดูนะครับ เขาอุตส่าห์เขียนขยายความต่อ เขียนถ้อยคำสวยหรูเลยครับ อันเป็นการกระทบต่อร่างกายของบุคคลอื่น ฟังดูก็เพราะดีหรอกครับ ความหมายก็คือว่า ฆ่าคนก็ได้ บุกไปโรงพยาบาลก็ได้ บุกประชุมอาเซียน ไล่ผู้นำต่างชาติก็ได้ แล้วก็ครอบคลุมไปถึงวิธีใด ๆ อันเป็นการกระทบต่อทรัพย์สินของบุคคลอื่น ก็ที่ถูกเผา ถูกทำลาย วอดวายไปทั้งหมดนั่นแหละครับ อันนี้แหละครับที่ถึงบอกว่า เป็นกฎหมายล้างผิด แต่เขาอ้างว่าเพื่อความปรองดอง ก็ใส่เป็นวงเล็บที่ 2 ว่า เวลาเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลใด ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการป้องกันระงับ ปราบปรามเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมือง หรือการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าว ก็ไม่ผิดด้วย
ฟัง ดูพยายามจะบอกว่าให้ผมกับคุณสุเทพ ไม่ใช่หรอกครับ ผมบอกมาตั้งแต่ต้นว่า ผมกับคุณสุเทพพร้อมที่จะพิสูจน์ความจริง ผมอยากให้คนเสื้อแดง ฉุกคิด ว่าใครฆ่าประชาชน ทำไมถ้าพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนในการฆ่าประชาชน ประชาธิปัตย์ค้านกฎหมายฉบับนี้
แต่ทำไมทักษิณกับพวก อยากให้ผ่านกฎหมายฉบับนี้
ผมเคยบอกไงครับว่า พูดในสภาว่า ระวังให้ดี หัวหน้าผู้ก่อการร้าย กับฆาตกรนั้น คน ๆ เดียวกัน !
แล้ว พี่น้องอย่าลืมด้วยครับ เมื่อกี้ท่านนายกฯ ชวนบอกแล้วว่าเราต้องไม่เป็นคนขี้ลืม ไอ้ที่ปราบปรามประชาชนนั้นมันไม่ใช่มีเฉพาะปี 52 – 53 นะครับ ความจริง 52 ไม่มีการล้อมปราบ 53 ไม่มีการล้อมปราบนะครับ แต่ที่ล้อมปราบ 7 ตุลา 51 จำได้ไม๊ครับ นั่นแหละครับ ชี้มูล มีความผิดแล้ว ก็ได้นิรโทษกรรมไปด้วย
เวลา ที่บอกว่าให้ถือว่าไม่กระทำความผิดแปลว่าอะไร มาตราต่อไปก็สรุปให้เสร็จสรรพครับ ถ้าตำรวจสอบอยู่ ให้ตำรวจหยุดสอบ ถ้าอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะฟ้องไม๊ ให้อัยการไม่ฟ้อง ถ้าฟ้องแล้วให้ถอนฟ้อง ถ้าตัดสินแล้ว ให้ถือว่าไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิด ถ้ารับโทษแล้ว ให้โทษนั้นสิ้นสุดลงและปล่อยตัวผู้นั้น มีนะครับ ถ้ามีใครถูกประหาร มันจะเขียนต่อว่า ให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่
ผม กราบเรียนพี่น้องว่า ที่เราไม่เห็นด้วยนั้น มันไม่ใช่เรื่องความอาฆาต มาดร้าย ความผิดทั้งหลายที่ทำ ที่เขียนอยู่นี้ มันไม่ได้ทำกับผม ไม่ได้ทำกับคุณสุเทพ ไม่ได้ทำกับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะที่เป็นรัฐบาลในขณะนั้น แต่เป็นความผิดต่อแผ่นดินทั้งสิ้น
คุณ ชำนิ ถึงได้พูดเมื่อตอนเย็นไงครับว่า เมื่อเป็นความผิดต่อแผ่นดิน ต่อรัฐ ถ้าจะเสนอเรื่องนี้เป็นนโยบาย กล้า ๆ หน่อย คนเป็นรัฐบาล คนเป็นนายกฯ เซ็นเองสิครับ !
มัน ธุระอะไรของ “บิ๊กบัง” มันธุระอะไรของ สส.เพื่อไทย ของ สส.ชาติไทยพัฒนา ความผิดต่อแผ่นดินวันนี้รัฐบาล หัวหน้ารัฐบาล มีหน้าที่ดูแลแผ่นดิน คุณต้องตัดสินใจ
ผม จึงอยากจะบอกว่า ประการแรก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลืม ไม่ลืม อาฆาต ไม่อาฆาต แต่พวกเราทุกคน อาศัยแผ่นดินนี้อยู่ เกิดความเสียหายต่อแผ่นดิน ต้องปกป้องประโยชน์ของแผ่นดิน และใครมาทำความเสียหายจะยกโทษให้ต้องมีเหตุผลที่ชัดแจ้ง
ผม บอกว่า ผมเคยพูดมาตลอด ถ้าผิดแค่กฎหมายชุมนุมเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังเข้าใจได้ เคยทำในอดีต ถ้าเป็นเพราะความคิด เพราะอุดมการณ์ ทำอะไรซึ่งอาจจะเกินเลยไปบ้าง ผิดกฎหมายซึ่งไปจำกัดอุดมการณ์เช่นกฎหมายคอมมิวนิสต์ เมื่อก่อน เข้าใจได้ แต่ไม่ใช่ฆ่าคน ลักทรัพย์ เผาบ้าน เผาเมือง ก่อจลาจล ก่อการร้าย ทำลายสถานที่สำคัญของประเทศ หมิ่นเบื้องสูง เพราะถ้าเราใช้มาตรฐานนี้ มันจะสิ้นสุดที่ไหนล่ะครับ
ผม ถึงแปลกใจครับ เวลาชาวบ้านที่เป็นคนทั่วไปมาตำหนิ สส. ประชาธิปัตย์ ที่เขาบอกทำเกินเลยไปในสภาฯ ผมยังเข้าใจได้ แต่คนไม่มีสิทธิ์พูดเลยคือพรรคเพื่อไทย !
ทำไม ล่ะครับ เพราะการกระทำของคุณรังสิมา (รอดรัศมี) การกระทำของ หมอวรงค์ (เดชกิจวิกรม) ไม่มีเรื่องส่วนตัว เท่าที่ผมทราบ คุณรังสิมาไม่มีอะไรโกรธเคืองเป็นการส่วนตัวกับ “เก้าอี้” ของประธานสภาฯ
แต่ ว่าก็ทำไปเพราะเป็นการแสดงออกทางการเมืองเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมจึงถามว่า พวกคุณมีสิทธิ์มาเรียกร้องอะไร บอกให้ขอโทษ ให้นายอภิสิทธิ์ลาออก พวกคุณทำถึงขั้น เผาบ้าน เผาเมือง ก่อการร้าย จลาจล
ไม่มีคำขอโทษสักคำ แล้ววันนี้ยอมรับด้วยว่าผิดกฎหมาย แล้วยังหน้าไม่อายมาเสนอนิรโทษกรรมพวกตัวเอง !
ผม ก็ได้แต่เห็นใจประชาชนทั่วไป ผมไม่รู้ว่ามีกี่คนติดคุกอยู่เพราะว่าทะเลาะ วิวาท ชกต่อย หรือไปทำร้ายคนอื่น ผมบอกว่า ถ้าคนเหล่านั้นต้องติดคุกต่อ มันเป็นธรรมหรือเปล่า เพราะว่าถ้าเขาอ้างว่าที่ชกต่อยกันนั้น เพราะว่าทะเลาะเรื่องการเมือง แปลว่าได้นิรโทษกรรมด้วยใช่ไม๊
คนขโมยของติดคุกอยู่ ทำไมต้องติดคุก ในเมื่อคุณกำลังบอกว่า ไปขโมยของในเซ็นทรัลเวิร์ลตอนไฟไหม้ ไม่ต้องติดคุก
ความ ยุติธรรมจะอยู่ที่ไหน และถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่านออกไป วันข้างหน้า การต่อสู้ทางการเมืองมีกติกาเดียว ใครชนะ คนนั้นทำได้ทุกอย่าง ขอให้ชนะ ทำได้ทุกอย่าง ต่อไปใครจะชกต่อยใคร ก็บอกไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ไม่ชอบกันทางการเมือง ไปทำอะไรกับพวกหนังสือพิมพ์ที่รับใช้ระบอบทักษิณ ก็บอกไม่ได้มีอะไรกับหนังสือพิมพ์เป็นการส่วนตัว เป็นเรื่องการเมือง
เพราะ ฉะนั้นเป็นกฎหมายที่อันตรายมาก อันตรายอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับต่อไปนี้ไม่มีกติกาใด ๆ กำกับการต่อสู้ทางการเมือง เพราะชนะแล้ว ลบล้างได้ทุกอย่าง
ปล้น แบงค์ ไม่ได้เงินครับ ต่อต้านทุนนิยม ได้ไม๊ล่ะครับ ผมถึงบอกว่า มันไม่ใช่ คุณจะต่อสู้ทางการเมือง คุณก็ต้องอยู่ภายใต้กติกา กฎหมายรัฐธรรมนูญ ถ้าคุณไม่อยู่ภายใต้ตรงนี้แล้วคุณอ้างว่าความชอบธรรมเพราะเป็นการต่อสู้ทาง การเมือง เรากำลังทำลายระบบนิติรัฐ นิติธรรม และระบอบประชาธิปไตย
กฎหมาย มาตรา 3 มาตรา 4 จึงอันตรายอย่างที่ว่า ก็เลยต้องอธิบายนิดครับ ไอ้ตอนที่จะมานิรโทษกรรมคนปราบปรามนั้น ที่ผมบอกไงครับว่า เขาถือว่าเขาเยียวยา เอาเงินภาษีอากรไปจ่ายคนเสื้อแดงแล้วก็มาขอให้ลืม ไอ้ตรงนี้ที่นายณัฐวุฒิจึงต้องแก้เกี้ยว
แก้ เกี้ยวก็คือเสนอว่า เฉพาะคดีก่อการร้าย กับคดีต่อร่างกายไม่นิรโทษกรรม แต่ว่าขนาดแก้เกี้ยวแล้วนะครับ ที่อย่างไรก็มั่นคงคือ “ถวายให้นายใหญ่” ถวายยังไงครับ ก็คือมาตราต่อไปเนี่ยครับ ก็เอาแบบเดียวกับ “บังหน้า” เอาแบบเดียวกับฉบับสำรองของพรรคเพื่อไทย
ผม ไม่อ่านหรอกครับ มาตรานี้มันเขียนยาวมาก แต่โดยสรุปก็คือว่า มันจะล้างผิดให้คนโกง อ้างอะไรครับ เขาอ้างอย่างนี้ เขาบอกว่า การปฏิวัติ รัฐประหารเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เป็นของที่เป็นพิษ แล้วพอการปฏิวัติรัฐหารเสร็จ คนที่ปฏิวัติก็มาตั้งบุคคลเยอะแยะไปหมด มาตรวจสอบเรื่องการทุจริต คอร์รัปชั่น เขาบอกเมื่อต้นทางเป็นพิษ ไอ้ตรงนี้ก็เป็นพิษ แล้วพอการตรวจสอบทุจริตคอร์รัปชั่นเสร็จ พบว่ามีคนโกง ก็ส่งขึ้นศาล แล้วก็ยึดทรัพย์ เขาก็บอกว่าเมื่อต้นทางเป็นพิษ ตรงนี้ก็เป็นพิษด้วย เขาก็เลยบอกว่า ให้ถือว่าใครที่ถูกกระทำจากคำสั่งของคนที่คณะปฎิวัติแต่งตั้งถือว่า ไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือเป็นผู้กระทำความผิด แล้วก็ให้เอาไอ้มาตราเมื่อกี้ ก็คือถ้าถูกสอบอยู่ ก็เลิกสอบ จะถูกฟ้องก็ถอนฟ้อง ถ้าฟ้องแล้วก็ถอนออกมา ถ้าตัดสินแล้วก็บอกว่าไม่ผิด
ผม ก็บอกว่า ตรงนี้ครับต้องอธิบายกันสักนิด อธิบายข้อแรกได้เรื่องทฤษฎีพิษของมันนี่ก่อน คือด้วยหลักการเดียวกัน ถ้าคณะปฏิวัติเป็นพิษ คนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เป็นพิษ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เป็นพิษ การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เป็นพิษ ไอ้คนชนะเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาล ก็เป็นรัฐบาลพิษ !
คนเป็นนายกฯ ตอนนี้ก็เป็น นายกฯ พิษ ! ไอ้ สส. ที่เสนอกฎหมายนี้ก็ สส.พิษ ! กฎหมายฉบับนี้ ก็เป็นกฎหมายพิษ !
แล้ว บ้านเมืองมันจะเดินกันยังไง มันก็พิษกันทั้งเมือง มันไม่มีเหตุผลครับ แต่เราต้องมาดูว่าอะไรเกิดขึ้นกับคดีที่บอกว่า คตส. ที่จริงคดีที่เขาสนใจมากที่สุด 2 คดี เพราะมันเป็นเรื่องของนายใหญ่ คดีที่ดินรัชดา กับคดีร่ำรวยผิดปกติของทักษิณ
คดี ที่ดินรัชดา เนี่ยครับ พิษไม่พิษไม่ทราบหรอกครับ แต่คตส. นั้น เขาไม่ได้เป็นคนทำทุกสิ่งทุกอย่างเองครับ เขาแค่สอบสวนเบื้องต้น แล้วเขาก็ให้อัยการ อัยการก็ส่งฟ้องขึ้นไปที่ศาล แล้วปี 51 พอนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณก็กลับมาอยู่ประเทศไทย จำได้ไม๊ครับ ที่ลงมาถึงก็มากราบแผ่นดินไทยเนี่ยครับ
กลับ มาเนี่ยเพื่ออะไรครับ เพื่อต่อสู้คดี ต่อสู้คดีแล้วก็ยกเรื่องปัญหา คตส. ขึ้นมา คนที่วินิจฉัยว่าการทำงานของ คตส.นั้นมันผิดหรือเปล่า คือศาล
ศาล ก็บอกว่า คตส. ไม่ได้เป็นปัญหาทางกฎหมาย ถามว่าไอ้ความผิดที่เขากล่าวหาคุณทักษิณนั้น คณะปฏิวัติมาเขียนเองหรือเปล่า ไม่ใช่ ความผิดนี้อยู่ในกฎหมาย ปปช. มาตั้งแต่ปี 2543 เพราะฉะนั้นกระบวนการทุกอย่างก็ขึ้นศาลตามปกติ คุณทักษิณก็ขึ้นไปต่อสู้ในชั้นศาล จนกระทั่งกระบวนการพิจารณาเสร็จครับ ถ้ายืนยันว่าไม่เป็นธรรม เป็นพิษมาตั้งแต่ต้นแล้ว ทำไมมาต่อสู้คดี ทำไมยอมรับขั้นตอนทุกอย่างในการต่อสู้คดี
แต่ หลังจากที่ต่อสู้คดีเสร็จ ระหว่างที่จะมีคำพิพากษา เดี๋ยวพวกเราลืมอีกนะครับ มันมีเหตุ มีกรณี ที่คนไปทำถุงขนมตกที่ศาล ขนมนั้นหาซื้อยากมาก ถุงนิดเดียวมูลค่า 2 ล้านบาท จนกระทั่งถูกคำพิพากษาว่ามีการละเมิดอำนาจศาล เสร็จแล้ว พอท่าไม่ดี คุณทักษิณก็ขออนุญาตศาลเดินทางออกไปนอกประเทศ ไปดูนี่แหละครับ โอลิมปิค จะ 4 ปีพอดี ดูเพลินแล้วก็ไม่กลับมาเลย เที่ยวนี้ก็ขอให้ดูเพลินอีกรอบแล้วก็ไม่ต้องกลับมา
เพราะ ฉะนั้นกระบวนการทั้งหมดนี้ตรงไหนล่ะครับคือความไม่เป็นธรรม คดีเดียวกันถ้าบอกจะกลั่นแกล้งกัน ทำไมยกฟ้องภรรยา หรืออดีตภรรยาของคุณทักษิณ แล้วคดีเดียวกันถ้าจะกลั่นแกล้งกันนั้น ความจริงส่งฟ้องไปหลายข้อหา แต่ให้ผิดข้อหาเดียวคือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่อง 157 เรื่องอื่นก็ไม่ผิด เพราะฉะนั้นมันไม่มีอะไรที่พิศดารเลยที่จะมาบอกว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ที่จะต้องมาบอกว่ามีข้อยกเว้นตรงนี้
ส่วน คดีร่ำรวยผิดปกติ ก็เหมือนกันครับ ไปอ่านสิครับ คำพิพากษา เขายึดทรัพย์สินไปทำไม เขายึดไปนั้นมันมีเหตุการณ์ใช้นโยบายที่ทำให้ตัวเองร่ำรวยขึ้นตั้งเท่าไหร่ วันนี้มาอีกแล้วครับ โฟนอินเข้ามาที่แถวเมืองทอง โอดครวญว่า ไอ้ที่เขายึดไปนั้นเป็นทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนเข้ามาเล่นการเมือง
ผมไปดูในคำพิพากษานะครับ ทรัพย์สินตอนที่แสดงปี 44 นั้น มันไม่มากเท่ากับที่ยึดไปนี่แหละครับ มันจะเป็นมาก่อนได้ยังไง
เพราะ ฉะนั้นเวลานี้มันเป็นเพียงเรื่องการสร้างกระแส การสร้างวาทกรรมให้คนเข้าใจว่าถูกกลั่นแกล้ง มีกระบวนการที่ไม่ชอบ แล้วก็จะให้ตรงนี้ล้มลงไป แล้วที่จริงไม่ใช่เฉพาะคุณทักษิณหรอกครับ บริวารหลายคน ถูกคดีอยู่ คดีโครงการบ้านเอื้ออาทร และมูลค่าของคดีเหล่านี้ถ้ารวมกันทั้งหมด ไม่ใช่ 4 หมื่น 6 พันล้านครับ เป็นหลักแสนล้าน เป็นหลักแสนล้าน !
และ ผมต้องบอกนะครับ แล้วท่านจะเข้าใจว่าทำไมนายกฯ ถึงพยายามไม่รู้เรื่อง พรบ. ปรองดอง คือพอเรื่องนี้ไปกระทบกับคดีโกงทั้งหมด และความจริงไม่ใช่เฉพาะคดีโกงนะครับ คดีอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมถ้ามีการปรับ พอไปบอกว่าให้ลบล้างคำพิพากษาเนี่ย คนที่เสียค่าปรับก็จะมาเอาค่าปรับคืน คนที่ถูกยึดทรัพย์ก็จะมาเอาทรัพย์สินคืน แล้วมันไม่เป็นกฎหมายการเงินอย่างไร
นี่ แหละครับ ที่คุณหมอวรงค์ กับคุณจุรินทร์ ถึงบอกว่าเอาหมูเข้ามาแล้วบอกว่าเป็นหมา แล้ววิธีพิจารณาก็ไปถามว่าไอ้คนอุ้มหมา ... เอาใหม่ ๆ ทดสอบว่าเราฟังจริงรึเปล่า มันต้องพูดผิด พูดถูก อ่านโพยบ้าง ถึงเป็นนายกฯ ได้
เอา ใหม่ ๆ อุ้มหมาเข้ามา แล้วบอกว่าเป็นหมู แต่ประธานสภา เวลาพิจารณา ไปถามไอ้คนอุ้มหมา ว่าอุ้มอะไรเข้ามา แล้วพอมันบอกว่า มันอุ้มหมูเข้ามา ก็เชื่อมัน มันไม่ได้หรอกครับ ผมก็เลยไม่รู้นะครับว่า ไอ้เอาเงินให้กันหลักหมื่นล้าน แสนล้าน บอกไม่เกี่ยวกับการเงิน เออ เอากะมันสิ !
อย่าง งี้แปลว่าจะเขียนกฎหมายอะไร ตีความกฎหมายอย่างไรก็ได้ แล้วบ้านเมืองจะอยู่อย่างไร แต่ที่ผมบอกนะครับ ว่าทำไมนายกฯ นั้นไม่มีท่าทีเรื่องนี้ ความจริงจะบอกว่าไม่มีก็ไม่ได้ พูดอยู่เหมือนกันนะครับ ไอ้ที่เวลาเรื่องคอขาดบาดตายทั้งหมดนี้ แต่ว่าผมเข้าใจว่าไม่ได้เข้ามาในสภาเลย ไปเปิด World Economic Forum ผมอ่านข่าวที่เขาส่งมาทาง SMS บอก “ปรองดองคืบหน้า การเมืองมีเสถียรภาพ” ผมนึกว่านายกฯ เผลอไปหยิบ Speech ของ ออง ซาน ซูจี มาอ่าน
เพราะ ว่า ที่พม่านั้น ปรองดอง คืบหน้า การเมืองดูจะมีเสถียรภาพอยู่ ผมก็เลยจินตนาการไปไกลว่า โอ๊ย ถ้าไปหยิบมาอ่านจริง ๆ ออง ซาน ซูจี จะทำยังไง ไม่รู้ต้องตำส้มตำโชว์แทนรึเปล่า
พูด กับต่างประเทศชัดเจน บอกว่าเดินหน้า เรื่องกฎหมายปรองดอง ก็แปลว่าสนับสนุน แต่ปรากฎว่ามาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยบอก “ยังไม่ได้อ่าน” วันนี้ ถ้าฟังผมอยู่ หรือฟังผู้ปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์อ่านให้ฟังแล้ว นายกฯ จะได้เข้าใจว่ามันไม่ใช่กฎหมายปรองดอง แต่เป็นกฎหมายล้างผิด
แต่ ว่าเมื่อเช้านายกฯ ยิ่งลักษณ์เก่งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง คือถูกถามเรื่องกฎหมายฉบับนี้ และถูกถามว่า เกี่ยวกับการคืนเงิน คุณทักษิณไม๊ คุณยิ่งลักษณ์ตอบว่า ยังไม่ได้อ่าน แต่ไม่เกี่ยวกับการคืนเงินให้ทักษิณ ผมก็ไม่ทราบว่ารับทราบด้วยญาณวิถีใด ในเมื่อกฎหมายไม่ได้อ่าน แต่ยืนยันว่ากฎหมายไม่เกี่ยวกับการคืนเงิน
ผม จะเฉลย ทำไมนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่อยากเกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับนี้ ถ้าพี่น้องจำได้ 4 หมื่น 6 พันล้าน ที่ถูกยึดในคดีร่ำรวยผิดปกติ นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปเบิกความต่อศาลว่า เงินตรงนั้นส่วนหนึ่งไม่ใช่ของคุณทักษิณ เป็นของคุณยิ่งลักษณ์ 900 ล้านบาท โดยประมาณ
ผม เห็นข่าวเมื่อเช้า ข่าวเล็ก ๆ ครับ หลายคนยังไม่ทราบ วันนี้นะครับในข่าว ก็แสดงว่าเมื่อวานนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ได้แถลงข่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาการที่มีคนไปร้องว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ให้การเท็จต่อศาลเห็นว่า คดีไม่มีมูล ก็แปลว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษเห็นว่า 900 ล้าน เป็นของยิ่งลักษณ์จริงสิ แล้วก็แปลว่า ถ้าคืน 4 หมื่น 6 พันล้าน คุณยิ่งลักษณ์ก็ได้คืน 900 ล้านสิ ถึงจำเป็นต้องบอกตลอดเวลาว่า ยังไม่เห็น ยังไม่ได้อ่าน และก็ไม่คืนเงิน
พี่ น้องเข้าใจหรือยังครับ กระบวนการที่เป็นการฉ้อฉลทั้งหมดมันจึงเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนทั้ง สิ้น เป็นกลไกที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการเมือง ที่ท่านนายกฯ ชวน ปราศรัยไป ผมจึงกราบเรียนพี่น้องครับว่า หลายเรื่องนี่ ที่เราไม่เคยเห็น ก็ได้เคยเห็นแล้ว
น้ำ ท่วมใหญ่ แพงทั้งแผ่นดิน ประชาชนเดือดร้อน รอคอยความช่วยเหลือ อยากมีความมั่นใจ แต่เรื่องใหญ่ที่รัฐบาลทำ ทำอยู่ 2 เรื่องคือรัฐธรรมนูญ กับกฎหมายล้างผิดให้คนโกง
ผม อยู่สภามา 20 ปี ไม่มีสภา ยุคไหนขยันเท่ายุคนี้ ต้องปิดสมัยประชุมมาตั้งแต่สงกรานต์ จนจะวันวิสาข อยู่แล้ว แล้วประชุมเอาเป็นเอาตาย ทุกวันก็เคยทำให้รัฐธรรมนูญมันเดินหน้า ธนา (ชีรวินิจ) พูดทุกชั่วโมง พูดจนคนดินแดง นึกว่า ทีวีเสีย เปิดมาทีไรเป็นภาพเดิม แบกไปซ่อมร้านทีวีจนเขาไม่รับแล้ว ประชุมครึ่งเดือน เรื่องรัฐธรรมนูญจะให้ผ่านให้ได้
ประ ชาธิปัตย์ก็พยายามทุกวิถีทาง ก็ถูกสกัดกั้นทุกวิถีทาง มีคนเลยรู้สึกจะรู้จัก จ่าตำรวจคนหนึ่ง ผมก็เพิ่งเคยเห็น สส. นี่ครับว่า ทำเป็นอยู่อย่างเดียว “กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ”
ไอ้ 3 คน สายล่อฟ้า ทำได้ไม๊
มัน เป็นไปได้ยังไงครับ เราปล่อยสภาพสภาเป็นอย่างนั้น แล้วบอกว่าเปิดขยายสมัยประชุมสภาเนี่ย เพื่อจะแก้ปัญหาเอาเรื่องใหญ่ ๆ เอากฎหมายมาแก้ปัญหาของประชาชน ไม่มีเลยครับ รัฐธรรมนูญเหมือนกัน ตอนแรกบอก รัฐบาลไม่เกี่ยว ประชาชนเสนอเข้ามา สุดท้ายร่างที่พิจารณาทั้งหมดนี้ของรัฐบาล
ไอ้ ข้อตกลงก็เอามาแซมไว้พอเป็นพิธี แล้วก็ตอนนี้ก็จะพยายามผลักดันกฎหมาย 4 ฉบับที่ว่า ผมถึงบอกว่ามันเป็นเรื่องแปลก พี่น้องคิดดูสิครับรัฐบาล ที่อยากแก้ปัญหาของประเทศ ของประชาชน ผ่านน้ำท่วมใหญ่มา เจอปัญหาของแพง ได้รับโอกาสดีมากเลยนะครับ World Economic Forum ที่มาประชุมในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพราะรัฐบาลที่แล้วไปเจรจาจนเขามา
ได้ ผู้นำในภูมิภาค ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาชน มาอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งที แทนที่จะเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนต้องมาทะเลาะกับรัฐบาล ทำทำไมครับ ทำทำไมครับ นอกจากว่าทำอะไรก็ได้ทำทุกอย่างให้กับพวกพ้อง ครอบครัว และพี่ชาย
อย่า มาพูดเลยครับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการปรองดอง ก่อนเสนอรัฐธรรมนูญ ก่อนเสนอกฎหมาย 4 ฉบับนี้ ผมถามว่าบ้านเมืองสงบดีไม๊ สงบดีอยู่แล้ว นายกฯ ไปไหนแม้แต่ในพื้นที่อย่างภาคใต้ ก็ไม่เคยมีใครไปโห่ ไปปาของ จ้องทำร้าย การทำงานในสภา ก็ราบรื่นอย่างที่ว่า หลายเรื่องฝ่ายค้านช่วยรัฐบาลด้วยซ้ำ ไม่มีใครวุ่นวายเลย นอกจากบางทีเสื้อแดงก็ชุมนุมเคลื่อนไหว ซึ่งก็เป็นพวกของรัฐบาลเอง
แต่วันนี้ถามว่าเสนอกฎหมาย เรียกมันว่า “ปรองดอง” แล้วปรองดองไม๊ล่ะครับ
พล.อ.สนธิ ดูไม่ออกเหรอครับว่าบ้านเมืองปรองดองมากขึ้น หรือน้อยลง พรรคเพื่อไทยมองไม่ออกเหรอครับ นายกฯ ยิ่งลักษณ์มองไม่ออกเหรอครับ ผมไม่เชื่อหรอกครับว่า มองไม่ออก
แต่ ทำไมพร้อม ที่จะเดินหน้าทำลายระบบกฎหมายนิติรัฐ นิติธรรม ทำไมพร้อมที่จะนำประเทศเข้าสู่ความสุ่มเสี่ยง นำไปสู่การเผชิญหน้าความรุนแรง ผมจึงบอกว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ยอมให้การเดินหน้าในเรื่องเหล่านี้เดินหน้าต่อไป และประสบความสำเร็จ
รัฐ ธรรมนูญ ปรากฎว่าเมื่อวานศาลรัฐธรรมนูญได้ออกคำสั่งให้ระงับการพิจารณาไว้ก่อน หลายคนที่นี่ชอบ หลายคนก็อาจจะไม่ชอบ แต่ผมถามว่าระงับไว้ก่อนนี่ มันสร้างความเดือดร้อนไม๊ กระทบปากท้องพี่น้องประชาชนไม๊ ผมเห็นเดือดร้อน คลั่งอยู่คนเดียว ก็คืออยู่ที่ดูไบ
โฟน อินมาด่าว่าศาลรัฐธรรมนูญรุนแรง กล่าวหาถึงขั้นบอกจะปล้นอำนาจ ไม่ใช่หรอกครับ ก็โชคดีว่า เงื่อนไขความขัดแย้งตรงนั้นถูกพักไว้ก่อน แต่เรื่องกฎหมาย 4 ฉบับ ผมต้องบอกอย่างที่ท่านประธานวิปฝ่ายค้าน คุณจุรินทร์บอก “อย่าตายใจ”
ที่บอกว่าเลื่อนการประชุม ก็แจ้งมาทาง SMS ผมบอกได้เลยว่า เวลานัดประชุมมันก็ SMS แล้ว อาจจะให้เวลา ครึ่งวันก็ได้ เพื่อที่จะไปประชุม ผมยังยืนยันครับ ถ้ารัฐบาลจริงใจ บอกอยากจะหยุดเรื่องนี้ อยากจะทำให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ภาวะปกติ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ต้องเสนอพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมสภา เดี๋ยวนี้ !
เราเรียกร้องให้ออกพระราชกฤษฎีกา ปิดสมัยประชุม เดี๋ยวนี้ !
แล้ว รอถึง สิงหาคม เปิดสภามา พวกผมก็จะได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ถ้ายังไม่ปิดสมัยประชุม พี่น้องอย่าตายใจ แผนเขาเยอะครับ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามา เมื่อคืนก็เข้ามาเยอะครับ หลายคนก็รายงานผม แล้วก็การโยกย้ายตำรวจบางคนก็ส่งสัญญาณคล้าย ๆ ตอนย้ายตำรวจในช่วงม็อบพันธมิตร เมื่อปี 51 และยังมีแผนอื่น ๆ อีกมากมายครับ จตุพร ก็จะระดมคนเสื้อแดง ก็เข้าใจละครับ ตอนนี้ตกงาน ไม่ได้เป็น สส. ก็กลับไปทำอาชีพเก่า เล่านิทาน แล้วก็ปลุกระดม
ซึ่ง เราก็ไม่รู้จะระดมมาที่ไหนอย่างไร หรือจะมาคอยคุ้มครองเพื่อให้มีการประชุมสภาในเรื่องนี้ได้ ผมก็ถึงบอกกับพี่น้องว่าเราตายใจไม่ได้ และต้องเรียกร้อง ยืนยันว่ารัฐบาลควรปิดสมัยประชุมอย่างเดียว
และ ผมอยากเรียกร้องต่อไปด้วย เพราะว่าที่ผมเปิดคลิปวันนี้ผมได้พิสูจน์แล้วว่า นายกฯ และพรรคเพื่อไทย เคยกล่าวคำมั่นสัญญากับประชาชนในการเลือกตั้ง และวันนี้ไม่ทำอย่างที่พูด ถือว่า โกหกประชาชน
ถ้ามีใครต้องขอโทษประชาชน คือคนโกหกประชาชน ครับ !
มัน ร้ายแรง มันเลวร้ายกว่าพฤติกรรมหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสภา และผมเรียนเตือนพี่น้องเป็นประเด็นสุดท้าย ที่บอกอย่าตายใจนั้น เพราะว่าการสร้างกระแสของแกนนำเสื้อแดงมันผิดปกติ อ้างว่าจะปฏิวัติ แล้วจะเป็นการปฏิวัติที่มีรูปแบบใหม่ด้วยนะครับ
จตุพรบอกจะมีการอุ้มนายกฯ หายไป !
ผม ไม่เชื่อครับ เพราะผ่านมา 1 ปีนี่ นายกฯ หายไปหนเดียว คือ ว.5 โฟร์ซีซั่น ไม่เกี่ยวกับการปฏิวัติรัฐประหารแน่นอน แต่การกุข่าวอย่างนี้พี่น้องอย่าตายใจ มันเหมือนกับว่า อยากจะสร้างเงื่อนไข เกิดความรุนแรง เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งทุกอย่างผลสุดท้ายเป้าหมายเขาอยู่ที่เดิม ล้างผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ
พี่ น้องครับ ในประวัติศาสตร์ของการเมืองไทย โดยเฉพาะที่จะครบ 80 ปี หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองมา มีการปฏิวัติรัฐประหาร มีการกบฎ มีการเลือกตั้ง สลับสับเปลี่ยนกันมา พวกเราประชาธิปัตย์ เราเป็นนักประชาธิปไตย เราต้องการให้บ้านเมืองและระบบสภา และประชาธิปไตยเดินหน้าต่อ แต่ความรับผิดชอบเบื้องต้นที่จะรักษาประชาธิปไตย อยู่ที่นักการเมือง ต้องไม่สร้างเงื่อนไข แต่พี่น้องเห็นไม๊ล่ะครับว่า ความเลวร้ายจากการรัฐประหารที่เคยเกิดขึ้นหลายยุคหลายสมัย ฉีกรัฐธรรมนูญ ล้มรัฐบาล แต่ไม่เคยมีการคิดจะล้มล้างอำนาจตุลาการ
แต่ กฎหมาย 4 ฉบับที่เราพูดถึงอยู่นี้ เขาบอกไม่ใช่รัฐประหารครับ นักเขียนคนหนึ่งเขาใช้คำว่า “เป็นการประหารรัฐ” เสมือนหนึ่งบ้านเมืองไม่มีขื่อ มีแป บ้านเมืองไม่มีกฎหมาย บ้านเมืองขึ้นอยู่กับอำเภอใจของคนมีอำนาจ และถ้าเรามีบ้านเมืองอย่างนี้ อนาคตของประเทศ อนาคตของลูกหลาน มืดมนครับ
ผม จึงต้องย้ำกับพี่น้องว่า การต่อสู้ของพี่น้องทุกคนในวันนี้ เป็นการต่อสู้ที่มีความสำคัญ ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ของพวกเราเองเลย ไม่มีเรื่องไปแย่งชิงอำนาจเลย เราขอเพียงแค่ว่าคนมีอำนาจอย่าลุแก่อำนาจ ทำลายชาติบ้านเมือง และอนาคต
วันนี้ จึงเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นเท่านั้นของการต่อสู้ พวกเราทุกคนต้องเหนื่อยอีกมาก และหลายคนที่ขึ้นมาพูดบนเวทีนี้ ได้ให้กำลังใจกับพี่น้องทุกคน ผมก็เป็นอีก 1 คน ที่ขอให้กำลังใจพี่น้องผู้กล้าทุกคน ที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
และ ผมจะยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์จะก้าวเดินไปกับพี่น้องในการต่อต้านกฎหมายทำลายชาติ 4 ฉบับนี้ ยืนยันคำเดิม ไม่นิรโทษกรรม คนจงใจทำผิดทางอาญา ไม่คืนทรัพย์สินให้ทักษิณ 4 หมื่น 6 พันล้าน
พี่น้องสู้ไม่สู้ ! (สู้) สู้ไม่สู้ ! (สู้) สู้ไม่สู้ ! (สู้ สู้)
ถ้าพี่น้องสู้ ประชาธิปัตย์จะสู้กับพี่น้อง ขอขอบคุณครับ
********************************
http://www.democrat....il.php?ID=12042
คุณ Piano จะว่าอย่างไร นำรูป ที่มีความเท็จมา เผยแพร่ ครับ
ปล. ตามคำเรียกร้อง
ปล. 1 ผมลบรูปแล้ว เพราะ piano บอกขอโทษแล้ว
Edited by Rodgers16, 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 18:14.