เอามาให้อ่านเล่นๆ
ทนายความ “จตุพร” นำจเรทหารบก เบิกความศาล ยันอดีตนายกฯอภิสิทธิ์หนีการตรวจเลือกทหารเกณฑ์ ปี 30 แต่ไม่ทราบ
เรื่องการผ่อนผัน เพื่อไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ยอมรับหากโจทก์ได้เป็นอาจารย์ สอนหนังสือที่ โรงเรียนนายร้อย จปร.
แล้ว จึงไม่ต้องถูกเรียกเข้าประจำการ ย้ำ “ตู่” พร้อมมาศาล ให้การเรื่องผิดเงื่อนไข ถอนประกันคดีก่อการร้าย 23 ก.ค.นี้
วันนี้ (17 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานจำเลย คดีหมายเลขดำ อ.1008/2553 ที่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่น
โดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และ 332 กรณีเมื่อวันที่ 29 ม.ค.-15 ก.พ.53 จำเลย กล่าวปราศรัย
ต่อกลุ่มคนเสื้อแดงและประชาชนที่รับชมสถานีโทรทัศน์ ช่องพีเพิ่ล แชนแนล กล่าวหาว่าโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีที่สั่งฆ่าประชาชน
และหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารโดยทนายความจำเลย นำ พ.อ.สมโชค ไกรศิริ จเรทหารบก ขึ้นเบิกความ สรุปว่า
เมื่อวันที่ 7 เม.ย.30 นายอภิสิทธิ์ ได้หลีกเลี่ยงขัดขืนไม่เข้าทำการตรวจเลือกการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการปี 2530
และเป็นคนขาดการตรวจเลือกฯ ที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 27 และ 45 โดย นายอภิสิทธิ์ ไม่มีหลักฐาน
การผ่อนผัน จึงไม่มีหลักฐานทางทหารเพื่อประกอบเอกสารการบรรจุโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) แต่ภายหลังโรงเรียนนายร้อย
จปร.ดำเนินการทำหลักฐานขออนุมัติบรรจุนายอภิสิทธิ์ ซึ่งการบรรจุทำให้นายอภิสิทธิ์ได้เข้ารับราชการทหาร ทั้งนี้ พยานทราบมาว่าที่
นายอภิสิทธิ์ได้เข้ารับราชการทหารมาจากการประสานงานจากกรมสารบัญโรงเรียนนายร้อย จปร.
ขณะที่ พ.อ.สมโชค ตอบคำถามซักค้านของทนายโจทก์ ว่า พยานไม่ทราบว่าการไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษของ นายอภิสิทธิ์
จะมี ก.พ.เป็นผู้ดูแลทำหนังสือผ่อนผันโดยตรง และไม่ต้องมารับการตรวจเลือกฯ แต่ถ้าเป็นกรณีแบบนี้จริง
ยอมรับว่าไม่ใช่การหนีทหาร แต่เป็นเรื่องที่ได้รับการผ่อนผัน และเมื่อนายอภิสิทธิ์ได้เป็น
อาจารย์สอนหนังสือที่โรงเรียนนายร้อย จปร.แล้วจึงไม่ต้องถูกเรียกเข้าประจำการ
ตามมาตรา 14 วรรค 7
ภายหลังการเบิกความ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายจตุพร จำเลย กล่าวว่า วันนี้พยานเบิกความได้เป็นประโยชน์กับ
ฝ่ายจำเลยนอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญา เรียกตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ มาวันที่ 23 ก.ค.นี้ เพื่้อสอบถามการขึ้นปราศรัย
โจมตีศาลรัฐธรรมนูญ ที่อาจฝ่าฝืนเงื่อนไขการประกันตัวคดีก่อการร้าย ว่า นายจตุพรเองก็ไม่เห็นด้วยที่ศาลจะพิจารณาเรื่องถอนประกัน
แต่ก็มีความพร้อมที่จะมาให้ศาลสอบถาม ตนคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเพราะเป็นแค่การแสดงความคิดเห็นตามกฎหมาย โดยตนมีการ
ประเมินสถานการณ์เตรียมพยานและหลักฐานไว้พร้อมทั้งของนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์และนายจตุพร ที่ไม่ได้มีตำแหน่ง ส.ส.
และคิดว่าศาลอาญาจะให้ความเป็นธรรม เช่นเดียวกับที่ศาลออกหมายเรียกแกนนำ นปช.คนอื่นๆ มาสอบถาม และจะพิจารณา
ถอนประกันหรือไม่นั้น เชื่อว่า ประชาชนทั่วไปก็คงรู้อยู่แล้ว เพราะจำเลยบางคนก็ไม่ได้ขึ้นเวที และถึงขึ้นเวทีก็ยังมีสิทธิ์จะแสดงความคิดเห็นได้
------
เอาไงล่ะตู่ ตกลงจะให้นายอภิสิทธิ์เป็นคนอังกฤษ หรือเป็นคนไทยดีล่ะ !!!
งงกับทนายไอ้ตู่ที่บอกว่าคำเบิกความพยานเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายจำเลย เพราะเท่าที่อ่านมาผมว่าพยานตอบคำถามค้านเข้าทางฝ่ายโจทก์หมด หรือทนายอยากให้ความหวังอันริบหรี่กับไอ้ตู่ว่าอาจมีทางรอดในเรื่องนี้