Jump to content


Photo
- - - - -

"ถุงยังชีพ ๘๐ ล้าน" ยังชีพใคร? (เปลวสีเงิน)


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
No replies to this topic

#1 budsaya

budsaya

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 43 posts

Posted 8 November 2011 - 16:26

เรื่องกรุงเทพฯ กำลังเป็นเมืองใต้บาดาลไม่ต้องพูด เพราะจมอยู่ใต้บาดาลด้วยกันแล้ว แต่ที่พูดด้วยขมขื่นกันตอนนี้ เห็นจะเป็นเรื่องที่รัฐบาลใช้งบ ๘๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท จัดทำเป็น "ถุงยังชีพ" แจกชาวบ้าน ๑๐๐,๐๐๐ ชุด คิดแล้วตกชุดละ ๘๐๐ บาท
คนที่ได้ถุงยังชีพไป แกะออกดูแล้ว คำนวณราคาสิ่งของแต่ละชิ้นไม่น่าเกินถุงละ ๔๐๐ บาท ก็เลยวิพากษ์-วิจารณ์เชิงสงสัย มัน ๘๐๐ บาทได้ไงกัน?
ผมก็เป็นหนึ่งผู้ประสบภัยน้ำท่วม อยู่ในเขตที่ ศปภ.ประกาศให้ "อพยพยกเขต" ต้องลุยน้ำจนไข่เปียกทุกวัน แต่ไม่เคยเห็น (และไม่ต้องการ) ถุงยังชีพนั้น จึงไม่ประจักษ์ข้าวของในถุง เห็นวันก่อน "นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์" โฆษกมหาดไทย แถลงว่าไม่จริง ของในถุงนั้น ๘๐๐ บาทแน่นอน
แต่ผมตรวจรายการจากของที่คนได้รับ กับของที่โฆษกมหาดไทยแถลง "ไม่ตรงกัน" ก็ยังไม่อยากพูดอะไร แต่เมื่อวาน (๗ พ.ย.๕๔) นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ ประธานอนุกรรมการบริหารจัดการถุงยังชีพ ได้ชี้แจงว่า
มี ๓ ถุง ๓ ชนิด ๓ ราคา!
คือถุงราคา ๓๐๐ บาท ถุงราคา ๕๐๐ บาท และถุงราคา ๘๐๐ บาท โดยกระจายให้หน่วยงานจัดซื้อ ๒ หน่วย คือ ศูนย์รับบริจาคฯ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ฟังแล้วก็อดสู ละอาย ขมขื่น เวทนาประเทศชาติของกูจริงๆ ก็ไม่อยากพูด อยากแย้งถามอะไร ไม่อยากกระทั่งจะตั้งข้อสงสัยว่า......นี่มันจะไม่เว้นกันเลยเชียวหรือ กระทั่งสิ่งที่เป็นเครื่อง "ต่อลมหายใจ" พี่น้องประชาชน ในยามทุกข์ยากแสนสาหัสที่ตำตา-ตำใจอยู่ทนโท่?
แต่ผมอยากจะแจกแจงให้ "ความละอาย" แห่งความเป็นคนผุดขึ้นในสำนึกจากสิ่งที่รัฐบาลควรทำ แต่กลับไม่ทำ ดังนี้
๑.กับข้าวของที่ประชาชนทั้งในและนอกประเทศนำมามอบให้รัฐบาลแจกกองไว้ในโกดังเป็นภูเขาเลากา ทำไมไม่จัดนำไปแจกจ่าย กลับต้องใช้งบ ๘๐ ล้านบาท ซื้อของใส่ถุงยังชีพไปแจกจ่าย?
๒.ถ้าอ้างว่าของบริจาคนั้นแจกจ่ายหมดแล้ว แต่ไม่เพียงพอกับผู้เดือดร้อน ถามว่าแค่ ๑ แสนถุง เพียงพอและทั่วถึงกับผู้ที่ยังไม่ได้รับแจกจ่ายแล้วหรือ?
๓.เงิน ๘๐ ล้านบาทนั้น เงินจากผู้บริจาค หรือเงินงบประมาณ สมควรต้องบอกให้ประชาชนรู้ เพราะรัฐบาลใส่ถุงที่พิมพ์ "ตราสำนักนายกรัฐมนตรี" เป็นผู้แจกจ่าย หวังให้ผู้ได้รับเข้าใจว่า เป็นสิ่งของของรัฐบาลเองจัดหาให้ประชาชน
ถ้ามาจากเงินบริจาคชาวบ้าน แล้วรัฐบาลนำไปแจกให้คนเข้าใจว่าเป็นของรัฐบาลจัดซื้อเองได้อย่างไร และทำบัญชีเงินส่วนนี้ไว้แบบไหน นำเงินราษฎร์ไปซื้อ แล้วไปเบิกเงินหลวงอีกต่อหรือเปล่า ควรนำมาแสดงให้ชัดเจน?
๔.ของบริจาค แต่คนรัฐบาลไปลบชื่อผู้บริจาค แล้วพิมพ์ชื่อตัวกันเอง ชื่อทักษิณก็มี แวดวงกันเองเอาไปแจกหวังเอาชื่อ-เอาเสียง โดยไม่ยอมกระจายให้แต่ละพื้นที่นำไปแจกลูกบ้านของเขา แต่แล้วก็แจกไม่ทั่ว แจกกันเป็นพิธีเอาหน้า ของยังเหลือ ยังกั๊กไว้กองพะเนิน
แล้วเหตุผลใดต้องใช้เงินไปจัดซื้อมาแจกอีก?
เอาละ...กระตุกต่อมละอายให้ตรองเท่านี้ก่อน มาพูดถึงเงิน ๘๐ ล้านบาทบ้าง ผมค่อนข้างเชื่อว่าเป็นเงินมาจากผู้บริจาค ไม่ใช่เงินหลวง แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นที่ผมอยากพูด ที่อยากพูดคือ ถ้าต้องการใช้เงิน ๘๐ ล้าน ให้เป็นประโยชน์กับผู้ประสบภัยจริง ควรทำอย่างนี้ครับ
ผู้ประสบภัยอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆ มีเป็นแสนๆ เขาต้องหยุดงาน ขาดรายได้ แถมนั่งๆ นอนๆ อยู่ในศูนย์ มีแต่เครียด และรู้สึกว่าตัวเองสูญเปล่า
งานที่ ศปภ.ต้องใช้กำลังคนช่วยเหลือตอนนี้มีมากมาย ทำไมไม่ประกาศให้ผู้อยู่ตามศูนย์มาสมัครทำงานล่ะครับ จ่ายค่าแรงขั้นต่ำวันละ ๓๐๐ บาทไปเลย ก็จะได้ทั้งงานช่วยกันในภารกิจน้ำท่วม ทั้งจะช่วยให้คนมีรายได้ ดีกว่านั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ
และเงินบริจาคที่มีหลายร้อยล้านนั้น จะได้กระจายชนิด "ประโยชน์ ๒ ต่อ" ถึงมือ ถึงปาก-ถึงท้อง ชาวบ้าน โดยผู้ได้รับก็รู้สึกมีเกียรติ และก็จะได้กำลังงานช่วยกันในภารกิจเฉพาะหน้ามากมาย แทนที่จะโยนภาระให้กำลังพลทหารแบกตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ประเด็นหลักในการใช้เงิน ๘๐ ล้าน แทนที่จะนำไปจัดซื้อของทำถุงยังชีพ เอาไปจ้างผู้อพยพตามศูนย์ไม่ว่าหนุ่ม-สาว คนเฒ่า-คนแก่ กระทั่งเด็ก และคนพิการ ให้มาช่วยกันทำงาน โดยแยกของบริจาค จัดบรรจุทำถุงยังชีพ คนละ ๒๐๐-๓๐๐ บาท อย่างนี้จะเกิดประโยชน์ทุกทาง
ชาวบ้านมากๆ ย่อมยากจัดระเบียบ จำเป็นต้องมีคนบริหาร-จัดการ คอยแจกงานให้เขาทำอย่างเป็นระบบ ก็ประกาศรับ "นักศึกษา" ให้มาทำหน้าที่นี้ จ่ายเบี้ยเลี้ยงเขาไป หรือจะมอบเป็นภารกิจให้นักศึกษาบริหาร-จัดการครบวงจร ก็มอบส่วนนี้ไปเลย คือ เมื่อจัดแล้ว นำไปแจกให้ถึงมือชาวบ้านด้วย
จะด้วยวิธีไหน ให้นักศึกษาทำแผนงานแต่ละพื้นที่เสนอมา ประเด็นสำคัญ ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ-กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-อบต.แต่ละพื้นที่ ต้องเชิญมาเป็นส่วนร่วมในแผน "กระจายแจก" ให้ถึงมือทุกครัวเรือน ไม่ใช่นำไป "แจกกระจุก" เฉพาะปากทาง ปากถนน
ก็ลองใช้ "จิตละอาย" ใคร่ครวญดูนะ จะยิ่งลักษณ์ หรือมนุษย์ไหนใน ศปภ. ถ้าหวังประโยชน์สุขกับผู้ทุกข์ยากก็ทำเถิด ทุกข์จากน้ำนี้ยังมีอยู่ยาวไกล ผิดแล้วตั้งต้นที่ถูกใหม่ สังคมอาจลดโทษให้กึ่งหนึ่ง