Jump to content


Photo
- - - - -

ตกลงอภิสิทธิ์หนีทหารหรือเปล่าครับ!


  • Please log in to reply
356 ความเห็นในกระทู้นี้

#301 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 04:43



#290Solidus

ok ผมทบทวนแล้ว การยก ม.39 อาจะใช้ไม่ได้ จึงต้องเอาตาม คคห. คุณ Solidus #290 น่าจะถูกต้องกว่า

แต่เมื่อผมทบทวน ม.9 แล้ว ผมว่าคุณ SACRIFICE ที่ปลดประจำการมา 10+ ปี จะเป็นกองหนุนชั้น 1 ตลอดไปมิได้ครับ

เพราะตาม ม.9

เมื่ออยู่ในกองประจำการจนครบกำหนดแล้วให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ดังนี้

กองหนุนชั้นที่ ๑ เจ็ดปี
กองหนุนชั้นที่ ๒ สิบปี
กองหนุนชั้นที่ ๓ หกปี

กองหนุนชั้น 2 เหมือนกันแต่คนละประเภทไง เพราะที่มามาจากคนละมาตรา
กองหนุนประเภท 1 ชั้น 2 กับ กองหนุนประเภท 2 ชั้น 2


Ok เอาตามคุณ Solidus ครับ แม่นจริงๆครับ แจ๋วจริง

แต่อีกนิดครับ คุยมาถึงตรงนี้ ถามนอกเรื่องครับ
แสดงว่า พรบ.มีช่องโหว่... เพราะไม่มีข้อใดระบุ ว่าทหารกองเกิน หมดสภาพเป็นทหารกองเกินเมื่อใด ผมเข้าใจถูกไหมครับ

เมื่อเป็นทหารกองประจำการ ไม่ก็อายุครบ 30 ปีปลดเป็นกองหนุนประเภท 2

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#302 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 04:46

มาอ่านเรื่อยๆครับ


อุ๊ย มีคนตามอ่าน1คนแล้ว ที่กระทู้เก่าๆตกเร็วๆแบบอันเนิ๊ย .. ก็ยังดีนะเนี่ย ขอบคุณครับ

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#303 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 04:51




#290Solidus

ok ผมทบทวนแล้ว การยก ม.39 อาจะใช้ไม่ได้ จึงต้องเอาตาม คคห. คุณ Solidus #290 น่าจะถูกต้องกว่า

แต่เมื่อผมทบทวน ม.9 แล้ว ผมว่าคุณ SACRIFICE ที่ปลดประจำการมา 10+ ปี จะเป็นกองหนุนชั้น 1 ตลอดไปมิได้ครับ

เพราะตาม ม.9

เมื่ออยู่ในกองประจำการจนครบกำหนดแล้วให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ ดังนี้

กองหนุนชั้นที่ ๑ เจ็ดปี
กองหนุนชั้นที่ ๒ สิบปี
กองหนุนชั้นที่ ๓ หกปี

กองหนุนชั้น 2 เหมือนกันแต่คนละประเภทไง เพราะที่มามาจากคนละมาตรา
กองหนุนประเภท 1 ชั้น 2 กับ กองหนุนประเภท 2 ชั้น 2


Ok เอาตามคุณ Solidus ครับ แม่นจริงๆครับ แจ๋วจริง

แต่อีกนิดครับ คุยมาถึงตรงนี้ ถามนอกเรื่องครับ
แสดงว่า พรบ.มีช่องโหว่... เพราะไม่มีข้อใดระบุ ว่าทหารกองเกิน หมดสภาพเป็นทหารกองเกินเมื่อใด ผมเข้าใจถูกไหมครับ

เมื่อเป็นทหารกองประจำการ ไม่ก็อายุครบ 30 ปีปลดเป็นกองหนุนประเภท 2


มาตราใดครับ ที่ระบุว่าพ้นจากเป็นทหารกองเกิน เมื่อเป็นทหารกองประจำการ
หาไม่เจอครับ อ่า..ดื่มอยู่ครับ ขออภัยที่รบกวน

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#304 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 05:06

มาตราใดครับ ที่ระบุว่าพ้นจากเป็นทหารกองเกิน เมื่อเป็นทหารกองประจำการ
หาไม่เจอครับ อ่า..ดื่มอยู่ครับ ขออภัยที่รบกวน

มันไม่ได้เขียนตรง ๆ หรอกครับ
ลองไปอ่านนิยามทหารกองประจำการก่อนครับว่าจะใช้เมื่อใด ทหารกองเกินที่ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วจะไม่เรียกว่าทหารกองเกินแล้วครับ แต่เรียกเป็นทหารกองประจำการ ส่วนทหารกองเกินที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนกองประจำการ แม้ว่าจะอยู่ในกองประจำการก็ไม่เรียกว่าทหารกองประจำการ (แต่ก็โดนบังคับให้ไปขึ้นทะเบียนกองประจำการอยู่ดี) :lol: :lol: :lol:

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#305 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 05:13


มาตราใดครับ ที่ระบุว่าพ้นจากเป็นทหารกองเกิน เมื่อเป็นทหารกองประจำการ
หาไม่เจอครับ อ่า..ดื่มอยู่ครับ ขออภัยที่รบกวน

มันไม่ได้เขียนตรง ๆ หรอกครับ
ลองไปอ่านนิยามทหารกองประจำการก่อนครับว่าจะใช้เมื่อใด ทหารกองเกินที่ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วจะไม่เรียกว่าทหารกองเกินแล้วครับ แต่เรียกเป็นทหารกองประจำการ ส่วนทหารกองเกินที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนกองประจำการ แม้ว่าจะอยู่ในกองประจำการก็ไม่เรียกว่าทหารกองประจำการ (แต่ก็โดนบังคับให้ไปขึ้นทะเบียนกองประจำการอยู่ดี) :lol: :lol: :lol:


งั้นถ้าผมชี้ตรงๆ ว่านี่คือช่องโหว่ ที่ต้องแก้ไข
โดยต้องแก้ไขเพิ่มเติมระบุ "การสิ้นสภาพทหารกองเกิน หมายถึง ...." ผมพูดได้ไหมครับว่าต้องแก้ (กำลังจะโยงไปเรื่องวาระ3 อิอิ :D )

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#306 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 05:19



มาตราใดครับ ที่ระบุว่าพ้นจากเป็นทหารกองเกิน เมื่อเป็นทหารกองประจำการ
หาไม่เจอครับ อ่า..ดื่มอยู่ครับ ขออภัยที่รบกวน

มันไม่ได้เขียนตรง ๆ หรอกครับ
ลองไปอ่านนิยามทหารกองประจำการก่อนครับว่าจะใช้เมื่อใด ทหารกองเกินที่ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วจะไม่เรียกว่าทหารกองเกินแล้วครับ แต่เรียกเป็นทหารกองประจำการ ส่วนทหารกองเกินที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนกองประจำการ แม้ว่าจะอยู่ในกองประจำการก็ไม่เรียกว่าทหารกองประจำการ (แต่ก็โดนบังคับให้ไปขึ้นทะเบียนกองประจำการอยู่ดี) :lol: :lol: :lol:


งั้นถ้าผมชี้ตรงๆ ว่านี่คือช่องโหว่ ที่ต้องแก้ไข
โดยต้องแก้ไขเพิ่มเติมระบุ "การสิ้นสภาพทหารกองเกิน หมายถึง ...." ผมพูดได้ไหมครับว่าต้องแก้ (กำลังจะโยงไปเรื่องวาระ3 อิอิ :D )

ทำไมต้องแก้ในเมื่อมันก็ระบุแล้วว่าหมายถึงอะไร

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#307 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 05:30

มาตราใดครับที่ระบุ . เท่าที่เห็นมีแต่ มาตรา ๔
(๒)“ทหารกองเกิน” หมายความว่า ผู้ซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบูรณ์ ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ หรือผู้ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๘ แล้ว



แต่หาไม่เจอ ว่ามาตราใดบอกว่า "พ้นจากเป็นทหารกองเกิน เมื่อเป็นทหารกองประจำการ"
ผมว่าถ้าหากมันโหว่จริงๆ ผมว่ารัฐบาล ไม่ว่าพรรคใด ควรต้องรีบแก้ไข

Edited by Tam-mic-ra., 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 05:31.

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#308 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 05:41

มาตราใดครับที่ระบุ . เท่าที่เห็นมีแต่ มาตรา ๔
(๒)“ทหารกองเกิน” หมายความว่า ผู้ซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบูรณ์ ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ หรือผู้ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๘ แล้ว



แต่หาไม่เจอ ว่ามาตราใดบอกว่า "พ้นจากเป็นทหารกองเกิน เมื่อเป็นทหารกองประจำการ"
ผมว่าถ้าหากมันโหว่จริงๆ ผมว่ารัฐบาล ไม่ว่าพรรคใด ควรต้องรีบแก้ไข

นาย ก. อายุ 21 ปีได้ที่ขึ้นทะเบียนกองประจำการและเข้ารับราชการในกองประจำการ คุณจะเรียกว่านาย ก. ว่าเป็นทหารกองเกินหรือทหารกองประจำการครับ
นาย ข. อายุ 22 ปี เข้ากองประจำการแต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกองประจำการ คุณจะเรียกว่านาย ข. ว่าเป็นทหารกองเกินหรือทหารกองประจำการครับ

Edited by Solidus, 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 05:43.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#309 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 05:56


มาตราใดครับที่ระบุ . เท่าที่เห็นมีแต่ มาตรา ๔
(๒)“ทหารกองเกิน” หมายความว่า ผู้ซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบูรณ์ ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ หรือผู้ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๘ แล้ว



แต่หาไม่เจอ ว่ามาตราใดบอกว่า "พ้นจากเป็นทหารกองเกิน เมื่อเป็นทหารกองประจำการ"
ผมว่าถ้าหากมันโหว่จริงๆ ผมว่ารัฐบาล ไม่ว่าพรรคใด ควรต้องรีบแก้ไข

นาย ก. อายุ 21 ปีได้ที่ขึ้นทะเบียนกองประจำการและเข้ารับราชการในกองประจำการ คุณจะเรียกว่านาย ก. ว่าเป็นทหารกองเกินหรือทหารกองประจำการครับ

นาย ข. อายุ 22 ปี เข้ากองประจำการแต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกองประจำการ คุณจะเรียกว่านาย ข. ว่าเป็นทหารกองเกินหรือทหารกองประจำการครับ

ในเมื่อไม่มีมาตราใด ระบุการสิ้นสภาพทหารกองเกินเมื่อได้เป็นทหารประจำการ
ผมคงถือว่า นาย ก.และนาย ข. เป็นทั้ง2สถานะครับ ทั้งกองเกินด้วยและกองประจำการด้วย


ไปนอนก่อนครับ ไว้มาต่อกันใหม่ ขอบคุณคับ

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#310 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 06:00



มาตราใดครับที่ระบุ . เท่าที่เห็นมีแต่ มาตรา ๔
(๒)“ทหารกองเกิน” หมายความว่า ผู้ซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบูรณ์ ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ หรือผู้ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๘ แล้ว



แต่หาไม่เจอ ว่ามาตราใดบอกว่า "พ้นจากเป็นทหารกองเกิน เมื่อเป็นทหารกองประจำการ"
ผมว่าถ้าหากมันโหว่จริงๆ ผมว่ารัฐบาล ไม่ว่าพรรคใด ควรต้องรีบแก้ไข

นาย ก. อายุ 21 ปีได้ที่ขึ้นทะเบียนกองประจำการและเข้ารับราชการในกองประจำการ คุณจะเรียกว่านาย ก. ว่าเป็นทหารกองเกินหรือทหารกองประจำการครับ

นาย ข. อายุ 22 ปี เข้ากองประจำการแต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกองประจำการ คุณจะเรียกว่านาย ข. ว่าเป็นทหารกองเกินหรือทหารกองประจำการครับ

ในเมื่อไม่มีมาตราใด ระบุการสิ้นสภาพทหารกองเกินเมื่อได้เป็นทหารประจำการ
ผมคงถือว่า นาย ก.และนาย ข. เป็นทั้ง2สถานะครับ ทั้งกองเกินด้วยและกองประจำการด้วย


ไปนอนก่อนครับ ไว้มาต่อกันใหม่ ขอบคุณคับ

แต่ใน พรบ ไม่ได้เขียนแบบคุณนะครับ
โดยเฉพาะนาย ข. ยังเป็นทหารกองเกิน ไม่ได้เป็นทหารกองประจำการอย่างที่คุณว่า

ถ้าเป็น 2 สถานะแบบที่คุณว่า สมมติให้นาย ค. อายุ 28 ปีบริบูรณ์ เข้ารับราชการทหารกองประจำการ 2 ปี ครบกำหนดปลดตอนอายุ 30 ปีบริบูรณ์ ถามว่า นายค. จะเป็นทหารกองหนุนประเภทใด

Edited by Solidus, 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 06:06.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#311 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 06:10

OK
นาข ข. ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนประจำการ ตามหลักผมก็ว่าก็เป็นกองเกินอย่างเดียวครับ ตรงตัวเลย นี่ถามหลอกผมสำเร็จสิ่นะ ตอนนี้ผมก็ตาลายๆ
มาประเด็นหลักๆดีกว่า
ผมยังคงสรุปว่า
ไม่มีมาตราใดบอกว่า "พ้นจากเป็นทหารกองเกิน เมื่อเป็นทหารกองประจำการ"
บายครับนอนละ

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#312 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 06:13

OK
นาข ข. ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนประจำการ ตามหลักผมก็ว่าก็เป็นกองเกินอย่างเดียวครับ ตรงตัวเลย นี่ถามหลอกผมสำเร็จสิ่นะ ตอนนี้ผมก็ตาลายๆ
มาประเด็นหลักๆดีกว่า
ผมยังคงสรุปว่า
ไม่มีมาตราใดบอกว่า "พ้นจากเป็นทหารกองเกิน เมื่อเป็นทหารกองประจำการ"
บายครับนอนละ

ตอบเรื่องนาย ค. สิครับ

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#313 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:58

อ่า ผู้สนทนาถ้าไปนอนก็บอกกันด้วยนะครับ ตอนผมจะไป ผมก็มักจะบอกเสมอ
สมาชิกจะได้ไม่ต้องรอนานน่ะครับ :unsure:


ขออภัย ไม่คิดว่าจะได้รับเกียรติให้เป็นคู่สนทนาด้วย
บังเอิญปิดงบกลางปีค้างอยู่ ก็เลยต้องไปสะสางให้เรียบร้อย ไม่ว่ากันน่ะ :)

ข้อ 3 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอตามข้อ 2 ให้กระทำได้ดังนี้
(2) การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจำการก่อนวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกร้องขอต่อ
เจ้าหน้าที่กรมกองที่ผู้นั้นประสงค์จะเข้าเป็นทหารกองประจำการ เมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
พิจารณารับผู้ใด ให้ผู้นั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการในปีที่ถูกเรียกให้เสร็จก่อนวันตรวจเลือก


ถามว่าทำไมมาร์คไม่ต้องทำตามมาตรานี้ ?


อ๋อ มีการผ่อนผัน

แล้วเอกสารผ่อนผันใช้มาตราไหนระหว่าง 27, 29
และถ้า ม. 27 มาร์คใช้ทุน กพ หรือทุนตัวเอง?


นั้นแน่...กะถามลองภฺมิอะดิ...

มาตรา 27 ทหารกองเกินซึ่งถูกเรียกต้องมาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกตาม
กำหนดหมายนั้น โดยนำใบสำคัญทหารกองเกิน บัตรประจำตัวประชาชน และประกาศนียบัตร
หรือหลักฐานการศึกษามาแสดงด้วย ถ้าไม่มาหรือมาแต่ไม่เข้ารับการตรวจเลือก หรือไม่อยู่
จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ ให้ถือว่าทหารกองเกินนั้นหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่มาให้
คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือก เว้นแต่
(2) นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 29 เมื่อได้คัดคนที่ยกเว้นด้วยเหตุต่าง ๆ ออกแล้ว ถ้ามีจำนวนทหารกองเกินที่จะรับ
ราชการเป็นทหารกองประจำการได้มากกว่าจำนวนที่ฝ่ายทหารต้องการ ให้ผ่อนผันแก่ประเภท
บุคคล ดังต่อไปนี้
(3) บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
การขอผ่อนผันตาม (3) ให้ปฏิบัติตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

คงไม่ต้องย้ำน่ะค่ะว่า กรณีคุณอภิสิทธิ์ ใช้มาตราใด....
เดี๋ยวจะหาว่าไม่ต้องคำถาม...มาตรา 27 (2)

ที่นี้ประเด็นที่ว่า ใช้ทุน กพ หรือ ทุนตัวเอง..

คำอธิบาย ม.27 จากวิชา กฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร กองวิชาการสัสดี ส่วนการศึกษา
โรงเรียนการกำลังรอง ศูนย์การกำลังสำรอง ได้อธิบายความใน ม. 27 (2) พรบ รับราชการทหาร
พ.ศ. 2497 ความว่า

" อย่างไรก็ดี มาตรานี้ก็ยังยกเว้นให้บุคคล 7 ประเภทที่ไม่ไปเข้าการตรวจเลือกแล้ว ไม่ถือว่า
หลีกเลี่ยงขัดขืน คือ
(2) นักเรียนที่ออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศซึ่งต้องเข้าลักษณะตามที่กำหนดไว้ใน
กฎกระทรวงฉบับที่ 10 ดังนี้ คือ
(๑) ต้องเป็นนักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ โดยอยู่ในความปกครองทั้งฝ่ายวิชา
การและความประพฤติของผู้ดูแลนักเรียนไทยของรัฐบาลไทยสำหรับประเทศนั้น ๆ ซึ่งโดยปกติ
กพ เป็นเจ้าหน้าที่ในเรื่องนี้ วิธีการขอผ่อนผัน กพ จะแจ้งต่อกระทรวงมหาดไทย เมื่อกระทรวง
มหาดไทยเห็นว่าควรผ่อนผันให้ ก็จะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอันเป็นภูิมิลำเนาทหารของผู้นั้น
ดำเนินการผ่อนผันให้ต่อไป
(๒) ถ้าไม่ใช่นักเรียนตาม (๑) ก็อาจเป็นนักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ โดย
ทุนส่วนตัวและไม่อยู่ในความดูแลของผู้ดูิแลนักเรียนไทยในต่างประเทศ การขอผ่อนผันตาม (2)
นี้ต้องขอผ่อนผันจากทางอำเภอภูมิลำเนาทหารแล้ว นายอำเภอจะดำเนินเรื่องต่อไปจนถึงผู้ว่า
ราชการจังหวัดเป็นผู้สั่งผ่อนผันให้ (คำสั่งกระทรวมหาดไทยที่ 940 / 2517 ลงวันที่ 3 ธค.2517)

ดังนั้น..จะใช้ทุน กพ หรือ ทุนส่วนตัว ก็เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับผ่อนผัน...

#314 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:03

ถ้ากรณี "หนีทหาร"...คือการไม่เข้ารับตรวจเลือก ในวันที่ 7 เมย.2530 หล่ะก็
ตามที่ตั้งธงกันไว้...ตั้งแต่ 2542...จนถึง 2555

ก็คงไม่มีประเด็นใหุุ้ถกเถียงกันอีก...เพราะถึงอย่างไร
การไม่เข้าตรวจเลือกในวันที่ 7 เมย. 2530 เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว
และถ้านั้นเป็นการหลีกเลี่ยงโดยจงใจ...

ทำไม..ผู้เปิดประเด็นในครั้งนั้น ( 2542 ) ถึงไม่ยื่นคำฟ้องต่อศาลให้จบเรื่อง
กันไป...ปล่อยค้างคาไว้เพื่อประโยชน์อะไร มิหนำซ้ำ ยังปล่อยให้เรื่องค้าง
มานับ 10 ปี...แล้วจึงนำมาเป็นหัวข้อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในปี 2552
ภายหลังจากที่คุณอภิสิทธิ์ รับตำแหน่งนายกได้ไม่ถึง 3 เดือน

น่าแปลกมั้ยหล่ะ

#315 คางคก

คางคก

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 181 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:08

ควายแดง นี่มันยังไง คิดแค้นคนผิด โง่ เชื่อแกน พาไปเจ็บไปตาย ยังไม่สำนึก ตอนมันลงจากเวที 19/05/2553 ก็เห็น เอาขวดน้ำเขวี้ยงใส่แกนนำ พอมันออกมาจากคุก ก็เย้วๆ กันต่อ

อย่าโง่ต่อไปอีกเลย รักชาติบ้านเมืองดีกว่า นักการเมืองมันก็แค่พวกมาหาผลประโยชน์

สงสัยว่ามาร์ค หนีทหารก็ไปฟ้องเอา

แต่แถวบ้านผมแบบนี้ไม่เรียกหนี นะ หนีคือแบบ ว่า หนีไปเลย ไม่เห็น ไม่เจอตัว เหมือน แม้ว แบบนั้นอะ เค้าเรียกว่าหนีคุก

#316 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:11

]นั่นแหละครับ เหลือประเด็นเดียวคือ สด.20 เป็นเท็จหรือไม่ คนที่บอกว่าเป็นเท็จต้องพิสูจน์มาครับว่าเท็จยังไง แล้วของจริงเป็นยังไง


สำหรับประเด็นว่า สด.20 จริง หรือ เท็จ ถ้ามองในมุมของผู้แถลง และยังเป็นหน่วยงาน
ที่ควบคุมดูแลโดยตรง ซึ่งต้องมีต้นฉบับ สด.20 ที่อ้างถึงอย่างแน่นอน

นั้นทำให้ผู้แถลง เป็นผู้ถือแต้มเหนือกว่า หรือ ได้เปรียบในการที่จะหาข้อมูลว่าหักล้าง
ได้อย่างง่ายดาย คือ นำต้นฉบับ สด.20 มาแสดง..

ต้นขั้ว สด.9 ทั้ง 2 ฉบับ และ บัญชีคนขาด บัญชี สด.1 บัญชี สด.16 ยังสามารถหา
มาแสดงให้ได้ชมกัน...แล้วทำไม สด.20 ถึงจะไม่สามารถนำมาแสดง..

ถ้าไม่มีอะไรในกอไผ่....

#317 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:45

ข้อ 3 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอตามข้อ 2 ให้กระทำได้ดังนี้
(2) การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจำการก่อนวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกร้องขอต่อ
เจ้าหน้าที่กรมกองที่ผู้นั้นประสงค์จะเข้าเป็นทหารกองประจำการ เมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
พิจารณารับผู้ใด ให้ผู้นั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการในปีที่ถูกเรียกให้เสร็จก่อนวันตรวจเลือก


ถามว่าทำไมมาร์คไม่ต้องทำตามมาตรานี้ ?


สำหรับประเด็นนี้..ข้อความที่อ้างอิงข้างต้นมาจาก กฎกระทรวง ฉบับที่ 35 พศ. 2516 ความว่า

ข้อ 2 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการ โดยวิธีอื่นให้กระทำโดยวิธีร้องขอ และบุคคล
ที่จะร้องขอต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์

ข้อ 3 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอตามข้อ 2 ให้กระทำได้ดังนี้
(2) การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจำการ ก่อนวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกร้องขอต่อ
เจ้าหน้าที่กรมกองที่ผู้นั้นประสงค์จะเข้าเป็นทหารกองประจำการ เมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
พิจารณารับผู้ใด ให้ผู้นั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการในปีที่ถูกเรียกให้เสร็จก่อนวันตรวจเลือก

ถามว่าทำไมไม่ปฏิบัติตามข้อนี้...

ย้อนกลับไป เอกสารประกอบวิชา กฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร กองวิชาการสัสดี
ส่วนการศึกษา โรงเรียนการกำลังสำรอง ศูนย์การกำลังสำรอง ได้กรุณาอธิบาย ม. 8 ไว้
(ในส่วนนี้คงไม่ต้องกล่าวถึง เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำถามแต่อย่างใด)
อีกทั้งยังได้อธิบายในส่วนของกฎกระทรวงฉบับที่ 35 พ.ศ 2516 ไว้ดังนี้

" การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการทั้งตามที่กำหนดไว้ใน ม. 8 และในกฎกระทรวง
ฉบับที่ 35 พ.ศ 2516 รวมทั้งหมดด้วยกันมี 4 วิธี คือ
(๑) วิธีเรียกมาตรวจเลือก
(๒) ผู้ถูกเรียกร้องขอในวันตรวจเลือก
(๓) ผู้ถูกเรียกร้องขอก่อนวันตรวจเลือก
(๔) ผู้ที่ยังไม่ถูกเรียกหรือผู้ที่เคยถูกเรียแล้วแต่ยังไม่ถูกเข้ากองประจำการฯ

(๓) ผู้ถููกเรียกร้องขอก่อนวันตรวจเลือก การสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีนี้
ผู้สมัครก็ต้องเป็นผู้ที่ถูกเรียก คือ ได้รับหมายเรียกให้ไปเข้ารับการตรวจเลือก หรืออย่างน้อย
ก็ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในกำหนดถูกเรียกให้ไปเข้ารับการตรวจเลือกแต่ยังไม่ได้รับหมายเรียก
การเข้ากองประจำการโดยวิธีนี้ต่างกับวิธีที่ 2 คือ ต้องสมัครเข้ารับราชการกองประจำการ
ก่อนวันตรวจเลือกและต้องสมัครต่อเจ้าหน้าที่กรมกองที่ตนประสงค์จะเข้ารับราชการนั้น
การสมัครเข้ากองประจำการโดยวิธีนี้ ก็คือ การเข้ารับราชการในอัตราของกระทรวงกลาโหม
นั่นเอง ซึ่งอาจเข้าเป็นนายสิบ หรือ จ่า หรือ นายทหารก็ได้

สำหรับผู้ที่เข้าเป็นนายสิบหรือจ่า ก็สมัครต่อหน่วยกรมกองได้ เพราะหน่วยกรมกองหรือ
กองพลหรือหน่วยเทียบเท่า มีอำนาจออกคำสั่งบรรจุให้นายสิบหรือจ่า เข้ารับราชการได้

ส่วนนายทหารนั้น จะต้องสมัครต่อ กองทัพบก กองทัพเรือ หรือกองทัพอากาศ จะสมัคร
ต่อหน่วยกรมไม่ได้ เพราะกรมหรือกองพลไม่มีอำนาจบรรจุนายทหารเข้ารับราชการได้

เมื่อหน่วยใดตกลงรับสมัครผู้ใดแล้ว ต้องนำตัวผู้นั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการให้เสร็จ
ก่อนวันตรวจเลือก

เมื่อขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้ว ถือว่าผู้นั้นเป็นทหารกองประจำการแล้ว
ไม่ต้องรับการตรวจเลือกต่อไป

ที่นี้ประเด็นการขึ้นทะเีบีนกองประจำการให้แล้วเสร็จก่อนวันตรวจเลือก....

พรบ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 9 วรรค 2 บัญญัติไว้ว่า

" วันเริ่มเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ให้นับแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจำการ
ในกรณีที่ทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการแล้ว แต่ยังขึ้นทะเบียน
กองประจำการให้ไม่ได้ในวันที่ทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการนั้น
จะขึ้นทะเบียนกองประจำการภายหลังจากวันเข้ารับราชการทหารกองประจำการ
ก็ได้ และให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนกองประจำการตั้งแต่วันที่เข้ารับราชการทหาร
กองประจำการ "

ตอบคำถามครบแล้วทุกประเด็น..

#318 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:25


มาอ่านเรื่อยๆครับ


อุ๊ย มีคนตามอ่าน1คนแล้ว ที่กระทู้เก่าๆตกเร็วๆแบบอันเนิ๊ย .. ก็ยังดีนะเนี่ย ขอบคุณครับ


ถ้ามีคนแสดงความคิดเห็นอยู่เรื่อยๆ มันก็ไม่ตกเร็วหรอกครับ คุยกันที่นี่ซะกระทู้เดียวอย่างนี้แหละครับ จะได้ไม่รกบอร์ด ผมก็จะได้ติดตามแค่กระทู้เดียว เป็นประโยชน์กับทุกคนครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#319 thebriza

thebriza

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 618 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:29

สรุปให้สั้นๆ

แม้วหนีทหาร (19 ก.ย. 49)
สมชายหนีเมีย
ปูหนีสภามา feat. ที่ 4SS

#320 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:13


]นั่นแหละครับ เหลือประเด็นเดียวคือ สด.20 เป็นเท็จหรือไม่ คนที่บอกว่าเป็นเท็จต้องพิสูจน์มาครับว่าเท็จยังไง แล้วของจริงเป็นยังไง


สำหรับประเด็นว่า สด.20 จริง หรือ เท็จ ถ้ามองในมุมของผู้แถลง และยังเป็นหน่วยงาน
ที่ควบคุมดูแลโดยตรง ซึ่งต้องมีต้นฉบับ สด.20 ที่อ้างถึงอย่างแน่นอน

นั้นทำให้ผู้แถลง เป็นผู้ถือแต้มเหนือกว่า หรือ ได้เปรียบในการที่จะหาข้อมูลว่าหักล้าง
ได้อย่างง่ายดาย คือ นำต้นฉบับ สด.20 มาแสดง..

ต้นขั้ว สด.9 ทั้ง 2 ฉบับ และ บัญชีคนขาด บัญชี สด.1 บัญชี สด.16 ยังสามารถหา
มาแสดงให้ได้ชมกัน...แล้วทำไม สด.20 ถึงจะไม่สามารถนำมาแสดง..

ถ้าไม่มีอะไรในกอไผ่....

ก็ตั้งธงไว้แล้วว่าต้องให้ผลการสอบสวนออกมาว่าหนีทหาร จะไปหาหลักฐานว่าไม่ได้หนีทำไม :lol: :lol: :lol:

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#321 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:27

มาสรุปสักที

ว่าสิ่งที่คุยไปคุยมา สรุปว่าผมและสังคมที่เข้าใจแบบผม "รอ" ได้เห็นเอกสารผ่อนผันไปเรียนต่อ เพื่อไม่ต้องไปเกณทหาร 7 เมษายน 2530

โดยผมอาศัยจากข้อมูลของคู่มือ พรบ.ทหาร ระบุไว้ว่า

๑.๔ นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ
๑.๔.๑ ถ้าเป็นทุนของกระทรวง ทบวง กรม หรือ ส่วนราชการใด โดยอยู่ในความประพฤติของผู้ดูแลนักเรียนไทย ของรัฐบาลไทยสำหรับประเทศ
นั้น ๆ สำนักงาน ก.พ.จะเป็นผู้ดำเนินการผ่อนผันต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูมิลำเนาทหารให้ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะออกหนังสิอผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับ
ราชการทหาร(แบบ สด.๔๑) ให้ไว้เป็นหลักฐานโดยมีเงื่อนไขว่า "ถ้าต้องออกจากการศึกษากลับจากต่างประเทศมาถึงประเทศไทยก่อนกำหนด หรือ ก.พ. ได้ขอถอนการผ่อนผัน การผ่อนผันเป็นอันยุติ" กรณีนี้เจ้าตัวจะต้องแจ้งด้วยตนเองต่อนายอำเภอภูมิลำเนาทหารและถ้าอายุยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์จะต้อง
เข้ารับการตรวจเลือกด้วย
๑.๔.๒ ถ้าเป็นทุนส่วนตัว ต้องให้บิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครอง ยื่นคำร้องขอผ่อนผันต่อนายอำเภอภูมิลำเนาทหาร (อำเภอที่ได้ลงบัญชีทหาร
กองเกินไว้แล้ว) พร้อมด้วยหลักฐานดังนี้
๑.๔.๒.๑ หนังสือรับรองของสำนักศึกษา(ระบุว่าไปศึกษาวิชาอะไร หลักสูตรกี่ปีให้แปลเป็นภาษาไทยกำกับ ลงชื่อ ตำแหน่งผู้แปลด้วย)
๑.๔.๒.๒ หนังสือรับรองของสถานทูต หรือ สถานกงสุล หรือผู้ดูแลนักเรียนไทยในประเทศนั้น ๆ
๑.๔.๒.๓ สำเนาใบสำคัญ (แบบ สด.๙)
๑.๔.๒.๔ หมายเรียก ฯ (แบบ สด.๓๕) ถ้ามี
๑.๔.๒.๕ สำเนาทะเบียนบ้าน
เมื่อทางอำเภอสอบสวนและพิจารณาแล้วเห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการผ่อนผัน ก็จะดำเนินการให้โดยส่งหลักฐานไปยังจังหวัดเมือผู้ว่า
ราชการจังหวัดพิจารณาแล้ว เห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ ก็จะออกหนังสือผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.๔๑) ให้ไว้เป็นหลักฐานโดย
มีเงื่อนไขว่า "ถ้าต้องออกจากการศึกษา กลับจากต่างประเทศ มาถึงประเทศไทยก่อนกำหนด การผ่อนผันเป็นอันยุติ"กรณีนี้เจ้าตัวจะต้องแจ้งด้วยตนเองต่อ
นายอำเภอภูมิลำเนาทหารและถ้าอายุยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์ จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกด้วย


*****************************************************************************

ตอนนี้ผมไม่รู้มาร์คใช้ข้อไหน 1.4.1 หรือ 1.4.2 ??? ..... แต่ว่าไม่ว่าข้อไหน
ตามหลักมันต้องมีรายการเอกสาร *ตามจุดที่ขีดเส้นใต้+ตัว นส.สีแดง) มาแสดงให้พวกผมดูได้ ว่าไม่ได้หนีทหารจริง !!! :unsure:

เท่าที่ผมเห็นแล้วตอนนี้ มี
-สด.20 ... ซึ่งก็ไม่ตรงตามที่ พรบ.ตามข้างต้นใช้บังคับ ผมจึงไม่นับเพราะอาจเป็นเอกสารเท็จได้
-หนังสือรับรองจากสัสดี วันที่ 31 ก.ค. 2530 ว่ามาร์คได้ผ่อนผันตามมาตรา 29(3) ซึ่งขัดกับที่มาร์คขอผ่อนผันตามมาตรา 27(2) ... ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับที่ พรบ.ตามข้างต้นใช้บังคับ ผมจึงไม่นับเพราะอาจเป็นเอกสารเท็จได้ และก็น่าจะเท็จไปแล้วด้วย ออกทีหลัง 7เมษา 2530ด้วย แถมอ้าง ม.29
-ส่วน สด9 ก็ok ครับ เห็นแล้วว่ามีจริง แถมมี 2ใบ เอิ๊กๆๆ :D
-ส่วนเอกสารอันอื่น สื่ออาจนำเสนอไปแล้วผมอาจตกข่าวเอง


จาก คคห. เก่าของผม คุณ Bird รบกวนชี้แจงหน่อย ไม่ทราบว่าผมจะหาดู เอกสาร *ตามจุดที่ขีดเส้นใต้+ตัว นส.สีแดง ได้ที่ไหนครับ

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#322 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:43

ถามแบบกำปั้นทุบดินแบบนี้...ก็ต้องบอกแบบกำปั่นทุบดินว่า

เอกสารเหล่านี้เป็นเอกสารที่ทางหน่วยงานราชการออกให้ ซึ่งควรจะต้องมีต้นฉบับหรือต้นขั้ว
ก็ไปตามหาจากหน่วยงานที่เป็นผู้ออกเอกสารซิค่ะ

และกรุณาอย่าถามกลับมาว่า...ทำไมคุณอภิสิทธิ์ถึงไม่นำมาโชว์ หรือเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ก็จะขอตอบว่า...ใครจะสามารถคาดการณ์ได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต จากเด็กหนุ่น
ดีกรีนักเรียนนอก คนหนึ่ง ชะตาชีวิตจะส่งให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี..
หากทราบล่วงหน้า..เป็นใครก็ต้องเก็บหลักฐานไว้เป็นแน่..

ระเบียบการเก็บเอกสารหากเกิน 10 ปี ก็มีสิทธิ์ที่จะทำลายทิ้ง..หรือไม่ก็ถ่ายเป็นไมโครฟิล์ม
เก็บไว้..ก็แล้วแต่ความถนัดและระเบียบของแต่ละหน่วยงาน

ต้นขั้ว ส.ด. ต่าง ๆ คุณก็ไปถามหาจากต้นสังกัดดู..ถ้าเค้าอยากให้ดูน่ะ...

#323 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:24

ถามแบบกำปั้นทุบดินแบบนี้...ก็ต้องบอกแบบกำปั่นทุบดินว่า

เอกสารเหล่านี้เป็นเอกสารที่ทางหน่วยงานราชการออกให้ ซึ่งควรจะต้องมีต้นฉบับหรือต้นขั้ว
ก็ไปตามหาจากหน่วยงานที่เป็นผู้ออกเอกสารซิค่ะ

และกรุณาอย่าถามกลับมาว่า...ทำไมคุณอภิสิทธิ์ถึงไม่นำมาโชว์ หรือเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ก็จะขอตอบว่า...ใครจะสามารถคาดการณ์ได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต จากเด็กหนุ่น
ดีกรีนักเรียนนอก คนหนึ่ง ชะตาชีวิตจะส่งให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี..
หากทราบล่วงหน้า..เป็นใครก็ต้องเก็บหลักฐานไว้เป็นแน่..

ระเบียบการเก็บเอกสารหากเกิน 10 ปี ก็มีสิทธิ์ที่จะทำลายทิ้ง..หรือไม่ก็ถ่ายเป็นไมโครฟิล์ม
เก็บไว้..ก็แล้วแต่ความถนัดและระเบียบของแต่ละหน่วยงาน

ต้นขั้ว ส.ด. ต่าง ๆ คุณก็ไปถามหาจากต้นสังกัดดู..ถ้าเค้าอยากให้ดูน่ะ...


แล้วตอนทื่ สบ.ทบ เรียกขอเอกสารผ่อนผันตามหนังสือที่ลงวันที่ 19 มีนาคม 2530 ทำไมไม่มีให้เขาดูล่ะ
และ สด.41 นี่ผมว่าเจ้าตัวเป็นผู้เก็บไว้นะครับ

เพราะตามคำสั่งทบ.ที่ 1173/2528 ลง 25 ธ.ค.28 ตอนที่ 4 (การยกเว้นผ่อนผันฯ) ระบุชัดเจนว่าเมื่อสำนักงาน ก.พ. ขอผ่อนผันต่อผู้ว่าฯแล้ว ผู้ว่าฯจะออกหนังสือผ่อนผัน สด.41 (มอบให้เจ้าตัวเก็บไว้)

แล้วสัสดีจังหวัดและสัสดีอำเภอจะต้องบันทึกใน สด.27 และสด.1 ว่าเป็นคนผ่อนผันด้วยเหตุใด เรื่องใด ฉบับที่เท่าใด พ.ศ.ใด แล้วจึงขีดฆ่าชื่อด้วยหมึกแดงในแบบ สด.16 และบันทึกจำหน่ายว่าเป็นคนผ่อนผัน

พร้อมกับการบันทึกชื่อในส.ด.20 (สำหรับทางอำเภอจะได้รับใบ สด.19 สั่งให้ทำบัญชียกเว้นหรือผ่อนผันเช่นเดียวกัน) ดังนั้นแบบบัญชีต่างๆ ต้องเชื่อมโยงกัน

เอกสาร สด.1 ฉบับจริงของนายอภิสิทธิ์ไม่ปรากฏบันทึกว่าเป็นคนผ่อนผัน และเอกสาร สด.16 ฉบับจริง มีชื่อนายอภิสิทธิ์ในบัญชีคนพ้นฐานะยกเว้นผ่อนผัน และบันทึกว่า ′ไม่ไปเข้ารับการตรวจเลือก′ ในปี 2530-2536

ดังนั้นไม่มีเหตุหรือหลักฐานเชื่อมโยงใดๆ ที่เชื่อได้ว่า นายอภิสิทธิ์มีรายชื่อในแบบ สด.20 ตามที่กล่าวอ้าง และสำเนาเอกสารดังกล่าวไม่ได้รับการรับรองจากเจ้าพนักงานผู้ใด อีกทั้งมิใช่เอกสารที่มอบให้เจ้าตัวเก็บ ไว้ด้วย

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#324 esamso

esamso

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 413 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:32

มาร์คมีเรื่องเดียวให้เล่นเหรอ รอศาลตัดสินก่อนมั้ย รึว่าไม่เชื่อใครแล้วในโลกนี้นอกจาก เสื้อแดง

#325 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:44

เอามาให้อ่านเล่นๆ



ขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ประจำปีการศึกษา 2554

Posted Image กรกฎาคม 31st, 2011 Posted Image admin


ขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ประจำปีการศึกษา 2554

(เกณฑ์ทหารเดือน เมษายน 2555)


นักศึกษาชายที่เกิดปี พ.ศ. 2534 (หรือ พ.ศ.2533 ที่ยังตกค้างไม่ทำเรื่องผ่อนผันทหาร) ที่กำลังศึกษาอยู่ ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ไม่ได้เรียนวิชาทหาร โดยจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร ในปีการศึกษา 2554 (เกณฑ์ทหารในเดือนเมษายน พ.ศ.2555 ) นักศึกษาจะต้องดำเนินการยื่นคำร้องขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารกับสถาบัน โดยนักศึกษาต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียก (สด.35) ที่สัสดีอำเภอ หรือสำนักงานเขต ของตนตามภูมิลำเนาทหารที่ขึ้นทะเบียนทหารไว้

ใช้หลักฐานเพื่อยื่นเรื่องผ่อนผันทหาร ดังนี้
1) เขียนคำร้องขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ปี 2554 (โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.kmitl.ac.th/kongkit)
2) สำเนาหมายเรียก (สด.35) จำนวน 3 ฉบับ
3) สำเนาหนังสือสด.9 (ต้องถ่ายสำเนาด้านหน้า-ด้านหลัง) จำนวน 3 ฉบับ
4) สำเนาทะเบียนบ้านมีเลขที่บ้าน และชื่อนักศึกษา จำนวน 3 ฉบับ
5) สำเนาบัตรประจำตัวนักศึกษา หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 3 ฉบับ
6) หนังสือรับรองสถานภาพนักศึกษา ใช้ฉบับจริง และถ่ายสำเนา จำนวน 2 ฉบับ

(ดูรายละเอียดการขอหนังสือรับรองด้านล่าง)


หลักฐานที่ต้องใช้ขอหนังสือรับรองสถานภาพนักศึกษา (ข้อ6)

ขอหนังสือรับรองสถานภาพนักศึกษา ได้ที่ สำนักทะเบียนและประมวลผล ชั้น 2 สำนักงานอธิการบดี
1.เตรียมรูปถ่ายชุดนักศึกษาสถาบัน ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป
2.ชำระค่าธรรมเนียมการขอหนังสือรับรองเป็นเงิน 50 บาท
(กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ และระบุในคำร้องขอหนังสือรับรองว่า ขอใช้สำหรับผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ระยะเวลาหนังสือรับรอง 360 วัน )


ส่งหลักฐานได้ที่

งานบริการและสวัสดิการนักศึกษา ส่วนกิจการนักศึกษา ชั้น 4 สำนักงานอธิการบดี เวลา 08.30-16.30 น. เว้นวันหยุดราชการ

ตั้งแต่เดือน กันยายน 2554 ถึง วันที่ 29 ธันวาคม 2554 เท่านั้น หากพ้นกำหนด นักศึกษาอาจไม่ได้รับสิทธิการผ่อนผันทหาร


สิ่งที่ต้องปฏิบัติหลังยื่นเอกสารผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร

ประมาณปลาย เดือนมีนาคม 2555 ให้นักศึกษาตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์ผ่อนผันได้ที่สัสดีอำเภอ

/หรือสัสดีเขตตามภูมิลำเนาทหารของตน ว่ามีรายชื่อให้มีสิทธิ์ผ่อนผันฯ หรือไม่ แล้วปฏิบัติดังนี้

- ถ้าตรวจสอบแล้วมีรายชื่อได้รับอนุมัติผ่อนผันฯ ให้นักศึกษาไปรายงานตัวต่อคณะกรรมการ

ตรวจเลือกในวันตรวจเลือกตามหมายเรียก (สด.35)โดยนำบัตรประจำตัวนักศึกษาและหลักฐานที่สัสดี จังหวัดตอบรับ (รับที่ ส่วนกิจการนศ.)

***เอกสารจากสัสดี ครับไม่ใช่ผู้ว่าอย่างที่อ้าง ส่วนมากส่งไปที่ สถานศึกษา แต่สมัยผมไปผ่อนผันไม่มี เอาแค่เอกสารรับรองจากสถานศึกษาไป ไม่ใช่ สด 41

*** ตรงนี้สำคัญ

.ยื่นเอกสารกับสถาบันฯ ครั้งเดียว.แต่ต้องไปรายงานตัวทุกปี

ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีชื่อของตนผ่อนผันฯ ให้นักศึกษาติดต่อเจ้าหน้าที่ งานบริการและสวัสดิการนักศึกษา ด่วน

นักศึกษาที่ขอผ่อนผันฯ หากไม่ไปรายงานตัวต่อคณะกรรมการในวันตรวจเลือก ถือว่าหนีทหาร

โปรดทราบ คือ ถึงจะผ่อนผัน แต่ถ้าไม่ไปก็ถือว่าหนี

นักศึกษาที่ไม่มายื่นเอกสารภายในระยะเวลา ที่สถาบันกำหนด ถือว่าล่าช้า

อาจมีผลให้ไม่ได้รับการพิจารณาได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร และหากไปตรวจเลือกแล้วถูกให้เข้ากองประจำการ

จะต้องเข้ารับราชการทหารทันที กรณีนี้ไม่สามารถลาศึกษาต่อได้ ..



ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (การเกณฑ์ทหาร)

พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ.2497 และกฎกระทรวงออกตามความใน พ.ร.บ.ฯ พ.ศ.2498 ระชาชนชาวไทยโดยเฉพาะชายที่มีสัญชาติไทย ต้องเข้ารับราชการทหารด้วยกันทุกคน แต่มีจำนวนมากยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่การรับราชการทหารในขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การขึ้นทะเบียนทหาร การรับหมายเกณฑ์การเกณฑ์ทหารรวมไปถึงการขอยกเว้น และการขอผ่อนผันในการเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ซึ่งก่อให้เกิดความสับสนไม่เข้าใจวิธีปฏิบัติตามหน้าที่ที่ถูกต้อง หรือได้รับคำชี้นำในการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จนกระทั่งต้องถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก ในข้อหาหลีกเลี่ยงขัดขื่นไม่ไปลงบัญชีทหารกองเกิน (ขึ้นทะเบียนทหาร) ไม่ไปรับหมายเรียก (หมายเกณฑ์) , หรือไม่ไปเข้ารับการตรวจเลือก (เกณฑ์ทหาร) และ อื่น ๆ เป็นเหตุให้ต้องเสียทั้งเวลาและทรัพย์สินในการต่อสู้คดี ดังนั้น เพื่อให้ชาวไทย ซึ่งเป็นทั้งนักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้ทราบถึงหน้าที่และการปฏิบัติเกี่ยวกับการรับราชการทหารได้ถูกต้อง กองการสัสดี กรมเสมียนตรา จึงได้ทำคู่มือฉบับนี้ขึ้น เพื่อชี้แจงเน้นย้ำ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรับราชการทหารเพื่อจะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดไว้ได้อย่างถูกต้อง และมีจิตสำนึกที่ดี พร้อมที่จะอุทิศแรงกาย แรงใจ เสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อรับใช้ประเทศชาติด้วยความเต็มใจสมกับเป็นชายชาติทหารอย่างแท้จริง หวังว่าคู่มือสำหรับประชาชนเรื่องความรู้เกี่ยวกับ การรับราชการทหารฉบับนี้ คงเป็นประโยชน์
แก่ท่านตามสมควร
ทหารเป็นหน้าที่ของชายไทย ประเทศตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ปกครองประเทศเป็นต้นมา กำหนดให้ชายไทยทุกคนต้องรับราชการทหารและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรพุทธศักราช 2540 ฉบับที่ใช้ในปัจจุบันยังกำหนดไว้ในหมวดที่ 4 หน้าที่ของชายไทย มาตรา 69 ซึ่งมีความว่า ” บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ รับราชการทหารเสียภาษีอากร ช่วยเหลือราชการ รับการศึกษา อบรม …ฯลฯ.. ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ ” กฎหมายที่บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 7 บัญญัติว่า “ชายที่มีสัญชาติเป็นไทย” และการได้มีสัญญาติไทยเป็นไปตามพระราชบัญญัติสัญชาติไทยตามกฎหมาย มีหน้าที่รับราชการทหารด้วยตนเองทุกคน พ.ศ.2508
ดังนั้น หน้าที่ของชายไทยทุกคนต้องรับราชการทหาร พูดง่าย ๆ ว่า “ต้องไปเกณฑ์ทหาร” ซึ่งการรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร เป็นเรื่องที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพราะกองทัพไทยจะฝึกฝนผู้เข้ารับราชการหารให้มีระเบียบวินัยฝึกหัดวิชาชีพ เพิ่มพูนความรู้ในด้านต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์และมีคุณค่าอย่างมากแก่ทหารเกณฑ์ทุกคน ซึ่งปกติการเกณฑ์ทหารจะกระทำกันในช่วงเดือน เม.ย. ของทุกปี ปีละครั้ง และต้องเข้ารับราชการเป็นทหารเกณฑ์จำนวน 2 ปี แต่มีข้อยกเว้นและผ่อนผันสำหรับผู้ที่เรียนวิชารักษาดินแดน (ร.ด.) หรือผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับต่าง ๆ ซึ่งกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติรับราชการทหารและกฎกระทรวง ซึ่งจะกล่าวต่อไป

1. การยกเว้นการเกณฑ์ทหาร
ชายที่มีสัญชาติไทย เมื่อมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ในปีใด จะต้องไปเกณฑ์ทหารทุกคนแต่กฎหมายก็ยังเปิดโอกาสให้สิทธิแก่บุคคลบางประเภทได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเกณฑ์ทหารเช่นบุคคลทั่วไปทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2587 โดยมีรายละเอียดสรุปพอเป็นสังเขปดังนี้
1. ยกเว้นให้ทั้งในยามปกติและในยามสงคราม (มาตรา 13 ) ได้แก่
1.1 พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์หรือที่เป็นเปรียญ และนักบวชในพระพุทธศาสนาแห่งนิกายจีนหรือญวนที่มีสมณศักดิ์ (ถ้าได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้แล้วให้จำหน่ายออกจากบัญชีทหาร) แต่ถ้าลาสิกขาให้แจ้งด้วยตนเองต่อนายอำเภอท้องที่ที่ตนอยู่ หรือทำการประจำภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ลาสิกขา หากแจ้งเกินกำหนดนี้จะถูกดำเนินคดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและถ้าอายุยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์ ก็ต้องไปเข้ารับการตรวจเลือกด้วย
1.2 คนพิการทุพพลภาพ ซึ่งไม่สามารถเป็นทหารได้ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 74 (พ.ศ.2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2479 เช่น ต้อหิน หูหนวกทั้งสองข้างลิ้นหัวใจพิการ หืด เบาหวาน โรคจิต ใบ้ คนเผือก ฯลฯ บุคคลประเภทนี้ต้องไปรับหมายเรียก ฯ ตามกำหนดและเข้ารับการตรวจเลือกตามกฎหมายเรียก ฯ เมื่อคณะกรรมการตรวจเลือกเห็นว่ามีอาการโรคตามที่กำหนดในกฎหมายกระทรวงจริง จะปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ 2 และทางจังหวัดจะออกใบสำคัญให้ไว้เป็นหลักฐาน
1.3 บุคคลซึ่งไม่มีคุณวุฒิที่จะเป็นทหาร ได้เฉพาะบางท้องที่ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงฉบับที่ 45 (พ.ศ.2518) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 บุคคลประเภทนี้ ได้แก่ ชนชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ในบางพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่รู้หนังสือภาษาไทยอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีก็แตกต่างกันด้วยดังนั้น ทางราชการจึงไม่ประสงค์ที่จะให้บุคคลประเภทนี้เป็นทหาร เช่น ชนชาวกระเหรี่ยง บ้านแม่สอด หมู่ที่ 4 ตำบลคลองลาน อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ฯลฯ
2. ยกเว้นให้เฉพาะในยามปกติเท่านั้น (มาตรา 14 )ได้แก่
2.1 พระภิกษุ สามเณร และนักบวชในพระพุทธศาสนาแห่งนิกายจีนหรือญวน ซึ่งเป็นนักธรรมตามที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง (ให้นำหลักฐานการสำเร็จนักธรรม ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สัสดีอำเภอหรือคณะกรรมการตรวจเลือกเพื่อดำเนินการยกเว้นให้ กรณีนี้ ควรจะทำก่อนวันตรวจเลือกเพื่อดำเนินการยกเว้นให้กรณีนี้ควรจะทำก่อนวันตรวจเลือกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปในตรวจเลือกจะเป็นการสะดวกกว่า) แต่ประจำอยู่ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลาสิกขา หากแจ้งเกินกำหนดนี้จะถูกดำเนินคดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินสองร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าอายุไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์ ก็ต้องไปเข้ารับการตรวจเลือกด้วย
2.2 นักบวชศาสนาอื่นซึ่งมีหน้าที่ประจำในกิจของศาสนาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และผู้ว่าราชการจังหวัดออกใบสำคัญให้ไว้ (กรณีนี้ให้ไปติดต่อขอยกเว้นต่อนายอำเภอท้องที่ ซึ่งสุเหร่า อาราม หรือสำนักตั้งอยู่เพื่อตรวจสอบหลักฐาน เมื่อเห็นว่าถูกต้องจะดำเนินการยกเว้นให้แต่เมื่อพ้นจากฐานะประจำในกิจของศาสนาให้แจ้งด้วยตนเองต่อนายอำเภอท้องที่ที่ตนอยู่หรือทำการอยู่ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่พ้นจากฐานะ เช่นนั้นหากแจ้งเกินกำหนดจะถูกดำเนินคดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินสองร้อยบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าอายุยังไม่ถึง 30 ปี บริบูรณ์ ก็ต้องไปเข้ารับการตรวจเลือกด้วย
2.3 บุคคลซึ่งอยู่ในระหว่างการฝึกวิชาทหารตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร (นศท.) และนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหารของกระทรวงกลาโหม(กรณีนี้เจ้าตัวต้องประสานกับสถาบันการศึกษา เพื่อดำเนินการของยกเว้น)
2.4 ครูซึ่งประจำทำการสอนหนังสือหรือวิชาการต่าง ๆ ที่อยู่ในความควบคุมของกระทรวง ทบวง กรม หรือราชการส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ตามที่กำหนดในกฎหมายกระทรวง และผู้ว่าราชการจังหวัดออกใบสำคัญให้ไว้ (เจ้าตัวจะต้องประสานกับส่วนราชการต้นสังกัด เพื่อดำเนินการขอยกเว้นให้)
2.5 นักศึกษาของศูนย์ฝึกการบินพลเรือนของกระทรวงคมนาคม (เจ้าตัวจะต้องประสานกับศูนย์ฝึก ฯ เพื่อดำเนินการขอยกเว้นให้)
2.6 บุคคลซึ่งได้สัญชาติไทยโดยการแปลงชาติ และบุคคลซึ่งได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกหลายครั้งรวมกันตั้งแต่สิบปีขึ้นไป หรือเคยถูกศาลพิพากษาให้กักกัน (กรณีนี้ให้นำหลักฐานการแปลงสัญชาติหรือหลักฐานการต้องโทษไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สัสดีอำเภอ เพื่อดำเนินการขอยกเว้นให้)

อธิบายศัพท์
- คนผ่อนผัน คือ ทหารกองเกินที่อยู่ระหว่างการศึกษาในมหาวิทยาลัย วิทยาลัย หรือโรงเรียนอาชีวะ และโรงเรียนประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ ตามที่กำหนดในกฎหมาย ซึ่งสถานศึกษาได้ส่งรายชื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นภูมิลำเนาทหารแล้ว
- คนหลีกเลี่ยงขัดขืน คือ ทหารกองเกินที่รับหมายเรียกของนายอำเภอแล้วไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือก ซึ่งได้ตัวมาดำเนินคดี และศาลได้พิพากษาให้ลงโทษ
- คนที่ขาดการตรวจเลือก คือ ทหารกองเกินที่รับหมายเรียกของนายอำเภอ และไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือก แต่ยังไม่ได้ตัวมาดำเนินคดี หรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดี
- คนยกเว้น คือ ทหารกองเกินที่ได้รับการยกเว้นไม่เรียกมาตรวจเลือกในยามปกติ เช่น พระภิกษุนักธรรม ผู้ที่อยู่ระหว่างการฝึกวิชาการทหาร ฯลฯ
- คนจำพวกที่ 1 ได้แก่ ทหารกองเกินซึ่งมีรายการสมบูรณ์ดี
- คนจำพวกที่ 2ได้แก่ คนซึ่งมีร่างกายที่เห็นได้ชัดว่าไม่สมบูรณ์ดีเหมือนคนจำพวกที่ 1 แต่ไม่ถึงกับทุพพลภาพ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 47 (พ.ศ.2518) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหารพ.ศ.2497
- คนจำพวกที่ 3 ได้แก่ คนซึ่งมีร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการทหารในขณะนั้นได้ เพราะป่วยซึ่งจะบำบัดให้หายภายในกำหนด 30 วันไม่ได้
- คนจำพวกที่ 4 ได้แก่ คนพิการทุพพลภาพ หรือมีโรคซึ่งไม่สามารถจะรับราชการได้ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 74 (พ.ศ.2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497
- ขนาดรอบตัว คือ ความกว้างของรอบอกซึ่งมีวิธีวัดโดยให้คล้องแถบเมตรรอบตัวในลักษณะกางแขนหรือยกแขนทั้งสองข้างขึ้นให้ริมล่างของแถมเมตรได้ระดับราวนมโดยรอบ และเมื่อได้ลดแขนลงในลักษณะท่าตรงแล้วให้วัดเมื่อหายใจออกเต็มที่หนึ่งครั้ง และหายใจเข้าเต็มที่หนึ่งครั้ง
- ขนาดถัดรอง คือ ผู้ที่มีขนาดสูงตั้งแต่ 1 เมตร 59 เซนติเมตร ลงมาถึง 1 เมตร 46 เซนติเมตรและมีขนาดรอบตัวตั้งแต่ 76 เซนติเมตรขึ้นไป ในเวลาหายใจออก
- คนไม่ได้ขนาด คือ ผู้ที่มีขนาดสูงไม่ถึง 1 เมตร 46 เซนติเมตร หรือมีขนาดรอบตัวไม่ถึง 76 เซนติเมตร

แต่กรณีของพี่มาร์ค ต้องมาดูตรงนี้

2. การผ่อนผันการเกณฑ์ทหารนอกจากทางราชการจะยกเว้นให้แก่บุคคลบางประเภทไม่ต้องไปเข้ารับราชการเกณฑ์ทหารแล้ว ยังผ่อนผันให้แก่บุคคลบางประเภทเช่นกัน มีรายละเอียดดังนี

1. ผ่อนผันให้แก่บุคคลบางประเภทไม่ต้องไปตรวจเลือกเป็นการผ่อนผันให้เฉพาะคราว (มาตรา 27)ได้แก่
1.1 ข้าราชการซึ่งได้รับคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยปัจจุบันทันด่วนให้ไปราชการอันสำคัญยิ่ง หรือไปราชการต่างประเทศโดยคำสั่งของเจ้ากระทรวง
1.2 ข้าราชการหรือผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ราชการหรือโรงงานอื่นใด ในระหว่างที่มีการรบหรือการสงคราม อันเป็นอุปกรณ์ในการรบหรือการสงครามและอยู่ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม
1.3 บุคคลซึ่งกำลังปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยทหารในราชการสนาม
กรณีตามข้อ 1.1, 1.2, และ 1.3 เจ้าตัวที่ถูกเรียกจะต้องนำหมายเรียก ฯ รายงานส่วนราชการต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อส่งรายชื่อพร้อมหลักฐานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูมิลำเนาทหาร ซึ่งจะได้สั่งผ่อนผันให้ตามระเบียบ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบอำนาจในการผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติราชการแทน)
1.4 นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ
1.4.1 ถ้าเป็นทุนของกระทรวง ทบวง กรม หรือ ส่วนราชการใด โดยอยู่ในความประพฤติของผู้ดูแลนักเรียนไทย ของรัฐบาลไทยสำหรับประเทศนั้น ๆ สำนักงาน ก.พ.จะเป็นผู้ดำเนินการผ่อนผันต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูมิลำเนาทหารให้ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะออกหนังสือผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร(แบบ สด.41) ให้ไว้เป็นหลักฐานโดยมีเงื่อนไขว่า “ถ้าต้องออกจากการศึกษากลับจากต่างประเทศมาถึงประเทศไทยก่อนกำหนด หรือ ก.พ. ได้ขอถอนการผ่อนผัน การผ่อนผันเป็นอันยุติ” กรณีนี้เจ้าตัวจะต้องแจ้งด้วยตนเองต่อนายอำเภอภูมิลำเนาทหารและถ้าอายุยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกด้วย
1.4.2 ถ้าเป็นทุนส่วนตัว ต้องให้บิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครอง ยื่นคำร้องขอผ่อนผันต่อนายอำเภอภูมิลำเนาทหาร (อำเภอที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้แล้ว) พร้อมด้วยหลักฐาน ดังนี้
1.4.2.1 หนังสือรับรองของสำนักศึกษา(ระบุว่าไปศึกษาวิชาอะไร หลักสูตรกี่ปีให้แปลเป็นภาษาไทยกำกับ ลงชื่อ ตำแหน่งผู้แปลด้วย)
1.4.2.2 หนังสือรับรองของสถานทูต หรือ สถานกงสุล หรือผู้ดูแลนักเรียนไทยในประเทศนั้น ๆ
1.4.2.3 สำเนาใบสำคัญ (แบบ สด.9)
1.4.2.4 หมายเรียก ฯ (แบบ สด.35) ถ้ามี
1.4.2.5 สำเนาทะเบียนบ้านเมื่อทางอำเภอสอบสวนและพิจารณาแล้วเห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการผ่อนผันก็จะดำเนินการให้โดยส่งหลักฐานไปยังจังหวัด เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาแล้ว เห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ก็จะออกหนังสือผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.41) ให้ไว้เป็นหลักฐานโดยมีเงื่อนไขว่า”ถ้าต้องออกจากการศึกษา กลับจากต่างประเทศ มาถึงประเทศไทยก่อนกำหนด การผ่อนผันเป็นอันยุติ” กรณีนี้เจ้าตัวจะต้องแจ้งด้วยตนเองต่อนายอำเภอภูมิลำเนาทหารและถ้าอายุยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์ จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกด้วย
1.5 เกิดเหตุสุดวิสัย กรณีนี้ ไม่มีการผ่อนผันล่วงหน้าแต่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยแม้จะได้ระมัดระวังแล้วก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ทหารกองเกินเดินทางไปเข้ารับการตรวจเลือก ประสพอุบัติเหตุรถคว่ำหรือเรือล่มระหว่างเดินทาง จนไปเข้ารับการตรวจเลือกไม่ได้อย่างนี้ ก็ไม่ถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืน แต่การที่จะทราบว่าเป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่นั้นจะทราบได้ต่อเมื่อทางอำเภอได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
1.6 ไปเข้าตรวจเลือกที่อื่น ซึ่งต้องเข้าหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ คือ อายุ 22-29 ปีบริบูรณ์ ถ้าได้รับหมายเรียกและไม่สามารถจะไปตามหมายนั้นได้เพราะไม่มีค่าพาหนะหรือจะไปไม่ทันเมื่อนายอำเภอนั้นสอบสวนได้ความจริงก็จะรับเข้าตรวจเลือกตามระเบียบ
1.7 ป่วยไม่สามารถเข้ารับการตรวจเลือกได้ โดยให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะ และเชื่อถือได้มาแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือก กรณีนี้ต้องนำใบรับรองแพทย์ไปแสดงด้วย และเมื่อเสร็จการตรวจเลือกแล้ว ทางอำเภอจะเรียกตัวผู้ไปแจ้งสอบสวน และสอบสวนตัวผู้ป่วยด้วย หากป่วยจริงก็ไม่ถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืน ทางอำเภอจะมอบหมายเรียกให้มาเข้ารับการตรวจเลือกในปีถัดไป
2. ผ่อนผันให้แก่บุคคลบางประเภทในกรณีที่มีคนพอ (มาตรา 29) ได้แก่
2.1 บุคคลที่จำเป็นต้องหาเลี้ยงบิดาหรือมารดาซึ่งไร้ความสามารถ หรือพิการทุพพลภาพ หรือชราจนหาเลี้ยงชีพไม่ได้และไม่มีผู้อื่นเลี้ยงดู แต่ถ้ามีบุตรหลายคนจะต้องเข้ากองประจำการพร้อมกันคงผ่อนผันให้คนเดียวตามแต่บิดาหรือมารดาจะเลือก ถ้าบิดาหรือมารดาไม่สามารถจะเลือกได้ก็ให้คณะกรรมากรตรวจเลือกพิจารณาผ่อนผันให้หนึ่งคน
2.2 บุคคลที่จำเป็นต้องหาเลี้ยงบุตรซึ่งมารดาตาย หรือไร้ความสามารถ หรือพิการทุพพลภาพและบุคคลที่จำเป็นต้องหาเลี้ยงพี่หรือน้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดาหรือมารดาซึ่งบิดามารดาตาย ทั้งนี้เมื่อบุตรหรือพี่น้องนั้นหาเลี้ยงชีพไม่ได้ และไม่มีผู้อื่นเลี่ยงดู การผ่อนผันตามข้อ 2.1 และ 2.2 จะต้องร้องขอผ่อนผันต่อนายอำเภอท้องที่ก่อนวันตรวจเลือกทหารไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อนายอำเภอจะได้สอบสวนหลักฐานไว้ก่อนวันตรวจเลือก และต้องร้องขอต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อคณะกรรมการตรวจเลือกจะได้พิจารณา หากเห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ก็จะผ่อนผันให้ กรณีนี้เป็นการผ่อนผันเป็นปี ๆ ไป หากปีต่อไปยังมีความจำเป็นอยู่เช่นเดิม ก็ต้องขอผ่อนผันใหม่และปฏิบัติเช่นเดียวกับปีก่อน ๆ ถ้าไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ผ่อนผันเมื่อใด และอายุยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์ก็ต้องเข้ารับการตรวจเลือก
2.3 บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษา ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงฉบับที่ 73 (พ.ศ.2536) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497
2.3.1 นิสิตหรือนักศึกษามหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ผ่อนผันให้เฉพาะผู้ซึ่งระหว่างการศึกษาที่ไม่สูงกว่าชั้นปริญญาโท และผ่อนผันให้จนถึงอายุครบ 26 ปีบริบูรณ์ เว้น แต่นิสิตหรือนักศึกษาวิชาแพทย์ศาสตร์ ผ่อนผันให้ในระหว่างที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลหรือสถาบันทางแพทย์เพื่อขึ้นทะเบียน และรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรมอีกปีหนึ่ง สำหรับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผ่อนผันให้เฉพาะผู้ซึ่งมีผลการศึกษาสอบไล่ได้ภาคละไม่น้อยกว่า 9 หน่วยกิต ทุกภาคติดต่อกันเว้นแต่ภาคใดขาดสอบเพราะเหตุสุดวิสัยซึ่งมหาวิทยาลัยรับรอง
2.3.2 นักศึกษามหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ผ่อนผันให้เฉพาะ ผู้ซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อรับประกาศนียบัตรหรือปริญญาที่ไม่สูงกว่าชั้นปริญญาโท และผ่อนผันให้จนถึงอายุครบ26 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่นักศึกษาวิชาแพทย์ศาสตร์ ผ่อนผันให้ในระหว่างที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล หรือสถาบันทางแพทย์เพื่อขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรมอีกปีหนึ่ง
2.3.3 นักเรียนหรือนักศึกษาโรงเรียนอาชีพหรือวิทยาลัย สังกัดหรืออยู่ในความควบคุมของกระทรวง ทบวง หรือองค์การของรัฐ ผ่อนผันให้เฉพาะผู้ซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อรับประกาศนียบัตร หรือปริญญาตรี หรือวิทยฐานะซึ่งทางราชการรับรองว่าเทียบเท่าได้ไม่สูงกว่าชั้นปริญญาตรี และผ่อนผันให้จนถึงอายุครบ 26 ปีบริบูรณ์
2.3.4 นักเรียนโรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ผ่อนผันให้ไม่เกินอายุ 22 ปีบริบูรณ์ วิธีปฏิบัติในการผ่อนผันนักเรียน นิสิต นักศึกษา จะต้องนำหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร(แบบ สด.35) ไปแสดงต่อสถานศึกษาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของสถานศึกษาดำเนินการขอผ่อนผันให้ ดังนี้
ก. กรณีเป็นโรงเรียน ให้แจ้งต่อกรมหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และมีฐานะเทียบเท่ากรม ซึ่งโรงเรียนนั้นอยู่ในสังกัดหรืออยู่ในความควบคุมแล้วแต่กรณี เพื่อขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่ผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ(ปีที่มีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์)
ข. กรณีเป็นมหาวิทยาลัย สถาบัน หรือวิทยาลัยของรัฐ ให้ขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ (ปีที่มีอายุครบ 21 ปีปริบูรณ์)
ค. สำหรับ มหาวิทยาลัย สถาบัน หรือวิทยาลัย ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ให้แจ้งต่อทบวงมหาวิทยาลัย เพื่อขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ

แล้วมาดูตรงนี้นิดหนึ่ง

ข้อควรจำ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ซึ่งมีสิทธิได้รับการผ่อนผัน ตลอดเวลาที่อยู่ในระหว่างการศึกษาจะต้องไปแสดงตนต่อคณะกรรมการตรวจเลือก ในวันตรวจเลือกทุกปีตามที่กำหนดไว้ในหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร(แบบ สด.35) เมื่อไปแสดงตนจะได้รับใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.43) ในฐานะคนผ่อนผันไว้เป็นหลักฐาน หากไม่ไปแสดงตนต่อคณะกรรมการตรวจเลือกจะมีความผิดตามกฎหมาย และเมื่อสำเร็จการศึกษาหรืออายุครบ 26 ปีบริบูรณ์แล้ว ถือว่าหมดเหตุผ่อนผันให้แจ้งด้วยตนเองต่อนายอำเภอหรือท้องที่ที่ตนอยู่ หรือทำการประจำภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สำเร็จการศึกษาหรือมีอายุครบ 26 ปีบริบูรณ์แล้ว เพื่อที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร(เกณฑ์ทหาร) ต่อไป อย่างไรก็ดี หลังจากทำเรื่องขอผ่อนผันแล้วเพื่อความมรอบคอบประมาณเดือนมีนาคมของปีที่ตรวจเลือก ให้ไปสอบถามสัสดีจังหวัดภูมิลำเนาทหารด้วยตัวเอง หรือให้ผู้ปกครองไปสอบถามแทนก็ได้ว่าเรื่องขอผ่อนผันได้ดำเนินการแล้วหรือยัง หากยังจะได้ดำเนินการแก้ไขได้ทันเวลา ทั้งนี้เพื่อป้องกันการผิดพลาดทางธุรการจนเป็นเหตุให้เสียสิทธิต้องเข้ารับการตรวจเลือกจะอาจถูกเข้ากองประจำการได้
3. การผ่อนผันให้แก่ผู้ที่ถูกเป็นทหารเพื่อลาศึกษา นักเรียน นิสิตนักศึกษาที่ไม่ได้รับการผ่อนผันเมื่อไปตรวจเลือกทหารและถูกเข้ากองประจำการ จะมีสิทธิได้รับการผ่อนผันให้ลาศึกษาต่อได้เฉพาะหลักสูตรสาขาวิชาและในสถานศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่เท่านั้น ถ้าสำเร็จการศึกษาหรือต้องออกจากสถานศึกษานั้น ๆ หรือมีอายุครบ 26 ปีบริบูรณ์แล้ว ก็ให้กลับเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการตามสังกัดและจะต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ดังนี้ คือ
3.1 เป็นผู้ที่สอบคัดเลือกเข้าศึกษาในสถานศึกษาแห่งใหม่แต่อยู่ในระหว่างรอฟังผลสอบ
3.2 เป็นผู้ที่ไม่ได้ขอผ่อนผันการตรวจเลือกตามกฎหมายเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยเพราะประสพอุบัติเหตุหรือป่วยซึ่ง
3.3 กรณีที่ไม่ใช่ความผิดของนักศึกษาและเป็นเหตุให้นักศึกษาไม่ได้รับสิทธิผ่อนผัน เช่น เจ้าหน้าที่ของสถานศึกษาส่งรายชื่อเพื่อขอผ่อนผันผิดพลาดหรือตกหล่น , หรือเอกสารหายระหว่างส่งไปยังจังหวัดภูมิลำเนาทหาร, หรือส่งภายหลังการตรวจเลือกเสร็จสิ้นแล้วแต่ถ้านักเรียน นิสิต นักศึกษาผู้ใดซึ่งได้รับการผ่อนผันอยู่แล้วไปยื่นคำร้องขอสละสิทธิการผ่อนผันเพื่อเข้ารับการตรวจเลือก กรณีนี้ถ้าถูกเข้ากองประจำการไม่มีสิทธิผ่อนผันให้ลาศึกษาต่อเพราะเป็นความสมัครใจของเจ้าตัวเอง การยื่นเรื่องขอผ่อนผัน กรณี ก่อนรายงานตัวเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ตามกำหนดในหมายนัดของนายอำเภอ ให้สถานศึกษาเป็นผู้ดำเนินการ โดยผ่านกรมและกระทรวงเจ้าสังกัดแล้วให้กระทรวงเจ้าสังกัดแจ้งต่อกระทรวงกลาโหม แต่ถ้าเข้ากองประจำการแล้วให้ยื่นเรื่องขอลาศึกษาต่อจากต้นสังกัด(หน่วยทหาร) เสนอตามสายการบังคับบัญชาจนถึงกระทรวงกลาโหม ส่วนการจะอนุมัติหรือไม่อนุมัตินั้นเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถ้าอนุมัติให้ลาศึกษาต่อหน่วยทหารต้นสังกัดจะออกบัตรอนุญาตลาแบบ 2 ให้ไว้เป็นหลักฐาน
4. การผ่อนผันการให้แก่แพทย์ที่ถูกเป็นทหารเข้ารับราชการทหารกองประจำการ จะผ่อนผันให้แก่แพทย์ซึ่งเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันชั้น 1 สาขาเวชกรรมซึ่งจบการศึกษาแล้ว และต้องรับราชการชดใช้ทุนให้แก่ทางราชการ เมื่อถูกเข้ากองประจำการจะผ่อนผันให้รับราชการในกองประจำการน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยให้ลาพักรอการปลด เพื่อไปรับราชการชดใช้ทุนตามสัญญา ดังนี้
4.1 ผู้ที่สำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ 1 หรือ ชั้นปีที่ 2 จากกรมการรักษาดินแดน เมื่อขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วให้ลาพักรอการปลดเพื่อไปรับราชการชดใช้ทุนแก่ทางราชการตามส่วนราชการต้นสังกัด โดยขออนุมัติต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ถ้ายังไม่ได้รับการฝึกวิชาทหาร ให้ทำการฝึกวิชาทหารตามระเบียบเป็นเวลา 8 สัปดาห์ก่อน
4.2 ให้กระทรวงหรือทบวงต้นสังกัดที่แพทย์ผู้นั้นรับราชการอยู่ จัดทำบัญชีรายชื่อเฉพาะแพทย์ที่จบการศึกษาแล้ว และจะต้องรับราชการชดใช้ทุนแก่ทางราชการต่อกระทรวงกลาโหมเป็นปี ๆ ก่อนวันตรวจเลือกไม่น้อยกว่า 30 วัน ถ้าผู้ใดถูกเข้าเป็นทหารกองประจำการก็ให้ส่งบัญชีรายชื่อต่อกระทรวงกลาโหมอีกครั้งหนึ่งเมื่อเสร็จการตรวจเลือกของผู้นั้นแล้ว เพื่อดำเนินการตามข้อ 4.1

อธิบายศัพท์
– ก่อนรายงานตัว คือ นักศึกษาที่จับสลากแล้วถูกเข้ากองประจำการแต่ยังไม่เข้ารายงานตัวต่อหน่วยต้นสังกัด เช่น จับสลากได้ผลัด 2 คือ ต้องเข้าหน่วยในวันที่ 1 พ.ย. แต่เจ้าตัวยังไม่ได้เข้าหน่วยในวันที่ 1 พ.ย.
- เข้ากองประจำการแล้ว คือ นักศึกษาที่จับสลากแล้วถูกเข้ากองประจำการ ได้เข้ารายงานตัวกับหน่วยแล้ว เช่น จับสลากได้ผลัด 2 คือ ต้องเข้าหน่วยใน 1 พ.ย. ซึ่งเจ้าตัวได้เข้าหน่วยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ไปแล้ว

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#326 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:50

และ ถ้าเกิดกรณี ไม่ได้ไปตรวจเลือก หากมารายงานตัวภายหลัง ก็แค่ไป ประจำการณ์ แบบไม่ต้องเกณฑ์ แค่นั้น


กรณี พี่มาร์ค ก็ไปเป็นทหารประจำการณ์มาแล้ว ยังไงก็ไม่ถือว่าหนีทหาร เพราะเป็นทหารกองประจำการณ์แล้ว เงินเดือนออกก็ไปเซ็นต์รับ ยังไงก็มีหลักฐานอยู่แล้ว
จะต้องกลัวอะไร


ขำตรรกควายแดงจริงๆ

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#327 kuuga

kuuga

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,008 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:59

สรุปให้สั้นๆ

แม้วหนีทหาร (19 ก.ย. 49)
สมชายหนีเมีย
ปูหนีสภามา feat. ที่ 4SS

มาร์คหนีทหารครับ แต่หนี(ตาม)ทหารเข้า ราบ 11 แถมทหารต้องเอาลวดหนามหีบเพลง ล้อม ราบ 11 ไว้ กันมาร์คหนีออกจาก ราบ 11

Edited by kuuga, 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:01.

กระบือ=ควาย มีค่า มนุษย์มีค่า = ควาย ไร้ค่า

#328 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:10

และ ถ้าเกิดกรณี ไม่ได้ไปตรวจเลือก หากมารายงานตัวภายหลัง ก็แค่ไป ประจำการณ์ แบบไม่ต้องเกณฑ์ แค่นั้น


กรณี พี่มาร์ค ก็ไปเป็นทหารประจำการณ์มาแล้ว ยังไงก็ไม่ถือว่าหนีทหาร เพราะเป็นทหารกองประจำการณ์แล้ว เงินเดือนออกก็ไปเซ็นต์รับ ยังไงก็มีหลักฐานอยู่แล้ว
จะต้องกลัวอะไร


ขำตรรกควายแดงจริงๆ


โชว์ความควายได้สะใจถึงใจจริงๆ พากันอับอายไปทั้งเสรีไทย

ไม่ไปแสดงตน 7เมษา ตามกฏหมายต้องรับโทษก่อน
-และยังมีเรื่องอื่นอีกว่า ผ่อนผันจริงหรือไม่
-การเข้าไปเป็นข้าราชการกลาโหมก่อนติดยศใช้เอกสารสมัครถูกต้องหรือไม่
-ใช้ สด9 เท็จในการขึ้นทะเบียนประจำการหรือไม่

Edited by Tam-mic-ra., 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:14.

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#329 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:07

ยังจะคุยเรื่อง สด. 9 เท็จอีก นังแต๋ม...

ตกลงเป็นตุ๊ด หรือ เป็นผู้หญิง ใช่ม่ะ ถึงคิดว่า สด. 9 มันยากถึงขนาดต้องทำเอกสารปลอมเนี่ย

ส่วนเรื่องเอกสารอื่น...เรื่องมัน 20 กว่าปีมาแล้ว...

ถ้าจะกล่าวหาว่าเค้าใช้เอกสารปลอม ต้องพิสูจน์ให้ได้ ว่า เป็นเอกสารปลอม

ไม่ใช่ไปบอกให้เค้าพิสูจน์ว่าเป็นเอกสารจริง..

ถ้าขึ้นศาลแล้ว แล้วใช้เหตุผลแบบนี้กล่าวหา...คงถูกตบปากหน้าบัลลังก์ไปแล้ว

ถึงเวลานี้ ถ้าใครมาทวงถามเอกสารการเกณฑ์ทหารกับผม บอกตามตรงครับ ผมมีแต่ขนหน้าแข้งที่ยังเก็บไว้อยู่ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้จริง ๆ ว่า

ขึ้นใหม่ หรือ ขึ้นตอนอายุ 21 ปี เพราะไม่ค่อยได้สนใจเนื่องมันเลยจุดที่จะเป็นปัญหาไปแล้ว


:lol:

#330 Ricebeanoil

Ricebeanoil

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,320 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:57

เรื่องนี้เป็นยังไงไม่รู้ ไม่ค่อยเข้าใจ
แต่ Blog สัสดี เค้าอธิบายมาแบบนี้อะ
***********************************************************************

ว่าด้วยเรื่อง การปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร ของ นายกอภิสิทธิ์ฯ



1.ลงบัญชีทหารกองเกิน ตาม มาตรา 18 เป็นทหารกองเกิน 4 ก.ค.29

- ได้รับ ใบสำคัญ (แบบ สด.9)

- ได้รับ หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร(แบบ สด.35) ซึ่งในหมายเรียกฯ กำหนดให้เข้ารับการตรวจเลือกฯ เป็นทหารกองประจำการ เม.ย.30 (เข้าใจว่าจะเป็น วันที่ 11 เม.ย.)

ข้อนี้ ข้ามการไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 16(กรลงบัญชีทหารกองเกิน เมื่ออายุ 17 ปี) จะมีความผิดตาม มาตรา 44 ไปได้เลย เพราะก่อนจะรับลงบัญชีทหารกองเกินตาม มาตรา 18 จะต้องได้ข้อยุติไปแล้ว

2. ขอผ่อนผัน ไปศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ ตาม มาตรา 27(2) มีกำหนด 3 ปี (ปี 30-ปี32) ตามหลักฐาน บัญชียกเว้นหรือผ่อนผัน (แบบ สด.20) ถึงแม้จะไม่สามารถค้นหาหลักฐาน หนังสือผ่อนผันการรับราชการทหาร(แบบ สด.41) พบแล้วก็ตาม แต่การที่บัญชียกเว้นหรือผ่อนผัน (แบบ สด.20) มีรายชื่อ นายกอภิสิทธิ์ฯ อยู่ ก็หมายความว่า นายกอภิสิทธิ์ ฯ ได้รับการอนุมัติให้ผ่อนผันแล้ว เพราะ การบันทึกรายชื่อลง สด.20 นั้นจะต้องได้รับอนุมัติการผ่อนผันจาก ผวจ.กรุงเทพฯ ก่อน สด.ก.ท. จึงจะคัดรายชื่อลง สด.20 และมีหนังสือสั่งยกเว้นผ่อนผัน ไปยัง ผอ.เขต (บัญชีสั่งยกเว้นผ่อนผัน (แบบ สด.19)) สด.เขตพระโขนง ก็จะต้องคัด สด.20 ขึ้นเป็นฉบับของเขต รายละเอียดตาม สด.19 (แปลว่า สด.20 จะมีอยู่ 2 แห่ง) ผลของการผ่อนผัน จะคงอยู่หรือหมดไป เป็นไปดังนี้

1) พ้นระยะเวลาที่ขอผ่อนผันไว้ (หมดเหตุผ่อนผัน)

2) จบก่อนกำหนดหรือลาออกหรือถูกให้ออกจากการศึกษา ก่อนกำหนด และกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว(หมดเหตุผ่อนผัน)

3) เมื่อหมดเหตุผ่อนผัน มีหน้าที่ไปแจ้งการหมดเหตุนั้น ที่เขตหรืออำเภอที่ตนอยู่หรือทำการประจำ ตาม มาตรา 15 (เมื่อแจ้ง ตาม ม.15แล้ว เขตพระโขนง จึงจะทราบการหมดเหตุผ่อนผัน ซึ่งก็จะได้ออกหมายเรียกฯให้ไปเกณฑ์ในคราวที่จะถึงถัดไป หากเขตหรืออำเภอที่อยู่หรือทำการประจำ เป็นเขตเดียวกันกับเขตที่เป็นภูมิลำเนาทหาร ก็จะออกหมายเรียกฯให้ไปได้เลยในวันที่มาแจ้งหมดเหตุ ตาม มาตรา 15 แต่ กรณีของ นายกอภิสิทธิ์ฯ นี้ ช่วงหมดเหตุผ่อนผัน ทำการประจำอยู่ จ.นครนายก (กรณี ถ้าหมดเหตุผ่อนผัน) ซึ่งก็ไม่น่าจะมีการแจ้งการหมดเหตุฯ ซึ่งการไม่แจ้งการหมดเหตุฯ ภายใน 30 วันนับจากวันหมดเหตุ ตาม มาตรา 15 จะมีความผิดตาม มาตรา 43 โทษจำ ไม่เกิน 1 ด. ปรับไมเกิน 200 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4) อย่างไรก็ตาม นายกอภิสิทธิ์ ฯ ไม่มีหมายเรียกฯ(สด.35) ในฐานะคนทีหมดเหตุผ่อนในปี 31 (ปีที่ นายกอภิสิทธิ์ฯ อยู่ในประเทศไทย ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะหมดเหตุผ่อนผันแล้ว ซึ่งไปร้องขอเข้ารับราชการเป็นทหารประจำการ ที่ รร.จปร.) ส่วนการเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร นั้นจะผิดเงื่อนไขการผ่อนผันหรือไม่ไม่ทราบ แม้จะผิดเงื่อนไข ตั้งแต่ตอนนั้น ความผิดก็คงอยู่ที่ มาตรา 43 ดังที่กล่าวแล้ว

ความหมายคือ เขตพระโขนงยังที่ทราบการหมดเหตุผ่อนผัน เมื่อไม่ทราบ การเรียกเข้ารับราชการทหารจึงยังไม่เกิด(การออกหมายเรียกฯ ณ ปีนั้นๆ แต่ หมายเรียกฯ ฐานะคนขาดฯ มีทุกปีตั้งแต่ ปี31-36 เพราะเขียนหมายตามบัญชีเรียกฯ(บัญชีเรียกฯที่ไม่ชอบฯ คือบัญชีที่ผิดตั้งแต่ปี 31-36) ซึ่งเป็นหมายเรียกฯที่ไม่ชอบฯ เป็นการออกหมายเรียกฯให้กับคนที่ สด.ก.ท.ขึ้นทะเบียนกองประจำการให้แล้ว สด.ก.ท.(ในนาม ผว.กทม.)จะต้องแจ้งการเข้ากองฯ ให้ ผอ.เขต ทราบ และ ผอ.เขต จะต้องงดเรียกฯ ) อย่างไรก็ตาม นายกอภิสิทธิ์ฯ ได้ไปติดต่อ ขอใบสำคัญแทนฉบับที่ชำรุดหรือสูญหาย กับ สด.เขต เมื่อวันที่ 8 เม.ย.31 ซึ่ง สด.เขตก็ไม่ได้มอบหมายเรียกฯ ปี 31 ให้แต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นหมายเรียกฯ ในฐานะคนขาดซึ่งจะต้องส่งดำเนินคดีก่อน หรือหมายเรียกฯ ฐานะคนหมดเหตุผ่อนผัน ซึ่งจะต้องสอบสวนเจ้าตัวหรือตรวจสอบเอกสารหลักฐานทางเขต ว่าบุคคลผู้นี้อยู่ในสถานะไหน ก่อนที่จะออกใบแทนฯ และใบแทนที่ออกให้ก็ บันทึกวันเข้าบัญชีทหารกองเกินผิดไปบันทึกวันเข้าบัญชีฯ เป็นวันเดียวกับวันที่ออกใบแทนฯ ทั้งที่รายละเอียดต่างๆ จะต้องคัดลอกจาก สด.1

3. การร้องขอเข้ารับราชการเป็นทหารประจำการ โดยการบรรจุ ตำแหน่ง อาจารย์ รร.จปร. ยศ ร.ต. ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.รับราชการทหาร เพราะหลักเกณฑ์การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นทหารประจำการ ของ รร.จปร. ใช้กฎหมายอื่นและระเบียบกระทรวงกลาโหม แต่มาตรา 11 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.รับราชการทหาร มีว่า “ทหารประจำการนั้น ถ้ายังมิได้ขึ้นทะเบียนกองประจำการ ก็ต้องขึ้นทะเบียนกองประจำการ และรับราชการในกองประจำการจนครบกำหนดตาม พ.ร.บ.นี้” ซึ่ง นายกอภิสิทธิ์ ฯ ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนกองประจำการ เมื่อต้องขึ้นทะเบียนกองประจำการ และต้องอยู่ในกองประจำการ ตาม พ.ร.บ. นี้ นั้น จะต้องอยู่ในกองประจำการเท่าใดจึงจะครบกำหนด จึงต้องไปดู มาตรา และกฎกระทรวงฯ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

มาตรา 8 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการให้กระทำโดยวิธีเรียกมาตรวจเลือก หรือจะรับเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็ได้

กฎกระทรวง ฉบับที่ 35

ข้อ 2 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีอื่น ให้กระทำโดยวิธีร้องขอ และบุคคลที่จะร้องขอต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์

ข้อ 3 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการ โดยวิธีร้องขอ ตาม ข้อ 2 ให้กระทำได้ดังนี้

(1) …..(2)…..

(3) การร้องขอเข้ากองประจำการโดยผู้ซึ่งยังไม่ถูกเรียกเข้าเป็นทหารกองประจำการหรือผู้ซึ่งเคยถูกเรียกเข้าเป็นทหารกองประจำการแล้่วแต่ไม่ถูกเข้ากองประจำการ ให้บุคคลดังกล่าวร้องขอต่อเจ้าหน้าที่กรมกองฝ่ายทหารหรือฝ่ายตำรวจที่บุคคลนั้นประสงค์จะเข้ารับราชการกองประจำการ เมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าวพิจารณารับบุคคลใด ให้นำบุคคลนั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการ การที่กรมกองฝ่ายทหารหรือฝ่ายตำรวจจะรับผู้ร้องขอเข้าในสังกัดหรือเหล่าใด ให้เป็นไปตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด

ข้อ 5 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการตาม ข้อ 3(3) และการรับบุคคลเข้าเป็นนักเรียนในโรงเรียนทหาร ให้รับได้โดยไม่จำกัดภูมิลำเนาทหาร

มาตรา 9 วรรคหนึ่ง ทหารกองเกินซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณื เป็นผู้ที่อยูในระหว่างที่จะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ และเมื่อต้องเข้ากองประจำการจะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการมีกำหนด 2 ปี ส่วนผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษหรือเมื่อมีกรณีพิเศษ จะให้รับราชการทหารกองประจำการน้อยกว่า 2 ปีตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็ได้ ฯ

กฎกระทรวง ฉบับที่ 24

ข้อ 2 ผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษซึ่งสมควรอยู่ในกองประจำการน้อยกว่า 2 ปี ตามความในมาตรา 9 วรรคหนึ่ง คือ

(1)….(2)….(3)…(4)….(5)….(6)….(7)….

(8) ผู้สำเร็จชั้นอุดมศีกษาหรือผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยฐานะเทียบได้ไม่ต่ำกว่าชั้นอุดมศึกษา

(9)….(10)…..(11)…..(12)…..(13)….

ถ้าเป็นบุคคลดังกล่าวใน (1) ถึง (8) ให้รับราชการทหารกองประจำการ 1 ปี แต่ถ้าเป็นผู้ที่ได้ร้องขอเข้ารับราชการในกองประจำการ ก็ให้รับราชการกองประจำการ เพียง 6 เดือน

สรุปได้ว่า นายกอภิสิทธิ์ ฯ เข้ากองประจำการ ด้วยช่องทาง มาตรา 11 วรรคสอง ประกอบกับ มาตรา 8 ต่อด้วย กฎกระทรวง ฉบับที่ 35 ข้อ 2 ข้อ 3 (3) โดยใช้วุณวุฒิปริญญาตรี ตาม มาตรา 9 วรรคหนึ่ง ต่อด้วย กฎกระทรวง ฉบับที่ 24 ข้อ 2 (8)

หลักฐานทางบัญชีเรียกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (สด.16) ทุกปีทีปรากฏในบัญชีฯ ว่า “ขาด” นั้น เป็นการผิดพลาดของ จนท. สัสดี กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ ปี 2530 เป็นต้นมา เหตุเพราะไม่จำหน่ายชื่อ นายกอภิสิทธิ์ ฯ ออกจาก บัญชีเรียกฯ (สด.16) ว่า ได้รับการผ่อนผัน ตาม มาตรา 27(2) นั้น ผลจึงกลายเป็นว่า นายกอภิสิทธิ์ฯ ขาดการตรวจเลือฯ

จะเห็นได้จาก การขึ้นทะเบียนกองประจำการ และออกเลขเครื่องหมายให้ กับนายกอภิสิทธิ์ ฯ ของ สัสดีกรุงเทพมหานคร เพราะย่อมยืนยันความถูกต้องของหลักฐานทีประกอบการนำตัวขึ้นทะเบียนกองประจำการ (จ.นครนายกขึ้นแทน) และหลักฐานต่างๆ ที่สัสดีกรุงเทพมหานคร มีอยู่(ซึ่งบัญชีเรียกฯ ก็ขาดการตรวจเลือกฯ อยู่ แสดงว่า มีหลักฐานอื่นยืนยันว่าไม่ใช่คนขาดฯ และน่าจะเป็น บัญชียกเว้นหรือผ่อนผัน (สด.20)) และเมื่อ สัสดีกรุงเทพฯ ขึ้นทะเบียนฯ และออกเลขเครื่องหมาย ทางทหาร ให้แล้ว คือ ท.บ.2531 ก.ท.10803 และจำหน่ายบัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ 2 (สด.27) ว่าเข้ากองประจำการ ฯ ในปี 31 นั้นเอง แต่ทำไม สัสดีกรุงเทพฯ หน่วยงานเดียวกันนี้ ไม่ยอมจำหน่ายบัญชีเรียกฯ (สด.16) โดยที่ปล่อยให้ยังคงขาดอยูต่อไป และยังคัดชื่อให้ขาดอยู่ทุกปีไปจนถึงปี 36 พ้นกำหนดเรียก และไม่มีการแจ้งให้เขตจำหน่าย การเข้ากองฯ ที่ บัญชีทหารกองเกิน (สด.1 )และ ต้นขั้ว ใบสำคัญ(สด.9) หรือมีการแจ้งแล้ว แต่เขตก็ไม่ดำเนินการจำหน่ายก็ไม่ทราบได้ การที่ สัสดีกรุงเทพ ดำเนินการบันทึกการจำหน่ายไม่ถูกต้องครบถ้วน ในเอกสารบัญชีต่างๆ ที่ปรากฏให้เห็นตามที่ ชี้ให้เห็นมานี้ พอที่จะคาดการณ์ได้ว่า เมื่อปี 30 ซึ่งเป็นปีที่ นายกอภิสิทธิ์ฯ ขอผ่อนผัน ตาม มาตรา 27(2) นั้น การบันทึกการผ่อนผันในบัญชีเรียกฯ (สด.16) ไม่เกิดขึ้นเพียงเอกสารเดียว ทั้งที่มีเอกสารอื่นบงบอกถึงการได้รับสิทธิผ่อนผัน จึงกลายเป็นว่าอภิสิทธิ์ ฯ ขาดการตรวจเลือกฯ เพราะการไม่จำหน่ายบัญชีเรียกฯ จึงมีขื่อให้คณะกรรมการตรวจเลือกฯ เข้าใจว่าคนที่จะต้องเรียกฯ และเมื่อเรียกแล้วไม่มา ก็จึง “ขาด” ทั้งที่เหตุแห่งการผ่อนผันตาม ม.27(2) เกิดมาก่อน ที่เหตุแห่งการขาดมาทีหลัง จึงถือว่า “เหตุแห่งการขาด” เป็นโมฆะ

จะว่าไปแล้ว สด.ก.ท. ยืนยันการขาด ของนายกอภิสิทธิ์ฯ เมื่อปี 30 ก็ไม่แปลกใจอะไร พอเข้าใจได้ ในเมื่อปี 30 บัญชีเรียกฯ บันทึกว่า “ขาด” แต่ สัสด.ก.ท. จะไม่สามารถยืนยัน ว่านายกอภิสิทธิ์ฯ ขาด ในปี 31, 32, 33, 34, 35, 36 ได้เลย เพราะว่า สด.ก.ท. เป็นผู้ที่กำหนดเลขเครื่องหมายให้ นายกอภิสิทธิ์ฯ และจำหน่าย บัญชีรายชื่อ ฯ (สด.27) นั่นหมายถึงว่า สด.ก.ท. เป็นผู้กำหนดให้นายกอภิสิทธิ์ฯ เข้ากองประจำการ ตามวัน เดือน ปี ที่ล้วงวันรับราชการให้ ตามที่ปรากฏใน ทะเบียนกองประจำการ (สด.3) และ สด.ก.ท. อีกเช่นกัน ที่กำหนดให้ นายกอภิสิทธิ์ฯ ขาดการตรวจเลือกฯ โดยคัดรายชื่อไว้ใน บัญชีเรียกฯ(สด.16) ประเภทคนขาดการตรวจเลือกฯ ไว้ทุกปีหลังจากขึ้นทะเบียนกองประจำการให้แล้ว ยังมีเอกสารอีกมากมายทั้งที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สด.ก.ท. และในความรับผิดชอบของ สด.เขต ต่างๆ ที่ไม่ได้ทำการบันทึกให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผน ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การปลดย้ายประเภทด้านหลัง สด.1(สด.เขต) และการปลดย้ายประเภทของ สด.27(สด.ก.ท.) เป็นต้น

คนทั่วไปยังเข้าใจผิดอีกหลายเรื่อง เช่น
  • บัญชีเรียกฯ (สด.16) ประเภท “คนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน” คนทั่วไป เห็นชื่อที่หัวบัญชี แล้วเข้าใจว่า คนทุกคนที่อยู่ในบัญชีประเภทนี้ คือคนที่ พ้นจากการยกเว้นหรือหมดเหตุผ่อนผันแล้วทั้งหมด ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่เช่นนั้น มีส่วนหนึ่งที่ใช่ ยังมีคนอีกหลายประเภทที่รวมอยู่ในบัญชีนี้ บัญชีเรียกฯ มีอยู่ 5 ประเภท คือ 1) “คนหลีกเลี่ยงขัดขืน” , 2) “คนที่ขาดการตรวจเลือก” , 3) “คนที่อยูในกำหนดเรียกธรรมดา” , 4) “คนที่พ้นฐานะยกเว้นผ่อนผัน”, 5) “คนผ่อนผัน” คนที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะอยู่ในบัญชีเรียกฯ อีก 4 ประเภท จะต้องมาอยู่ใน บัญชีเรียกฯ ประเภท “คนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน” นายกอภิสิทธิ์ ฯ อยู่ประเภท “ตกค้างการลงบัญชีทหารกองเกิน” ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะอยู่ในบัญชีประเภทอื่นๆ อีก 4 ประเภท ก็ต้องอยู่ในบัญชีเรียกฯ “คนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน” (เฉพาะเมื่อปี 2530) ไม่ได้หมายความว่า นายกอภิสิทธิ์ฯ พ้นจากฐานะการยกเว้นหรือผ่อนผันแล้ว ตามชื่อบัญชีฯ คนที่อยู่ในบัญชีทั้ง 5 ประเภทนี้ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะขอยกเว้นหรือผ่อนผัน ตามที่ พ.ร.บ.รับราชการทหาร บัญญัติ แต่ถ้าบุคคลใดที่กระทำผิด พ.ร.บ. มาตราใดมาตราหนึ่ง และมีคดีความอยู่จะมาขอยกเว้นหรือผ่อนผัน(เมื่อได้ตัว) ก็จะต้องส่งดำเนินคดีก่อน ส่วนบัญชีเรียกฯ ประเภท “คนผ่อนผัน” มันเป็นบัญชีเรียกฯ ของ นักเรียก นิสิต นักศึกษา ที่อยู่ในสถาบันการศึกษาของประเทศไทยอย่างเดียวเท่านั้น
  • บางคนเข้าใจว่า นายกอภิสิทธิ์ฯ ถึงกำหนดเกณฑ์ทหารแล้วไม่ไปเกณฑ์ ความผิดสำเร็จแล้ว แต่ทำไมไปสมัครบรรจุเป็นอาจารย์ รร.จปร. ได้ ต้องทำความเข้าใจว่า การไม่ไปเกณฑ์ทหารไม่ได้หมายความว่าผิดกฎหมายทุกคน ถึงแม้ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร ก็มิใช่ว่าจะมีความผิดฐานเดียวกันทุกคน ดังนั้นการฟ้องร้องดำเนินคดี จะต้องแยกแยะออกไป และโทษก็ต่างกันออกไป ไม่ใช่ความเป็น 2 มาตรฐานแต่อย่างใด มีตัวบทกฎหมายกำหนดไว้แล้วอย่างชัดเจน การจะดูว่าไปเกณฑ์/ไม่ไปเกณฑ์ ทหาร ผิดหรือไม่ ผิดอย่างไร คนที่จะต้องไปเกณฑ์ คือคนที่ถูกเรียกฯ โดยหมายเรียกของ นอภ. หรือ ผอ.เขต (สด.35) ในหมายเรียกฯ จะกำหนดวัน เดือน ปี เวลา สถานที่ไว้แน่นอน คนที่ไม่ถูกเรียกฯ ไม่มีหน้าที่ไปเกณฑ์ แต่จะผิดฐานไหนอย่างไร และจะต้องปฏิบัติอย่างไร จึงจะถึงขั้นตอนการเกณฑ์ จะไม่ลงไปในรายละเอียด และการเีรียกฯ นั้นจะต้องเรียกฯเป็นปีๆ ไป ถ้ายังไม่มาเกณฑ์ ต้องออกหมายเรียกฯให้มาปีต่อไปใหม่ เป็นอย่างนี้ไปจนกว่าจะพ้นกำหนดเรียกฯ กรณีของ นายกอภิสิทธิ์ฯ ถูกเรียกฯครั้งเดียวเมื่อ 4 ก.ค.29 ให้ไปเกณฑ์วันที่ 11 เม.ย.30(เข้าใจว่ากำหนดวันเกณฑ์วันนั้น เพราะ ปี31-32 ก็กำหนดวันเกณฑ์เป็นวันที่ 11 เม.ย.เช่นกัน) แต่ นายกอภิสิทธิ์ฯ ใช้สิทธิ์ ผ่อนผัน ขอไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ ตาม มาตรา 27(2) แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 ซึ่งขอผ่อนผัน มีกำหนด 3 ปี การถูกเรียกฯ ของปี 2530 นายกอภิสิทธิ์ฯ ก็ไม่ต้องมาตามหมายเรียกฯ นั้น ตาม มาตรา 27(2) และผู้อนัมติให้ นายกอภิสิทธิ์ฯ ไม่ต้องมาเข้ารับการตรวจเลือกฯ คือ ผว.กทม. สำหรับการขอผ่อนผันนั้น จะผ่านทาง เขตพระโขนง หรือผ่านทาง ก.พ. ต้องถามเจ้าตัว แต่ผู้อนุมัติคือ ผว.กทม. และเมื่ออนุมัติแล้ว จะออก “หนังสือผ่อนผันการเข้ารับราชการทหาร” (สด.41) ให้เจ้าตัวถือไว้เป็นหลักฐาน ส่วนหลักฐานที่ทางราชการมีคือ สำเนาคู่ฉบับ ของหนังสือผ่อนผันฯ(สด.41) (อยู่ี่ที่ สด.ก.ท.)และ บัญชียกเว้นหรือผ่อนผัน (สด.20) (มีที่ สด.ก.ท. และ สด.เขตพระโขนง) ตามหลักฐานใน สด.20 ที่ นายกอภิสิทธิ์ฯ มีอยู่ ระบุเลขที่ลงรับหนังสือ และวันเดือนปี อยู่ในเดือน พ.ย.29 แปลว่าได้รับอนุมัติการผ่อนผันก่อนที่จะถึงกำหนดเกณฑ์ใน 11 เม.ย.30 หลักฐานหรือเอกสารอื่นที่ขัดแย้งและเหตุการณ์อื่นที่เกิดขึ้นทีหลังจึงเป็นอันใช้ไม่ได้(ความหมายก็คือ นายกอภิสิทธิ์ฯ ไม่ได้มีความผิดเรื่องการไม่ไปเกณฑ์ทหาร ปี 2530 ) ถ้าเป็นไปตามหนังสือผ่อนผัน นายกอภิสิทธิ์ฯ จะไปถูกเรียกฯ อีครั้งในปี 2533 แต่ถ้าหมดเหตุผ่อนผันก่อนกำหนดนั้น เมื่อเจ้าตัวไปแจ้งการหมดเหตุ ก็จะถูกเรียกฯในปีที่จะถึงกำหนดเกณฑ์นั้นๆ
  • คำถามมีว่า นายกอภิสิทธิ์ฯ เข้าบรรจุรับราชการทหาร ยศ ร.ต. ที่ รร.จปร. เมื่อ ปี 2531 ได้ไหม/ถูกต้องหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าการที่ทางราชการทหารจะบรรจุบุคคลพลเรือนเข้ารับราชการทหารประจำการ (ไม่ใช่ทหารกองประจำการ) เขามีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ที่ไม่ใช่ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 ซึ่งทาง รร.จปร. เขาต้องดูกฎระเบียบดังกล่าวอย่างละเอียดแล้ว จึงขอบรรจุไปที่ กองทัพบก และกองทัพบกก็บรรจุให้ แปลว่าหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ถูกต้องครบถ้วน (ขอย้ำว่าอย่าไปดู พ.ร.บ.รับราชการทหาร เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกับการบรรจุ การบรรจุเข้ารับราชการทหารนั้น รับได้ทั้งคนที่ยังไม่เป็นทหารกองเกิน ,เป็นทหารกองเกินแต่ยังไม่ผ่านการเกณฑ์ ,ผ่านการเกณฑ์แล้ว ไม่ถูกเข้ากองประจำการ และผ่านการเกณฑ์แล้วถูกเข้ากองประจำการแล้ว และปลดจากกองประจำการแล้ว ) และ นายกอภิสิทธิ์ฯ ก็อยู่ในประเภท คนที่ยังไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร แต่ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะ ที่หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร แต่อยู่ในฐานะการผ่อนผันการเกณฑ์ฯ ซึ่งไม่ขัดคุณสมบัติอะไร เพราะเมื่อบรรจุเข้ารับราชการทหารประจำการแล้ว ก็ต้องอยู่ในกองประจำการ ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร 2497 ตาม มาตรา 11 วรรคสอง ซึ่งนั่นก็คือการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 ครบถ้วน(ระหว่างรับราชการทหารประจำการ ในขณะเดียวกันก็อยูในกองประจำการไปด้วยควบคู่กันไป)
  • เอกสารหลักฐานตัวจริงที่ นายกอภิสิทธิ์ฯ ถืออยู่ไปไหนหมด ไม่มีมายืนยัน 1) ใบสำคัญ (สด.9) ใบเดิมหาย แจ้งขอใบแทน 2) ใบสำคัญ(สด.9) ฉบับแทน ใช้เป็นเอกสารประกอบการนำตัวขึ้นทะเบียนกองประจำการ และเมื่อ สด.ก.ท.ขึ้นทะเีบียนกองประจำการแล้ว จะส่งให้ เขตผู้ออกใบสำคัญเป็นผู้ทำลายใบสำคัญนั้น 3) หนังสือผ่อนผันฯ (สด.41) น่าจะหายไปพร้อมกับ สด.9ใบเดิม จึงมีการออกหนังสือรับรองการผ่อนผันฯ เพื่อนำไปเป็นเอกสารประกอบการนำตัวขึ้นทะเบียนกองประจำการ(ซึ่งใบรับรองนี้ก็มีการพิมพ์ข้อความผิด )

เอกสารที่ทางราชการ สด.ก.ท. ไม่มี(ทำลายไปแล้ว) คือ บัฐชียกเว้นผ่อนผัน (สด.20),สำเนาคู่ฉบับ หนังสือผ่อนผัน (สด.41) ซึ่งจะเป็นหลักฐานยืนยันว่า นายกอภิสิทธิ์ ฯ ไม่ได้ผิด พ.ร.บ.รับราชการทหาร

เอกสารที่ทางราชการ สด.ก.ท. มี (แต่บันทึกผิด) คือ บัญชีเรียกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ(สด.16) นอกจาก สำเนา สด.20 ที่ ปชป.นำมาโชว์แล้วไม่สามารถหาหลักฐานฉบับตัวจริงอื่นๆมาหักล้างได้ว่าบันทึกผิด แต่ที่เชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็เพราะว่า การบันทึกหรือไม่บันทึกที่ก่อให้เกิดความผิดพลาด มีให้เห็นต่อมาอีกและยังเป็นหลักฐานยืนยันอยู่ คือ เมื่อ ขึ้นทะเบียนกองประจำการให้แล้ว ไม่มีการจำหน่ายรายชื่อออกจากการขาดการตรวจเลือกฯ


อ้างอิง : http://sdsettakarn.w...ื่อง-การปฏิบัต/

  • Gop likes this
เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ

#331 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:26

Posted Image



ฉบับนี้ กองควบคุมคุณวุฒิ สบ ทบ ส่งให้ รร จปร ซึ่งเป็นต้นสังกัดขอส่งใบสมัครของหน่วยงานโดยตรงให้คุณอภิสิทธิ์กรอกใหม่
และขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่ง ข้อ 1, 2 ไม่มีปัญหา แต่ ข้อ 3 ขอหนังสือผ่อนผันการเำกณฑ์ฯ
ประเด็นอยู่ตรงนี้หล่ะค่ะ...


เอกสารฉบับนี้...กองควบคุณวุฒิ สบ ทบ ส่งให้ รร จปร ซึ่งเป็นต้นสังกัดเพื่อให้เขียนใบสมัคร
ของหน่วยงานโดยตรง และขอเอกสารเพิ่ม

สังเกตด้านล่างซ้ายในวงกลมสีแดง..ข้อความตรงนั้น

" นายอภิสิทธิ์ฯ นำเรื่องมาส่งด้วยตัวเอง จึงไม่มีหนังสือปะหน้า
ข้อ 3 หนังสือผ่อนผันการเกณฑ์ฯ ได้ประสานเรื่องนี้กับ กพ ทบ แล้ว
ลงชื่อ..อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ "

ข้อความนี้...หมายถึงอะไร...คงไม่ต้องอธิบาย
และหนังสือรับรองที่ สัสดีกรุงเทพออกให้ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2530
คาดว่าน่าจะเป็นหนังสือที่รับรองการผ่อนผันฯ ซึ่งผู้ที่ยื่นขอมีความเป็นไปได้ว่า
น่าจะ กพ ทบ เพื่อให้ประกอบการบรรจุ...

ถ้าจะถามว่า...การผ่อนผันที่ระบุในหนังสือรับรองเป็น 29 (3) ประเด็นนี้คงต้อง
ย้อนถามกลับที่หน่วยงานที่ออกหนังสือรับรอง...

เพราะคุณอภิสิทธิ์คงไม่ได้เจาะจงให้หน่วยงานออกหนังสือรับรองได้ตามอำเภอใจ
หรอกน่ะ...ที่สำคัญ..ผู้ที่ยื่นคำร้องขอหนังสือรับรองฉบับนี้จะใช่คุณอภิสิทธิ์หรือไม่
90%..ไม่น่าจะใช่ น่าจะเป็นการยื่นขอคำรับรองระหว่างหน่วยงานมากกว่า

ประเด็นที่ถามว่า สด.41 ต้นฉบับอยู่ที่ใคร...ประเด็นก็ตอบได้ยาก
เพราะระบบราชการในปี 2530 ระเบียบการเรียกเอกสารใช้ต้นฉบับหรือไม่
หรือใช่เพียงสำเนา...คงไปถามเจ้าหน้าที่ในประจำการอยู่ในช่วงเวลานั้น

แต่ที่แน่ ๆ ...ต้นขั้วต้องมีแน่ รวมไปถึง สด.20 ด้วย..

ดังนั้น ถ้าเอกสารที่คุณอภิสิทธิ์ถือไว้เป็นเท็จ หรือไม่มีการรับรองจากหน่วยงาน

ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเป็นผู้จัดเก็บเอกสารถึงไม่นำมาแสดง
เพื่อหักล้างคำกล่าวอ้างของคุณอภิสิทธิ์...เพื่อทุกอย่างจะได้จบเกมส์เสียที

สุดท้าย...ขอยุติการสนทนาประเด็นนี้แต่เพียงเท่านี้ เพราะ

1) เป็นผู้หญิง จึงไม่มีประสบการณ์การเกณฑ์ทหารโดยตรง จึงมิอาจล่วงรู้ว่า
การปฎิบัติในสนามตรวจเลือกจริง เป็นอย่างไร ระเบียบและข้อปฏิบัติที่ใช้จริง
ณ วันตรวจเลือก จะเข้มงวดตาม พรบ หรือ กฎทรวงมากน้อยเพียงใด และ
การตรวจเลือกในแต่ละภูมิลำเนาก็ต่างกัน สิ่งที่รู้ก็คือสิ่งที่บัญญัติไว้ใน
พรบ และ กฎกระทรวงเท่านั้น

2) หากคุณเชื่อมั่นว่า..ส่ิงที่คุณรับรู้มาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง คงยากที่จะเปิดใจ
รับข้อมูลที่ขัดแย้งกับสิ่งที่คุณเชื่อมั่นอย่างสิ้นเชิง นั้นจะมาซึงการถกเถียง
ที่ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะจะวนกลับมาที่เดิม...คือ ไม่ไปรับการตรวจเลือก
ในวันที่ 7 เมษายน 2530 คือการหนีทหาร การขึ้นทะเบียนกองประจำการ
ไม่ถูกต้อง...หากคุณฝังใจเช่นนี้แล้ว...คงยากที่คุณจะยอมรับข้อมูลอื่น

3) มีภาระกิจอื่นที่สำคัญกว่าการสนทนาให้ประเด็นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น
มานานนับ 10 ปี และไม่เหตุที่ต้องมานั่งถกให้เสียเวลา ในขณะที่มีอย่างอื่น
ให้ทำอีกตั้งมากมาย เช่น

กรณี ทุจริตจำนำข้าว การตกอันดับผู้ส่งออกข้าว ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทบต่อ
ผลประโยชน์ของเกษตรกรโดยตรง ในฐานะประชาชนควรติดตามผลและ
กดดันหน่วยงานที่เกี่ยวกับ ให้เร่งดำเนินการแก้ไข...

มากกว่า..ไปสนใจกับเรื่องที่ผ่านพ้นมาแล้ว และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ
การดำเนินชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทย...

#332 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:27

Posted Image

หนังสือฉบับบี้ใช่ไหมคุณ bird ในเมื่อออกโดยสัสดี คนรับต้องเป็นมาร์คสิ่ เพราะอยู่ๆ รร จปร จะดำเนินขอเอกสารที่ขาดให้เองเลยเหรอ ผมว่ามาร์คมีอภิสิทธิ์เกินไปแล้ว
และไปดูสิ่ ในเอกสารนี้น่ะ บอกว่าลงทะเบียนกองเกิน 1 มกราคม 2525 !!
ตกลงว่า เป็นกองเกินเมื่อไรแน่ 2525 2529 2531 ???

สรุปว่าหลักๆ ต้องเอา สด41 มากกว่า ซึ่งมีหรือไม่ล่ะ
และถ้าเรื่องนี้ถูกเอาผิด ผมว่าทำเอกสารเท็จนี่ไม่ใช่เรื่องเล็กนะครับ และถ้าถูกถอดยศอาจจะถูกตัดสิทธิ์การเมืองได้ด้วยนะ

Edited by Tam-mic-ra., 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:06.

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#333 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:59

.....

Edited by bird, 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:10.


#334 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 06:29

"คำถามมีว่า นายกอภิสิทธิ์ฯ เข้าบรรจุรับราชการทหาร ยศ ร.ต. ที่ รร.จปร. เมื่อ ปี 2531 ได้ไหม/ถูกต้องหรือไม่" ก็ต้องตอบว่าการที่ทางราชการทหารจะบรรจุบุคคลพลเรือนเข้ารับราชการทหารประจำการ (ไม่ใช่ทหารกองประจำการ) เขามีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ที่ไม่ใช่ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 ซึ่งทาง รร.จปร. เขาต้องดูกฎระเบียบดังกล่าวอย่างละเอียดแล้ว จึงขอบรรจุไปที่ กองทัพบก และกองทัพบกก็บรรจุให้ แปลว่าหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ถูกต้องครบถ้วน (ขอย้ำว่าอย่าไปดู พ.ร.บ.รับราชการทหาร เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกับการบรรจุ การบรรจุเข้ารับราชการทหารนั้น รับได้ทั้งคนที่ยังไม่เป็นทหารกองเกิน ,เป็นทหารกองเกินแต่ยังไม่ผ่านการเกณฑ์ ,ผ่านการเกณฑ์แล้ว ไม่ถูกเข้ากองประจำการ และผ่านการเกณฑ์แล้วถูกเข้ากองประจำการแล้ว และปลดจากกองประจำการแล้ว ) และ นายกอภิสิทธิ์ฯ ก็อยู่ในประเภท คนที่ยังไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร แต่ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะ ที่หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร แต่อยู่ในฐานะการผ่อนผันการเกณฑ์ฯ ซึ่งไม่ขัดคุณสมบัติอะไร


"
เอกสารที่ทางราชการ สด.ก.ท. ไม่มี(ทำลายไปแล้ว) คือ บัฐชียกเว้นผ่อนผัน (สด.20),สำเนาคู่ฉบับ หนังสือผ่อนผัน (สด.41) ซึ่งจะเป็นหลักฐานยืนยันว่า นายกอภิสิทธิ์ ฯ ไม่ได้ผิด พ.ร.บ.รับราชการทหาร
เอกสารที่ทางราชการ สด.ก.ท. มี (แต่บันทึกผิด) คือ บัญชีเรียกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ(สด.16) นอกจาก สำเนา สด.20 ที่ ปชป.นำมาโชว์แล้วไม่สามารถหาหลักฐานฉบับตัวจริงอื่นๆมาหักล้างได้ว่าบันทึกผิด แต่ที่เชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็เพราะว่า การบันทึกหรือไม่บันทึกที่ก่อให้เกิดความผิดพลาด มีให้เห็นต่อมาอีกและยังเป็นหลักฐานยืนยันอยู่ คือ เมื่อ ขึ้นทะเบียนกองประจำการให้แล้ว ไม่มีการจำหน่ายรายชื่อออกจากการขาดการตรวจเลือกฯ "


:lol:

Edited by 55555, 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 06:46.


#335 Sithichoke Mut

Sithichoke Mut

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 3 posts

ตอบ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:27

สมาชิกใหม่นะครับ ขอตอบแบบโง่ๆสักนิด
กรณีคุณอภิสิทธิ์ สมัครเข้าเป็นอาจารย์ มันน่าจะคล้ายๆกับ คนจบแพทย์ และสมัครเข้าเป็นแพทย์ประจำกองทัพ(น่าจะเรียกแบบนี้นะ)
มันน่าจะเข้าหลักเกณท์เดียวกันนะ และคนที่ไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือก หรือหนีทหาร รายชื่อที่ปรากฎ มันจะเป็นสีแดงนะ(ผมก็เคยเจอ แต่เข้ารับการตรวจเลือกแล้วจะปลดออก)

ตามนั้นหละครับ ผมตอบเป็นหลักการไม่เป็น ก็ตอบแบบลูกทุ่งๆแบบนี้หละครับ

Edited by Sithichoke Mut, 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:27.


#336 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:13

อภิสิทธิ์ไม่ได้หนีทหาร เมื่อคราวตั้งรัดบาน เสื้อแดงยังว่าอภิสิทธ์ตั้งรัดบานในค่ายทหาร จริงมั๊ย.

แต่ที่แน่ๆ พวกแกนนำล้มเจ้าทั้งหลาย เกลียดทหาร ไม่อยากเหยียบเงาด้วย โดยเฉพาะไอ้หัวครกตู่. :lol:



ไพร่เสื้อแดง ไอ้ตู่ ไอ้เต้น ธิดา สุกำฯ พูดสั้น ๆ "หนีทหาร...."

ถ้าพูดยาวๆ "นายกฯอภิสิทธิ์หนีไพร่เสื้อแดงเข้ากรมทหาร
เพราะคิดว่านายกฯอภิสิทธิ์มียศ"นายร้อยตรี"เป็นทหารเหมือนกัน...
ไม่ช่วยทหาร จะไปช่วยไพร่เสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองฤา......."ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ขอให้ข้อมูลเป็นความรู้ใหม่ว่านายกฯอภิสิทธิ์หนีเข้ากรมทหารได้เพราะเป็น"ทหาร"....
ส่วนทักษิณถูกรัฐประหารเพราะเป็น"ตำรวจ"
ไอ้ตุ่ ไอ้เต้น ธิดาแดง ไพร่เสื้อแดง บัตรเติมเงินถูกควบคุมพื้นที่เพราะไม่ใช่"ทหาร"......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#337 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:15


และ ถ้าเกิดกรณี ไม่ได้ไปตรวจเลือก หากมารายงานตัวภายหลัง ก็แค่ไป ประจำการณ์ แบบไม่ต้องเกณฑ์ แค่นั้น


กรณี พี่มาร์ค ก็ไปเป็นทหารประจำการณ์มาแล้ว ยังไงก็ไม่ถือว่าหนีทหาร เพราะเป็นทหารกองประจำการณ์แล้ว เงินเดือนออกก็ไปเซ็นต์รับ ยังไงก็มีหลักฐานอยู่แล้ว
จะต้องกลัวอะไร


ขำตรรกควายแดงจริงๆ


โชว์ความควายได้สะใจถึงใจจริงๆ พากันอับอายไปทั้งเสรีไทย

ไม่ไปแสดงตน 7เมษา ตามกฏหมายต้องรับโทษก่อน
-และยังมีเรื่องอื่นอีกว่า ผ่อนผันจริงหรือไม่
-การเข้าไปเป็นข้าราชการกลาโหมก่อนติดยศใช้เอกสารสมัครถูกต้องหรือไม่
-ใช้ สด9 เท็จในการขึ้นทะเบียนประจำการหรือไม่


ขำกับควายแดงจริงๆ

ไม่ไปแสดงตน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เลย อย่างวันนั้นมันเกิด อุบัติเหตุ ก็แจ้งไปได้ ไม่ได้มีปัญหา

แล้วโทษตามกฏหมาย ขึ้นศาลทหารครับ ถ้าโดนจับ กลับมาก

มีตั้งแต่ กัก จำ ขัง แต่เมื่อพ้นโทษแล้ว ก็เป็นทหารกองประจำการเลย

แล้ว ถ้าติดยศก่อน ก็เป็นทหาร มาก่อนแล้ว ต้องสมัคร หาอะไร

สด9 ใครๆ ก็ทำหายเป็น แค่ไปขอออกใหม่ ต้นขั่วมีไปดูก็เท่านัน


แล้วที่สำคัญ ปลด ออกมากมันก็จบแล้ว 555555

Edited by เพลิงสีนิล, 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:19.

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#338 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:15

สมาชิกใหม่นะครับ ขอตอบแบบโง่ๆสักนิด
กรณีคุณอภิสิทธิ์ สมัครเข้าเป็นอาจารย์ มันน่าจะคล้ายๆกับ คนจบแพทย์ และสมัครเข้าเป็นแพทย์ประจำกองทัพ(น่าจะเรียกแบบนี้นะ)
มันน่าจะเข้าหลักเกณท์เดียวกันนะ และคนที่ไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือก หรือหนีทหาร รายชื่อที่ปรากฎ มันจะเป็นสีแดงนะ(ผมก็เคยเจอ แต่เข้ารับการตรวจเลือกแล้วจะปลดออก)

ตามนั้นหละครับ ผมตอบเป็นหลักการไม่เป็น ก็ตอบแบบลูกทุ่งๆแบบนี้หละครับ



ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้.....
เป็ดเหลิมพ่อ"ไอ้ปื๊ด"ตอบได้ดีกว่าคนอื่น....
เพราะมีประสบการณ์จากลูกๆ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#339 pooyong

pooyong

    สมาชิกขั้นไม่สูง แต่สูงอายุ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,292 posts

ตอบ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:31

487305_335870509832491_424975806_n.jpg
ใครต้องการจ้าง ขนของหนีผัว ติดต่อนะครับ

Edited by pooyong, 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:34.

การรับใช้แผ่นดิน คือความเบิกบาน

#340 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 11:43

Posted Image

ในเมื่อออกโดยสัสดี คนรับต้องเป็นมาร์คสิ่ เพราะอยู่ๆ รร จปร จะดำเนินขอเอกสารที่ขาดให้เองเลยเหรอ
ผมว่ามาร์คมีอภิสิทธิ์เกินไปแล้ว
และไปดูสิ่ ในเอกสารนี้น่ะ บอกว่าลงทะเบียนกองเกิน 1 มกราคม 2525 !!
ตกลงว่า เป็นกองเกินเมื่อไรแน่ 2525 2529 2531 ???

สรุปว่าหลักๆ ต้องเอา สด41 มากกว่า ซึ่งมีหรือไม่ล่ะ
และถ้าเรื่องนี้ถูกเอาผิด ผมว่าทำเอกสารเท็จนี่ไม่ใช่เรื่องเล็กนะครับ และถ้าถูกถอดยศอาจจะถูกตัดสิทธิ์การเมืองได้ด้วยนะ


เฮ้อ...

1) หนังสือ สบ ทบ ลงวันที่ 19 มีนาคม 2530 มุมล่างซ้าย ปรากฎข้อความว่า

" ข้อ 3 หนังสือผ่อนผันการเกณฑ์ ได้ประสานเรื่องนี้กับ กพ ทบ แล้ว "

หมายความอะไร...ต้องให้แปลไทยเป็นไทยมั้ยค่ะ และ ในเอกสารประกอบ
วิชากฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร กองวิชาการสัสดี ได้อธิบาย ม 27
ไว้ว่า (บางส่วน)..

" 2 (1) ต้องเป็นนักเรียนซึงออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ โดยอยู่ในความ
ปกครองทั้งฝ่ายวิชากและความประพฤติของผู้ดูแลนักเรียนไทยของรัฐบาลไทย
สำหรับประเทศนั้น ๆ ซึ่งโดยปกติ ก.พ. เป็นเจ้าหนี้ในเรื่องนี้ วิธีการขอผ่อนผัน
ก.พ. จะแจ้งต่อกระทรวงมหาดไทย เมื่อกระทรวงมหาดไทยเห็นว่าควรผ่อนผันให้
ก็จะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอันเป็นภูมิลำเนาทหารของผู้นั้นดำการผ่อนผันให้
ต่อไป " สรุปแล้ว ใครเป็นผู้จัดการเรื่องเอกสารผ่อนผัน

และ ข้อความในหนังสือรับรองข้างต้น คุณอภิสิทธิ์จะสามารถร้องขอต่อผู้มีอำนาจ
ออกหนังสือรับรอง ให้พิมพ์ข้อความได้ตามที่ตนต้องการหรือไม่...

ถ้าจะถามว่า..แล้วทำไมถึงปรากฎว่า...ขึ้นบัญชีทหารกองเกิน ปี 2525 และผ่อนผัน
ตามมาตรา 29 (3) คงต้องย้อนถามกลับที่ หน่วยงานซึ่งเป็นผู้ออกหนังสือรับรอง...

ส่วนขึ้นทะเบียน 2529 ประเด็นนี้คงไม่ต้องอธิบายเพราะต้นขั้ว สด.9 เล่มที่ 54 / 5352
เป็นหลักฐานที่ยืนยัน

ส่วนต้นขั้ว สด.9 เลขที่ 1178 ลว. 8 เมย. 251 ก็เป็นเพียงใบแทนที่ออกแทนใบเก่าที่
ชำรุด ซึ่งเป็นสิทธิที่ทุกคนสามารถขอใหม่ได้...เป็นเท็จตรงไหน...
ถ้าจะบอกว่า...ก็บันทึกไว้ว่า ขึ้นทะเบียน 8 เมย.2531 ซึ่งไม่ตรงกับใบเดิม

คำถาม...เอกสารราชการที่มีการรันเลขที่จะสามารถลงวันที่ย้อนหลังได้หรือไม่...

อย่างที่บอกไว้...

ต้นฉบับ สด.20 และต้นขั้ว สด.41 หน่วยงานที่เป็นผู้บันทึก และเป็นผู้ออกใบ
สำคัญ ต้องมีเก็บรักษาไว้อย่างแน่นอน...

น่าแปลกใจที่ว่า...ทำไมถึงไม่นำออกมาแสดง เพื่อหักล้างคำกล่าวอ้างของ
ฝ่ายที่ถูกโจมตี...

ดังนั้น..ถ้าคุณคิดว่า เอกสารเค้าเป็นเท็จ ก็เรียกร้องให้ผู้แถลงข่าว นำต้นฉบับ
สด.20 และต้นขั้ว สด.41 ออกมาโชว์

ไม่ใช่มาเรียกหาจากบุคคลซึ่งไม่ได้มีหน้าที่เก็บรักษา...

#341 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 11:47

น่าเบื่อเหลือเกินเรื่องนี้
Posted Image

#342 Octavarium

Octavarium

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,095 posts

ตอบ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:18

ถ้ามันเข้าใจยากเกินไป เพื่อนๆชาวเสื้อแดงลองเอาหมายจับมาร์คข้อหาหนีทหารมาให้ดูหน่อยครับ มีปะ
ไม่ต้องถกกันเรื่องเอกสารอื่นก็ได้ เอาหมายจับมาให้ดูหน่อย นะๆๆ

Edited by Junk Life, 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:20.

       Invoke ExitWindowsEx, EWX_SHUTDOWN | EWX_POWEROFF | EWX_FORCEIFHUNG, SHTDN_REASON_MAJOR_SYSTEM


#343 Kepler-22b

Kepler-22b

    น้องใหม่

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:56

https://www.youtube.com/watch?v=WOXrG0w1wrc

จัดไปพี่น้องเสื้อแดงเล่นอภิสิทธิ์ให้ม่องเท่งไปเลยนะ
เรื่องข้อสงสัยในคลิปให้พี่น้องเสรีไทยวิจารณ์ดีกว่า




ทำไมแปะคลิปแล้วมันไม่ขึ้นอ่ะครับ

Edited by Kepler-22b, 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:05.

เสียงส่วนมากบริหารประเทศด้วยการมีเสียงที่เหลือตรวจสอบ ไม่ใช่มีเสียงเยอะแล้วไม่เห็นหัวใครและไม่สามารถใช้เสียงส่วนมากทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย จริยธรรมได้

#344 Kepler-22b

Kepler-22b

    น้องใหม่

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:02

Spoiler

เสียงส่วนมากบริหารประเทศด้วยการมีเสียงที่เหลือตรวจสอบ ไม่ใช่มีเสียงเยอะแล้วไม่เห็นหัวใครและไม่สามารถใช้เสียงส่วนมากทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย จริยธรรมได้

#345 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:36



แปะให้แล้วค่ะ

#346 มังกร เจ้าพระยา

มังกร เจ้าพระยา

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 31 posts

ตอบ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:47

คิดอะไรไม่ออกก็ อภิสิทธิ์ หนีทหาร ถามจริงๆเหอะ เล่นซ้ำไปซ้ำมานี่ไม่เบื่อหรือไงครับ ถ้าผิดจริงคงแถลงข่าวไปนานแล้วไอ้คนคิดเชื่อก็หัดคิดให้ดีๆหน่อยเหอะ ว่ามันจริงหรือเท็จ ท่านสุกำพลก็ไม่เห็นจะจริงจังไรเลยกลัวเสียคนหรือไงล่ะ ถ้าจริงนะเขาเอากันถึงที่สุดแล้วครับ ขนาดทุบรถจะฆ่ากันให้ตายยังทำมาแล้วเลยครับ

#347 idolation

idolation

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,996 posts

ตอบ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:47

เจียมสากเค้าว่างี๊นะ.. :D :D :D

Posted Image
รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ร่วมกันต้าน ตระกูลชินวัตร

#348 Kepler-22b

Kepler-22b

    น้องใหม่

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:55

http://youtu.be/WOXrG0w1wrc

แปะให้แล้วค่ะ



ขอบคุณครับ
เสียงส่วนมากบริหารประเทศด้วยการมีเสียงที่เหลือตรวจสอบ ไม่ใช่มีเสียงเยอะแล้วไม่เห็นหัวใครและไม่สามารถใช้เสียงส่วนมากทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย จริยธรรมได้

#349 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:15

เรื่องนี้เป็นยังไงไม่รู้ ไม่ค่อยเข้าใจ
แต่ Blog สัสดี เค้าอธิบายมาแบบนี้อะ
***********************************************************************

ว่าด้วยเรื่อง การปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร ของ นายกอภิสิทธิ์ฯ



1.ลงบัญชีทหารกองเกิน ตาม มาตรา 18 เป็นทหารกองเกิน 4 ก.ค.29
- ได้รับ ใบสำคัญ (แบบ สด.9)
- ได้รับ หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร(แบบ สด.35) ซึ่งในหมายเรียกฯ กำหนดให้เข้ารับการตรวจเลือกฯ เป็นทหารกองประจำการ เม.ย.30 (เข้าใจว่าจะเป็น วันที่ 11 เม.ย.)
ข้อนี้ ข้ามการไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 16(กรลงบัญชีทหารกองเกิน เมื่ออายุ 17 ปี) จะมีความผิดตาม มาตรา 44 ไปได้เลย เพราะก่อนจะรับลงบัญชีทหารกองเกินตาม มาตรา 18 จะต้องได้ข้อยุติไปแล้ว
2. ขอผ่อนผัน ไปศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ ตาม มาตรา 27(2) มีกำหนด 3 ปี (ปี 30-ปี32) ตามหลักฐาน บัญชียกเว้นหรือผ่อนผัน (แบบ สด.20) ถึงแม้จะไม่สามารถค้นหาหลักฐาน หนังสือผ่อนผันการรับราชการทหาร(แบบ สด.41) พบแล้วก็ตาม แต่การที่บัญชียกเว้นหรือผ่อนผัน (แบบ สด.20) มีรายชื่อ นายกอภิสิทธิ์ฯ อยู่ ก็หมายความว่า นายกอภิสิทธิ์ ฯ ได้รับการอนุมัติให้ผ่อนผันแล้ว เพราะ การบันทึกรายชื่อลง สด.20 นั้นจะต้องได้รับอนุมัติการผ่อนผันจาก ผวจ.กรุงเทพฯ ก่อน สด.ก.ท. จึงจะคัดรายชื่อลง สด.20 และมีหนังสือสั่งยกเว้นผ่อนผัน ไปยัง ผอ.เขต (บัญชีสั่งยกเว้นผ่อนผัน (แบบ สด.19)) สด.เขตพระโขนง ก็จะต้องคัด สด.20 ขึ้นเป็นฉบับของเขต รายละเอียดตาม สด.19 (แปลว่า สด.20 จะมีอยู่ 2 แห่ง) ผลของการผ่อนผัน จะคงอยู่หรือหมดไป เป็นไปดังนี้
1) พ้นระยะเวลาที่ขอผ่อนผันไว้ (หมดเหตุผ่อนผัน)
2) จบก่อนกำหนดหรือลาออกหรือถูกให้ออกจากการศึกษา ก่อนกำหนด และกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว(หมดเหตุผ่อนผัน)
3) เมื่อหมดเหตุผ่อนผัน มีหน้าที่ไปแจ้งการหมดเหตุนั้น ที่เขตหรืออำเภอที่ตนอยู่หรือทำการประจำ ตาม มาตรา 15 (เมื่อแจ้ง ตาม ม.15แล้ว เขตพระโขนง จึงจะทราบการหมดเหตุผ่อนผัน ซึ่งก็จะได้ออกหมายเรียกฯให้ไปเกณฑ์ในคราวที่จะถึงถัดไป หากเขตหรืออำเภอที่อยู่หรือทำการประจำ เป็นเขตเดียวกันกับเขตที่เป็นภูมิลำเนาทหาร ก็จะออกหมายเรียกฯให้ไปได้เลยในวันที่มาแจ้งหมดเหตุ ตาม มาตรา 15 แต่ กรณีของ นายกอภิสิทธิ์ฯ นี้ ช่วงหมดเหตุผ่อนผัน ทำการประจำอยู่ จ.นครนายก (กรณี ถ้าหมดเหตุผ่อนผัน) ซึ่งก็ไม่น่าจะมีการแจ้งการหมดเหตุฯ ซึ่งการไม่แจ้งการหมดเหตุฯ ภายใน 30 วันนับจากวันหมดเหตุ ตาม มาตรา 15 จะมีความผิดตาม มาตรา 43 โทษจำ ไม่เกิน 1 ด. ปรับไมเกิน 200 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4) อย่างไรก็ตาม นายกอภิสิทธิ์ ฯ ไม่มีหมายเรียกฯ(สด.35) ในฐานะคนทีหมดเหตุผ่อนในปี 31 (ปีที่ นายกอภิสิทธิ์ฯ อยู่ในประเทศไทย ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะหมดเหตุผ่อนผันแล้ว ซึ่งไปร้องขอเข้ารับราชการเป็นทหารประจำการ ที่ รร.จปร.) ส่วนการเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร นั้นจะผิดเงื่อนไขการผ่อนผันหรือไม่ไม่ทราบ แม้จะผิดเงื่อนไข ตั้งแต่ตอนนั้น ความผิดก็คงอยู่ที่ มาตรา 43 ดังที่กล่าวแล้ว
ความหมายคือ เขตพระโขนงยังที่ทราบการหมดเหตุผ่อนผัน เมื่อไม่ทราบ การเรียกเข้ารับราชการทหารจึงยังไม่เกิด(การออกหมายเรียกฯ ณ ปีนั้นๆ แต่ หมายเรียกฯ ฐานะคนขาดฯ มีทุกปีตั้งแต่ ปี31-36 เพราะเขียนหมายตามบัญชีเรียกฯ(บัญชีเรียกฯที่ไม่ชอบฯ คือบัญชีที่ผิดตั้งแต่ปี 31-36) ซึ่งเป็นหมายเรียกฯที่ไม่ชอบฯ เป็นการออกหมายเรียกฯให้กับคนที่ สด.ก.ท.ขึ้นทะเบียนกองประจำการให้แล้ว สด.ก.ท.(ในนาม ผว.กทม.)จะต้องแจ้งการเข้ากองฯ ให้ ผอ.เขต ทราบ และ ผอ.เขต จะต้องงดเรียกฯ ) อย่างไรก็ตาม นายกอภิสิทธิ์ฯ ได้ไปติดต่อ ขอใบสำคัญแทนฉบับที่ชำรุดหรือสูญหาย กับ สด.เขต เมื่อวันที่ 8 เม.ย.31 ซึ่ง สด.เขตก็ไม่ได้มอบหมายเรียกฯ ปี 31 ให้แต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นหมายเรียกฯ ในฐานะคนขาดซึ่งจะต้องส่งดำเนินคดีก่อน หรือหมายเรียกฯ ฐานะคนหมดเหตุผ่อนผัน ซึ่งจะต้องสอบสวนเจ้าตัวหรือตรวจสอบเอกสารหลักฐานทางเขต ว่าบุคคลผู้นี้อยู่ในสถานะไหน ก่อนที่จะออกใบแทนฯ และใบแทนที่ออกให้ก็ บันทึกวันเข้าบัญชีทหารกองเกินผิดไปบันทึกวันเข้าบัญชีฯ เป็นวันเดียวกับวันที่ออกใบแทนฯ ทั้งที่รายละเอียดต่างๆ จะต้องคัดลอกจาก สด.1
3. การร้องขอเข้ารับราชการเป็นทหารประจำการ โดยการบรรจุ ตำแหน่ง อาจารย์ รร.จปร. ยศ ร.ต. ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.รับราชการทหาร เพราะหลักเกณฑ์การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นทหารประจำการ ของ รร.จปร. ใช้กฎหมายอื่นและระเบียบกระทรวงกลาโหม แต่มาตรา 11 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.รับราชการทหาร มีว่า “ทหารประจำการนั้น ถ้ายังมิได้ขึ้นทะเบียนกองประจำการ ก็ต้องขึ้นทะเบียนกองประจำการ และรับราชการในกองประจำการจนครบกำหนดตาม พ.ร.บ.นี้” ซึ่ง นายกอภิสิทธิ์ ฯ ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนกองประจำการ เมื่อต้องขึ้นทะเบียนกองประจำการ และต้องอยู่ในกองประจำการ ตาม พ.ร.บ. นี้ นั้น จะต้องอยู่ในกองประจำการเท่าใดจึงจะครบกำหนด จึงต้องไปดู มาตรา และกฎกระทรวงฯ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
มาตรา 8 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการให้กระทำโดยวิธีเรียกมาตรวจเลือก หรือจะรับเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็ได้
กฎกระทรวง ฉบับที่ 35
ข้อ 2 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีอื่น ให้กระทำโดยวิธีร้องขอ และบุคคลที่จะร้องขอต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์
ข้อ 3 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการ โดยวิธีร้องขอ ตาม ข้อ 2 ให้กระทำได้ดังนี้
(1) …..(2)…..
(3) การร้องขอเข้ากองประจำการโดยผู้ซึ่งยังไม่ถูกเรียกเข้าเป็นทหารกองประจำการหรือผู้ซึ่งเคยถูกเรียกเข้าเป็นทหารกองประจำการแล้่วแต่ไม่ถูกเข้ากองประจำการ ให้บุคคลดังกล่าวร้องขอต่อเจ้าหน้าที่กรมกองฝ่ายทหารหรือฝ่ายตำรวจที่บุคคลนั้นประสงค์จะเข้ารับราชการกองประจำการ เมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าวพิจารณารับบุคคลใด ให้นำบุคคลนั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการ การที่กรมกองฝ่ายทหารหรือฝ่ายตำรวจจะรับผู้ร้องขอเข้าในสังกัดหรือเหล่าใด ให้เป็นไปตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด
ข้อ 5 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการตาม ข้อ 3(3) และการรับบุคคลเข้าเป็นนักเรียนในโรงเรียนทหาร ให้รับได้โดยไม่จำกัดภูมิลำเนาทหาร
มาตรา 9 วรรคหนึ่ง ทหารกองเกินซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณื เป็นผู้ที่อยูในระหว่างที่จะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ และเมื่อต้องเข้ากองประจำการจะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการมีกำหนด 2 ปี ส่วนผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษหรือเมื่อมีกรณีพิเศษ จะให้รับราชการทหารกองประจำการน้อยกว่า 2 ปีตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็ได้ ฯ
กฎกระทรวง ฉบับที่ 24
ข้อ 2 ผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษซึ่งสมควรอยู่ในกองประจำการน้อยกว่า 2 ปี ตามความในมาตรา 9 วรรคหนึ่ง คือ
(1)….(2)….(3)…(4)….(5)….(6)….(7)….
(8) ผู้สำเร็จชั้นอุดมศีกษาหรือผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยฐานะเทียบได้ไม่ต่ำกว่าชั้นอุดมศึกษา
(9)….(10)…..(11)…..(12)…..(13)….
ถ้าเป็นบุคคลดังกล่าวใน (1) ถึง (8) ให้รับราชการทหารกองประจำการ 1 ปี แต่ถ้าเป็นผู้ที่ได้ร้องขอเข้ารับราชการในกองประจำการ ก็ให้รับราชการกองประจำการ เพียง 6 เดือน
สรุปได้ว่า นายกอภิสิทธิ์ ฯ เข้ากองประจำการ ด้วยช่องทาง มาตรา 11 วรรคสอง ประกอบกับ มาตรา 8 ต่อด้วย กฎกระทรวง ฉบับที่ 35 ข้อ 2 ข้อ 3 (3) โดยใช้วุณวุฒิปริญญาตรี ตาม มาตรา 9 วรรคหนึ่ง ต่อด้วย กฎกระทรวง ฉบับที่ 24 ข้อ 2 (8)
หลักฐานทางบัญชีเรียกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (สด.16) ทุกปีทีปรากฏในบัญชีฯ ว่า “ขาด” นั้น เป็นการผิดพลาดของ จนท. สัสดี กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ ปี 2530 เป็นต้นมา เหตุเพราะไม่จำหน่ายชื่อ นายกอภิสิทธิ์ ฯ ออกจาก บัญชีเรียกฯ (สด.16) ว่า ได้รับการผ่อนผัน ตาม มาตรา 27(2) นั้น ผลจึงกลายเป็นว่า นายกอภิสิทธิ์ฯ ขาดการตรวจเลือฯ
จะเห็นได้จาก การขึ้นทะเบียนกองประจำการ และออกเลขเครื่องหมายให้ กับนายกอภิสิทธิ์ ฯ ของ สัสดีกรุงเทพมหานคร เพราะย่อมยืนยันความถูกต้องของหลักฐานทีประกอบการนำตัวขึ้นทะเบียนกองประจำการ (จ.นครนายกขึ้นแทน) และหลักฐานต่างๆ ที่สัสดีกรุงเทพมหานคร มีอยู่(ซึ่งบัญชีเรียกฯ ก็ขาดการตรวจเลือกฯ อยู่ แสดงว่า มีหลักฐานอื่นยืนยันว่าไม่ใช่คนขาดฯ และน่าจะเป็น บัญชียกเว้นหรือผ่อนผัน (สด.20)) และเมื่อ สัสดีกรุงเทพฯ ขึ้นทะเบียนฯ และออกเลขเครื่องหมาย ทางทหาร ให้แล้ว คือ ท.บ.2531 ก.ท.10803 และจำหน่ายบัญชีรายชื่อทหารกองเกินและทหารกองหนุนประเภทที่ 2 (สด.27) ว่าเข้ากองประจำการ ฯ ในปี 31 นั้นเอง แต่ทำไม สัสดีกรุงเทพฯ หน่วยงานเดียวกันนี้ ไม่ยอมจำหน่ายบัญชีเรียกฯ (สด.16) โดยที่ปล่อยให้ยังคงขาดอยูต่อไป และยังคัดชื่อให้ขาดอยู่ทุกปีไปจนถึงปี 36 พ้นกำหนดเรียก และไม่มีการแจ้งให้เขตจำหน่าย การเข้ากองฯ ที่ บัญชีทหารกองเกิน (สด.1 )และ ต้นขั้ว ใบสำคัญ(สด.9) หรือมีการแจ้งแล้ว แต่เขตก็ไม่ดำเนินการจำหน่ายก็ไม่ทราบได้ การที่ สัสดีกรุงเทพ ดำเนินการบันทึกการจำหน่ายไม่ถูกต้องครบถ้วน ในเอกสารบัญชีต่างๆ ที่ปรากฏให้เห็นตามที่ ชี้ให้เห็นมานี้ พอที่จะคาดการณ์ได้ว่า เมื่อปี 30 ซึ่งเป็นปีที่ นายกอภิสิทธิ์ฯ ขอผ่อนผัน ตาม มาตรา 27(2) นั้น การบันทึกการผ่อนผันในบัญชีเรียกฯ (สด.16) ไม่เกิดขึ้นเพียงเอกสารเดียว ทั้งที่มีเอกสารอื่นบงบอกถึงการได้รับสิทธิผ่อนผัน จึงกลายเป็นว่าอภิสิทธิ์ ฯ ขาดการตรวจเลือกฯ เพราะการไม่จำหน่ายบัญชีเรียกฯ จึงมีขื่อให้คณะกรรมการตรวจเลือกฯ เข้าใจว่าคนที่จะต้องเรียกฯ และเมื่อเรียกแล้วไม่มา ก็จึง “ขาด” ทั้งที่เหตุแห่งการผ่อนผันตาม ม.27(2) เกิดมาก่อน ที่เหตุแห่งการขาดมาทีหลัง จึงถือว่า “เหตุแห่งการขาด” เป็นโมฆะ
จะว่าไปแล้ว สด.ก.ท. ยืนยันการขาด ของนายกอภิสิทธิ์ฯ เมื่อปี 30 ก็ไม่แปลกใจอะไร พอเข้าใจได้ ในเมื่อปี 30 บัญชีเรียกฯ บันทึกว่า “ขาด” แต่ สัสด.ก.ท. จะไม่สามารถยืนยัน ว่านายกอภิสิทธิ์ฯ ขาด ในปี 31, 32, 33, 34, 35, 36 ได้เลย เพราะว่า สด.ก.ท. เป็นผู้ที่กำหนดเลขเครื่องหมายให้ นายกอภิสิทธิ์ฯ และจำหน่าย บัญชีรายชื่อ ฯ (สด.27) นั่นหมายถึงว่า สด.ก.ท. เป็นผู้กำหนดให้นายกอภิสิทธิ์ฯ เข้ากองประจำการ ตามวัน เดือน ปี ที่ล้วงวันรับราชการให้ ตามที่ปรากฏใน ทะเบียนกองประจำการ (สด.3) และ สด.ก.ท. อีกเช่นกัน ที่กำหนดให้ นายกอภิสิทธิ์ฯ ขาดการตรวจเลือกฯ โดยคัดรายชื่อไว้ใน บัญชีเรียกฯ(สด.16) ประเภทคนขาดการตรวจเลือกฯ ไว้ทุกปีหลังจากขึ้นทะเบียนกองประจำการให้แล้ว ยังมีเอกสารอีกมากมายทั้งที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สด.ก.ท. และในความรับผิดชอบของ สด.เขต ต่างๆ ที่ไม่ได้ทำการบันทึกให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผน ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การปลดย้ายประเภทด้านหลัง สด.1(สด.เขต) และการปลดย้ายประเภทของ สด.27(สด.ก.ท.) เป็นต้น
คนทั่วไปยังเข้าใจผิดอีกหลายเรื่อง เช่น

  • บัญชีเรียกฯ (สด.16) ประเภท “คนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน” คนทั่วไป เห็นชื่อที่หัวบัญชี แล้วเข้าใจว่า คนทุกคนที่อยู่ในบัญชีประเภทนี้ คือคนที่ พ้นจากการยกเว้นหรือหมดเหตุผ่อนผันแล้วทั้งหมด ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่เช่นนั้น มีส่วนหนึ่งที่ใช่ ยังมีคนอีกหลายประเภทที่รวมอยู่ในบัญชีนี้ บัญชีเรียกฯ มีอยู่ 5 ประเภท คือ 1) “คนหลีกเลี่ยงขัดขืน” , 2) “คนที่ขาดการตรวจเลือก” , 3) “คนที่อยูในกำหนดเรียกธรรมดา” , 4) “คนที่พ้นฐานะยกเว้นผ่อนผัน”, 5) “คนผ่อนผัน” คนที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะอยู่ในบัญชีเรียกฯ อีก 4 ประเภท จะต้องมาอยู่ใน บัญชีเรียกฯ ประเภท “คนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน” นายกอภิสิทธิ์ ฯ อยู่ประเภท “ตกค้างการลงบัญชีทหารกองเกิน” ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะอยู่ในบัญชีประเภทอื่นๆ อีก 4 ประเภท ก็ต้องอยู่ในบัญชีเรียกฯ “คนที่พ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน” (เฉพาะเมื่อปี 2530) ไม่ได้หมายความว่า นายกอภิสิทธิ์ฯ พ้นจากฐานะการยกเว้นหรือผ่อนผันแล้ว ตามชื่อบัญชีฯ คนที่อยู่ในบัญชีทั้ง 5 ประเภทนี้ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะขอยกเว้นหรือผ่อนผัน ตามที่ พ.ร.บ.รับราชการทหาร บัญญัติ แต่ถ้าบุคคลใดที่กระทำผิด พ.ร.บ. มาตราใดมาตราหนึ่ง และมีคดีความอยู่จะมาขอยกเว้นหรือผ่อนผัน(เมื่อได้ตัว) ก็จะต้องส่งดำเนินคดีก่อน ส่วนบัญชีเรียกฯ ประเภท “คนผ่อนผัน” มันเป็นบัญชีเรียกฯ ของ นักเรียก นิสิต นักศึกษา ที่อยู่ในสถาบันการศึกษาของประเทศไทยอย่างเดียวเท่านั้น
  • บางคนเข้าใจว่า นายกอภิสิทธิ์ฯ ถึงกำหนดเกณฑ์ทหารแล้วไม่ไปเกณฑ์ ความผิดสำเร็จแล้ว แต่ทำไมไปสมัครบรรจุเป็นอาจารย์ รร.จปร. ได้ ต้องทำความเข้าใจว่า การไม่ไปเกณฑ์ทหารไม่ได้หมายความว่าผิดกฎหมายทุกคน ถึงแม้ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร ก็มิใช่ว่าจะมีความผิดฐานเดียวกันทุกคน ดังนั้นการฟ้องร้องดำเนินคดี จะต้องแยกแยะออกไป และโทษก็ต่างกันออกไป ไม่ใช่ความเป็น 2 มาตรฐานแต่อย่างใด มีตัวบทกฎหมายกำหนดไว้แล้วอย่างชัดเจน การจะดูว่าไปเกณฑ์/ไม่ไปเกณฑ์ ทหาร ผิดหรือไม่ ผิดอย่างไร คนที่จะต้องไปเกณฑ์ คือคนที่ถูกเรียกฯ โดยหมายเรียกของ นอภ. หรือ ผอ.เขต (สด.35) ในหมายเรียกฯ จะกำหนดวัน เดือน ปี เวลา สถานที่ไว้แน่นอน คนที่ไม่ถูกเรียกฯ ไม่มีหน้าที่ไปเกณฑ์ แต่จะผิดฐานไหนอย่างไร และจะต้องปฏิบัติอย่างไร จึงจะถึงขั้นตอนการเกณฑ์ จะไม่ลงไปในรายละเอียด และการเีรียกฯ นั้นจะต้องเรียกฯเป็นปีๆ ไป ถ้ายังไม่มาเกณฑ์ ต้องออกหมายเรียกฯให้มาปีต่อไปใหม่ เป็นอย่างนี้ไปจนกว่าจะพ้นกำหนดเรียกฯ กรณีของ นายกอภิสิทธิ์ฯ ถูกเรียกฯครั้งเดียวเมื่อ 4 ก.ค.29 ให้ไปเกณฑ์วันที่ 11 เม.ย.30(เข้าใจว่ากำหนดวันเกณฑ์วันนั้น เพราะ ปี31-32 ก็กำหนดวันเกณฑ์เป็นวันที่ 11 เม.ย.เช่นกัน) แต่ นายกอภิสิทธิ์ฯ ใช้สิทธิ์ ผ่อนผัน ขอไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ ตาม มาตรา 27(2) แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 ซึ่งขอผ่อนผัน มีกำหนด 3 ปี การถูกเรียกฯ ของปี 2530 นายกอภิสิทธิ์ฯ ก็ไม่ต้องมาตามหมายเรียกฯ นั้น ตาม มาตรา 27(2) และผู้อนัมติให้ นายกอภิสิทธิ์ฯ ไม่ต้องมาเข้ารับการตรวจเลือกฯ คือ ผว.กทม. สำหรับการขอผ่อนผันนั้น จะผ่านทาง เขตพระโขนง หรือผ่านทาง ก.พ. ต้องถามเจ้าตัว แต่ผู้อนุมัติคือ ผว.กทม. และเมื่ออนุมัติแล้ว จะออก “หนังสือผ่อนผันการเข้ารับราชการทหาร” (สด.41) ให้เจ้าตัวถือไว้เป็นหลักฐาน ส่วนหลักฐานที่ทางราชการมีคือ สำเนาคู่ฉบับ ของหนังสือผ่อนผันฯ(สด.41) (อยู่ี่ที่ สด.ก.ท.)และ บัญชียกเว้นหรือผ่อนผัน (สด.20) (มีที่ สด.ก.ท. และ สด.เขตพระโขนง) ตามหลักฐานใน สด.20 ที่ นายกอภิสิทธิ์ฯ มีอยู่ ระบุเลขที่ลงรับหนังสือ และวันเดือนปี อยู่ในเดือน พ.ย.29 แปลว่าได้รับอนุมัติการผ่อนผันก่อนที่จะถึงกำหนดเกณฑ์ใน 11 เม.ย.30 หลักฐานหรือเอกสารอื่นที่ขัดแย้งและเหตุการณ์อื่นที่เกิดขึ้นทีหลังจึงเป็นอันใช้ไม่ได้(ความหมายก็คือ นายกอภิสิทธิ์ฯ ไม่ได้มีความผิดเรื่องการไม่ไปเกณฑ์ทหาร ปี 2530 ) ถ้าเป็นไปตามหนังสือผ่อนผัน นายกอภิสิทธิ์ฯ จะไปถูกเรียกฯ อีครั้งในปี 2533 แต่ถ้าหมดเหตุผ่อนผันก่อนกำหนดนั้น เมื่อเจ้าตัวไปแจ้งการหมดเหตุ ก็จะถูกเรียกฯในปีที่จะถึงกำหนดเกณฑ์นั้นๆ
  • คำถามมีว่า นายกอภิสิทธิ์ฯ เข้าบรรจุรับราชการทหาร ยศ ร.ต. ที่ รร.จปร. เมื่อ ปี 2531 ได้ไหม/ถูกต้องหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าการที่ทางราชการทหารจะบรรจุบุคคลพลเรือนเข้ารับราชการทหารประจำการ (ไม่ใช่ทหารกองประจำการ) เขามีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ที่ไม่ใช่ พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 ซึ่งทาง รร.จปร. เขาต้องดูกฎระเบียบดังกล่าวอย่างละเอียดแล้ว จึงขอบรรจุไปที่ กองทัพบก และกองทัพบกก็บรรจุให้ แปลว่าหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ถูกต้องครบถ้วน (ขอย้ำว่าอย่าไปดู พ.ร.บ.รับราชการทหาร เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกับการบรรจุ การบรรจุเข้ารับราชการทหารนั้น รับได้ทั้งคนที่ยังไม่เป็นทหารกองเกิน ,เป็นทหารกองเกินแต่ยังไม่ผ่านการเกณฑ์ ,ผ่านการเกณฑ์แล้ว ไม่ถูกเข้ากองประจำการ และผ่านการเกณฑ์แล้วถูกเข้ากองประจำการแล้ว และปลดจากกองประจำการแล้ว ) และ นายกอภิสิทธิ์ฯ ก็อยู่ในประเภท คนที่ยังไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร แต่ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะ ที่หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร แต่อยู่ในฐานะการผ่อนผันการเกณฑ์ฯ ซึ่งไม่ขัดคุณสมบัติอะไร เพราะเมื่อบรรจุเข้ารับราชการทหารประจำการแล้ว ก็ต้องอยู่ในกองประจำการ ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร 2497 ตาม มาตรา 11 วรรคสอง ซึ่งนั่นก็คือการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 ครบถ้วน(ระหว่างรับราชการทหารประจำการ ในขณะเดียวกันก็อยูในกองประจำการไปด้วยควบคู่กันไป)
  • เอกสารหลักฐานตัวจริงที่ นายกอภิสิทธิ์ฯ ถืออยู่ไปไหนหมด ไม่มีมายืนยัน 1) ใบสำคัญ (สด.9) ใบเดิมหาย แจ้งขอใบแทน 2) ใบสำคัญ(สด.9) ฉบับแทน ใช้เป็นเอกสารประกอบการนำตัวขึ้นทะเบียนกองประจำการ และเมื่อ สด.ก.ท.ขึ้นทะเีบียนกองประจำการแล้ว จะส่งให้ เขตผู้ออกใบสำคัญเป็นผู้ทำลายใบสำคัญนั้น 3) หนังสือผ่อนผันฯ (สด.41) น่าจะหายไปพร้อมกับ สด.9ใบเดิม จึงมีการออกหนังสือรับรองการผ่อนผันฯ เพื่อนำไปเป็นเอกสารประกอบการนำตัวขึ้นทะเบียนกองประจำการ(ซึ่งใบรับรองนี้ก็มีการพิมพ์ข้อความผิด )

เอกสารที่ทางราชการ สด.ก.ท. ไม่มี(ทำลายไปแล้ว) คือ บัฐชียกเว้นผ่อนผัน (สด.20),สำเนาคู่ฉบับ หนังสือผ่อนผัน (สด.41) ซึ่งจะเป็นหลักฐานยืนยันว่า นายกอภิสิทธิ์ ฯ ไม่ได้ผิด พ.ร.บ.รับราชการทหาร
เอกสารที่ทางราชการ สด.ก.ท. มี (แต่บันทึกผิด) คือ บัญชีเรียกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ(สด.16) นอกจาก สำเนา สด.20 ที่ ปชป.นำมาโชว์แล้วไม่สามารถหาหลักฐานฉบับตัวจริงอื่นๆมาหักล้างได้ว่าบันทึกผิด แต่ที่เชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็เพราะว่า การบันทึกหรือไม่บันทึกที่ก่อให้เกิดความผิดพลาด มีให้เห็นต่อมาอีกและยังเป็นหลักฐานยืนยันอยู่ คือ เมื่อ ขึ้นทะเบียนกองประจำการให้แล้ว ไม่มีการจำหน่ายรายชื่อออกจากการขาดการตรวจเลือกฯ

อ้างอิง : http://sdsettakarn.w...ื่อง-การปฏิบัต/


นังแต๋มเต้นหนี คุณ solidus ไล่เตะไล่ต่อยจนเหนื่อย

ไม่รู้ คุณ Ricebeanoil โผล่มาจากไหน....โพสต์เดียวสลบเหมือดเลย...

:lol:

#350 itsorachai2

itsorachai2

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 50 posts

ตอบ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:04

เขาเหล่านั้นความรุ้ยังไม่เท่ามดเลย




ผู้ใช้ 5 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 5 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน