Quote

ฉบับนี้ กองควบคุมคุณวุฒิ สบ ทบ ส่งให้ รร จปร ซึ่งเป็นต้นสังกัดขอส่งใบสมัครของหน่วยงานโดยตรงให้คุณอภิสิทธิ์กรอกใหม่
และขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่ง ข้อ 1, 2 ไม่มีปัญหา แต่ ข้อ 3 ขอหนังสือผ่อนผันการเำกณฑ์ฯ
ประเด็นอยู่ตรงนี้หล่ะค่ะ...
เอกสารฉบับนี้...กองควบคุณวุฒิ สบ ทบ ส่งให้ รร จปร ซึ่งเป็นต้นสังกัดเพื่อให้เขียนใบสมัคร
ของหน่วยงานโดยตรง และขอเอกสารเพิ่ม
สังเกตด้านล่างซ้ายในวงกลมสีแดง..ข้อความตรงนั้น
" นายอภิสิทธิ์ฯ นำเรื่องมาส่งด้วยตัวเอง จึงไม่มีหนังสือปะหน้า
ข้อ 3 หนังสือผ่อนผันการเกณฑ์ฯ ได้ประสานเรื่องนี้กับ กพ ทบ แล้วลงชื่อ..อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ "
ข้อความนี้...หมายถึงอะไร...คงไม่ต้องอธิบาย
และหนังสือรับรองที่ สัสดีกรุงเทพออกให้ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2530
คาดว่าน่าจะเป็นหนังสือที่รับรองการผ่อนผันฯ ซึ่งผู้ที่ยื่นขอมีความเป็นไปได้ว่า
น่าจะ กพ ทบ เพื่อให้ประกอบการบรรจุ...
ถ้าจะถามว่า...การผ่อนผันที่ระบุในหนังสือรับรองเป็น 29 (3) ประเด็นนี้คงต้อง
ย้อนถามกลับที่หน่วยงานที่ออกหนังสือรับรอง...
เพราะคุณอภิสิทธิ์คงไม่ได้เจาะจงให้หน่วยงานออกหนังสือรับรองได้ตามอำเภอใจ
หรอกน่ะ...ที่สำคัญ..ผู้ที่ยื่นคำร้องขอหนังสือรับรองฉบับนี้จะใช่คุณอภิสิทธิ์หรือไม่
90%..ไม่น่าจะใช่ น่าจะเป็นการยื่นขอคำรับรองระหว่างหน่วยงานมากกว่า
ประเด็นที่ถามว่า สด.41 ต้นฉบับอยู่ที่ใคร...ประเด็นก็ตอบได้ยาก
เพราะระบบราชการในปี 2530 ระเบียบการเรียกเอกสารใช้ต้นฉบับหรือไม่
หรือใช่เพียงสำเนา...คงไปถามเจ้าหน้าที่ในประจำการอยู่ในช่วงเวลานั้น
แต่ที่แน่ ๆ ...ต้นขั้วต้องมีแน่ รวมไปถึง สด.20 ด้วย..
ดังนั้น ถ้าเอกสารที่คุณอภิสิทธิ์ถือไว้เป็นเท็จ หรือไม่มีการรับรองจากหน่วยงาน
ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเป็นผู้จัดเก็บเอกสารถึงไม่นำมาแสดง
เพื่อหักล้างคำกล่าวอ้างของคุณอภิสิทธิ์...เพื่อทุกอย่างจะได้จบเกมส์เสียที
สุดท้าย...ขอยุติการสนทนาประเด็นนี้แต่เพียงเท่านี้ เพราะ
1) เป็นผู้หญิง จึงไม่มีประสบการณ์การเกณฑ์ทหารโดยตรง จึงมิอาจล่วงรู้ว่า
การปฎิบัติในสนามตรวจเลือกจริง เป็นอย่างไร ระเบียบและข้อปฏิบัติที่ใช้จริง
ณ วันตรวจเลือก จะเข้มงวดตาม พรบ หรือ กฎทรวงมากน้อยเพียงใด และ
การตรวจเลือกในแต่ละภูมิลำเนาก็ต่างกัน สิ่งที่รู้ก็คือสิ่งที่บัญญัติไว้ใน
พรบ และ กฎกระทรวงเท่านั้น
2) หากคุณเชื่อมั่นว่า..ส่ิงที่คุณรับรู้มาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง คงยากที่จะเปิดใจ
รับข้อมูลที่ขัดแย้งกับสิ่งที่คุณเชื่อมั่นอย่างสิ้นเชิง นั้นจะมาซึงการถกเถียง
ที่ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะจะวนกลับมาที่เดิม...คือ ไม่ไปรับการตรวจเลือก
ในวันที่ 7 เมษายน 2530 คือการหนีทหาร การขึ้นทะเบียนกองประจำการ
ไม่ถูกต้อง...หากคุณฝังใจเช่นนี้แล้ว...คงยากที่คุณจะยอมรับข้อมูลอื่น
3) มีภาระกิจอื่นที่สำคัญกว่าการสนทนาให้ประเด็นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น
มานานนับ 10 ปี และไม่เหตุที่ต้องมานั่งถกให้เสียเวลา ในขณะที่มีอย่างอื่น
ให้ทำอีกตั้งมากมาย เช่น
กรณี ทุจริตจำนำข้าว การตกอันดับผู้ส่งออกข้าว ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทบต่อ
ผลประโยชน์ของเกษตรกรโดยตรง ในฐานะประชาชนควรติดตามผลและ
กดดันหน่วยงานที่เกี่ยวกับ ให้เร่งดำเนินการแก้ไข...
มากกว่า..ไปสนใจกับเรื่องที่ผ่านพ้นมาแล้ว และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ
การดำเนินชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทย...