15 ความเห็นในกระทู้นี้

[kikzero]

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์แฉต้นเหตุทำน้ำท่วมครั้งใหญ

ยกเครดิตให้ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับ 6 พย 54 หน้า 9 (ความจริงวันนี้) โดย:ชีวิตใหม่ กับใคร สักคน

[หนูอ้อย]

เดลินิวส์วันไหนเนี่ย
ฉบับอื่นแฉไปหลายวันแล้ว
เช่นโพสต์ทูเดย์ คมชัดลึก
น่าลงวันที่ให้ด้วยว่าเดลินิวส์บับไหน คอลัมน์อะไร

[kikzero]

ลงให้แล้วนะครับ

[Uranus]

สงสัยเพิ่งตื่น

[tu053]

รอ คมช้าดลึกมาแฉอีกฉบับ อิอิ

[buaboon]

นักการเมืองคนดัง=ใคร

[Shart]

ยกเครดิตให้ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับ 6 พย 54 หน้า 9 (ความจริงวันนี้)

share fb http://www.facebook....1&type=1&ref=nf

[หนูอ้อย]

รอ คมช้าดลึกมาแฉอีกฉบับ อิอิ

คมชัดลึก จัดให้ก่อน......
หลอกตัวเองได้แต่ไม่ใช่กับประชาชน
: ขยายปมร้อน โดยศรายุทธ สายคำมี 4 พ.ย.2554
http://www.komchadlu...%E0%B8%8A..html
*
*
*
*


ปกติแล้วการบริหารจัดการเขื่อนจะอยู่ภายใต้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำแห่งชาติ มีกรรมการจากหลายกระทรวง โดยมีกรมชลประทานเป็นเลขานุการ

เอาเฉพาะเขื่อนภูมิพล จะมีคณะกรรมการชุดเล็กเพื่อบริหารจัดการเขื่อนอยู่ แบ่งเป็นใต้เขื่อนที่เรียกว่า แม่ปิงตอนล่าง เริ่มจากใต้เขื่อนไปจนถึงแม่น้ำเจ้าพระยา กับเหนือเขื่อน เรียกว่า แม่ปิงตอนบน เริ่มจาก จ.ตาก ขึ้นไปหา จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการน้ำที่จะเข้าหรือปล่อยออกไป

แต่การจะปล่อยน้ำออกจากเขื่อนได้เมื่อใด เท่าไหร่ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจะเป็นคนสั่ง ซึ่งคนสั่งก็ต้องรู้ว่า นอกจากเขื่อนภูมิพลแล้ว ยังมี แม่น้ำวัง กับแม่น้ำยม ที่อยู่ใต้เขื่อนภูมิพล จะไหลมาสมทบ แล้วก็ไปรวมกับน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์มารวมกันอีก

ตรงนี้เหมือนจะคำนวณได้ แต่ความจริงได้แค่คร่าวๆ เพราะน้ำจาก แม่น้ำวัง และแม่น้ำยมนั้น คำนวณไม่ได้ ถึงแม้แม่น้ำวังจะมีเขื่อนกิ่วลม แต่ก็เป็นลักษณะที่ว่า ถ้าเต็มก็เทออกหมด ส่วนแม่น้ำยมไม่ต้องพูดถึง

กรมชลประทานจะมารู้ว่าน้ำเหนือลงมามากน้อยแค่ไหน ก็ต้องไปดูที่ความเร็วที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งปกติจะไหลผ่านประมาณ 2,000 กว่าลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ที่ผ่านมาช่วงที่ลงมาหนักๆ มันทะลุ 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

นั่นคือสาเหตุที่ทำให้นครสวรรค์เป็น "นครบาดาล" เช่นเดียวกับ ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี

ถามว่าที่น้ำมันมามากเหมือนกับยักษ์ยกเขื่อนภูมิพลคว่ำใส่ภาคกลางของประเทศนั้น สาเหตุเพราะอะไร นักการเมืองมีคำตอบว่า รัฐบาลชุดที่แล้ววางยา สั่งเขื่อนให้กักน้ำเอาไว้ หรือไม่ก็บอกว่า เข้ามาบริหารประเทศเขื่อนก็เต็มหมดแล้ว

คนเขื่อน" เขาฟังแล้วอยากหัวเราะดังๆ กับคำพูดที่หลอกต้มคนฟัง ราวกับประชาชนกินหญ้าเป็นอาหาร

เขาบอกว่า รัฐบาลนี้เข้ามาเป็นช่วงที่จังหวัดในพื้นที่ภาคกลางกำลังจะเกี่ยวข้าว ทั้ง นครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท รวมทั้งสุพรรณบุรี แล้วมันพอดีกับช่วงนั้นจะเปิดโครงการรับจำนำข้าว มันก็เลยมี "รัฐมนตรี คนนั้น" สั่งการให้ กฟผ.ห้ามระบายน้ำออกมา

ช่วงนั้นพายุเข้าประเทศไทยเป็นลูกที่ 3 แล้ว รู้อยู่เต็มอกว่าฝนตกเหนือเขื่อนเท่าไหร่ ร่องมรสุมพาดผ่านตรงไหน แต่ กฟผ.ก็น้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ได้

"ผมเป็นคนสั่งคุณ คุณต้องปฏิบัติตาม" น้ำเสียงท่าทีแสดงอำนาจบาตรใหญ่จนที่ประชุมเงียบกริบ แม้แต่ตัวแทนจากกรมชลประทาน ที่ต้องไปบริหารทิศทางไหลของน้ำหลังจากออกจากเขื่อนไปแล้ว

เมื่อไม่กล้าพูด ไม่กล้าถกเหตุถกผลในวันนั้น วันนี้ผู้ว่าการ กฟผ.ก็ย่อมตกเป็นจำเลยของสังคม ส่วนคนสั่งก็ต้องรอให้ความจริงจากบันทึกการประชุมถูกนำมาตีแผ่ให้สังคม ให้นักธุรกิจญี่ปุ่นในนิคมอุตสาหกรรมที่จมน้ำได้รับรู้

ส่วนรู้แล้วจะทำอย่างไร หรือจะเอาไปตัดหัวคั่วแห้งอย่างไรก็ค่อยว่ากันอีกที !

แต่ที่แน่ๆ น้ำจากเขื่อนภูมิพลไหลหลากลงมาขนาดนั้น ก็เพราะอั้นไม่อยู่จริงๆ

จะให้อั้นได้อย่างไร ในเมื่อลักษณะเขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนที่มีโรงไฟฟ้าอยู่กลางเขื่อน ถ้าปล่อยจนล้นเขื่อน น้ำจะโถมเข้าหาโรงไฟฟ้า เข้ามาเมื่อไหร่ความวิบัติฉิบหายของประเทศชาติคงจะบังเกิด ไม่ใช่เขื่อนแตก แต่โรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟเลี้ยงประเทศแตก

วิศวกรเขาออกแบบไว้ดี สปิลล์เวย์ของเขื่อนภูมิพลจึงได้เจาะภูเขาเป็นทางระบายน้ำออกอีกด้าน เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับตัวโรงไฟฟ้า และเมื่อล้นมันก็ต้องปล่อยออกมาแบบไม่คิดชีวิต เพื่อไม่ให้ทะลักเข้าโรงปั่นไฟฟ้าของเขื่อน

นี่คือสาเหตุที่น้ำหลากลงมาท่วม กระแทกทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า และมาสุดท้ายที่ กทม. ก่อนจะโจนลงทะเล

หลอกตัวเองเพื่อให้สบายใจมันได้อยู่แล้ว แต่กับประชาชน ให้ความจริงกับเขาได้ไหม ?

[Sittitat]

นักการเมืองคนดัง=ใคร

บอกดังๆเลยว่า ไอ้ปลอด สั่งกั๊กน้ำ

[หนูอ้อย]

รอ คมช้าดลึกมาแฉอีกฉบับ อิอิ

อีกบทความหนึ่งในคมชัดลึก
V V V
น้ำยังไม่ลดอย่าปัดความรับผิดชอบ
: กระดานความคิด โดย พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์

เมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติต่อประชาชนอยู่ 2 กรณี กรณีแรก การทำนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ ให้กลายเป็นความจริงให้ได้ซึ่งนอกจากจะเป็นเรื่องของจรรยาบรรณทางการเมืองแล้ว ยังจะต้องคำนึงถึงว่า ในจำนวนประชากรที่เลือกพรรคเพื่อไทย 15 ล้านคนนั้น มีมากกว่าครึ่งที่เลือกเพราะนโยบายพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เพราะรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือเป็นคนเสื้อแดง แต่ปัจจุบันนี้นโยบายขายฝันดังกล่าวมีแนวโน้มว่า “จะทำไม่ได้”


กรณีที่สอง เป็นสัญญาประชาคม ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ไว้กับประชาชน 3 เรื่อง ซึ่งไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คู่แฝด น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะรู้หรือไม่ ได้แก่ 1.แก้ไข ไม่แก้แค้น 2.สร้างสุข สลายทุกข์ 3.จะไม่ทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ปัจจุบันนี้เกือบ 3 เดือนแล้วที่พรรคเพื่อไทยนำอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย ไปใช้ในการบริหารประเทศ โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ใช้อำนาจนั้น จะเห็นได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถที่จะทำตามที่เคยพูดไว้ได้เลย ทั้งนโยบายและสัญญาประชาคม เช่น “การแก้ไข ไม่แก้แค้น” แต่ข้าราชการถูกโยกย้ายยับเยินจากตัวใหญ่ไปสู่ตัวเล็กมากขึ้นเรื่อยๆ ประเด็นนี้จึงทำให้ข้าราชการส่วนใหญ่เกิดการชะลองานขึ้นในภาวะน้ำท่วม เพราะไม่รู้ว่าจะถูกย้ายไปไหน ระบบงานในส่วนราชการจึงเกิดความสับสนไปหมด

เรื่อง “สร้างสุข สลายทุกข์” ก็เห็นได้ชัดเจนว่า ประชาชนค่อนประเทศเดือดร้อน เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน หลายแสนคนถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารในระดับประเทศแบบลองผิดลองถูก ซึ่งเคยใช้ได้ผลในการบริหารภาคเอกชนจนทำให้เกิดความผิดพลาดซ้ำซากในการแก้ปัญหาน้ำท่วม จากอุทกภัยธรรมดา ได้พัฒนาไปสู่มหาอุทกภัยในที่สุด การออกมาแก้ตัวว่า อำมาตย์ หรือพรรคประชาธิปัตย์กักน้ำในเขื่อนไว้แล้วแอบปล่อยน้ำออกมาเพื่อล้มรัฐบาล คนส่วนใหญ่คงไม่มีใครเชื่อหรอกครับ คนปล่อยข่าวคงลืมไปว่าการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนอยู่ภายใต้ “คณะกรรมการบริหารน้ำแห่งชาติ” ซึ่งแบ่งย่อยออกมาเป็น อนุกรรมการ ควบคุมดูแลแต่ละเขื่อนอีกทอดหนึ่ง ดังนั้นหลักฐานจากการปฏิบัติงาน บันทึกการประชุม การสั่งการและข้อมูลระดับน้ำในเขื่อน ฯลฯ มีอยู่มากมาย ลงไปถึงตัวบุคคลที่เป็นกรรมการ อนุกรรมการในขณะนั้นอีกด้วย แค่นำเหตุการณ์เปิดจากสื่อต่างๆ มาตรวจสอบดู ก็จะรู้ว่า รัฐมนตรีหรือคนที่ออกมาโจมตีเรื่องการปล่อยน้ำดังกล่าวนี้ทำอะไรอยู่บ้าง ในขณะที่เกิดพายุพัดเข้ามาในประเทศไทยแต่ละลูก ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลเคยให้ความสนใจหรือให้ความสำคัญกับเรื่อง “น้ำและเขื่อน” บ้างหรือเปล่า ข้อเท็จจริงเหล่านี้แม้แต่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเองก็รู้อยู่เต็มหัวอกหัวใจครับ เพียงแต่ว่า “น้ำท่วมปาก” พูดไม่ได้เท่านั้น

การพยายามหา “แพะมารับบาป” ก็เริ่มปรากฏขึ้นเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มบ้านเลขที่ 111 หรือรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลเอง แต่ยิ่งแก้ตัวเท่าไหร่ก็ยิ่งรัดตัวเองแน่นเข้าไปอีก

ส่วน สัญญาประชาคมข้อสุดท้าย คือ “การไม่ทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนี่ง” นั้นก็ชัดเจนว่า ในกลุ่มคนไทยด้วยกันแล้วคนใส่เสื้อแดงต้องมาก่อน พิสูจน์ได้จากกรณีน้ำท่วมครั้งนี้เช่นกัน

จากความผิดพลาดมากมายมหาศาลแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาเลยในประเทศไทย ไม่ว่าจะมาจากการบริหารงานของรัฐบาลชุดไหนๆ ก็ตาม จึงทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐมนตรีชุดนี้ยากที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบครั้งนี้ได้ ถ้าเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยจริงๆ เหมือนที่มวลชนของพรรคเพื่อไทยชอบอ้างถึงนั้น นายกรัฐมนตรีต้องลาออกประการเดียวครับ ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ก็เสนอมาเพื่อให้นำไปคิดกันเอาเอง แทนที่จะไปคิดเรื่องพิมพ์เขียวการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด (New Thailand) ซึ่งผมไม่รู้ว่าไปเอาข้อมูลอะไรมาคิดเป็นเรื่องราวเพ้อฝันออกมาได้ขนาดนี้ เพราะในปัจจุบัน มวลน้ำจำนวนมหึมายังล้อมจ่อถล่มกรุงเทพฯ อยู่ นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมเพิ่งเริ่มจะทรงตัวหรือจะเอาแผนเพ้อฝันนี้ ขึ้นมาปลอบประโลมใจ ขายฝันในอากาศให้แก่ประชาชนอีกครั้งหนึ่ง เหมือนที่ทำมาแล้วในเรื่องนโยบายและสัญญาประชาคม

คำขวัญของลูกเสือไทย “เสียชีพอย่าเสียสัตย์” ครับ แต่คำขวัญของเนตรนารีไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งก็ไม่น่าจะแตกต่างกันมากนะครับ

http://www.komchadlu...D%E0%B8%9A.html

[buaboon]

"รัฐมนตรี คนนั้น" ?

[นักเรียนตลอดชีพ]

ตัวเตี้ยๆ ล่ำๆ ผิวดำแดง บ้านอยู่สุ1000 ... ชื่อ อะไร คูณๆ หารๆ นี่ล่ะ ...............

[buaboon]

เขาเป็นรมต.ด้วยหรอครับ โดนแบนอยู่ไม่ใช่หรอ

[suratation]

ขอลองศัพท์ใหม่ครับ ปลิงนรกเอ๊ย

[korkang]

น่าจะขึ้นหน้า 1 นะ

[oneclick999]

ใครง่ะ หน้าคุ้นๆ