ขณะนี้เฟซบุ๊คหางแดงกำลังรุมสับ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กันใหญ่
#51
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:50
มันเอาไปมั่วกับ เกษตรผสมผสาน ได้ด้วย
#52
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:11
มีเรื่องใหญ่อีกเรื่อง คือ
มันเอาไปมั่วกับ เกษตรผสมผสาน ได้ด้วย
ขอคำอธิบายด้วยค่ะ ว่าเอาไปมั่วยังไง
#53
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:20
หลักพื้นฐานสามข้อนั้นคืออะไรผมทราบ
ความพอประมาณแค่ไหนเรียกพอประมาณ
เรามีเงินมากก็ใช้จ่ายมากได้ ถ้าตนเองไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่น
กับประโยชน์ต่อสิ่งที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าหรือไม่อย่างไรเรียกว่าสมเหตุผล
เช่นมีรายได้เดือนล้าน ปลายปีจะเก็บเงินซื้อไว้ซื้อนาฬิการาคาเป็นล้าน
ถามว่าความพอประมาณนี่น่าจะผ่านนะ มีรายได้ขนาดนี้ไม่เดือดร้อนหรอก
คราวนี้มาเรื่องความสมเหตุผล ประโยชน์จากนาฬิการาคาเรือนหนึ่งล้านมันอยู่ตรงไหน
เพื่อความภูมิฐาน หรือไว้ดูเวลา สินค้าหลายอย่างบางคนซื้อเพราะรสนิยมครับ
ถ้าทุกคนคิดว่ามันไม่สมเหตุผลก็อาจจะไม่ซื้อ คนทำนาฬิกาจะขายใครหรือ
นี่คือตัวอย่างที่เสื้อแดงมักโจมตี
Edited by phoosana, 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:22.
#54
ตอบ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:03
#55
ตอบ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:57
ผมยกประเด็นที่เสื้อแดงมักโจมตีบ่อยๆ ต่างหาก คุณ peacman
หลักพื้นฐานสามข้อนั้นคืออะไรผมทราบ
ความพอประมาณแค่ไหนเรียกพอประมาณ
เรามีเงินมากก็ใช้จ่ายมากได้ ถ้าตนเองไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่น
กับประโยชน์ต่อสิ่งที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าหรือไม่อย่างไรเรียกว่าสมเหตุผล
เช่นมีรายได้เดือนล้าน ปลายปีจะเก็บเงินซื้อไว้ซื้อนาฬิการาคาเป็นล้าน
ถามว่าความพอประมาณนี่น่าจะผ่านนะ มีรายได้ขนาดนี้ไม่เดือดร้อนหรอก
คราวนี้มาเรื่องความสมเหตุผล ประโยชน์จากนาฬิการาคาเรือนหนึ่งล้านมันอยู่ตรงไหน
เพื่อความภูมิฐาน หรือไว้ดูเวลา สินค้าหลายอย่างบางคนซื้อเพราะรสนิยมครับ
ถ้าทุกคนคิดว่ามันไม่สมเหตุผลก็อาจจะไม่ซื้อ คนทำนาฬิกาจะขายใครหรือ
นี่คือตัวอย่างที่เสื้อแดงมักโจมตี
ตลกดีครับ หากผมมีรายได้ปีละหลายสิบล้าน คิดจะซื้อนาฬิกาเรือนละล้านมาใช้
แล้วมันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครหรือเดิอดร้อนตัวผมเอง มันก็ไม่ได้ผิดหลักการพอเพียงแต่อย่างใด
เอาเข้าจริง มนุษย์์ทุกคนมีกิเลส นาฬิกาหรูจะสามารถขายได้เสมอ แม้ทุกๆคนจะยึดหลักการพอเพียง
แล้วเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะยึดหลักพอเพียงได้อย่างเหมาะสมทุกคน บางคนไม่ยึดถือเลย
บางคนยึดถือแต่ทำได้ไม่สมบูรณ์ แล้วมันก็ต้องมีหลุดกันบ้าง และเมื่อนั้น นาฬิกาหรู รถหรู อาหารแพงๆ ก็จะขายได้เสมอ
ความคิดเสื้อแดงที่เอามาโจมตีเป็นความคิดสุดโต่ง ที่ไม่มีวันเป็นจริงได้
ประมาณว่า กลัวว่ามนุษย์จะเป็นคนดี แล้วออกบวชกันหมดโลก จนมนุษย์ต้องสูญพันธุ์ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้
Edited by annykun, 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:59.
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม คือ ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง
คุณธรรมที่พร้ำสอน ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา ส่วน ประชาธิปไตยน่ะรึ เอาเข้าจริงๆ สำคัญอันใด??
#56
ตอบ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:13
พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑
“...ฉันพูดเศรษฐกิจพอเพียงความหมายคือ ทำอะไรให้เหมาะสมกับฐานะของตัวเอง คือทำจากรายได้ ๒๐๐-๓๐๐ บาท ขึ้นไปเป็นสองหมื่น สามหมื่นบาท คนชอบเอาคำพูดของฉัน เศรษฐกิจพอเพียงไปพูดกันเลอะเทอะ เศรษฐกิจพอเพียง คือทำเป็น Self-Sufficiency มันไม่ใช่ความหมายไม่ใช่แบบที่ฉันคิด ที่ฉันคิดคือเป็น Self-Sufficiency of Economy เช่น ถ้าเขาต้องการดูทีวี ก็ควรให้เขามีดู ไม่ใช่ไปจำกัดเขาไม่ให้ซื้อทีวีดู เขาต้องการดูเพื่อความสนุกสนาน ในหมู่บ้านไกลๆ ที่ฉันไป เขามีทีวีดูแต่ใช้แบตเตอรี่ เขาไม่มีไฟฟ้า แต่ถ้า Sufficiency นั้น มีทีวีเขาฟุ่มเฟือย เปรียบเสมือนคนไม่มีสตางค์ไปตัดสูทใส่ และยังใส่เนคไทเวอร์ซาเช่ อันนี้ก็เกินไป...”
พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล
๑๗ มกราคม ๒๕๔๔
#57
ตอบ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:27
ตามลิงค์นี้ค่ะ http://www.sarakadee...tpage&artid=632
ชุมพร คาบาน่า รีสอร์ต เป็นหนี้แหล่งเงินทุนอันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนั้นถึง ๓๐๐ ล้านบาท โดยในช่วงเวลานั้น คุณวริสร รักษ์พันธุ์ หนุ่มวัยยี่สิบกว่าๆ ซึ่งเพิ่งเรียนจบการโรงแรมจากมหาวิทยาลัยรังสิตมาได้ไม่กี่ปี ต้องเข้ามาแบกรับภาระอันหนักหน่วงนี้แทนบิดามารดาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งรีสอร์ตแห่งนี้
เก้าปีผ่านไป วริสรใช้หนี้คืนไปเกือบครึ่งหนึ่ง จากการนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ประกอบกับการน้อมนำพระราชดำรัส “พึ่งตนเอง” “ระเบิดจากข้างใน” “เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง” ฯลฯ มาเป็นแนวทาง
ทุกวันนี้ ชุมพร คาบาน่า รีสอร์ต บนหาดทุ่งวัวแล่น นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอันดับต้นๆ แล้ว จึงยังกลายเป็นแหล่งศึกษาดูงานของผู้คนทั่วประเทศที่สนใจแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงด้วย
ตามไปดูว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” และถ้อยพระราชดำรัสสั้นๆ ข้างต้น พลิกฟื้นวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตชีวิต รวมทั้งช่วยให้ก้าวต่อไปของคนคนหนึ่ง ชุมชนชุมชนหนึ่ง มั่นคงแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร
Now! Restart Thailand
#58
ตอบ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:04
// ( - -") คงต้องปล่อยให้เพื่อนแดงระเริงปลักต่อไป วันหนึ่งคงรู้สึกเหนียวตัว และอยากอาบน้ำล้างไคลออกเอง //
#59
ตอบ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:47
เพื่อนแดงข้างบ้านบอกว่า ความพอเพียงคือ คนรวยต้องรู้จักพอโดยการเอาเงินหรือรายได้มาแบ่งให้คนจนหรือคนขาดแคลนใช้ เพื่อความเท่าเทียมกัน
// ( - -") คงต้องปล่อยให้เพื่อนแดงระเริงปลักต่อไป วันหนึ่งคงรู้สึกเหนียวตัว และอยากอาบน้ำล้างไคลออกเอง //
แนวคิดแบบเห็นแก่ตัวเองชัด ๆ ถ้าสิ่งที่แบ่งให้ไปเนี่ยมันถูกใช้อย่างเหมาะสมมันก็ดีหรอก
แต่ถ้ามันถูกใช้แบบฟุ่มเฟือยเพียวเพราะว่าได้มาฟรี ๆ ล่ะก็ ผมว่าอย่าให้เลยจะดีกว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างน่ะ ถ้ามันได้มาง่าย ๆ มันก็เสียไปง่าย ๆ เช่นกัน
ปล.1 ผมหมายถึงเจ้าของคำพูดนี้เท่านั้น
ปล.2 แนวคิดเขานี่กึ่งๆ ต้นทางของคอมมิวนิสต์เลยนะเนี่ย
#60
ตอบ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 06:37
ผมเห็นด้วยอย่างมากครับ ในย่อหน้าที่2ผมยกประเด็นที่เสื้อแดงมักโจมตีบ่อยๆ ต่างหาก คุณ peacman
หลักพื้นฐานสามข้อนั้นคืออะไรผมทราบ
ความพอประมาณแค่ไหนเรียกพอประมาณ
เรามีเงินมากก็ใช้จ่ายมากได้ ถ้าตนเองไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่น
กับประโยชน์ต่อสิ่งที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าหรือไม่อย่างไรเรียกว่าสมเหตุผล
เช่นมีรายได้เดือนล้าน ปลายปีจะเก็บเงินซื้อไว้ซื้อนาฬิการาคาเป็นล้าน
ถามว่าความพอประมาณนี่น่าจะผ่านนะ มีรายได้ขนาดนี้ไม่เดือดร้อนหรอก
คราวนี้มาเรื่องความสมเหตุผล ประโยชน์จากนาฬิการาคาเรือนหนึ่งล้านมันอยู่ตรงไหน
เพื่อความภูมิฐาน หรือไว้ดูเวลา สินค้าหลายอย่างบางคนซื้อเพราะรสนิยมครับ
ถ้าทุกคนคิดว่ามันไม่สมเหตุผลก็อาจจะไม่ซื้อ คนทำนาฬิกาจะขายใครหรือ
นี่คือตัวอย่างที่เสื้อแดงมักโจมตี
ย่อหน้าสุดท้าย
1.ที่แดงโจมตี ก็โจมตีเฉพาะ "คนกลุ่มเป้าหมาย ...ที่ไม่ใช่แดง" และแดงไม่มีสมองพอที่จะใช้ไตร่ตรองหาเหตุผล
2.ปัญหาที่น่าคิดคือ เงินที่เอามาซื้อนั้น เป็นเงินบริสุทธิ์ไหม ถ้าเป็นเงินบริสุทธิ์ ก็อยู่ในเกณฑ์ ย่อหน้าที่2
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#61
ตอบ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:35
บุคคลบางคนต่อให้สอนให้ตายยังไง ก็ไม่มีทางฉลาดขึ้น
เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้บอกให้ประหยัดจนไม่ยอมใช้เงิน แต่เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่ ให้พอเหมาะ พอเพียงกับรายไ้ด้ของตนเอง
อะไรที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ก็อย่าได้ใช้เงินจนเกินฐานะ
สุภาษิตไทยก็สอนกันมานาน แล้วทำไม ลืมกันง่ายจัง
" มีสลึงพึงบรรจบให้ครบ อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน"
#62
ตอบ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:54
บ่อนเซาะ กันไปเรื่อยๆ
ก็โอเคนะครับ ถ้ามันเป็นความจริง
แต่ถ้าเอาเรื่องปั้นแต่งมาโกหกกัน นี่แหละ ของแท้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงคือ หน่วยงานความมั่นคง
เราบอกว่า พระราชดำริ เราสามารถวิจารณ์ได้
แต่ มันต้องไม่ใช่ การแต่งเรื่องหรือสร้างหลักฐานเท็จ ตัดต่อ
จนเสียไปถึง ความน่าเชื่อถือ ของบุคคลที่ 3 ไปในที่สุด
ผมเห็นมาเยอะ โดยเฉพาะในยูทูป
ก็ว่ากันไป ผมกำลังเบื่อ เบื่อ และ เบื่อ กับ ประยุทธ์ จริงๆสิ ให้ตาย!!!
แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง
จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน
#63
ตอบ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:18
ผมยกประเด็นที่เสื้อแดงมักโจมตีบ่อยๆ ต่างหาก คุณ peacman
หลักพื้นฐานสามข้อนั้นคืออะไรผมทราบ
ความพอประมาณแค่ไหนเรียกพอประมาณ
เรามีเงินมากก็ใช้จ่ายมากได้ ถ้าตนเองไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่น
กับประโยชน์ต่อสิ่งที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าหรือไม่อย่างไรเรียกว่าสมเหตุผล
เช่นมีรายได้เดือนล้าน ปลายปีจะเก็บเงินซื้อไว้ซื้อนาฬิการาคาเป็นล้าน
ถามว่าความพอประมาณนี่น่าจะผ่านนะ มีรายได้ขนาดนี้ไม่เดือดร้อนหรอก
คราวนี้มาเรื่องความสมเหตุผล ประโยชน์จากนาฬิการาคาเรือนหนึ่งล้านมันอยู่ตรงไหน
เพื่อความภูมิฐาน หรือไว้ดูเวลา สินค้าหลายอย่างบางคนซื้อเพราะรสนิยมครับ
ถ้าทุกคนคิดว่ามันไม่สมเหตุผลก็อาจจะไม่ซื้อ คนทำนาฬิกาจะขายใครหรือ
นี่คือตัวอย่างที่เสื้อแดงมักโจมตี
ผมต้องขออภัยที่โพล่งตอบไป...
ตอบประเด็นที่เสื้อเเดงโจมตี
ตัวอย่าง การซื้อนาฬิกา ราคา1ล้าน ในขณะที่เราหาเงินได้ปีละ12ล้าน เหมาะสมหรือไม่?
อันที่จีงถ้ามีรายได้"เหลือใช้"+"เหลือเก็บ"ขนาดนั้น
ย่อมไม่ผิดหลักการเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เเล้ว
ที่จะซื้อของเพื่อเป็นราวัล เเก่ความวิริยะอุสาหะในการประกอปสัมมาอาชีพของตน
เพราะการใช้จ่ายนั้นก็...ไม่ได้เบียดเบียดตนเองเเละผู้อื่น...
เเละอาจเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจต่อไปในโหมดdress for success
เเต่ที่สำคัญเมื่อมีกำไรพอเพียงเเล้วก็ควรคืนสู่สังคมเเละโลก เพื่อความเจริญที่ยั่งยืน...
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน