Jump to content


Photo
- - - - -

รบกวนพิจารณา ผมแค่นำมาให้เห็น.......


  • Please log in to reply
99 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 อิไซกูนิ

อิไซกูนิ

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,631 posts

ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:40

Posted Image


เฮ้ย นี่มันโล้นซ่า ภาคควายแดง ชัดๆ :lol: :lol: :lol:

Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image

เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร


#52 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:54

สำนักเดียวกันมั๊งครับ โดยนับถือศาสดา ชั่วอจินไตย ตัวเดียวกัน

Attached Images

  • RedMonk.jpg
  • Tukki-1 (2).jpg

ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#53 ครุฑดำ

ครุฑดำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,056 posts

ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:57

อย่าเอามาล้อเล่นซิ ศาสนาของคนเสื้อแดงเค้า พระเค้าต้องแบบนี้ อ้อ..ต้องมีนักโทษหนีคดี โกงบ้านกินเมืองเป็นศาสดาด้วยนะ!!! :angry: :angry: :angry: :angry:

เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"


#54 คนปลูกต้นไม้

คนปลูกต้นไม้

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 593 posts

ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 11:02

ทั้งรูปนี้และรูปอื่นๆทุกครั้งที่เกิดขึ้นมา กรมศาสนา ได้ดำเนินการสิ่งใดเพื่อเป็นการแก้ไขหรือไม่
เพราะมันปรากฏให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

#55 ห่วยแมน

ห่วยแมน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 438 posts

ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:42

Posted Image
ฝากเอารูปสาวกมาให้พิจารณา :mellow:
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ = ประเทศไทย

#56 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:34

คนธรรมดาต้องมีทศบารมีแบบพระโพธิสัตว์หรือครับ แล้วคุณยกมานะทำได้รึยัง

ยังไม่ได้ แต่ถึงจะยินดีหรือไม่ยินดีให้ในทานนั้น เมื่อพิจารณาแล้วว่าผมไม่เดือดร้อนจนเสื่อมจากการให้ทาน ผมก็ให้ไปเพราะมันเป็นทาน

เมื่อก่อนคิดว่าถ้าจะทําบุญทําทานต้องที่วัดจะได้บุญได้ทาน แต่เดียวนี้ดิฉันนิยมทํากะตัวบุคคลมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ให้กับทุกคนที่ขอ เลือกที่จะไห้ ให้แบบนี้มีความสุข อิ่มเอิบมากกว่าที่จะไปนั่งกังวล ตอนอยู่ภูเก็ต เวลาไปป่าตองจะเจอคนเร่ร่อนวิตกจริตคนหนึ่งเป็นประจํา ก็ให้เงินหรืออาหารไปทุกครั้งที่เจอ ให้แล้วไม่มีความกังวลว่าเขาจะเอาไปทําอะไร(ใครไปเที่ยวแถวนั้นก็อาจจะเจอ ผู้ชายวัยกลางคน ผอมๆ สูงๆ ใส่เสื้อผ้าสกปรก ผมยาวรุงรัง) บางครั้งก็เลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียน (เป็นคนสุราษร์ ตอนกลับไปเยิ่ยมพ่อแม่ที่อยู่ชนบทหน่อยก็จะทําอาหารกลางวันเลี้ยงเด็กที่โรงเรียนประจําหมู่บ้านประจํา มีความสุขมากที่เห็นเด็กทานกันจนไม่เหลือ)ท่านTux Vader ลองทําดูซิคะ อาจจะไม่ต้องการเข้าวัดเพื่อทําทานอีกเลยเหมือนดิฉัน

นั่นแหละผมถึงว่ามานะปิดธรรม

ผู้ที่เป็นมหาเศรษฐีในปัจจุบันมีอยู่ใช่ไหม แต่มีกี่รายที่ได้ปฏิบัติศรัทธาในพระพุทธศาสนา นั่นก็ผลบุญของพวกเขาแต่ไม่ได้ปฏิบัติต่อพระพุทธศาสนา ของเก่าเคยทำกันมาแล้ว พอมาเจออีกทีก็ไม่ยากที่จะทำอีก

ตักบาตรเช้า ๆ ถ้าไม่ศรัทธาพระหรือพระปฏิบัติตัวไม่น่าศรัทธาก็ตักแต่ข้าวเปล่า ๆ แล้วตั้งจิตว่าทานนี้เราทำในพระพุทธศาสนาเพื่อบูชาดวงแก้วทั้งสาม คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เผื่อจะได้มีเป็นอุปนิสัยให้มีโอกาสได้ตักบาตรได้ทำทานพระปฏิบัติดี เวลาไปเกิดช่วงพุทธันดรจะได้มีเป็นอุปนิสัยให้มีโอกาสได้ตักบาตรพระปัจเจกพุทธเจ้าบ้าง และเวลาที่เกิดทันพระพุทธเจ้าจะได้เกิดศรัทธาง่าย ๆ

#57 thaidotcom

thaidotcom

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 313 posts

ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:25


คนธรรมดาต้องมีทศบารมีแบบพระโพธิสัตว์หรือครับ แล้วคุณยกมานะทำได้รึยัง

ยังไม่ได้ แต่ถึงจะยินดีหรือไม่ยินดีให้ในทานนั้น เมื่อพิจารณาแล้วว่าผมไม่เดือดร้อนจนเสื่อมจากการให้ทาน ผมก็ให้ไปเพราะมันเป็นทาน

เมื่อก่อนคิดว่าถ้าจะทําบุญทําทานต้องที่วัดจะได้บุญได้ทาน แต่เดียวนี้ดิฉันนิยมทํากะตัวบุคคลมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ให้กับทุกคนที่ขอ เลือกที่จะไห้ ให้แบบนี้มีความสุข อิ่มเอิบมากกว่าที่จะไปนั่งกังวล ตอนอยู่ภูเก็ต เวลาไปป่าตองจะเจอคนเร่ร่อนวิตกจริตคนหนึ่งเป็นประจํา ก็ให้เงินหรืออาหารไปทุกครั้งที่เจอ ให้แล้วไม่มีความกังวลว่าเขาจะเอาไปทําอะไร(ใครไปเที่ยวแถวนั้นก็อาจจะเจอ ผู้ชายวัยกลางคน ผอมๆ สูงๆ ใส่เสื้อผ้าสกปรก ผมยาวรุงรัง) บางครั้งก็เลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียน (เป็นคนสุราษร์ ตอนกลับไปเยิ่ยมพ่อแม่ที่อยู่ชนบทหน่อยก็จะทําอาหารกลางวันเลี้ยงเด็กที่โรงเรียนประจําหมู่บ้านประจํา มีความสุขมากที่เห็นเด็กทานกันจนไม่เหลือ)ท่านTux Vader ลองทําดูซิคะ อาจจะไม่ต้องการเข้าวัดเพื่อทําทานอีกเลยเหมือนดิฉัน

นั่นแหละผมถึงว่ามานะปิดธรรม

ผู้ที่เป็นมหาเศรษฐีในปัจจุบันมีอยู่ใช่ไหม แต่มีกี่รายที่ได้ปฏิบัติศรัทธาในพระพุทธศาสนา นั่นก็ผลบุญของพวกเขาแต่ไม่ได้ปฏิบัติต่อพระพุทธศาสนา ของเก่าเคยทำกันมาแล้ว พอมาเจออีกทีก็ไม่ยากที่จะทำอีก

ตักบาตรเช้า ๆ ถ้าไม่ศรัทธาพระหรือพระปฏิบัติตัวไม่น่าศรัทธาก็ตักแต่ข้าวเปล่า ๆ แล้วตั้งจิตว่าทานนี้เราทำในพระพุทธศาสนาเพื่อบูชาดวงแก้วทั้งสาม คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เผื่อจะได้มีเป็นอุปนิสัยให้มีโอกาสได้ตักบาตรได้ทำทานพระปฏิบัติดี เวลาไปเกิดช่วงพุทธันดรจะได้มีเป็นอุปนิสัยให้มีโอกาสได้ตักบาตรพระปัจเจกพุทธเจ้าบ้าง และเวลาที่เกิดทันพระพุทธเจ้าจะได้เกิดศรัทธาง่าย ๆ

ดิฉันคงจะห่างวัดมานานมากๆๆๆๆ หรือไม่ได้เข้าใจถึงหลักของพุทธศาสนาเท่าไหร อาจแค่เข้าใจผิวเผิน ขอบคุณคะที่ช่วยอธิบาย ดิฉันทําทานแบบไม่ค่อยจะหวังผลตอบแทน ไม่ได้คิดไปถึงภพหน้า ชอบแบบที่ว่าทําแล้วใจมีสุข ไม่มีกังวลมากกว่า (เพื่อสุขภาพจิตของตัวเองตามสังคมสมัยนี้อะคะ) อาจเพราะตัวเองอยู่หลายที่ เห็นสิ่งต่างๆหลายแบบ เจอบุคคลหลายศาสนา พยายามหยิบสิ่งที่ดีมาผสมกันเพื่อไช้ในชีวิตของตัวเองก็ได้ ดิฉันชอบคําสอนบางอย่างของคริสต์ศาสนาแต่ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง เพราะไม่มี god ในหลักพุทธคาสนา อาจเป็นเพราะคิดแบบนี้ เลยคิดว่าเมื่อจะทําบุญทําทานไม่ต้องเข้าวัดก็ได้ แต่ถ้าจะไปคงจะมีเหตุผลเดียวสําหรับตัวเองคือ ต้องการศึกษาพระธรรม(หรืออาจที่ไหนก็ได้ ไม่จําเป็นต้องที่วัดก็ไม่รู้แงะ??)ยิ่งพิมพ์ยิ่งงงพอและ

#58 THE THIRD WAY

THE THIRD WAY

    มาหาความจริง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,417 posts

ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:50

Llศาสนาพุทธเสื่อมถอยเพราะหลายฝ่ายร่วมมือกัน
-มหาเถรสมาคม ตัวพ่อ
-กรมการศาสนา ตัวพ่อ
-สำนักพระพุทธศาสนา(ไม่แน่ใจมีแห่งชาติต่อท้ายหรือไม่)
-สำนักนอกรีต เช่นสำนักจานบิน

เมื่อหลายฝ่ายมาร่วมมือกันเช่นนี้
ความย่อยยับก็ไม่นานเกินรอ

ที่ว่าร่วมมือคือละเลยกันไม่ประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่กฎกติกากำหนด
ไม่ช้าหรอกท่านสหายธรรมทั้งหลายคงได้เห็น
การเลือกคนชั่ว คนด้อยประสิทธิภาพมาทำงานใหญ่
เมื่อไดก็อิ๊บอ๋าย
อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าเป็นกลางทีคนอื่นทำอีกอย่าง บอกว่าเอียง

#59 serialnu

serialnu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 772 posts

ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:01

บอกตรงๆ ถ้าทำบุญ ผมชอบไปทำบุญวัดป่ามากกว่า ที่นั้นยังขาดไรหลายๆอย่างมากกว่าวัดในเมือง ถ้าไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะไปไหนไกลๆ ก็ทำบุญโลงศพฮ่ะ ได้ผลบุญเช่นกัน แต่ถ้าไปทำบุญกับวัดใหญ่ๆแล้วผมเห็นสิ่งของต่างๆเหลือเยอะแยะ เลยรู้สึกว่า บางวัดยังต้องการยังขาด น่าจะเอาไปให้วัดนั้นๆมากกว่านะ

#60 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:17


คนธรรมดาต้องมีทศบารมีแบบพระโพธิสัตว์หรือครับ แล้วคุณยกมานะทำได้รึยัง

ยังไม่ได้ แต่ถึงจะยินดีหรือไม่ยินดีให้ในทานนั้น เมื่อพิจารณาแล้วว่าผมไม่เดือดร้อนจนเสื่อมจากการให้ทาน ผมก็ให้ไปเพราะมันเป็นทาน

แล้วตกลงคนธรรมดาต้องมีทศบารมีแบบพระโพธิสัตว์หรือครับ คุณถึงต้องยกเรื่องพระโพธิสัตว์มาอ้างทั้งที่คำสอนสำหรับคนธรรมดาก็มี

Edited by Solidus, 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:17.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#61 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:01

แล้วตกลงคนธรรมดาต้องมีทศบารมีแบบพระโพธิสัตว์หรือครับ คุณถึงต้องยกเรื่องพระโพธิสัตว์มาอ้างทั้งที่คำสอนสำหรับคนธรรมดาก็มี

นั่นไม่ได้แยกว่าทศบารมีแบบพระโพธิสัตว์หรือคนธรรมดาครับ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นปรมัตถะก็ได้ ที่ผมยกตัวอย่างมาคือการทานด้วยจิตใจที่เป็นทานจริง ๆ พระโพธิสัตว์ท่านทำถูกผมก็เลยยกท่านมาเป็นตัวอย่าง

คนเรา ๆ ทั่วไปคงยากที่จะทำจิตใจถึงขั้นนั้นได้ แต่ขอให้พึงระลึกและทำความเข้าใจกับทานว่า ทานคือการสละความเห็นแก่ตัวออกไป เมื่อสละซึ่งความเห็นแก่ตัวออกไปแล้ว การจะทำความดีใดก็สามารถกระทำได้ง่าย นี่คือทาน

Edited by Tux Vader, 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:01.


#62 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:31

Llศาสนาพุทธเสื่อมถอยเพราะหลายฝ่ายร่วมมือกัน
-มหาเถรสมาคม ตัวพ่อ
-กรมการศาสนา ตัวพ่อ
-สำนักพระพุทธศาสนา(ไม่แน่ใจมีแห่งชาติต่อท้ายหรือไม่)
-สำนักนอกรีต เช่นสำนักจานบิน

เมื่อหลายฝ่ายมาร่วมมือกันเช่นนี้
ความย่อยยับก็ไม่นานเกินรอ

ที่ว่าร่วมมือคือละเลยกันไม่ประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่กฎกติกากำหนด
ไม่ช้าหรอกท่านสหายธรรมทั้งหลายคงได้เห็น
การเลือกคนชั่ว คนด้อยประสิทธิภาพมาทำงานใหญ่
เมื่อไดก็อิ๊บอ๋าย


เหมือนจะเห็นความจงใจที่ปล่อยให้สงฆ์เป็นอย่างทุกวันนี้

ทำไม

เพราะอะไร

#63 ไข่ต้ม

ไข่ต้ม

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 70 posts

ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:29

เห็นแบบนี้อยู่ที่เดียว ที่อื่นไม่มี บ่งบอกอะไรๆได้หลายอย่างของคนที่นี่.........ที่ใหนน๊าาาาา ^_^ ^_^

#64 5250401101

5250401101

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 461 posts

ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:53

รู้สึกจะเป็นยอดมนุษย์ X-Daeng ฮีโร่เสื้อแดงพันธ์ใหม่ นะครับ

#65 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 02:04


แล้วตกลงคนธรรมดาต้องมีทศบารมีแบบพระโพธิสัตว์หรือครับ คุณถึงต้องยกเรื่องพระโพธิสัตว์มาอ้างทั้งที่คำสอนสำหรับคนธรรมดาก็มี

นั่นไม่ได้แยกว่าทศบารมีแบบพระโพธิสัตว์หรือคนธรรมดาครับ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นปรมัตถะก็ได้ ที่ผมยกตัวอย่างมาคือการทานด้วยจิตใจที่เป็นทานจริง ๆ พระโพธิสัตว์ท่านทำถูกผมก็เลยยกท่านมาเป็นตัวอย่าง

คนเรา ๆ ทั่วไปคงยากที่จะทำจิตใจถึงขั้นนั้นได้ แต่ขอให้พึงระลึกและทำความเข้าใจกับทานว่า ทานคือการสละความเห็นแก่ตัวออกไป เมื่อสละซึ่งความเห็นแก่ตัวออกไปแล้ว การจะทำความดีใดก็สามารถกระทำได้ง่าย นี่คือทาน

ไม่ได้แยกหรือครับ นั้นลองยกตัวอย่างคนธรรมดาที่ยกลูกเมียให้เป็นทานหน่อยสิครับ โดยที่ลูกเมียนั้นยินยอมแบบพระเวสสันดรด้วย พระโพธิสัตว์ทำถูกเพราะมันเป็นวิสัยของพระโพธิสัตว์อยู่แล้ว
คนธรรมดายากที่จะทำจิตใจถึงขั้นนั้นได้ แล้วในนี่คืออะไรหรือครับ

ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลผู้ไม่มีความหวังให้ทานไม่มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราตายไปแล้วจักได้เสวยผลทานนี้ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า การให้ทานเป็นการดี
ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า บิดามารดาปู่ย่าตายายเคยให้เคยทำมา เราไม่ควรทำให้เสียประเพณี ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากินได้ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านี้หุงหากินไม่ได้ จะไม่ให้ทานแก่ผู้ที่หุงหากินไม่ได้ ไม่สมควร ไม่ได้ให้ทานด้วย
คิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนอย่างฤาษีแต่ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษี วามกฤาษี วามเทวฤาษี เวสสามิตรฤาษี ยมทัคคิฤาษี อังคีรสฤาษี ภารทวาชฤาษี วาเสฏฐฤาษี กัสสปฤาษี และภคุฤาษี ผู้บูชามหายัญ ฉะนั้น และไม่ได้
ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานนี้ จิตจะเลื่อมใส จะเกิดความปลื้มใจและโสมนัส แต่ให้ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหม เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศหมดความเป็นใหญ่แล้ว
เป็นผู้ไม่ต้องกลับมา คือ ไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ดูกรสารีบุตร นี้แลเหตุปัจจัย เป็นเครื่องให้ทานเช่นนั้นที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก และเป็นเครื่องให้ทานเช่นนั้นที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ฯ


Edited by Solidus, 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 02:04.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#66 littlerock

littlerock

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 289 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 08:34

ปูยังเป็นนายกได้

ทำไมอีนี่จะเป็นพระไม่ได้

#67 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:22

ไม่ได้แยกหรือครับ นั้นลองยกตัวอย่างคนธรรมดาที่ยกลูกเมียให้เป็นทานหน่อยสิครับ โดยที่ลูกเมียนั้นยินยอมแบบพระเวสสันดรด้วย พระโพธิสัตว์ทำถูกเพราะมันเป็นวิสัยของพระโพธิสัตว์อยู่แล้ว
คนธรรมดายากที่จะทำจิตใจถึงขั้นนั้นได้ แล้วในนี่คืออะไรหรือครับ

อย่าตีความว่าต้องทานลูกทานเมียสิ ผมยกตัวอย่างพระเวสสันดรให้ทานชูกชกกับคุณ thaidotcom เพราะเขากำลังจะเสือมศรัทธาจากศาสนาเพราะเห็นผู้บวชมาแล้วประพฤติไม่ดี ตัวอย่างก็กล่าวไว้ว่าขนาดพระเวสสันดรให้ทานกับชูชกเพราะว่าเป็นทานยังมีอานิสงส์ถึงเพียงนั้น หากหาพระประปฏิบัติดีไม่ได้ จะทำทานน้อย ๆ โดยการใส่แต่ข้าวเปล่าก็ได้ โดยคิดว่าทานนั้นเป็นทานบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ใช่ตัวบุคคล หากมีโอกาสทำกับพระดีก็ค่อยทำเพิ่มทำให้มาก เพื่อที่กำลังใจจะได้ไม่เสื่อมไปจากพระพุทธศาสนา

ส่วนตัวอย่างที่คุณยกมานั้นคือตัวอย่างของอนาคามีมรรค คือ การปฏิบัติให้ถึงซึ่งความเป็นอนาคามี
ผู้ปฏิบัติโสดาบันมรรคขึ้นไปซึ่งหมายรวมอนาคามีมรรค ย่อมมีกำลังใจประเสริฐกว่าพระโพธิสัตว์
ถ้าทำความเห็นให้ถึงขั้นตัวอย่างนั้น ถ้ายังไม่ได้อรหันตผล เมื่อละโลกนี้ไปก็ได้ไปเกิดในพรหมชั้นของอนาคามีเลย

Edited by Tux Vader, 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:24.


#68 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:10


ไม่ได้แยกหรือครับ นั้นลองยกตัวอย่างคนธรรมดาที่ยกลูกเมียให้เป็นทานหน่อยสิครับ โดยที่ลูกเมียนั้นยินยอมแบบพระเวสสันดรด้วย พระโพธิสัตว์ทำถูกเพราะมันเป็นวิสัยของพระโพธิสัตว์อยู่แล้ว
คนธรรมดายากที่จะทำจิตใจถึงขั้นนั้นได้ แล้วในนี่คืออะไรหรือครับ

อย่าตีความว่าต้องทานลูกทานเมียสิ ผมยกตัวอย่างพระเวสสันดรให้ทานชูกชกกับคุณ thaidotcom เพราะเขากำลังจะเสือมศรัทธาจากศาสนาเพราะเห็นผู้บวชมาแล้วประพฤติไม่ดี ตัวอย่างก็กล่าวไว้ว่าขนาดพระเวสสันดรให้ทานกับชูชกเพราะว่าเป็นทานยังมีอานิสงส์ถึงเพียงนั้น หากหาพระประปฏิบัติดีไม่ได้ จะทำทานน้อย ๆ โดยการใส่แต่ข้าวเปล่าก็ได้ โดยคิดว่าทานนั้นเป็นทานบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ใช่ตัวบุคคล หากมีโอกาสทำกับพระดีก็ค่อยทำเพิ่มทำให้มาก เพื่อที่กำลังใจจะได้ไม่เสื่อมไปจากพระพุทธศาสนา

ส่วนตัวอย่างที่คุณยกมานั้นคือตัวอย่างของอนาคามีมรรค คือ การปฏิบัติให้ถึงซึ่งความเป็นอนาคามี
ผู้ปฏิบัติโสดาบันมรรคขึ้นไปซึ่งหมายรวมอนาคามีมรรค ย่อมมีกำลังใจประเสริฐกว่าพระโพธิสัตว์
ถ้าทำความเห็นให้ถึงขั้นตัวอย่างนั้น ถ้ายังไม่ได้อรหันตผล เมื่อละโลกนี้ไปก็ได้ไปเกิดในพรหมชั้นของอนาคามีเลย

การให้ทานของพระเวสสันดรเป็นการบำเพ็ญบารมีอย่างหนึ่งของพระโพธิสัตว์ขณะนั้นศาสนาพุทธยังไม่มี แต่พระพุทธเจ้ากลับบอกว่าการถือศีล 5 ได้อานิสงค์มากกว่าการทำทานซะอีก ถือศีลภาวนาก็ทำได้หากจะเอาอนิสงค์มากกว่าการทำทาน การแผ่เมตตาก็เป้นทานอย่างหนึ่งไม่ใช่รึ

ส่วนที่ผมยกตัวอย่างแล้วคุณบอกว่าคือตัวอย่างของอนาคามีมรรค ไม่ทราบว่าศาสนาอื่นนอกจากศาสนาพุทธสามารถบรรลุขั้นอนาคามีหรือครับ เพราะพวกฤาษีที่ยกมานี่นับถือศาสนาพุทธกันแล้วรึ

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#69 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:23

การให้ทานของพระเวสสันดรเป็นการบำเพ็ญบารมีอย่างหนึ่งของพระโพธิสัตว์ขณะนั้นศาสนาพุทธยังไม่มี แต่พระพุทธเจ้ากลับบอกว่าการถือศีล 5 ได้อานิสงค์มากกว่าการทำทานซะอีก ถือศีลภาวนาก็ทำได้หากจะเอาอนิสงค์มากกว่าการทำทาน การแผ่เมตตาก็เป้นทานอย่างหนึ่งไม่ใช่รึ

ส่วนที่ผมยกตัวอย่างแล้วคุณบอกว่าคือตัวอย่างของอนาคามีมรรค ไม่ทราบว่าศาสนาอื่นนอกจากศาสนาพุทธสามารถบรรลุขั้นอนาคามีหรือครับ เพราะพวกฤาษีที่ยกมานี่นับถือศาสนาพุทธกันแล้วรึ

ทานมีหลายทาน ไม่ใช่ว่าฉันทำอย่างนี้แล้วจะไม่ทำอย่างนี้นะ มันไม่ใช่ ถ้าสามารถทำอย่างใดได้ก็ทำ ๆ ไปเถอะ

ถึงแม้ไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ก็มีผู้แสวงหาวิมุติอยู่แล้ว มีพระอรหันต์อุบัติขึ้นอยู่แล้วคือพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่ผู้ที่พร้อมด้วยบารมีอันจะประกาศศาสนาได้มีแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

#70 Kyubey

Kyubey

    รับสมัครสาวน้อยเวทมนตร์หลายอัตรา

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,482 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:25

ผมว่ามันเสื่อมสุดๆ ครับ
กรมการศาสนาไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือครับ?
(แต่ผมว่าเขาไม่ทำอะไรหรอก เพราะลัทธิจานบินอยู่ได้ เรื่องนี้ก็อยู่ได้)

╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\

╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\

ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!


#71 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:33


การให้ทานของพระเวสสันดรเป็นการบำเพ็ญบารมีอย่างหนึ่งของพระโพธิสัตว์ขณะนั้นศาสนาพุทธยังไม่มี แต่พระพุทธเจ้ากลับบอกว่าการถือศีล 5 ได้อานิสงค์มากกว่าการทำทานซะอีก ถือศีลภาวนาก็ทำได้หากจะเอาอนิสงค์มากกว่าการทำทาน การแผ่เมตตาก็เป้นทานอย่างหนึ่งไม่ใช่รึ

ส่วนที่ผมยกตัวอย่างแล้วคุณบอกว่าคือตัวอย่างของอนาคามีมรรค ไม่ทราบว่าศาสนาอื่นนอกจากศาสนาพุทธสามารถบรรลุขั้นอนาคามีหรือครับ เพราะพวกฤาษีที่ยกมานี่นับถือศาสนาพุทธกันแล้วรึ

ทานมีหลายทาน ไม่ใช่ว่าฉันทำอย่างนี้แล้วจะไม่ทำอย่างนี้นะ มันไม่ใช่ ถ้าสามารถทำอย่างใดได้ก็ทำ ๆ ไปเถอะ

ถึงแม้ไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ก็มีผู้แสวงหาวิมุติอยู่แล้ว มีพระอรหันต์อุบัติขึ้นอยู่แล้วคือพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่ผู้ที่พร้อมด้วยบารมีอันจะประกาศศาสนาได้มีแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

แล้วฤาษีที่ยกมานะคือพระปัจเจกพุทธเจ้าหรือครับ ถ้าไม่ ก็แสดงว่าศาสนาอื่นสามารถบรรลุได้ถึงขั้นอนาคามีำได้ใช่ไหมครับ

Edited by Solidus, 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:34.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#72 norrakrok

norrakrok

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 64 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:34

X MEN vs. X MONK.

#73 David_GinoLa

David_GinoLa

    สมาชิกระดับไพร่

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,561 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:50

ทำไมผมนึกถึงคลิปนี้

http://youtu.be/A5zRQe0l5F0

:lol: :lol: :lol:

Edited by David_GinoLa, 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:55.

"การเมืองต้องเป็นเรื่องการเสียสละ การเมืองคือภาระของทุกผู้การเมืองเรื่องส่วนรวมร่วมรับรู้ การเมืองต้องต่อสู้เพื่อส่วนรวม"เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

#74 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:11

แล้วฤาษีที่ยกมานะคือพระปัจเจกพุทธเจ้าหรือครับ ถ้าไม่ ก็แสดงว่าศาสนาอื่นสามารถบรรลุได้ถึงขั้นอนาคามีำได้ใช่ไหมครับ

ฤาษีคือสมณะที่ได้บำเพ็ญเพียรมาอย่างดีแล้ว เป็นชื่อเรียกทางการบำเพ็ญเพียรและคุณสมบัติ

ส่วนศาสนาอื่นถ้ามีมรรคแปดอย่าว่าแต่อนาคามีเลยอรหันต์ก็บรรลุได้

ส่วนพระปัจเจกพุทธเจ้าพวกท่านไม่ได้นับถือศาสนาใดมาก่อน พวกท่านออกมาหาแล้วบรรลุของพวกท่านเอง แต่ไม่ประกาศศาสนา

#75 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:40


แล้วฤาษีที่ยกมานะคือพระปัจเจกพุทธเจ้าหรือครับ ถ้าไม่ ก็แสดงว่าศาสนาอื่นสามารถบรรลุได้ถึงขั้นอนาคามีำได้ใช่ไหมครับ

ฤาษีคือสมณะที่ได้บำเพ็ญเพียรมาอย่างดีแล้ว เป็นชื่อเรียกทางการบำเพ็ญเพียรและคุณสมบัติ

ส่วนศาสนาอื่นถ้ามีมรรคแปดอย่าว่าแต่อนาคามีเลยอรหันต์ก็บรรลุได้

ส่วนพระปัจเจกพุทธเจ้าพวกท่านไม่ได้นับถือศาสนาใดมาก่อน พวกท่านออกมาหาแล้วบรรลุของพวกท่านเอง แต่ไม่ประกาศศาสนา

อ่อ งั้นศาสนาพราหมณ์ก็บรรลุอรหันต์ได้สินะ เพราะพวกฤาษีที่ยกมาก็เป็นอาจารย์ของพวกพราหมณ์
พระปัจเจกพุทธเจ้าไม่นับถือศาสนาใดมาก่อนจริงหรือ ขนาดพระพุทธเจ้าสมัยยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะยังนับถือพรามหณ์มาก่อนเลยนะ

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#76 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:28

อ่อ งั้นศาสนาพราหมณ์ก็บรรลุอรหันต์ได้สินะ เพราะพวกฤาษีที่ยกมาก็เป็นอาจารย์ของพวกพราหมณ์
พระปัจเจกพุทธเจ้าไม่นับถือศาสนาใดมาก่อนจริงหรือ ขนาดพระพุทธเจ้าสมัยยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะยังนับถือพรามหณ์มาก่อนเลยนะ

สวดมนต์บ้างนะครับ - -"

ฤาษีสามารถใช้เรียกถึง พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวก ได้ด้วย

ศาสนาพรามณ์มีมรรคแปดหรือครับ ถึงจะบรรลุอรหันต์ได้

เจ้าชายสิทธัตถะไม่ได้นับถือพราหมณ์ ตระกูลศากยะไม่ได้นับถือพราหมณ์ ขนาดพระปเสนทิโกศลอยู่ในวรรณะกษัตริย์มาขอลูกสาวตระกูลศากยะ ตระกูลศากยะยังให้ลูกทาสีไปเลย

#77 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:03


อ่อ งั้นศาสนาพราหมณ์ก็บรรลุอรหันต์ได้สินะ เพราะพวกฤาษีที่ยกมาก็เป็นอาจารย์ของพวกพราหมณ์
พระปัจเจกพุทธเจ้าไม่นับถือศาสนาใดมาก่อนจริงหรือ ขนาดพระพุทธเจ้าสมัยยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะยังนับถือพรามหณ์มาก่อนเลยนะ

สวดมนต์บ้างนะครับ - -"

ฤาษีสามารถใช้เรียกถึง พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวก ได้ด้วย

ศาสนาพรามณ์มีมรรคแปดหรือครับ ถึงจะบรรลุอรหันต์ได้

เจ้าชายสิทธัตถะไม่ได้นับถือพราหมณ์ ตระกูลศากยะไม่ได้นับถือพราหมณ์ ขนาดพระปเสนทิโกศลอยู่ในวรรณะกษัตริย์มาขอลูกสาวตระกูลศากยะ ตระกูลศากยะยังให้ลูกทาสีไปเลย

ก็บอกเองไม่ใช่รึว่าเป็นตัวอย่างของอนาคามีมรรค
บอกเองไม่ใช่รึว่าศาสนาอื่นถ้ามีมรรคแปดอย่าว่าแต่อนาคามีเลยอรหันต์ก็บรรลุได้
พวกฤาษีที่ยกมาก็เป็นอาจารย์ของพวกพรามหณ์ จะบอกว่าใช้เรียกถึง พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวกอีกหรือ
ปากบอกว่าไม่นับถือพรามหณ์แต่เล่นศึกษาไตรเพทและเวทางคศาสตร์จนเชี่ยวชาญแบบนี้เรียกว่าอะไรดีครับ
ตระกูลศากยะไม่ได้นับถือพราหมณ์ แต่ดันไปเรียกพรามหณ์ที่ชื่อโกณฑัญญะมาทำนายอนาคต แถมดันเชื่อซะด้วยสิถึงขนาดสร้างปราสาทสามฤดู
ไม่นับถือพราหมณ์แต่ดันมีการแบ่งชั้นวรรณะ
เจ้าชายหนีออกจากวังออกบวชนี่บวชของศาสนาใดล่ะ ถ้าไม่นับถือพรามณ์จะเรียกว่าออกบวชได้รึ ยิ่งหากไม่นับถือศาสนาใดก็ยิ่งแล้วใหญ่จะเรียกออกบวชทำไมมิทราบ
แล้วที่เจ้าชายบรรลุฌานสมาบัติ 8 ไม่ได้มาจากพวกพรามหณ์เลยสินะ แล้วเรื่องบำเพ็ญทุกรกิริยานี่ถ้าไม่ใช่ความเชื่อของพรามหณ์ไม่ทราบเป้นความเชื่อของศาสนาใดครับ

แล้วระหว่างสวดมนต์กับศึกษาไตรปิฎก+อรรถกถาอย่างไหนดีกว่ามิทราบ ยกเรื่องไตรปิฎก+อรรถกถามาถกกันกลับบอกให้สวดมนต์ :lol: :lol: :lol:
พอเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ
Posted Image

Edited by Solidus, 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:30.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#78 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:27


ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลผู้ไม่มีความหวังให้ทานไม่มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราตายไปแล้วจักได้เสวยผลทานนี้ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า การให้ทานเป็นการดี
ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า บิดามารดาปู่ย่าตายายเคยให้เคยทำมา เราไม่ควรทำให้เสียประเพณี ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากินได้ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านี้หุงหากินไม่ได้ จะไม่ให้ทานแก่ผู้ที่หุงหากินไม่ได้ ไม่สมควร ไม่ได้ให้ทานด้วย
คิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนอย่างฤาษีแต่ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษี วามกฤาษี วามเทวฤาษี เวสสามิตรฤาษี ยมทัคคิฤาษี อังคีรสฤาษี ภารทวาชฤาษี วาเสฏฐฤาษี กัสสปฤาษี และภคุฤาษี ผู้บูชามหายัญ ฉะนั้น และไม่ได้
ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานนี้ จิตจะเลื่อมใส จะเกิดความปลื้มใจและโสมนัส แต่ให้ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหม เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศหมดความเป็นใหญ่แล้ว
เป็นผู้ไม่ต้องกลับมา คือ ไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ดูกรสารีบุตร นี้แลเหตุปัจจัย เป็นเครื่องให้ทานเช่นนั้นที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก และเป็นเครื่องให้ทานเช่นนั้นที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ฯ

เอาเรื่องบูชามหายัญซะหน่อย พิธีนี้เป็นพิธีทางศาสนาพราหมณ์ แต่ดันมีเรื่องอยู่ว่าพวกพราหมณ์ไม่รู้ขั้นตอนและวิธีทำ เลยพากันมาหาพระพุทธเจ้าเลยเป็นที่มาของกูฏทันตสูตร

บูชามหายัญของพราหมณ์ยังได้อานิสงส์น้อยกว่าพุทธยัญ นิตยทาน การสร้างวิหารแด่พระสงฆ์ สรณคมน์ ฯลฯ

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#79 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:42

ก็บอกเองไม่ใช่รึว่าเป็นตัวอย่างของอนาคามีมรรค
บอกเองไม่ใช่รึว่าศาสนาอื่นถ้ามีมรรคแปดอย่าว่าแต่อนาคามีเลยอรหันต์ก็บรรลุได้
พวกฤาษีที่ยกมาก็เป็นอาจารย์ของพวกพรามหณ์ จะบอกว่าใช้เรียกถึง พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวกอีกหรือ
ปากบอกว่าไม่นับถือพรามหณ์แต่เล่นศึกษาไตรเพทและเวทางคศาสตร์จนเชี่ยวชาญแบบนี้เรียกว่าอะไรดีครับ
ตระกูลศากยะไม่ได้นับถือพราหมณ์ แต่ดันไปเรียกพรามหณ์ที่ชื่อโกณฑัญญะมาทำนายอนาคต แถมดันเชื่อซะด้วยสิถึงขนาดสร้างปราสาทสามฤดู
ไม่นับถือพราหมณ์แต่ดันมีการแบ่งชั้นวรรณะ
เจ้าชายหนีออกจากวังออกบวชนี่บวชของศาสนาใดล่ะ ถ้าไม่นับถือพรามณ์จะเรียกว่าออกบวชได้รึ ยิ่งหากไม่นับถือศาสนาใดก็ยิ่งแล้วใหญ่จะเรียกออกบวชทำไมมิทราบ
แล้วที่เจ้าชายบรรลุฌานสมาบัติ 8 ไม่ได้มาจากพวกพรามหณ์เลยสินะ แล้วเรื่องบำเพ็ญทุกรกิริยานี่ถ้าไม่ใช่ความเชื่อของพรามหณ์ไม่ทราบเป้นความเชื่อของศาสนาใดครับ

แล้วระหว่างสวดมนต์กับศึกษาไตรปิฎก+อรรถกถาอย่างไหนดีกว่ามิทราบ ยกเรื่องไตรปิฎก+อรรถกถามาถกกันกลับบอกให้สวดมนต์ :lol: :lol: :lol:
พอเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ

>>บทสวด กดเข้าไปแล้วกดให้แสดงรายละเอียด แล้วอ่านคำแปล

ตระกูลศากยะไม่ได้ถือวรรณะแต่ถือเชื้อชาติ แถบอินเดียโบราณไม่ได้มีเชื้อชาติเดียวนะ ตระกูลศากยะเป็นเชื้อชาติที่กษัตริย์มีความองอาจจนได้ชื่อว่าสักยะ จะยอมยกลูกสาวที่เป็นกษัตรีย์ให้พระเจ้าปเสนทิโกศลที่จารีตประเพณีต่างกันหรือ?

พราหมณ์ที่ใช้เรียกผู้ประพฤติพรหมจรรย์ อย่าจำสับกับพราหมณ์ที่เป็นตำแหน่งวรรณะ

วิชาที่เจ้าชายสิทธัตถะศึกษาสมัยไม่ได้ผนวช เป็นศาสตร์การปกครองบ้านเมืองสิบแปดข้อ มีอยู่ข้อที่ให้ศึกษาหลักการของศาสนา ดังนั้นศาสนาที่มีทุกศาสนาในขณะนั้นพระองค์ก็ต้องเรียนหลักการด้วย ไม่ได้เรียนแค่ศาสนาเดียว ศาสตร์ทั้งสิบแปดข้อนั้นพระเจ้าอยู่หัวของไทยพระองค์ปัจจุบันก็ได้ทรงเรียนเช่นกัน

เจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นสมณะ จึงดำริที่จะผนวช บวชหมายถึงการเว้นจากทางโลก ไม่ใช่หมายถึงการถือศาสนา

ในสมัยนั้นคนบวชแสวงหาสัจจธรรมกันเยอะแยะ เกิดทฤษฎีเกิดเจ้าลัทธิต่าง ๆ ก็มาก วิธีทั้งหมดที่เจ้าชายสิทธัตถะทำ คือการทดลองความเชื่อของนักพรตในสมัยนั้นที่พระองค์พิจารณาว่าน่าจะใช่การพ้นทุกข์ ฌาณได้มาแล้วก็ยังเห็นกิเลสนอนกองเล่นกันอยู่ จะให้พระองค์ทำอย่างไร? พระองค์เลยมาบำเพ็ญทุกรกิริยา จนท้ายที่สุดก็เห็นว่าไม่ใช่เพราะกิเลสไม่ได้ทรมาณกิเลสเลย คนบำเพ็ญนี่แหละที่จะตายไปก่อนกิเลส จึงหันมาทำมัชฌิมาปฏิปทาและได้บรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่สุด

สวดมนต์คือทำพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ
ถ้าว่าสักแต่อ่านตำรา อ่านจนตำราเปลื่อยก็ยังไม่ได้ พระอานุสติทั้งสามเลย

ส่วนมหายัญทางพุทธพระพุทธเจ้าก็อธิบายไว้แล้วนะครับ ยัญที่พราหมณ์ทำอยู่ไม่เรียกว่ายัญอันยิ่งใหญ่ ยัญที่ยิ่งใหญ่จนเรียกว่ายัญอันยิ่งใหญ่ต้องทำอย่างไรก็ตามพระสูตรเลย

#80 ข้ามศพกูไปก่อน

ข้ามศพกูไปก่อน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 311 posts

ตอบ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:26

Posted Image

ขอนำมาเสนอเท่านั้น ตัวผมออกความเห็นไม่ได้


จริงๆ น่าจะสึกออกมาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

จะได้ซ่าส์เต็มพิกัด ดูแล้วยังคงมีความเป็นพระอยู่ อย่างมากแค่สังฆาทิเสฐ

เลยไม่กล้าด่า กลัวบาปอะ
เราเกลียดไอ้ทักษิณ เพราะเรารักในหลวง ไม่ใช่รักนักการเมืองคนใด ควายแดงหยุดโชว์โง่ด่วนนะ

#81 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:49


ก็บอกเองไม่ใช่รึว่าเป็นตัวอย่างของอนาคามีมรรค
บอกเองไม่ใช่รึว่าศาสนาอื่นถ้ามีมรรคแปดอย่าว่าแต่อนาคามีเลยอรหันต์ก็บรรลุได้
พวกฤาษีที่ยกมาก็เป็นอาจารย์ของพวกพรามหณ์ จะบอกว่าใช้เรียกถึง พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวกอีกหรือ
ปากบอกว่าไม่นับถือพรามหณ์แต่เล่นศึกษาไตรเพทและเวทางคศาสตร์จนเชี่ยวชาญแบบนี้เรียกว่าอะไรดีครับ
ตระกูลศากยะไม่ได้นับถือพราหมณ์ แต่ดันไปเรียกพรามหณ์ที่ชื่อโกณฑัญญะมาทำนายอนาคต แถมดันเชื่อซะด้วยสิถึงขนาดสร้างปราสาทสามฤดู
ไม่นับถือพราหมณ์แต่ดันมีการแบ่งชั้นวรรณะ
เจ้าชายหนีออกจากวังออกบวชนี่บวชของศาสนาใดล่ะ ถ้าไม่นับถือพรามณ์จะเรียกว่าออกบวชได้รึ ยิ่งหากไม่นับถือศาสนาใดก็ยิ่งแล้วใหญ่จะเรียกออกบวชทำไมมิทราบ
แล้วที่เจ้าชายบรรลุฌานสมาบัติ 8 ไม่ได้มาจากพวกพรามหณ์เลยสินะ แล้วเรื่องบำเพ็ญทุกรกิริยานี่ถ้าไม่ใช่ความเชื่อของพรามหณ์ไม่ทราบเป้นความเชื่อของศาสนาใดครับ

แล้วระหว่างสวดมนต์กับศึกษาไตรปิฎก+อรรถกถาอย่างไหนดีกว่ามิทราบ ยกเรื่องไตรปิฎก+อรรถกถามาถกกันกลับบอกให้สวดมนต์ :lol: :lol: :lol:
พอเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ

>>บทสวด กดเข้าไปแล้วกดให้แสดงรายละเอียด แล้วอ่านคำแปล

ตระกูลศากยะไม่ได้ถือวรรณะแต่ถือเชื้อชาติ แถบอินเดียโบราณไม่ได้มีเชื้อชาติเดียวนะ ตระกูลศากยะเป็นเชื้อชาติที่กษัตริย์มีความองอาจจนได้ชื่อว่าสักยะ จะยอมยกลูกสาวที่เป็นกษัตรีย์ให้พระเจ้าปเสนทิโกศลที่จารีตประเพณีต่างกันหรือ?

พราหมณ์ที่ใช้เรียกผู้ประพฤติพรหมจรรย์ อย่าจำสับกับพราหมณ์ที่เป็นตำแหน่งวรรณะ

วิชาที่เจ้าชายสิทธัตถะศึกษาสมัยไม่ได้ผนวช เป็นศาสตร์การปกครองบ้านเมืองสิบแปดข้อ มีอยู่ข้อที่ให้ศึกษาหลักการของศาสนา ดังนั้นศาสนาที่มีทุกศาสนาในขณะนั้นพระองค์ก็ต้องเรียนหลักการด้วย ไม่ได้เรียนแค่ศาสนาเดียว ศาสตร์ทั้งสิบแปดข้อนั้นพระเจ้าอยู่หัวของไทยพระองค์ปัจจุบันก็ได้ทรงเรียนเช่นกัน

เจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นสมณะ จึงดำริที่จะผนวช บวชหมายถึงการเว้นจากทางโลก ไม่ใช่หมายถึงการถือศาสนา

ในสมัยนั้นคนบวชแสวงหาสัจจธรรมกันเยอะแยะ เกิดทฤษฎีเกิดเจ้าลัทธิต่าง ๆ ก็มาก วิธีทั้งหมดที่เจ้าชายสิทธัตถะทำ คือการทดลองความเชื่อของนักพรตในสมัยนั้นที่พระองค์พิจารณาว่าน่าจะใช่การพ้นทุกข์ ฌาณได้มาแล้วก็ยังเห็นกิเลสนอนกองเล่นกันอยู่ จะให้พระองค์ทำอย่างไร? พระองค์เลยมาบำเพ็ญทุกรกิริยา จนท้ายที่สุดก็เห็นว่าไม่ใช่เพราะกิเลสไม่ได้ทรมาณกิเลสเลย คนบำเพ็ญนี่แหละที่จะตายไปก่อนกิเลส จึงหันมาทำมัชฌิมาปฏิปทาและได้บรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่สุด

สวดมนต์คือทำพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ
ถ้าว่าสักแต่อ่านตำรา อ่านจนตำราเปลื่อยก็ยังไม่ได้ พระอานุสติทั้งสามเลย

ส่วนมหายัญทางพุทธพระพุทธเจ้าก็อธิบายไว้แล้วนะครับ ยัญที่พราหมณ์ทำอยู่ไม่เรียกว่ายัญอันยิ่งใหญ่ ยัญที่ยิ่งใหญ่จนเรียกว่ายัญอันยิ่งใหญ่ต้องทำอย่างไรก็ตามพระสูตรเลย

ศาสนาพราหมณ์มีหลายลัทธิ แต่ละลัทธิ็มีความเชื่อแตกต่างกัน แล้วที่ผมยกตัวอย่างพราหมณ์มานะ ยังจะบอกว่าไม่ใช่วรรณะอีกรึ ถ้าไม่ใช่วรรณะทำไมต้องอ้างชาติตระกูลบริสุทธิ์ 7 ชั่วคนในการบูชามหายัญล่ะ ก็มีแต่คุณเองนั่นแหละที่อยู่ ๆ ไปตัดสินว่านั่นเป็นตัวอย่างของอนาคามีมรรคเอง รีบด่วนตัดสินเลยกลายเป็นศาสนาพราหมณ์ก็บรรลุอนาคามีมรรคสิครับ เพราะที่ยกตัวอย่างนะเป็นพราหมณ์

สังคมอินเดียสมัยก่อนแยกเรื่องการปกครองกับศาสนาพราหมณ์ไม่ออกจากการหรอกครับ เพราะพวกอารยันใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการปกครอง
เรื่องพระเจ้าปเสนทิโกศลไม่ทราบว่าจารีตต่างกันยังไงมิทราบ ในเมื่ออยู่ในสังคมอินเดีย มีการยึดวรรณะเช่นกัน แถมไม่ใช่แค่ 4 วรรณะหลักด้วย มีแยกย่อยเป็นพัน มิทราบว่าเจ้าหญิงวาสภขัตติยานี่ไม่ใช่ลูกกษัตริย์หรือครับ พระพุทธเจ้าให้ถือเอาฝ่ายพ่อ ฝ่ายแม่ไม่จำเป็นนะครับ แต่พวกศากยะนี่กลับถือวรรณะใช่ย่อยนะครับ เกิดจากวรรณะไหน ทำงานตำแหน่งไหนถือเป็นวรรณะนั้น แม้มีเชื้อสายกษัตริย์ แต่ทำงานเป็นทาส ก็อยู่วรรณะทาส ลูกของทาสก็ยังเป็นทาส ทำให้พวกศากยะมองวิฑูฑภะเป็นลูกทาสไปด้วย

เรื่องศาสนานะ อย่าเอาศาสนาสมัยนี้ไปตัดสินครับ ขนาดพวกที่ปากบอกไม่นับถือศาสนาใด พระพุทธเจ้ายังบอกว่านั่นคือศาสนาอย่างหนึ่งเลย แล้วที่เชื่อแล้วทดลองปฏิบัติจนถึงขั้นสูงสุดจนรู้ว่าไม่ใช่ทางที่หาอยู่ยังจะเรียกว่าไม่ได้นับถืออีกรึ มีนับถือก็มีเลิกนับถือได้ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน

สวดมนต์คือทำพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ เนี่ยถ้าไม่ใช้ตำราคุณจะเอาข้อมูลไหนมาทำอนุสติมิทราบ จินตนาการคิดเองเออเองหรือครับ รึจะเอาที่เล่าต่อ ๆ กันมาดี และคุณจะเอาแค่ขั้นอุปจารสมาธิหรือครับ ถ้าแนะนำศาสนาพุทธให้คนศาสนาอื่นโดยบอกให้ทำพุทธานุสติคงจบเห่ คนที่เสื่อมศรัทธาพระสงฆ์ด้วยการทำสังฆานุสติก็จบเห่เช่นกัน ทั้งที่มีวิธีเข้าถึงธรรมตามหลักพุทธตั้งมากมาย กรรมฐานมีแค่ 3 อย่างนั่นซะเมื่อไหร่

Edited by Solidus, 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:51.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#82 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:45

สวดมนต์คือทำพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ เนี่ยถ้าไม่ใช้ตำราคุณจะเอาข้อมูลไหนมาทำอนุสติมิทราบ จินตนาการคิดเองเออเองหรือครับ รึจะเอาที่เล่าต่อ ๆ กันมาดี และคุณจะเอาแค่ขั้นอุปจารสมาธิหรือครับ ถ้าแนะนำศาสนาพุทธให้คนศาสนาอื่นโดยบอกให้ทำพุทธานุสติคงจบเห่ คนที่เสื่อมศรัทธาพระสงฆ์ด้วยการทำสังฆานุสติก็จบเห่เช่นกัน ทั้งที่มีวิธีเข้าถึงธรรมตามหลักพุทธตั้งมากมาย กรรมฐานมีแค่ 3 อย่างนั่นซะเมื่อไหร่

ผมกำลังพูดถึงคุณที่นับถือศาสนาพุทธอยู่ และขอยกมาคำเดียว คือ สัมมาทิฏฐิ

ผมก็ไม่ได้มีสัมมาทิฏฐิอะไร แต่ผมปฏิบัติตามเพื่อหาสัมมาทิฏฐิ เพื่อทำความเห็นให้ถูกต้อง บางครั้งเหมือนจะกระทำแบบโง่ ๆ แต่ถ้ากลัวเรื่องจะทำเกิน ทำเสียแรง ทำไม่ถูก มันจะหาสิ่งที่ถูกไม่เจอเลย ในเมื่อทางท่านบอกมาแล้ว ก็ลองเดินสำรวจหน่อยจะเป็นไรไป

หากสวดมนต์แล้วไม่เกิดอะไร ก็ทำให้เกิดสิ ศีล ปัญญา สมาธิ

Edited by Tux Vader, 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:48.


#83 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:21


สวดมนต์คือทำพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ เนี่ยถ้าไม่ใช้ตำราคุณจะเอาข้อมูลไหนมาทำอนุสติมิทราบ จินตนาการคิดเองเออเองหรือครับ รึจะเอาที่เล่าต่อ ๆ กันมาดี และคุณจะเอาแค่ขั้นอุปจารสมาธิหรือครับ ถ้าแนะนำศาสนาพุทธให้คนศาสนาอื่นโดยบอกให้ทำพุทธานุสติคงจบเห่ คนที่เสื่อมศรัทธาพระสงฆ์ด้วยการทำสังฆานุสติก็จบเห่เช่นกัน ทั้งที่มีวิธีเข้าถึงธรรมตามหลักพุทธตั้งมากมาย กรรมฐานมีแค่ 3 อย่างนั่นซะเมื่อไหร่

ผมกำลังพูดถึงคุณที่นับถือศาสนาพุทธอยู่ และขอยกมาคำเดียว คือ สัมมาทิฏฐิ

ผมก็ไม่ได้มีสัมมาทิฏฐิอะไร แต่ผมปฏิบัติตามเพื่อหาสัมมาทิฏฐิ เพื่อทำความเห็นให้ถูกต้อง บางครั้งเหมือนจะกระทำแบบโง่ ๆ แต่ถ้ากลัวเรื่องจะทำเกิน ทำเสียแรง ทำไม่ถูก มันจะหาสิ่งที่ถูกไม่เจอเลย ในเมื่อทางท่านบอกมาแล้ว ก็ลองเดินสำรวจหน่อยจะเป็นไรไป

ผมบอกว่านับถือศาสนาพุทธเมื่อไหร่ครับ ผมเป็นแค่ผู้ศึกษาศาสนาพุทธแค่นั้น
สัมมาทิฏฐิ ไกด์ไลน์ในไตรปิฎกมี สวดมนต์แล้วหาที่มาของบทสวดนั้นหน่อยเป็นไงครับ อยากขลังก็เอาฉบับภาษาบาลีเลยจะได้เหมือนสวดมนต์อยู่ แต่ถ้าอยากรู้เรื่องแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญภาษาบาลีฉบับแปลไทยก็มี

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#84 พันไมล์

พันไมล์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,261 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:04

Posted Image

"When injustice becomes law, resistance becomes duty." - Thomas Jefferson

"เมื่อผู้รักษากฎหมายอยู่ฝ่ายเดียวกับโจร การประจานจึงกลายเป็นภารกิจ" - Me.haha.gif


#85 พันไมล์

พันไมล์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,261 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:07

ฮ่าๆๆ

สมถะ สมถ่อย

Posted Image

"When injustice becomes law, resistance becomes duty." - Thomas Jefferson

"เมื่อผู้รักษากฎหมายอยู่ฝ่ายเดียวกับโจร การประจานจึงกลายเป็นภารกิจ" - Me.haha.gif


#86 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:09

หากสวดมนต์แล้วไม่เกิดอะไร ก็ทำให้เกิดสิ ศีล ปัญญา สมาธิ

ศีล สมาธิ ปัญญาจำเป็นหรือต้องสวดมนต์ :lol: :lol: :lol:
ปาณาติปาตา เวรมณี จำเป็นไหมต้องสวดก่อนถึงจะปฏิบัติได้ หรือปฏิบัติได้เลยไม่จำเป็นต้องสวด

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#87 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:10

ฮ่าๆๆ

สมถะ สมถ่อย

Posted Image

แหมจะสมถะหรือสมถ่อย เขาก็สวดมนต์ได้นะครับ

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#88 พันไมล์

พันไมล์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,261 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:30

Posted Image

"When injustice becomes law, resistance becomes duty." - Thomas Jefferson

"เมื่อผู้รักษากฎหมายอยู่ฝ่ายเดียวกับโจร การประจานจึงกลายเป็นภารกิจ" - Me.haha.gif


#89 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:06


Posted Image

ขอนำมาเสนอเท่านั้น ตัวผมออกความเห็นไม่ได้


จริงๆ น่าจะสึกออกมาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

จะได้ซ่าส์เต็มพิกัด ดูแล้วยังคงมีความเป็นพระอยู่ อย่างมากแค่สังฆาทิเสฐ

เลยไม่กล้าด่า กลัวบาปอะ

ไม่บาปครับ เพราะมันไม่ใช่ผู้มีพระคุณ และไม่ใช่พระ

#90 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:18

ผมบอกว่านับถือศาสนาพุทธเมื่อไหร่ครับ ผมเป็นแค่ผู้ศึกษาศาสนาพุทธแค่นั้น
สัมมาทิฏฐิ ไกด์ไลน์ในไตรปิฎกมี สวดมนต์แล้วหาที่มาของบทสวดนั้นหน่อยเป็นไงครับ อยากขลังก็เอาฉบับภาษาบาลีเลยจะได้เหมือนสวดมนต์อยู่ แต่ถ้าอยากรู้เรื่องแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญภาษาบาลีฉบับแปลไทยก็มี

ศีล สมาธิ ปัญญาจำเป็นหรือต้องสวดมนต์ :lol: :lol: :lol:
ปาณาติปาตา เวรมณี จำเป็นไหมต้องสวดก่อนถึงจะปฏิบัติได้ หรือปฏิบัติได้เลยไม่จำเป็นต้องสวด

ตอนสวดมนต์น้อมระลึกว่าเราจะทำความนอบน้อมแด่ดวงแก้วทั้งสาม ก่อนและหลังสวดมนต์ให้พิจารณาด้วยปัญญาว่าคุณได้ล่วงละเมิดศีลทั้งห้าหรือไม่ ถ้าไม่ได้ละเมิด ศีลก็เกิดแก่คุณแล้ว จะเกิดความเบิกบานใจขึ้นหรือไม่ก็ตาม ให้ใช้เป็นบาทในการนั่งสมาธิ เดินจงกรม หรือพิจารณาธรรมอย่างหนึ่งอย่างใดก็ว่ากันไป

#91 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:37


ผมบอกว่านับถือศาสนาพุทธเมื่อไหร่ครับ ผมเป็นแค่ผู้ศึกษาศาสนาพุทธแค่นั้น
สัมมาทิฏฐิ ไกด์ไลน์ในไตรปิฎกมี สวดมนต์แล้วหาที่มาของบทสวดนั้นหน่อยเป็นไงครับ อยากขลังก็เอาฉบับภาษาบาลีเลยจะได้เหมือนสวดมนต์อยู่ แต่ถ้าอยากรู้เรื่องแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญภาษาบาลีฉบับแปลไทยก็มี

ศีล สมาธิ ปัญญาจำเป็นหรือต้องสวดมนต์ :lol: :lol: :lol:
ปาณาติปาตา เวรมณี จำเป็นไหมต้องสวดก่อนถึงจะปฏิบัติได้ หรือปฏิบัติได้เลยไม่จำเป็นต้องสวด

ตอนสวดมนต์น้อมระลึกว่าเราจะทำความนอบน้อมแด่ดวงแก้วทั้งสาม ก่อนและหลังสวดมนต์ให้พิจารณาด้วยปัญญาว่าคุณได้ล่วงละเมิดศีลทั้งห้าหรือไม่ ถ้าไม่ได้ละเมิด ศีลก็เกิดแก่คุณแล้ว จะเกิดความเบิกบานใจขึ้นหรือไม่ก็ตาม ให้ใช้เป็นบาทในการนั่งสมาธิ เดินจงกรม หรือพิจารณาธรรมอย่างหนึ่งอย่างใดก็ว่ากันไป

ไม่สวดแล้วจะระลึกไม่ได้เลยรึ :lol: :lol: :lol:
อนุสติ 10 แยกสีลานุสสติ ออกจาก พุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ นะครับ
การสวดมนต์เป็นอุบายในการเจริญสติอย่างหนึ่งแค่นั้น
จะทำสมาธิลองศึกษากรรมฐาน 40 ดูบ้างก็ดีนะครับ

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#92 เกลียดคุณแม้วจังครับ

เกลียดคุณแม้วจังครับ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,190 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:46

จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปไม่มีใครรู้
แต่ที่แน่ๆ
พระที่เห็น ไม่ใช่พระแท้เหรอครับ
อย่าได้นำมายึดเป็นสรณะ

#93 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:56

ไม่สวดแล้วจะระลึกไม่ได้เลยรึ :lol: :lol: :lol:
อนุสติ 10 แยกสีลานุสสติ ออกจาก พุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ นะครับ
การสวดมนต์เป็นอุบายในการเจริญสติอย่างหนึ่งแค่นั้น
จะทำสมาธิลองศึกษากรรมฐาน 40 ดูบ้างก็ดีนะครับ

ขึ้นอยู่กับบุคคล

ขั้นตอนของคุณเป็นอย่างไร ของผมสวดมนต์ หากรู้สึกไม่สบายใจผมจะพิจารณาศีลก่อน สวดจนถึงบทพิจารณาสังขาร และแผ่เมตตา จากนั้นก็ลงมือนั่งสมาธิหรืออาจไปเดินจงกรม

ขอถามว่า คุณเคยกราบพระพุทธรูปหรือ และตอนคุณกราบคุณคิดว่าคุณกราบอะไร

#94 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:16


ไม่สวดแล้วจะระลึกไม่ได้เลยรึ :lol: :lol: :lol:
อนุสติ 10 แยกสีลานุสสติ ออกจาก พุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ นะครับ
การสวดมนต์เป็นอุบายในการเจริญสติอย่างหนึ่งแค่นั้น
จะทำสมาธิลองศึกษากรรมฐาน 40 ดูบ้างก็ดีนะครับ

ขึ้นอยู่กับบุคคล

ขั้นตอนของคุณเป็นอย่างไร ของผมสวดมนต์ หากรู้สึกไม่สบายใจผมจะพิจารณาศีลก่อน สวดจนถึงบทพิจารณาสังขาร และแผ่เมตตา จากนั้นก็ลงมือนั่งสมาธิหรืออาจไปเดินจงกรม

ขอถามว่า คุณเคยกราบพระพุทธรูปหรือ และตอนคุณกราบคุณคิดว่าคุณกราบอะไร

ขึ้นอยู่กับบุคคลแต่คุณกลับสั่งให้เขาทำอย่างนู้นอย่างนี้เนี่ยนะ :lol: :lol: :lol:

ผมถึงได้บอกว่าให้ศึกษากรรมฐาน 40 ดูบ้างก็ดี อย่างไหนถูกจริตคุณก็ใช้อย่างนั้น หากจะแนะนำคนอื่นอย่าเอาตัวเองไปตัดสิน ให้คนอื่นตัดสินใจเองว่าจะใช้วิธีไหน

ไตรปิฎกมี 84,000 ธรรมขันธ์ ไม่จำเป็นต้องรู้หมด ใช้เฉพาะที่ต้องจริตตัวเองก็พอ

ผมกราบพระพุทธรูปเป็นพิธีแค่นั้น ถ้าจะให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าไม่จำเป็นต้องใช้พระพุทธรูปเลย การสร้างพระพุทธรูปมีที่มาจากวัฒนธรรมกรีกไม่ใช่รึนำเข้ามาหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานหลายร้อยปี

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#95 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:22

ขึ้นอยู่กับบุคคลแต่คุณกลับสั่งให้เขาทำอย่างนู้นอย่างนี้เนี่ยนะ :lol: :lol: :lol:

ผมถึงได้บอกว่าให้ศึกษากรรมฐาน 40 ดูบ้างก็ดี อย่างไหนถูกจริตคุณก็ใช้อย่างนั้น หากจะแนะนำคนอื่นอย่าเอาตัวเองไปตัดสิน ให้คนอื่นตัดสินใจเองว่าจะใช้วิธีไหน

ไตรปิฎกมี 84,000 ธรรมขันธ์ ไม่จำเป็นต้องรู้หมด ใช้เฉพาะที่ต้องจริตตัวเองก็พอ

ผมกราบพระพุทธรูปเป็นพิธีแค่นั้น ถ้าจะให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าไม่จำเป็นต้องใช้พระพุทธรูปเลย การสร้างพระพุทธรูปมีที่มาจากวัฒนธรรมกรีกไม่ใช่รึนำเข้ามาหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานหลายร้อยปี

ไอ้ที่ขึ้นอยู่กับบุคคล ผมหมายถึงกำลังอินทรีย์บารมีของแต่ละบุคคล ผู้ที่อินทรีย์บารมีอ่อนแต่สวดหรือทำการระลึกบ่อย อินทรีย์บารมีก็มากขึ้นเอง ผู้ที่สวดระลึกก็ดีกราบพุทธรูประลึกก็ดีจึงได้ชื่อเป็นผู้ที่ไม่ประมาท

เมื่อกี้คุณยังยกตำราอยู่เลยนะ ทำไมมาทึ้งตำราเร็วจัง แล้วรู้หรือยังว่าคืออะไร ที่ผมยกมานี่คือพื้นฐานนะ ผมไม่ได้ยกทั้งตำรามา

หากคุณรำลึกได้เอง แล้วความระลึกของคุณได้ไปถึงในพระพุทธเจ้าแล้วหรืองยัง?

#96 PeaceMan

PeaceMan

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 513 posts

ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:45


ดิฉันไม่เข้าวัดทําบุญมานานแล้ว ก็เพราะอย่างนี้แหละ มีสัตว์อาศัยอยูในวัดมาก จนแยกไม่ค่อยออกไหนพระ ไหนสัตว์

มานะปิดกั้นธรรมอยู่นะ
ทานให้ไปก็เพราะนั่นคือทาน ขอให้ทราบในส่วนนี้ พระเวสสันดรให้ทานบุตรทั้งสองแก่ชูชกไป ผลยังส่งให้ได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ คุณหวังผลอะไรกับทาน?

"โดยส่วนตัว"ผมเชื่อว่าผู้ที่คิดจะทำบุญสุนทานนั้น...
ไม่ควรที่จะ สักเเต่ทำไปเพื่อความสบายใจของตน เเต่ควรต้องรู้จักรับผิดชอบต่อการกระทำของตนด้วย

การทำบุญหรือทานนั้นเพื่อให้ได้กุศลสูงสุด ก็ควรครบองค์สาม

1)จิตของผู้กระทำควรเป็นกุศล
2)ที่มาของ ทรัพสินเงินทอง ที่ใช้ในการ ทำบุญทำทานก็ควรต้องเป็น สุจริต
3)ผู้รับเองก็ควรจะต้องเป็นผู้ที่เหมาะสม

ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป สำหรับผม ผมเชื่อว่าทำได้...เเต่... ผลรับก็จะไม่สมบูรณ์

เพราะผลของกรรมเป็นสิ่งที่ซื่อตรงเป็นที่สุด เช่นเดียวกับ fractal law หรือ chaos theory

เช่น ถ้าข้อ (1) & (2) เหมาะสม เเต่ ข้อ(3) คือ...ผู้รับ...ไม่เหมาะสม(พระปลอมผู้นั้นหรือขอทานผู้นั้น นำเงินที่ได้ ไปซื้อยามาเสพ)

ผลรับก็คือ...
ผู้ที่ทำบุญให้ทานไปนั้น อาจจะได้รับ 1)ความสุขใจจากการทำบุญ 2)มีกัลยานิมิตรเเละบริวารเพิ่มพูน
เเต่สังคมที่เต็มไปด้วยผู้ค้าเเละเสพยาก็จะ 3)สร้างผลกระทบ ที่ไม่พึงประสงค์ หรืออุปสรรค ต่อครอบครัวไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

นั่นเพราะกฎของกรรมนั้น ซื่อเเละตรงที่สุด

จริงอยู่ที่ว่า...
ไม่มีอะไรถือเป็นสิ่งที่ ดีหรือเลวเป็นabsolute มีเเต่สิ่งที่ ควรเเละไม่ควร ต่อสถานะการณ์นั้นๆเป็น case by case basis
เเละขึ้นอยู่กับผู้กระทำ จะยอมรับต่อ consequences ที่ตามมาได้เเค่ไหน...

ถึงอย่างนั้นก็ตาม...
ผมก็ยังคงเชื่อว่า ผลของกรรมที่จะกระทบต่อสังคม(เเละในที่สุดก็จะย้อนมาหาเราอยู่ดี) ...เราควรเป็นผู้ต้องรับผิดชอบ คิดให้ดีก่อนกระทำเสมอ...
โดยมี "สายกลาง"เป็นตัวช่วยกำกับ...









#97 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:11


ขึ้นอยู่กับบุคคลแต่คุณกลับสั่งให้เขาทำอย่างนู้นอย่างนี้เนี่ยนะ :lol: :lol: :lol:

ผมถึงได้บอกว่าให้ศึกษากรรมฐาน 40 ดูบ้างก็ดี อย่างไหนถูกจริตคุณก็ใช้อย่างนั้น หากจะแนะนำคนอื่นอย่าเอาตัวเองไปตัดสิน ให้คนอื่นตัดสินใจเองว่าจะใช้วิธีไหน

ไตรปิฎกมี 84,000 ธรรมขันธ์ ไม่จำเป็นต้องรู้หมด ใช้เฉพาะที่ต้องจริตตัวเองก็พอ

ผมกราบพระพุทธรูปเป็นพิธีแค่นั้น ถ้าจะให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าไม่จำเป็นต้องใช้พระพุทธรูปเลย การสร้างพระพุทธรูปมีที่มาจากวัฒนธรรมกรีกไม่ใช่รึนำเข้ามาหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานหลายร้อยปี

ไอ้ที่ขึ้นอยู่กับบุคคล ผมหมายถึงกำลังอินทรีย์บารมีของแต่ละบุคคล ผู้ที่อินทรีย์บารมีอ่อนแต่สวดหรือทำการระลึกบ่อย อินทรีย์บารมีก็มากขึ้นเอง ผู้ที่สวดระลึกก็ดีกราบพุทธรูประลึกก็ดีจึงได้ชื่อเป็นผู้ที่ไม่ประมาท

เมื่อกี้คุณยังยกตำราอยู่เลยนะ ทำไมมาทึ้งตำราเร็วจัง แล้วรู้หรือยังว่าคืออะไร ที่ผมยกมานี่คือพื้นฐานนะ ผมไม่ได้ยกทั้งตำรามา

หากคุณรำลึกได้เอง แล้วความระลึกของคุณได้ไปถึงในพระพุทธเจ้าแล้วหรืองยัง?

ผมบอกตรงไหนว่าทิ้งตำรามิทราบ ยกมาด้วยครับ
ไตรปิฎกมี 84,000 ธรรมขันธ์ ไม่จำเป็นต้องรู้หมด ใช้เฉพาะที่ต้องจริตตัวเองก็พอ
บางสูตรไม่เกี่ยวกับเรื่องสมาธิ เวลาคุณจะทำสมาธิคุณจะเอามาใช้เป็นแนวทางการทำสมาธิทำไมมิทราบ
และมิทราบผมยกมาทั้งตำราเมื่อไหร่ ยกมาทั้งตำรานะ บอร์ด 2 หน้าก็ไม่พอหรอกครับ คุณบอกที่ยกมาพื้นฐานนี่ใช้พื้นฐานจากอะไรกันครับ พื้นฐานดีไม่น่าพลาดไปบอกว่าพวกที่ทำบูชามหายัญเป็นตัวอย่างของอคานามีมรรคได้นะครับ
อย่าเอาแต่สวดมนต์อย่างเดียว ศึกษาธรรมหาที่มาของบทสวดที่คุณสวดนั้น ๆ ซะบ้างนะครับ พระสูตรต่าง ๆ ในไตรปิฎกรวมถึงอรรถกามีรายละเอียดเยอะกว่าที่คุณสวดมากมาย คุณอ่านพระสูตรคุณก็สามารถระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสาวกในพระสูตรนั้น ๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุหรือบทสวดชี้นำหรอกครับ อย่างบทสวดที่คุณแนะนำมานะ คุณลองทำตามเรื่องธัมมวิจยะรึยัง ลองศึกษาสิ่งที่เรียกว่าพุทธพจน์รึยัง
ระลึกถึงพระพุทธเจ้าอย่างไรล่ะ พระพุทธเจ้าไม่ใช่รูปปั้น ไม่ใช่รูปวาด ถึงจะมีลักขณสูตรในไตรปิฎกบรรยายไว้ ก็ไม่สามารถทำให้คนธรรมดาเห็นรูปพระพุทธเจ้าเหมือนตาเห็นได้ ทำได้แต่อาศัยจินตนาการตามความรู้ตัวเองแค่นั้น กลายเป็นว่านึกรูปลักษณ์พระพุทธเจ้าไปก็เท่านั้น สู้ไปนึกว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร ทำอะไรดีกว่า ข้อมูลที่ดีที่สุดก็คงไม่พ้นไตรปิฎกกับอรรถกาที่คุณเรียกว่าตำราหรอกครับ หรือคุณคิดว่ามีข้อมูลอื่นที่ดีกว่านี้กัน

Edited by Solidus, 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:18.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#98 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:55

ผมบอกตรงไหนว่าทิ้งตำรามิทราบ ยกมาด้วยครับ
ไตรปิฎกมี 84,000 ธรรมขันธ์ ไม่จำเป็นต้องรู้หมด ใช้เฉพาะที่ต้องจริตตัวเองก็พอ
บางสูตรไม่เกี่ยวกับเรื่องสมาธิ เวลาคุณจะทำสมาธิคุณจะเอามาใช้เป็นแนวทางการทำสมาธิทำไมมิทราบ
และมิทราบผมยกมาทั้งตำราเมื่อไหร่ ยกมาทั้งตำรานะ บอร์ด 2 หน้าก็ไม่พอหรอกครับ คุณบอกที่ยกมาพื้นฐานนี่ใช้พื้นฐานจากอะไรกันครับ พื้นฐานดีไม่น่าพลาดไปบอกว่าพวกที่ทำบูชามหายัญเป็นตัวอย่างของอคานามีมรรคได้นะครับ
อย่าเอาแต่สวดมนต์อย่างเดียว ศึกษาธรรมหาที่มาของบทสวดที่คุณสวดนั้น ๆ ซะบ้างนะครับ พระสูตรต่าง ๆ ในไตรปิฎกรวมถึงอรรถกามีรายละเอียดเยอะกว่าที่คุณสวดมากมาย คุณอ่านพระสูตรคุณก็สามารถระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสาวกในพระสูตรนั้น ๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุหรือบทสวดชี้นำหรอกครับ อย่างบทสวดที่คุณแนะนำมานะ คุณลองทำตามเรื่องธัมมวิจยะรึยัง ลองศึกษาสิ่งที่เรียกว่าพุทธพจน์รึยัง
ระลึกถึงพระพุทธเจ้าอย่างไรล่ะ พระพุทธเจ้าไม่ใช่รูปปั้น ไม่ใช่รูปวาด ถึงจะมีลักขณสูตรในไตรปิฎกบรรยายไว้ ก็ไม่สามารถทำให้คนธรรมดาเห็นรูปพระพุทธเจ้าเหมือนตาเห็นได้ ทำได้แต่อาศัยจินตนาการตามความรู้ตัวเองแค่นั้น กลายเป็นว่านึกรูปลักษณ์พระพุทธเจ้าไปก็เท่านั้น สู้ไปนึกว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร ทำอะไรดีกว่า ข้อมูลที่ดีที่สุดก็คงไม่พ้นไตรปิฎกกับอรรถกาที่คุณเรียกว่าตำราหรอกครับ หรือคุณคิดว่ามีข้อมูลอื่นที่ดีกว่านี้กัน


เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหม เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศหมดความเป็นใหญ่แล้วเป็นผู้ไม่ต้องกลับมา คือ ไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้

ทราบไหมครับว่าจุติไปเป็นพรหมแล้วไม่มาสู่เป็นอย่างนี้ คือพรหมชั้นใด?

คุณปฏิบัติแบบไหนครับ ตอนสังสารผมยังดี ๆ อยู่ ผมปฏิบัติอานาปานสติบ้าง เพ่งกสิณบ้าง เดี๋ยวนี้ลดมาเหลือแค่กำหนดคำบริกรรมของลมหายใจ

#99 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:21

เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหม เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศหมดความเป็นใหญ่แล้วเป็นผู้ไม่ต้องกลับมา คือ ไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้

ทราบไหมครับว่าจุติไปเป็นพรหมแล้วไม่มาสู่เป็นอย่างนี้ คือพรหมชั้นใด?

คุณปฏิบัติแบบไหนครับ ตอนสังสารผมยังดี ๆ อยู่ ผมปฏิบัติอานาปานสติบ้าง เพ่งกสิณบ้าง เดี๋ยวนี้ลดมาเหลือแค่กำหนดคำบริกรรมของลมหายใจ

ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหม แต่ไม่จำเป็นต้องเกิดเป็นพรหมเสมอไปนะครับ การเกิดเป็นพรหมได้ต้องตายขณะอยู่ในฌาน แต่การทำทานได้ขนาดนี้มีการใช้สมถะและวิปัสสนาก็เทียบได้กับพระอนาคามีไงครับ เพราะพระอนาคามีตายแล้วจะเกิดที่พรหมโลก การทำทานประเภทอื่น ๆ ไปได้สูงสุดแค่สวรรค์ชั้น 6

ของผมก็ใช้อานาปานสตินะทำสะดวกดี สามารถต่อยอดได้อีก

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#100 Mark Nazi

Mark Nazi

    พี่มากขา

  • Members
  • PipPipPip
  • 548 posts

ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:10

ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหม แต่ไม่จำเป็นต้องเกิดเป็นพรหมเสมอไปนะครับ การเกิดเป็นพรหมได้ต้องตายขณะอยู่ในฌาน แต่การทำทานได้ขนาดนี้มีการใช้สมถะและวิปัสสนาก็เทียบได้กับพระอนาคามีไงครับ เพราะพระอนาคามีตายแล้วจะเกิดที่พรหมโลก การทำทานประเภทอื่น ๆ ไปได้สูงสุดแค่สวรรค์ชั้น 6

ของผมก็ใช้อานาปานสตินะทำสะดวกดี สามารถต่อยอดได้อีก

ถ้าอย่างนั้นผมขอจบการสนทนากระทู้นี้ลงนะ เพราะผมหมดคำถามแล้ว :)




ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน