เสียงผงาดคำรามของพยัคฑ์ที่ไ่ม่จมน้ำ (แต่ต้องว่ายน้ำ)
แต่นี่มันสิงโตทะเลนี่หว่า!?
Edited by ดาร์ค สวอน, 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:12.
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:12
Edited by ดาร์ค สวอน, 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:12.
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:18
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:21
คุณต้องลงมือ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง "คานธี"
กฏของเสียงข้างมาก จะใช้กับเรื่องของมโนธรรมไม่ได้ "คานธี"
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:37
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:37
Edited by koong, 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:38.
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:15
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:32
ผู้ว่าอยุธยา ก็ผิดด้วยซีสูตรสำเร็จของคำตอบสำหรับเรื่องนี้มีอยู่แล้ว
1)ถ้าทดสอบแล้วน้ำไม่ท่วมเป็นผลงานรัฐบาล
2)ถ้าทดสอบแล้วน้ำท่วมจะเป็นข้อบกพร่องของผู้ว่า กทม.
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:33
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:42
ปริมาณน้ำฝนอย่างเดียวมาเชื่อหัวปักหัวปำเลยครับ ฝนหนะไม่เท่าไร แต่ที่สะสมไว้ในเขื่อนนี้มีผลมากกว่าครับ
ปีนี้น้ำไม่ท่วมหรอกครับ สำหรับพื้นที่ กทม.
และจริง ๆ ต้องบอกว่า ท่วมก็หมาแล้วครับ
สุดท้ายก็ ปาหี่หลอกควาย ตามถนัด
จากรูป... ปีที่แล้ว... เราน่าจะรู้ตัวตั้งแต่... เดือน ... มีนาแล้ว...
ใช่ครับ น้ำท่วมชิบหายวายป่วงปีที่แล้ว เป็นเพราะรัฐบาลม้ากครับ จบป่ะ
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:48
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:48
Edited by เดือนเอก, 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:49.
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:55
ยิ่งลักษณ์ เป็นนายก วันที่ 5 สิงหาคม 54เอาไปอีกดอกจะได้หายเขลาลงไปบ้าง(นี่สุภาพและอยากให้ฉลาดขึ้นบ้างจริงๆ)
นักข่าวต่างประเทศมองปัญหาเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือพัฒนาการของน้ำท่วม ดูว่ากรุงเทพฯจะรอดหรือไม่ เสียหายอย่างไรบ้าง อีกส่วนก็วิเคราะห์เรื่องการบริหารจัดการน้ำ วิเคราะห์ว่าปัญหาเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะถ้าเทียบกับประเทศเวียดนาม และฟิลิปปินส์ ที่เจอพายุหนัก แต่ทำไมไทยถึงเกิดอุทกภัยที่หนักกว่าประเทศเหล่านั้นเยอะมาก
เขาก็จะวิจารณ์ในส่วนศปภ. ว่าจริงๆแล้วทำอะไรกันบ้าง ทำไมไม่มีผู้ว่ากทม.ร่วมด้วย มันเป็นการเมืองหรือเปล่า และทำไมไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งก็วิเคราะห์กันว่าจะเป็นการให้อำนาจทหารมากเกินไป กลัวถูกทหารยึดอำนาจ
นายพิรุณ กล่าวต่อว่า มีปมปริศนาที่สื่อไทยไม่ค่อยเจาะลึกนัก แต่บลูมเบิร์กตั้งข้อสังเกตว่าน้ำมาตั้งแต่เมื่อไหร่ จะมาต่อไปถึงวันไหน ความจริงทุกคนรู้ อธิบดีกรมชลประทาน (นายชลิต ดำรงศักดิ์) รู้ดีสุด ซึ่งตอนนี้ก็ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 ตามมาด้วยผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (นายสุทัศน์ ปัมทสิริวัฒน์) เป็นผู้ต้องหาที่ 2 เพราะน้ำท่วมครั้งนี้มันไม่ได้มาจากฝนอย่างเดียว มันมาจาการบริหารจัดการน้ำที่ผิดอย่างร้ายแรงมาก
น้ำมาจากเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ย้อนไปดูข้อมูลกรมชลฯ เดือนสิงหาคม มีน้ำกักเก็บมากกว่าที่เก็บในปีก่อนๆ 2 เท่า ทั้งๆที่รู้ว่าฝนตกมากกว่าปกติ กรมอุตุฯก็บอกว่าฝนภาคเหนือตกมากกว่าอัตราเฉลี่ยของเมื่อปีที่แล้ว ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์
สิงหาคมเป็นต้นฤดูฝน ปกติเขื่อนภูมิพลเคยเก็บน้ำไว้แค่ประมาณ 30 - 40 ล้านลบ.ม. แต่สิงหา คมปีนี้ เก็บไว้มากถึง 70 กว่าล้านลบ.ม. พอกันยายนมันขึ้นไปหนัก ก็เริ่มปล่อยน้ำ ปลายกรกฎาคม ปล่อยวันละ 4.5 ล้านลบ.ม. พอสิงหาคมปล่อย 22 ล้านลบ.ม. ต่อวัน กันยายน 26 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ยังไม่ทำให้น้ำท่วม แต่น้ำก็เริ่มสูงแล้ว และมาวิกฤตตอนตุลาคม ปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพลถึงวันละ 77 ล้านลบ.ม.ต่อวัน นี่คือมวลน้ำก้อนใหญ่ กรมชลฯคำนวณแล้วว่าใช้เวลา 9 วัน น้ำจากเขื่อนภูมิพลจะมาถึงกรุงเทพฯ
ที่ศปภ.บอกในวันที่ 16 ตุลาคม ว่าน้ำมวลใหญ่ลงทะเลไปแล้ว รัฐบาลพูดไม่หมด อันนั้นเป็นแค่น้ำมวลใหญ่ก้อนแรก อย่าลืมว่าน้ำมวลใหญ่ถูกปล่อยจากเขื่อน 14 วัน แสดงว่ากรุงเทพฯก็ต้องเผชิญน้ำก้อนใหญ่ 14 วัน น้ำก้อนใหญ่ที่ลงไปแล้วเป็นแค่หัวๆ ของจริงยังไม่มา
นายพิรุณ กล่าวต่อว่า เขื่อนภูมิพลปล่อยน้ำวันละ 77 ล้านล.บ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ ไม่มากเท่าไหร่ แต่ปัญหาคือปล่อยมาพร้อมกัน ดูสถิติจะเห็นว่าวิธีปล่อยน้ำผิดปกติวิสัยกว่าปีก่อนๆ ปกติพอฤดูฝนก็จะเพิ่มการระบายน้ำขึ้นทีละนิด แต่ปีนี้ขึ้นพุ่งพรวด จาก 4 ล้านลบ.ม. เป็น 22 ล้านลบ.ม. และมากถึง 77 ล้านลบ.ม.
น้ำฝนมากกว่าปีก่อน 25 เปอร์เซ็นต์จริง แต่ที่ท่วมมันมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ สื่อนอกมองอีกว่าใครสั่งให้กักน้ำไว้มากกว่าปกติ และเมื่อรู้แล้วทำไมไม่แจ้งประชาชนให้รู้ก่อน ถ้าแจ้งแต่เนิ่นๆคงไม่เสียหายขนาดนี้
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:34
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:53
Edited by ควันหลง, 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:57.
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:57
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 19:32
8;p(โทษทีครับ ลืมเปลี่ยนภาษาของคีย์บอร์ด)
ผลทดสอบระบายน้ำฉลุย "รอยล" ยิ้มพอใจขุดลอกคูคลองได้ผล
วันนี้ (5 ก.ย.) นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) ในฐานะคณะอนุกรรมการติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ ในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากคณะทำงานเริ่มปฏิบัติการเดินเครื่องทดสอบประสิทธิภาพการระบายน้ำ ในพื้นที่ปลายน้ำ ตั้งแต่เวลา 14.02 น. โดยสั่งเปิดประตูน้ำคลองทวีวัฒนา 50 เซนติเมตร และเพิ่มขึ้นตามลำดับ เพื่อจากปล่อยน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์เข้าคลองทวีวัฒนา โดยระดับน้ำที่คลองมหาสวัสดิ์ก่อนเปิดประตูน้ำอยู่ที่ 94 เซนติเมตร ทั้งนี้การสั่งการเริ่มตั้งแต่นายปลอดประสพ โฟนอินเข้ามายังศูนย์ปฏิบัติการฯ แจ้งความพร้อม ผู้แทนจาก กทม. ประสานกับกรมชลประทาน เพื่อเปิดประตูระบายน้ำในระดับที่กำหนดไว้ หรือที่ 50 เซนติเมตร และเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยให้ข้อมูลเป็นระยะ พร้อมทั้งสรุปสถานการณ์การทดสอบทุก 1 ชั่วโมง
โดยข้อมูลระดับน้ำที่คลองทวีวัฒนาเมื่อเวลา 14.10 น. เพิ่มจาก 60 เซนติเมตร เป็น 66 เซนติเมตร ส่วนน้ำที่ปลายคลองทวีวัฒนาตัดกับคลองภาษีเจริญ อยู่ที่ 22 เซนติเมตร จากเดิม 20 เซนติเมตร ส่วนระดับความเร็วของน้ำที่เพิ่มขึ้นหลังใช้เรือผลักดันน้ำ เมื่อเวลา 14.35 น. ระดับความเร็วของน้ำอยู่ที่ 15 ลบ.ม/วินาที ระดับน้ำในคลองทวีวัฒนาอยู่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 4-5 เซนติเมตร ซึ่งข้อมูลระดับน้ำทั้งหมดจะส่งตรงเข้ามายังศูนย์ปฏิบัติการ การทดสอบฯ ที่ สสนก. ซอยรางน้ำ อาทิ ข้อมูลจากเครื่องวัดระดับน้ำอัตโนมัติทั้ง 11 สถานี สถานีเรดาห์วัดน้ำฝนทั้งในและนอกพื้นที่ โดยกรมอุทกศาสตร์
ดร.รอยล กล่าวอีกว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.20 น. ได้มีฝนตกในบริเวณที่ทำการทดสอบ ประมาณ 5.5 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้ และน้อยกว่าปริมาณฝนเมื่อวาน (4 กย.) ซึ่งอยู่ที่ 16 มิลลิเมตร จึงไม่มีผลต่อการทดสอบ และเมื่อเวลา14.50 น. คณะทำงานได้ตัดสินใจปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 12 ลบ.ม. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขุดลอกคูคลองที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้เป็นไปอย่างถูกต้อง และได้ผลเกินคาด โดยระดับน้ำคลองทวีวัฒนาตัดกับคลองภาษีเจริญ อยู่ที่ 20 เซนติเมตร เมื่อเวลาประมาณ 15.00-16.00 น.
หลังจากนั้นได้ปล่อยน้ำเข้าสูงสุดตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ พร้อมทั้งเปิดเครื่องผลักดันน้ำทั้งระบบ ก่อนที่คณะทำงานจะตัดสินใจยุติการทดสอบในเวลา 17.00 น. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม 1ชั่วโมง โดยรอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้สั่งการปิดประตูระบายน้ำคลองทวี วัฒนา เนื่องจากได้รับข้อมูลทดสอบที่เพียงพอแล้ว โดยระดมสูบน้ำที่ผ่านคลองทวีวัฒนาออกทางแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนน้ำที่ผ่านคลองพระยาราชมนตรี จะสูบลงคลองสนามชัย โดยใช้เครื่องสูบน้ำของกรมชลประทาน
ดร.รอยล กล่าวสรุปผลการทดสอบครั้งนี้ ว่า ขณะเดินเครื่องผลักดันน้ำบางส่วน ทำให้ประสิทธิภาพการระบายของคลองฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้น จาก 7 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 11 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และขณะที่เดินเครื่องผลักดันน้ำเต็มศักยภาพ ประสิทธิภาพการระบายน้ำอยู่ที่ 17 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งไม่ทำให้เกิดน้ำท่วม และจากการติดตาม ทุกจุดไม่พบการล้นตลิ่งขณะทดสอบ แม้จะมีฝนตกลงมาในระดับปานกลาง.
http://www.dailynews...politics/153551
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 20:21
ปีนี้น้ำไม่ท่วมหรอกครับ สำหรับพื้นที่ กทม.
และจริง ๆ ต้องบอกว่า ท่วมก็หมาแล้วครับ
สุดท้ายก็ ปาหี่หลอกควาย ตามถนัด
จากรูป... ปีที่แล้ว... เราน่าจะรู้ตัวตั้งแต่... เดือน ... มีนาแล้ว...
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 - 21:13
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน