
*** คำทำนายหลวงพ่อเอื้อม อภิสิทธิ์หวนนั่งนายกฯ - หลุดพ้นทุกคดี
#52
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 04:21
คนไทย ณ ปัจจุบันได้รับการศึกษาแบบทั่วถึง ขั้นต่ำก็ต้องมีจบม.6 เว้นแต่คนยากจนจริงๆนะครับ ยังไงก็ตาม จบชั้นมัธยมนั้นถือว่ามีการศึกษา คิดได้แล้ว
ผมจึงคิดว่า อีกไม่เกิน10ปี ชาติไทยจะดีขื้นกว่านี้ครับ ทำไม?
อีก10ปี คนที่เกียจทักษิณ ในตอนนี้ค่อนข้างเยอะมาก โดยเฉพาะรุ่นผม รุ่นสอบเข้ามหาวิทยาลัยครั้งแรก
รุ่นนี้แหละ คนเกียจทักษิณเยอะมาก คุณโกงให้ใครสอบได้ ตูยังจำได้นะเงย ตูไม่มีวันลืม
วัยรุ่นไทย ส่วนใหญ่โดยเฉพาะในกรุงเทพ ปริมณฑล เกียจทักษิณมาก
เรื่องนี้ผมเคยเอาไปเล่น อ.เสื้อแดงแถวบ้านผม ไปไม่เป็น งงเลย มีด้วยหรอ (ข่าวออกเยอะแยะไม่ดูบ้างหรอ แสด?)
เมื่อวันหนึ่งสังคมไทย ต้องขาดคนชรา (คนชราได้จากโลกนี้ไปบ้างแล้ว) อย่าด่าว่าแช่งนะครับ เพราะทุกคนมีเกิดแก่เจ็บตาย
ประกอบกับกลุ่มคนกลุ่มนี้ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ก็จะอายุประมาณ30กว่าๆแล้ว ประกอบกับ นักการเมืองดีๆในปัจจุบัน ผมคิดว่าประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้าขื้นแน่นอน
เพราะคนไทยจะฉลาดขื้นนั่นเอง
ปล.ความเห็นส่วนตัวนะครับ
#53
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 06:56
เอาให้ชัด ว่าถ้าถูกก็ให้ถูก ถ้าว่าผิดก็ให้มันผิด
อย่าให้มันสับสนอยู่อย่างนี้
#54
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 07:18
#55
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 08:25
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#56
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:11
http://www.bmwsociet...d.asp?id=143218
- nhum and Alanza 4.91 like this
ใครอยู่เบื้องหลังการอุ้มฆ่าเอกยุทธ์ อัญชัญบุตร
#57
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:18
ในการมุ่งมั่นทำงานเพื่อบ้านเมือง
...
พ่อท่านเอื้อม ศิษย์สำนักเขาอ้อพุทธาคม เหมือน ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช
คำไหนคำนั้นเช่นกันครับ
- nhum, คุณฉงน, ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ and 2 others like this
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#58
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:20
^
เพื่อนผมสะสมพระธาตุมาตลอดชีวิตเลยครับ เรื่องอัฏฐิหลวงตากลายเป็นพระธาตุเขาก้เล่าให้ผมฟังเหมือนกัน
ผมเลยอยากถามเพื่อนผู้รู้ว่า....เคยมีพระเกจิที่คนนับถือทำนายทักษิณในทางรุ่งเรืองแบบที่ทำนายอภิสิทธิ์บ้างไหมครับ
ผมไม่เคยได้ยินเลยนะ มีแต่พวกหมอดูงี่เง่าอย่างหมอลักษณ์นี่แหละที่ทายว่าเจ้ามูลเมืองจะกลับมายิ่งใหญ่
#59
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:26
ผมก็ทายได้ฮะ
ใครอยู่เบื้องหลังการอุ้มฆ่าเอกยุทธ์ อัญชัญบุตร
#60
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:27
"ทำเหตุในปัจจุบันดี ผลในอนาคตย่อมต้องดี"
สมเด็จพุฒาจารย์(โต)
เชื่อตามนี้
สาธุค่ะ
Edited by wewe, 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:37.
ความเท็จแม้นเร้นได้ในปัจจุบัน แต่ก็เหมือนซ่อนสุริยันไว้หลังเมฆ
อย่านึกถึงแต่ความผิดพลาด จงระลึกถึงต้นเหตุของความผิดพลาด
#61
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 10:21
*ผมข่อนข้างเห็นด้วยนะครับ ลูกชายผมเรียนและซี้กับลูกชายนักการเมือง(พอจะเรียกได้ว่าสส.ตลอดกาลของพท.)ในความคิดผมครับ ย้ำความคิดผมเองนะครับ
คนไทย ณ ปัจจุบันได้รับการศึกษาแบบทั่วถึง ขั้นต่ำก็ต้องมีจบม.6 เว้นแต่คนยากจนจริงๆนะครับ ยังไงก็ตาม จบชั้นมัธยมนั้นถือว่ามีการศึกษา คิดได้แล้ว
ผมจึงคิดว่า อีกไม่เกิน10ปี ชาติไทยจะดีขื้นกว่านี้ครับ ทำไม?
อีก10ปี คนที่เกียจทักษิณ ในตอนนี้ค่อนข้างเยอะมาก โดยเฉพาะรุ่นผม รุ่นสอบเข้ามหาวิทยาลัยครั้งแรก
รุ่นนี้แหละ คนเกียจทักษิณเยอะมาก คุณโกงให้ใครสอบได้ ตูยังจำได้นะเงย ตูไม่มีวันลืม
วัยรุ่นไทย ส่วนใหญ่โดยเฉพาะในกรุงเทพ ปริมณฑล เกียจทักษิณมาก
เรื่องนี้ผมเคยเอาไปเล่น อ.เสื้อแดงแถวบ้านผม ไปไม่เป็น งงเลย มีด้วยหรอ (ข่าวออกเยอะแยะไม่ดูบ้างหรอ แสด?)
เมื่อวันหนึ่งสังคมไทย ต้องขาดคนชรา (คนชราได้จากโลกนี้ไปบ้างแล้ว) อย่าด่าว่าแช่งนะครับ เพราะทุกคนมีเกิดแก่เจ็บตาย
ประกอบกับกลุ่มคนกลุ่มนี้ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ก็จะอายุประมาณ30กว่าๆแล้ว ประกอบกับ นักการเมืองดีๆในปัจจุบัน ผมคิดว่าประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้าขื้นแน่นอน
เพราะคนไทยจะฉลาดขื้นนั่นเอง
ปล.ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ลูกผมบอกว่าจบแล้วจะหุ้นกับเพื่อนคนนี้ทำธุรกิจ ผมบอกว่าถ้าจะทำก็รีบทำ เพราะการที่นักการเมืองจะทำอย่างนี้ได้ก็คง
ทำได้อีก4-5ปี หลังจากนั้นจะมีการตรวจสอบ หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้ การอิงนักการเมืองเพื่อธุรกิจจะน้อยลง
*ผมได้บอกอีกว่า ถ้าทำจริงๆ ก็ให้แบ่งเงินกำไรมาทำบุญเยอะๆ บาปจะได้ไม่ติดไปชาติหน้า และที่สำคัญอย่า
ให้คนด่าถึงพอ-แม่ โค-ตะ-ระ เหง้าศักราชได้
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#62
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 10:39
ผมก็มีความเชื่อโดยส่วนตัวว่าคนอย่างอภิสิทธิ์ไม่ธรรมดา
และเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นกับอภิสิทธิ์เหมือนกับเป็นการทดสอบ "ขันติบารมี" ว่าเขาจะอดทนต่อคำกล่าวร้ายและยังสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องได้หรือไม่
ผมไม่ได้บอกว่าอภิสิทธิ์เป็น 3 ร่มโพธิ์ แต่เชื่อว่าเป็นคนดีมีความสามารถคนหนึ่ง และอยากให้ยึดมั่นในคุณธรรมนั้นไว้ ต่อไปจะได้เห็นธรรมมะชนะอธรรมบ้าง หลังจากปล่อยให้ผู้ดีเดินตรอกขี้ครอกเดินถนนมานาน
ปล.
3 ร่มโพธิ์
1. พระธรรมมิกราช - พระอรหันต์ซึ่งเป็นผู้นำคณะสงฆ์ - พอเดาได้(เพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยถาวรได้ไม่กี่เดือนนี่เอง)
2. พระมหาจักรพรรดิ - ในหลวง
3. พระโพธิสัตว์ - พระศรีอาริย์ (ข้อมูลยังไม่แน่ชัดนัก แต่ถ้าใช่ที่คิดไว้ตอนนี้ก็อยู่เมืองไทย)
ปล.2
ผมห่วงเด็กยุคใหม่เช่นกัน เพราะความเจริญทางวัตถุเข้ามามากๆ เรื่องศีลธรรม จิตวิญญาณ ความเชื่อ ประเพณี หรือคำสั่งสอนของคนยุคเก่าก็เริ่มหมดไป แทนที่เด็กจะเชื่อฟังพ่อแม่ก็จะกลายเป็นเชื่อฟังกูเกิ้ล บางทีพ่อแม่ใช้กูเกิ้ลไม่เป็นก็โดนเด็กดูถูกอีกต่างหาก ยังไงก็ฝากไว้เรื่องความเจริญต้องมีศีลธรรมควบคู่ด้วย ไม่เช่นนนั้นก็จะเป็นแบบบางประเทศที่เจริญแค่ไหนก็ยังต้องเจอแต่ภัยสงคราม
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:11.
- Nong likes this
#63
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:55
*ผมได้บอกอีกว่า ถ้าทำจริงๆ ก็ให้แบ่งเงินกำไรมาทำบุญเยอะๆ บาปจะได้ไม่ติดไปชาติหน้า และที่สำคัญอย่า
ให้คนด่าถึงพอ-แม่ โค-ตะ-ระ เหง้าศักราชได้
ต้องขออนุญาตชี้แจงท่าน IFai เรื่องบาปกับบุญนะครับ เพราะคนไทยเข้าใจผิดกันมากเลยเรื่องนี้
ว่าถ้าหากเราต้องทำบาปโดยเจตนา ไม่เจตนา หรือเจตนาแต่จำใจต้องทำก็ตาม ก็ทำบุญเยอะๆ
เป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก
หลักศาสนาพุทธ ทำบุญล้างบาปไม่ได้ครับ บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป หักล้างกันไม่ได้
บาปกรรมบางอย่าง เราต้องเสวยกรรมก่อนถึงจะได้รับบุญ หรือเราอาจเสวยบุญก่อนแล้วถึงรับกรรมก็มี
กรรมที่จำแนกโดย “เวลาที่ให้ผล” (ปากกาลจตุกะ) 4 อย่าง
กรรมบางอย่างอาจจะให้ผลในชาตินี้ เรียกว่า ทิฎฐธรรมเวทนียกรรม
กรรมบางอย่างไปให้ผลในชาติหน้า เรียกว่า อุปปัชชเวทนียกรรม
กรรมบางอย่างให้ผลในชาติต่อ ๆ ไป เรียกว่า อปราปรเวทนียกรรม
และกรรมที่หมดเวลาให้ผลแล้ว เรียกว่า “อโหสิกรรม”
กรรมที่เป็นกรรมหนัก(มีทั้งดีและชั่ว)ที่ให้ผลก่อนกรรมอื่นคือ “ครุกรรม” จะเห็นผลทันที
กรรมหนักจริงๆ แบบนี้ เช่น กรรมที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ การยุยงให้สงฆ์แตกกันหรือทำร้ายพระพุทธองค์ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ห้อเลือด
กรรมที่ให้ผลในลำดับรองลงมาเราเรียกว่า “อาสันนกรรม”
เป็นกรรมที่ทำตอนใกล้ตาย หรือการระลึกถึงกรรมที่ตนเองเคยกระทำไว้ในเวลาที่ใกล้จะตาย
เมื่อตายแล้วจึงยังให้เกิดผลของกรรมขึ้น (จิตระลึกตอนใกล้ตายนั้นแรงสุด จะระลึกดีหรือชั่วก็ตาม เป็นตัวส่งเราไปเกิดยังภพภูมิตามจิตก่อนตายของเรา)
กรรมที่ให้ผลในลำดับต่อไปคือ “อาจิณกรรม” หมายถึงการกระทำที่ทำอยู่บ่อยๆ จนเป็นนิสัย
กรรมฝ่ายไหนมีกำลังมากกว่า แรงกว่า ก็จะส่งผลกรรมนั้นก่อน
เช่น ถ้าฝ่ายดีมีกำลังแรงกล้ามากกว่าก็จะไปสุคติก่อน และถ้าอาจิณณกรรมฝ่ายชั่ว มีกำลังแรงกว่า ก็จะไปทุคติก่อน
กรรมที่ให้ผลเป็นลำดับสุดท้ายคือ กฏัตตากรรม คือกรรมที่สักแต่ว่าทำ
กรรมชนิดนี้มีเจตนาในการทำกรรมอ่อนที่สุด ผลแห่งกรรมจึงได้รับเป็นอย่างเบาที่สุดหรือให้ผลทีหลังสุด
ติดตามอ่านต่อได้ที่นี่ครับ มีรายละเอียดประกอบด้วย ดีมากๆ
http://torthammarak....งกรรมในประเภทต/
- Akekun likes this
#64
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:15
อานิสงค์ ของการสร้างบุญบารมี ( ทาน, ศีล, ภาวนา )
http://www.kanlayana...sara/sara68.htm
องค์ประกอบข้อที่ ๑ . " วัตถุทานที่ให้ต้องบริสุทธิ์ "
วัตถุทานที่ให้ ได้แก่สิ่งของทรัพย์สมบัติที่ตนได้สละให้เป็นทานนั้นเอง จะต้องเป็นของที่บริสุทธิ์ ที่จะเป็นของบริสุทธิ์ได้จะต้องเป็นสิ่งของที่ตนเองได้แสวงหา ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ในการประกอบอาชีพ ไม่ใช่ของที่ได้มาเพราะการเบียดเบียนผู้อื่น เช่น ได้มาโดยยักยอก ทุจริต ลักทรัพย์ ฉ้อโกง ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ฯลฯ
องค์ประกอบข้อที่ ๒ . " เจตนาในการสร้างทานต้องบริสุทธิ์ "
การให้ทานนั้น โดยจุดมุ่งหมายที่แท้จริงก็เพื่อเป็นการขจัดความโลภ ความตระหนี่เหนียวแน่นความหวงแหนหลงใหลในทรัพย์สมบัติของตน อันเป็นกิเลสหยาบ คือ " โลภกิเลส " และเพื่อเป็นการสงเคราะห์ผู้อื่นให้ได้รับความสุขด้วย เมตตาธรรมของตน อันเป็นบันไดก้าวแรกในการเจริญเมตตา พรหมวิหารธรรมในพรหมวิหาร ๔ ให้เกิดขึ้น ถ้าได้ให้ทานด้วยเจตนาดังกล่าวแล้ว เรียกว่าเจตนาในการทำทานบริสุทธิ์ แต่เจตนาที่ว่าบริสุทธิ์นั้น
ถ้าจะบริสุทธิ์จริงจะต้องสมบูรณ์พร้อมกัน ๓ ระยะ คือ
( ๑ ) ระยะก่อนที่จะให้ทาน ก่อนที่จะทานก็จะมีจิตที่โสมนัสร่าเริงเบิกบานยินดีที่จะให้ทาน เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นให้ได้รับความสุขเพราะทรัพย์สิ่งของของตน
( ๒ ) ระยะที่กำลังลงมือให้ทาน ระยะที่กำลังมือให้ทานอยู่นั้นเอง ก็ทำด้วยจิตใจโสมนัสร่าเริงยินดีและเบิกบานในทานที่ตนกำลังให้ผู้อื่น
( ๓ ) ระยะหลังจากที่ได้ให้ทานไปแล้ว ครั้นเมื่อได้ให้ทานไปแล้วเสร็จ หลังจากนั้นก็ดี นานมาก็ดี เมื่อหวนคิดถึงทานที่ตนได้กระทำไปแล้วครั้งใด ก็มีจิตใจโสมนัสร่าเริงเบิกบาน ยินดีในทานนั้น ๆ
องค์ประกอบข้อที่ ๓ . " เนื้อนาบุญต้องบริสุทธิ์ "
……
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:17.
- Akekun likes this
#65
ตอบ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:08
แต่ก้อดีเหมือนกันเปลี่ยนบรรยากาศม้าง
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน