ยศตำรวจ : เกียรติตำรวจ
โดย วสิษฐ เดชกุญชร
ข่าวหนึ่งที่กำลังครึกโครมหรือเกรียวกราวอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อสังคมขณะนี้ คือข่าว เกี่ยวกับภาพของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งถ่ายในขณะที่ (พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร กำลังประดับยศให้ ในภาพมีข้อความเขียนด้วยลายมือว่า “ขอแสดงความ ยินดีกับแจ๊สน้องรัก ขอให้มีความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นที่รักของประชาชนและเพื่อนตำรวจ รัก” และลงลายมือชื่อ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (๒๙ มิ.ย. ๕๕)” ภาพนี้ผู้สื่อข่าวไปเห็นในห้องทำงาน ของคุณคำรณวิทย์ แล้วนำมาเผยแพร่ จนเป็นที่กล่าวขานและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
ที่เป็นข่าวครึกโครมเกรียวกราวและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางก็เพราะว่าการประดับยศที่ปรากฏในภาพนั้น กระทำในวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๕ อันเป็นวันเดียวกันกับที่มีประกาศ พระบรมราชโองการแต่งตั้งคุณคำรณวิทย์ให้เป็นพลตำรวจโท ประกาศพระบรมราชโองการนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ซึ่งถ้าเป็นเช่น นั้นจริง ๆ ก็หมายความว่า ขณะที่นายกรัฐมนตรีกำลังลงชื่อรับสนองพระบรมราชโองการอยู่นั้น (พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร กำลังเตรียมตัวที่จะประดับยศใหม่ให้แก่คุณคำรณวิทย์อยู่แล้ว พอ น.ส. ยิ่งลักษณ์ลงชื่อรับสนองพระบรมราชโองการเสร็จ ก็คงจะมีการแจ้งให้ (พ.ต.ท.)ทักษิณทราบ และ ประดับยศ พล.ต.ท.ให้คุณคำรณวิทย์ในทันที
ผมเดาอย่างนี้เพราะว่า หากการประดับยศทำก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงชื่อรับสนองพระ บรมราชโองการ แม้แต่เพียงชั่วโมงหรือสองชั่วโมง ยศที่ (พ.ต.ท.)ทักษิณประดับให้คุณคำรณวิทย์ ก็เป็นยศเถื่อน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะกระทำก่อนมีประกาศพระบรมราชโองการในราชกิจจา นุเบกษา (แปลว่ามีผลบังคับใช้)
และอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๖ ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดไม่มีสิทธิ ที่จะสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิก สภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล หรือไม่มีสิทธิใช้ยศ ตำแหน่ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือสิ่งที่ หมายถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์ กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวออกมาแล้ว คุณคำรณวิทย์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้ผู้ วิพากษ์วิจารณ์อย่างแข็งกร้าว ยืนยันว่าเคารพและสนิทสนมกับ (พ.ต.ท.)ทักษิณมานาน และมี ความตั้งใจอย่างเดียวกัน คือทำงานเพื่อประชาชน ในขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง นำดอกไม้ไปมอบให้คุณคำรณวิทย์ และแสดงการสนับสนุนอย่างน่าทึ่ง
อันที่จริง เกี่ยวกับ (พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร นั้น โดยส่วนตัว คุณคำรณวิทย์ย่อมมีความชอบ ธรรมโดยสมบูรณ์ ที่จะประกาศแสดงความเคารพ สนิทสนม ชื่นชมหรือจงรักภักดีอย่างใดก็ได้
แต่คุณคำรณวิทย์ต้องไม่ลืมว่า คุณคำรณวิทย์มีตำแหน่งทางราชการ เป็นผู้บัญชาการตำรวจ นครบาล เป็น “ตำรวจ” และมีหน้าที่รักษากฎหมาย ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ส่วนผู้ที่ คุณคำรณวิทย์เคารพ สนิทสนม ชื่นชม หรือจงรักภักดีนั้น นอกจากจะเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา หลายคดีแล้ว ยังเป็นอาชญากรผู้ต้องคำพิพากษาของศาลให้จำคุก แต่ไม่ยอมรับโทษ และกำลังอยู่ ในระหว่างหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศด้วย
โดยตำแหน่งและหน้าที่ของคุณคำรณวิทย์ การที่คุณคำรณวิทย์ไปให้ (พ.ต.ท.)ทักษิณ ประดับยศให้ จึงเป็นเรื่องไม่สมควร น่าเกลียด ไม่ชอบด้วยจริยธรรม และอาจเข้าข่ายประพฤติ มิชอบ
ก่อนการได้รับพระราชทานยศ พล.ต.ท.ครั้งนี้ คุณคำรณวิทย์เคยได้รับพระราชทานยศมา แล้ว ๗ ครั้ง เริ่มตั้งแต่ยศร้อยตำรวจตรีมาจนถึงยศพลตำรวจตรี ในบ้านหรือสำนักงานของคุณ คำรณวิทย์คงมีสัญญาบัตรยศ ๗ ฉบับที่ได้รับพระราชทานมาเก็บหรือประดับอยู่
สัญญาบัตรยศนี้ ที่จริงคือประกาศพระบรมราชโองการพระราชทานยศ ฉบับที่ได้รับพระราชทานตอนเป็นพลตำรวจตรีนั้น ผมเข้าใจว่าคุณคำรณวิทย์คงจะได้เข้า เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และรับพระราชทานจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และใน โอกาสนั้น คงจะทรงพระกรุณาแตะอินทรธนูของคุณคำรณวิทย์ด้วยพระแสงขรรค์เพชรน้อยด้วย
ข้อความในสัญญาบัตรยศนั้น ตอนหนึ่งมีว่า
“ให้ฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน และรักษาวินัยโดยเคร่งครัด จงเว้นการควรเว้น หมั่นประพฤติการควรประพฤติ ให้ต้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายและแบบธรรมเนียม จงทุกประการ”
ยศตำรวจนั้น ไม่ว่าจะสูงต่ำเพียงใดย่อมเป็นที่ใฝ่ฝันและปรารถนาของตำรวจทุกคน แต่บาง คนอาจลืมไปว่า ที่มาพร้อม ๆ กับยศนั้นคือเกียรติของตำรวจ ที่ตำรวจทุกคนจะต้องรักษาไว้ มิให้มี ตำหนิ ด่างพร้อย หรือเสียหาย และวิธีรักษาเกียรตินั้นปรากฏชัดอยู่ในประกาศพระบรมราช โองการที่แต่งตั้งตน ถ้าไม่รักษาเกียรติ แต่กระทำด้วยพฤติการณ์ที่ลบหลู่หรือย่ำยีเกียรติ ยศที่ได้รับพระ ราชทานมาก็ไร้ความหมาย ไม่ว่าใครจะประดับให้ก็ตาม
ไว้จะมาคุยเบื้องหลังเรื่องท่าน แจ๊ส บุก พรรค ปชป.ให้ฟังดึกๆนะครับ