โ ด น สั่ ง ป ล ด แล้ว กรรมมันตามทัน ยงยุทธ ถูก ก.อพ. พิจารณาเรื่องจากที่ ปปช. ชี้มูลความผิด แล้ว พบทําผิดจริง มีคำสังปลด ยงยัด ทั้ง รองนายก และ มท.1
#51
ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:12
#53
ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:09
#54
ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:11
#55
ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2555 - 19:32
โคตรอภิมหาหน้าด้าน
ผมไม่ต้องบอกชื่อท่านผู้มีเกียรติ์ลองไปค้นคว้าเอง
ในประเทศนี้ เคยมีนักการเมืองหลายคนประพฤติ
พอมีการชี้มูลปั๊บ
ลาออกปุ๊บ
ถือเป็นมรรยาท ควรแก้การถือเป็นแบบอย่างในหมู่นักการเมืองด้วยกัน
แล้วมาขึ้นถึงนี้
กกต.บอกว่าสิ้นสภาพแล้ว
ขอโทษ...รู้จักคนหน้าด้านน้อยไป
มันอาจไม่ฟังต่อสู้ในทางศาล
แถ...ยื้อต่อไป
ภายใต้การรู้เห็นของนายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยปละละเลย
ประทานโทษ ชั่วเป็นระบบ
#56
ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2555 - 21:52
ผู้ใหญ่.......ของแมงสาป.......
ยังไม่บอกเหรอ.......ว่าเป็นแผน.....จัดฉาก........
เพื่อยุบพรรรค.......หัวหน้าพรรค....โดนแล้ว.......
แมงสาป.......หวังส้มหล่น.....อีกแล้ว......
แหม.....นึกว่าจะปลอดแดง..เสียแล้ว...
รักษามาตรฐานได้ดี คงเส้นคงวา..เยี่ยมครับ
#57
ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2555 - 22:25
อ๋อ...............เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้
ผู้ใหญ่.......ของแมงสาป.......
ยังไม่บอกเหรอ.......ว่าเป็นแผน.....จัดฉาก........
เพื่อยุบพรรรค.......หัวหน้าพรรค....โดนแล้ว.......
แมงสาป.......หวังส้มหล่น.....อีกแล้ว......
แหม.....นึกว่าจะปลอดแดง..เสียแล้ว...
รักษามาตรฐานได้ดี คงเส้นคงวา..เยี่ยมครับ
ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ " https://www.facebook...akwarakfromyala https://www.facebook.com/NARAPEACE
#58
ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2555 - 23:34
ยงยุทธ เฮ คำสั่งไล่ออกไร้ความหมาย ไปเจอมาจาก โพสต์ทูเดย์ค่ะ
โ ด น สั่ ง ป ล ด แล้ว กรรมมันตามทัน
ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ถูก ก.อพ. (คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) พิจารณาเรื่องจากที่ ปปช. ชี้มูลความผิด แล้ว พบทําผิดจริง (โกงธรณ๊สงฆ์เจตนาผิดโทษตํ่าสุด คือ ปลดออก)
เ ว ร ก ร ร ม มัน ไล่ล่า ค น เ ล ว ค น ชั่ ว สรยุทธ์, สุรสิทธิ์, ยงยุทธ รับเงินจากคนเลวคนชั่ว
Kaewkwan Chuenbumroong
ดีใจเอ๊ยย ดีใจจัง ...... ยงยุทธ ยงยัด หนีบ่วงกรรมไม่พ้น อกพ.มหาดไทย มีคำสังปลด ยงยัด ทั้ง รองนายก และ มท.1 ..........
วิญญานคุณยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ตามทวงที่ดินวัดแล้ว หนอย คุณยายบริจาค หวังให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ แต่ถูกนักการเมืองเอามาเล่นแร่แปรธาตุ จนกลายเป็นสนามกอล์ฟ ของทักษิณไปซะนี่ เจอกรรมตามไล่ล่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในครั้งนั้น คงต้องใช้กรรมใช้เวร โกงที่วัด คิวนี้ ยงยัด โดนเต็มหน้า แม้จะช้าไปถีง 41 ปี ที่ดิน ตั้งใจถวายวัดธรรมิการามวรวิหาร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ดินไม่ใช่น้อย เนื้อที่ 730 ไร่ 1 งาน 51 ตารางวา อยู่ที่คลองหลวง ปทุมธานี ถวายเป็นกรรมสิทธิ์ให้แก่วัดธรรมมิการามวรวิหาร ผิดมาตั้งแต่เจ้าอาวาส ที่จะขายไม่ทำตามเจตนารมย์ผู้ตาย ขนาดมีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ กรมที่ดิน มีคำสั่งเพิกถอนรายการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมและโฉนดที่ดิน ที่เปลี่ยนมือเป็นของทักษิณ แต่ยงยัด นี่แหละตัวดี กลับมีคำสั่งเพิกถอน คำสั่งของกรมที่ดิน
มาดนิ่มๆ แต่ร้ายลึก แต่ร้ายแค่ไหน ไม่มีทางเอาชนะ “กรรมเก่า” ที่ย้อนมาเล่นงาน ถูก ป.ป.ช. ลงมติ 6:3 ชี้มูลความผิด “อาญา-วินัยร้ายแรง” โทษทางอาญาอาจต้องใช้เวลา อีกหลายเดือน แต่โทษทางวินัยตามกฎหมาย ป.ป.ช.ให้ อ.ก.พ. มหาดไทย มีบทสรุปแล้วคะ "ปลดออก ” ผลก็คือ ต้องหลุดจากตำแหน่ง ส.ส.และรัฐมนตรีทันที !
การให้ "ปลดออก" เป็นโทษฐานเบา ไม่ต้องคืนเงินบำเน็จบำนาญ แต่หากเป็นการไล่ออก ยงยัด จะต้องคืนเงินทั้งหมด มหากาพย์เรื่องนี้ยังไม่จบคะ งานต่อไปที่ อกพ. จะต้องทำ คือ จะต้องพิจารณา แนวทางเพิกถอนโฉนดที่ดิน ตามที่ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลมา และนำเสนอปลัดมหาดไทย เป็นผู้ลงนามเพิกถอนคำสั่งปลัดมหาดไทยในอดีต ข่าวว่า อกพ.ยัง ป๊อดแหก เตรียมโยนเผือกร้อน ให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ช่วยตีความอีกครั้งว่า มหาดไทย สมควรที่จะดำเนินการอย่างไร เสียวจังกฤษณาสีแดงๆ เรื่องนี้มีเงื่อนงำแน่ เพราะ ปี 2545 คณะกรรมการกฤษฎีกา เคย ทำหนังสือถึงมหาดไทย ในสมัยที่ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เป็น มท.1 มีข้อเสนอและความเห็นว่า การเป็นที่ธรณีสงฆ์นั้น เป็นโดยสภาพของที่ดิน ที่ดินใดเป็นที่ธรณีสงฆ์ แล้วการโอนจะต้องตราเป็น พ.ร.บ.คณะสงฆ์ หากมีการนำที่ดินนี้ไปออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3 ให้แก่ผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลา ยาวนานเพียงใด ก็ไม่เป็นการเปลี่ยนแปลง ผลทางกฎหมายของการ เป็นที่ธรณีสงฆ์ กรณีนี้ จึงไม่อาจใช้วิธีการอื่นได้ ที่จะทำให้ที่ดินแปลงนี้ พ้นจากสภาพการเป็นธรณีสงฆ์ได้
เรื่องนี้ผ่านปลัดมหาดไทย มาแล้วถึง 7 คน ก็ยังไม่มีการดำเนินการ ตามที่กฤษฎีกา มีความเห็นไว้ และดูเหมือนพยายามยื้อเวลา นายพระนาย สุวรรณรัฐ เป็นคนที่ 8 และมีความเป็นไปได้สูงมากว่า จะยังไม่มีการดำเนินการเพิกถอนคำสั่ง และเพิกถอนโฉนด ในสมัยของนายพระนาย แน่นอน เพราะเหลืออายุราชการไม่ถึง 10 วัน หากส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความอีกครั้ง ก็จะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย หรืออีกทาง นายพระนายก็ส่งเผือกร้อน ต่อให้กับ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดมหาดไทยคนใหม่รับไม้ต่อ มหากาพย์ คงจะยาวต่อไป เพราะใครจะกล้ายึดคืนที่ดิน "ทักษิณ" เนอะ ส่วนความหวังล้างมลทิน ยงยัด คงต้องเลิกคิด
Siriwanna Jill
อ.ก.พ .กระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาแล้วไม่ปรากฏหลักฐานใดๆที่แสดงให้เห็นว่านายยงยุทธกระทำการใดๆเพื่อให้ตนเองและผู้อื่นได้ประโยชน์ซึ่งมิควรได้ และยังเห็นว่านายยงยุทธได้พิจารณาอุทธรณ์คำสั่งกรมที่ดินดังกล่าวด้วยมี เจตนาสุจริตและคำนึงถึงผลประโยชน์สาธารณะด้วย เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบ 292 ราย ที่เดือดร้อนและจะนำไปสู่การฟ้องร้องกรมที่ดินและกระทรวงมหาดไทย อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยจึงเห็นว่าการกระทำของนายยงยุทธไม่มีมูลความผิดเข้า ข่ายเป็นการกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามข้อ กล่าวหาของป.ป.ช.แต่อย่างใด
แต่เนื่องจากกรณีนี้ป.ป.ช.ได้มีมติว่านายยงยุทธกระทำผิดวินัยร้ายแรง จึงยังคงต้องลงโทษทางวินัยตามที่ป.ป.ช.มีมติโดยไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอีก และต้องพิจารณาลงโทษภายใน 30วันนับแต่ได้รับเรื่อง ทั้งนี้ตามพรบ.ป.ป.ช.และมติครม.เมื่อ 21ธันวาคม 2536 กำหนดแนวทางให้ถือปฏิบัติว่าการลงโทษผู้กระทำผิดวินัยฐานทุจริตไม่เป็นเหตุ ลดหย่อนโทษเป็นการปลดออกดังนั้นแม้อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยจะเห็นว่านายยงยุทธ ไม่มีความผิดประกอบกับนายยงยุทธได้ปฏิบัติหน้าที่ทางราชการที่มีคุณประโยชน์ มาตลอด และไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยมาก่อน กรณีนี้จึงมิอาจพิจารณาเป็นอย่างอื่นได้ จึงมีมติเสนอให้รมว.มหาดไทยสั่งลงโทษไล่นายยงยุทธออกจากราชการตามที่ป.ป. ช.ได้มีมติ โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 30 ก.ย. 2545 ซึ่งเป็นวันที่นายยงยุทธมีอายุครบ 60 ปี
ทั้งนี้ในท้ายคำสั่งไล่ออกนายยงยุทธยังระบุด้วยว่าผู้ถูกลงโทษอยู่ในหลักเกณฑ์ ที่จะได้รับการล้างมลทินตามพรบ.ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระชนมพรรษา 80 พรรษาพ.ศ.2550 ตามแนวทางความเห็นของคณะกรรมการกฤษฏีกาที่เทียบเคียงได้ ซึ่งผลของการล้างมลทินให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษหรือถูกลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณีใดๆ และหากผู้ลงโทษจะยื่นอุทธรณ์ให้ยื่นต่อก.พ.ค.(คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม)ภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับทราบคำสั่ง และหากก.พ.ค.วินิจฉัยแล้วหากผู้ยื่นอุทธรณ์ไม่เห็นด้วยให้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 90 นับแต่วันที่ได้รับทราบคำวินิจฉัยของก.พ.ค.
จำเป็นต้องไล่ออกตามมติ ปปช. แต่ดันบอกว่าให้ได้รับการล้างมลทินย้อนหลังในวโรกาส 80 พรรษา พ.ศ.2550ได้ เมื่อตอนมี พรบ.ล้างมลทินมันยังไม่ได้ถูกไล่ออก แต่จะกลับไปใช้ประโยชน์ ไอ้พวกนี้มันหน้าด้านยิ่งกว่าหนังควายซะอีก
ดูรายละเอียดข่าวได้ที่ http://www.posttoday...่ออกไร้ความหมาย
Edited by แทนคุณแผ่นดินเกิด, 22 กันยายน พ.ศ. 2555 - 23:45.
กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ
#59
ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2555 - 23:51
ตายไปเจอการลงโทษของจริง ซึ่งมันจะเผ็ดร้อนและทรมานอย่างที่พวกมันไม่นึกว่าจะได้เจอ. แน่นอน
#60
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 01:27
#61
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 02:19
อ.ก.พ .กระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาแล้วไม่ปรากฏหลักฐานใดๆที่แสดงให้เห็นว่านายยง ยุทธกระทำการใดๆเพื่อให้ตนเองและผู้อื่นได้ประโยชน์ซึ่งมิควรได้ และยังเห็นว่านายยงยุทธได้พิจารณาอุทธรณ์คำสั่งกรมที่ดินดังกล่าวด้วยมี เจตนาสุจริตและคำนึงถึงผลประโยชน์สาธารณะด้วย
อะโห........ดีใจไม่ทันข้ามวัน ข้าราชการก็ออกมาช่วยนายแบบบิดเบือนหน้าด้านๆเยี่ยงนี้เอง.........
โอว กลียุคอยู่ไม่ไกลแล้วครับ
#62
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 07:36
ข่าวหน้า 1 ไทยโพสท์ 23 September 2555 - 00:00
ยายเนื่อมยังตายตาไม่หลับ นักการเมืองทำผิดไม่ต้องรับโทษเพราะล้างได้หมดจด "ยิ่งลักษณ์" สั่งกฤษฎีกาทำงานวันหยุด ออกใบการันตี "ยงยุทธ" ได้รับการล้างผิดตามกฎหมายล้างมลทินทันที หลัง อ.ก.พ.ไล่ออก ทั้งที่กฎหมายล้างมลทินให้รับโทษก่อน กางกฎหมายหลังถูกไล่ออก เก้าอี้รัฐมนตรี และ ส.ส.ของ "ยงยุทธ" หลุดโดยอัตโนมัติตามรัฐธรรมนูญ แต่เจ้าตัวไม่สนเตรียมชงโผโยกย้ายมหาดไทยเจ้า ครม. และรักษาการเก้าอี้นายกฯ หลัง "ปู" บินไปนิวยอร์ก พบพิรุธ กรรมการ อ.ก.พ.ไม่รู้ประชุมลงมติตั้งแต่เมื่อไหร่
หลังมีคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ที่ 546/ 2555 มติชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ไล่ออกนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขณะรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย คดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ตามมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปเมื่อวันที่ 20 กันยายน
โดย อ.ก.พ.ระบุท้ายคำสั่งว่า การลงโทษทางวินัย ผู้ถูกลงโทษอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ได้รับการล้างมลทิน ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติล้างมลทิน พ.ศ.2550 ตามแนวทางความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่อาจเทียบเคียงได้ ตามเรื่องเสร็จที่ 440/2526 และหนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร.1011/272 ลงวันที่ 7 กันยายน 2555 ซึ่งผลของการล้างมลทินให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษหรือถูกลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณีนั้นๆ
เมื่อวันเสาร์ นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ทำหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 กันยายน ระบุว่า ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ความเห็นกรณีที่คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงมหาดไทย มีมติลงโทษทางวินัยให้ปลดออกนายยงยุทธ ขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย จะมีผลทางกฎหมายอย่างไรนั้น
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาขอชี้แจงว่า การมีคำสั่งลงโทษทางวินัยข้าราชการนั้น จะต้องสั่งลงโทษในขณะที่ผู้นั้นยังคงดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการอยู่ หากพ้นจากตำแหน่งแล้ว จะต้องออกคำสั่งย้อนหลังไปก่อนวันที่ผู้นั้นพ้นจากราชการ และถือว่าผู้นั้นถูกลงโทษทางวินัยตั้งแต่วันที่คำสั่งกำหนดให้มีผลย้อนหลัง แต่เนื่องจากภายหลังจากคำสั่งลงโทษทางวินัยมีผลย้อนหลังใช้บังคับแล้ว ได้มีกฎหมายว่าด้วยการล้างมลทินใช้บังคับในเวลาต่อมา จึงทำให้ผู้ถูกลงโทษได้รับผลจากการล้างมลทินโดยไม่ถือว่าผู้นั้นเคยถูกลงโทษมาก่อน
ทั้งนี้ ตามบันทึกเรื่องปัญหาเกี่ยวกับพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ.2526 ซึ่งวินิจฉัยว่า การที่ผู้บังคับบัญชาได้ออกคำสั่งลงโทษย้อนหลังไปก่อนวันออกคำสั่งตามกรณีของข้อ 4 แห่งระเบียบ ก.พ.ว่าด้วยวันออกจากราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ.2518 นั้น เป็นกรณีที่ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการตามระเบียบ ก.พ.ดังกล่าว หากผลของการออกคำสั่งลงโทษนั้นทำให้ข้าราชการผู้ใดได้รับโทษก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติล้างมลทินฯ พ.ศ.2526 ใช้บังคับแล้ว ข้าราชการผู้นั้น ย่อมจะอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการล้างมลทินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ พ.ศ.2526 ด้วย
ดังนั้น กรณีของรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) หากมีข้อเท็จจริงเป็นไปตามความเห็นดังกล่าว ก็ย่อมได้รับการล้างมลทินไปแล้ว
เทียบเคียง "ปลอดฯ"
นอกจากนี้ ยังมีบันทึกข้อความ ไม่ลงวันที่ ของนายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการ ก.พ. ถึงนายกฯ ระบุว่า เทียบเคียงว่านายยงยุทธอยู่ในเกณฑ์ได้รับการล้างมลทินเช่นเดียวกับกรณีของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรง จากกรณีให้บริษัท ศรีราชาไทเกอร์ซู จำกัด ส่งออกเสือโคร่งเบงกอล จำนวน 100 ตัว ไปยังประเทศจีน สมัยเป็นอธิบดีกรมป่าไม้
ขณะที่นายยงยุทธให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา และ ก.พ. เบื้องต้นทั้ง 2 หน่วยงานให้ความเห็นว่า ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไปตามปกติ ไม่มีปัญหาและไม่ผิด ดังนั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานในกระทรวงมหาดไทย และตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า กระทรวงมหาดไทยจะมีการเสนอรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดให้ที่ประชุมพิจารณาด้วย โดยไม่จำเป็นต้องชะลอเรื่องไว้
เขาบอกว่า จะมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงข้อเท็จจริง และแจกเอกสารข้อมูลทั้งหมดประกอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน ในวันที่ 23 ก.ย.นี้
“จะเป็นแรงกดดันให้ปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ต้องไปถามที่นายกรัฐมนตรีเอง แต่ก็ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว และในช่วงที่นายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐอเมริกา ผมก็จะต้องทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีอะไรหนักใจ และไม่ท้อใจกับข่าวที่ออกมา จะตั้งใจทำงานตามหน้าที่ต่อไป ไม่อ่อนไหวหวั่นไหว เนื่องจากข่าวลักษณะนี้มักจะออกมาในช่วงที่มีข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี หรือการปรับตำแหน่งแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทย” นายยงยุทธกล่าว
ทั้งนี้ นายยงยุทธได้กล่าวในโอกาสเป็นประธานมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติราชการให้กับผู้บริหารกรมที่ดิน ตอนหนึ่งถึงกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ว่า แม้ในสมัยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน แต่ก็ไม่ได้เป็นลูกหม้อของกรมที่ดิน ไม่เก่งกฎหมายที่ดิน แต่มีจิตสำนึกและใช้สามัญสำนึกในการกระทำการที่ถูกต้อง และกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ก็ได้ดำเนินการตามที่มีผู้ทำไว้ก่อนหน้า และคณะกรรมการกฤษฎีกาก็วินิจฉัยว่าไม่ผิด
ไม่รู้มีประชุม อ.ก.พ.
ก่อนหน้าที่จะมีการเผยแพร่คำสั่งไล่ออกนายยงยุทธอย่างเป็นทางการ นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองประธาน อ.ก.พ. เปิดเผยว่า ไม่ทราบว่ามีการประชุม อ.ก.พ. ที่มีนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย เป็นประธาน และมีการพิจารณาโทษนายยงยุทธ รวมถึงไม่ได้เข้าร่วมการประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้
เช่นเดียวกับ นายวัลลภ พริ้งพงษ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการ อ.ก.พ. กล่าวว่า ไม่ได้รับทราบเรื่องการประชุม อ.ก.พ. และไม่มีใครเชิญเข้าประชุม จึงอยากให้ไปสอบถามฝ่ายเลขานุการ อ.ก.พ.กระทรวงมากกว่า
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญหากเป็นกรณีถูกไล่ออกหรือปลดออกจากราชการโดยทุจริตจะขาดคุณสมบัติ ส.ส.และรัฐมนตรี แต่ตนยังไม่เห็นคำสั่งของ อ.ก.พ. แต่ถ้าถูกไล่ออกหรือปลดออกโดยไม่ทุจริตต่อหน้าที่จะไม่ขาดคุณสมบัติ
อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา “เจ๊ ด.” เข้าไปล้วงลูกการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการของกระทรวงมหาดไทยว่า ตนถือโอกาสแถลงเรื่องนี้ ตนคิดว่าคนที่กล่าวถึงเจ๊ ด. คงไม่คิดถึงนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยาตน แต่จะเป็นคนอื่นหรือไม่ตนไม่ทราบ
"ลูกผมซื้อรถเงินผ่อน ครอบครัวผมคงไม่รู้จักเกรย์มาร์เก็ต ผมอยากวิงวอนนักการเมือง จะทำอะไรขอให้สร้างสรรค์ การกล่าวหาหากมีมูลความจริงก็บอกชื่อมาเลย นาย ก. นาย ข. ไม่เป็นไร และอยากให้บอกว่าทุจริตอย่างไร ต้องช่วยกันปราบคอรัปชั่น แต่ตรงนี้ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นภริยาของผม เพียงแต่ระบุว่า เจ๊ ด."
นายสมชายกล่าวว่า น่าเป็นการดิสเครดิตใครบางคน ยืนยันว่าถ้าเป็น เจ๊ ด.ที่เกี่ยวกับครอบครัวไม่มีเรื่องทุจริตคอรัปชั่นโกงกิน ดังนั้น ขอให้ไปสืบมาว่าใครทุจริต ตนจะให้รางวัลนำจับ ส่วนจะฟ้องหรือไม่ก็กำลังพิจารณา เพราะยังไม่มีการพูดชื่อจริงว่าเจ๊ ด.เป็นใคร
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายยงยุทธจะต้องออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102(6) ที่ระบุเรื่องคุณสมบัติของ ส.ส.และรัฐมนตรีอย่างชัดเจนว่า บุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร โดยเคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่
พ้นเก้าอี้ ส.ส.-รัฐมนตรีทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระบวนการล้างมลทินของนายยงยุทธ อาจมีปัญหาข้อกฎหมาย เนื่องจากมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.ล้างมลทิน 2550 ระบุว่า "ให้ล้างมลทินแก่บรรดาผู้ถูกลงโทษทางวินัยในกรณีซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 และได้รับโทษหรือรับทัณฑ์ทั้งหมดหรือบางส่วนไปก่อน หรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณีนั้นๆ" นั่นหมายความว่าทันทีที่ อ.ก.พ.มีมติไล่ออกนายยงยุทธ ซึ่งถือเป็นบทลงโทษ ทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.และรัฐมนตรีไปในทันทีโดยอัตโนมัติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 (6) และ 174 (4) แต่จนถึงปัจจุบันนายยงยุทธยังคงอยู่ในตำแหน่ง ส.ส.และรัฐมนตรี ขณะที่การล้างมลทินนั้นจะต้องทำหลังรับโทษแล้วเท่านั้น
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ตามหลักกฎหมายแล้ว บุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีได้นั้นต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 174 (4) ว่าด้วยคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรี ประกอบมาตรา 102 (6) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ทั้งนี้ หากนายยงยุทธไม่แน่ใจว่าจะต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีเลยหรือไม่นั้น เมื่อเรื่องดังกล่าวมีความชัดเจนก็สามารถสอบถามมายัง กกต.ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือไล่ออกนายยงยุทธมีการอ้างถึงความเห็นของ อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทย ที่บอกว่านายยงยุทธไม่มีความผิด เพราะก่อนหน้านี้อัยการสูงสุดก็มีความเห็นมายังกระทรวงมหาดไทย หลังนายยงยุทธทำหนังสือสอบถามไปว่าสามารถยกเลิกคำสั่งดังกล่าวได้หรือไม่ อัยการบอกว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นที่สุด ทำได้ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ.2539 นั้น พบว่าหนังสือดังกล่าวลงนามโดยนายประพันธ์ นัยโกวิท อดีตรองอัยการสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่ราชการแทนอัยการสูงสุด ซึ่งปัจจุบันเป็น กกต.นั่นเอง และกองสารนิเทศกระทรวงมหาดไทยได้มีการแนบหนังสือดังกล่าวแจกกับสื่อมวลชนด้วย
แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรมระบุว่า ถึงจะใช้ พ.ร.บ.ล้างมลทินได้ แต่หากนายยงยุทธได้รับการแต่งตั้งให้กลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง ก็จะไปขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 174 (4) และ 102 (6) ที่ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส.หรือรัฐมนตรี ต้องไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการทันที ซึ่งเท่ากับว่านายยงยุทธไม่สามารถจะกลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกได้ แต่ถ้ามีการแต่งตั้งโดยไม่คำนึงกฎหมายดังกล่าว สังคมคงจะยอมรับยาก รวมถึงฝ่ายค้านก็อาจจะมีการยื่นตรวจสอบตามมา
นายเกรียงศักดิ์ วรมงคลชัย อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการสภาทนายความ กล่าวว่า คดีของนายยงยุทธถึงแม้มติของ อ.ก.พ.จะให้มีผลย้อนหลังไปเมื่อปี 2546 ซึ่งจะทำให้นายยงยุทธเข้าหลักเกณฑ์ พ.ร.บ.ล้างมลทิน แต่ในทางวงการกฎหมายนั้นเป็นที่รู้กันว่า ทาง อ.ก.พ. เพิ่งจะมีการชี้มูลความผิดและนายยงยุทธก็ไม่เคยได้รับโทษมาก่อนจึงไม่สามารถรับผลพวงจาก พ.ร.บ.ล้างมลทินฉบับนี้ได้.
#63
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:03
เบื่อหน่าย.....ประเทศไทย
#64
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:09
มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต
และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต
แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น
#66
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:25
http://www.manager.c...D=9550000116919
มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต
และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต
แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น
#67
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:27
เห็นมีข่าวแว่วมาว่า..พท.บอกว่าไม่ผิดครับ..เดี่ยวข่าวคงออก..มาทายกันดีกว่า รัฐบวมมันจะแถให้ยงยัดไม่ต้องพ้นมท.1 และรองนายกหรือเปล่า.....ฟังเป็ดมันร้อง
#68
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:29
ขออภัย เข้าใจเนื้อข่าวคลาดเคลื่อนไปนิดหน่อย ปลัดมท.บอกอย่างนี้
http://www.manager.c...D=9550000116919
พระนายนี่ สุดยอดความแถ
ขนาดพรบ.ล้างผิดระบุไว้ชัดยังจะแหกพรบ.ให้ได้เอ้า
เอากะมันดิ
สมกับที่คุณปูจิตรกรบอก นี่คือยุคแห่งคนหน้าด้าน
#69
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:29
เอามันไม่อยู่ครับพวกเนี่ย
Edited by Super@2, 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:30.
#71
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:46
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ที่คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน(อ.ก.พ.) มีมติไล่ออกนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยว่า เหตุใดอ.ก.พ.จึงพิจารณาโทษไล่ออกย้อนหลังไปถึง ปี พ.ศ.2545 หรือต้องการให้นายยงยุทธ นำมาเป็นข้ออ้างเพื่อเข้าหลักเกณฑ์ในการล้างมลทิน ตามมาตรา 5 ของพ.ร.บ. ล้างมลทิน พ.ศ. 2550หรือไม่ แต่คดีนี้ไม่น่าจะเข้าข่ายล้างมลทินได้ เพราะนายยงยุทธ ไม่เคยรับโทษทางวินัยเกี่ยวกับคดีที่ดินอัลไพน์มาก่อนเลย และเหตุใดในการประชุมอ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ นายพระนาย สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยและนายวัลลภ พลิ้มพงษ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นคณะกรรมการ อ.ก.พ.ด้วย จึงไม่ทราบว่ามีการประชุม และไม่มีใครเชิญให้เข้าร่วมประชุม มีอะไรลับลมคมในหรือไม่ เพราะการประชุมจะต้องเป็นในเรื่องของระเบียบข้อบังคับการประชุม ไม่ใช่จะจัดการประชุมตามอำเภอใจ หรือตามคำสั่งใครได้ จึงสงสัยว่านายยงยุทธ มีการสั่งการอะไรในทางลับหรือไม่
นายองอาจ กล่าวว่า อยากเรียกร้องไปยังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมีส่วนกระตุ้นเตือน รัฐมนตรีในครม. ให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อความสง่างาม เพื่อเป็นการเอาจริงเอาจัง ตามหลักธรรมาภิบาล ที่เคยแถลงไว้ต่อสภาผู้แทนราษฏร นายกฯ จะบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ หรือจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา ได้ส่งหนังสือไปถึงน.ส.ยิ่งลักษ์ นายกรัฐมนตรี แจ้งถึงเรื่องที่นายกฯได้มอบหมายให้ทางกฤษฎีกฏีกา ตีความ เรื่องที่ อ.ก.พ. กระทรวงมหาดไทย มีมติไล่ออกนายยงยุทธ ว่ามีผลตามกฎหมายหรือไม่นั้น ดังนั้นนายกฯไม่สามารถปฏิเสธการรับรู้กรณีนี้ได้ เพราะฉะนั้นนายกฯต้องแสดงความสง่างาม ในการเป็นผู้นำคณะรัฐมนตรี ที่จะทำให้รัฐมนตรีได้ทำตามกฎหมาย หรือพยายามใช้ช่องว่างทางกฎหมายละเว้นการปฏิบัติได้
นายองอาจ ยัง กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุคนส่วนหนึ่งไม่ต้องการให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับประเทศไทยเนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ เก่งกว่า ว่า คนไทยล้วนอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านเพื่อมารับโทษทัณฑ์ ต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่ไม่อยากเห็นพ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านอย่างเท่ห์ ๆ และยกเลิกคดีความทั้งหมด ดังนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ สามารถกลับบ้านได้ทันทีในวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ การที่บอกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เก่งกว่าคนอื่นนั้น ก็เก่งกว่าเฉพาะในเรื่องที่ทำไม่ถูกต้อง ทำผิดกฎหมาย มีผลประโยชน์ทับซ้อน และทุจริตเชิงนโยบาย ไม่ได้เก่งในทางที่ดี แต่เก่งในทางที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมมากกว่าหรือไม่จึงทำให้คนไทยยอมรับไม่ได้ ส่วนที่นายสมชาย ได้เรียกร้องให้หัวหน้าที่ก่อรัฐประหารออกมาขอโทษประชาชนนั้น ตนเห็นว่า หัวหน้าคณะรัฐประหารนั้นคือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งก็อยู่กับพวกนายสมชายอยู่แล้ว และพวกท่านก็ยังใช้เขาทำงานในหลายเรื่องโดยเฉพาะการเสนอร่างพ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ถือว่าเขาทำงานสุดลิ่มทิ่มประตู นายสมชาย จึงสามารถบอกกับพล.อ.สนธิ ได้ด้วยตัวเอง
#72
ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:52
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน