อยากเล่า...เช้าวันนี้
#51
Posted 9 October 2012 - 10:17
จำไม่ได้เหมือนกัน .รู้แต่ว่า เทวดา นี่ก็
พิลึกนะ เขาวานให้เฝ้า( ควาย) ก็เอา.!!
#52
Posted 9 October 2012 - 10:38
คุณ ter162525 กับคุณ Polkung ว่าไว้ถูกต้องครับ ว่ามาจากการเสียสัตย์ของตนเอง และเป็นพระยาพาลี ที่ยอมตายเองด้วยศรนารายณ์
ต้องขออภัยในความรู้อันต่ำต้อยด้วยครับ
ชอบใจจริง ๆ มีคนคุยเรื่องรามเกียรติ์เยอะแยะ
ผมไม่เก่งเรื่องรามเกียรติ์นะครับ เพราะรู้สึกว่ายากมากเลยในการอ่าน
แต่หลังจากที่ไปเจอบทสรุปของอจ.ฝรั่งคนหนึ่งในเว็บ..ผมก้รู้สึกว่าโหย...ทำไมเราไม่เคยมองมุมนี้ของรามเกียรติ์มาก่อนเลย
มันช่างเป็นคอนเส็ปต์ที่เท่โฮกอะไรเช่นนี้
เขาสรุปว่า
"ราม คือผู้ชายในอุดมคติที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้เป็นสามี"
(เพราะความรักอันมั่นคงต่อภรรยา เนื่องจากต้นฉบับรามายณะจริงๆ รามไม่สงสัยในความบริสุทธิ์ของสีดา และไม่สนว่าใครจะกล่าวหาด้วย)
ลักษมัน คือน้องชายในอุดมคติที่พี่ชายทุกคนอยากได้เขาเป็นน้อง
(เพราะความเสียสละต่อพี่ชายแบบตายแทนกันได้)
สีดา คือผู้หญิงในอุดมคติที่ผู้ชายทุกคนอยากได้เป็นภรรยา
(เพราะความจงรักภักดีและเข้มแข็ง ทีสีดายึดมั่นมาตลอด)
อจ.เขาใช้ประโยคแบบนี้ครับ
Rama is the son every father ever wants.
He is also the husband every woman ever dreams of.
Lakshman is the brother everyman ever needs.
And Sita is the wife every husband wish for.
แล้วแกก็สรุปได้เท่มากว่า
Rama คือตัวแทน Love
Sita คือตัวแทน Loyalty
Lakshman คือตัวแทน Sacrifice
LOVE. LOYALTY. SACRIFICE.
อ๊ากกกก สำหรับขาการ์ตูนและกำลังภายในอย่างผม....ชอบมว้าก!!!!
เอ่อ ขออนุญาตนะครับ
เกรงว่าผมเคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์ ตอนที่ว่าด้วยเรื่องความเจ้าอารมณ์ของพระรามมา ดังนี้
"ไฟกาฬเหล่านั้นพ่ายแพ้ต่อแรงอธิษฐานของนางสีดา นางสีดาพิสูจน์ตนเองได้ว่าบริสุทธิ์ทั้งกายใจ สามีภรรยาจึงได้กลับไปใช่ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางสีดามีครรภ์ นางอดุลยักษีที่เคียดแค้นนางสีดาแปลงมาเป็นนางกำนัลพร้อมขอให้นางสีดาวาดรูป ทศกัณฐ์ พอวาดเสร็จ นางอดุลก็เข้าสิงทำให้รูปลบไม่ออก พระรามมาเห็นรูปภาพเข้าก็พิโรธมากว่านางสีดายังรักภักดีทศกัณฐ์ จึงสั่งพระลักษมณ์ให้ประหารนางสีดา พระลักษมณ์ไม่ทำซ้ำยังปล่อยนางหนีไป แล้วฆ่าควักหัวใจกวางนำไปถวายพระราม
นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤๅษีวัชมฤคจนกระทั่งประสูติพระโอรสของพระรามนามว่า พระมงกุฎ จากนั้นต่อมาพระฤๅษีก็ได้ชุบกุมารมาเป็นเพื่อนเล่นพระมงกุฎนามว่า พระลบ ทั้งสองกุมารเก่งกล้ามากจนสะเทือนไปถึงอโยธยา จนเกิดการต่อสู้กันระหว่างพ่อลูก ทว่าไม่รู้ผลแพ้ชนะ พระรามเอะใจเลยถามว่าพระมงกุฎเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ในที่สุดจึงได้รู้ว่า ผู้ที่ต่อสู้อยู่ด้วยนี้ คือพระโอรสองค์เดียวที่เกิดแต่มเหสีนางสีดานั่นเอง
พระรามง้องอนขอคืนดีกับนางสีดา แต่นางสีดาเข็ดขยาดในความฉุนเฉียวของพระราม นางจึงแทรกตัวลงไปเมืองบาดาลหนีพระราม พระรามจึงต้องออกผจญภัยอีกครั้งเป็นเวลา 1 ปี จนท้ายสุด พระอิศวรได้รับนางสีดาขึ้นมาและปรับความเข้าใจกับทั้งสอง จนในที่สุดพระราม และนางสีดา จึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา"
อันนี้ผมเอามาจาก วิกิพีเดีย เนื้อเรื่องเหมือนกับที่เคยอ่าน แต่ไม่รู้นะครับว่าต้นฉบับหรือเปล่า
หรือไม่ว่า อ.ฝรั่งคนนั้นอาจจะอ่านไม่จบเรื่องนะครับ เพราะตอนนี้มันท้ายๆแล้ว ฮ่าๆ
รักมากก็แค้นมากครับ ยิ่งรักมากยิ่งตาบอดมาก
ตัวพระรามเป็นแบบอย่างของความรัก โดยเฉพาะในแบบชาย หญิง แบบนี้ด้วยแล้ว อันนี้ผมว่าสมเหตุสมผลทีเดียว
#53
Posted 9 October 2012 - 12:08
คุณ ter162525 กับคุณ Polkung ว่าไว้ถูกต้องครับ ว่ามาจากการเสียสัตย์ของตนเอง และเป็นพระยาพาลี ที่ยอมตายเองด้วยศรนารายณ์
ต้องขออภัยในความรู้อันต่ำต้อยด้วยครับ
ชอบใจจริง ๆ มีคนคุยเรื่องรามเกียรติ์เยอะแยะ
ผมไม่เก่งเรื่องรามเกียรติ์นะครับ เพราะรู้สึกว่ายากมากเลยในการอ่าน
แต่หลังจากที่ไปเจอบทสรุปของอจ.ฝรั่งคนหนึ่งในเว็บ..ผมก้รู้สึกว่าโหย...ทำไมเราไม่เคยมองมุมนี้ของรามเกียรติ์มาก่อนเลย
มันช่างเป็นคอนเส็ปต์ที่เท่โฮกอะไรเช่นนี้
เขาสรุปว่า
"ราม คือผู้ชายในอุดมคติที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้เป็นสามี"
(เพราะความรักอันมั่นคงต่อภรรยา เนื่องจากต้นฉบับรามายณะจริงๆ รามไม่สงสัยในความบริสุทธิ์ของสีดา และไม่สนว่าใครจะกล่าวหาด้วย)
ลักษมัน คือน้องชายในอุดมคติที่พี่ชายทุกคนอยากได้เขาเป็นน้อง
(เพราะความเสียสละต่อพี่ชายแบบตายแทนกันได้)
สีดา คือผู้หญิงในอุดมคติที่ผู้ชายทุกคนอยากได้เป็นภรรยา
(เพราะความจงรักภักดีและเข้มแข็ง ทีสีดายึดมั่นมาตลอด)
อจ.เขาใช้ประโยคแบบนี้ครับ
Rama is the son every father ever wants.
He is also the husband every woman ever dreams of.
Lakshman is the brother everyman ever needs.
And Sita is the wife every husband wish for.
แล้วแกก็สรุปได้เท่มากว่า
Rama คือตัวแทน Love
Sita คือตัวแทน Loyalty
Lakshman คือตัวแทน Sacrifice
LOVE. LOYALTY. SACRIFICE.
อ๊ากกกก สำหรับขาการ์ตูนและกำลังภายในอย่างผม....ชอบมว้าก!!!!
เอ่อ ขออนุญาตนะครับ
เกรงว่าผมเคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์ ตอนที่ว่าด้วยเรื่องความเจ้าอารมณ์ของพระรามมา ดังนี้
"ไฟกาฬเหล่านั้นพ่ายแพ้ต่อแรงอธิษฐานของนางสีดา นางสีดาพิสูจน์ตนเองได้ว่าบริสุทธิ์ทั้งกายใจ สามีภรรยาจึงได้กลับไปใช่ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางสีดามีครรภ์ นางอดุลยักษีที่เคียดแค้นนางสีดาแปลงมาเป็นนางกำนัลพร้อมขอให้นางสีดาวาดรูป ทศกัณฐ์ พอวาดเสร็จ นางอดุลก็เข้าสิงทำให้รูปลบไม่ออก พระรามมาเห็นรูปภาพเข้าก็พิโรธมากว่านางสีดายังรักภักดีทศกัณฐ์ จึงสั่งพระลักษมณ์ให้ประหารนางสีดา พระลักษมณ์ไม่ทำซ้ำยังปล่อยนางหนีไป แล้วฆ่าควักหัวใจกวางนำไปถวายพระราม
นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤๅษีวัชมฤคจนกระทั่งประสูติพระโอรสของพระรามนามว่า พระมงกุฎ จากนั้นต่อมาพระฤๅษีก็ได้ชุบกุมารมาเป็นเพื่อนเล่นพระมงกุฎนามว่า พระลบ ทั้งสองกุมารเก่งกล้ามากจนสะเทือนไปถึงอโยธยา จนเกิดการต่อสู้กันระหว่างพ่อลูก ทว่าไม่รู้ผลแพ้ชนะ พระรามเอะใจเลยถามว่าพระมงกุฎเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ในที่สุดจึงได้รู้ว่า ผู้ที่ต่อสู้อยู่ด้วยนี้ คือพระโอรสองค์เดียวที่เกิดแต่มเหสีนางสีดานั่นเอง
พระรามง้องอนขอคืนดีกับนางสีดา แต่นางสีดาเข็ดขยาดในความฉุนเฉียวของพระราม นางจึงแทรกตัวลงไปเมืองบาดาลหนีพระราม พระรามจึงต้องออกผจญภัยอีกครั้งเป็นเวลา 1 ปี จนท้ายสุด พระอิศวรได้รับนางสีดาขึ้นมาและปรับความเข้าใจกับทั้งสอง จนในที่สุดพระราม และนางสีดา จึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา"
อันนี้ผมเอามาจาก วิกิพีเดีย เนื้อเรื่องเหมือนกับที่เคยอ่าน แต่ไม่รู้นะครับว่าต้นฉบับหรือเปล่า
หรือไม่ว่า อ.ฝรั่งคนนั้นอาจจะอ่านไม่จบเรื่องนะครับ เพราะตอนนี้มันท้ายๆแล้ว ฮ่าๆ
รักมากก็แค้นมากครับ ยิ่งรักมากยิ่งตาบอดมาก
ตัวพระรามเป็นแบบอย่างของความรัก โดยเฉพาะในแบบชาย หญิง แบบนี้ด้วยแล้ว อันนี้ผมว่าสมเหตุสมผลทีเดียว
อันนี้ ผมเห็นด้วยกับ คุณ baezae นะ ถึงจะพิสูทจ์แล้วก็เถอะแต่ความแคลงใจนะมันยังมีแน่นอน พอเจอภาพบนที่นอนด้วยยิ่งไปกันใหญ่เลย
Edited by ter162525, 9 October 2012 - 12:33.
- ตะนิ่นตาญี likes this
#54
Posted 9 October 2012 - 12:27
คุณ ter162525 กับคุณ Polkung ว่าไว้ถูกต้องครับ ว่ามาจากการเสียสัตย์ของตนเอง และเป็นพระยาพาลี ที่ยอมตายเองด้วยศรนารายณ์
ต้องขออภัยในความรู้อันต่ำต้อยด้วยครับ
ชอบใจจริง ๆ มีคนคุยเรื่องรามเกียรติ์เยอะแยะ
ผมไม่เก่งเรื่องรามเกียรติ์นะครับ เพราะรู้สึกว่ายากมากเลยในการอ่าน
แต่หลังจากที่ไปเจอบทสรุปของอจ.ฝรั่งคนหนึ่งในเว็บ..ผมก้รู้สึกว่าโหย...ทำไมเราไม่เคยมองมุมนี้ของรามเกียรติ์มาก่อนเลย
มันช่างเป็นคอนเส็ปต์ที่เท่โฮกอะไรเช่นนี้
เขาสรุปว่า
"ราม คือผู้ชายในอุดมคติที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้เป็นสามี"
(เพราะความรักอันมั่นคงต่อภรรยา เนื่องจากต้นฉบับรามายณะจริงๆ รามไม่สงสัยในความบริสุทธิ์ของสีดา และไม่สนว่าใครจะกล่าวหาด้วย)
ลักษมัน คือน้องชายในอุดมคติที่พี่ชายทุกคนอยากได้เขาเป็นน้อง
(เพราะความเสียสละต่อพี่ชายแบบตายแทนกันได้)
สีดา คือผู้หญิงในอุดมคติที่ผู้ชายทุกคนอยากได้เป็นภรรยา
(เพราะความจงรักภักดีและเข้มแข็ง ทีสีดายึดมั่นมาตลอด)
อจ.เขาใช้ประโยคแบบนี้ครับ
Rama is the son every father ever wants.
He is also the husband every woman ever dreams of.
Lakshman is the brother everyman ever needs.
And Sita is the wife every husband wish for.
แล้วแกก็สรุปได้เท่มากว่า
Rama คือตัวแทน Love
Sita คือตัวแทน Loyalty
Lakshman คือตัวแทน Sacrifice
LOVE. LOYALTY. SACRIFICE.
อ๊ากกกก สำหรับขาการ์ตูนและกำลังภายในอย่างผม....ชอบมว้าก!!!!
เอ่อ ขออนุญาตนะครับ
เกรงว่าผมเคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์ ตอนที่ว่าด้วยเรื่องความเจ้าอารมณ์ของพระรามมา ดังนี้
"ไฟกาฬเหล่านั้นพ่ายแพ้ต่อแรงอธิษฐานของนางสีดา นางสีดาพิสูจน์ตนเองได้ว่าบริสุทธิ์ทั้งกายใจ สามีภรรยาจึงได้กลับไปใช่ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางสีดามีครรภ์ นางอดุลยักษีที่เคียดแค้นนางสีดาแปลงมาเป็นนางกำนัลพร้อมขอให้นางสีดาวาดรูป ทศกัณฐ์ พอวาดเสร็จ นางอดุลก็เข้าสิงทำให้รูปลบไม่ออก พระรามมาเห็นรูปภาพเข้าก็พิโรธมากว่านางสีดายังรักภักดีทศกัณฐ์ จึงสั่งพระลักษมณ์ให้ประหารนางสีดา พระลักษมณ์ไม่ทำซ้ำยังปล่อยนางหนีไป แล้วฆ่าควักหัวใจกวางนำไปถวายพระราม
นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤๅษีวัชมฤคจนกระทั่งประสูติพระโอรสของพระรามนามว่า พระมงกุฎ จากนั้นต่อมาพระฤๅษีก็ได้ชุบกุมารมาเป็นเพื่อนเล่นพระมงกุฎนามว่า พระลบ ทั้งสองกุมารเก่งกล้ามากจนสะเทือนไปถึงอโยธยา จนเกิดการต่อสู้กันระหว่างพ่อลูก ทว่าไม่รู้ผลแพ้ชนะ พระรามเอะใจเลยถามว่าพระมงกุฎเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ในที่สุดจึงได้รู้ว่า ผู้ที่ต่อสู้อยู่ด้วยนี้ คือพระโอรสองค์เดียวที่เกิดแต่มเหสีนางสีดานั่นเอง
พระรามง้องอนขอคืนดีกับนางสีดา แต่นางสีดาเข็ดขยาดในความฉุนเฉียวของพระราม นางจึงแทรกตัวลงไปเมืองบาดาลหนีพระราม พระรามจึงต้องออกผจญภัยอีกครั้งเป็นเวลา 1 ปี จนท้ายสุด พระอิศวรได้รับนางสีดาขึ้นมาและปรับความเข้าใจกับทั้งสอง จนในที่สุดพระราม และนางสีดา จึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา"
อันนี้ผมเอามาจาก วิกิพีเดีย เนื้อเรื่องเหมือนกับที่เคยอ่าน แต่ไม่รู้นะครับว่าต้นฉบับหรือเปล่า
หรือไม่ว่า อ.ฝรั่งคนนั้นอาจจะอ่านไม่จบเรื่องนะครับ เพราะตอนนี้มันท้ายๆแล้ว ฮ่าๆ
รักมากก็แค้นมากครับ ยิ่งรักมากยิ่งตาบอดมาก
ตัวพระรามเป็นแบบอย่างของความรัก โดยเฉพาะในแบบชาย หญิง แบบนี้ด้วยแล้ว อันนี้ผมว่าสมเหตุสมผลทีเดียว
อันนี้ ผมเห็นด้วยกับ คุณ baezae นะ ถึงจะพูสูนจืแล้วก็เถอะแต่ความแคลงใจนะมันยังมีแน่นอน พอเจอภาพบนที่นอนด้วยยิ่งไปกันใหญ่เลย
เข้ากับยุคสมัยนี้เลยนะครับ
ความรักทำให้คนเราทำไ้ด้ทุกอย่างแม้แต่การฆ่ากัน ทำร้ายกัน
ข่าวลงตามหน้าหนังสือพิมทุกวัน
เรื่อง รามเกียรติ์ ให้แง่คิดต่าง ๆ ไว้มาก
ผมเคยอ่าน บทร้อยกรองนะครับ(ไม่แน่ใจว่า ว่าใช่ร้อยแก้วร้อยกลอง หรือ กลาบยานีย์ อ่ะ) เขียนได้ลึกซึ่งมา แต่มันยาวมาก
บางทีอ่านไปจินตรานาการไปต่าง ๆ นา ๆ
ผมยังเคยคิดเลยว่า ทำไมจึงไม่มีใครคิดจะทำหนังของไทย ให้เป็นเรื่องเป็นราว ใส่กราฟฟิกเข้าไป คงสวยน่าดู
ปล. ผมชอบอ่านวรรณกรรมนะ ครับ แต่ไม่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก พูด ๆ คือ อ่านไปงั้น ๆ
- ตะนิ่นตาญี likes this
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#55
Posted 9 October 2012 - 12:28
เห็นท่านๆเล่ากันมาแล้ว อยากอ่าน "รามเกียรติ์"แบบที่เป็นร้อยแก้วบ้างจะมีมั้ยคับ
มีครับ ลองไปหาอ่าน ตามห้องสมุดใหญ่ ๆครับ ผมเคยอ่านที่หอสมุดประชาชนใยเชียงใหม่อ่ะ แบบว่า ยาวมากกกกกก
อ่านไปง่วงไป 555555
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#56
Posted 9 October 2012 - 12:41
คุณ ter162525 กับคุณ Polkung ว่าไว้ถูกต้องครับ ว่ามาจากการเสียสัตย์ของตนเอง และเป็นพระยาพาลี ที่ยอมตายเองด้วยศรนารายณ์
ต้องขออภัยในความรู้อันต่ำต้อยด้วยครับ
ชอบใจจริง ๆ มีคนคุยเรื่องรามเกียรติ์เยอะแยะ
ผมไม่เก่งเรื่องรามเกียรติ์นะครับ เพราะรู้สึกว่ายากมากเลยในการอ่าน
แต่หลังจากที่ไปเจอบทสรุปของอจ.ฝรั่งคนหนึ่งในเว็บ..ผมก้รู้สึกว่าโหย...ทำไมเราไม่เคยมองมุมนี้ของรามเกียรติ์มาก่อนเลย
มันช่างเป็นคอนเส็ปต์ที่เท่โฮกอะไรเช่นนี้
เขาสรุปว่า
"ราม คือผู้ชายในอุดมคติที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้เป็นสามี"
(เพราะความรักอันมั่นคงต่อภรรยา เนื่องจากต้นฉบับรามายณะจริงๆ รามไม่สงสัยในความบริสุทธิ์ของสีดา และไม่สนว่าใครจะกล่าวหาด้วย)
ลักษมัน คือน้องชายในอุดมคติที่พี่ชายทุกคนอยากได้เขาเป็นน้อง
(เพราะความเสียสละต่อพี่ชายแบบตายแทนกันได้)
สีดา คือผู้หญิงในอุดมคติที่ผู้ชายทุกคนอยากได้เป็นภรรยา
(เพราะความจงรักภักดีและเข้มแข็ง ทีสีดายึดมั่นมาตลอด)
อจ.เขาใช้ประโยคแบบนี้ครับ
Rama is the son every father ever wants.
He is also the husband every woman ever dreams of.
Lakshman is the brother everyman ever needs.
And Sita is the wife every husband wish for.
แล้วแกก็สรุปได้เท่มากว่า
Rama คือตัวแทน Love
Sita คือตัวแทน Loyalty
Lakshman คือตัวแทน Sacrifice
LOVE. LOYALTY. SACRIFICE.
อ๊ากกกก สำหรับขาการ์ตูนและกำลังภายในอย่างผม....ชอบมว้าก!!!!
เอ่อ ขออนุญาตนะครับ
เกรงว่าผมเคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์ ตอนที่ว่าด้วยเรื่องความเจ้าอารมณ์ของพระรามมา ดังนี้
"ไฟกาฬเหล่านั้นพ่ายแพ้ต่อแรงอธิษฐานของนางสีดา นางสีดาพิสูจน์ตนเองได้ว่าบริสุทธิ์ทั้งกายใจ สามีภรรยาจึงได้กลับไปใช่ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางสีดามีครรภ์ นางอดุลยักษีที่เคียดแค้นนางสีดาแปลงมาเป็นนางกำนัลพร้อมขอให้นางสีดาวาดรูป ทศกัณฐ์ พอวาดเสร็จ นางอดุลก็เข้าสิงทำให้รูปลบไม่ออก พระรามมาเห็นรูปภาพเข้าก็พิโรธมากว่านางสีดายังรักภักดีทศกัณฐ์ จึงสั่งพระลักษมณ์ให้ประหารนางสีดา พระลักษมณ์ไม่ทำซ้ำยังปล่อยนางหนีไป แล้วฆ่าควักหัวใจกวางนำไปถวายพระราม
นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤๅษีวัชมฤคจนกระทั่งประสูติพระโอรสของพระรามนามว่า พระมงกุฎ จากนั้นต่อมาพระฤๅษีก็ได้ชุบกุมารมาเป็นเพื่อนเล่นพระมงกุฎนามว่า พระลบ ทั้งสองกุมารเก่งกล้ามากจนสะเทือนไปถึงอโยธยา จนเกิดการต่อสู้กันระหว่างพ่อลูก ทว่าไม่รู้ผลแพ้ชนะ พระรามเอะใจเลยถามว่าพระมงกุฎเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ในที่สุดจึงได้รู้ว่า ผู้ที่ต่อสู้อยู่ด้วยนี้ คือพระโอรสองค์เดียวที่เกิดแต่มเหสีนางสีดานั่นเอง
พระรามง้องอนขอคืนดีกับนางสีดา แต่นางสีดาเข็ดขยาดในความฉุนเฉียวของพระราม นางจึงแทรกตัวลงไปเมืองบาดาลหนีพระราม พระรามจึงต้องออกผจญภัยอีกครั้งเป็นเวลา 1 ปี จนท้ายสุด พระอิศวรได้รับนางสีดาขึ้นมาและปรับความเข้าใจกับทั้งสอง จนในที่สุดพระราม และนางสีดา จึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา"
อันนี้ผมเอามาจาก วิกิพีเดีย เนื้อเรื่องเหมือนกับที่เคยอ่าน แต่ไม่รู้นะครับว่าต้นฉบับหรือเปล่า
หรือไม่ว่า อ.ฝรั่งคนนั้นอาจจะอ่านไม่จบเรื่องนะครับ เพราะตอนนี้มันท้ายๆแล้ว ฮ่าๆ
รักมากก็แค้นมากครับ ยิ่งรักมากยิ่งตาบอดมาก
ตัวพระรามเป็นแบบอย่างของความรัก โดยเฉพาะในแบบชาย หญิง แบบนี้ด้วยแล้ว อันนี้ผมว่าสมเหตุสมผลทีเดียว
อันนี้ ผมเห็นด้วยกับ คุณ baezae นะ ถึงจะพูสูนจืแล้วก็เถอะแต่ความแคลงใจนะมันยังมีแน่นอน พอเจอภาพบนที่นอนด้วยยิ่งไปกันใหญ่เลย
เข้ากับยุคสมัยนี้เลยนะครับ
ความรักทำให้คนเราทำไ้ด้ทุกอย่างแม้แต่การฆ่ากัน ทำร้ายกัน
ข่าวลงตามหน้าหนังสือพิมทุกวัน
เรื่อง รามเกียรติ์ ให้แง่คิดต่าง ๆ ไว้มาก
ผมเคยอ่าน บทร้อยกรองนะครับ(ไม่แน่ใจว่า ว่าใช่ร้อยแก้วร้อยกลอง หรือ กลาบยานีย์ อ่ะ) เขียนได้ลึกซึ่งมา แต่มันยาวมาก
บางทีอ่านไปจินตรานาการไปต่าง ๆ นา ๆ
ผมยังเคยคิดเลยว่า ทำไมจึงไม่มีใครคิดจะทำหนังของไทย ให้เป็นเรื่องเป็นราว ใส่กราฟฟิกเข้าไป คงสวยน่าดู
ปล. ผมชอบอ่านวรรณกรรมนะ ครับ แต่ไม่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก พูด ๆ คือ อ่านไปงั้น ๆ
มันสนุกตรงที่เราต้องมานั้งตีความ อีกนี้ สิครับ ภาษาที่ใช้ก็สละสรวย เคยอ่านตั้งแต่ม.2-3 ช่วงนั้นติดหนังสือ มากทั้ง เพชรพระอุมา
นิยาย จีนกำลังภายใน กระบี่ดาวรุ่ง กระบี่ไร้กระเทียมทาน สามก๊ก รามเกียรต์ ปรัชญา เต๋า เชน พักเที่ยงก็อยู่ที่ห้องสมุด จนบ้างที่โดดเรียนเลยก็มีแบบอ่านเพลิน แต่ส่วนใหญ่จะขาดวิชาที่ไม่ค่อยสำคัญ
- ตะนิ่นตาญี likes this
#57
Posted 9 October 2012 - 12:54
คุณ ter162525 กับคุณ Polkung ว่าไว้ถูกต้องครับ ว่ามาจากการเสียสัตย์ของตนเอง และเป็นพระยาพาลี ที่ยอมตายเองด้วยศรนารายณ์
ต้องขออภัยในความรู้อันต่ำต้อยด้วยครับ
ชอบใจจริง ๆ มีคนคุยเรื่องรามเกียรติ์เยอะแยะ
ผมไม่เก่งเรื่องรามเกียรติ์นะครับ เพราะรู้สึกว่ายากมากเลยในการอ่าน
แต่หลังจากที่ไปเจอบทสรุปของอจ.ฝรั่งคนหนึ่งในเว็บ..ผมก้รู้สึกว่าโหย...ทำไมเราไม่เคยมองมุมนี้ของรามเกียรติ์มาก่อนเลย
มันช่างเป็นคอนเส็ปต์ที่เท่โฮกอะไรเช่นนี้
เขาสรุปว่า
"ราม คือผู้ชายในอุดมคติที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้เป็นสามี"
(เพราะความรักอันมั่นคงต่อภรรยา เนื่องจากต้นฉบับรามายณะจริงๆ รามไม่สงสัยในความบริสุทธิ์ของสีดา และไม่สนว่าใครจะกล่าวหาด้วย)
ลักษมัน คือน้องชายในอุดมคติที่พี่ชายทุกคนอยากได้เขาเป็นน้อง
(เพราะความเสียสละต่อพี่ชายแบบตายแทนกันได้)
สีดา คือผู้หญิงในอุดมคติที่ผู้ชายทุกคนอยากได้เป็นภรรยา
(เพราะความจงรักภักดีและเข้มแข็ง ทีสีดายึดมั่นมาตลอด)
อจ.เขาใช้ประโยคแบบนี้ครับ
Rama is the son every father ever wants.
He is also the husband every woman ever dreams of.
Lakshman is the brother everyman ever needs.
And Sita is the wife every husband wish for.
แล้วแกก็สรุปได้เท่มากว่า
Rama คือตัวแทน Love
Sita คือตัวแทน Loyalty
Lakshman คือตัวแทน Sacrifice
LOVE. LOYALTY. SACRIFICE.
อ๊ากกกก สำหรับขาการ์ตูนและกำลังภายในอย่างผม....ชอบมว้าก!!!!
เอ่อ ขออนุญาตนะครับ
เกรงว่าผมเคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์ ตอนที่ว่าด้วยเรื่องความเจ้าอารมณ์ของพระรามมา ดังนี้
"ไฟกาฬเหล่านั้นพ่ายแพ้ต่อแรงอธิษฐานของนางสีดา นางสีดาพิสูจน์ตนเองได้ว่าบริสุทธิ์ทั้งกายใจ สามีภรรยาจึงได้กลับไปใช่ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางสีดามีครรภ์ นางอดุลยักษีที่เคียดแค้นนางสีดาแปลงมาเป็นนางกำนัลพร้อมขอให้นางสีดาวาดรูป ทศกัณฐ์ พอวาดเสร็จ นางอดุลก็เข้าสิงทำให้รูปลบไม่ออก พระรามมาเห็นรูปภาพเข้าก็พิโรธมากว่านางสีดายังรักภักดีทศกัณฐ์ จึงสั่งพระลักษมณ์ให้ประหารนางสีดา พระลักษมณ์ไม่ทำซ้ำยังปล่อยนางหนีไป แล้วฆ่าควักหัวใจกวางนำไปถวายพระราม
นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤๅษีวัชมฤคจนกระทั่งประสูติพระโอรสของพระรามนามว่า พระมงกุฎ จากนั้นต่อมาพระฤๅษีก็ได้ชุบกุมารมาเป็นเพื่อนเล่นพระมงกุฎนามว่า พระลบ ทั้งสองกุมารเก่งกล้ามากจนสะเทือนไปถึงอโยธยา จนเกิดการต่อสู้กันระหว่างพ่อลูก ทว่าไม่รู้ผลแพ้ชนะ พระรามเอะใจเลยถามว่าพระมงกุฎเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ในที่สุดจึงได้รู้ว่า ผู้ที่ต่อสู้อยู่ด้วยนี้ คือพระโอรสองค์เดียวที่เกิดแต่มเหสีนางสีดานั่นเอง
พระรามง้องอนขอคืนดีกับนางสีดา แต่นางสีดาเข็ดขยาดในความฉุนเฉียวของพระราม นางจึงแทรกตัวลงไปเมืองบาดาลหนีพระราม พระรามจึงต้องออกผจญภัยอีกครั้งเป็นเวลา 1 ปี จนท้ายสุด พระอิศวรได้รับนางสีดาขึ้นมาและปรับความเข้าใจกับทั้งสอง จนในที่สุดพระราม และนางสีดา จึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา"
อันนี้ผมเอามาจาก วิกิพีเดีย เนื้อเรื่องเหมือนกับที่เคยอ่าน แต่ไม่รู้นะครับว่าต้นฉบับหรือเปล่า
หรือไม่ว่า อ.ฝรั่งคนนั้นอาจจะอ่านไม่จบเรื่องนะครับ เพราะตอนนี้มันท้ายๆแล้ว ฮ่าๆ
รักมากก็แค้นมากครับ ยิ่งรักมากยิ่งตาบอดมาก
ตัวพระรามเป็นแบบอย่างของความรัก โดยเฉพาะในแบบชาย หญิง แบบนี้ด้วยแล้ว อันนี้ผมว่าสมเหตุสมผลทีเดียว
อันนี้ ผมเห็นด้วยกับ คุณ baezae นะ ถึงจะพูสูนจืแล้วก็เถอะแต่ความแคลงใจนะมันยังมีแน่นอน พอเจอภาพบนที่นอนด้วยยิ่งไปกันใหญ่เลย
เข้ากับยุคสมัยนี้เลยนะครับ
ความรักทำให้คนเราทำไ้ด้ทุกอย่างแม้แต่การฆ่ากัน ทำร้ายกัน
ข่าวลงตามหน้าหนังสือพิมทุกวัน
เรื่อง รามเกียรติ์ ให้แง่คิดต่าง ๆ ไว้มาก
ผมเคยอ่าน บทร้อยกรองนะครับ(ไม่แน่ใจว่า ว่าใช่ร้อยแก้วร้อยกลอง หรือ กลาบยานีย์ อ่ะ) เขียนได้ลึกซึ่งมา แต่มันยาวมาก
บางทีอ่านไปจินตรานาการไปต่าง ๆ นา ๆ
ผมยังเคยคิดเลยว่า ทำไมจึงไม่มีใครคิดจะทำหนังของไทย ให้เป็นเรื่องเป็นราว ใส่กราฟฟิกเข้าไป คงสวยน่าดู
ปล. ผมชอบอ่านวรรณกรรมนะ ครับ แต่ไม่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก พูด ๆ คือ อ่านไปงั้น ๆ
มันสนุกตรงที่เราต้องมานั้งตีความ อีกนี้ สิครับ ภาษาที่ใช้ก็สละสรวย เคยอ่านตั้งแต่ม.2-3 ช่วงนั้นติดหนังสือ มากทั้ง เพชรพระอุมา
นิยาย จีนกำลังภายใน กระบี่ดาวรุ่ง กระบี่ไร้กระเทียมทาน สามก๊ก รามเกียรต์ ปรัชญา เต๋า เชน พักเที่ยงก็อยู่ที่ห้องสมุด จนบ้างที่โดดเรียนเลยก็มีแบบอ่านเพลิน แต่ส่วนใหญ่จะขาดวิชาที่ไม่ค่อยสำคัญ
พูดถึงเพชรพระุอุมา ละ นึกถึงตอนผมอยู่มอต้น อ่ะ ผมไปยืมหนังสือเรื่องนี้จากห้องสมุด เพืือนผู้หญิงเห็นแซวผมว่า ชอบอ่านนิยายอิโรติก เหรอ หน้าไม่ให้ 55555
แต่เรื่องได้อะไรเยอะมาก ๆ แต่ตอนนี้จำไม่ค่อยได้ละ อ่านไปแค่ รอบเดียว
Edited by poulkung2012, 9 October 2012 - 12:58.
- ตะนิ่นตาญี likes this
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#58
Posted 9 October 2012 - 13:34
ห้องสมุดตรง แจ่ง...(เอ้า จำชื่อแจ่งไม่ได้แล้ว) หรือเปล่า นั่นก็ที่สิงผมเลย ไปนั่งอ่านนิยาย
เห็นท่านๆเล่ากันมาแล้ว อยากอ่าน "รามเกียรติ์"แบบที่เป็นร้อยแก้วบ้างจะมีมั้ยคับ
มีครับ ลองไปหาอ่าน ตามห้องสมุดใหญ่ ๆครับ ผมเคยอ่านที่หอสมุดประชาชนใยเชียงใหม่อ่ะ แบบว่า ยาวมากกกกกก
อ่านไปง่วงไป 555555
ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ " https://www.facebook...akwarakfromyala https://www.facebook.com/NARAPEACE
#59
Posted 9 October 2012 - 16:08
เอ่อ ขออนุญาตนะครับ
เกรงว่าผมเคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์ ตอนที่ว่าด้วยเรื่องความเจ้าอารมณ์ของพระรามมา ดังนี้
"ไฟกาฬเหล่านั้นพ่ายแพ้ต่อแรงอธิษฐานของนางสีดา นางสีดาพิสูจน์ตนเองได้ว่าบริสุทธิ์ทั้งกายใจ สามีภรรยาจึงได้กลับไปใช่ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางสีดามีครรภ์ นางอดุลยักษีที่เคียดแค้นนางสีดาแปลงมาเป็นนางกำนัลพร้อมขอให้นางสีดาวาดรูป ทศกัณฐ์ พอวาดเสร็จ นางอดุลก็เข้าสิงทำให้รูปลบไม่ออก พระรามมาเห็นรูปภาพเข้าก็พิโรธมากว่านางสีดายังรักภักดีทศกัณฐ์ จึงสั่งพระลักษมณ์ให้ประหารนางสีดา พระลักษมณ์ไม่ทำซ้ำยังปล่อยนางหนีไป แล้วฆ่าควักหัวใจกวางนำไปถวายพระราม
นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤๅษีวัชมฤคจนกระทั่งประสูติพระโอรสของพระรามนามว่า พระมงกุฎ จากนั้นต่อมาพระฤๅษีก็ได้ชุบกุมารมาเป็นเพื่อนเล่นพระมงกุฎนามว่า พระลบ ทั้งสองกุมารเก่งกล้ามากจนสะเทือนไปถึงอโยธยา จนเกิดการต่อสู้กันระหว่างพ่อลูก ทว่าไม่รู้ผลแพ้ชนะ พระรามเอะใจเลยถามว่าพระมงกุฎเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ในที่สุดจึงได้รู้ว่า ผู้ที่ต่อสู้อยู่ด้วยนี้ คือพระโอรสองค์เดียวที่เกิดแต่มเหสีนางสีดานั่นเอง
พระรามง้องอนขอคืนดีกับนางสีดา แต่นางสีดาเข็ดขยาดในความฉุนเฉียวของพระราม นางจึงแทรกตัวลงไปเมืองบาดาลหนีพระราม พระรามจึงต้องออกผจญภัยอีกครั้งเป็นเวลา 1 ปี จนท้ายสุด พระอิศวรได้รับนางสีดาขึ้นมาและปรับความเข้าใจกับทั้งสอง จนในที่สุดพระราม และนางสีดา จึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา"
อันนี้ผมเอามาจาก วิกิพีเดีย เนื้อเรื่องเหมือนกับที่เคยอ่าน แต่ไม่รู้นะครับว่าต้นฉบับหรือเปล่า
หรือไม่ว่า อ.ฝรั่งคนนั้นอาจจะอ่านไม่จบเรื่องนะครับ เพราะตอนนี้มันท้ายๆแล้ว ฮ่าๆ
รักมากก็แค้นมากครับ ยิ่งรักมากยิ่งตาบอดมาก
ตัวพระรามเป็นแบบอย่างของความรัก โดยเฉพาะในแบบชาย หญิง แบบนี้ด้วยแล้ว อันนี้ผมว่าสมเหตุสมผลทีเดียว
จากที่ผมอ่านธีสิส Ramayana ที่ฝรั่งเขาทำวิทยานิพนธ์นะครับ(อ่านรามเกียรติไม่ได้ ยากมากสำหรับผม ไม่ไหวจริงๆครับ เกินความสามารถ)
รามายณะมีหลายเวอร์ชั่นครับ ของท่าน Valmiki จะเป็นออริจินัล ที่เขียนขึ้นเพื่อ "สร้างจิตสำนึกเชิงคุณธรรม" ให้ประชาชนในยุคนั้น
รามา สีดา ลักษมัน จึงเป็นตัวแทนของคุณความดีอันบริสุทธิ์หลายอย่าง ที่ท่านวาลมิกิ ต้องการสื่อให้คนไปถึงซึ่งอุดมธรรมนั้นครับ
เช่น รามาเป็นลูกที่กตัญญู รู้ว่าพ่อลำบากใจมากเรื่องคำสัญญาที่ให้ไว้กับเมียใหม่ รามาจึงขอออกป่า คล้ายสละตำแหน่งกษัตริย์เพื่อพ่อ
ส่วนสีตาก็ยอมสละความสุขสบายในวัง ติดตามสามีไปลำบาก ด้่วยประโยคชวนซึ้งว่า
"ที่ไหนมีท่าน ที่นั่นคือพระราชวังของฉัน ที่ไหนไม่มีท่าน ที่นั่นคือนรกของฉัน"
ต้นฉบับจึงไม่มีเรื่องปลีกย่อยแบบในรามเกียรติ์ของไทยเลย ว่าด้วยการรบของ "ธรรมะกับอธรรม" ล้วนๆ
แต่ต้นฉบับก็มีการดัดแปลงไปหลายเวอร์ฺชั่น
และที่อินเดียเองก็มีนักเขียนอื่นๆเขียนภาคต่อออกมาด้วย (แหม ยังกะสตาร์วอรส์เอพิโซด 6) อันเป็นที่มาของรามเกียรติ์ของไทย
ภาคต่อแบบซีเควลได้แก่ภาคที่ท่านฮิโนะโทริว่า คือ "ตัวละครเริ่มมีสีสันความเป็นคน"
รามเริ่มถูกเขียนให้มีการระแวงสีดา ความรักของทั้งคู่เริ่มมีสีดำเจือเข้ามา ซึ่งต้นฉบับเดิมไม่มีครับ
เพราะความตั้งใจของวาลมิกิ คือกำหนดคอนเสปต์ว่ารามายณะจะเกี่ยวกับ "ธรรมะชนะอธรรม" ล้วนๆ
ตัวละครจึงขาวบริสุทธิ์(รามา) และดำจัด(ราวัณ)
โดยรามา เป็นตัวแทนของ "นักปกครองที่เปี่ยมคุณธรรมล้ำเลิศ และปกครองด้วยความเมตตาและให้เกียรติคน"
เช่น การพูดจาและปฏิบัติอย่างให้เกียรติพิเภก หรือในภาษาอังกฤษคือ Vibhishana ที่ถูกพี่ชายกดขี่ ดูหมิ่น เกลียดชัง เพียงเพราะ "ดันไปเตือนสติพี่เรื่องสีตา"
พิเภกเป็นตัวอย่างที่ดีมากของคนดีที่เป็นเหยื่อความบ้าอำนาจ ที่เมื่อถึงจุดหมดความอดทน ก็จำต้องไปอยู่ในที่ที่คนเห็นคุณค่า
และรามาเป็นคนเห็นคุณค่าของคนดีคนเก่ง เป็นต้น
ในออริจินัลจึงไม่มีด้านมืดของรามาโผล่มาเลยครับ
ความใจร้อนมันไปโผล่เอาที่ลักษมันครับ ต้นฉบับของท่านวาลมิกิ กำหนดให้ลักษมันเป็นหนุ่มหล่อเลือดร้อน
ซึ่งเป็นต้นกำเนิดศึกรามายณะทั้งหมด คือดันไปเฉือนจมูกน้องสาวราวัณ(ทศกรรณฐ์) เพราะสาวมาป้วนเปี้ยนวอแวแล้วพ่อหนุ่มไม่สน ตื๊อมากโมโห..ชักดาบเชือดซะ
ต้นฉบับยังกำหนดแคแรคเตอร์นางมณโฑเป็นผู้หญิงที่ดีด้วยครับ ไม่เหลวไหลกับใครเลย จงรักภักดีต่อสามีถึงวันที่ราวัณพ่ายแพ้ถึงรู้ว่าใครรักเขาจริง
ตัวทศกรรณฐ์หรือราวัณเอง ในต้นฉบับผมว่า...เท่แบบร้ายๆครับ
ไม่งี่เง่า งอแง ขี้โมโหไม่เข้าท่าเลยสักนิด
เป็นนักปกครองที่ปกครองคนแบบอำนาจเต็มมือ เผด็จการ ***มจริง โหดจริง
คนจึงอยู่กับราวัณด้วย "ความกลัว" ไม่ใช่อยู่ด้วย "ความรัก" แบบรามาครับ
ท่านวาลมิกิเซ็ทฉากศึกสงครามระหว่างรามาคือ ตัวแทนฝ่าย GOOD และราวัณคือตัวแทนฝ่าย EVIL
หมายถึง รามาจะรวมเอา "คุณธรรมความดีในตัวมนุษย์"ทั้งหมดไว้ในตัวพระเอก
และราวัณจะรวมเอา "ความผิดพลาดและชั่วร้ายในตัวมนุษย์"ทั้งหมดไว้ในตัวผู้ร้าย
คุณธรรมความดีของ humanity เช่น
ความรักแท้(ตัวแทนแสดงผ่านรักแท้ที่รามามีต่อสีตา) ตรงข้ามกับ กามารมณ์และราคะ (ราวัณ)
ความจงรักภักดี(ที่สีตามีต่อรามา) ตรงข้ามกับ การนอกใจ หลอกลวง (ราวัณทำต่อภรรยา)
ความยึดมั่นในความรักและความเคารพที่พี่มีต่อน้อง(รามาต่อลักษมัน) ตรงข้ามกับ การดูถูกเหยียดหยาม "ก็เอ็งมันน้องข้า จะมาสั่งสอนอะไร"(ราวัณทำต่อ "พิเภก")
หรือ ความซื่อสัตย์และยอมทำทุกอย่างเพื่อเจ้านาย(หนุมาน)
สติปัญญา(หนุมานและอีกมากมาย)
ความเห็นถูกและความเชื่อมั่นในความถูกต้อง(พิเภก)
ฯลฯ
เล่าเท่านี้ก่อน ไม่งั้นจะยาวม้ากกก
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 9 October 2012 - 16:20.
- คนทุกที่, ตะนิ่นตาญี, อู๋ ฮานามิ and 5 others like this
#60
Posted 9 October 2012 - 17:01
คุณตะนิ่นตาญี ครับ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
( เทวดา ตั้ง ๔ ตน ยังโง่กว่า ควาย ) ยอม-
เลี้ยงลูกให้..ควาย...กว่าจะรู้สึกตัวก็ถูก..ควาย..
มันด่าซ๊ะยับเลย ...สมหน้า ...
เป็นอันว่า เทวดาโง่นะ ๔ รึ ๖ กันแน่ ?
จำไม่ได้เหมือนกัน .รู้แต่ว่า เทวดา นี่ก็
พิลึกนะ เขาวานให้เฝ้า( ควาย) ก็เอา.!!
เทวดาที่ทำหน้าที่อารักษ์ ทรพี มีทั้งสิ้น ๖ องค์ ครับ คุณพี่พระฤๅษี
ตามที่ คุณ ดาร์คสวอน ได้แจ้งมาดังนี้ครับ
ขออภัยคุณตะนิ่นตาญีครับ
เท่าที่ผมจำไม่ผิด เทวดาที่สถิตย์อยู่ในถ้ำที่มาอยู่รักษาในกายทรพีนั้น น่าจะมี 6 องค์ไม่ใช่เหรอครับ
ผมจำท่อนเต็มไม่ได้ แต่ตรงในในบทกวีเค้าบอกไว้ว่า
"สองเขา บาทาทั้งสี่"
น่าจะรวมกันได้ 6 นะครับ
ถ้าจำผิดยังไงก็ขออภัยด้วยครับ อ่านมานานแล้ว
ยืนยันตามที่ คุณดาร์คสวอน ท่านได้แจ้งมาครับ คุณพี่พระฤๅษี ครับ
ควาย ใช้ให้ เทวดา เฝ้า ควาย ... เทวดา ท่านเกรงว่า ถ้าไม่ช่วยเฝ้า
อาจจะเสียเหลี่ยม เทวดา ก็ได้นะครับ คุณพี่พระฤๅษี ครับ
ตะนิ่นตาญี
วันอังคารที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๑๗.๐๑ นาฬิกา
#61
Posted 9 October 2012 - 17:52
คุณตะนิ่นตาญี ครับ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
( เทวดา ตั้ง ๔ ตน ยังโง่กว่า ควาย ) ยอม-
เลี้ยงลูกให้..ควาย...กว่าจะรู้สึกตัวก็ถูก..ควาย..
มันด่าซ๊ะยับเลย ...สมหน้า ...เป็นอันว่า เทวดาโง่นะ ๔ รึ ๖ กันแน่ ?
จำไม่ได้เหมือนกัน .รู้แต่ว่า เทวดา นี่ก็
พิลึกนะ เขาวานให้เฝ้า( ควาย) ก็เอา.!!
เทวดาที่ทำหน้าที่อารักษ์ ทรพี มีทั้งสิ้น ๖ องค์ ครับ คุณพี่พระฤๅษี
ตามที่ คุณ ดาร์คสวอน ได้แจ้งมาดังนี้ครับขออภัยคุณตะนิ่นตาญีครับ
เท่าที่ผมจำไม่ผิด เทวดาที่สถิตย์อยู่ในถ้ำที่มาอยู่รักษาในกายทรพีนั้น น่าจะมี 6 องค์ไม่ใช่เหรอครับ
ผมจำท่อนเต็มไม่ได้ แต่ตรงในในบทกวีเค้าบอกไว้ว่า
"สองเขา บาทาทั้งสี่"
น่าจะรวมกันได้ 6 นะครับ
ถ้าจำผิดยังไงก็ขออภัยด้วยครับ อ่านมานานแล้ว
ยืนยันตามที่ คุณดาร์คสวอน ท่านได้แจ้งมาครับ คุณพี่พระฤๅษี ครับ
ควาย ใช้ให้ เทวดา เฝ้า ควาย ... เทวดา ท่านเกรงว่า ถ้าไม่ช่วยเฝ้า
อาจจะเสียเหลี่ยม เทวดา ก็ได้นะครับ คุณพี่พระฤๅษี ครับ
ตะนิ่นตาญี
วันอังคารที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๑๗.๐๑ นาฬิกา
ความหมาย มี นัยยะครับ
- ตะนิ่นตาญี and พระฤๅษี like this
ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ " https://www.facebook...akwarakfromyala https://www.facebook.com/NARAPEACE
#62
Posted 9 October 2012 - 18:10
ที่จริงจะว่า เทวดา โง่กว่าควายก็ไม่ใช่ ต้องบอกว่า
1. เทวดา ท่านมีเมตตา ด้วยนางนิลา แม่ของทรพี ต้องแอบเก็บซ่อนว่าตนตั้งครรภ์ ครั้นจะตกลูกก็ยังต้องแอบซ่อน หอบเอาครรภ์แก่ใกล้คลอด หลบลี้หนีผัวควายๆ มาตกลูกในถ้ำที่ห่างไกล ครั้นตกลูกแล้วก็ไม่มีโอกาสได้เลี้ยง นางก็ร่ำไ้ห้ขอความเมตตาไหว้วานเทวดาให้ช่วยดูแล แสดงว่าเทวดานั้นเห็นแก่ความรักของแม่จึงได้ช่วยดูแลลูกให้ ไม่เกี่ยวกะไอ้ตัวลูกควายๆ ทรพีเลยแม้แต่น้อย
2. เป็นประกาศิตจากคำสาปของพระอิศวร ที่ต้องให้ภายหน้าเมื่อเติบใหญ่ ทรพีจะต้องฆ่าทรพา เทวดาที่รักษาอยู่ในตัวทรพี ก็เสมือนหนึ่งในล้อเกวียนที่ทำให้ประกาศิตคำสาปนี้เป็นจริงเท่านั้นเอง
Edited by ดาร์ค สวอน, 9 October 2012 - 18:12.
- ตะนิ่นตาญี and SPDZ like this
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
#63
Posted 9 October 2012 - 21:35
คุณ ter162525 กับคุณ Polkung ว่าไว้ถูกต้องครับ ว่ามาจากการเสียสัตย์ของตนเอง และเป็นพระยาพาลี ที่ยอมตายเองด้วยศรนารายณ์
ต้องขออภัยในความรู้อันต่ำต้อยด้วยครับ
ชอบใจจริง ๆ มีคนคุยเรื่องรามเกียรติ์เยอะแยะ
ผมไม่เก่งเรื่องรามเกียรติ์นะครับ เพราะรู้สึกว่ายากมากเลยในการอ่าน
แต่หลังจากที่ไปเจอบทสรุปของอจ.ฝรั่งคนหนึ่งในเว็บ..ผมก้รู้สึกว่าโหย...ทำไมเราไม่เคยมองมุมนี้ของรามเกียรติ์มาก่อนเลย
มันช่างเป็นคอนเส็ปต์ที่เท่โฮกอะไรเช่นนี้
เขาสรุปว่า
"ราม คือผู้ชายในอุดมคติที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้เป็นสามี"
(เพราะความรักอันมั่นคงต่อภรรยา เนื่องจากต้นฉบับรามายณะจริงๆ รามไม่สงสัยในความบริสุทธิ์ของสีดา และไม่สนว่าใครจะกล่าวหาด้วย)
ลักษมัน คือน้องชายในอุดมคติที่พี่ชายทุกคนอยากได้เขาเป็นน้อง
(เพราะความเสียสละต่อพี่ชายแบบตายแทนกันได้)
สีดา คือผู้หญิงในอุดมคติที่ผู้ชายทุกคนอยากได้เป็นภรรยา
(เพราะความจงรักภักดีและเข้มแข็ง ทีสีดายึดมั่นมาตลอด)
อจ.เขาใช้ประโยคแบบนี้ครับ
Rama is the son every father ever wants.
He is also the husband every woman ever dreams of.
Lakshman is the brother everyman ever needs.
And Sita is the wife every husband wish for.
แล้วแกก็สรุปได้เท่มากว่า
Rama คือตัวแทน Love
Sita คือตัวแทน Loyalty
Lakshman คือตัวแทน Sacrifice
LOVE. LOYALTY. SACRIFICE.
อ๊ากกกก สำหรับขาการ์ตูนและกำลังภายในอย่างผม....ชอบมว้าก!!!!
เอ่อ ขออนุญาตนะครับ
เกรงว่าผมเคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์ ตอนที่ว่าด้วยเรื่องความเจ้าอารมณ์ของพระรามมา ดังนี้
"ไฟกาฬเหล่านั้นพ่ายแพ้ต่อแรงอธิษฐานของนางสีดา นางสีดาพิสูจน์ตนเองได้ว่าบริสุทธิ์ทั้งกายใจ สามีภรรยาจึงได้กลับไปใช่ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางสีดามีครรภ์ นางอดุลยักษีที่เคียดแค้นนางสีดาแปลงมาเป็นนางกำนัลพร้อมขอให้นางสีดาวาดรูป ทศกัณฐ์ พอวาดเสร็จ นางอดุลก็เข้าสิงทำให้รูปลบไม่ออก พระรามมาเห็นรูปภาพเข้าก็พิโรธมากว่านางสีดายังรักภักดีทศกัณฐ์ จึงสั่งพระลักษมณ์ให้ประหารนางสีดา พระลักษมณ์ไม่ทำซ้ำยังปล่อยนางหนีไป แล้วฆ่าควักหัวใจกวางนำไปถวายพระราม
นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤๅษีวัชมฤคจนกระทั่งประสูติพระโอรสของพระรามนามว่า พระมงกุฎ จากนั้นต่อมาพระฤๅษีก็ได้ชุบกุมารมาเป็นเพื่อนเล่นพระมงกุฎนามว่า พระลบ ทั้งสองกุมารเก่งกล้ามากจนสะเทือนไปถึงอโยธยา จนเกิดการต่อสู้กันระหว่างพ่อลูก ทว่าไม่รู้ผลแพ้ชนะ พระรามเอะใจเลยถามว่าพระมงกุฎเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ในที่สุดจึงได้รู้ว่า ผู้ที่ต่อสู้อยู่ด้วยนี้ คือพระโอรสองค์เดียวที่เกิดแต่มเหสีนางสีดานั่นเอง
พระรามง้องอนขอคืนดีกับนางสีดา แต่นางสีดาเข็ดขยาดในความฉุนเฉียวของพระราม นางจึงแทรกตัวลงไปเมืองบาดาลหนีพระราม พระรามจึงต้องออกผจญภัยอีกครั้งเป็นเวลา 1 ปี จนท้ายสุด พระอิศวรได้รับนางสีดาขึ้นมาและปรับความเข้าใจกับทั้งสอง จนในที่สุดพระราม และนางสีดา จึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา"
อันนี้ผมเอามาจาก วิกิพีเดีย เนื้อเรื่องเหมือนกับที่เคยอ่าน แต่ไม่รู้นะครับว่าต้นฉบับหรือเปล่า
หรือไม่ว่า อ.ฝรั่งคนนั้นอาจจะอ่านไม่จบเรื่องนะครับ เพราะตอนนี้มันท้ายๆแล้ว ฮ่าๆ
รักมากก็แค้นมากครับ ยิ่งรักมากยิ่งตาบอดมาก
ตัวพระรามเป็นแบบอย่างของความรัก โดยเฉพาะในแบบชาย หญิง แบบนี้ด้วยแล้ว อันนี้ผมว่าสมเหตุสมผลทีเดียว
I do not agree with รักมากก็แค้นมาก is good or สมเหตุสมผล, well, may be it's typical (but it should NOT be) but from my point of view - who had my ex-bf abused me becaused he 'imagined' that I looked at the other guy... it's a no no.
Abusing someone has no excuse. Loves come with forgivness, not revenge or vengeance. Love should have no ego.
edit - coz the text went crazy...
Edited by วันศุกร์, 9 October 2012 - 21:39.
- ตะนิ่นตาญี likes this
You can't fix stupid - Ron White
You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan
"A society is judged by how it treats its animals and elderly"
#64
Posted 9 October 2012 - 21:53
นึกถึง Romeo & Juliet ขึ้นมาทันทีเลยครับ อาจไม่เกี่ยวข้องมากนัก
แต่เมื่อนึกถึงการเสียสละของ Romeo & Juliet ที่ทำให้แก่ Capulet & Montague สองตระกูลแห่ง Verona
แม้นจะไม่แน่ใจว่าความตายของ ชายหนุ่ม-หญิงสาว แห่ง สองตระกูล จะทำให้ บรรยากาศ อัน มึนตึง แห่งสองตระกูลนี้ดีขึ้นหรือไม่
แต่ที่แน่ใจ ความตาย ของ เขา และ เธอ ได้กลายเป็นตำนานอันไม่อาจลืมเลือน.....
ตะนิ่นตาญี
วันอังคารที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๒๑.๕๓ นาฬิกา
#65
Posted 9 October 2012 - 22:12
ใครทันได้ดูบ้าง? > <
- ตะนิ่นตาญี and อู๋ ฮานามิ like this
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
#66
Posted 9 October 2012 - 22:40
^
ดูทันแต่ฉบับป๋าบาซ เลอร์มาน เอามาตีความใหม่แบบแก๊งสเตอร์วัยรุ่น โคตรรรรรรรรรเท่เลยคร้าบ
ยุคนั้นเพลง Love Fool เพลงนี้ดังถล่มวิทยุเมืองไทย
- ตะนิ่นตาญี, SPDZ, DarkSwan and 1 other like this
#67
Posted 9 October 2012 - 22:51
http://www.youtube.com/watch?v=iepR9y1Z9Fc
ใครทันได้ดูบ้าง? > <
เคยดูแต่ รุ่นที่ เลียวนาร์ด ไวท์ติ้ง กับ โอลิเวียร์ ฮัซซี่ แสดง อ้ะครับ จำปีไม่ได้ น่าจะ 2511 หรือ 2512
ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ " https://www.facebook...akwarakfromyala https://www.facebook.com/NARAPEACE
#68
Posted 9 October 2012 - 23:02
พบกันเพียงไม่กี่ครั้ง ไม่ทันแม้แต่จะเรียนรู้กันอย่างจริงจัง แล้วก็เลือกที่จะหลีกหนีอุปสรรคด้วยวิธีตัดช่องน้อยแต่พอตัว สุดท้ายก็เลือกแก้ปัญหาทั้งหลายทั้งมวลด้วยการจบชีวิตตนเอง
สะท้อนให้เห็นว่า "วัยรุ่นคิดสั้นเพราะรักไม่สมหวังนี่ มันมีมาเป็นร้อย ๆ ปีเลยทีเดียว" ซึ่งกรณีนี้ ผมติดจะรังเกียจอยู่ครับ
ปล. แต่ชอบพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าฯ ร. ๖ มาก ด้วยสำนวนความไพเราะ สำหรับผม ถือว่าสละสลวยมาก ๆ
- ตะนิ่นตาญี and SPDZ like this
#69
Posted 10 October 2012 - 01:21
ที่จริงมันเป็นละครหาเงินธรรมดาๆ เรื่องนึงเท่านั้น
ลองดูเวอร์ชั่นนี้สิครับ ถึงอกถึงใจวัยโจ๋
ตัดท่อนฮุค สุดฮิต
ตัวเต็ม 2 ชั่วโมงครึ่ง
รามายณะ เดี๋ยวหามาให้ดูอีกที
- ตะนิ่นตาญี likes this
#70
Posted 10 October 2012 - 01:22
ปล. แต่ชอบพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าฯ ร. ๖ มาก ด้วยสำนวนความไพเราะ สำหรับผม ถือว่าสละสลวยมาก ๆ
เห็นด้วยมากที่สุด
จริงอยู่ ที่ในฐานะคิง ท่านบริหารไม่เก่ง
แต่ในฐานะกวี ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ผมถือว่าเป็นยอดกวีเอกแห่งยุคเลยละครับ
ผมอ่านพระราชนิพนธ์แปลของท่านแต่ละเรื่อง...ไม่ใช่ยอดกวี ทำไม่ได้ขนาดนี้ครับ
ถ้าท่านเป็นศิลปินอย่างเดียว ไม่ได้ต้องเป็นกษัตริย์ ประเทศจะจารึกพระนามท่านในระดับเดียวกับท่านสุนทรภู่จริงๆครับ
- ตะนิ่นตาญี, V.Junior for Vendetta and พระฤๅษี like this
#71
Posted 10 October 2012 - 01:26
แต่ฉากทศกรรณฐ์ล้ม ผู้ใหญ่ขอว่าโบราณถือ ก็เลยต้องตัด
ไปเล่นเมืองนอกจึงมี
- ตะนิ่นตาญี likes this
#72
Posted 10 October 2012 - 01:32
แต่ฉากทศกรรณฐ์ล้ม ผู้ใหญ่ขอว่าโบราณถือ ก็เลยต้องตัด
สนใจมากเลยครับ ช่วยเล่าเป็นวิทยาทานให้ฟังหน่อยเถอะครับ
- ตะนิ่นตาญี likes this
#73
Posted 10 October 2012 - 01:40
เป็นอันว่า เทวดาโง่นะ ๔ รึ ๖ กันแน่ ?
จำไม่ได้เหมือนกัน .รู้แต่ว่า เทวดา นี่ก็
พิลึกนะ เขาวานให้เฝ้า( ควาย) ก็เอา.!!
คงสงสารมันนะคร่ออ ไม่นึกว่ามันจะโง่ขนาดนี้น่ะคร่ออ หันมาด่าพวกตัวเอง
Edited by ทักษิณี ขี่ควายแดง, 10 October 2012 - 01:43.
- ตะนิ่นตาญี and พระฤๅษี like this
#74
Posted 10 October 2012 - 01:44
บางสำนวนก็บอกว่าผู้เล่นจะมีอันเป็นไป
ต้นสายปลายเหตุ ไม่มีบอกไว้ เหล่าคนโขนก็ถือตามๆ กันมาถึงทุกวันนี้
ผมก็ไม่รู้เรื่องจริงว่าเป็นอย่างไรเหมือนกัน
- overtherainbow, ตะนิ่นตาญี, อู๋ ฮานามิ and 2 others like this
#75
Posted 10 October 2012 - 01:58
Edited by อู๋ ฮานามิ, 10 October 2012 - 02:00.
- ตะนิ่นตาญี likes this
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#76
Posted 10 October 2012 - 02:03
เป็น taboo ว่า ถ้าเล่นตอนนี้แล้ว บ้านเมืองจะไม่ปกติครับ
บางสำนวนก็บอกว่าผู้เล่นจะมีอันเป็นไป
ต้นสายปลายเหตุ ไม่มีบอกไว้ เหล่าคนโขนก็ถือตามๆ กันมาถึงทุกวันนี้
ผมก็ไม่รู้เรื่องจริงว่าเป็นอย่างไรเหมือนกัน
อ่านแล้วผมขนแขนสแตนด์อัพเลย
ทำให้ผมขยัน ลองไปหาจุดกำเนิดการสร้างแคแรคเตอร์ของท่านวาลมิกิ
เพราะผมจำได้ว่าเคยอ่านเจอว่าท่านมหาฤาษีวาลมิกิ ก็เหมือนนักประพันธ์ชั้นเลิศในโลก ที่ "สร้างแคแรคเตอร์ของตัวละครอย่างละเอียดละอออย่างดี"
คือจะสร้างสภาพแวดล้อม ปูมหลัง ชาติกำเนิด ให้เหมาะกับนิสัยใจคอด้วย
และนักประพันธ์หลายท่านที่สนใจโหราศาสตร์ ก็จะสร้างกระทั่ง "วันเดือนปีเกิดตกฟากให้ตัวละครด้วย" เพื่อหล่อหลอมแคแรคเตอร์ให้ดูมีชีวิต
เช่น อจ.กฤษณา อโศกสินเป็นต้น ท่านก็สร้างวันเดือนปีเกิดตกฟากให้ตัวละครท่านเช่นกัน
(ถ้าใครเป็นหนอนหนังสือคงทราบว่าอจ.เคยเป็นคู่ชีวิตของโหรไทยที่เก่งกาจมาก ผมจำนามปากกาท่านไม่ได้แล้วครับ ต้องขออภัยอย่างมากจริงๆ)
ท่านวาลมิกิก็สร้างวันเดือนปีเกิดตกฟากให้รามาเช่นกัน ผมเลยลองค้นข้อมูลในไฟล์ที่ผมเซฟแคแรคเตอร์รามายณะไว้..
เจ๊ยยยย จริงด้วย! ท่านวาลมิกิเขียนถึงวันเดือนปีและเวลาเกิดรามาอย่างชัดเจนเลย
และมันอธิบายความเป็นพระรามหมดทุกเรื่อง
คือ รามาเกิดช่วงเดือน Chaitra (มีนาคม-เมษายน) ณ อาทิตย์ราศีเมษ(เป็นอุจ-นักรบ)
อังคารราศีมังกร(เป็นอุจ-นักรบ และมีความมานะอดทนเป็นเลิศ)
ศุกร์ราศีมีน(เป็นอุจ-บูชาความรักแท้และโรแมนติกอย่างยิ่ง ...มิน่า สู้รบเพื่อสีดาชนิดมาราธอน 14 ปีได้ ต้องโรแมนติกมากๆ)
พฤหัสกรกฎ(ได้อุจอีก มีคุณธรรมล้ำเลิศ)
เสาร์ราศีตุล(อุจได้อีกเอ้า มีความรักคู่ชีวิตยิ่งชีพ ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง)
จันทร์กรกฎกุมลัคน์กรกฎ (ได้เกษตร เป็นผู้ชายอ่อนโยน รักเมียยิ่งชีพ)
มิน่า ทำไมพระรามถึงรักเมี้ยรักเมีย!! โอ้ว...ข้าพเจ้าเข้าใจแล้วเด้อ
- ตะนิ่นตาญี and SPDZ like this
#77
Posted 10 October 2012 - 02:29
เป็น taboo ว่า ถ้าเล่นตอนนี้แล้ว บ้านเมืองจะไม่ปกติครับ
บางสำนวนก็บอกว่าผู้เล่นจะมีอันเป็นไป
ต้นสายปลายเหตุ ไม่มีบอกไว้ เหล่าคนโขนก็ถือตามๆ กันมาถึงทุกวันนี้
ผมก็ไม่รู้เรื่องจริงว่าเป็นอย่างไรเหมือนกัน
ด้วยว่าทศกัณฐ์ถือเป็นพระยายักษ์ระดับเจ้าครองประเทศ(ใหญ่สุด ๆ ในวงศ์ยักษ์) จึงถือว่าเป็นอาถรรพ์ว่า หากแสดงตอนทศกัณฐ์ล้ม จะเป็นการแช่งให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองมีอันเป็นไปครับ
เช่นเดียวกัน หากตัวละครฝ่ายทัพมนุษย์+ลิง ต้องมีอันล้ม (เช่น ตอนพระลักษณ์ถูกโมกศักข์) การแสดงจะหยุดลงช่วงนี้ไม่ได้ ต้องเล่นต่อจนกระมั่งถึงช่วงแก้ไขให้ฟื้นแล้ว จึงจะจบการแสดงได้ครับ
- ตะนิ่นตาญี, V.Junior for Vendetta, SPDZ and 2 others like this
#78
Posted 10 October 2012 - 02:56
เป็น taboo ว่า ถ้าเล่นตอนนี้แล้ว บ้านเมืองจะไม่ปกติครับ
บางสำนวนก็บอกว่าผู้เล่นจะมีอันเป็นไป
ต้นสายปลายเหตุ ไม่มีบอกไว้ เหล่าคนโขนก็ถือตามๆ กันมาถึงทุกวันนี้
ผมก็ไม่รู้เรื่องจริงว่าเป็นอย่างไรเหมือนกัน
อ่านแล้วผมขนแขนสแตนด์อัพเลย
ทำให้ผมขยัน ลองไปหาจุดกำเนิดการสร้างแคแรคเตอร์ของท่านวาลมิกิ
เพราะผมจำได้ว่าเคยอ่านเจอว่าท่านมหาฤาษีวาลมิกิ ก็เหมือนนักประพันธ์ชั้นเลิศในโลก ที่ "สร้างแคแรคเตอร์ของตัวละครอย่างละเอียดละอออย่างดี"
คือจะสร้างสภาพแวดล้อม ปูมหลัง ชาติกำเนิด ให้เหมาะกับนิสัยใจคอด้วย
และนักประพันธ์หลายท่านที่สนใจโหราศาสตร์ ก็จะสร้างกระทั่ง "วันเดือนปีเกิดตกฟากให้ตัวละครด้วย" เพื่อหล่อหลอมแคแรคเตอร์ให้ดูมีชีวิต
เช่น อจ.กฤษณา อโศกสินเป็นต้น ท่านก็สร้างวันเดือนปีเกิดตกฟากให้ตัวละครท่านเช่นกัน
(ถ้าใครเป็นหนอนหนังสือคงทราบว่าอจ.เคยเป็นคู่ชีวิตของโหรไทยที่เก่งกาจมาก ผมจำนามปากกาท่านไม่ได้แล้วครับ ต้องขออภัยอย่างมากจริงๆ)
ท่านวาลมิกิก็สร้างวันเดือนปีเกิดตกฟากให้รามาเช่นกัน ผมเลยลองค้นข้อมูลในไฟล์ที่ผมเซฟแคแรคเตอร์รามายณะไว้..
เจ๊ยยยย จริงด้วย! ท่านวาลมิกิเขียนถึงวันเดือนปีและเวลาเกิดรามาอย่างชัดเจนเลย
และมันอธิบายความเป็นพระรามหมดทุกเรื่อง
คือ รามาเกิดช่วงเดือน Chaitra (มีนาคม-เมษายน) ณ อาทิตย์ราศีเมษ(เป็นอุจ-นักรบ)
อังคารราศีมังกร(เป็นอุจ-นักรบ และมีความมานะอดทนเป็นเลิศ)
ศุกร์ราศีมีน(เป็นอุจ-บูชาความรักแท้และโรแมนติกอย่างยิ่ง ...มิน่า สู้รบเพื่อสีดาชนิดมาราธอน 14 ปีได้ ต้องโรแมนติกมากๆ)
พฤหัสกรกฎ(ได้อุจอีก มีคุณธรรมล้ำเลิศ)
เสาร์ราศีตุล(อุจได้อีกเอ้า มีความรักคู่ชีวิตยิ่งชีพ ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง)
จันทร์กรกฎกุมลัคน์กรกฎ (ได้เกษตร เป็นผู้ชายอ่อนโยน รักเมียยิ่งชีพ)
มิน่า ทำไมพระรามถึงรักเมี้ยรักเมีย!! โอ้ว...ข้าพเจ้าเข้าใจแล้วเด้อ
interesting... but dont really understand, why Sunday, Tuesday, Thursday, Saturday, and Monday? Was he born all these days?
- ตะนิ่นตาญี likes this
You can't fix stupid - Ron White
You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan
"A society is judged by how it treats its animals and elderly"
#79
Posted 10 October 2012 - 02:59
I actually agree with this, since I'm not romantic enough to believe in love at first sight lol. May be in real story, they know each other for longer?โรมิโอกับจูเลียต สำหรับผมกลับมองว่า เป็นรักที่"ฉาบฉวย" และ "สิ้นคิด" ครับ
พบกันเพียงไม่กี่ครั้ง ไม่ทันแม้แต่จะเรียนรู้กันอย่างจริงจัง แล้วก็เลือกที่จะหลีกหนีอุปสรรคด้วยวิธีตัดช่องน้อยแต่พอตัว สุดท้ายก็เลือกแก้ปัญหาทั้งหลายทั้งมวลด้วยการจบชีวิตตนเอง
สะท้อนให้เห็นว่า "วัยรุ่นคิดสั้นเพราะรักไม่สมหวังนี่ มันมีมาเป็นร้อย ๆ ปีเลยทีเดียว" ซึ่งกรณีนี้ ผมติดจะรังเกียจอยู่ครับ
ปล. แต่ชอบพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าฯ ร. ๖ มาก ด้วยสำนวนความไพเราะ สำหรับผม ถือว่าสละสลวยมาก ๆ
- ตะนิ่นตาญี likes this
You can't fix stupid - Ron White
You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan
"A society is judged by how it treats its animals and elderly"
#80
Posted 10 October 2012 - 03:08
interesting... but dont really understand, why Sunday, Tuesday, Thursday, Saturday, and Monday? Was he born all these days?
It's not days krub. It's all Astrological planets.
It means he was born on the day that all planets in the sky lined up in it's highest position krub.(It's called มหาอุจ or EXALTATION)
Meaning that Rama was born with
Sun in Aries, Mars in Capricorn, Venus in Pisces, Jupiter in Cancer, Saturn in Libra.
And Moon in Cancer in conjunction with Lakhna or Ascendant Rising.
All planets' position make him to have these characteristics :
Brave and Warrior-like (Aries Sun)
Stamina and very determined (Capricorn Mars)
Very devoted to love (PISCES VENUS)
High in Virtue (Cancer Jupiter)
Very sensitive and family-oriented (Cancer Moon)
Family Man (Cancer Rising:Lakhna)
And with Jupiter in Exalted Cancer together with Dignified Cancer Moon conjunct with his Lakhna
Makes him do what he did in RAMAYANA, fighting the 14th year WAR with Evil.
His decision and doing suddenly all make sense according to his birth chart krub.
It's intriguing for me to know that some writers can be so detailed to create strong background to the character up to an Astrological Birth Chart!!
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 10 October 2012 - 03:16.
#81
Posted 10 October 2012 - 03:10
เป็น taboo ว่า ถ้าเล่นตอนนี้แล้ว บ้านเมืองจะไม่ปกติครับ
บางสำนวนก็บอกว่าผู้เล่นจะมีอันเป็นไป
ต้นสายปลายเหตุ ไม่มีบอกไว้ เหล่าคนโขนก็ถือตามๆ กันมาถึงทุกวันนี้
ผมก็ไม่รู้เรื่องจริงว่าเป็นอย่างไรเหมือนกัน
อ่านแล้วผมขนแขนสแตนด์อัพเลย
ทำให้ผมขยัน ลองไปหาจุดกำเนิดการสร้างแคแรคเตอร์ของท่านวาลมิกิ
เพราะผมจำได้ว่าเคยอ่านเจอว่าท่านมหาฤาษีวาลมิกิ ก็เหมือนนักประพันธ์ชั้นเลิศในโลก ที่ "สร้างแคแรคเตอร์ของตัวละครอย่างละเอียดละอออย่างดี"
คือจะสร้างสภาพแวดล้อม ปูมหลัง ชาติกำเนิด ให้เหมาะกับนิสัยใจคอด้วย
และนักประพันธ์หลายท่านที่สนใจโหราศาสตร์ ก็จะสร้างกระทั่ง "วันเดือนปีเกิดตกฟากให้ตัวละครด้วย" เพื่อหล่อหลอมแคแรคเตอร์ให้ดูมีชีวิต
เช่น อจ.กฤษณา อโศกสินเป็นต้น ท่านก็สร้างวันเดือนปีเกิดตกฟากให้ตัวละครท่านเช่นกัน
(ถ้าใครเป็นหนอนหนังสือคงทราบว่าอจ.เคยเป็นคู่ชีวิตของโหรไทยที่เก่งกาจมาก ผมจำนามปากกาท่านไม่ได้แล้วครับ ต้องขออภัยอย่างมากจริงๆ)
ท่านวาลมิกิก็สร้างวันเดือนปีเกิดตกฟากให้รามาเช่นกัน ผมเลยลองค้นข้อมูลในไฟล์ที่ผมเซฟแคแรคเตอร์รามายณะไว้..
เจ๊ยยยย จริงด้วย! ท่านวาลมิกิเขียนถึงวันเดือนปีและเวลาเกิดรามาอย่างชัดเจนเลย
และมันอธิบายความเป็นพระรามหมดทุกเรื่อง
คือ รามาเกิดช่วงเดือน Chaitra (มีนาคม-เมษายน) ณ อาทิตย์ราศีเมษ(เป็นอุจ-นักรบ)
อังคารราศีมังกร(เป็นอุจ-นักรบ และมีความมานะอดทนเป็นเลิศ)
ศุกร์ราศีมีน(เป็นอุจ-บูชาความรักแท้และโรแมนติกอย่างยิ่ง ...มิน่า สู้รบเพื่อสีดาชนิดมาราธอน 14 ปีได้ ต้องโรแมนติกมากๆ)
พฤหัสกรกฎ(ได้อุจอีก มีคุณธรรมล้ำเลิศ)
เสาร์ราศีตุล(อุจได้อีกเอ้า มีความรักคู่ชีวิตยิ่งชีพ ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง)
จันทร์กรกฎกุมลัคน์กรกฎ (ได้เกษตร เป็นผู้ชายอ่อนโยน รักเมียยิ่งชีพ)
มิน่า ทำไมพระรามถึงรักเมี้ยรักเมีย!! โอ้ว...ข้าพเจ้าเข้าใจแล้วเด้อ
interesting... but dont really understand, why Sunday, Tuesday, Thursday, Saturday, and Monday? Was he born all these days?
เป็นการสถิตย์ลัคนาของดาวนพเคราะห์ต่าง ๆ ครับ ว่าอยู่ ณ ราศีใดในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งแต่ละราศีที่ดาวนพเคราะห์สถิตย์ ก็จะให้ความหมาย และส่งผลต่อชะตาของผู้เกิดครับผม
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ and วันศุกร์ like this
#83
Posted 10 October 2012 - 07:17
เป็น taboo ว่า ถ้าเล่นตอนนี้แล้ว บ้านเมืองจะไม่ปกติครับ
บางสำนวนก็บอกว่าผู้เล่นจะมีอันเป็นไป
ต้นสายปลายเหตุ ไม่มีบอกไว้ เหล่าคนโขนก็ถือตามๆ กันมาถึงทุกวันนี้
ผมก็ไม่รู้เรื่องจริงว่าเป็นอย่างไรเหมือนกัน
ขออนุญาต คุณ amplepoor สักนิดเถอะครับ
ที่เชื่อกันว่า ฉากสุดท้ายในการเสียชีวิตของ ทศกัณฐ์ ของการเล่น โขน นั้น
เป็นสิ่งต้องห้าม อาจเป็นเพราะตัว ทศกัณฐ์ เองนั้น ถือว่าอยู่ใน "วงศ์พรหม"
และ พระพรหม นั้นเป็นที่ "บูชา" ของ "คนโขน" ก็เป็นได้กระมังครับ
ตะนิ่นตาญี แน่ใจว่า ทศกัณฐ์ นั้นอยู่ใน "วงศ์พรหม" แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะเหตุนี้หรือเปล่า
ถึงไม่เล่นฉากนี้ นี่เป็นเหตุผลหนึ่ง-อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะคำขอก่อนตายของ ทศกัณฐ์ ดังนี้ครับ...
-ปากหนึ่งว่าโอ้พิเภกเอ๋ย.....ไฉนเลยมาแกล้งฆ่าพี่
ตัวเราก็จะม้วยชีวี.....ในเวลานี้ด้วยศรพิษ
-ปากสองว่าเจ้าผู้เป็นน้อง.....ร่วมท้องสืบสายโลหิต
จะได้ผ่านลงกาสมคิด.....เป็นอิสรภาพแก่หมู่มาร
-ปากสามขอฝากมณโฑด้วย.....ช่วยบำรุงให้เป็นแก่นสาร
ทั้งอัคคีกัลยายุพาพาล.....ฝูงสนมบริวารทั้งนั้น
-ปากสี่ว่าเจ้าจะครองยศ.....ปรากฎเป็นจอมไอศวรรย์
จงเอ็นดูสุริยวงศ์พงศ์พันธุ์.....โดยธรรม์สุจริตประเวณี
-ปากห้าจงดำรงทศพิธ.....อย่าทำทุจริตเหมือนดั่งพี่
ตัดลาภโอบอ้อมอารี.....แก่โยธีไพร่ฟ้าประชากร
-ปากหกว่าเจ้าจงอดโทษ.....ซึ่งกริ้วโกรธด่าว่ามาแต่ก่อน
อย่าให้เป็นเวราอาวรณ์.....แก่เราผู้จะจรไปเมืองฟ้า
-ปากเจ็ดขอฝากนคเรศ.....อันทรงวงศ์พรหมเมศนาถา
สืบมาแต่องค์พระอัยกา.....เมตตาอย่าให้จลาจล
-ปากแปดว่าเราเลี้ยงท่าน.....ก็ประมาณหมายใจให้เป็นผล
ตัวเราชั่วเองจึงเสียชนม์.....แล้วได้ร้อนรนทั้งแผ่นภพ
-ปากเก้าว่าพี่จะลาตาย.....น้องชายเมตตาช่วยปลงศพ
อย่าให้ค้างราตรีในที่รบ.....ไตรภพจะหมิ่นนินทา
-สิบปากสิ้นฝากสิ้นสั่ง.....สิ้นกำลังสิ้นคิดยักษา
พิษศรร้อนรุ่มทั้งกายา.....อสุรากลิ้งเกลือกเสือกไป
ขอบพระคุณ คุณamplepoor ที่กรุณาต่อ ตะนิ่นตาญี มากครับ
ตะนิ่นตาญี
วันพุธที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๗.๑๗ นาฬิกา
http://www.youtube.com/watch?v=bVgymfQ2x-8
555+ หมายเหตุ เพลงนี้ไม่เกี่ยวกับความเห็นใดใดทั้งสิ้นนะครับ
เพียงแต่ อยากฟัง ขึ้นมาอย่าง จับใจ เท่านั้นเอง
ขอบพระคุณ คุณ amplepoor มากครับ
ตะนิ่นตาญี
- DarkSwan likes this
#84
Posted 10 October 2012 - 07:57
ตัวทศกัณฐ์มีบิดาคือ ท้าวลัสเตียน (บ้างเรียก ลัสเตียนพรหม)
ท้าวลัสเตียนมีบิดาคือ ท้าวจตุรพักตร์ (ผู้ครองลงกาตนแรก)
ท้าวจตุรพักตร์เป็นน้องของท้าวมาลีวัคคพรหม หรือท้าวมาลีวราช ซึ่งเป็นพรหมมี ๔ หน้า ๘ กร เป็นใหญ่ในหมุ่คนธรรพ์ และเป็นผู้มีความยุติธรรมเป็นที่สุด จนได้พรให้มีวาจาสิทธิ์ครับ
ตัวท้าวจตุรพักตร์เองก็มีนามเดิมว่า ท้าวธาดาพรหม ทศกัณฐ์จึงถือเป็นวงศ์พรหมไปด้วยครับ
Edited by baezae, 10 October 2012 - 08:03.
- ตะนิ่นตาญี likes this
#86
Posted 10 October 2012 - 10:17
เพราะเป็น ( คำภีร์ ) ศาสนาของฮินดู เกรงจะกระทบ-
กระเทือนทางด้านจิตใจ ในเฟซฯก็มีเพื่อนอยากให้เล่า
แต่เราก็มักจะเลี่ยง. ไทยเราลากเอามาเป็น บทละคร
เรื่อง..รามเกียรณ์..แต่ก็หนีไม่พ้น ตัวละครหลายตัวคือ
เทพเจ้าของเขา..เราจึงมักจะละไว้ ไม่กล่าวถึง แต่ที่คุณ
ตะนิ่นตาญี นำมากล่าวนั้น (นับเป็นความฉลาด) ของการ
เลือก เรียกว่า.จับเอา.อธรรม.มาตีแผ่.เทียบกับเหตุการณ์
ปัจจุบัน.. ความจริงผมจะเว้นการวิจารณ์ โดยหันไปเล่นแบบ
เฮฮา. ว่าเทวดาโง่.. แต่มาวันนี้ก็ขอหน่อยนะ แค่นี้...
- ตะนิ่นตาญี and วันศุกร์ like this
#87
Posted 10 October 2012 - 13:23
ขอบคุณ ท่านตะนิ่นตาญี ที่เป็นผู้เริ่มกระทู้
และพี่ๆ เพื่อนๆ สรท. ทุกท่านครับ.............ขอบคุณจากใจจริงครับ
- ตะนิ่นตาญี and วันศุกร์ like this
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
#88
Posted 10 October 2012 - 15:12
- ตะนิ่นตาญี likes this
#89
Posted 10 October 2012 - 15:16
ทศกัณฐ์ถือว่าเป็นตนเป็นวงศ์พรหมครับ เนื่องด้วยการสืบสายดังนี้
ตัวทศกัณฐ์มีบิดาคือ ท้าวลัสเตียน (บ้างเรียก ลัสเตียนพรหม)
ท้าวลัสเตียนมีบิดาคือ ท้าวจตุรพักตร์ (ผู้ครองลงกาตนแรก)
ท้าวจตุรพักตร์เป็นน้องของท้าวมาลีวัคคพรหม หรือท้าวมาลีวราช ซึ่งเป็นพรหมมี ๔ หน้า ๘ กร เป็นใหญ่ในหมุ่คนธรรพ์ และเป็นผู้มีความยุติธรรมเป็นที่สุด จนได้พรให้มีวาจาสิทธิ์ครับ
ตัวท้าวจตุรพักตร์เองก็มีนามเดิมว่า ท้าวธาดาพรหม ทศกัณฐ์จึงถือเป็นวงศ์พรหมไปด้วยครับ
นี่ถ้าทำ Family Tree หรือ สาแหรกตระกูล
คงกางหน้าออกมาได้ประมาณสนามฟุตบอล
#90
Posted 10 October 2012 - 15:39
ทั้งคนถาม คนตอบ คนให้ความรู้ คนขยายความ คนตีความ
อ่านกระทู้นี้ ไม่ชอบคนที่เป็นประเด็นทุจริตที่อยู่ในหัวข้อกระทู้
แต่ความหลังจากนั้น มีความสุขจัง
ทั้งรามเกียรติ์ โรมิโอจูเลียต
คนใน สรท. นี่ เก่งๆกันเยอะๆๆๆๆๆ
ภูมิใจจัง
- ตะนิ่นตาญี likes this
#91
Posted 10 October 2012 - 18:09
ทศกัณฐ์ถือว่าเป็นตนเป็นวงศ์พรหมครับ เนื่องด้วยการสืบสายดังนี้
ตัวทศกัณฐ์มีบิดาคือ ท้าวลัสเตียน (บ้างเรียก ลัสเตียนพรหม)
ท้าวลัสเตียนมีบิดาคือ ท้าวจตุรพักตร์ (ผู้ครองลงกาตนแรก)
ท้าวจตุรพักตร์เป็นน้องของท้าวมาลีวัคคพรหม หรือท้าวมาลีวราช ซึ่งเป็นพรหมมี ๔ หน้า ๘ กร เป็นใหญ่ในหมุ่คนธรรพ์ และเป็นผู้มีความยุติธรรมเป็นที่สุด จนได้พรให้มีวาจาสิทธิ์ครับ
ตัวท้าวจตุรพักตร์เองก็มีนามเดิมว่า ท้าวธาดาพรหม ทศกัณฐ์จึงถือเป็นวงศ์พรหมไปด้วยครับ
ขอบพระคุณ คุณ baezae มากครับ
ตะนิ่นตาญี
ความจริง...รามายณะ..เราไม่ค่อยอยากจะพูดถึงหรอก
เพราะเป็น ( คำภีร์ ) ศาสนาของฮินดู เกรงจะกระทบ-
กระเทือนทางด้านจิตใจ ในเฟซฯก็มีเพื่อนอยากให้เล่า
แต่เราก็มักจะเลี่ยง. ไทยเราลากเอามาเป็น บทละคร
เรื่อง..รามเกียรณ์..แต่ก็หนีไม่พ้น ตัวละครหลายตัวคือ
เทพเจ้าของเขา..เราจึงมักจะละไว้ ไม่กล่าวถึง แต่ที่คุณ
ตะนิ่นตาญี นำมากล่าวนั้น (นับเป็นความฉลาด) ของการ
เลือก เรียกว่า.จับเอา.อธรรม.มาตีแผ่.เทียบกับเหตุการณ์
ปัจจุบัน.. ความจริงผมจะเว้นการวิจารณ์ โดยหันไปเล่นแบบ
เฮฮา. ว่าเทวดาโง่.. แต่มาวันนี้ก็ขอหน่อยนะ แค่นี้...
ขอบพระคุณ คุณพี่พระฤๅษี มากครับ
ตะนิ่นตาญี
ได้ความรู้เยอะแยะมากมายเลยครับ
ขอบคุณ ท่านตะนิ่นตาญี ที่เป็นผู้เริ่มกระทู้
และพี่ๆ เพื่อนๆ สรท. ทุกท่านครับ.............ขอบคุณจากใจจริงครับ
ขอบพระคุณ คุณ RaRa มากครับ
ตะนิ่นตาญี
สุขุมนุ่มลึก เลือกเรื่องได้เหมาะกับ บุคคลและเหตุการณ์มากครับ Like+1 อยากให้ซัก 100
ขอบพระคุณ คุณ BearFamily มากครับ
ตะนิ่นตาญี
ทศกัณฐ์ถือว่าเป็นตนเป็นวงศ์พรหมครับ เนื่องด้วยการสืบสายดังนี้
ตัวทศกัณฐ์มีบิดาคือ ท้าวลัสเตียน (บ้างเรียก ลัสเตียนพรหม)
ท้าวลัสเตียนมีบิดาคือ ท้าวจตุรพักตร์ (ผู้ครองลงกาตนแรก)
ท้าวจตุรพักตร์เป็นน้องของท้าวมาลีวัคคพรหม หรือท้าวมาลีวราช ซึ่งเป็นพรหมมี ๔ หน้า ๘ กร เป็นใหญ่ในหมุ่คนธรรพ์ และเป็นผู้มีความยุติธรรมเป็นที่สุด จนได้พรให้มีวาจาสิทธิ์ครับ
ตัวท้าวจตุรพักตร์เองก็มีนามเดิมว่า ท้าวธาดาพรหม ทศกัณฐ์จึงถือเป็นวงศ์พรหมไปด้วยครับ
นี่ถ้าทำ Family Tree หรือ สาแหรกตระกูล
คงกางหน้าออกมาได้ประมาณสนามฟุตบอล
555+ ขอบพระคุณ คุณผึ้งน้อยฯ มากครับ
ตะนิ่นตาญี
ขอบคุณทุกท่านนะคะ
ทั้งคนถาม คนตอบ คนให้ความรู้ คนขยายความ คนตีความ
อ่านกระทู้นี้ ไม่ชอบคนที่เป็นประเด็นทุจริตที่อยู่ในหัวข้อกระทู้
แต่ความหลังจากนั้น มีความสุขจัง
ทั้งรามเกียรติ์ โรมิโอจูเลียต
คนใน สรท. นี่ เก่งๆกันเยอะๆๆๆๆๆ
ภูมิใจจัง
ขอบพระคุณ คุณ asawinee มากครับ
ตะนิ่นตาญี
#92
Posted 10 October 2012 - 21:06
Khun ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, Thank you so much! you English is awesome! I thought about this and I love it when the writers gave so much thought about their characters background. I just compared this to JK Rowling, Harry Potter, with all the little subtle things in the stories have meanings later in the future... it's amazing and so much fun to learn all those hidden/subtle cluesIt's not days krub. It's all Astrological planets.
It means he was born on the day that all planets in the sky lined up in it's highest position krub.(It's called มหาอุจ or EXALTATION)
Meaning that Rama was born with
Sun in Aries, Mars in Capricorn, Venus in Pisces, Jupiter in Cancer, Saturn in Libra.
And Moon in Cancer in conjunction with Lakhna or Ascendant Rising.
All planets' position make him to have these characteristics :
Brave and Warrior-like (Aries Sun)
Stamina and very determined (Capricorn Mars)
Very devoted to love (PISCES VENUS)
High in Virtue (Cancer Jupiter)
Very sensitive and family-oriented (Cancer Moon)
Family Man (Cancer Rising:Lakhna)
And with Jupiter in Exalted Cancer together with Dignified Cancer Moon conjunct with his Lakhna
Makes him do what he did in RAMAYANA, fighting the 14th year WAR with Evil.
His decision and doing suddenly all make sense according to his birth chart krub.
It's intriguing for me to know that some writers can be so detailed to create strong background to the character up to an Astrological Birth Chart!!
Thank you kaa!!เป็นการสถิตย์ลัคนาของดาวนพเคราะห์ต่าง ๆ ครับ ว่าอยู่ ณ ราศีใดในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งแต่ละราศีที่ดาวนพเคราะห์สถิตย์ ก็จะให้ความหมาย และส่งผลต่อชะตาของผู้เกิดครับผม
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ likes this
You can't fix stupid - Ron White
You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan
"A society is judged by how it treats its animals and elderly"
#93
Posted 10 October 2012 - 21:43
เรื่องประเทืองปัญญา
เหล่านู้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
คงยังกินหญ้าไม่เสร็จ
มาเสพเรื่องประเทืองปัญญากันบ้าง
ว่าก็ว่า
นอกจากแกนนำบ้าๆบอๆ
มันไม่ฟังใครจริงๆ
#94
Posted 10 October 2012 - 22:03
เรื่อง โรมีโอและจูเลียต ตามความเห็นส่วนตัว ว่ากันจริงๆแล้วแล้วถ้าทั้งสองคนไม่ตายตามกันไปด้วยเหตุน่าสลดใจก่อนวัยอันควร แต่มีชีวิตคู่ครองกันต่อมา มันก็คงไม่กลายเป็นตำนานเรื่องราวความรักอมตะได้หรอกเนอะ เพราะว่าเมื่อเริ่มโตขึ้น รู้จักกันและกันและีู้รู้จักโลกมากขึ้น ก็อาจมีการทะเลาะเบาะแว้ง มีด้่านมืดของการใช้ชีวิตคู่ เกิดความเหม็นเบื่อกันและกันขึ้นมาก็ได้ แต่เพราะ ท่านหอกสั่น(Shakespear) ได้ freeze ช่วงเวลาที่รักนั้นผลิบานและสุกงอมเต็มที่เอาไว้ นอกจากนั้นยังใช้ภาษาได้สวยงามเสียอีก จึงทำให้ยังโด่งดังมาจนทุกวันนี้ล่ัะมั้งนะ (แต่ชอบเรื่อง Othello มากกว่า แหะๆ)
#95
Posted 10 October 2012 - 22:19
#96
Posted 10 October 2012 - 23:18
เฮ้อ คนจันไร นี่มันถึงจะเกิดคนละพ่อละแม่ แต่มันเหมือนกันยิ่งกว่าพี่น้องฝาแฝด
#98
Posted 10 October 2012 - 23:40
เพราะตรงกับตำนานเฮเลนแห่งทรอย ต้นเหตุแห่งการก่อศึกชิงนางชนิดล้างเผ่าพันธุ์
มีวีรบุรุษเข้ามาเกี่ยวข้องเต็มไปหมด
น่าจะเกิดในสมัยที่ยังถือว่าสตรีเป็นสมบัติของบุรุษอีกด้วย
จึงได้ขโมย หรือแย่งชิงกันยังกับนางเป็นสิ่งของ
พอพัฒนาออกมาภายใต้วัฒนธรรมและค่านิยมที่แตกต่างกัน
แก่นเรืองเดียวกันก็งอกงามออกมาเป็นระบบคุณธรรมที่ต่างกันได้
มองในแง่นี้ วัฒนธรรมอินเดียดูเหมือนจะเข้าถึงนามธรรมเร็วกว่ากรีก
เพราะสามารถทำให้ตัวละครกลายเป็นปุคลาธิษฐานของคุณค่าต่างๆ ได้อย่างแนบเนียน
- พระฤๅษี likes this
#99
Posted 11 October 2012 - 00:10
เพิ่งไปดูอนิเมชั่นเรื่องยักาืมา อ่านกระทู้นี้แล้วอยากวาดภาพประกอบเลย ฮี่ๆ
ถอดรหัสด้วยจิ
น้องอ่านภาษาต่างดาวไม่ออกอ่ะ
เพิ่งมาเจอกระทู้นี้
แหมสอยุดนี่ตามรอยทักสินจริงๆด้วย
ขอเห็นด้วยว่าคนเสรีไทยหลายคนรอบรู้อย่างน่าทึ่งจนน่าประหลาดใจ
ไม่แปลกใจเลยว่าวันไหนเข้ามาไม่ได้จะหงุดหงิดมากๆ กลัวจะพลาดอะไรดีดีไป ค่ะ
#100
Posted 11 October 2012 - 00:18
แหม เท่าที่อ่านเสรีไทยมา นอกจากเรื่องการเมืองแล้ว สมาชิกยังมีความรู้ลุ่มลึกทางด้านวรรณกรรม และ ภาษาอีกด้วย ชอบมากค่ะกระทู้นี้
เรื่อง โรมีโอและจูเลียต ตามความเห็นส่วนตัว ว่ากันจริงๆแล้วแล้วถ้าทั้งสองคนไม่ตายตามกันไปด้วยเหตุน่าสลดใจก่อนวัยอันควร แต่มีชีวิตคู่ครองกันต่อมา มันก็คงไม่กลายเป็นตำนานเรื่องราวความรักอมตะได้หรอกเนอะ เพราะว่าเมื่อเริ่มโตขึ้น รู้จักกันและกันและีู้รู้จักโลกมากขึ้น ก็อาจมีการทะเลาะเบาะแว้ง มีด้่านมืดของการใช้ชีวิตคู่ เกิดความเหม็นเบื่อกันและกันขึ้นมาก็ได้ แต่เพราะ ท่านหอกสั่น(Shakespear) ได้ freeze ช่วงเวลาที่รักนั้นผลิบานและสุกงอมเต็มที่เอาไว้ นอกจากนั้นยังใช้ภาษาได้สวยงามเสียอีก จึงทำให้ยังโด่งดังมาจนทุกวันนี้ล่ัะมั้งนะ (แต่ชอบเรื่อง Othello มากกว่า แหะๆ)
ครับ ผมว่า โรมีโอกับจูเลียต ถือเป็นวรรณกรรมชิ้นเอกแห่งยุคเลยก้อว่าได้ครับ
ผมเคยเห็นบทความฝรั่งท่านหนึ่งเค้าบอกว่า เดิมทีวรรณกรรมเรื่องนี้เป็นวรรณกรรมที่สามารถบอกเล่าเรื่องของความรักได้อย่างครบรสที่สุด
มีทั้งสนุกสนาน มีทั้งหัวเราะไปด้วย เสียใจไปด้วย ร้องไห้ไปด้วยในเวลาเดียวกัน
- บาดทะยัก likes this
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
1 user(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users