113 ความเห็นในกระทู้นี้

[ตะนิ่นตาญี]

หนึ่งในตัวละครหลายหลายตัวที่ ตะนิ่นตาญี ชื่นชอบ

ในมหากาพย์ รามายณะ นารายณ์ อวตาร ปาง รามสกุลจันทร์

หรือที่ใครต่อใครพากันเรียกว่า รามเกียรติ์ นั่นเอง ก็คือ พาลี

พาลี เป็นตัวละครที่แสดงถึงความซับซ้อนในจิตใจ มีทั้ง ความดี-ความชั่ว

ปะปนอยู่ในตัวเอง ถึงขนาดไปแย่ง นางมณโฑ จาก ทศกรรฐ์ เอามาเป็นเมีย

ก็เคยมาแล้ว โดยให้เหตุแห่งการแย่งนั้นว่า ทศกรรฐ์ พา นางมณโฑ เหาะข้ามหัวตัวเอง

ต้องบอกว่า ตะแก แถ ได้สุดสุด จะเอาเป็นเมียเสียอย่างใครจะทำไม

ดังนั้น จะเรียกว่า กึ่งธรรมะ-กึ่งอธรรม ก็ว่าได้ แต่ที่ ตะนิ่นตาญี ชอบ แก นั้น

ก็เห็นจะเป็นเพราะว่า ความ ยะโส-โอหัง ในความสามารถของตนเอง

ก่อนตายแกได้สั่งสอน สุครีพ ผู้เป็นน้องชาย ไว้ว่า...

เลือดพี่มีค่ากว่าตน.....เสียเลือด-เสียชนม์ ดีกว่า

โลหิตติดปลายโลมา.....อับอายขายหน้าฟ้าดิน

มีการผจญภัย ของ พาลี อยู่ตอนหนึ่งอ่านแล้วก็เพลินดีให้ ความคิด แก่คนที่คิดเป็นอยู่

นั่นก็คือตอนที่ พาลี ไปสู้กับ ทรพี ตรงนี้ต้องอนุญาตเพื่อนเพื่อนเกริ่นย้อนนำก่อนจะถึง

สงครามระหว่าง ลิง กับ ควาย เสียก่อน ทรพี เป็น ควาย ครับ...

พ่อของ ทรพี ชื่อ ทรพา แต่ก่อนนั้นสัญชาติของ ทรพา ไม่ใช่ ควาย นะครับ

หากมีสัญชาติดั้งเดิมเป็น ยักษ์ ทำหน้าที่เฝ้าประตู เหมือน ยักษ์วัดแจ้ง กับ ยักษ์วัดโพธิ์ นั่นประไร

วันดี-คืนดี ไม่รู้ แก ไม่รู้แกไป เมาเหล้า อีท่าไหน ดันทะลึ่งไปไล่ปล้ำ นางฟ้า เข้า

นางฟ้า วิ่งหนี สบง-สไบ ให้หลุดกระเจิง ไปฟ้อง พระอิศวร...พระอิศวร ท่านก็โมโห เข้าน่ะสิครับ

ก็เลยสาปเอา ให้ไปเกิดเป็น ควายป่า และเมื่อมี ลูก ก็ให้ ลูก นั้นเป็น ผู้ฆ่า เมื่อนั้นแหละจึงจะพ้นคำสาป

ควาย ทรพา เป็น ควาย ขี้ขลาด แต่ เจ้าชู้ ครับ มีเมียควาย หลายตัวอยู่

มีลูกเป็น ตัวผู้ เมื่อไหร่แกฆ่าทิ้งหมดเลย เฮ้อ...นรกแท้แท้ ไอ้พวก ควาย ใจต่ำเนี่ย.....

แต่ก็มีอยู่ตัวหนึ่งที่หลุดรอดมาได้ เพราะเมียของ ทรพา ตัวหนึ่งชื่อ นิลา แอบท้องขึ้นมา

ผัวถามว่าท้องรึ นางนิลา เธอก็บอกว่า เปล่า...พักหลังฉันกิน หญ้า เยอะขึ้นมันก็เลยดูอวบขึ้นมาเฉยเฉย

พอผัวเผลอ นิลา ก็แอบไปคลอดลูกให้ชื่อว่า ทรพี แล้วฝาก เทวดา ๔ ตน เลี้ยงไว้ในถ้ำแห่งหนึ่ง

ส่วนตัวแกหลังจากเอา ไข่ ไปทิ้งก็กลับมา ออดอ้อน-ออเซาะ-ฉ้อเลาะ ผัวต่อไป

เทวดาใจดี ทั้ง ๔ ตน ก็เลี้ยงไป และทำหน้าที่สั่งสอน ยุทธวิธี ในการรบ และคอยดูแลอารักษ์

จน ทรพี นั้น เติบโต-เติบใหญ่ เป็น ควายเลว ไร้ คุณธรรม-จริยธรรม ไม่ต่างกับสื่อใหญ่ในทุกวันนี้.....

ความเลว ของ ควายทรพี นั้นเป็นชัดยิ่งขึ้น ในทุกทุกวัน

มันจะเอาไม้เมตร ไปวัด รอยตีน พ่อ ครับ เห็นว่า ตีน ตัวเองยังเล็กเท่าฝาหอยอยู่ก็ยังไม่ไปท้ารบ

จนเห็นว่า ตีน ตัวเองใหญ่เท่า พ่อ แล้วนั่นแหละจึงไปไล่ขวิด พ่อ-ทรพา จนตาย…..

ทรพี เป็นควายนรกส่งมาเกิดครับ คิดว่าตัวเอง เจ๋ง ตัวเอง นั้นแน่ ก็เที่ยวไปท้าไล่ขวิด

ไม่เลือก หน้าอินทร์-หน้าพรหม เทวดา ท่าน ไม่อยากยุ่งกลับ ควาย ครับ ท่านก็เลยบอกว่า

เออ...เอ็งแน่- เอ็งเก่ง-เอ็งเจ๋ง-ห้าวป้าง ถ้าอยากโชว์พาวนัก ละก้อ นู่นแน่ะ แน่จริงไปท้า พระอิศวร ดิ

*** ทรพี นี่นอกจากจะชั่ว แล้วยังโง่อีกด้วยครับ ทะลึ่งไปท้ารบกับ พระอิศวร ครับ

พระอิศวร ท่านก็ ยั้ว เอาน่ะสิครับ หนอยแน่...ไก่อ่อนพึ่งสอนขัน ดันทะลึ่งมาท้าประชัน

ก็เลยบอกว่าแน่จริงไปเอาชนะ เจ้าครองนครขีดขิน ให้ได้เสียก่อนเถอะ ไอ้หนู...

*** นี่ก็เชื่อครับ เพื่อนเพื่อน ไปท้า พาลี ผู้เป็น เจ้านครขีดขิน รบ พาลี ก็เอาสิครับ

ไม่ได้ ตบเกรียน มาเสียตั้งนาน อยู่ดีไม่ว่าดีก็มี เกรียน มาให้ตบ

รบกันอยู่ ๗ วัน ๗ คืน พาลี ก็ยังไม่ชนะเสียที ก็เลยถาม เก่งเพราะอะไร?

ไอ้ควายทรพี มันเป็น ควาย จอมเนรคุณ ครับ มันประกาศเลย “กูเก่งเพราะตัวกู”

เทวดาทั้ง ๔ ตน ที่สั่งสอนไอ้ควายนี่ให้เติบใหญ่ เป็นผู้-เป็นคน มาได้จนถึงทุกวันนี้

ปปช. เอ๊ย เทวดา ท่านได้ยินครับ ก็เลยสุมหัวกัน และมีมติเป็นเอกฉันท์ ๔ ต่อ ๐

ว่า ไอ้นี่มันคบไม่ได้ พวกเราเห็นทีจะ ดูแล-อารักษ์ มันไม่ได้เสียแล้ว

ไปดีกว่า-ไม่คุ้มครองมันดีกว่า เท่านั้นเองครับ ทรพี ก็เลย ถูก พาลี ฆ่าตาย

ที่มาเล่ามาทั้งหมดนี้ เห็นทีเป็นเพราะ อึดอัด-คับข้องก็ท่าทีของ สื่อใหญ่ ที่ให้สัมภาษณ์

ในรายการหนึ่งทางช่อง TNN. ที่ คุณโจโฉฯ ท่านแนะนำให้ดู...ดูแล้วก็ต้องรีบปิด

ปิดเพราะเมื่อ สื่อใหญ่ เช่น คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา เธอถูกถามว่า...เก่งเพราะอะไร-ดังเพราะอะไร

เธอ ตอบประมาณว่า เก่งเพราะตัวฉันเอง-ดังเพราะตัวฉันเอง.....เฮ้อ คุณสรยุทธฯ ครับ

ดูเหมือนว่า คุณฯจะลืมไปหรือเปล่าว่าที่เก่งได้ดังได้เพราะคุณฯได้รับโอกาส -ได้รับโอกาสจาก

คนที่ชื่อ สุทธิชัย หยุ่น จำได้ไหมครับ? จะมีสักกี่คนที่ได้รับโอกาสเหมือนอย่างที่คุณฯเคยได้รับโอกาสมา

กตัญญู นั้นคือความยิ่งใหญ่ในหัวใจของมนุษย์ กตัญญู นั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องตอบแทน

แต่เป็นสิ่งที่ มนุษย์ เราต้องรู้สำนึก รู้ สำนึก ด้วยความเป็น มนุษย์ เท่านั้นเองครับ

กตัญญู ไม่ใช่การตอบแทน ไม่เช่นนั้นแล้วมันจะต่างอะไรกับ การทวงบุญ-ทวงคุณ

หรือการสร้างบุญคุณเพื่อหวังสิ่งตอบแทน เหมือนดังที่ ช่อง ๓ โดนเผา

เพราะมีคนบอกว่า ช่อง ๓ และ คุณฯ เนรคุณกู-กูเลยเผา กตัญญู ไม่ใช่การตอบแทนเยี่ยงนั้นครับ

และที่สำคัญ คุณฯ รู้จัก กตัญญู ต่อแผ่นดินนี้บ้างหรือไม่? แผ่นดินนี้ที่ได้ให้โอกาสทุกสิ่งทุกอย่างกับ คุณฯ

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๘.๔๘ นาฬิกา

[a.mtvv]

ขอบคุณมากครับ
อ่านแล้วสรุปได้ลุ่มลึกมาก

นายสอนี่ มันไม่สำนึกตั้งแต่ออกจากเนชั่นแล้ว
ไม่ว่าจะออกด้วยอะไร

บุญคุณก็คือบุญคุณ

[odyssey]

เข้าใจความทรพี ของ สอ.. เอ้ยควายทรพีได้ชัดเจนดีคับ

[pooyong]

สอพลอระยุด มีคุณสมบัติครบถ้วน
สามารถเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้เลย
ขนาดถูกเปิดโปงแบบนี้แล้ว ยังด้านอยู่
คนโบราณว่า ถูกจับได้ ค่หนังคาเขา เลย นะนั่น

[คนชายแดน]

ขออนุญาตคุณตะนิ่นฯ เสริมด้วยกลอนของสุนทรภู่ ตอนที่พระอภัยมณีสอนสินสมุทรเมื่ออยู่บนเรือของอุศเรน

แล้วตรัสบอก ลูกน้อย กลอยสวาท... เจ้าหน่อเนื้อ เชื้อชาติ ดังราชสีห์
อันรักษา ศีลสัตย์ กัตเวที... ย่อมเป็นที่ สรรเสริญ เจริญคน
ทรลักษณ์ อกตัญ ญุตาเขา... เทพเจ้า ก็จะแช่ง ทุกแห่งหน
ให้ทุกข์ร้อน งอนหง่อ ทรพล... พระเวทมนตร์ เสื่อมคลาย ทำลายยศ

แต่คงยากที่คนลืมตัวอย่างนั้น จะเข้าใจ


แก้ไข พิมพ์ผิด

Edited by คนชายแดน, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 19:22.

[baezae]

ตัวพาลีเอง ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของบทเรียนที่ว่า ความยะโสโอหังในความสามารถตน มันทำให้เลินเล่อ ขาดไปซึ่งความระมัดระวังได้อีกอันหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้พาลีสิ้นชีพเอง

ท้าวความถึงว่า พาลีได้รับพรมาจากพระอิศวรว่า ถ้าสู้กับใคร ให้คนที่สู้ด้วยกำลังลดลงครึ่งหนึ่ง แล้วกำลังนั้นมาเพิ่มให้กับพาลี ทำให้ไม่ว่าสู้กับใครก็ตาม พาลีก็ได้เปรียบเสมอ

ตอนที่สู้กับสุครีพก็เช่นกัน มั่นใจว่ายังไง ๆ น้องก็สู้ตนไม่ได้ โดยลืมนึกไปว่า กับคนที่ไม่ได้สู้กับตนโดยตรงพรนั้นจะไม่มีผล เลยโดนศรพระรามตายเสีย

จริงก็อีหรอบเดียวกันกับทศกัณฐ์แฮะ

[G-GEAR53]

คุณตะนิน..สรุปได้เห็นภาพ..จอมอหังการเนรคุณคนได้เป็นอย่างดีเลย...
ไอ้สรยวยหัวมังคุด.

[ทองเปลว]

จอมเนรคุณกำลังปฏิบัติการทวงบุญคุณจากชาวบ้าน

[หนูอ้อย]

กนก ก็คนข่าวเหมือนกัน
ยุคเดียวกัน
แต่คุณค่าความเป็นคน
ที่สำนึกต่อแผ่นดิน .. ไม่เหมือนกัน

ทบทวนที่มาของสรยุทธ หรือ "ไอ้เผือก" ที่สรยุทธอาจลืมไปแล้ว
สรยุทธ สุทัศนะจินดาเขาเกิดในสถานการณ์ยังงี้ คือตอนนั้นหยุ่นไปได้สัมปทาน ITV แล้วออกหนังสือพิมพ์หัวสีคมชัดลึกมาแข่งไทยรัฐ เดลินิวส์ หยุ่นอยากจะโฆษณาแฝง ก็ไปมีรายการคมชัดลึกทาง ITV แรกๆหยุ่นก็ทำเอง แต่มันเป็นนายทุนมัวออกทีวีไม่ไหว เพราะเดี๋ยวต้องนัดป๋า นัดทหาร ตำรวจ นักการเมืองพ่อค้า เพื่อกินข้าวเย็น business talk ก็เลยบอก เฮ้ย!ไอ้เผือก(ชื่อเล่นสรยุทธ) เอ็งมาทำทีวีคู่พี่หน่อยวะ

ไอ้เผือกก็ไปไม่ค่อยเป็นตอนแรก ตื่นกล้องก็ตื่นกล้อง หน้าตาแ ม่ งก็ออกตี๋ๆ หยุ่นก็บอกเอางี้ให้ช่างแต่งหน้าทำผมเอ็งนี่ หวีเรียบแปล้ขึ้นไปข้างบน น้ำมันชโลมหน่อย เอ็งก็ออกมาดูแก่แล้ว แว่นก็หาหนาๆหน่อย ดูแล้วแ ม่ งมีภูมิ

ไอ้เผือกก็เลยมี look อย่างที่ว่า แต่ก็เงอะๆงะๆตื่นกล้อง แล้วก็ต้องเดินแนวทางกับหยุ่นคือทำสีหน้าท่าทางมือไม้ให้แ ม่ งดูเครียด คนดูก็ดูไปจะหงิกแ ด กตามมันไป...หยุ่นก็บอกไอ้เผือกท่าจะไม่รอดแล้วเว้ย คนดูบอกดูมรึงแล้วไม่บันเทิง รายการทีวีที่ดีมันต้องบันเทิง ต้องลดความเครียดลงหน่อยซิวะ

ไอ้เผือกก็ไปไม่ค่อยเป็น ก็กูเห็นพี่หยุ่นออกแนวเครียดๆ"นะกรั๊บๆ พูดมาฟันธงให้ชัดๆเลยกรั๊บ"กรุก็เอาอย่างมั่ง ทำไมคนดูชอบพี่หยุ่น มาดูกรุเสือกบ่นเครียด...สรุปคือตอนแรกไอ้เผือกก็ไม่ได้แจ้งเกิดเปรี้ยงปร้างนะ คือมันก็พยายามจะเป็นสุทธิชัยหยุ่นหมายเลข 2 แล้วใครมันจะไปก๊อป ป ี ้ใครได้

หยุ่นเลยแก้ปัญหาให้ว่า เอางี้ลดโทนจากเครียดๆวิเคราะห์การเมืองแบบฮาร์ดคอร์นี่ลงมาให้มันดูบันเทิงให้entertainคนดูหน่อย เอาเป็นแบบnews talkแล้วกัน หยิบข่าวมาพูดแล้วแสดงความเห็นหยอดมุกอะไรเข้าไป..ไอ้เผือกบอกพี่ผมเล่นไม่เป็น เอาไงดี

หยุ่นก็เลยไปลากเอากนกนี่มาเป็นตัวชงมุกให้ไอ้เผือกเป็นคนตบ ไอ้หนกชง ไอ้เผือกตบหน้าเน็ต...คนดูก็ชอบเพราะมันแปลกใหม่ อันนี้คือรายการเก็บตกจากเนชั่น แต่มาแจ้งเกิดนี่ทางNation channelคือTTVของลุงไกรวัฒน์นะ คนดูก็จำกัดเขตกรุงเทพฯปริมณฑล ..

[กีรเต้]

12 บรรทัดสุดท้ายสรุปได้ตรงประเด็นมากครับ
ช่วงนี้กำลังดู RASHOMON ปี 1950 Toshiro Mifune นำ เป็นหนังขาว-ดำ ค่อยดูไปครับ ใช้อ่านภาษาอังกฤษเอา ชอบมาก

[raffy]

แหม....คุณทรพีคนนี้มันเหมาะกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่จริงๆ
ไปไหม...ไปนะ...ไปเหอะ...ไปดิ
ไม่ต้องเล่นตัวหรอกคุณสมบัติครบถ้วน
ไหนๆการเมืองมันเล่นแล้วก็เล่นการเมืองมันเลย

[DETECT2]

ทำคะแนนไว้เยอะตอนน้ำท่วมใหญ่ ก็เลยมั่นใจครับว่ามวลชนสนับสนุน แต่ชีวิตมันไปง่ายแบบนั้นหรอก ไม่ใช่ว่าผมหมั่นไส้ ผมเองก็เคยชื่นชอบการทำงานของ ส. แต่จะชอบมากยิ่งขึ้น ถ้าทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี กล้าที่จะเปิดเผย กล้าที่จะทำให้ข้อเท็จจริงกระจ่าง ตอนนี้ผมได้แค่ถาม ส. กลับไปว่า กล้าหรือเปล่า ถ้าไม่กล้า ก็อยู่เฉยๆ แบบนั้นแหละครับ

Edited by DETECT2, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 14:31.

[อู๋ ฮานามิ]

จขกท เปรียบเทียบได้เจ็บดี เก่งเพราะตัวกูเอง.................................

[paj044]

วัดรอยเท้าแม้วมาก้าวต่อก้าวเลย
แม้วซุกหุ้น ยุดก็ซุกค่าโฆษณา
ล้วนแต่โกงโดยสุจริตทั้งนั้น
เห็นแก่ความสามารถ อันหาผู้ใดแทนไม่ได้
ขอร้องให้ประชาชนเห็นใจยกโทษให้
ไม่งั้นน้ำท่วมคราวหน้า ยุดไม่ช่วยนะ

Edited by paj044, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:52.

[ตะนิ่นตาญี]

ตะนิ่นตาญี ได้รับการแจ้งจาก ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งใน เสรีไทย ให้ช่วยแก้ไข

ข้อความที่มาที่ไปของ ทรพี ซึ่ง ตะนิ่นตาญี ได้เขียนไว้ว่า

"พ่อของ ทรพี ชื่อ ทรพา แต่ก่อนนั้นสัญชาติของ ทรพา ไม่ใช่ ควาย นะครับ

หากมีสัญชาติดั้งเดิมเป็น ยักษ์ ทำหน้าที่เฝ้าประตู เหมือน ยักษ์วัดแจ้ง กับ ยักษ์วัดโพธิ์ นั่นประไร"

ผู้ใหญ่ท่านนั้น ท่านได้แจ้งมาว่า “เราใช้พญายักษ์เฝ้าประตูทั้งนั้น ของวัดแจ้งคือทศกรรฐ์ และ สหัสเดชะ

ไม่ใช่พวกยักษ์ชั้นต่ำเลย อยากให้แก้ เดี๋ยวคนจะจำไปผิดๆ ครับ”

ซึ่ง ตะนิ่นตาญี ก็ได้เรียน ขอโทษ ท่านไปแล้ว ที่เขียนหนังสือ ห้วนห้วน-สั้นสั้น

จนอาจทำความเข้าใจผิดแก่เพื่อนเพื่อนได้ ตะนิ่นตาญี เรียนท่านไปว่า

“ขอบพระคุณ คุณ..... มากครับ

ต้องขออภัย คุณ..... ที่เขียนหนังสือ ห้วน และ สั้น มากเกินไป

ทรพี นั้นดั้งเดิมเป็น พญายักษ์ จริงจริง อย่างที่ คุณ..... เล่าให้ฟัง

ชื่อ นนทกาลอสูร หรืออย่างไรนี่แหละครับ ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เป็น เจ้าแห่งยักษ์ เช่นเดียวกับ

ทศกรรฐ์ และ สหัสะเดช นี่แหละครับ

ขอบพระคุณ คุณ..... ที่กรุณา ต่อ ตะนิ่นตาญี มาก

ขอบพระคุณ จริงจริง ครับ

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๑.๑๕ นาฬิกา

ดังนั้น ตะนิ่นตาญี จึงใคร่ขออภัยเพื่อนเพื่อนทุกท่านอีกครั้งหนึ่งที่

เขียนหนังสือ ห้วน-สั้น เกินไป ไม่ได้อธิบายใจความให้กระจ่างชัด

อันอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับ เพื่อนเพื่อน-พี่พี่-น้องน้อง ที่ เสรีไทย นี้ได้

ขออภัยจริงจริงครับ และขออนุญาตทำความเข้าใจกับเพื่อนเพื่อน ถึง ที่มา-ที่ไป

ของ ทรพี ดังที่ ผู้ใหญ่ ท่านนั้นได้แจ้งมา และ ตะนิ่นตาญี ได้เพิ่มเติมไว้แล้วแต่เบื้องต้น

ขออภัยเพื่อนเพื่อนทุกท่านด้วยครับ และขอขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ท่านนั้นที่ได้ กรุณา ต่อ ตะนิ่นตาญี ตลอดมา

ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๑.๕๙ นาฬิกา

[baezae]

แม้แต่ละตนจะเป็นพญายักษ์ แต่ก็ล้วนแล้วแต่ต้องเดือดร้อนจนถึงแก่ชีวิตด้วยผลแห่งความทะนง โอหัง และ ลืมตนทั้งสิ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นอดีตเทวะยักษา อย่างทรพา (นนทกาล) หรือ ทศกัณฐ์ (นนทุก)

กระทั่งมีฤทธามหาศาลอย่างสหัสเดชะ ผู้มีพันเศียร ๒ พันกร ก็สิ้นชีพด้วยความชะล่าใจ และประมาท

จึงสอนให้รู้ได้ว่า ไม่ว่าจะเก่งกาจมาจากไหน หากมีความเย่อหยิ่งเป็นเจ้าเรือนแล้ว ย่อมไม่พ้นทางวิบัติแน่นอนครับ

Edited by baezae, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:12.

[ปุถุชน]

รายการ"คมชัดลึก"ของ"สุทธิชัย หยุ่น" นั้นมุ่งเน้นทางการเมืองและ talk of the town กล้าจี้ใจดำ รุกฆาตคนร่วมรายการ ส่วนใหญ่ไม่ให้ถึงตาย มักจะเปิดโอกาสให้กรรเชียงหนี ยกเว้นบางคนหนีไม่เป็น เช่น "เติ้ง เสี่ยวหาน" เป็นต้น....

หลังจาก"สุทธิชัย หยุ่น"จัดรายการทีวีแล้ว"มือขึ้น"อย่างหืดขึ้นคอ ไม่มีเวลาเหมือนเดิม จึงต้องหาตัวแทนจัดรายการแทน
เริ่มต้นให้"สรยุทธ์"จัดรายการวันเบาๆก่อนเป็นบางวันให้ผู้ชมรายการผ่อนคลายหาย"ซาดิสต์"กับการจัดรายการของ"สุทธิช้ย หยุ่น"....!

ระยะแรกไม่ให้เป็นผู้ดำเนินรายการประเด็นการเมือง การคอร์รับชั่น เว้นแต่เรื่องปากท้องของประชาชนและธุรกิจ

มีรายการเกี่ยวกับการขยายตัวของ"ค้าปลีกต่างชาติ"ในประเทศไทย มีผู้ร่วมรายการเป็นรมช.พาณิชย์"บรรลัยเสถียร"กับเจ้าของค้าปลีกแหลมฉะบัง-ศรีราชาและกรุงเทพมหานคร เขาพยายามป้อนคำถาม ด้วยข้อกล่าวหาของผุ้ค้าปลีกเพื่อให้ รมช.พาณิชย์ตอบให้ได้.....

วันต่อมามีข่าววิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาร่วมกับผุ้ค้าปลีกทำลายความเชื่อถือและชื่อเสียงของนักการเมืองที่ได้รับความนิยมจากการแนะนำลูกหนี้ "ไม่หนี ไม่เบี้ยวแต่ไม่จ่าย" เป็นที่สนใจอยากให้ออกรายการซ้ำอีกครั้งหนึ่ง....

"สุทธิชัย หยุ่น" จึงให้เจ้าหน้าที่ของสถานีติดต่อขอจัดรายการซ้ำอีก โดยจะเป็นผู้ดำเนินรายการ"คม ชัด ลึก"แทน"สรยุทธ์" รมช.พาณิชย์ยินดีเข้าร่วมรายแต่ต้องไม่มีผู้ร่วมรายการที่เป็นผู้ค้าปลีกในกรุงเทพมหานคร....!
รายการนี้จึงไม่ได้จัดเป็นครั้งที่สอง สมกับ"เรตติ้ง"ที่สถานีได้รับจากประชาชนต้องการจัดซ้ำ....

เพราะ"สุทธิชัย หยุ่น"ต้องการให้ผุ้บริหารค้าปลีกรายที่อยู่ในกรุงเทพมหานครร่วมรายการ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


การจัดรายการระยะแรก พยายามเลียนแบบ"สุทธิชัย หยุ่น"ทุกอย่างแม้แต่การตั้งคำถาม การรุกฆาตอย่างดุดัน แต่ด้วยบารมีและฝีมือยังไม่ถึง บางครั้งจึงดูดึงดันและไม่สุภาพ....!

Edited by ปุถุชน, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:16.

[G-GEAR53]

ตะนิ่นตาญี ได้รับการแจ้งจาก ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งใน เสรีไทย ให้ช่วยแก้ไข

ข้อความที่มาที่ไปของ ทรพี ซึ่ง ตะนิ่นตาญี ได้เขียนไว้ว่า

"พ่อของ ทรพี ชื่อ ทรพา แต่ก่อนนั้นสัญชาติของ ทรพา ไม่ใช่ ควาย นะครับ

หากมีสัญชาติดั้งเดิมเป็น ยักษ์ ทำหน้าที่เฝ้าประตู เหมือน ยักษ์วัดแจ้ง กับ ยักษ์วัดโพธิ์ นั่นประไร"

ผู้ใหญ่ท่านนั้น ท่านได้แจ้งมาว่า “เราใช้พญายักษ์เฝ้าประตูทั้งนั้น ของวัดแจ้งคือทศกรรฐ์ และ สหัสเดชะ

ไม่ใช่พวกยักษ์ชั้นต่ำเลย อยากให้แก้ เดี๋ยวคนจะจำไปผิดๆ ครับ”

ซึ่ง ตะนิ่นตาญี ก็ได้เรียน ขอโทษ ท่านไปแล้ว ที่เขียนหนังสือ ห้วนห้วน-สั้นสั้น

จนอาจทำความเข้าใจผิดแก่เพื่อนเพื่อนได้ ตะนิ่นตาญี เรียนท่านไปว่า

“ขอบพระคุณ คุณ..... มากครับ

ต้องขออภัย คุณ..... ที่เขียนหนังสือ ห้วน และ สั้น มากเกินไป

ทรพี นั้นดั้งเดิมเป็น พญายักษ์ จริงจริง อย่างที่ คุณ..... เล่าให้ฟัง

ชื่อ นนทกาลอสูร หรืออย่างไรนี่แหละครับ ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เป็น เจ้าแห่งยักษ์ เช่นเดียวกับ

ทศกรรฐ์ และ สหัสะเดช นี่แหละครับ

ขอบพระคุณ คุณ..... ที่กรุณา ต่อ ตะนิ่นตาญี มาก

ขอบพระคุณ จริงจริง ครับ

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๑.๑๕ นาฬิกา

ดังนั้น ตะนิ่นตาญี จึงใคร่ขออภัยเพื่อนเพื่อนทุกท่านอีกครั้งหนึ่งที่

เขียนหนังสือ ห้วน-สั้น เกินไป ไม่ได้อธิบายใจความให้กระจ่างชัด

อันอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับ เพื่อนเพื่อน-พี่พี่-น้องน้อง ที่ เสรีไทย นี้ได้

ขออภัยจริงจริงครับ และขออนุญาตทำความเข้าใจกับเพื่อนเพื่อน ถึง ที่มา-ที่ไป

ของ ทรพี ดังที่ ผู้ใหญ่ ท่านนั้นได้แจ้งมา และ ตะนิ่นตาญี ได้เพิ่มเติมไว้แล้วแต่เบื้องต้น

ขออภัยเพื่อนเพื่อนทุกท่านด้วยครับ และขอขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ท่านนั้นที่ได้ กรุณา ต่อ ตะนิ่นตาญี ตลอดมา

ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๑.๕๙ นาฬิกา

ผมเองเด็กวัดแจ้ง(วัดอรุณฯ) แท้ๆ ยังลืมชื่อยักษ์ 2 ตนนั้นเลย
อันนี้อาจจะนอกเรื่อง...แต่ขอขอบพระคุณ คุณตะนินฯ เป็นอย่างยิ่ง..
ที่ได้นำเกร็ดความรู้ให้แก่ชนรุ่นหลัง..จะได้ไม่ลืม..แม้จะเล็กน้อยก็ตาม..

[พระฤๅษี]

คุณตะนิ่นตาญี ครับ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

( เทวดา ตั้ง ๔ ตน ยังโง่กว่า ควาย ) ยอม-

เลี้ยงลูกให้..ควาย...กว่าจะรู้สึกตัวก็ถูก..ควาย..

มันด่าซ๊ะยับเลย ...สมหน้า ...

[DarkSwan]

ขออภัยคุณตะนิ่นตาญีครับ
เท่าที่ผมจำไม่ผิด เทวดาที่สถิตย์อยู่ในถ้ำที่มาอยู่รักษาในกายทรพีนั้น น่าจะมี 6 องค์ไม่ใช่เหรอครับ

ผมจำท่อนเต็มไม่ได้ แต่ตรงในในบทกวีเค้าบอกไว้ว่า
"สองเขา บาทาทั้งสี่"
น่าจะรวมกันได้ 6 นะครับ


ถ้าจำผิดยังไงก็ขออภัยด้วยครับ อ่านมานานแล้ว

Edited by ดาร์ค สวอน, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 15:18.

[โจโฉ นายกตลอดกาล]

ผมเคยได้ยินกับหูว่า สรยุทธ ตอนออกจากเนชั่นใหม่ๆ

ถึงขนาดขับรถผิดจนเกือบถึงเนชั่นก็มี อันนี้ไม่รู้จากใจจริง หรือ ดราม่า

และไม่ใช่แค่ สุทธิชัย หยุ่น ที่ให้โอกาสสรยุทธ ยังมีอีกสองคน

ที่สรยุทธต้องตอบแทนให้ได้

1. ทักษิณ ชินวัตร

2. มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์

ไม่อยากขยายความมาก เอาเป็นว่า "รวย" มาได้เพราะสองคนนี้เกื้อหนุนทั้งทางตรง

และอ้อม มีที่ไหนพิธีกรรายการเล่าข่าวช่องสนธยามีอำนาจเรียกใช้ "รถโอบี"

ซึ่งเป็นอำนาจของผอ.ช่องเท่านั้น นี่คือหนึ่งในตัวอย่าง

ปล. ที่ผมแนะนำให้ดู ก็นึกว่าเจ๊เป็ดแกจะเจาะกึ๋น นายสรยุทธได้สมราคาคุย แต่เปล่าเลย

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ดังนั้น ตะนิ่นตาญี จึงใคร่ขออภัยเพื่อนเพื่อนทุกท่านอีกครั้งหนึ่งที่

เขียนหนังสือ ห้วน-สั้น เกินไป ไม่ได้อธิบายใจความให้กระจ่างชัด

อันอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับ เพื่อนเพื่อน-พี่พี่-น้องน้อง ที่ เสรีไทย นี้ได้

ขออภัยจริงจริงครับ และขออนุญาตทำความเข้าใจกับเพื่อนเพื่อน ถึง ที่มา-ที่ไป

ของ ทรพี ดังที่ ผู้ใหญ่ ท่านนั้นได้แจ้งมา และ ตะนิ่นตาญี ได้เพิ่มเติมไว้แล้วแต่เบื้องต้น

ขออภัยเพื่อนเพื่อนทุกท่านด้วยครับ และขอขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ท่านนั้นที่ได้ กรุณา ต่อ ตะนิ่นตาญี ตลอดมา

ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๑.๕๙ นาฬิกา

อาจดูเหมือนไม่เกี่ยวกับกระทู้
แต่ผมอยากขอบคุณท่านตะนิ่นฯมากๆ ที่ "สอน" บทเรียนที่มีค่ามากแก่ผม
ทั้งที่ท่านไม่ได้สอนโดยตรง
คือบทเรียนของความอ่อนโยนและอ่อนน้อมครับ

ผมเชื่อว่าสมาชิกในเสรีไทยจำนวนมากเห็นความสุภาพอ่อนโยนตลอดมาของท่านตะนิ่นฯ
และหลายคนก็ชื่นชมท่านตะนิ่นฯ โดยไม่จำเป็นต้องเคยเห็นหน้าค่าตา หรือรู้จักชื่อเสียงตัวตนจริงแม้แต่น้อย
พวกเขาชื่นชอบท่านตะนิ่นฯ ก็เพราะความ "อ่อนโยนและอ่อนน้อม" ของท่านนี่เองครับ

ผมเป็นพวกโทสะจริตสูง และก้าวร้าว มันเป็นจริตเดิมที่ติดตัวมา และผมก็พยายามแก้ไขขัดเกลาอยู่
เพราะรู้ดีว่าอัตตาที่สูงลิ่ว อารมณ์ที่ก้าวร้าว กับความเจ้าโทสะ มันไม่ใช่แค่ทำร้ายคนอื่น แต่มันทำร้ายตัวผมเองด้วย
ผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากมักบอกผมว่า ความอ่อนโยนนี่แหละ แข็งแกร่งกว่าความแข็งกร้าวอีก
แต่ผมก็ทำได้บ้าง ทำไม่ไ่ด้บ้าง เวลาโดนจี้ต่อมอัตตานี่...จี๊ดขึ้นทุกที

จนผมได้มาอ่านข้อความของท่านตะนิ่นฯที่ผมโคว้ตมานี่แหละครับ
ถึงได้เข้าใจว่า...ธรรมชาติของความอ่อนโยนนุ่มนวล ไร้อัตตา มันให้ความรู้สึกแบบนี้เอง


และที่สำคัญ ท่านตะนิ่นฯไม่ได้"สั่งสอน"ใครเลยให้เอาตาม ท่านทำของท่านเองแบบนี้ สม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง

ผมเชื่อว่าท่านตะนิ่นฯคงมีอายุเยอะกว่าผมมาก จึงถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง
ผมจึงขอกราบขอบพระคุณท่าน ที่ได้ช่วยสอนให้ผมเข้าใจบทเรียนของความอ่อนน้อมและอ่อนโยน ในวันนี้นะครับ

ขอขอบพระคุณท่านจริงๆครับ

[กีรเต้]

ครับ เช่นกัน ด้วยข้อความของ ผึ้งน้อย
ซึ่งอาจไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อกระทู้นี้นัก
ผมตามอ่านกระทู้ต่างๆ ใน เสรีไทยมานาน ตั้งแต่ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นเวบบอร์ดปัจจบัน จนตัดสินใจสมัครเข้ามาเป็นสมาชิก
สิ่งที่ได้รับจาก เสรีไทย
- การถกเถียงกันด้วยหลักวิชาการ (เมื่อมีข้อสรุป ก็ ได้รับการยอมรับ)
- มิตรภาพที่มีต่อกัน แม้จะไม่เห็นหน้า ไม่รู้จักตัวตน
- การตักเตือนกันด้วยจิตเมตตา และให้สติกัน เมื่อมีการพลั้งเผลอ และพลั้งพลาด
- ความไม่ถืออัตตา ผู้ใหญ่เป็นผู้ใหญ่ ให้ความเอ็นดูผู้น้อย ผู้น้อยมีความเคารพผู้ใหญ่
- ความเมตตาให้อภัยซึ่งกันและกัน

และเช่นกัน

สำหรับ ท่านตะนิ่นตาญี ท่านมีทุกอย่างที่ควรเคารพ

ด้วยจิตคารวะ

Edited by Sujinno, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 18:09.

[kokkai]

ดังนั้น ตะนิ่นตาญี จึงใคร่ขออภัยเพื่อนเพื่อนทุกท่านอีกครั้งหนึ่งที่

เขียนหนังสือ ห้วน-สั้น เกินไป ไม่ได้อธิบายใจความให้กระจ่างชัด

อันอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับ เพื่อนเพื่อน-พี่พี่-น้องน้อง ที่ เสรีไทย นี้ได้

ขออภัยจริงจริงครับ และขออนุญาตทำความเข้าใจกับเพื่อนเพื่อน ถึง ที่มา-ที่ไป

ของ ทรพี ดังที่ ผู้ใหญ่ ท่านนั้นได้แจ้งมา และ ตะนิ่นตาญี ได้เพิ่มเติมไว้แล้วแต่เบื้องต้น

ขออภัยเพื่อนเพื่อนทุกท่านด้วยครับ และขอขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ท่านนั้นที่ได้ กรุณา ต่อ ตะนิ่นตาญี ตลอดมา

ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๑.๕๙ นาฬิกา

อาจดูเหมือนไม่เกี่ยวกับกระทู้
แต่ผมอยากขอบคุณท่านตะนิ่นฯมากๆ ที่ "สอน" บทเรียนที่มีค่ามากแก่ผม
ทั้งที่ท่านไม่ได้สอนโดยตรง
คือบทเรียนของความอ่อนโยนและอ่อนน้อมครับ

ผมเชื่อว่าสมาชิกในเสรีไทยจำนวนมากเห็นความสุภาพอ่อนโยนตลอดมาของท่านตะนิ่นฯ
และหลายคนก็ชื่นชมท่านตะนิ่นฯ โดยไม่จำเป็นต้องเคยเห็นหน้าค่าตา หรือรู้จักชื่อเสียงตัวตนจริงแม้แต่น้อย
พวกเขาชื่นชอบท่านตะนิ่นฯ ก็เพราะความ "อ่อนโยนและอ่อนน้อม" ของท่านนี่เองครับ

ผมเป็นพวกโทสะจริตสูง และก้าวร้าว มันเป็นจริตเดิมที่ติดตัวมา และผมก็พยายามแก้ไขขัดเกลาอยู่
เพราะรู้ดีว่าอัตตาที่สูงลิ่ว อารมณ์ที่ก้าวร้าว กับความเจ้าโทสะ มันไม่ใช่แค่ทำร้ายคนอื่น แต่มันทำร้ายตัวผมเองด้วย
ผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากมักบอกผมว่า ความอ่อนโยนนี่แหละ แข็งแกร่งกว่าความแข็งกร้าวอีก
แต่ผมก็ทำได้บ้าง ทำไม่ไ่ด้บ้าง เวลาโดนจี้ต่อมอัตตานี่...จี๊ดขึ้นทุกที

จนผมได้มาอ่านข้อความของท่านตะนิ่นฯที่ผมโคว้ตมานี่แหละครับ
ถึงได้เข้าใจว่า...ธรรมชาติของความอ่อนโยนนุ่มนวล ไร้อัตตา มันให้ความรู้สึกแบบนี้เอง


และที่สำคัญ ท่านตะนิ่นฯไม่ได้"สั่งสอน"ใครเลยให้เอาตาม ท่านทำของท่านเองแบบนี้ สม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง

ผมเชื่อว่าท่านตะนิ่นฯคงมีอายุเยอะกว่าผมมาก จึงถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง
ผมจึงขอกราบขอบพระคุณท่าน ที่ได้ช่วยสอนให้ผมเข้าใจบทเรียนของความอ่อนน้อมและอ่อนโยน ในวันนี้นะครับ

ขอขอบพระคุณท่านจริงๆครับ

หุบเขาแกรนแคนยอน เดิมเป็นเนินหินแข็งและสูงนะครับ

เจอกับน้ำที่นิ่มนวลธรรมดานี่แหละ บัดนี้กลายเป็นร่องทั้งลึกทั้งกว้าง

ใหญ่ขนาดมองเห็นจากนอกโลก ไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ

Edited by kokkai, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 19:06.

[ตะนิ่นตาญี]

ขออภัยคุณตะนิ่นตาญีครับ
เท่าที่ผมจำไม่ผิด เทวดาที่สถิตย์อยู่ในถ้ำที่มาอยู่รักษาในกายทรพีนั้น น่าจะมี 6 องค์ไม่ใช่เหรอครับ

ผมจำท่อนเต็มไม่ได้ แต่ตรงในในบทกวีเค้าบอกไว้ว่า
"สองเขา บาทาทั้งสี่"
น่าจะรวมกันได้ 6 นะครับ


ถ้าจำผิดยังไงก็ขออภัยด้วยครับ อ่านมานานแล้ว

แหะแหะแหะ...ถูกของ คุณ ดาร์ดสวอน ครับ เทวดา ๖ องค์ จริงจริงด้วยครับ

ต้องขออภัย และขอบพระคุณ คุณ ดาร์ดสวอน มากครับที่ช่วยตักเตือน ตะนิ่นตาญี คนนิสัยไม่ดี

เวลาเขียนหนังสือแล้วมันสนุกเหลือใจ ก็มักจะจ้ำพรวดพรวดออกไป ไม่ได้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน

ขอบพระคุณ คุณ ดาร์คสวอน มากครับ ขออนุญาตเพื่อนเพื่อนทุกคน ยืนยันตามที่ คุณ ดาร์คสวอน กรุณาแจ้งมา

ซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เทวดาที่อารักษ์ ทรพี นั้นมี ๖ องค์ครับ ขอบพระคุณ คุณ ดาร์คสวอน อีกครั้งหนึ่งครับที่กรุณา

ตะนิ่นตาญี

ผมเคยได้ยินกับหูว่า สรยุทธ ตอนออกจากเนชั่นใหม่ๆ

ถึงขนาดขับรถผิดจนเกือบถึงเนชั่นก็มี อันนี้ไม่รู้จากใจจริง หรือ ดราม่า

และไม่ใช่แค่ สุทธิชัย หยุ่น ที่ให้โอกาสสรยุทธ ยังมีอีกสองคน

ที่สรยุทธต้องตอบแทนให้ได้

1. ทักษิณ ชินวัตร

2. มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์

ไม่อยากขยายความมาก เอาเป็นว่า "รวย" มาได้เพราะสองคนนี้เกื้อหนุนทั้งทางตรง

และอ้อม มีที่ไหนพิธีกรรายการเล่าข่าวช่องสนธยามีอำนาจเรียกใช้ "รถโอบี"

ซึ่งเป็นอำนาจของผอ.ช่องเท่านั้น นี่คือหนึ่งในตัวอย่าง

ปล. ที่ผมแนะนำให้ดู ก็นึกว่าเจ๊เป็ดแกจะเจาะกึ๋น นายสรยุทธได้สมราคาคุย แต่เปล่าเลย

ขอบพระคุณ คุณ โจโฉฯ มากครับ ที่กรุณา

คุณโจโฉฯ ว่าไหมครับ คุณสรยุทธฯ เธอลืม กตัญญู ต่อ แผ่นดินนี้

แผ่นดิน ที่ให้เขาเกิด แผ่นดิน ที่ให้ที่อยู่อาศัย-ให้ที่ยืนหยัด แก่ เขา

แผ่นดิน นี้ที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง แผ่นดินนี้ ที่เรียกว่า เมืองไทย.....

ตะนิ่นตาญี ก็ได้แต่ภาวนาให้ วันหนึ่ง เมื่อ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ลืมตาตื่นขึ้นมา

เธอจะสำนึก กตัญญู ต่อแผ่นดินนี้บ้าง

ตะนิ่นตาญี

Edited by ตะนิ่นตาญี, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 18:56.

[kokkai]

เฮ้อ...กระทู้นี้ มีแต่ผู้มีอาวุโสทั้งนั้น

สมาชิกเสรีไทยไม่มีเด็กๆบ้างหรือไง

[อาวุโสโอเค]

อ่านความเห็นคุณตะนินตาญีนอกจากรู้สึกอบอุ่นใจแล้ว

ผมจะได้แง่คิดดี ๆ เสมอครับ อ่านง่าย เข้าใจง่าย ขอบคุณมากครับ

[กีรเต้]

เฮ้อ...กระทู้นี้ มีแต่ผู้มีอาวุโสทั้งนั้น

สมาชิกเสรีไทยไม่มีเด็กๆบ้างหรือไง

ผมไง ซิกซ์ตี้ (ยุคของเพลงนะ)

[RaRa]

ผมอ่านบทความและการแสดงความคิดเห็นของท่านตะนิ่นตาญีมาโดยตลอด

มักจะเห็นคำพูดและการเขียนที่ออกแนวสุภาพเรียบร้อยอ่อนโยน แลดูเป็นผู้ใหญ่

แต่วันนี้เป็นบทความแรกเลยนะครับที่ผมได้เห็น "ภาษาวัยรุ่นร่วมสมัย"

จากงานเขียนท่านตะนิ่นตาญี..............ก็เลยนึกอยากนำมาแซวเล่นๆ

และอยากบอกกล่าวว่า "น่ารักไปอีกแบบนึงครับ"......ด้วยความเคารพ

[Tatiana]

อ่านแล้วอยากเห็นคุณตะนิ่นตาญีจัง คงเป็นผู้ใหญ่ใจดี ช่างเปรียบเทียบกับวรรณคดีที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็กๆ(ซึ่งเราหลายคนลืมไปหมดแล้ว) คำว่าทรพี เราก็รู้กันว่าหมายถึงอกตัญญู แต่ไม่ได้นึกถึงเจ้าควายทรพีในรามเกียรติ์เลย ขอบคุณจริงๆค่ะ

สรยุทธิ์ สุทัศนะจินดา เจ้าทรพีควายแดง คนแบบนี้มีเยอะมากที่บรรพบุรุษมาอาศัยแผ่นดินไทย ออกลูกเกิดหลาน อยู่กินอย่างมีความสุข มีเงิน มีอำนาจ (มีโอกาสมากกว่าชาวไร่ชาวนา) แต่ไม่เคยคิดตอบแทนบุญคุณให้แผ่นดินไทย ดีแต่โกงกินเงินภาษีของพวกเรา วันดีคืนดีนึกอยากได้อำนาจก็เผาบ้านเผาเมือง ใช้อาวุธควานหาศพ พวกเราเรียกพวกมันว่า "เจ๊กกบฏ" อันนี้ไม่เกี่ยวกับคนจีนดีๆ นะคะ เพราะคนไทยเชื้อสายจีนที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและไม่เนรคุณแผ่นดินก็มีมาก เขาเหล่านั้นเราให้ความนับถือและถือว่าเป็นพี่น้องร่วมชาติไทย สรยุทธิ์อาจจะยังไม่ถึงขั้นเผาบ้านเผาเมืองก็จริง แต่ก็โกงกินไปแล้ว และปั่นหัวคนดูข่าวเพราะความไม่เป็นกลางของเขา ซึ่งถือว่าทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทยมากขึ้น คนแบบนี้ถ้ามีอำนาจขึ้นมาเมือไหร่ คงไม่ต่างจากตระกูลเหลี่ยมซักเท่าไร

[kon_thai]

ผมอ่านบทความและการแสดงความคิดเห็นของท่านตะนิ่นตาญีมาโดยตลอด

มักจะเห็นคำพูดและการเขียนที่ออกแนวสุภาพเรียบร้อยอ่อนโยน แลดูเป็นผู้ใหญ่

แต่วันนี้เป็นบทความแรกเลยนะครับที่ผมได้เห็น "ภาษาวัยรุ่นร่วมสมัย"

จากงานเขียนท่านตะนิ่นตาญี..............ก็เลยนึกอยากนำมาแซวเล่นๆ

และอยากบอกกล่าวว่า "น่ารักไปอีกแบบนึงครับ"......ด้วยความเคารพ

ผมก็อีกคนนึงที่แอบนิยมชมชอบในการตอบ.รวมถึงแนวคิดของท่านตะนิ่นตาญี.รวมถึงอีกหลายท่านในที่นี้.(ไม่ขอบอก)ที่ผมแอบชื่นชอบและชื่นชม.ในหลักการและแนวคิดที่ได้เตือนสติแล้วให้แง่คิดต่างๆที่มีคุณค่า.ผมเองก็เป็นแบบใจร้อน.ก็ได้พี่ๆเพื่อนๆน้องๆในนี้ให้สติเสมอๆ(ผมเพิ่งจะ50เอง ).ถึงผมจะเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกได้ไม่นาน(แต่ชอบแอบเข้ามาอ่านบ่อยๆ)จนบางครั้งผมคิดว่าถ้านักการเมืองได้แนวคิด.หรือมีอุดมคติเหมือนกับหลายท่านในที่นี้ผมว่าประเทศชาติเราจะไปได้ดีกว่านี้..เพราะในนี้.เรามีทั้งบู๊และบุ่น ครบ..ขอคารวะด้วยใจครับ .

[RaRa]

ผมอ่านบทความและการแสดงความคิดเห็นของท่านตะนิ่นตาญีมาโดยตลอด

มักจะเห็นคำพูดและการเขียนที่ออกแนวสุภาพเรียบร้อยอ่อนโยน แลดูเป็นผู้ใหญ่

แต่วันนี้เป็นบทความแรกเลยนะครับที่ผมได้เห็น "ภาษาวัยรุ่นร่วมสมัย"

จากงานเขียนท่านตะนิ่นตาญี..............ก็เลยนึกอยากนำมาแซวเล่นๆ

และอยากบอกกล่าวว่า "น่ารักไปอีกแบบนึงครับ"......ด้วยความเคารพ

ผมก็อีกคนนึงที่แอบนิยมชมชอบในการตอบ.รวมถึงแนวคิดของท่านตะนิ่นตาญี.รวมถึงอีกหลายท่านในที่นี้.(ไม่ขอบอก)ที่ผมแอบชื่นชอบและชื่นชม.ในหลักการและแนวคิดที่ได้เตือนสติแล้วให้แง่คิดต่างๆที่มีคุณค่า.ผมเองก็เป็นแบบใจร้อน.ก็ได้พี่ๆเพื่อนๆน้องๆในนี้ให้สติเสมอๆ(ผมเพิ่งจะ50เอง ).ถึงผมจะเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกได้ไม่นาน(แต่ชอบแอบเข้ามาอ่านบ่อยๆ)จนบางครั้งผมคิดว่าถ้านักการเมืองได้แนวคิด.หรือมีอุดมคติเหมือนกับหลายท่านในที่นี้ผมว่าประเทศชาติเราจะไปได้ดีกว่านี้..เพราะในนี้.เรามีทั้งบู๊และบุ่น ครบ..ขอคารวะด้วยใจครับ .

50 เอง!!!..........................ป๊าดดดดโทะ

[kon_thai]

ผมอ่านบทความและการแสดงความคิดเห็นของท่านตะนิ่นตาญีมาโดยตลอด

มักจะเห็นคำพูดและการเขียนที่ออกแนวสุภาพเรียบร้อยอ่อนโยน แลดูเป็นผู้ใหญ่

แต่วันนี้เป็นบทความแรกเลยนะครับที่ผมได้เห็น "ภาษาวัยรุ่นร่วมสมัย"

จากงานเขียนท่านตะนิ่นตาญี..............ก็เลยนึกอยากนำมาแซวเล่นๆ

และอยากบอกกล่าวว่า "น่ารักไปอีกแบบนึงครับ"......ด้วยความเคารพ

ผมก็อีกคนนึงที่แอบนิยมชมชอบในการตอบ.รวมถึงแนวคิดของท่านตะนิ่นตาญี.รวมถึงอีกหลายท่านในที่นี้.(ไม่ขอบอก)ที่ผมแอบชื่นชอบและชื่นชม.ในหลักการและแนวคิดที่ได้เตือนสติแล้วให้แง่คิดต่างๆที่มีคุณค่า.ผมเองก็เป็นแบบใจร้อน.ก็ได้พี่ๆเพื่อนๆน้องๆในนี้ให้สติเสมอๆ(ผมเพิ่งจะ50เอง ).ถึงผมจะเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกได้ไม่นาน(แต่ชอบแอบเข้ามาอ่านบ่อยๆ)จนบางครั้งผมคิดว่าถ้านักการเมืองได้แนวคิด.หรือมีอุดมคติเหมือนกับหลายท่านในที่นี้ผมว่าประเทศชาติเราจะไปได้ดีกว่านี้..เพราะในนี้.เรามีทั้งบู๊และบุ่น ครบ..ขอคารวะด้วยใจครับ .

50 เอง!!!..........................ป๊าดดดดโทะ

ยังเหลืออีกตั้งครึ่ง...

[baezae]

เฮ้อ...กระทู้นี้ มีแต่ผู้มีอาวุโสทั้งนั้น

สมาชิกเสรีไทยไม่มีเด็กๆบ้างหรือไง

ผมครับ ยังวัยรุ่น เอ๊าะๆ อยู่

[RaRa]

เฮ้อ...กระทู้นี้ มีแต่ผู้มีอาวุโสทั้งนั้น

สมาชิกเสรีไทยไม่มีเด็กๆบ้างหรือไง

ผมครับ ยังวัยรุ่น เอ๊าะๆ อยู่

วัยรุ่นเอ๊าะๆ!!!!...............ชิส์.. ถ้าผมทาย ไม่ผิด 48+

[baezae]

เฮ้อ...กระทู้นี้ มีแต่ผู้มีอาวุโสทั้งนั้น

สมาชิกเสรีไทยไม่มีเด็กๆบ้างหรือไง

ผมครับ ยังวัยรุ่น เอ๊าะๆ อยู่

วัยรุ่นเอ๊าะๆ!!!!...............ชิส์.. ถ้าผมทาย ไม่ผิด 48+

เลยไปเยอะเลยครับ เอาจริง ๆ

ปีนี้ยังไม่ ๓๕ เลยครับ

[RaRa]

เฮ้อ...กระทู้นี้ มีแต่ผู้มีอาวุโสทั้งนั้น

สมาชิกเสรีไทยไม่มีเด็กๆบ้างหรือไง

ผมครับ ยังวัยรุ่น เอ๊าะๆ อยู่

วัยรุ่นเอ๊าะๆ!!!!...............ชิส์.. ถ้าผมทาย ไม่ผิด 48+

เลยไปเยอะเลยครับ เอาจริง ๆ

ปีนี้ยังไม่ ๓๕ เลยครับ

คร้าบบบบ.......ล้อเล่นหน่ะครับ"พี่"

[kokkai]

เลยไปเยอะเลยครับ เอาจริง ๆ

ปีนี้ยังไม่ ๓๕ เลยครับ

แหม..ตัวเลขอายุเหมือนกับผมเลย(สลับหน้าหลังนิดหน่อย ผมไม่ถือ)

[ตะนิ่นตาญี]

ขออนุญาตคุณตะนิ่นฯ เสริมด้วยกลอนของสุนทรภู่ ตอนที่พระอภัยมณีสอนสินสมุทรเมื่ออยู่บนเรือของอุศเรน

แล้วตรัสบอก ลูกน้อย กลอยสวาท... เจ้าหน่อเนื้อ เชื้อชาติ ดังราชสีห์
อันรักษา ศีลสัตย์ กัตเวที... ย่อมเป็นที่ สรรเสริญ เจริญคน
ทรลักษณ์ อกตัญ ญุตาเขา... เทพเจ้า ก็จะแช่ง ทุกแห่งหน
ให้ทุกข์ร้อน งอนหง่อ ทรพล... พระเวทมนตร์ เสื่อมคลาย ทำลายยศ

แต่คงยากที่คนลืมตัวอย่างนั้น จะเข้าใจ


แก้ไข พิมพ์ผิด

ตัวพาลีเอง ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของบทเรียนที่ว่า ความยะโสโอหังในความสามารถตน มันทำให้เลินเล่อ ขาดไปซึ่งความระมัดระวังได้อีกอันหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้พาลีสิ้นชีพเอง

ท้าวความถึงว่า พาลีได้รับพรมาจากพระอิศวรว่า ถ้าสู้กับใคร ให้คนที่สู้ด้วยกำลังลดลงครึ่งหนึ่ง แล้วกำลังนั้นมาเพิ่มให้กับพาลี ทำให้ไม่ว่าสู้กับใครก็ตาม พาลีก็ได้เปรียบเสมอ

ตอนที่สู้กับสุครีพก็เช่นกัน มั่นใจว่ายังไง ๆ น้องก็สู้ตนไม่ได้ โดยลืมนึกไปว่า กับคนที่ไม่ได้สู้กับตนโดยตรงพรนั้นจะไม่มีผล เลยโดนศรพระรามตายเสีย

จริงก็อีหรอบเดียวกันกับทศกัณฐ์แฮะ

แม้แต่ละตนจะเป็นพญายักษ์ แต่ก็ล้วนแล้วแต่ต้องเดือดร้อนจนถึงแก่ชีวิตด้วยผลแห่งความทะนง โอหัง และ ลืมตนทั้งสิ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นอดีตเทวะยักษา อย่างทรพา (นนทกาล) หรือ ทศกัณฐ์ (นนทุก)

กระทั่งมีฤทธามหาศาลอย่างสหัสเดชะ ผู้มีพันเศียร ๒ พันกร ก็สิ้นชีพด้วยความชะล่าใจ และประมาท

จึงสอนให้รู้ได้ว่า ไม่ว่าจะเก่งกาจมาจากไหน หากมีความเย่อหยิ่งเป็นเจ้าเรือนแล้ว ย่อมไม่พ้นทางวิบัติแน่นอนครับ

ขอบพระคุณ คุณ คนชายแดน และ คุณ baezae มากครับ

คุณ คนชายแดน และ คุณ baezae เก่งจริงจริงครับ

เห็นแล้ว-อ่านแล้ว ที่เขียนมา น่าทึ่งมากครับ ชอบมากครับ

ไว้ ว่างว่าง มา offsides รามเกียรติ์; offsides วรรณคดีไทย กันครับ

ขอบพระคุณ คุณ คนชายแดน และ คุณ baezae มากครับ

ตะนิ่นตาญี

[ter162525]

ตัวพาลีเอง ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของบทเรียนที่ว่า ความยะโสโอหังในความสามารถตน มันทำให้เลินเล่อ ขาดไปซึ่งความระมัดระวังได้อีกอันหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้พาลีสิ้นชีพเอง

ท้าวความถึงว่า พาลีได้รับพรมาจากพระอิศวรว่า ถ้าสู้กับใคร ให้คนที่สู้ด้วยกำลังลดลงครึ่งหนึ่ง แล้วกำลังนั้นมาเพิ่มให้กับพาลี ทำให้ไม่ว่าสู้กับใครก็ตาม พาลีก็ได้เปรียบเสมอ

ตอนที่สู้กับสุครีพก็เช่นกัน มั่นใจว่ายังไง ๆ น้องก็สู้ตนไม่ได้ โดยลืมนึกไปว่า กับคนที่ไม่ได้สู้กับตนโดยตรงพรนั้นจะไม่มีผล เลยโดนศรพระรามตายเสีย

จริงก็อีหรอบเดียวกันกับทศกัณฐ์แฮะ

ไม่ใช่ครับ อันนี้ต้องแย้งนิด พาลีเป็นแบบท่คุณตะนิ่น ว่าไว้แหละ ครับ จริงแล้ว เรื่องโกธรเคลืองกัน ของ 2 พี่น้อง มาจาก 2 สาเหตุ ครับ
สาเหตุ 1 คือ ตอนทีพาลีสู้กับทรพี ได้ สั่งเสีย น้องชายไว้ว่า เวลาที่เขาสู้ ให้ไปดูหน้าถ้ำ ว่าเลือดที่ไหลออกมามันข้นหรือจางถ้าจางเป็นเลือดเขาให้ปิดปากถ้ำ ทันที เลือดนะเป็นของทรพี แต่เทวดาทั้งหลายดัน อวยพรพาลี โปรยฝนลงมา ฝน+เลือด ทรพี ก็จางดิครับ ไอ้น้องก้ไม่รุ้เห็นจางก้ปิดปากถ้ำเลย
สาเหตุ 2 ตอนที่เขาพระสุเมณ เอียง น้องชายเป็นคนเสนอ วิธี โดยให้ พระยานาคโอบรัด เสาพระสุเมณ แล้วช่วยกันดึง จนเขาพระสุเมณ ตั้งตรง คนเสนอน้องพาลีไปทำได้รับความสำเร็จ พระอิศวร เลยให้พรว่า พาลีสู้กับใครจะได้ พละกำลัง ของคนๆ นั้นมาครึ่งหนึ่ง ส่วนน้องชาย ได้ นางฟ้า ชึ่งพาลีอาสานำกลับ แต่พระอิศวร ไม่ค่อยเชื่อพาลี พาลีจึงให้ สัตย์ว่า ถ้า ตนเองเอาเมียน้อง ขอให้ ถูกพระนาราย์สังหาร ผลคือ แย่งเมียน้องจริงๆ

ที่นี้กลับมาตอนสู้กัน พระรามนั้น เป็นคนยิงศร แต่พาลีรับไว้ได้ และเห็นพระราม จึงเข้ามาต่อว่าเพราะพาลีกับพระราม ไม่เคยโกธรแค้น แถมยังถุกซุ้มทำร้าย แต่พระรามได้ แสดงร่าง พระนาราย์ ให้เห็นแล้วถามถึงคำสัตย์สาบานที่พาลีให้ไว้กับพระอิศวร พาลีสำนึกในสัตยืตน จึง เอาศรนั้น ปักอกตัวเอง ครับ

[Buffalo_]

เฮ้อ...กระทู้นี้ มีแต่ผู้มีอาวุโสทั้งนั้น

สมาชิกเสรีไทยไม่มีเด็กๆบ้างหรือไง

ไม่ใช่ไม่มีครับ ผมก้เด็กนะ แต่ส่วนมากเข้ามาสูบความรู้อย่างเดียว ไม่ค่อยได้โพสอะไร แบบว่าความรู้ไม่ถึงอ่ะครับ

[kisa]

เป็นกระทู้ที่มีคุณภาพจริงๆ

[พอล คุง]

ตัวพาลีเอง ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของบทเรียนที่ว่า ความยะโสโอหังในความสามารถตน มันทำให้เลินเล่อ ขาดไปซึ่งความระมัดระวังได้อีกอันหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้พาลีสิ้นชีพเอง

ท้าวความถึงว่า พาลีได้รับพรมาจากพระอิศวรว่า ถ้าสู้กับใคร ให้คนที่สู้ด้วยกำลังลดลงครึ่งหนึ่ง แล้วกำลังนั้นมาเพิ่มให้กับพาลี ทำให้ไม่ว่าสู้กับใครก็ตาม พาลีก็ได้เปรียบเสมอ

ตอนที่สู้กับสุครีพก็เช่นกัน มั่นใจว่ายังไง ๆ น้องก็สู้ตนไม่ได้ โดยลืมนึกไปว่า กับคนที่ไม่ได้สู้กับตนโดยตรงพรนั้นจะไม่มีผล เลยโดนศรพระรามตายเสีย

จริงก็อีหรอบเดียวกันกับทศกัณฐ์แฮะ

ผมขอเสริมในความรู้อันน้อยนิดของผมนะครับ

เดิมที่ ถ้าจะเล่า คงต้องตอนนี้ พระยาสุครีพ ยกเขาพระสุเมร ได้

พระยาพาลี ได้เข้าเฝ้าพระอิศวร แล้วพระอิศวรได้ประทานพร ให้ พระพาลี ใครต่อสู้ด้วยให้กำลังลดลงกึ่งหนึ่ง แล้วไปเพิ่มให้พระยาพาลี

ส่วนพระยาสุครีพ พระิิอิศวรได้ประทานนางให้ (ชือไรไม่รู้จำไม่ได้ละครับ) โดยฝากให้พระยาพาลี เอาไปให้

ขณะนั้น พระนารายณ์ ทรงท้วงพระอิศวร ว่าการฝากหญิงไปกับชาย (พระยาพาลี) นั้นจะไม่เป็นการเหมาะ

พระยาพาลี จึงได้สาบานว่า ถ้าหากเอานางมาเป็นเมียแล้วไซร์ ขอให้้ต้องตายด้วยศร พระนารายณ์

แก้ไขนิดหน่อยครับ

Edited by poulkung2012, 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 18:52.

[โจโฉ นายกตลอดกาล]

ได้สาระเรื่อง "รามเกียรติ์" แฝงในกระทู้นี่แหละ ต้องทำให้เข้ามาอ่านเรื่อยๆ

[วันศุกร์]

Always respected and like your post, Khun ตะนิ่นตาญี


you are very calm, cool and collected.

I've told you many times and will probably tell you many more.

[baezae]

คุณ ter162525 กับคุณ Polkung ว่าไว้ถูกต้องครับ ว่ามาจากการเสียสัตย์ของตนเอง และเป็นพระยาพาลี ที่ยอมตายเองด้วยศรนารายณ์

ต้องขออภัยในความรู้อันต่ำต้อยด้วยครับ

ชอบใจจริง ๆ มีคนคุยเรื่องรามเกียรติ์เยอะแยะ

Edited by baezae, 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 01:37.

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

คุณ ter162525 กับคุณ Polkung ว่าไว้ถูกต้องครับ ว่ามาจากการเสียสัตย์ของตนเอง และเป็นพระยาพาลี ที่ยอมตายเองด้วยศรนารายณ์

ต้องขออภัยในความรู้อันต่ำต้อยด้วยครับ

ชอบใจจริง ๆ มีคนคุยเรื่องรามเกียรติ์เยอะแยะ

ผมไม่เก่งเรื่องรามเกียรติ์นะครับ เพราะรู้สึกว่ายากมากเลยในการอ่าน
แต่หลังจากที่ไปเจอบทสรุปของอจ.ฝรั่งคนหนึ่งในเว็บ..ผมก้รู้สึกว่าโหย...ทำไมเราไม่เคยมองมุมนี้ของรามเกียรติ์มาก่อนเลย
มันช่างเป็นคอนเส็ปต์ที่เท่โฮกอะไรเช่นนี้
เขาสรุปว่า
"ราม คือผู้ชายในอุดมคติที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้เป็นสามี"
(เพราะความรักอันมั่นคงต่อภรรยา เนื่องจากต้นฉบับรามายณะจริงๆ รามไม่สงสัยในความบริสุทธิ์ของสีดา และไม่สนว่าใครจะกล่าวหาด้วย)
ลักษมัน คือน้องชายในอุดมคติที่พี่ชายทุกคนอยากได้เขาเป็นน้อง
(เพราะความเสียสละต่อพี่ชายแบบตายแทนกันได้)
สีดา คือผู้หญิงในอุดมคติที่ผู้ชายทุกคนอยากได้เป็นภรรยา
(เพราะความจงรักภักดีและเข้มแข็ง ทีสีดายึดมั่นมาตลอด)

อจ.เขาใช้ประโยคแบบนี้ครับ
Rama is the son every father ever wants.
He is also the husband every woman ever dreams of.
Lakshman is the brother everyman ever needs.
And Sita is the wife every husband wish for.

แล้วแกก็สรุปได้เท่มากว่า
Rama คือตัวแทน Love
Sita คือตัวแทน Loyalty
Lakshman คือตัวแทน Sacrifice

LOVE. LOYALTY. SACRIFICE.
อ๊ากกกก สำหรับขาการ์ตูนและกำลังภายในอย่างผม....ชอบมว้าก!!!!

[ตะนิ่นตาญี]

คุณ ter162525 กับคุณ Polkung ว่าไว้ถูกต้องครับ ว่ามาจากการเสียสัตย์ของตนเอง และเป็นพระยาพาลี ที่ยอมตายเองด้วยศรนารายณ์

ต้องขออภัยในความรู้อันต่ำต้อยด้วยครับ

ชอบใจจริง ๆ มีคนคุยเรื่องรามเกียรติ์เยอะแยะ

ผมไม่เก่งเรื่องรามเกียรติ์นะครับ เพราะรู้สึกว่ายากมากเลยในการอ่าน
แต่หลังจากที่ไปเจอบทสรุปของอจ.ฝรั่งคนหนึ่งในเว็บ..ผมก้รู้สึกว่าโหย...ทำไมเราไม่เคยมองมุมนี้ของรามเกียรติ์มาก่อนเลย
มันช่างเป็นคอนเส็ปต์ที่เท่โฮกอะไรเช่นนี้
เขาสรุปว่า
"ราม คือผู้ชายในอุดมคติที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้เป็นสามี"
(เพราะความรักอันมั่นคงต่อภรรยา เนื่องจากต้นฉบับรามายณะจริงๆ รามไม่สงสัยในความบริสุทธิ์ของสีดา และไม่สนว่าใครจะกล่าวหาด้วย)
ลักษมัน คือน้องชายในอุดมคติที่พี่ชายทุกคนอยากได้เขาเป็นน้อง
(เพราะความเสียสละต่อพี่ชายแบบตายแทนกันได้)
สีดา คือผู้หญิงในอุดมคติที่ผู้ชายทุกคนอยากได้เป็นภรรยา
(เพราะความจงรักภักดีและเข้มแข็ง ทีสีดายึดมั่นมาตลอด)

อจ.เขาใช้ประโยคแบบนี้ครับ
Rama is the son every father ever wants.
He is also the husband every woman ever dreams of.
Lakshman is the brother everyman ever needs.
And Sita is the wife every husband wish for.

แล้วแกก็สรุปได้เท่มากว่า
Rama คือตัวแทน Love
Sita คือตัวแทน Loyalty
Lakshman คือตัวแทน Sacrifice

LOVE. LOYALTY. SACRIFICE.
อ๊ากกกก สำหรับขาการ์ตูนและกำลังภายในอย่างผม....ชอบมว้าก!!!!

รบกวนเรียนถาม คุณผึ้งน้อยฯ สักนิดหนึ่งเถอะครับ

อาจารย์ฟารั้งท่านนั้น ได้พูดถึง-ได้วิเคราะห์ถึง ทศกรรฐ์ และทีมงาน ไว้บ้างหรือไม่ครับ?

โดยส่วนตัวแล้ว ตะนิ่นตาญี คิดว่าน่าสนใจ และน่าทึ่งมาก สำหรับ บทวิเคราะห์ของ อาจารย์ฟารั้งท่านนั้น

เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว ต้องบอกว่า พระราม นั้นเป็น "ลูกเขย" ของ "ทศกรรฐ์" จริงจริงนะครับ อย่าพึ่งหัวเราะ

นั่นเป็นเหตุให้ ทศกรรฐ์ พ่อตา ที่ "แสนดี" เมื่อเห็นลูกเขย "ตกอับ" ต้อง "ธุดงค์-เดินป่า" ไม่ได้ "ครองเมือง" แล้ว

จึง จะเอา-จะทวงคืน สีดา ผู้เป็นลูกสาว กลับไป "ใส่ตะกร้า ล้างน้ำ" ยกเครื่องใหม่เสียทั้งหมด แล้วยกให้คนอื่นแทน

เป็นไปได้ไหมครับ?

ตะนิ่นตาญี

วันอังคารที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๕.๓๗ นาฬิกา

[ใจหมาอำมหิต`]

เห็นท่านๆเล่ากันมาแล้ว อยากอ่าน "รามเกียรติ์"แบบที่เป็นร้อยแก้วบ้างจะมีมั้ยคับ

Edited by ใจหมาอำมหิต`, 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:12.

[hinotori]

คุณ ter162525 กับคุณ Polkung ว่าไว้ถูกต้องครับ ว่ามาจากการเสียสัตย์ของตนเอง และเป็นพระยาพาลี ที่ยอมตายเองด้วยศรนารายณ์

ต้องขออภัยในความรู้อันต่ำต้อยด้วยครับ

ชอบใจจริง ๆ มีคนคุยเรื่องรามเกียรติ์เยอะแยะ

ผมไม่เก่งเรื่องรามเกียรติ์นะครับ เพราะรู้สึกว่ายากมากเลยในการอ่าน
แต่หลังจากที่ไปเจอบทสรุปของอจ.ฝรั่งคนหนึ่งในเว็บ..ผมก้รู้สึกว่าโหย...ทำไมเราไม่เคยมองมุมนี้ของรามเกียรติ์มาก่อนเลย
มันช่างเป็นคอนเส็ปต์ที่เท่โฮกอะไรเช่นนี้
เขาสรุปว่า
"ราม คือผู้ชายในอุดมคติที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้เป็นสามี"
(เพราะความรักอันมั่นคงต่อภรรยา เนื่องจากต้นฉบับรามายณะจริงๆ รามไม่สงสัยในความบริสุทธิ์ของสีดา และไม่สนว่าใครจะกล่าวหาด้วย)
ลักษมัน คือน้องชายในอุดมคติที่พี่ชายทุกคนอยากได้เขาเป็นน้อง
(เพราะความเสียสละต่อพี่ชายแบบตายแทนกันได้)
สีดา คือผู้หญิงในอุดมคติที่ผู้ชายทุกคนอยากได้เป็นภรรยา
(เพราะความจงรักภักดีและเข้มแข็ง ทีสีดายึดมั่นมาตลอด)

อจ.เขาใช้ประโยคแบบนี้ครับ
Rama is the son every father ever wants.
He is also the husband every woman ever dreams of.
Lakshman is the brother everyman ever needs.
And Sita is the wife every husband wish for.

แล้วแกก็สรุปได้เท่มากว่า
Rama คือตัวแทน Love
Sita คือตัวแทน Loyalty
Lakshman คือตัวแทน Sacrifice

LOVE. LOYALTY. SACRIFICE.
อ๊ากกกก สำหรับขาการ์ตูนและกำลังภายในอย่างผม....ชอบมว้าก!!!!

เอ่อ ขออนุญาตนะครับ

เกรงว่าผมเคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์ ตอนที่ว่าด้วยเรื่องความเจ้าอารมณ์ของพระรามมา ดังนี้

"ไฟกาฬเหล่านั้นพ่ายแพ้ต่อแรงอธิษฐานของนางสีดา นางสีดาพิสูจน์ตนเองได้ว่าบริสุทธิ์ทั้งกายใจ สามีภรรยาจึงได้กลับไปใช่ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางสีดามีครรภ์ นางอดุลยักษีที่เคียดแค้นนางสีดาแปลงมาเป็นนางกำนัลพร้อมขอให้นางสีดาวาดรูป ทศกัณฐ์ พอวาดเสร็จ นางอดุลก็เข้าสิงทำให้รูปลบไม่ออก พระรามมาเห็นรูปภาพเข้าก็พิโรธมากว่านางสีดายังรักภักดีทศกัณฐ์ จึงสั่งพระลักษมณ์ให้ประหารนางสีดา พระลักษมณ์ไม่ทำซ้ำยังปล่อยนางหนีไป แล้วฆ่าควักหัวใจกวางนำไปถวายพระราม
นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤๅษีวัชมฤคจนกระทั่งประสูติพระโอรสของพระรามนามว่า พระมงกุฎ จากนั้นต่อมาพระฤๅษีก็ได้ชุบกุมารมาเป็นเพื่อนเล่นพระมงกุฎนามว่า พระลบ ทั้งสองกุมารเก่งกล้ามากจนสะเทือนไปถึงอโยธยา จนเกิดการต่อสู้กันระหว่างพ่อลูก ทว่าไม่รู้ผลแพ้ชนะ พระรามเอะใจเลยถามว่าพระมงกุฎเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ในที่สุดจึงได้รู้ว่า ผู้ที่ต่อสู้อยู่ด้วยนี้ คือพระโอรสองค์เดียวที่เกิดแต่มเหสีนางสีดานั่นเอง
พระรามง้องอนขอคืนดีกับนางสีดา แต่นางสีดาเข็ดขยาดในความฉุนเฉียวของพระราม นางจึงแทรกตัวลงไปเมืองบาดาลหนีพระราม พระรามจึงต้องออกผจญภัยอีกครั้งเป็นเวลา 1 ปี จนท้ายสุด พระอิศวรได้รับนางสีดาขึ้นมาและปรับความเข้าใจกับทั้งสอง จนในที่สุดพระราม และนางสีดา จึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา"

อันนี้ผมเอามาจาก วิกิพีเดีย เนื้อเรื่องเหมือนกับที่เคยอ่าน แต่ไม่รู้นะครับว่าต้นฉบับหรือเปล่า

หรือไม่ว่า อ.ฝรั่งคนนั้นอาจจะอ่านไม่จบเรื่องนะครับ เพราะตอนนี้มันท้ายๆแล้ว ฮ่าๆ