Jump to content


Photo
- - - - -

"โพลล์"......เผย...ผลสำรวจความเป็นผู้นำ........."ยิ่งลักษณ์".....พุ่งขึ้นทุกด้าน..............


  • Please log in to reply
52 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 noslipme

noslipme

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 418 posts

ตอบ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:43

ให้อารมณ์ประมาณว่าดีใจที่เด็กเริ่มหมอบเริ่มคลาน แต่นี่มันนายก เลยรู้สึกอย่างนั้นไม่ออก
กลับรู้สึกสมเพชคนไทยและประเทศไทยเสียมากกว่า

#52 อาวุโสโอเค

อาวุโสโอเค

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,790 posts

ตอบ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:02

ศูนย์วิจัยนโยบายสาธารณะ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง จากผลสำรวจภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะผู้นำประเทศ และก้าวต่อไปของประเทศไทยในสายตาประชาชน: กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนโยบายสาธารณะ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง จากผลสำรวจภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะผู้นำประเทศ และก้าวต่อไปของประเทศไทยในสายตาประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชัยนาท สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรปราการ พะเยา พิษณุโลก เชียงใหม่ อำนาจเจริญ มหาสารคาม สกลนคร นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น ชุมพร และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 2,184 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 1 - 13 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ครัวเรือนและผู้ตอบแบบสอบถามในครัวเรือน ค่าความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 พบว่า

ภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพิ่มสูงขึ้นในทุกตัวชี้วัด โดยดัชนีความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีที่เพิ่มขึ้นสูงที่สุด คือ ร้อยละ 63.7 ระบุความเป็นตัวของตัวเอง รองลงมาคือ ร้อยละ 60.9 ระบุเป็นคนรุ่นใหม่ ร้อยละ 58.9 ระบุได้รับการยอมรับภายในประเทศและต่างประเทศ ร้อยละ 57.1 ระบุมีความคิดสร้างสรรค์ ร้อยละ 55.1 ระบุมีความเสียสละ ร้อยละ 54.0 ระบุมีความโอบอ้อมอารี ร้อยละ 53.7 ระบุมีวิสัยทัศน์ ร้อยละ 53.5 ระบุประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ร้อยละ 52.5 ระบุกล้าคิดกล้าตัดสินใจ ร้อยละ 51.9 ระบุมีความสุภาพอ่อนโยน ร้อยละ 51.3 ระบุมีความซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 50.8 ระบุมีจริยธรรมทางการเมือง ร้อยละ 49.8 ระบุรวดเร็วฉับไวในการแก้ไขปัญหา ร้อยละ 49.6 ระบุมีความยุติธรรม ร้อยละ 49.2 ระบุแก้ปัญหา(บริหาร)ความขัดแย้งได้ดี ร้อยละ 47.8 มีความอดทนอดกลั้น รู้จักควบคุมอารมณ์ และร้อยละ 44.6 มีความรู้ความสามารถเพิ่มสูงขึ้น ตามลำดับ

และเมื่อสอบถามถึง ก้าวต่อไปของประเทศไทยที่อยากเห็น อยากได้ พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 82.8 ระบุทำให้คนไทยรากหญ้ามีรายได้เพิ่มขึ้น คนรวยใส่ใจคนจนให้มากขึ้น รองลงมาคือ ร้อยละ 80.3 ระบุกระจายทรัพยากรให้โอกาสประชาชนทั่วไปได้ครอบครองเป็นเจ้าของมากขึ้น ร้อยละ 79.9 ระบุหยุดสร้างเงื่อนไขขัดแย้งรุนแรงของคนในชาติ อยากเห็นนักการเมืองปรองดองกันให้ชาวบ้านเห็น ร้อยละ 75.4 ระบุยึดกระบวนการยุติธรรมในการคลี่คลายปัญหาบ้านเมือง และร้อยละ 73.3 ระบุเพิ่มความพร้อมให้คนไทยและเจ้าหน้าที่รัฐเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนเต็มรูปแบบ ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ เมื่อสอบถามถึงกระทรวงที่อยากเห็นอยากให้เกิดขึ้นในอนาคต พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.4 อยากเห็นประเทศไทยมีกระทรวงกีฬา เพราะช่วยจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอในการพัฒนานักกีฬาไทยสู่กีฬาระดับโลก มีทรัพยากรที่เพียบพร้อมในการฝึกเด็กและเยาวชนไทย สร้างโอกาสและความเป็นธรรมกับกลุ่มประชาชนที่มีความสามารถด้านกีฬาทุกหมู่เหล่ามากขึ้น มีเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ครบถ้วนสมบูรณ์ให้นักกีฬาได้มากยิ่งขึ้น เป็นต้น

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.5 อยากเห็นประเทศไทยมีกระทรวงอาหาร เพราะจะมีหน่วยงานรัฐโดยตรงที่ช่วยทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโลก ประเทศไทยเหมาะที่จะเป็นคลังอาหาร วัตถุดิบอุดมสมบูรณ์ มีการจัดสรรทรัพยากร ช่วยควบคุมลดความเสี่ยงในความปลอดภัยด้านอาหารให้กับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยทำให้ประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นเลิศด้านอาหารและทำให้เกิดความเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนอย่างยั่งยืน เป็นต้น

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึงนักการเมืองที่ช่วยเหลือคนยากจนให้มีชีวิตที่ดีขึ้นมากที่สุด พบว่า อันดับแรก หรือ ร้อยละ 22.4 ระบุ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร รองลงมาคือ ร้อยละ 21.2 ระบุ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 14.3 ระบุ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 7.8 ระบุ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ร้อยละ 6.5 ระบุ นายชวน หลีกภัย ร้อยละ 3.8 ระบุ นายบรรหาร ศิลปอาชา และร้อยละ 5.1 ระบุอื่นๆ ได้แก่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 18.9 ระบุไม่มีนักการเมืองคนใดเลย

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่าตัวอย่างร้อยละ 51.2 เป็นหญิง ร้อยละ 48.8 เป็นชาย ตัวอย่างร้อยละ 3.8 อายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 23.7 อายุระหว่าง 20 - 29 ปี ร้อยละ 20.5 อายุระหว่าง 30 - 39 ปี ร้อยละ 24.8 อายุระหว่าง 40 - 49 ปี และร้อยละ 27.2 อายุ 50 ปีขึ้นไป โดย ร้อยละ 68.8 มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 31.2 มีการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป นอกจากนี้ ตัวอย่างร้อยละ 32.2 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 26.7 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 12.6 ระบุอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 11.3 ระบุอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 7.3 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ ร้อยละ 6.8 เป็นนักเรียน/นักศึกษา ในขณะที่ร้อยละ 3.1 ระบุว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ

เผด็จการ........สะดุ้ง...................

เห็นชื่อจังหวัดก็สะดุ้ง มีแค่ กทม กับ ภาคใต้แค่ 2 จังหวัดเองที่ไม่ได้ สส.แดง ถ้าคิดเป็นรายจังหวัดละคิดเป็น 18 %

แบบนี้แสดงว่าจริง ๆ แล้วนังปูต้องได้ 82% ไหงคะแนนตกลงมาได้แค่ 63% โพลอวยไม่จริงนี่หว่า -_-
การเมืองไม่ใช่เพื่อกลุ่มใด แต่เพื่อทุกคนในประเทศ

#53 BearFamily

BearFamily

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 849 posts

ตอบ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:11

ควายที่โง่ แค่อ่านตามโพยไม่ให้ผิดก็ยากเต็มแก่ แต่ตอนนี้พยายามเงียบงดออกสื่อ ถ้านี่คือการพัฒนาคุณก็ควรกลับไปสอนลูกที่บ้านให้เลิกพูดเลิกคิดนะครับ เพราะคุณเป็นตัวถ่วงและอันตรายต่อประเทศและเชื้อของคุณอาจจะเป็นแบบคุณ ถ้าให้ดีไปทำหมันเหอะสงสาร แต่จะว่าไป โง่ขนาดนี้คงไม่มีใครเอา 5555+




ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน