...ที่ดินรัชดา ประสาชาวบ้าน...
#1
Posted 17 November 2011 - 17:17
............................
ชาวบ้านในที่นี้ ก็คือชาวบ้าน ไม่ใช่ชาวอื่น เช่นชาววัด หรือชาววัง หรือแม้แต่วังน้อยก็ตาม มีพฤติกรรมทำมาหากินตามปกติธรรมดา ซื้อเหล้า ซื้อเบียร์มากินเองบ้างในบางโอกาส แต่ถ้าเป็นเหล้าฟรี เบียร์ฟรีจะยิ่งชอบมาก มักจะไปร่วมกินด้วยในทุกโอกาส ไม่ว่าใกล้ ไกลเพียงใด ถ้ารู้จะรีบไปทันใด ประเภทรายได้ต่ำ รสนิยมสูง รัศมีการกิน-เที่ยวกว้างไกล แต่ไร้ยานพาหนะ
ผมไม่ใช่ทนาย ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเชี่ยวชาญเหมือนพรรคประชาธิปัตย์เขา ที่เก่งกาจในชั้นเชิงของกฎหมายทุกชนิด จนนำพาประเทศไปสู่ความเจริญฮวบๆทุกๆคดีที่ผ่านมือ ไม่ว่าจะเป็นคดีเขาพระวิหารที่ศาลโลก หรือคดียึดเครื่องบินพระราชพาหนะที่เยอรมัน ประชาธิปัตย์ไม่เคยทำให้คนไทยผิดหวัง
ชาวบ้านอย่างผม ฟังมาว่าทักษิณติดคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา โดยความผิดนั้นก็คือยอมเซ็นซื่อให้คุณหญิงพจมานผู้เป็นภรรยาไปซื้อที่ดินได้ แหละที่ต้องเซ็นนั้น ก็เพราะกฎหมายไทยที่บอกให้สามีหรือภรรยา ถ้าจะทำนิติกรรมใดๆก็แล้วแต่ ต้องให้อีกฝ่ายเซ็นยินยอมด้วยเสมอ ไม่งั้น เจ้าหน้าที่ของไทยจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่ไทยนั้น รักษากฎหมายยิ่งกว่าชีวิตทีเดียว
ชาวบ้านอย่างผมฟังต่ออีกว่า คนซื้ออย่างคุณหญิงก็ไม่ผิด คนขายอย่างกองทุนฟื้นฟูฯอะไรนั่น ก็ไม่ผิดอีก แต่คนเซ็นชื่ออย่างทักษิณซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 กลับมีความผิดติดคุก 2 ปี จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น คล้ายกับว่า เมื่อไม่มีการสืบพันธุ์ของเพศผู้-เพศเมียเกิดขึ้น แล้วจะมีเกิดทารกขึ้นมาได้อย่างไร ?
ชาวบ้านอย่างผมฟังต่อมาอีกว่า ในคำตัดสินนั้น เบื้องต้น ศาลฯ ท่านไม่เชื่ออยู่แล้วว่าทักษิณร่วมรู้เห็นกับคุณหญิงพจมานในการซื้อ-ขายด้วย เพราะไม่มีหลักฐานปรากฏ ศาลยังให้เครดิตอีกว่าคนรวยระดับนี้จะซื้ออะไรสักอย่างก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสุมหัวกันคิดแล้วคิดอีก จะซื้อดี ไม่ซื้อดีอย่างเราๆท่านๆ แต่ศาลฯท่านก็บอกต่อว่า " แต่เมื่อคุณหญิงไม่สามารถนำหลักฐานที่ว่าทักษิณไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งศาลก็เชื่อว่าไม่มีอยู่แล้วนั้น มาแสดงให้ศาลฯเห็นได้ จึงมีความผิด"
ชาวบ้านอย่างผมฟังต่อไปเรื่อยๆว่า ในศาลฎีกาฯ มีองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนจะเป็นผู้ไปถามความเห็นผู้พิพากษาจำนวน 8 คนก่อน ว่าใครคิดเห็นอย่างไรในคดีนี้ โดยที่เจ้าของสำนวนเองจะยังไม่ลงความเห็นใดๆ จนกว่าจะฟังความเห็นคิดผู้พิพากษาอื่นๆจบเสียก่อน
ตามกฎหมาย บอกกันว่า ถ้าความเห็นของผู้พิพากษา ออกมาก้ำกึ่งกันแล้ว ประเภทครึ่ง-ครึ่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 184 บัญญัติไว้ว่า “ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้ ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”
ชาวบ้านอย่างผมฟังต่อไปเรื่อยๆอีกว่า คดีนี้ ผู้พิพากษาทั้ง 8 คน โดยยังไม่นับเจ้าของสำนวนซึ่งถือเป็นประธาน ตัดสินออกมาเท่ากัน คือ 4 คนบอกผิด แต่อีก 4 คนบอกไม่ผิด ซึ่งถ้ามองตามรูปการนี้ ทักษิณต้องรอดแหงๆ เพราะมาตรา 184 ที่บัญญัติไว้ในประโยคที่ว่า “ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”
ชาวบ้านอย่างผมฟังแล้วฟังอีกว่า เมื่อออกมา 4 ต่อ 4 อย่างนี้ ถือว่ายังมีความเคลือบแคลงสงสัยอยู่ จะผิดหรือไม่ผิด เพราะผู้พิพากษาเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ซื้อ-ขายที่ดินกับเขาด้วย จึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลยคือคุณทักษิณไป ฉะนั้น ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ต้องยอมเห็นด้วยกับผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 184 นี้
ทักษิณ ต้องชนะจุดโทษในการเตะครั้งนี้ 5 ต่อ 4 แต่ทำไมกลายเป็นว่าทักษิณกลับเป็นฝ่ายแพ้จุดโทษ 4 ต่อ 5 ไปได้ ซึ่งก็ยังสงสัยกันอยู่
เมื่อต่อมาเมื่อไม่นาน ศาลแพ่งฯ ตัดสินสั่งให้คุณหญิงคืนโฉนดที่ดินให้กับกองทุนฯเขาซะ และให้กองทุนคืนเงินให้คุณหญิงไปพร้อมดอกเบี้ย ถือว่า การซื้อ-ขายไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นิติกรรมใดๆที่ทำกันมาถือว่าเลิกล้มหมดสิ้นกันไป เริ่มต้นกันใหม่
แต่ชาวบ้านอย่างผม ก็ยังเห็นมีคนบอกว่าทักษิณผิดต้องกลับมาติดคุก 2 ปีอยู่อีก โดยเฉพาะนักกฎหมายขั้นเทพอย่างประชาธิปัตย์ และนักวิชาการทั้งหลายแหล่ที่บอกเป็นเสียงเดียวกัน
มันเป็นไปได้หรือว่า ในเมื่อเสมือนไม่มีความผิดใดๆเกิดขึ้นในเรื่องนี้เลย กับทั้งคุณหญิงและกองทุนฯ ที่เป็นต้นเรื่อง ทุกอย่างกลายเป็นศูนย์ไปหมดแล้ว แต่กลับยังส่งผลให้คนที่ 3 ซึ่งไม่ได้รับรู้เรื่องราวมาแต่ต้น ยังทนหน้าด้านถูกคนกล่าวหาเป็นนักโทษหนีคดีอยู่ได้อีก
ชาวบ้านอย่างผม จึงสงสัยไม่หายมาจนทุกวันนี้ สงสัยจนไม่เป็นอันกินอันนอน พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ไม่รู้จะบอกลูกบอกหลานอย่างไรดี เมื่อถูกลูกหลานถามว่า “ทักษิณติดคุกเพราะอะไร” เมื่อตอบว่า “เพราะที่ดินรัชดา” ก็จะถูกถามต่อไปว่า “แล้วทำไมเมียกับกองทุนฯถึงไม่ติดด้วย เพราะเป็นคนก่อเรื่องตั้งแต่ต้น” ผมคงต้องตอบว่า “นอนเถอะลูก ดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปเรียนนะ”
ชาวบ้านอย่างผมไม่ได้มีเจตนาหมิ่นศาล หรือใครทั้งสิ้น แต่มันเป็นข้อสงสัยที่ยัง “คาใจ”อยู่ไม่รู้หาย ผมเองก็ไม่ได้รักทักษิณมากมายอะไรนัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทักษิณนั้น ผมไม่สามารถอธิบายกับใครได้จริงๆ หรือว่าผมอาจจะโง่เกินไป
ใครก็ได้ครับ ช่วยอธิบายให้ชาวบ้านอย่างผมได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งบรรเจิดกว่านี้หน่อยเถอะ ว่าทำไมทักษิณยังคงผิดและมีโทษติดคุกอยู่อีก เพราะที่ผมยกตัวอย่างกฎหมายแบบงูๆปลาๆมาอ้างนั้น ก็เป็นกฎหมายไทยที่ใช้กับคนไทยทุกคนมิใช่หรือ และแม้แต่คนต่างชาติถ้ามากระทำผิดในเมืองไทย ก็จะได้รับอานิสงค์จากกฎหมายที่ไม่ต่างกับคนไทยเหมือนกันใช่หรือไม่ ?
ก็หรือว่าพวกท่านทั้งหลาย ได้สืบทราบในทางลับโดยผมไม่รู้ว่า “ที่แท้ ทักษิณมิใช่มนุษย์ในโลกนี้ แต่เป็นมนุษย์ต่างดาวปลอมตัวมา จึงต้องใช้กฎหมายวิธีพิเศษที่ไม่เหมือนกับมนุษย์ในโลกนี้”
อย่างนั้นหรือเปล่าครับ !!!
#2
Posted 17 November 2011 - 17:22
กฏหมาย ปปช. มีมาตั้งแต่ ก่อนแม้วเล่นการเมืองอีก
กรุณาไปอ่านคำพิพากษา ไม่เข้าใจประโยคไหนค่อยมาถาม
อย่ามาชงเองตบเอง
- AtheNa, ดราม่า and อิสระในกรอบ like this
#3
Posted 17 November 2011 - 17:27
ถ้าอ้างชุ่ยๆ แบบนี้ สมมติคนที่หนึ่งบอกผิด คนที่สองบอกไม่ผิด เสมอกัน 1-1
คนที่ 3 ก็ต้องบอกไม่ผิด ถ้าคนที่ 4 บอกผิดอีก เสมอกันอีก
คนที่ 5 ก็ต้องบอกไม่ผิด ไม่งั้นก็ขัดกับมาตรา 184 แบบมั่วๆ ที่ยกมา
คงสับสนวุ่นวายน่าดูนะครับ
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#4
Posted 17 November 2011 - 17:28
ถ้าเป็นเจ้าพนักงานรับสินบน ถามคนให้จะผิดข้อนี้ไหม คนให้ไม่ผิดนะครับ คนรับผิด แต่ถ้าคนรับไม่รับ คนให้จะโดนดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ถ้าพื้นฐานแค่นี้ไม่เข้าใจก้จบ ส่วนขยายของพจมารตอบในกระทู้คุณแล้ว
Edited by ter162525, 17 November 2011 - 17:45.
- Huligan and khonthaith like this
#5
Posted 17 November 2011 - 17:29
ขอรีรันกระทู้นะครับ เคยตั้งในพันทิป..แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
............................
ชาวบ้านอย่างผม ฟังมาว่าทักษิณติดคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา โดยความผิดนั้นก็คือยอมเซ็นซื่อให้คุณหญิงพจมานผู้เป็นภรรยาไปซื้อที่ดินได้ แหละที่ต้องเซ็นนั้น ก็เพราะกฎหมายไทยที่บอกให้สามีหรือภรรยา ถ้าจะทำนิติกรรมใดๆก็แล้วแต่ ต้องให้อีกฝ่ายเซ็นยินยอมด้วยเสมอ ไม่งั้น เจ้าหน้าที่ของไทยจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่ไทยนั้น รักษากฎหมายยิ่งกว่าชีวิตทีเดียว
อันนี้ไม่ใช่มูลเหตุหลักในการพิพากษาเอาผิดทักษิณนี่ครับ การที่ทักษิณผิด ผิดที่อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขาย ในขณะที่ตนเองดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเป็นนายกรัฐมนตรีซะด้วย ไม่ใช่เรื่องที่ทักษิณไปเซ็นต์ร่วมในสัญญาซื้อขายกับเมีย อย่ามั่ว หลงประเด็น และในความเป็นจริงการซื้อขายเมียจะซื้อใช้ชื่อตัวเองคนเดียวก็ได้นี่ครับ กฎหมายไม่ได้ห้ามหรือบังคับให้คู่สมรสต้องเซ็นต์ยินยอมในการซื้อขาย
แม้ทักษิณ ไม่ได้เซ็นต์ร่วมหรือเซ็นต์ยินยอม ทักษิณก็ผิดอยู่แล้ว ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ
- khonthaith, Tohchida, Algorithm and 1 other like this
#6
Posted 17 November 2011 - 17:30
#7
Posted 17 November 2011 - 17:31
#8
Posted 17 November 2011 - 17:36
#9
Posted 17 November 2011 - 17:36
#10
Posted 17 November 2011 - 17:37
ขอรีรันกระทู้นะครับ เคยตั้งในพันทิป..แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
............................
ชาวบ้านอย่างผม ฟังมาว่าทักษิณติดคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา โดยความผิดนั้นก็คือยอมเซ็นซื่อให้คุณหญิงพจมานผู้เป็นภรรยาไปซื้อที่ดินได้ แหละที่ต้องเซ็นนั้น ก็เพราะกฎหมายไทยที่บอกให้สามีหรือภรรยา ถ้าจะทำนิติกรรมใดๆก็แล้วแต่ ต้องให้อีกฝ่ายเซ็นยินยอมด้วยเสมอ ไม่งั้น เจ้าหน้าที่ของไทยจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่ไทยนั้น รักษากฎหมายยิ่งกว่าชีวิตทีเดียว
อันนี้ไม่ใช่มูลเหตุหลักในการพิพากษาเอาผิดทักษิณนี่ครับ การที่ทักษิณผิด ผิดที่อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขาย ในขณะที่ตนเองดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเป็นนายกรัฐมนตรีซะด้วย ไม่ใช่เรื่องที่ทักษิณไปเซ็นต์ร่วมในสัญญาซื้อขายกับเมีย อย่ามั่ว หลงประเด็น และในความเป็นจริงการซื้อขายเมียจะซื้อใช้ชื่อตัวเองคนเดียวก็ได้นี่ครับ กฎหมายไม่ได้ห้ามหรือบังคับให้คู่สมรสต้องเซ็นต์ยินยอมในการซื้อขาย
แม้ทักษิณ ไม่ได้เซ็นต์ร่วมหรือเซ็นต์ยินยอม ทักษิณก็ผิดอยู่แล้ว ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ
#11
Posted 17 November 2011 - 17:38
#12
Posted 17 November 2011 - 17:42
ขอรีรันกระทู้นะครับ เคยตั้งในพันทิป..แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
............................
ชาวบ้านอย่างผม ฟังมาว่าทักษิณติดคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา โดยความผิดนั้นก็คือยอมเซ็นซื่อให้คุณหญิงพจมานผู้เป็นภรรยาไปซื้อที่ดินได้ แหละที่ต้องเซ็นนั้น ก็เพราะกฎหมายไทยที่บอกให้สามีหรือภรรยา ถ้าจะทำนิติกรรมใดๆก็แล้วแต่ ต้องให้อีกฝ่ายเซ็นยินยอมด้วยเสมอ ไม่งั้น เจ้าหน้าที่ของไทยจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่ไทยนั้น รักษากฎหมายยิ่งกว่าชีวิตทีเดียว
อันนี้ไม่ใช่มูลเหตุหลักในการพิพากษาเอาผิดทักษิณนี่ครับ การที่ทักษิณผิด ผิดที่อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขาย ในขณะที่ตนเองดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเป็นนายกรัฐมนตรีซะด้วย ไม่ใช่เรื่องที่ทักษิณไปเซ็นต์ร่วมในสัญญาซื้อขายกับเมีย อย่ามั่ว หลงประเด็น และในความเป็นจริงการซื้อขายเมียจะซื้อใช้ชื่อตัวเองคนเดียวก็ได้นี่ครับ กฎหมายไม่ได้ห้ามหรือบังคับให้คู่สมรสต้องเซ็นต์ยินยอมในการซื้อขาย
แม้ทักษิณ ไม่ได้เซ็นต์ร่วมหรือเซ็นต์ยินยอม ทักษิณก็ผิดอยู่แล้ว ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ
กฏหมาย ปปช มาตรา 100 หรือเปล่าไม่แน่ใจ ปี 42 ครับ ไม่ใช่ปี 50 เดี๋ยวจะมาแถว่า เป็นกฏหมายของเผด็จการ
ปปช. ย่อ มาจาก ป้องกันและปราบปราม การประพฤติ มิชอบ ในวงราชการ
#13
Posted 17 November 2011 - 17:42
ปล.ตั้งเเล้วหนี เหมือนโปกอีกเเล้ว นี้มือใหม่น่ะเนี้ย
#14
Posted 17 November 2011 - 17:46
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#15
Posted 17 November 2011 - 17:48
ซึ่งก็เจอแต่พวกนี้จริงๆ....
ทักษิณเซ็นน่ะ ถ้าตอนนั้นไม่ได้เป็นนายกก็ไม่ผิด แต่ตอนนั้นดันเป็นนายก ก็ผิดกฎหมายไปสิ
ทีหลังเด็กมาถาม ก็ตอบไปว่า ไอ้แม้วติดคุกเพราะเป็นนายกแล้วยังคิดจะโกง เข้าใจบ่
#16
Posted 17 November 2011 - 17:48
ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย
ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "
#18
Posted 17 November 2011 - 17:49
POPULAR
ทุก ๆ วิชาชีพต้องมีจรรยาบรรณ ถูกต้องมั้ย หมอก็ต้องมีจรรยาบรรณของหมอ วิศวกรก็ต้องมีจรรยาบรรณของวิศวกร
จรรยาบรรณก็คือสิ่งที่ควรปฏิบัติ...นอกจากนี้ก็ยังมีข้อบังคับ เปรียบเทียบกับโรงงาน พนักงานทุกคนก็ต้องปฏิบัต
ตามกฎระเบียบข้อบังคับของแต่ละโรงงาน ถูกต้องมั้ย...
ข้าราชการก็มีข้อบังคับ จรรยาบรรณ และกฎหมายเหมือนกัน ในที่นี่ก็คือ กฎหมาย ปปช (มาตราอะไรค่อยว่ากัน)
กล่าวโดยรวมก็คือ ห้ามข้าราชการและคู่สมรสกระทำนิติกรรมกับหน่วยงานของรัฐที่ตนเองเกี่ยวข้องหรืออาจมี
ผลประโยชน์ (ย่อ ๆ ประมาณนี้)
หมายความว่า...ข้าราชการและคู่สมรสจะทำนิติกรรมใด ๆ กับหน่วยงานของรัฐที่อาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น...สามีอยู่ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้าง ภรรยาจะเป็นผู้ยื่นซองประมูลไม่ได้ ง่าย ๆ ประมาณนี้
ถ้าจะแย้งว่า..นี่เป็นการซื้อที่ดิน แสดงว่า เจ้าหน้าที่กรมที่ดินจะซื้อที่ดินไม่ได้...อันนี้ไม่ใช่
การทำสัญญาซื้อขายที่ดิน มีประมวลรัษฎากรของกรมสรรพากรรองรับเรื่องจากชำระภาษีอยู่ และการซื้อขายที่ดิน
เป็นการซื้อขายระหว่างบุคคลกับบุคคล หรือ บุคคลกับนิติบุคคล รัฐมีหน้าที่เพียงรับรองการซื้อขายและดูแลเรื่อง
กรรมสิทธิ์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการฟ้องร้องและอ้างสิทธิ์ทับซ้อน
ที่นี่กรณี..ทักษิณ กับ ภรรยา...
ทักษิณ เป็นนายก ถือเป็นข้าราชการ จึงมีหน้าที่ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย ห้ามกระทำนิติกรรมใด ๆ
และการทำนิติกรรมครั้งนี้ เป็นการทำสัญญาระหว่างบุคคล คือคุณหญิง กับกองทุนฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ
ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลโดยตรง...ผิดมั้ย..ผิดกฎหมายแน่นอน
อีกประเด็น ง่าย ๆ ประสาชาวบ้าน
ถ้าในหมู่บ้านของคุณ...มีคนหนึ่งประกาศขายที่ดิน แล้วมีผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าสัว พ่อเลื้ยง อาเสีย บอกว่า
" ที่ดิน แปลงนี้ อั้วจะซื้อ เมียอั้วจะซื้อ...ถามว่า จะมีชาวบ้านคนในหาญกล้าไปแข่งบารมีว่า..
ไม่ได้...ผมก็จะซื้อ ผมให้ราคาสูงกว่า..." ร้อยทั้งร้อย ไม่มีเด็ดขาด
ทั้งนั้น..ผลที่ตามมาคือ ราคาที่ผู้ขายจะได้รับ ก็อาจจะไม่ใช่ราคาขายที่ถูกต้องนัก ก็ต้องแล้วแต่ว่า
ผู้ซือจะพอใจที่เท่าไหร่...ที่ไม่น่าเกลียดจนเกินไปนัก
สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า...การซื้อขายครั้งนี้ มันไม่ควรเกิดขึ้น ตั้งแต่ต้น และที่สำคัญ วันที่โอนกรรมสิทธิ์
ก็เป็นวันที่ตามประเพณีคือ วันหยุดราชการ และ เป็นวันสุดท้าย ในกรณีลดหย่อนภาษีโอนกรรมสิทธิ์
อะไร ๆ มันถึงได้ยุ่งเหยิง..มาจนทุกวันนี้
หากวันนั้น..ท่านมีกุนซือที่ฉลาดกว่า..ท่านอาจจะไม่ต้องพบวิบากกรรมเช่นนี้ก็ได้
ช่องโหว่มันมีอยู่ตั้งหลายช่องทาง แต่ท่านเลือกช่องทางที่อันตราย เพราะคิดว่า กุมอำนาจไว้หมดแล้ว
ส่งท้าย...
ถ้าจะว่ากันด้วยภาษากฎหมาย...วันเสาร์ค่อยว่ากัน...วันนี้กะพรุ่งนี้ มีภาระกิจต้องปฏิบัติ
#19
Posted 17 November 2011 - 17:51
ผิดกฎหมายก็ต้องรับโทษ
#20
Posted 17 November 2011 - 17:52
งง คุณเอาประมวลกฎหมายข้อนี้มาจากใหน ทักษิณผิดมาตราหนึ่งร้อยครับ
มาตรา ๑๐๐ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้
๑) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี
๒) ... .
มาตรา ๑๐๐ วรรคสอง บัญญัติว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด” (ซึ่งปัจจุบันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนดอยู่ ๒ ตำแหน่ง คือ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี)
มาตรา ๑๐๐ วรรคสามบัญญัติว่า “ให้นำบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามวรรคสอง (นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี) โดยให้ถือว่าการดำเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าวเป็นการดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ (จำเลยที่ ๒ เป็นคู่สัญญาซื้อขายที่ดินรัชดา จึงถือเป็นการดำเนินกิจการของจำเลยที่ ๑) ในกรณีที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ กระทำความผิดตามมาตราดังกล่าวโดยได้วินิจฉัยว่า “เมื่อจำเลยทั้งสองไม่มีพยานหลักฐานใดมาพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า จำเลยที่ ๑ (พ.ต.ท.ทักษิณ) มิได้รู้เห็นยินยอมด้วยในการที่จำเลยที่ ๒ (คุณหญิงพจมาน) ดำเนินกิจการตามมาตรา ๑๐๐ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ เพื่อแก้ตัวให้จำเลยที่ ๑ พ้นผิดตามมาตรา ๑๒๒ วรรคสอง เช่นนี้ผู้พิพากษาจึงมีมติด้วยคะแนนเสียง ๕ ต่อ ๔ ว่า จำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา ๑๐๐(๑) ซึ่งต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๒๒ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ ข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งสองในส่วนนี้ฟังไม่ขึ้น”
- deedeedee and Kepler-22b like this
#21
Posted 17 November 2011 - 17:52
พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา ๑๐๐ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้
(๑) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี
มาตรา ๑๒๒ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา ๑๐๐ มาตรา ๑๐๑ หรือมาตรา ๑๐๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
http://www.ago.go.th...Laws/b/b12.html
ศาลท่านได้ให้เหตุผลแล้วว่าในกรณีนี้ทักษิณเป็นเจ้าพนักงาน ควรไปหาข้อมูลประกอบนะคะ
มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต
และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต
แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น
#22
Posted 17 November 2011 - 17:53
ผมว่า เค้าไม่สนใจเรื่องนี้หรอกครับ เค้าสนใจแค่ว่า เมียซื้อ ทำไมผัวติดคุกชาวบ้านอย่างผม ฟังมาว่าทักษิณติดคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา โดยความผิดนั้นก็คือยอมเซ็นซื่อให้คุณหญิงพจมานผู้เป็นภรรยาไปซื้อที่ดินได้ แหละที่ต้องเซ็นนั้น ก็เพราะกฎหมายไทยที่บอกให้สามีหรือภรรยา ถ้าจะทำนิติกรรมใดๆก็แล้วแต่ ต้องให้อีกฝ่ายเซ็นยินยอมด้วยเสมอ ไม่งั้น เจ้าหน้าที่ของไทยจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่ไทยนั้น รักษากฎหมายยิ่งกว่าชีวิตทีเดียว
งง คุณเอาประมวลกฎหมายข้อนี้มาจากใหน ทักษิณผิดมาตราหนึ่งร้อยครับ
มาตรา ๑๐๐ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้
๑) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี
๒) ... .
มาตรา ๑๐๐ วรรคสอง บัญญัติว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด” (ซึ่งปัจจุบันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนดอยู่ ๒ ตำแหน่ง คือ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี)
มาตรา ๑๐๐ วรรคสามบัญญัติว่า “ให้นำบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามวรรคสอง (นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี) โดยให้ถือว่าการดำเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าวเป็นการดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ (จำเลยที่ ๒ เป็นคู่สัญญาซื้อขายที่ดินรัชดา จึงถือเป็นการดำเนินกิจการของจำเลยที่ ๑) ในกรณีที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ กระทำความผิดตามมาตราดังกล่าวโดยได้วินิจฉัยว่า “เมื่อจำเลยทั้งสองไม่มีพยานหลักฐานใดมาพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า จำเลยที่ ๑ (พ.ต.ท.ทักษิณ) มิได้รู้เห็นยินยอมด้วยในการที่จำเลยที่ ๒ (คุณหญิงพจมาน) ดำเนินกิจการตามมาตรา ๑๐๐ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ เพื่อแก้ตัวให้จำเลยที่ ๑ พ้นผิดตามมาตรา ๑๒๒ วรรคสอง เช่นนี้ผู้พิพากษาจึงมีมติด้วยคะแนนเสียง ๕ ต่อ ๔ ว่า จำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา ๑๐๐(๑) ซึ่งต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๒๒ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ ข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งสองในส่วนนี้ฟังไม่ขึ้น”
ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "
#23
Posted 17 November 2011 - 17:54
ถ้าอยากรวยแล้วไม่มีปัญหา อย่ามาเล่นการเมืองครับ ไปเป็นนักธุรกิจอย่างเดียว
ถ้าจะเล่นการเมือง ต้องเอาผลประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง รวยน้อยลงอีกหน่อยก็ไม่เป็นไร
- คนกวาดขยะ, นายตัวเกร็ง, Apichai and 3 others like this
#24
Posted 17 November 2011 - 17:57
ส่วนเรื่องที่คิดเองชงเอง (หรือคนอื่นบอกว่ามันน่าจะเป็นแบบนั้น) เอามาใส่ในทู้ด้วยก็ได้ครับผมไม่ถือ ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ เราจะได้รู้ว่าเขาคิดกันยังไง และเรามีเหตุผลแย้งยังไง จะได้เก็บไปคิดหาว่าอันไหนที่มันเป็นข้อเท็จจริง
แล้วสำหรับทุกท่านที่เข้ามาตอบ ผมขอร้องนะครับ อย่าไปด่าเขา เดี๋ยวเขาจะหมดกำลังใจไปก่อน แล้วสิ่งที่เขาสงสัยหรือที่เขาคิดไม่ตรงจุด หรือโดนเบี่ยงให้หลงประเด็นมา ไม่มีใครมาบอกในมุมที่ต่างกันออกไป มีแต่เหน็บเขาแล้วเขาท้อนะครับ เขาก็จะไม่มาคุยในมุมของเขาอีก เขาจะคิดแบบนั้นไปตลอดโดยไม่มีข้อเท็จจริงหักล้างนะครับ
รักทุกคน
- Apichai and คนสับปะหลี้ like this
#25
Posted 17 November 2011 - 17:59
ขอรีรันกระทู้นะครับ เคยตั้งในพันทิป..แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
............................
ชาวบ้านในที่นี้ ก็คือชาวบ้าน ไม่ใช่ชาวอื่น เช่นชาววัด หรือชาววัง หรือแม้แต่วังน้อยก็ตาม มีพฤติกรรมทำมาหากินตามปกติธรรมดา ซื้อเหล้า ซื้อเบียร์มากินเองบ้างในบางโอกาส แต่ถ้าเป็นเหล้าฟรี เบียร์ฟรีจะยิ่งชอบมาก มักจะไปร่วมกินด้วยในทุกโอกาส ไม่ว่าใกล้ ไกลเพียงใด ถ้ารู้จะรีบไปทันใด ประเภทรายได้ต่ำ รสนิยมสูง รัศมีการกิน-เที่ยวกว้างไกล แต่ไร้ยานพาหนะ
ผมไม่ใช่ทนาย ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเชี่ยวชาญเหมือนพรรคประชาธิปัตย์เขา ที่เก่งกาจในชั้นเชิงของกฎหมายทุกชนิด จนนำพาประเทศไปสู่ความเจริญฮวบๆทุกๆคดีที่ผ่านมือ ไม่ว่าจะเป็นคดีเขาพระวิหารที่ศาลโลก หรือคดียึดเครื่องบินพระราชพาหนะที่เยอรมัน ประชาธิปัตย์ไม่เคยทำให้คนไทยผิดหวัง
ชาวบ้านอย่างผม ฟังมาว่าทักษิณติดคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา โดยความผิดนั้นก็คือยอมเซ็นซื่อให้คุณหญิงพจมานผู้เป็นภรรยาไปซื้อที่ดินได้ แหละที่ต้องเซ็นนั้น ก็เพราะกฎหมายไทยที่บอกให้สามีหรือภรรยา ถ้าจะทำนิติกรรมใดๆก็แล้วแต่ ต้องให้อีกฝ่ายเซ็นยินยอมด้วยเสมอ ไม่งั้น เจ้าหน้าที่ของไทยจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่ไทยนั้น รักษากฎหมายยิ่งกว่าชีวิตทีเดียว
ชาวบ้านอย่างผมฟังต่ออีกว่า คนซื้ออย่างคุณหญิงก็ไม่ผิด คนขายอย่างกองทุนฟื้นฟูฯอะไรนั่น ก็ไม่ผิดอีก แต่คนเซ็นชื่ออย่างทักษิณซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 กลับมีความผิดติดคุก 2 ปี จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น คล้ายกับว่า เมื่อไม่มีการสืบพันธุ์ของเพศผู้-เพศเมียเกิดขึ้น แล้วจะมีเกิดทารกขึ้นมาได้อย่างไร ?
ชาวบ้านอย่างผมฟังต่อมาอีกว่า ในคำตัดสินนั้น เบื้องต้น ศาลฯ ท่านไม่เชื่ออยู่แล้วว่าทักษิณร่วมรู้เห็นกับคุณหญิงพจมานในการซื้อ-ขายด้วย เพราะไม่มีหลักฐานปรากฏ ศาลยังให้เครดิตอีกว่าคนรวยระดับนี้จะซื้ออะไรสักอย่างก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสุมหัวกันคิดแล้วคิดอีก จะซื้อดี ไม่ซื้อดีอย่างเราๆท่านๆ แต่ศาลฯท่านก็บอกต่อว่า " แต่เมื่อคุณหญิงไม่สามารถนำหลักฐานที่ว่าทักษิณไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งศาลก็เชื่อว่าไม่มีอยู่แล้วนั้น มาแสดงให้ศาลฯเห็นได้ จึงมีความผิด"
ชาวบ้านอย่างผมฟังต่อไปเรื่อยๆว่า ในศาลฎีกาฯ มีองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนจะเป็นผู้ไปถามความเห็นผู้พิพากษาจำนวน 8 คนก่อน ว่าใครคิดเห็นอย่างไรในคดีนี้ โดยที่เจ้าของสำนวนเองจะยังไม่ลงความเห็นใดๆ จนกว่าจะฟังความเห็นคิดผู้พิพากษาอื่นๆจบเสียก่อน
ตามกฎหมาย บอกกันว่า ถ้าความเห็นของผู้พิพากษา ออกมาก้ำกึ่งกันแล้ว ประเภทครึ่ง-ครึ่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 184 บัญญัติไว้ว่า “ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้ ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”
ชาวบ้านอย่างผมฟังต่อไปเรื่อยๆอีกว่า คดีนี้ ผู้พิพากษาทั้ง 8 คน โดยยังไม่นับเจ้าของสำนวนซึ่งถือเป็นประธาน ตัดสินออกมาเท่ากัน คือ 4 คนบอกผิด แต่อีก 4 คนบอกไม่ผิด ซึ่งถ้ามองตามรูปการนี้ ทักษิณต้องรอดแหงๆ เพราะมาตรา 184 ที่บัญญัติไว้ในประโยคที่ว่า “ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”
ชาวบ้านอย่างผมฟังแล้วฟังอีกว่า เมื่อออกมา 4 ต่อ 4 อย่างนี้ ถือว่ายังมีความเคลือบแคลงสงสัยอยู่ จะผิดหรือไม่ผิด เพราะผู้พิพากษาเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ซื้อ-ขายที่ดินกับเขาด้วย จึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลยคือคุณทักษิณไป ฉะนั้น ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ต้องยอมเห็นด้วยกับผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 184 นี้
ทักษิณ ต้องชนะจุดโทษในการเตะครั้งนี้ 5 ต่อ 4 แต่ทำไมกลายเป็นว่าทักษิณกลับเป็นฝ่ายแพ้จุดโทษ 4 ต่อ 5 ไปได้ ซึ่งก็ยังสงสัยกันอยู่
เมื่อต่อมาเมื่อไม่นาน ศาลแพ่งฯ ตัดสินสั่งให้คุณหญิงคืนโฉนดที่ดินให้กับกองทุนฯเขาซะ และให้กองทุนคืนเงินให้คุณหญิงไปพร้อมดอกเบี้ย ถือว่า การซื้อ-ขายไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นิติกรรมใดๆที่ทำกันมาถือว่าเลิกล้มหมดสิ้นกันไป เริ่มต้นกันใหม่
แต่ชาวบ้านอย่างผม ก็ยังเห็นมีคนบอกว่าทักษิณผิดต้องกลับมาติดคุก 2 ปีอยู่อีก โดยเฉพาะนักกฎหมายขั้นเทพอย่างประชาธิปัตย์ และนักวิชาการทั้งหลายแหล่ที่บอกเป็นเสียงเดียวกัน
มันเป็นไปได้หรือว่า ในเมื่อเสมือนไม่มีความผิดใดๆเกิดขึ้นในเรื่องนี้เลย กับทั้งคุณหญิงและกองทุนฯ ที่เป็นต้นเรื่อง ทุกอย่างกลายเป็นศูนย์ไปหมดแล้ว แต่กลับยังส่งผลให้คนที่ 3 ซึ่งไม่ได้รับรู้เรื่องราวมาแต่ต้น ยังทนหน้าด้านถูกคนกล่าวหาเป็นนักโทษหนีคดีอยู่ได้อีก
ชาวบ้านอย่างผม จึงสงสัยไม่หายมาจนทุกวันนี้ สงสัยจนไม่เป็นอันกินอันนอน พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ไม่รู้จะบอกลูกบอกหลานอย่างไรดี เมื่อถูกลูกหลานถามว่า “ทักษิณติดคุกเพราะอะไร” เมื่อตอบว่า “เพราะที่ดินรัชดา” ก็จะถูกถามต่อไปว่า “แล้วทำไมเมียกับกองทุนฯถึงไม่ติดด้วย เพราะเป็นคนก่อเรื่องตั้งแต่ต้น” ผมคงต้องตอบว่า “นอนเถอะลูก ดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปเรียนนะ”
ชาวบ้านอย่างผมไม่ได้มีเจตนาหมิ่นศาล หรือใครทั้งสิ้น แต่มันเป็นข้อสงสัยที่ยัง “คาใจ”อยู่ไม่รู้หาย ผมเองก็ไม่ได้รักทักษิณมากมายอะไรนัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทักษิณนั้น ผมไม่สามารถอธิบายกับใครได้จริงๆ หรือว่าผมอาจจะโง่เกินไป
ใครก็ได้ครับ ช่วยอธิบายให้ชาวบ้านอย่างผมได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งบรรเจิดกว่านี้หน่อยเถอะ ว่าทำไมทักษิณยังคงผิดและมีโทษติดคุกอยู่อีก เพราะที่ผมยกตัวอย่างกฎหมายแบบงูๆปลาๆมาอ้างนั้น ก็เป็นกฎหมายไทยที่ใช้กับคนไทยทุกคนมิใช่หรือ และแม้แต่คนต่างชาติถ้ามากระทำผิดในเมืองไทย ก็จะได้รับอานิสงค์จากกฎหมายที่ไม่ต่างกับคนไทยเหมือนกันใช่หรือไม่ ?
ก็หรือว่าพวกท่านทั้งหลาย ได้สืบทราบในทางลับโดยผมไม่รู้ว่า “ที่แท้ ทักษิณมิใช่มนุษย์ในโลกนี้ แต่เป็นมนุษย์ต่างดาวปลอมตัวมา จึงต้องใช้กฎหมายวิธีพิเศษที่ไม่เหมือนกับมนุษย์ในโลกนี้”
อย่างนั้นหรือเปล่าครับ !!!
อยากรู้ว่า ตอนไอ้แม้วมันขึ้นศาล แม้วมันไม่มีทนายหรือไง มันไม่ยุติธรรมตรงไหน ในเมื่อไอ้แม้ว ก็สามารถมีทนาย เหมือนคนทั่วๆไปได้ แถมอาจจะมีมากกว่า ทนาย 1 คน ระดับไอ้แม้ว จะจ้างทนายสัก 100 คน ก็ไม่มีปัญหา ไม่มีกฎหมายห้าม
แล้วยังไงต่อ ในเมื่อแม้ว ก็มีทนายไว้คอยแก้ต่างในชั้นศาล เมื่อสู้คดีแล้วแพ้ ก็ต้องยอมรับซิ มิช่าย ไม่ยอมรับ แล้วมันจะไม่ยุติธรรมตรงไหน ไม่ต้องไปโบ้ยโทษศาลหรือโทษใคร
#26
Posted 17 November 2011 - 18:06
คราวหลังบอกลูกว่า
ศาลวินิจฉัยเรื่องไม่รอการลงโทษให้ทักษิณ โดยให้เหตุผลว่า
“จำเลยที่ ๑ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน แต่จำเลยที่ ๑ กลับฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายทั้งที่จำเลยที่ ๑ เป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติตนในสิ่งที่ดีงามตามจริยธรรมของนักการเมือง ให้เหมาะสมกับที่ได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้ จึงไม่สมควรรอการลงโทษ”
#27
Posted 17 November 2011 - 18:11
ส่วนตัว ผมก็เป็นชาวบ้านคนหนึ่ง ที่ไม่รู้เรื่องกฏหมายเท่าไหร่ แต่ถ้าอยากรู้อะไร อย่างในคดีนี้ ผมจะศึกษากฏหมายที่เกี่ยวกับคดี และหาเหตุผลประกอบครับ ไม่ได้คิดเองเออเองว่า คงไม่ผิด อย่างในคดีนี้ การคืนที่ คืนเงิน เกิดจากการตัดสินไปแล้วว่า ผิดจริง ไม่ได้เหมือนคดีที่โจทย์ยอมความนี่ครับ
- halfmoon likes this
#28
Posted 17 November 2011 - 18:18
ส่วนเรื่อง คืนที่ คินตังค์ กันไปแล้ว ทำไมยังต้องรับผิด อันนี้รอผู้รู้กฏหมายมาตอบละกันคับ ผมไม่แม่นจำแต่ละมาตราไม่ได้ครับ
ส่วนตัว ผมก็เป็นชาวบ้านคนหนึ่ง ที่ไม่รู้เรื่องกฏหมายเท่าไหร่ แต่ถ้าอยากรู้อะไร อย่างในคดีนี้ ผมจะศึกษากฏหมายที่เกี่ยวกับคดี และหาเหตุผลประกอบครับ ไม่ได้คิดเองเออเองว่า คงไม่ผิด อย่างในคดีนี้ การคืนที่ คืนเงิน เกิดจากการตัดสินไปแล้วว่า ผิดจริง ไม่ได้เหมือนคดีที่โจทย์ยอมความนี่ครับ
ผมก็ไม่เท่าไหร่ครับ แต่อาศัยค้น ถาม สงสัย
กฎหมายฉบับใหม่ หมวดนี้ มาตรา ๑๐๓/๑ บัญญัติว่า
บรรดาความผิดที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้ ให้ถือเป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือความผิดต่อหน้าที่ราชการหรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย
#29
Posted 17 November 2011 - 18:19
#30
Posted 17 November 2011 - 18:20
ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย
ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"
ทูอินวันหรือเปล่า ?
#31
Posted 17 November 2011 - 18:26
ส่วนเรื่อง คืนที่ คินตังค์ กันไปแล้ว ทำไมยังต้องรับผิด อันนี้รอผู้รู้กฏหมายมาตอบละกันคับ ผมไม่แม่นจำแต่ละมาตราไม่ได้ครับ
ส่วนตัว ผมก็เป็นชาวบ้านคนหนึ่ง ที่ไม่รู้เรื่องกฏหมายเท่าไหร่ แต่ถ้าอยากรู้อะไร อย่างในคดีนี้ ผมจะศึกษากฏหมายที่เกี่ยวกับคดี และหาเหตุผลประกอบครับ ไม่ได้คิดเองเออเองว่า คงไม่ผิด อย่างในคดีนี้ การคืนที่ คืนเงิน เกิดจากการตัดสินไปแล้วว่า ผิดจริง ไม่ได้เหมือนคดีที่โจทย์ยอมความนี่ครับ
เหมือนขโมยไก่ชาวบ้าน พอเขาจับได้ เขาก็ต้องเอาไก่เขาคืน และให้ไก่เขาคืนแล้วใช่ว่าตัวเองจะพ้นผิด ความผิดมันอยู่ที่พฤติกรรมการลักขโมยไก่ มันไม่ได้อยู่ที่การครอบครองไก่อย่างเดียว ขณะนี้แม้ว่าหัวขโมยจะขอร้องให้ผู้ใหญ่บ้านยกโทษให้ คือขอให้ตนเองพ้นโทษ แม้ผู้ใหญ่บ้านจะยกโทษให้และให้ชาวบ้านยอมรับการยกโทษให้ครั้งนี้ หัวขโมยก็เป็นเพียงผู้พ้นโทษ แต่ก็ไม่ใช่ผู้พ้นผิด คือความผิดยังติดตัวอยู่ เพราะไปลักขโมยไก่เขามาจริงๆ
#32
Posted 17 November 2011 - 18:33
คืนเงินแล้ว คืนที่แล้ว ทำไมยังมีความผิด...
เพราะความผิดเกิดขึ้นแล้ว...ตั้งแต่วันที่เซ็นต์ยินยอมให้ภรรยาซื้อที่ดิน
ผลที่ตามมา คือสัญญาเป็นโมฆะ ตามคำพิพากษา คู่กรณีจึงต้องคืนเงิน คืนที่
แต่ไม่ได้ส่งผลว่า..การทำนิติกรรมไม่ได้เกิดขึ้น...จึงมีความผิด
คนที่อ้างแบบนี้ เค้าเรียกว่า ไม่มีอะไรจะแถ..
อย่างเช่น...
โจรปล้นเงินธนาคาร...จับได้ คืนเงินทั้งหมด...ยังติดคุก เพราะ ปล้นไปแล้ว แต่ไปไม่รอด
สั้น ๆ ง่าย ๆ...กรรมเกิดขึ้นแล้ว..โทษจึงมี
- deedeedee, กรรมกรไอที, Apichai and 3 others like this
#33
Posted 17 November 2011 - 18:38
สื่อบางกลุ่ม คนบางกลุ่ม ไม่ยอมอธิบายรายละเอียดให้ครบ
ให้แต่ข้อมูลด้านเดียว...ที่ตัวเองได้ประโยชน์..
ไม่ได้บอกว่า...เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่มีสิทธิ์ทำนิติกรรมกับหน่วยงานที่ตัวเองมีอำนาจ
เอาแต่บอกว่า...เซ้นต์ชื่อให้ภรรยาซื้อที่ มีความผิด...
พูดแค่นี้...ใครฟังก็ต้อง งง กันทั้งนั้นหล่ะ...
ชาวบ้านเค้าไม่โง่...แต่..เค้าขาดโอกาสที่จะได้รับรู้ข้อมูลที่ครบถ้วน
ก็บังคับเค้า...อยู่หมู่บ้านนี้ต้องจานสีนี้เท่านั้น คลื่นอื่นมา..เดี้ยงหมด
#34
Posted 17 November 2011 - 18:38
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#36
Posted 17 November 2011 - 18:42
เหมือนขโมยไก่ชาวบ้าน พอเขาจับได้ เขาก็ต้องเอาไก่เขาคืน และให้ไก่เขาคืนแล้วใช่ว่าตัวเองจะพ้นผิด ความผิดมันอยู่ที่พฤติกรรมการลักขโมยไก่ มันไม่ได้อยู่ที่การครอบครองไก่อย่างเดียว ขณะนี้แม้ว่าหัวขโมยจะขอร้องให้ผู้ใหญ่บ้านยกโทษให้ คือขอให้ตนเองพ้นโทษ แม้ผู้ใหญ่บ้านจะยกโทษให้และให้ชาวบ้านยอมรับการยกโทษให้ครั้งนี้ หัวขโมยก็เป็นเพียงผู้พ้นโทษ แต่ก็ไม่ใช่ผู้พ้นผิด คือความผิดยังติดตัวอยู่ เพราะไปลักขโมยไก่เขามาจริงๆ
ง่าย ๆ สำหรับคำถามที่ว่า...
คืนเงินแล้ว คืนที่แล้ว ทำไมยังมีความผิด...
เพราะความผิดเกิดขึ้นแล้ว...ตั้งแต่วันที่เซ็นต์ยินยอมให้ภรรยาซื้อที่ดิน
ผลที่ตามมา คือสัญญาเป็นโมฆะ ตามคำพิพากษา คู่กรณีจึงต้องคืนเงิน คืนที่
แต่ไม่ได้ส่งผลว่า..การทำนิติกรรมไม่ได้เกิดขึ้น...จึงมีความผิด
คนที่อ้างแบบนี้ เค้าเรียกว่า ไม่มีอะไรจะแถ..
อย่างเช่น...
โจรปล้นเงินธนาคาร...จับได้ คืนเงินทั้งหมด...ยังติดคุก เพราะ ปล้นไปแล้ว แต่ไปไม่รอด
สั้น ๆ ง่าย ๆ...กรรมเกิดขึ้นแล้ว..โทษจึงมี
นี่คือ คำตอบ ของโจทย์นี้ครับ
เห็นภาพเลย ขโมยไก่ แล้วเอาไก่ไปคืน
#37
Posted 17 November 2011 - 18:46
ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย
ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"
ทูอินวันหรือเปล่า ?
อย่าเพิ่งนอกเรื่องน่ะครับ เดี๋ยวเค้าหาว่าคุณ แถ นะครับ นอกเรื่องออกทะเลไปใหญ่แล้วจะไม่ผ่าน QC เอานะ
ที่ตั้งทู้ไว้มีคนตอบมาพอเข้าใจแล้วนะครับ คำตอบตามข้างบนนะ อ่านด้วย ขอบคุณครับ
#38
Posted 17 November 2011 - 18:46
ตรงไหนที่เค้าใช้ "ค่ะ"ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย
ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"
ทูอินวันหรือเปล่า ?
#39
Posted 17 November 2011 - 18:47
ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย
ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"
ทูอินวันหรือเปล่า ?
โอ้วว คำพูดเดียวกับคุณอิช เลยครับ อิอิ
#40
Posted 17 November 2011 - 18:51
ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย
ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"
ทูอินวันหรือเปล่า ?
ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย
ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"
ทูอินวันหรือเปล่า ?
ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย
ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"
ทูอินวันหรือเปล่า ?
ไหนๆก็เข้ามาแล้วจะไม่ตอบกระทู้หน่อยเหรอ มัวแต่ไปสนใจค่ะ ครับอะไรอยู่ได้
#41
Posted 17 November 2011 - 18:58
#43
Posted 17 November 2011 - 19:06
POPULAR
แต่คิดว่าระดับมันสมองของพวกนับถือศาสนาชินวัตรอย่างน้องคงจะไม่เข้าใจอยู่ดี
เอาเป็นว่าพี่อธิบายเผื่อฟลุกละกัน
น้องเคยสงสัยมั้ย ว่าเวลาเขาจัดรายการส่งชิ้นส่วนชิงรางวัล หรือประกวดรูปถ่าย
ทำไมเขาต้องเขียนไว้ว่า "พนักงานของบริษัทที่จัดรายการชิงรางวัลนี้และครอบครัวไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมชิงรางวัล" หรือร่วมประกวด
- pochi, คนกวาดขยะ, นายตัวเกร็ง and 9 others like this
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#44
Posted 17 November 2011 - 19:09
ปล้นชาติแล้ว คืนเิงิน ไม่ผิดกฎหมายครับนะ อย่ามาว่า ปูแปดปี ของผมนะ Bird
อุ๊ย...ไม่ได้ว่าใครนี้ค่ะ..แค่อธิบายให้ฟังตามประสาชาวบ้านเท่านั้นเอง
โธ่...ใครจะกล้าว่าหล่ะค่ะ..ออกจะบอบบางซะขนาดนั้น...ทั้งไทยและอังกฤษ
ใครว่าปูแปดปีของผมบาง หนา ต่างหาก หนามากๆ โดยเฉพาะกระดองตรงหัวปู
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#45
Posted 17 November 2011 - 19:13
#46
Posted 17 November 2011 - 19:14
#47
Posted 17 November 2011 - 19:41
ตั้งทู้แสดงความเห็นแล้วเปิดตรูด...
จะไม่เข้ามาอ่าน จะเข้ามาแซวอย่างเดียว.. กร๊ากกกก...
#48
Posted 17 November 2011 - 19:50
#49
Posted 17 November 2011 - 19:50
ชาวบ้านอย่างผมฟังต่อมาอีกว่า ในคำตัดสินนั้น เบื้องต้น ศาลฯ ท่านไม่เชื่ออยู่แล้วว่าทักษิณร่วมรู้เห็นกับคุณหญิงพจมานในการซื้อ-ขายด้วย เพราะไม่มีหลักฐานปรากฏ ศาลยังให้เครดิตอีกว่าคนรวยระดับนี้จะซื้ออะไรสักอย่างก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสุมหัวกันคิดแล้วคิดอีก จะซื้อดี ไม่ซื้อดีอย่างเราๆท่านๆ แต่ศาลฯท่านก็บอกต่อว่า " แต่เมื่อคุณหญิงไม่สามารถนำหลักฐานที่ว่าทักษิณไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งศาลก็เชื่อว่าไม่มีอยู่แล้วนั้น มาแสดงให้ศาลฯเห็นได้ จึงมีความผิด"
เอาแค่ตรงที่ให้สีแดงไว้ ผมก็สลดสังเวชใจแล้ว ทักษิณไปเซ็นชื่อยินยอมให้คุณหญิงพจฯ ซื้อที่ดินรัชดาแล้วจะมาบอกไม่รู้ได้ไง
#50
Posted 17 November 2011 - 19:53
เจ้าของกระทู้อย่าไปพูดนอกเรื่องเลย ถ้าต้องการเหตุผล
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users