Jump to content


Photo
- - - - -

...ที่ดินรัชดา ประสาชาวบ้าน...


  • Please log in to reply
308 ความเห็นในกระทู้นี้

#101 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 10:42

เวลาศาลตัดสิน ว่า ตระกูลมันถูก ละไม่เห็นมีใครออกมาว่าอะไรเลย
แต่พอผิด ละก็ หูย จัดเต็มมาตรึม
เรามี กติกา ที่ใช้อยู่ร่วมกัน มีคนสงสัยว่าคุณทำผิด
ก็ส่งศาลตัดสิน เขาก็รับกันได้ทั้งบ้านทั้งเมือง ไม่ว่าผงจะเป็นอย่างไร
มี คุณพ่อทักกี้ นี่แหละที่ต้องมีประเด็นทุกที
ถุงขนม สองล้านอ่ะนะ โคตรทุเรศ เลยบอกตรงๆ

#102 tryland

tryland

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 257 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 10:56

ผิดถูกก็ว่ากันไป แล้ว คดีเขายายเที่ยงระ ชาวบ้านบุกรุกตีนเขา ติดคุก แล้วอีกคนยึดยอดเขา ไม่ผิด อยากรู้เหมือนกัน

ชิฟท์หาย ลืมตัว เขียนเกินสามบรรทัด :lol:


รีบๆฉิบหายนะครับ เหอะๆๆ :D

#103 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:00



http://www.dlo.co.th/node/204

ข้อมูลพิ่มเติม


อ่านแล้วเข้าใจว่าไงครับ


ผมอ่านดูแล้วตาลายครับ ยาว >.< หรือผมจะอ่านแต่ไฮไลต์ กะ3บรรทัดสุดท้ายดี :P

อันนี้ผมมองอย่างคนอยากรู้นะครับ ไม่ได้อยากให้ผิด หรืออยากให้ถูก อ่านแล้วมีช่องว่างที่เขายังไม่ได้นำเสนออีกนี่ครับ ลองเข้าไปดูในแหล่งอ้างอิงสิ


อืมม์ เครือ ว่า....ผมอยากรู้ว่า ต้นอ้อลู่ลม อ่านแล้วใช้สมองคิดมั่งป่าว ว่ามันคืออะไร ยังไง

:lol:

#104 tryland

tryland

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 257 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:02

ตกลงเจ้าของกระทู้ไม่มีอะไรมาแย้งความเห็นของหลายๆคนใช่มั้ยครับ
เห็นได้แต่นิ่งเงียบ แล้วก็แปะลิงค์เฉยๆ แสดงความเห็นบ้างก็ดีนะครับ


เหอะๆ หาก หนึ่งหรือสองคำถามคงจะแย้งได้บ้าง นี้เล่นยกฝูงมาแบบนี้
ใครจะไปตอบไหว เหอะๆ :D

#105 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:05


ตกลงเจ้าของกระทู้ไม่มีอะไรมาแย้งความเห็นของหลายๆคนใช่มั้ยครับ
เห็นได้แต่นิ่งเงียบ แล้วก็แปะลิงค์เฉยๆ แสดงความเห็นบ้างก็ดีนะครับ


เหอะๆ หาก หนึ่งหรือสองคำถามคงจะแย้งได้บ้าง นี้เล่นยกฝูงมาแบบนี้
ใครจะไปตอบไหว เหอะๆ :D


ถ้าถามคนเดียว มันจะตอบว่างั้นเถอะ..

:lol:

#106 ต้นหอม

ต้นหอม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,472 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:08


ตกลงเจ้าของกระทู้ไม่มีอะไรมาแย้งความเห็นของหลายๆคนใช่มั้ยครับ
เห็นได้แต่นิ่งเงียบ แล้วก็แปะลิงค์เฉยๆ แสดงความเห็นบ้างก็ดีนะครับ


เหอะๆ หาก หนึ่งหรือสองคำถามคงจะแย้งได้บ้าง นี้เล่นยกฝูงมาแบบนี้
ใครจะไปตอบไหว เหอะๆ :D

ช่วยคุณปลายอ้อตอบบ้างก็ได้นะคะ เห็นแต่ให้กำลังใจอย่างเดียว ถ้าพอช่วยๆคุณปลายอ้อได้ก็ช่วยมาเถอะค่ะ

มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต

และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต

แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น


#107 คนดื่มเบียร์

คนดื่มเบียร์

    พอจะทนแดงได้หน่อยๆ

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,721 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:10

ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย :lol:


ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"

ทูอินวันหรือเปล่า ?

ตรงไหนหว่า ที่ผมเขียน ครับ เขียน ค่ะ งง จริงๆ ตกลงผมบ้า หรือ ปลายอ้อ เมา :lol:

ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "


#108 antiseptic

antiseptic

    น้องใหม่และซิง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,672 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:14


ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย :lol:


ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"

ทูอินวันหรือเปล่า ?

ตรงไหนหว่า ที่ผมเขียน ครับ เขียน ค่ะ งง จริงๆ ตกลงผมบ้า หรือ ปลายอ้อ เมา :lol:

คิดว่าปลายอ้อน่าจะทั้งบ้า ทั้งเมา
"We all make choices. But in the end, our choices make us."Andrew Ryan

#109 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:28


ตกลงเจ้าของกระทู้ไม่มีอะไรมาแย้งความเห็นของหลายๆคนใช่มั้ยครับ
เห็นได้แต่นิ่งเงียบ แล้วก็แปะลิงค์เฉยๆ แสดงความเห็นบ้างก็ดีนะครับ


เหอะๆ หาก หนึ่งหรือสองคำถามคงจะแย้งได้บ้าง นี้เล่นยกฝูงมาแบบนี้
ใครจะไปตอบไหว เหอะๆ :D


แต่มันก็น่าแปลกอยู่เหมือนกันนะครับ แค่แย้งซักคน ก็ยังไม่ไหว??

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#110 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:30


ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย :lol:


ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"

ทูอินวันหรือเปล่า ?

ตรงไหนหว่า ที่ผมเขียน ครับ เขียน ค่ะ งง จริงๆ ตกลงผมบ้า หรือ ปลายอ้อ เมา :lol:


ไม่รู้ว่าคุณปลายอ้อเข้าใจผิดเหมือนผมหรือเปล่า ผมเห็นเดือนพฤศจิกาคม ในวันที่แล้วคิดไปเองว่าเป็นชื่อล็อกอิน !!

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#111 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:38


ตกลงเจ้าของกระทู้ไม่มีอะไรมาแย้งความเห็นของหลายๆคนใช่มั้ยครับ
เห็นได้แต่นิ่งเงียบ แล้วก็แปะลิงค์เฉยๆ แสดงความเห็นบ้างก็ดีนะครับ


เหอะๆ หาก หนึ่งหรือสองคำถามคงจะแย้งได้บ้าง นี้เล่นยกฝูงมาแบบนี้
ใครจะไปตอบไหว เหอะๆ :D


คำถามมาจากหัวกระทู้ที่คุณ จขกท กรั่นกรองมาโพสอย่างดีแล้ว ไม่น่าจะตอบยากนะครับไม่ว่าจะถามกี่คน "ถ้ามั่นใจ" ;)
Posted Image

#112 tryland

tryland

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 257 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:40



ตกลงเจ้าของกระทู้ไม่มีอะไรมาแย้งความเห็นของหลายๆคนใช่มั้ยครับ
เห็นได้แต่นิ่งเงียบ แล้วก็แปะลิงค์เฉยๆ แสดงความเห็นบ้างก็ดีนะครับ


เหอะๆ หาก หนึ่งหรือสองคำถามคงจะแย้งได้บ้าง นี้เล่นยกฝูงมาแบบนี้
ใครจะไปตอบไหว เหอะๆ :D

ช่วยคุณปลายอ้อตอบบ้างก็ได้นะคะ เห็นแต่ให้กำลังใจอย่างเดียว ถ้าพอช่วยๆคุณปลายอ้อได้ก็ช่วยมาเถอะค่ะ


คงไม่ไหวครับ ผมไม่มีความสามารถและเวลา พอครับ ขอแจมๆเล่นแล้วกันท่านๆทั้งหลายคงไม่ว่า :D

#113 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:44

จำเลย1 ผัวผิดที่เซนต์
จำเลย2 เมียผิดที่ซื้อ
Posted Image

#114 ปลายอ้อกอแขม

ปลายอ้อกอแขม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,243 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:45



ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุมัติให้เมียตัวเองเข้าทำสัญญาซื้อขายในทรัพย์สินหรือเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ตรงนี้ล่ะครับความผิดในที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผมเข้าใจครับ ตาสีตาสา ไม่เข้าใจหรอก แล้วบอกต่อกันไป เมียซื้อ ผัวเซ็นต์ ทำไมถึงติดคุก ไอ้กระผมก็นึกว่า ล๊อคอิน ปลายอ้อกอแขม ที่เขาเลื่องลือในความเป็นอัจฉริยะในเวปบ้านราษฐร์ จะมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเหล่าเสื้อแดงระดับคุณภาพห้าดาว ที่แท้ ระดับเดียวกับโปกลุ๊กเลยน่ะเนี่ย :lol:


ไรว๊า.. ล็อคอินนี้
เดี๋ยวหญิง เดี๋ยวชาย
สบสัน ผมสับสนจริง เดี๋ยว "ครับ" เดี๋ยว "ค่ะ"

ทูอินวันหรือเปล่า ?

ตรงไหนหว่า ที่ผมเขียน ครับ เขียน ค่ะ งง จริงๆ ตกลงผมบ้า หรือ ปลายอ้อ เมา :lol:


ไม่รู้ว่าคุณปลายอ้อเข้าใจผิดเหมือนผมหรือเปล่า ผมเห็นเดือนพฤศจิกาคม ในวันที่แล้วคิดไปเองว่าเป็นชื่อล็อกอิน !!

ถ้าผิดพลาด ขออภัยครับ
ผมอาจจะตาลายไปบ้าง
อาจจำผิด

#115 rakchart thai

rakchart thai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 791 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:48

ชาวบ้านอย่างผมไม่ได้มีเจตนาหมิ่นศาล หรือใครทั้งสิ้น แต่มันเป็นข้อสงสัยที่ยัง “คาใจ”อยู่ไม่รู้หาย ผมเองก็ไม่ได้รักทักษิณมากมายอะไรนัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทักษิณนั้น ผมไม่สามารถอธิบายกับใครได้จริงๆ หรือว่าผมอาจจะโง่เกินไป


เมื่อคุณก็บอกมาว่าไม่มีเจตนาดูหมิ่นศาล เมื่อศาลตัดสินไปแล้ว ทุกอย่างถือว่ายุติ ..

ในอดีตมีหลายฝ่ายที่เห็นต่างต่อคดีซุกหุ้นของทักษิณ ว่ามีความผิดปรกติในคำตัดสิน แต่เมื่อตัดสินไปแล้วก็ถือว่ายุติ..ไม่ใช่หรือ ..

แล้วคุณจะมาหาเรื่องอวยทักษิณทำไมที่นี่ ...

#116 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:56

คำตอบมันอยู่ปลายจมูกแต่พยายามมองไปใกลๆเพื่อที่จะไม่มองมันเพราะมันไม่สวยงามถูกใจ
Posted Image

#117 ปลายอ้อกอแขม

ปลายอ้อกอแขม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,243 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:01

จากนี่
ศาลฯ ท่านไม่เชื่ออยู่แล้วว่าทักษิณร่วมรู้เห็นกับคุณหญิงพจมานในการซื้อ-ขายด้วย
เพราะไม่มีหลักฐานปรากฏ ศาลยังให้เครดิตอีกว่าคนรวยระดับนี้จะซื้ออะไรสักอย่าง
ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสุมหัวกันคิดแล้วคิดอีก จะซื้อดี ไม่ซื้อดีอย่างเราๆท่านๆ แต่ศาลฯท่านก็บอกต่อว่า

แต่เมื่อคุณหญิงไม่สามารถนำหลักฐานที่ว่าทักษิณไม่เกี่ยวข้อง
ซึ่งศาลก็เชื่อว่าไม่มีอยู่แล้วนั้น มาแสดงให้ศาลฯเห็นได้ จึงมีความผิด

ผมกำลังบอกว่าศาลตัดสินให้ผิด ในสิ่งที่ศาลก็เชื่ออยู่แล้วว่าไม่มีแต่ต้น
ศาลไม่ได้ติดสินว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ ตาม ม.100
ศาลตัดสินให้ผิด เพราะทักษิณหรือคุณหญิงไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า ทักษิณไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในการณีนี้ ซึ่งศาลฯท่านก็เชื่อไม่มี

ท่านจะอธิบายมาตรานี้ อย่างไร ?

มาตรา 184 บัญญัติไว้ว่า
“ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้
ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”

เมื่อผลออกมา 4-4 ยังมีเหตุสงสัย
ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนจะทำอย่างไร ?

โปรดชี้แนะครับ
ด้วยความเคารพในความเห็นของท่าน

#118 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:02


กรุณาไปอ่านคำพิพากษา

ไม่ใช่ ประชาทุย


ผมเอามาให้อ่านเปรียบเทียบอีกมุมหนึ่ง
เพื่อเพิ่มเติมข้อคิดเห็น จากหนึ่งในหลายแห่ง

มันไม่ใช่คนในประชาไทยเขาเขียน แต่เป็นผู้พิพากษาเขาวิเคราะห์

เปิดมุมบ้าง
คุณอาจบอกว่าผมเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์กับผมมาลง
ไม่เอาคำพิพากษามาลงซึ่งเป็นประโยชน์กับคุณ

ผมเชื่อโดยสุจริตใจเลยว่า
ถ้าคดีนี้ ทักษิณพ้นผิด คุณจะบอกว่า ทักษิณซื้อผู้พิพากษา

ซึ่งผมก็มองว่าการตัดสินไม่ชอบ ตามที่ผมเอาลงไว้

คุณเรียกเขาว่า ประชา "ทุย" เพราะเกลียด
ระวัง เขาก็จะเรียกคุณอย่างนี้ เหมือนกัน

ผมก็ว่ามันซื้อผู้พิพากษาจริงๆ ก็ถุงขนม 2 ล้านไง

#119 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:07

เมียซื้อที่ดิน ที่รัชดานะครับกลางกรุง ราคาเป็นเลขหลายหลัก มีหรือที่ผัวจะไม่รู้ ฮาๆๆๆๆๆๆ :lol:
Posted Image

#120 ปลายอ้อกอแขม

ปลายอ้อกอแขม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,243 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:29

คำตอบมันอยู่ปลายจมูกแต่พยายามมองไปใกลๆเพื่อที่จะไม่มองมันเพราะมันไม่สวยงามถูกใจ


รืวมะคุง

ผมตอบแล้ว
ได้โปรดกรุณาช่วยอธิบายให้กระจ่างนิดเถอะครับ

ผมโง่จริงๆ อ่านแล้วไม่เข้าใจ

#121 ปลายอ้อกอแขม

ปลายอ้อกอแขม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,243 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:31


คำตอบมันอยู่ปลายจมูกแต่พยายามมองไปใกลๆเพื่อที่จะไม่มองมันเพราะมันไม่สวยงามถูกใจ


รืวมะคุง

ผมตอบแล้ว
ได้โปรดกรุณาช่วยอธิบายให้กระจ่างนิดเถอะครับ

ผมโง่จริงๆ อ่านแล้วไม่เข้าใจ


แล้วช่วยอ่านให้เกิน 1 บรรทัดด้วย
จักเป็นพระคุณยิ่ง

#122 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:36

ผมว่าเขาอธิบายจนเบื่อแล้วแต่คุณไม่สนใจจะฟังเองมากกว่าเพราะคุณเชื่อไปแล้วว่าอำมาตย์แกล้ง 3-4 มาตราฐาน
คดีชุกหุ้น 1 ทุกคนก็ยอมรับ แต่ตอน นีแม้วเสียประโยชน์เลยไม่ยอมรับใช่ไหมครับ
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#123 ปลายอ้อกอแขม

ปลายอ้อกอแขม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,243 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:44

ผมว่าเขาอธิบายจนเบื่อแล้วแต่คุณไม่สนใจจะฟังเองมากกว่าเพราะคุณเชื่อไปแล้วว่าอำมาตย์แกล้ง 3-4 มาตราฐาน คดีชุกหุ้น 1 ทุกคนก็ยอมรับ แต่ตอน นีแม้วเสียประโยชน์เลยไม่ยอมรับใช่ไหมครับ



เห็นกวักมือหยอยๆ ท้าเหย็งให้เข้ามาตอบ
พอมาตอบ ก็บอกเบื่อแล้ว เลยไปเรื่องอื่นๆอีก

จึงเริ่มสับสนว่าจะให้ตอบหรือไม่ให้ตอบ ก็บอกมา
หรือให้ผมตั้งกระทู้เหมือนเดิม
แล้วให้คุณมาด่าอย่างเดียวดีกว่ามั๊ย

ผมเขียน คุณด่า ผมเขียน คุณด่า..ตกลงนะครับ

#124 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:45

สืบเนื่องจากมีบางกระทู้ในนี้พูดคุยเรื่องคดี ที่ดินรัชดา ซึ่งถูกตัดสินโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าอีแม้ว มีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100(1) และมีการพิพากษาให้อีแม้วมันติดคุก 2 ปี กระทู้ดังกล่าวเจ๊ขอไม่ยกลิงค์มาเพื่อไม่ให้เป็นการดันกระทู้มาให้รกบอร์ด

เจ้าของกระทู้นั้น คุณเธอว์ได้อ้างเรื่องเสียข้างมากในคดีดังกล่าว จึงขอยกคำพิพากษามาตามข้างล่างนี้


อ้างมา

การ ซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 2 กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ดังกล่าว เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนบุคคล ขัดแย้งกับผลประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งต้องห้ามมิให้กระทำ ตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคู่สมรสของจำเลยที่ 1 เข้าทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบัน การเงิน ย่อมถือว่าการเข้าทำสัญญานั้นเป็นการกระทำของจำเลยที่ 1 เอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 100 วรรค 3 ที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าการลงลายชื่อให้ความยินยอมแทนจำเลยที่ 2 ในการทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาท เป็นเพียงการปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบบริหารราชการนั้น เมื่อจำเลยทั้งสองไม่มีพยานหลักฐานใดมาพิสูจน์ให้เห็นว่า จำเลยที่ 1 มิได้รู้เห็นยินยอมด้วยในการที่จำเลยที่ 2 ดำเนินกิจการตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เพื่อแก้ตัวให้จำเลยที่ 1 พ้นผิด ตามมาตรา 122 วรรค 2 เช่นนี้ องค์คณะผู้พิพากษาจึงมีมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 4 ว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติ มาตรา 100 (1) ซึ่งต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งสองในส่วนนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน

ในประเด็นตัดสินข้างต้น คุณเธอว์คนนั้น ได้หยิบยกมาตรา 184 แห่งประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาคดีอาญามา แต่คุณเธอว์กลับตัดตอน ไม่ยอมยกมาทั้งมาตรา แต่ยกมาเฉพาะส่วนท้าย เจ๊ก็เก็กซิม ไม่รู้ว่าพระเจ้ามูลเมืองดลใจเธอว์หรืออย่างไร ถึงได้ยกมาแหว่งๆแบบนั้น สรุปคร่าวๆก็คือ คุณเธอ บอกว่าถ้าประเด็นใดมีความเห็นแย้งกัน...ให้ถือเสียงที่เป็นประโยชน์แก่จำเลย ดังนั้นอีแม้วจึงต้องไม่ผิด??? โดยในกระทู้ดังกล่าวพยายาม บิดเบือนโดยกันตัว "ประธาน(เจ้าของสำนวน)" ออกไปเพื่อทำให้เห็นภาพว่า องค์คณะตัดสินเสมอกันที่ 4-4 เสียง ทำให้เจ้าของสำนวนต้องตัดสินไปในทางที่อีแม้วจะได้ประโยชน์



อ้างมา

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 184 ในการประชุมปรึกษาเพื่อมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ อธิบดีผู้พิพากษา ข้าหลวงยุติธรรม หัวหน้าผู้พิพากษาในศาลนั้น หรือเจ้าของสำนวนเป็นประธาน ถามผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาทีละคน ให้ออกความเห็นทุกประเด็นที่จะวินิจฉัย ให้ประธานออกความเห็นสุดท้าย การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก ถ้าในปัญหาใดมีความ เห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายหรือเกินกว่าสองฝ่ายขึ้นไปจะหาเสียงข้าง มากมิได้ ให้ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากยอม เห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า

แต่ แต่ แต่ ขอรับประทานโทษค่ะ!!! นี้เป็น "คดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" ต้องใช้หลักเกณฑ์ ตัวบทตามวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะอยู่ใน "พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.๒๕๔๒" (ไม่ต้องตกใจเรื่องปี พ.ศ.ค่ะ ยังใช้ได้อยู่) มาปรับใช้กับกรณีนี้ ไม่ใช่ยกประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญามาอ้างดื้อๆแบบนั้น มันใช้ไม่ได้ค่ะ เหมือนกับเอาเิงินวอนไปซื้อโอเลี้ยง โดยอ้างว่าเป็นเงินเหมือนกัน ใช้แทนกันได้ แบบนี้จะเจอตะบวยคนขายตบหัวค่ะ อยู่ประเทศไทยก็ใช้เงินไทย ไม่ใช้ไปใช้เงินเกาหลี

อันที่จริง มันก็เอา วิฯอาญา มาใช้ได้อยู่ค่ะ แต่ไม่ใช่กรณีตามเรื่องในกระทู้นี้ โดยผ่านมาตรา 18 วรรคสอง เพราะเรื่องเสียงข้างมากมีบัญญัติไว้โดยตรงใน พ.ร.บ.แล้ว


อ้างมา

พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542
มาตรา 18 ประธานศาลฎีกาโดยความเห็นชอบของที่ ประชุมใหญ่ศาล ฎีกา มีอำนาจออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีเพื่อใช้แก่การปฏิบัติงาน ของศาลได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

นอกจากที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ กระบวน พิจารณาในศาลให้เป็นไปตามข้อกำหนดตามวรรคหนึ่ง ในกรณีที่ไม่มีข้อ กำหนดดังกล่าว ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ อาญามาใช้บังคับสำหรับคดีอาญา และบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับสำหรับคดีกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติหรือมี ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ โดยอนุโลม

มาตรานี้ค่ะทุกคน ที่บอกให้ตัดสินตามเสียงข้างมาก ไม่ได้บอกให้กันตัวเจ้าของสำนวนออกไปเลย


อ้างมา

มาตรา 20 การทำ คำสั่งที่เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดหรือการพิพากษาคดี ให้ผู้พิพากษาในองค์คณะผู้พิพากษาทุกคนทำความเห็นในการวินิจฉัยคดี เป็นหนังสือพร้อมทั้งต้องแถลงด้วยวาจาต่อที่ประชุมก่อนการลงมติ และให้ถือมติตามเสียงข้างมาก ในการนี้องค์คณะผู้พิพากษาอาจมอบหมายให้ ผู้พิพากษาคนใดคนหนึ่งในองค์คณะผู้พิพากษาเป็นผู้จัดทำคำสั่งหรือ คำพิพากษาตามมตินั้นก็ได้

คำสั่งที่เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดคดีหรือคำพิพากษาของศาล ให้เปิดเผย โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนความเห็นในการวินิจฉัยคดีของ ผู้พิพากษาในองค์คณะผู้พิพากษาทุกคนให้เปิดเผยตามวิธีการที่ประธาน ศาลฎีกากำหนด

อีกเรื่องคดีนี้มีองค์คณะผู้พิพากษา"เก้าคน" มันเป็นเลขคี่ จะออกมาสี่ครึ่งต่อสี่ครึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ยังไงมันก็เสมอกันไม่ได้อยู่แล้วค่ะ ผลออกมายังไงก็มีเสียงข้างมากอยู่ในตัวแล้ว ทุกๆคนมีสิทธิที่จะออกเสียง ให้ึความเห็นในการวินิจฉัย พิพากษาคดี องค์คณะผู้พิพากษาทั้งเก้าคนมีความเห็นออกมายังไงก็ให้ยึด "เสียงข้างมาก" แล้วทำคำพิพากษาออกมาตามมติเสียงข้างมากนั้น หวังว่าพวกไพร่แดงคงจะเข้าใจนะคะ ขอย้ำอีกรอว่าตัดสินจากคนทั้งเก้าท่าน ทั้งเก้าท่านเห็นอย่างไรก็ให้ว่าไปตามเสียงข้างมาก ไม่มีมาแบ่งองค์คณะแปดคนตัดสินก่อนแล้วให้เจ้าของสำนวนตัดสินขั้นสุดท้าย อะไรนั้นไม่มีค่ะ

ส่วนรายละเอียดในเรื่องมาตรา 100 ของกฎหมายป.ป.ช.เพื่อนๆในนี้เขียนไปแล้ว เจ๊จึงขอไม่เขียนอีกค่ะ

คงจะพอมั่งครับ ผมไปยก ข้อความอีกกระทู้ หนึ่งมาให้คุณอ่าน
ปล. อ่านให้เกิน 3 บรรทัดนะครับ อีกนี้เกือบยกมาทั้งกฏหมายแล้ว
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#125 ปลายอ้อกอแขม

ปลายอ้อกอแขม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,243 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:53

ขอบคุณที่เอามาแปะ

"อีกเรื่องคดีนี้มีองค์คณะผู้พิพากษา"เก้าคน" มันเป็นเลขคี่ จะออกมาสี่ครึ่งต่อสี่ครึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ยังไงมันก็เสมอกันไม่ได้อยู่แล้วค่ะ ผลออกมายังไงก็มีเสียงข้างมากอยู่ในตัวแล้ว ทุกๆคนมีสิทธิที่จะออกเสียง ให้ึความเห็นในการวินิจฉัย พิพากษาคดี องค์คณะผู้พิพากษาทั้งเก้าคนมีความเห็นออกมายังไงก็ให้ยึด "เสียงข้างมาก" แล้วทำคำพิพากษาออกมาตามมติเสียงข้างมากนั้น หวังว่าพวกไพร่แดงคงจะเข้าใจนะคะ ขอย้ำอีกรอว่าตัดสินจากคนทั้งเก้าท่าน ทั้งเก้าท่านเห็นอย่างไรก็ให้ว่าไปตามเสียงข้างมาก ไม่มีมาแบ่งองค์คณะแปดคนตัดสินก่อนแล้วให้เจ้าของสำนวนตัดสินขั้นสุดท้าย อะไรนั้นไม่มีค่ะ"

ถ้าเช่นนั้น จะอธิบายมาตรา 184 นี้อย่างไร ..อีกครั้ง

มาตรา 184 บัญญัติไว้ว่า
“ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้
ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”

ผมยิ่งสงสัยไปใหญ่เลยว่า
ในการตัดสินความผิดใครสักคน มีการยกเว้นกฎหมายกันด้วยหรือ ?
สามารถนำกฎหมายที่เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชนกับใคร มาใช้หรือไม่ใช่ได้ด้วยหรือ ?

ยิ่งฟังยิ่งตลก..เมืองไทย

#126 JarTown

JarTown

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 46 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:56

จากนี่
ศาลฯ ท่านไม่เชื่ออยู่แล้วว่าทักษิณร่วมรู้เห็นกับคุณหญิงพจมานในการซื้อ-ขายด้วย
เพราะไม่มีหลักฐานปรากฏ ศาลยังให้เครดิตอีกว่าคนรวยระดับนี้จะซื้ออะไรสักอย่าง
ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสุมหัวกันคิดแล้วคิดอีก จะซื้อดี ไม่ซื้อดีอย่างเราๆท่านๆ แต่ศาลฯท่านก็บอกต่อว่า

แต่เมื่อคุณหญิงไม่สามารถนำหลักฐานที่ว่าทักษิณไม่เกี่ยวข้อง
ซึ่งศาลก็เชื่อว่าไม่มีอยู่แล้วนั้น มาแสดงให้ศาลฯเห็นได้ จึงมีความผิด

ผมกำลังบอกว่าศาลตัดสินให้ผิด ในสิ่งที่ศาลก็เชื่ออยู่แล้วว่าไม่มีแต่ต้น
ศาลไม่ได้ติดสินว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ ตาม ม.100
ศาลตัดสินให้ผิด เพราะทักษิณหรือคุณหญิงไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า ทักษิณไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในการณีนี้ ซึ่งศาลฯท่านก็เชื่อไม่มี


ผมก็เชื่อว่าคุณทักษิณไม่มีหลักฐานนั้นเหมือนกันว่าคุณทักษิณไม่เกี่ยวข้องอะไร หรือไม่รู้เห็นเลย

และผมก็เชื่อว่าศาลคิดว่าคุณทักษิณจะอ้างว่าไม่รู้เรื่องได้ยังไง ในเมื่อคุณทักษิณได้เซ็นยินยอมให้ภรรยาทำธุรกรรมอันนั้นไปแล้ว ตามความเชื่อทางกฏหมายทุกคนที่เซ็นอะไรลงไป ควรจะต้องอ่านสิ่งที่จะยินยอมแล้ว ถ้าไม่อ่านก็เรื่องของคุณ คุณจะมาอ้างภายหลังว่าไม่ได้อ่าน ไม่ได้รับรู้ไม่ได้ เพราะคุณกระทำเสมือนว่าคุณได้อ่านไปแล้วด้วยการเซ็นยินยอม จะมาทะลึ่งอ้างทีหลังมันก็ฟังไม่ขึ้นอยู่แล้ว

แล้วผมถามจริงๆ คุณจะซื้อของหรือที่ดินอะไรราคา 772 ล้านบาท มันไม่ต้องปรึกษา ไม่ต้องคุยกันจริงๆ เหรอ

สมมติถ้าคุณทักษิณมีทรัพย์สิน 7 หมื่นล้าน มูลค่า 772 ล้าน ก็ประมาณ 1 % ของทรัพย์สินที่มีอยู่

เสมือนว่าถ้าคุณเจ้าของกระทู้มีทรัพย์สิน 10 ล้าน (รวมบ้านและรถและเงินสดอะไรทั้งหมดด้วย) วันนึง เมียคุณบอกขอลายเซ็นคุณหน่อยจะไปทำสัญญาที่ในที่สุดต้องจ่ายเงิน 1 แสนบาทถ้วน (1% ของทรัพย์สินของคุณ) เมียบอกจะเอาตังไปทำหน้าเด้ง คุณไม่ยี่หระ ไม่สนใจอะไรเลยเหรอ แล้วคุณจะมาอ้างว่าไม่รู้ได้เหรอ

#127 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 12:56

จากนี่
ศาลฯ ท่านไม่เชื่ออยู่แล้วว่าทักษิณร่วมรู้เห็นกับคุณหญิงพจมานในการซื้อ-ขายด้วย
เพราะไม่มีหลักฐานปรากฏ ศาลยังให้เครดิตอีกว่าคนรวยระดับนี้จะซื้ออะไรสักอย่าง
ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสุมหัวกันคิดแล้วคิดอีก จะซื้อดี ไม่ซื้อดีอย่างเราๆท่านๆ แต่ศาลฯท่านก็บอกต่อว่า

แต่เมื่อคุณหญิงไม่สามารถนำหลักฐานที่ว่าทักษิณไม่เกี่ยวข้อง
ซึ่งศาลก็เชื่อว่าไม่มีอยู่แล้วนั้น มาแสดงให้ศาลฯเห็นได้ จึงมีความผิด

ผมกำลังบอกว่าศาลตัดสินให้ผิด ในสิ่งที่ศาลก็เชื่ออยู่แล้วว่าไม่มีแต่ต้น
ศาลไม่ได้ติดสินว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ ตาม ม.100
ศาลตัดสินให้ผิด เพราะทักษิณหรือคุณหญิงไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า ทักษิณไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในการณีนี้ ซึ่งศาลฯท่านก็เชื่อไม่มี

ท่านจะอธิบายมาตรานี้ อย่างไร ?

มาตรา 184 บัญญัติไว้ว่า
“ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้
ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”

เมื่อผลออกมา 4-4 ยังมีเหตุสงสัย
ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนจะทำอย่างไร ?

โปรดชี้แนะครับ
ด้วยความเคารพในความเห็นของท่าน


สับสนอะไรหรือเปล่าครับ

ตามมาตรา ๑๘๔ ป.วิ.อ. นั้น บัญญัติให้ (ตามลำดับเนื้อความ แยกเพื่อให้อ่านง่าย)

๑. ให้ประธานถามองค์คณะทีละท่าน แล้วประธานจึงออกความเห็นเป็นท่านสุดท้าย

๒. การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก

๓. หากเสียงยังขัดแย้งเป็น ๒ ฝ่าย หรือมากกว่า โดยยังหาที่เสียงข้างมากกว่าไม่ได้ จึงค่อยให้ฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยมากกว่า ยอมให้กับฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยน้อยกว่า

http://www.kodmhai.c...m3-182-192.html

นัยว่ามาตรา บทบัญญัตินี้ เพื่อแก้ไขกรณีที่องค์คณะพิจารณาเกิดเสียงแตกเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน จะได้หาข้อยุติ แต่ในกรณีตามปัญหา มีองค์คณะ จำนวน ๙ คน ซึ่ง ทั้ง ๙ คนได้ลงมติแล้ว เป็น ๕ ต่อ ๔ ถือได้ว่าได้เสียงข้างมากแล้ว จึงไม่จำต้องนำ มาตรา ๑๘๔ ในช่วงท้ายมาพิจารณา

อย่าพยายามบิดเบือนกฎหมาย ตัดเอาเฉพาะตามใจ
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#128 Maximud

Maximud

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 117 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:03

^_^

คุณภาพของประชาธิปไตยอยู่ที่คุณภาพของคน คุณภาพของคนอยู่ที่การศึกษา คุณภาพของการศึกษาคือรากฐานที่จะยกระดับของคนเพื่อให้เกิดประชาธิปไตยที่มีคุณภาพที่สูง หากคนยังไม่ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ เราก็จะได้ประชาธิปไตยที่คุณภาพต่ำ


#129 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:03

พิมพ์จนเมื่อยสรุปมันไม่เข้าตาจริงๆแฮะ :lol:
Posted Image

#130 ThaILandLover

ThaILandLover

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 235 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:04


จากนี่
ศาลฯ ท่านไม่เชื่ออยู่แล้วว่าทักษิณร่วมรู้เห็นกับคุณหญิงพจมานในการซื้อ-ขายด้วย
เพราะไม่มีหลักฐานปรากฏ ศาลยังให้เครดิตอีกว่าคนรวยระดับนี้จะซื้ออะไรสักอย่าง
ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสุมหัวกันคิดแล้วคิดอีก จะซื้อดี ไม่ซื้อดีอย่างเราๆท่านๆ แต่ศาลฯท่านก็บอกต่อว่า

แต่เมื่อคุณหญิงไม่สามารถนำหลักฐานที่ว่าทักษิณไม่เกี่ยวข้อง
ซึ่งศาลก็เชื่อว่าไม่มีอยู่แล้วนั้น มาแสดงให้ศาลฯเห็นได้ จึงมีความผิด

ผมกำลังบอกว่าศาลตัดสินให้ผิด ในสิ่งที่ศาลก็เชื่ออยู่แล้วว่าไม่มีแต่ต้น
ศาลไม่ได้ติดสินว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ ตาม ม.100
ศาลตัดสินให้ผิด เพราะทักษิณหรือคุณหญิงไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า ทักษิณไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในการณีนี้ ซึ่งศาลฯท่านก็เชื่อไม่มี

ท่านจะอธิบายมาตรานี้ อย่างไร ?

มาตรา 184 บัญญัติไว้ว่า
“ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้
ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”

เมื่อผลออกมา 4-4 ยังมีเหตุสงสัย
ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนจะทำอย่างไร ?

โปรดชี้แนะครับ
ด้วยความเคารพในความเห็นของท่าน


สับสนอะไรหรือเปล่าครับ

ตามมาตรา ๑๘๔ ป.วิ.อ. นั้น บัญญัติให้ (ตามลำดับเนื้อความ แยกเพื่อให้อ่านง่าย)

๑. ให้ประธานถามองค์คณะทีละท่าน แล้วประธานจึงออกความเห็นเป็นท่านสุดท้าย

๒. การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก

๓. หากเสียงยังขัดแย้งเป็น ๒ ฝ่าย หรือมากกว่า โดยยังหาที่เสียงข้างมากกว่าไม่ได้ จึงค่อยให้ฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยมากกว่า ยอมให้กับฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยน้อยกว่า

http://www.kodmhai.c...m3-182-192.html

นัยว่ามาตรา บทบัญญัตินี้ เพื่อแก้ไขกรณีที่องค์คณะพิจารณาเกิดเสียงแตกเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน จะได้หาข้อยุติ แต่ในกรณีตามปัญหา มีองค์คณะ จำนวน ๙ คน ซึ่ง ทั้ง ๙ คนได้ลงมติแล้ว เป็น ๕ ต่อ ๔ ถือได้ว่าได้เสียงข้างมากแล้ว จึงไม่จำต้องนำ มาตรา ๑๘๔ ในช่วงท้ายมาพิจารณา

อย่าพยายามบิดเบือนกฎหมาย ตัดเอาเฉพาะตามใจ


ขอถามเพื่อเป็นความรู้นะครับ ผมคนไม่รู้กฎหมายจริงๆ

นัยว่ามาตรา บทบัญญัตินี้ เพื่อแก้ไขกรณีที่องค์คณะพิจารณาเกิดเสียงแตกเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน จะได้หาข้อยุติ แต่ในกรณีตามปัญหา มีองค์คณะ จำนวน ๙ คน ซึ่ง ทั้ง ๙ คนได้ลงมติแล้ว เป็น ๕ ต่อ ๔ ถือได้ว่าได้เสียงข้างมากแล้ว จึงไม่จำต้องนำ มาตรา ๑๘๔ ในช่วงท้ายมาพิจารณา

อยากทราบว่าองค์คณะ จำนวน 9 คน มีใครเป็นประธานหรือเปล่า หากมี แล้วทำไมประธานไม่ออกความเห็นเป็นคนสุดท้าย ตามข้อ 1 ของม. 184 ครับ (หรือว่ากรณีนี้ประธานได้ออกความเห็นเป็นคนสุดท้ายแล้ว ??)

ขอคำอธิบายเพิ่มเติมตรงนี้ได้ไหมครับ

#131 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:05

“ถ้าในปัญหาใดมีความ เห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายหรือเกินกว่าสองฝ่ายขึ้นไปจะหาเสียงข้างมากมิได้" แล้ว 5:4 มันหาได้มั้ยล่ะวะ

ถ้าคดีที่มีองค์คณะ 9 คนแบบนี้ กฎหมายเขาเขียนไว้เผื่อมีกรณีที่เกิดมีผู้พิพากษาเห็นเป็น 3 ทาง แล้วมีมติเป็น 3:3:3 หรือเกิดมีคนนึงตายไปก่อนวันลงมติ เหลือ 8 คน แล้วมีมติเป็น 4:4

โถ ๆ น้อง ที่แท้ก็อ่านภาษาไทยไม่แตก เรียนโรงเรียนไหนมาวะเนี่ย :lol:

ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#132 ThaILandLover

ThaILandLover

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 235 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:07

“ถ้าในปัญหาใดมีความ เห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายหรือเกินกว่าสองฝ่ายขึ้นไปจะหาเสียงข้างมากมิได้" แล้ว 5:4 มันหาได้มั้ยล่ะวะ

ถ้าคดีที่มีองค์คณะ 9 คนแบบนี้ กฎหมายเขาเขียนไว้เผื่อมีกรณีที่เกิดมีผู้พิพากษาเห็นเป็น 3 ทาง แล้วมีมติเป็น 3:3:3 หรือเกิดมีคนนึงตายไปก่อนวันลงมติ เหลือ 8 คน แล้วมีมติเป็น 4:4

โถ ๆ น้อง ที่แท้ก็อ่านภาษาไทยไม่แตก เรียนโรงเรียนไหนมาวะเนี่ย :lol:


อืม เริ่มเข้าใจและเห็นภาพขึ้นแล้ว ขอบคุณครับ ;) ;)

#133 ยิ่งรัก(โพย)

ยิ่งรัก(โพย)

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,420 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:08

ถ้าให้อธิบายแบบชาวบ้าน กรณีทักกี้ก็เหมือน พระห้ามฉันฑ์เลยเพลครับ ฉันฑ์ไปแล้ว แล้วคายทิ้งก็อาบัติอยู่ดี

แล้วยังเหมือนคือถ้าเป็นคนธรรมดาจะกินข้าวเลยเพลก็ไม่เป็นไร แต่พระ(หรือทักกี้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง)ทำไม่ได้ครับ

แล้วทำไมทำไม่ได้ล่ะก็พระมีพระวินัยบัญญัติไว้ ทักกี้ก็มีกฎหมายผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองควบคุมไว้นั่นแหละ

แล้วคุณคิดว่าพระฉันฑ์หลังเพลผิดพระวินัยรึเปล่าล่ะครับ?

#134 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:11

“ถ้าในปัญหาใดมีความ เห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายหรือเกินกว่าสองฝ่ายขึ้นไปจะหาเสียงข้างมากมิได้" แล้ว 5:4 มันหาได้มั้ยล่ะวะ

ถ้าคดีที่มีองค์คณะ 9 คนแบบนี้ กฎหมายเขาเขียนไว้เผื่อมีกรณีที่เกิดมีผู้พิพากษาเห็นเป็น 3 ทาง แล้วมีมติเป็น 3:3:3 หรือเกิดมีคนนึงตายไปก่อนวันลงมติ เหลือ 8 คน แล้วมีมติเป็น 4:4

โถ ๆ น้อง ที่แท้ก็อ่านภาษาไทยไม่แตก เรียนโรงเรียนไหนมาวะเนี่ย :lol:


ก็เหมือนกับเสื้อแดงคิดว่าคนเห็นต่างเขาเป็นเหลือง การมองมุมเดียว 50/50 ของเขาเลยทำให้คิดว่า ประธานไม่ไช่คณะตัดสินเลยไม่นับรวมประธาน
Posted Image

#135 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:12



จากนี่
ศาลฯ ท่านไม่เชื่ออยู่แล้วว่าทักษิณร่วมรู้เห็นกับคุณหญิงพจมานในการซื้อ-ขายด้วย
เพราะไม่มีหลักฐานปรากฏ ศาลยังให้เครดิตอีกว่าคนรวยระดับนี้จะซื้ออะไรสักอย่าง
ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสุมหัวกันคิดแล้วคิดอีก จะซื้อดี ไม่ซื้อดีอย่างเราๆท่านๆ แต่ศาลฯท่านก็บอกต่อว่า

แต่เมื่อคุณหญิงไม่สามารถนำหลักฐานที่ว่าทักษิณไม่เกี่ยวข้อง
ซึ่งศาลก็เชื่อว่าไม่มีอยู่แล้วนั้น มาแสดงให้ศาลฯเห็นได้ จึงมีความผิด

ผมกำลังบอกว่าศาลตัดสินให้ผิด ในสิ่งที่ศาลก็เชื่ออยู่แล้วว่าไม่มีแต่ต้น
ศาลไม่ได้ติดสินว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ ตาม ม.100
ศาลตัดสินให้ผิด เพราะทักษิณหรือคุณหญิงไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า ทักษิณไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในการณีนี้ ซึ่งศาลฯท่านก็เชื่อไม่มี

ท่านจะอธิบายมาตรานี้ อย่างไร ?

มาตรา 184 บัญญัติไว้ว่า
“ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้
ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”

เมื่อผลออกมา 4-4 ยังมีเหตุสงสัย
ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนจะทำอย่างไร ?

โปรดชี้แนะครับ
ด้วยความเคารพในความเห็นของท่าน


สับสนอะไรหรือเปล่าครับ

ตามมาตรา ๑๘๔ ป.วิ.อ. นั้น บัญญัติให้ (ตามลำดับเนื้อความ แยกเพื่อให้อ่านง่าย)

๑. ให้ประธานถามองค์คณะทีละท่าน แล้วประธานจึงออกความเห็นเป็นท่านสุดท้าย

๒. การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก

๓. หากเสียงยังขัดแย้งเป็น ๒ ฝ่าย หรือมากกว่า โดยยังหาที่เสียงข้างมากกว่าไม่ได้ จึงค่อยให้ฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยมากกว่า ยอมให้กับฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยน้อยกว่า

http://www.kodmhai.c...m3-182-192.html

นัยว่ามาตรา บทบัญญัตินี้ เพื่อแก้ไขกรณีที่องค์คณะพิจารณาเกิดเสียงแตกเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน จะได้หาข้อยุติ แต่ในกรณีตามปัญหา มีองค์คณะ จำนวน ๙ คน ซึ่ง ทั้ง ๙ คนได้ลงมติแล้ว เป็น ๕ ต่อ ๔ ถือได้ว่าได้เสียงข้างมากแล้ว จึงไม่จำต้องนำ มาตรา ๑๘๔ ในช่วงท้ายมาพิจารณา

อย่าพยายามบิดเบือนกฎหมาย ตัดเอาเฉพาะตามใจ


ขอถามเพื่อเป็นความรู้นะครับ ผมคนไม่รู้กฎหมายจริงๆ

นัยว่ามาตรา บทบัญญัตินี้ เพื่อแก้ไขกรณีที่องค์คณะพิจารณาเกิดเสียงแตกเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน จะได้หาข้อยุติ แต่ในกรณีตามปัญหา มีองค์คณะ จำนวน ๙ คน ซึ่ง ทั้ง ๙ คนได้ลงมติแล้ว เป็น ๕ ต่อ ๔ ถือได้ว่าได้เสียงข้างมากแล้ว จึงไม่จำต้องนำ มาตรา ๑๘๔ ในช่วงท้ายมาพิจารณา

อยากทราบว่าองค์คณะ จำนวน 9 คน มีใครเป็นประธานหรือเปล่า หากมี แล้วทำไมประธานไม่ออกความเห็นเป็นคนสุดท้าย ตามข้อ 1 ของม. 184 ครับ

ขอคำอธิบายเพิ่มเติมตรงนี้ได้ไหมครับ


ตามที่ผมเข้าใจนะครับ การที่ออกความเห็นนั้น เป็นขั้นตอนการพิจารณาก่อนนั่งบัลลังก์ ซึ่งคงต้องมีประธานในการนำการพิจารณาครับ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในห้องพิจารณา ไม่ใช่มานั่งถามที่ละคนให้เราฟัง ตอนมานั่งบัลลังก์คือได้สอบถามองค์คณะแล้ว ประธานได้ออกความเห็นแล้ว ได้ผลวินิจฉัยแล้ว
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#136 อสูรนิรนาม

อสูรนิรนาม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,002 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:17

ตอนเเรกก้อไม่ค่อยเข้าใจ สักพักเริ่มเข้าใจเเละ

#137 ThaILandLover

ThaILandLover

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 235 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:17




จากนี่
ศาลฯ ท่านไม่เชื่ออยู่แล้วว่าทักษิณร่วมรู้เห็นกับคุณหญิงพจมานในการซื้อ-ขายด้วย
เพราะไม่มีหลักฐานปรากฏ ศาลยังให้เครดิตอีกว่าคนรวยระดับนี้จะซื้ออะไรสักอย่าง
ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสุมหัวกันคิดแล้วคิดอีก จะซื้อดี ไม่ซื้อดีอย่างเราๆท่านๆ แต่ศาลฯท่านก็บอกต่อว่า

แต่เมื่อคุณหญิงไม่สามารถนำหลักฐานที่ว่าทักษิณไม่เกี่ยวข้อง
ซึ่งศาลก็เชื่อว่าไม่มีอยู่แล้วนั้น มาแสดงให้ศาลฯเห็นได้ จึงมีความผิด

ผมกำลังบอกว่าศาลตัดสินให้ผิด ในสิ่งที่ศาลก็เชื่ออยู่แล้วว่าไม่มีแต่ต้น
ศาลไม่ได้ติดสินว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ ตาม ม.100
ศาลตัดสินให้ผิด เพราะทักษิณหรือคุณหญิงไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า ทักษิณไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในการณีนี้ ซึ่งศาลฯท่านก็เชื่อไม่มี

ท่านจะอธิบายมาตรานี้ อย่างไร ?

มาตรา 184 บัญญัติไว้ว่า
“ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้
ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”

เมื่อผลออกมา 4-4 ยังมีเหตุสงสัย
ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนจะทำอย่างไร ?

โปรดชี้แนะครับ
ด้วยความเคารพในความเห็นของท่าน


สับสนอะไรหรือเปล่าครับ

ตามมาตรา ๑๘๔ ป.วิ.อ. นั้น บัญญัติให้ (ตามลำดับเนื้อความ แยกเพื่อให้อ่านง่าย)

๑. ให้ประธานถามองค์คณะทีละท่าน แล้วประธานจึงออกความเห็นเป็นท่านสุดท้าย

๒. การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก

๓. หากเสียงยังขัดแย้งเป็น ๒ ฝ่าย หรือมากกว่า โดยยังหาที่เสียงข้างมากกว่าไม่ได้ จึงค่อยให้ฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยมากกว่า ยอมให้กับฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยน้อยกว่า

http://www.kodmhai.c...m3-182-192.html

นัยว่ามาตรา บทบัญญัตินี้ เพื่อแก้ไขกรณีที่องค์คณะพิจารณาเกิดเสียงแตกเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน จะได้หาข้อยุติ แต่ในกรณีตามปัญหา มีองค์คณะ จำนวน ๙ คน ซึ่ง ทั้ง ๙ คนได้ลงมติแล้ว เป็น ๕ ต่อ ๔ ถือได้ว่าได้เสียงข้างมากแล้ว จึงไม่จำต้องนำ มาตรา ๑๘๔ ในช่วงท้ายมาพิจารณา

อย่าพยายามบิดเบือนกฎหมาย ตัดเอาเฉพาะตามใจ


ขอถามเพื่อเป็นความรู้นะครับ ผมคนไม่รู้กฎหมายจริงๆ

นัยว่ามาตรา บทบัญญัตินี้ เพื่อแก้ไขกรณีที่องค์คณะพิจารณาเกิดเสียงแตกเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน จะได้หาข้อยุติ แต่ในกรณีตามปัญหา มีองค์คณะ จำนวน ๙ คน ซึ่ง ทั้ง ๙ คนได้ลงมติแล้ว เป็น ๕ ต่อ ๔ ถือได้ว่าได้เสียงข้างมากแล้ว จึงไม่จำต้องนำ มาตรา ๑๘๔ ในช่วงท้ายมาพิจารณา

อยากทราบว่าองค์คณะ จำนวน 9 คน มีใครเป็นประธานหรือเปล่า หากมี แล้วทำไมประธานไม่ออกความเห็นเป็นคนสุดท้าย ตามข้อ 1 ของม. 184 ครับ

ขอคำอธิบายเพิ่มเติมตรงนี้ได้ไหมครับ


ตามที่ผมเข้าใจนะครับ การที่ออกความเห็นนั้น เป็นขั้นตอนการพิจารณาก่อนนั่งบัลลังก์ ซึ่งคงต้องมีประธานในการนำการพิจารณาครับ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในห้องพิจารณา ไม่ใช่มานั่งถามที่ละคนให้เราฟัง ตอนมานั่งบัลลังก์คือได้สอบถามองค์คณะแล้ว ประธานได้ออกความเห็นแล้ว ได้ผลวินิจฉัยแล้ว


เริ่มเข้าใจแล้วครับ

ตามมาตรา ๑๘๔ ป.วิ.อ. นั้น บัญญัติให้ (ตามลำดับเนื้อความ แยกเพื่อให้อ่านง่าย)

๑. ให้ประธานถามองค์คณะทีละท่าน แล้วประธานจึงออกความเห็นเป็นท่านสุดท้าย

ประธานถามองค์คณะทีละท่านแล้ว และประธานได้ออกความเห็นเป็นคนสุดท้ายแล้ว


๒. การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก

ผลการวินิจฉัย ออกมา คือ 5/4 ถือว่า ได้เสียงข้างมากแล้ว

๓. หากเสียงยังขัดแย้งเป็น ๒ ฝ่าย หรือมากกว่า โดยยังหาที่เสียงข้างมากกว่าไม่ได้ จึงค่อยให้ฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยมากกว่า ยอมให้กับฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยน้อยกว่า

เมื่อได้เสียงข้างมากแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องพิจรณาต่อว่าควรยอมให้กับฝ่ายที่เห็นผลร้ายต่อจำเลยน้อยกว่าหรือไม่


ประมาณนี้ใช่ไหมครับ
ขอบคุณมากครับ ;) ;)

#138 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:20

^
^
^
ตามนั้นครับ
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#139 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:23

ผมก็ชาวบ้านไม่รู้กฎหมายครับ ตามตรรกะที่คุณว่า ระบุให้ทักษิณผิด ฟังแล้วย่อมไม่ถูกต้อง แต่คุณลืมเรื่องเจตนาของกฎหมายหรือเปล่าครับ
กฎหมาย ปปช มีไว้เพื่อ สกัดนักการเมืองที่จะใช้อำนาจหน้าที่ของตน แสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบธรรม
หญิงอ้อเขารู้หรือเปล่าว่าตนเองเป็นภรรยาของนายก เขารู้หรือเปล่าว่าถ้าเขาเข้ามาประมูลแข่งขันกับบุคคลทั่วไป เขาย่อมจะทำให้ กรรมการประมูล(ถ้าไม่ได้มีความเป็นธรรมอยู่ในตัว) เอนเอียง หรือมีโอกาสที่จะเปิดเผยข้อมูลการประมูลของคนอื่นที่ร่วมประมูลให้ตนเองทราบได้ คุณปลายอ้อกอแขมถามว่าทำไม หญิงอ้อไม่ผิด แล้วทักษิณต้องผิดด้วย ข้อนี้ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยเลยที่ไม่ระบุลงไปว่าคู่สมรสของคณะรัฐมนตรี ไม่มีสิทธิเข้าร่วมในกิจกรรมที่มีส่วนได้ส่วนเสียเช่นนี้ ผมตอบได้เลยว่านี่คือช่องโหว๋ของกฎหมาย ซึ่งทักษิณได้ใช้มันเป็นประตูลอดเข้าไป ทำสิ่งซึ่งเรียกได้ว่าไร้ยางอายอย่างที่สุด
ศาลบอกว่า ไม่มีหลักฐานว่าทักษิณรู้เห็นการซื้อขายครั้งนี้ แต่ระบุว่าทักษิณก็ไม่มีหลักฐานเช่นกันว่า เขาไม่รู้เห็นในการซื้อขายครั้งนี้
ไม่ทราบว่า คุณปลายอ้อเคยรู้หรือไม่ครับว่า ไต้หวัน เขามีกฎในการตัดสินคดีอยู่ว่า ผู้ทำผิดต้องหาหลักฐานมาแก้ต่างในข้อหา ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาโดยตำรวจ ไม่ใช่ให้ศาลมาหาหลักฐานว่าเขาผิดจริง เพราะอะไรทราบไหมครับ เพราะว่ามีคนอย่างทักษิณยังไงล่ะครับ ในไต้หวัน มีพวกรู้กฎหมายดีอยู่มาก แล้วพยายามใช้ช่องโหว่ของกฎหมายในการกระทำความผิด หลายครั้งที่ตำรวจหรือผู้รักษากฎหมาย ได้เบาะแส แต่ไม่สามารถหาหลักฐานได้ครบถ้วนเพียงพอให้รับผิดได้ ก็จำเป็นต้องปล่อยคนผิดไป อย่างเช่นที่เกิดกับ ฮ่องกง ซึ่งมีผู้อยู่เหนือกฎหมายมากมาย (ฮ่องกงใช้กฎในการตัดสินว่า ศาลต้องหาหลักฐานว่าเขาผิดจริงให้ได้ จึงตัดสินว่าผิดได้)
คุณปลายอ้อกอแขม ตอบผมชัด ๆ ได้ไหมครับ ว่าทักษิณไม่รู้จริง ๆ ว่า หญิงอ้อทำการประมูลซื้อขายที่ดินรัชดา ถ้าเขาไม่รู้ ในปีนั้นทำไม ถึงเลื่อนวันหยุดออกไป เป็นให้ 31 ธันวาคม เป็นวันทำงาน เพื่อประโยชน์ทางภาษีหรือเปล่า
แล้วความเหมาะสมของการใช้อำนาจหน้าที่ ในการหาประโยชน์ให้ตัวเอง ถึงไม่ผิดในทางกฎหมาย แล้วคู่ควรต่อการที่คนมีความรู้อย่างคุณ จะสนับสนุนเขาได้หรือเปล่า

ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY


#140 MIRO

MIRO

    Praise the Sun

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,883 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:28

จากคุณ ปลาย..อะไรสักอย่าง

มาตรา 184 บัญญัติไว้ว่า
“ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้
ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”


ถ้าตีความแบบ ท่านปลาย..อะไรซักอย่าง
ท่านปลาย..หมายความว่า ไม่ว่าเสียงจะออก 8:1 , 7:2 , 6:3 , หรือ 5:4 ก็ไม่ถือว่ามีเสียงข้างมาก
เพราะมีความเห็นแย้งเป็น 2 ฝ่าย ใช่หรือไม่ ?

ท่านปลาย..อะไรสักอย่าง ตีความตามนี้ใช่ไหมครับ
หรือผมเมา ขนมจีน แกงป่า ว่ะเนี่ย :mellow:

The most valuable things in life are not measured in monetary terms.

The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,

but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.


#141 korkang

korkang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,879 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:03

เยอะจนตาลาย สรุปปลายอ้อ อ่านเหตุผลของท่านอื่นๆ แล้วคิดว่าทักษิณผิดหรือไม่

#142 Limmy

Limmy

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,397 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:11

ก่อนถามคำถามอื่่น ต้องถามก่อนว่าเข้าใจความหมายของคำว่า 'เจ้าหน้าที่ของรัฐฯ' หรือไม่ ?

#143 Limmy

Limmy

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,397 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:13

ปัญหาของชาวเสื้อแดงที่ได้พบมาคือ 'ฟัง'แต่แกนนำ แต่ไม่เคย'อ่าน'ข้อกฎหมาย

เหมือนวลี 'ทำกับข้าวถูกปลด เป็นกบฎถูกปล่อย'

คนเสื้อแดงนึกไปว่า 'สมัครเป็นชาวบ้่านธรรมดา ที่ไปรับจ้างทำกับข้าวออกทีวี'

#144 korkang

korkang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,879 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:19

ใช่เลยเรื่องเล่นวลีมีเยอะมาก
คนซื้อไม่ผิด คนเซ็นผิด ทั้งๆที่ทำตามกฏหมายว่าเมียซื้อ ผัวต้องเซนต์ กลายเป็นว่า ปฏิบัติตามกฏหมายฉบับนึง แต่ไปผิดกฏหมายอีกฉบับนึง เฮ้อ

#145 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:22

จากคุณ ปลาย..อะไรสักอย่าง

มาตรา 184 บัญญัติไว้ว่า
“ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้
ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า”


ถ้าตีความแบบ ท่านปลาย..อะไรซักอย่าง
ท่านปลาย..หมายความว่า ไม่ว่าเสียงจะออก 8:1 , 7:2 , 6:3 , หรือ 5:4 ก็ไม่ถือว่ามีเสียงข้างมาก
เพราะมีความเห็นแย้งเป็น 2 ฝ่าย ใช่หรือไม่ ?

ท่านปลาย..อะไรสักอย่าง ตีความตามนี้ใช่ไหมครับ
หรือผมเมา ขนมจีน แกงป่า ว่ะเนี่ย :mellow:


ถ้าคิดแบบนี้ วัฒนา อัศวเหมก็ต้องไม่ผิดครับ เพราะมติ 8:1 :lol:

ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#146 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:23

ขอแนะนำ "รองเท้าชูใจ" ให้ จขกท.ครับ หาดูได้ที่เวปจ่าฯ :D
อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#147 MIRO

MIRO

    Praise the Sun

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,883 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:23

ทักษิณไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม

ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง .. :lol:

The most valuable things in life are not measured in monetary terms.

The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,

but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.


#148 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:45

สรุป..ไม่ได้ถามตามประสาชาวบ้านแล้วใช่มั้ยค่ะ...

ตาม link..คำพิพากษา กรณีที่ดินรัชดา - ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

http://www.supremecourt.or.th/file/criminal/1-50%20kumpiparksar.pdf

ประเด็นคำฟ้องโดยสรุป คือ ฟ้องว่าทักษิณ และ คุณหญิงทำความผิดตาม

พรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พศ. 2542
มาตรา 4, 100 และ 122
http://www.thailandl...974558&Ntype=19

ประมวลกฎหมายอาญา มราตรา 33, 83, 86, 90, 91, 152 และ 157
http://kormor.obec.go.th/pramualkodmai/arya.pdf


คำพิพากษา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา คณะผู้พิพากษา มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า
ไม่มีความผิด

เหตุผลง่าย คือ ทักษิณ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการโดยตรง
จึงไม่ได้มีส่วนได้เสีย ส่วนคุณหญิง เป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่ไม่ใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐ แน่นอน
จึงไม่มีความผิด ส่งผลให้ความผิดตาม มาตรา 33, 83, 90, และ 91 จึงไม่มีความผิดด้วยเช่นกัน
จึงไม่ต้องมีการยึดทรัพย์ ที่นำมาซื้อขายที่ดินพิพาท

แล้วอย่างไรถึงจะถือว่า เป็นเจ้าพนักงานมีส่วนได้เสีย ยกตัวเช่น

คุณเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานหนึ่ง แล้วภรรยาคุณยื่นซองประมูลงาน
โดยมีคุณเป็นผู้เซ็นอนุมัติให้มีการจัดซื้อจัดจ้าง อันนี้เป็นเจ้าพนักงานดูแล และ มีส่วนได้เสีย
หรือกรณี ญาติพี่น้อง ของคุณเป็นผู้ยื่นซองประมูล แล้วคุณกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้ญาติ
พี่น้องคุณได้รับการอนุมัติจัดซื้อจัดจ้าง..อันนี้ปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต

มาตรา ๑๕๒
ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับ
ตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่
สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท

มาตรา ๑๕๗
ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่
ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึง
สิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ประเด็นที่ 2 ซึ่งมีข้อถกเถียงกันอย่างมาก ในส่วนของความตาม พรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พศ. 2542
มาตรา 4, 100 และ 122

ประเด็นของคุณหญิง ทำไมถึงไม่มีความผิด เพราะคุณหญิงเป็นบุคคลธรรมดาไม่มีคุณสมบัติ
ดังที่ปรากฏอยู่ใน พรบ. มาตรา 4 จึงไม่ต้องพิจารณาประเด็นอื่น ยกฟ้องทั้งหมด

ประเด็นของทักษิณ ตาม พรบ มาตรา 4 คุณสมบัติครบ คือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในความหมายที่ว่า
เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เข้าข่ายที่สามารถพิจารณาความ
ผิดตามฟ้องได้ คือความผิดตาม พรบ. มาตรา 100 และบทลงโทษ มาตรา 122

มาตรา 100 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้

(๑) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติ

หน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี

(๒) เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่

ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือ
ดำเนินคดี

(๓) รับสัมปทานหรือคงถือไว้ซึ่งสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการ

ส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
อันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นใน
ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว

(๔) เข้าไปมีส่วนได้เสียในฐานะเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน พนักงานหรือลูกจ้างในธุรกิจของเอกชน

ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับ ดูแล ควบคุม หรือตรวจสอบของหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นสังกัดอยู่
หรือปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งโดยสภาพของผลประโยชน์ของธุรกิจของเอกชนนั้น
อาจขัดหรือแย้งต่อประโยชน์ส่วนรวม หรือประโยชน์ทางราชการ หรือกระทบต่อความมีอิสระในการปฏิบัติ
หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้น

เจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.

กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ให้นำบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามวรรคสอง โดยให้ถือว่าการ

ดำเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าว เป็นการดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ประเด็นที่ถกเถียงกัน คือ ทักษิณเพียงแค่เซ็นต์บัตรประจำตัวนายก เพื่อมอบให้คุณหญิงไปทำนิติกรรม
ทำไมถึงผิด

ดังปรากฏในวรรรคสุดท้าย ของมาตรา 100
ให้ถือว่าการดำเนินกิจการของคู่สมรส เป็นการดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ


ดังนั้น การทำนิติกรรมใด ๆ ของคุณหญิงถือว่าเป็นการกระทำของทักษิณ โดยมี พรบ รองรับอย่างถูกต้อง
มิได้เป็นนการกลั่นแกล้งใด


สำหรับข้อโต้แย้งที่ว่า ทักษิณไม่ได้มีส่วนรู้เห็น หรือนำหลักฐานมายืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องมาแสดงนั้น
ใช้ได้เฉพาะความผิดตามมาตรา 100 (3) ในกรณีสัมปทานเท่านั้น
ด้วยข้อมูลทั้งหมดประกอบกัน ทักษิณจึงมีความผิดตาม พรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต พศ. 2542 มาตรา 100 และ มีบทกำหนดโทษ ตาม พรบ. มาตรา 122

และที่ไม่รอลงอาญาเพราะ กระทำความผิดในขณะที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในระดับสูง ตาม พรบ.
มาตรา 4 และคำพิพากษานี้ส่งผลให้สัญญานิติกรรมจึงเป็นโมฆะ และมีคำสั่งให้คืนเงิน คืนที่ตามมา

คร่าว ๆ พอได้ใจความ


#149 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:07

ประเด็นนี้แถมให้...

ทำไมถึงไม่ซื้อในนามบริษัท ทำไมต้องซื้อในนามบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นต้นเหตุ
แห่งความยุ่งเหยิง

ถ้าซื้อในนามนิติบุคคล
- ภาษีและค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์คำนวณจากราคาซื้อขายจริง หรือ ราคาประเมิน
แล้วแต่ว่า ราคาใดจะสูงกว่า ในกรณีนี้เป็นการยื่นซองประมูล กุนซือเลยปล่อยตก

- ซื้อในนามนิติบุคคล ประมวลกฎหมายให้ถือเป็นสินทรัพย์บริษัท หากมีการจำหน่าย
ภายใน 7 ปีต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ประเด็นนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นบุคคลก็ใช้หลักเกณฑ์
เดียวกัน กุนซือปล่อยตกไป

- ซื้อในนามนิติบุคคล ถึงแม้ว่าจะขายหลังจาก 7 ปีไปแล้ว ประมวลรัษฎากรยังกำหนดให้
ต้องนำส่วนต่างจากราคาซื้อมาคำนวณภาษีนิติบุคคลในอัตรา 30% หรือ 20% แล้วแต่
กรณี ประเด็นนี้ กุนซือคิดหนักหน่อย...20% ของส่วนต่างในอีก 7 ปีข้างหน้า..คิดหนัก

ถ้าซื้อในนามบุคคลธรรมดา
- ภาษีและค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ จากข้อมูลข้างต้น กุนซือปล่อยตก
- กรณีจำหน่ายภายใน 7 ปีนับจากวันซื้อ เสียภาษีเหมือนกัน กุนซือปล่อยตก
- กรณีจำหน่ายหลัง 7 ปี ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาขายจริง (ขายต่ำ
กว่าราคาประเมินได้ หรือ ราคาขายตามสัญญา) ที่สำคัญส่วนต่างจากราคา ณ วันซื้อไม่
ต้องนำมายื่นภาษี แต่ รายได้จากการขายที่ดิน หักลดหยอ่นตามประมวลกฎหมาย คำนวณ
แล้วน่าจะน้อยกว่าภาษีนิติบุคคลที่ต้องจ่าย..กุนซือคิดแล้วคิดอีก
- ประเด็นสุดท้าย ถ้าจัดทำโครงการภายใต้กรรมสิทธิ์ของบุคคลธรรมดา การนำส่งภาษี
เงินได้โดยหักลดหย่อนอัตราเหมา มีแนวโน้มว่าน่าจะน้อยกว่าในนามนิติบุคคล และที่สำคัญ
ยังสามารถควบคุมได้ด้วย...กุนซือ โอเค ด้วยเหตุผล 2 ประเด็นหลัง

แจ็คพ็อต ทำสัญญาในนามบุคคล แต่ กุนซือ ลืมอ่าน พรบ. มาตรา 100 วรรคสุดท้าย
ปัญหาจึงยุ่งเหยิง...ตามมาด้วย ถุงขนม 2 ล้าน..ทุกอย่างเลยเกมส์โอเวอร์

บอกแล้ว...ถ้าวันนั้นใช้กุนซือที่รอบคอบหน่อย...ปัญหาจะไม่เกิดขึ้น...
อย่างว่า...คิดไม่ซื่อ กรรมจึงตามมาทัน...

#150 คนดื่มเบียร์

คนดื่มเบียร์

    พอจะทนแดงได้หน่อยๆ

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,721 posts

ตอบ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:10

ประเด็นนี้แถมให้...

ทำไมถึงไม่ซื้อในนามบริษัท ทำไมต้องซื้อในนามบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นต้นเหตุ
แห่งความยุ่งเหยิง

ถ้าซื้อในนามนิติบุคคล
- ภาษีและค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์คำนวณจากราคาซื้อขายจริง หรือ ราคาประเมิน
แล้วแต่ว่า ราคาใดจะสูงกว่า ในกรณีนี้เป็นการยื่นซองประมูล กุนซือเลยปล่อยตก

- ซื้อในนามนิติบุคคล ประมวลกฎหมายให้ถือเป็นสินทรัพย์บริษัท หากมีการจำหน่าย
ภายใน 7 ปีต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ประเด็นนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นบุคคลก็ใช้หลักเกณฑ์
เดียวกัน กุนซือปล่อยตกไป

- ซื้อในนามนิติบุคคล ถึงแม้ว่าจะขายหลังจาก 7 ปีไปแล้ว ประมวลรัษฎากรยังกำหนดให้
ต้องนำส่วนต่างจากราคาซื้อมาคำนวณภาษีนิติบุคคลในอัตรา 30% หรือ 20% แล้วแต่
กรณี ประเด็นนี้ กุนซือคิดหนักหน่อย...20% ของส่วนต่างในอีก 7 ปีข้างหน้า..คิดหนัก

ถ้าซื้อในนามบุคคลธรรมดา
- ภาษีและค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ จากข้อมูลข้างต้น กุนซือปล่อยตก
- กรณีจำหน่ายภายใน 7 ปีนับจากวันซื้อ เสียภาษีเหมือนกัน กุนซือปล่อยตก
- กรณีจำหน่ายหลัง 7 ปี ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาขายจริง (ขายต่ำ
กว่าราคาประเมินได้ หรือ ราคาขายตามสัญญา) ที่สำคัญส่วนต่างจากราคา ณ วันซื้อไม่
ต้องนำมายื่นภาษี แต่ รายได้จากการขายที่ดิน หักลดหยอ่นตามประมวลกฎหมาย คำนวณ
แล้วน่าจะน้อยกว่าภาษีนิติบุคคลที่ต้องจ่าย..กุนซือคิดแล้วคิดอีก
- ประเด็นสุดท้าย ถ้าจัดทำโครงการภายใต้กรรมสิทธิ์ของบุคคลธรรมดา การนำส่งภาษี
เงินได้โดยหักลดหย่อนอัตราเหมา มีแนวโน้มว่าน่าจะน้อยกว่าในนามนิติบุคคล และที่สำคัญ
ยังสามารถควบคุมได้ด้วย...กุนซือ โอเค ด้วยเหตุผล 2 ประเด็นหลัง

แจ็คพ็อต ทำสัญญาในนามบุคคล แต่ กุนซือ ลืมอ่าน พรบ. มาตรา 100 วรรคสุดท้าย
ปัญหาจึงยุ่งเหยิง...ตามมาด้วย ถุงขนม 2 ล้าน..ทุกอย่างเลยเกมส์โอเวอร์

บอกแล้ว...ถ้าวันนั้นใช้กุนซือที่รอบคอบหน่อย...ปัญหาจะไม่เกิดขึ้น...
อย่างว่า...คิดไม่ซื่อ กรรมจึงตามมาทัน...

QED ครับ

ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "





ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน