Jump to content


Photo
- - - - -

สมคิด เลิศไพฑูรย์ เห็นด้วยกับ"จำนำข้าว" ในแง่ "ประเทศใดมีสินทรัพย์ใดที่สำคัญ ต้องทำให้สินทรัพย์นั้นราคาสูง"


  • Please log in to reply
59 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 03:46

เชิญชวนเพื่อนเสรีไทยดีเบตกันเรื่องนี้ได้เลยครับ

ผมตัดเนื้อความจากบล็อกคุณปกรณ์เนชั่น มาเฉพาะที่ตรงกับหัวข้อกระทู้นะครับ


http://www.oknation....2/10/10/entry-1


ศ.ดร.สมคิด กล่าวต่อว่า จากที่ได้ฟังความเห็นของภาคเอกชน ทำให้ได้รับข้อมูลของโครงการจำนำข้าวแตกต่างจากที่รัฐบาลอธิบาย โดยภาคเอกชนบางส่วนสนับสนุนแนวนโยบาย"2 สูง" คือด้านหนึ่งยกค่าแรงให้สูงเป็น 300 บาท เงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรี 15,000 บาท ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็ยกระดับราคาสินค้าเกษตรให้สูง ซึ่งสินค้าเกษตรที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ย่อมหนีไม่พ้น "ข้าว"

"แนวคิดของภาคเอกชนที่ผมได้รับฟังมาก็คือ ประเทศใดมีสินทรัพย์ใดที่สำคัญ ต้องทำให้สินทรัพย์นั้นราคาสูง อย่างเช่นน้ำมัน ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันโดยเฉพาะในแถบตะวันออกกลางที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มโอเปก (Organization of Petroleum Exporting Countries-OPEC) สามารถดันราคาน้ำมันให้สูง และเป็นผู้กำหนดราคาน้ำมันในตลาดโลก สำหรับประเทศไทยมีพืชเศรษฐกิจคือข้าว และเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก เราจึงต้องทำราคาให้สูง และเป็นผู้กำหนดราคาของโลกให้ได้"

ศ.ดร.สมคิด ขยายต่อว่า ไอเดียของภาคเอกชนมี 2 สเต็ป (ขั้น) คือ 1.รับจำนำ เพื่อดูดข้าวทั้งหมดไปอยู่ในมือของรัฐบาลตามหลักดีมานด์ ซัพพลาย กล่าวคือ ข้าวน้อยราคาย่อมสูง ข้าวมากราคาย่อมต่ำ เมื่อซัพพลายหายไปจากตลาดเพราะข้าวมาอยู่ในมือรัฐบาลจำนวนมาก ราคาก็จะเพิ่มสูงขึ้นเอง เพียงแต่ในปีแรกนี้มีการคาดการณ์ผิดพลาดเล็กน้อย คือเดิมคาดว่าอินเดียจะผลิตไม่ได้ แต่จริงๆ กลับผลิตได้ และส่งออกค่อนข้างเยอะ

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม หลังจากนี้เมื่อข้าวของอินเดียและเวียดนามหมดสต็อก ข้าวล็อตใหม่ที่ตลาดโลกต้องการก็จะเป็นโอกาสของไทย และไทยก็จะเป็นผู้กำหนดราคา
2.วางแผนจับมือกับเวียดนามและอินเดียในฐานะผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เหมือนกับไทย เพื่อกำหนดราคาข้าวเอง เหมือนกับที่กลุ่มโอเปกทำ ซึ่งแน่นอนว่าการจับมือกันอย่างแนบแน่นอย่างกลุ่มโอเปกอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับการกำหนดราคาสินค้าเกษตร แต่หากสามารถจับมือกันหลวมๆ หรือพูดคุยสื่อสารกันระหว่างประเทศผู้ส่งออกข้าวด้วยกัน ก็จะช่วยดันราคาได้มากทีเดียว และเชื่อว่า 2 ชาติผู้ส่งออกรายใหญ่ทั้งอินเดียและเวียดนามก็น่าจะต้องการขายข้าวในราคาสูงเหมือนกับไทย

"ผมได้ฟังคำอธิบายแบบนี้แล้วเก็ต รู้สึกเห็นด้วย และมองว่ารัฐบาลไม่มีการอธิบายที่ดีพอ ไม่มีคนที่สามารถชี้แจงเรื่องยากๆ แบบนี้ให้สังคมเข้าใจได้ ทราบว่านโยบายจำนำข้าว หากจะทำให้สำเร็จหรือเป็นผู้กำหนดราคาตลาดได้จะต้องทำต่อเนื่องหลายปี ไม่ใช่ทำปีแรกแล้วเห็นผลทันที ฉะนั้นการทำความเข้าใจจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก" อธิการบดี มธ.ระบุ

เมื่อถามถึงการปลุกระดมมวลชนออกมาเคลื่อนไหว จะทำให้ประเด็นนี้บานปลายเป็นความขัดแย้งในบ้านเมืองหรือไม่ ศ.ดร.สมคิด มองว่า ไม่น่าจะบานปลาย เพราะการต่อสู้ของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายรับจำนำข้าว อยู่บนพื้นฐานของกฎหมายและวิชาการแท้ๆ ยังไม่มีใครออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลหรือต่อสู้นอกรูปแบบที่ควรจะเป็น ส่วนมวลชนที่ออกมาชุมนุมกดดันกลุ่มนักวิชาการจากนิด้า ถือเป็นปกติของกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลที่ใช้ต่อสู้กับกลุ่มที่เห็นต่างทุกกรณีอยู่แล้ว

"แต่ผมเป็นห่วงเรื่องเสรีภาพทางวิชาการ เพราะสิ่งที่อาจารย์นิด้าทำเป็นไปตามกฎหมายและครรลองที่ถูกต้อง ส่วนกลุ่มที่ประท้วง เป็นการกระทำที่ต้องการให้ฝ่ายที่เห็นต่างหยุดพูดอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ถูกต้องและไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย"

ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตนั้น ศ.ดร.สมคิด บอกว่า ทุกคนรู้ว่ามีการทุจริตรั่วไหล แต่ยังไม่มีหลักฐานหรือชี้ให้เห็นชัดๆ ว่าอยู่ตรงไหน ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้มีการดีเบต (ตั้งเวทีถกเถียง) กันในเรื่องจำนำข้าวในแง่ของแนวทางการแทรกแซงราคาข้าวในตลาดโลก และหากคนไทยต้องกินข้าวแพงขึ้นเพื่อให้ชาวนาขายข้าวได้ในราคาดีขึ้น สังคมไทยจะยอมรับได้หรือไม่

ประเด็นเหล่านี้น่าหยิบมาพูดกันให้กว้างขวาง แต่กลับยังมีน้อยอยู่!

*****************************************************************************************************************************************************

สำหรับคำตอบของผมในกระทู้ มีดังนี้


อจ.สมคิดอธิบายได้เข้าใจง่ายดีครับ และอยู่บนพื้นฐานของวิชาการ

แต่อจ.ก็ได้หลุดตัวแปรออกมาตัวหนึ่ง ซึ่งปัจจัยนี้เป็นตัวการทำให้การจำนำข้าว "ไม่เป็นไปตามความคาดหมายของเอกชนที่เห็นด้วยกับการจำนำข้าวเพื่อดึงราคาสินทรัพย์ของประเทศให้สูง"
นั่นคือ...อินเดียผลิตข้าวได้มากกว่า"ที่ไทยคาดคิดไว้"

Variable factors เหล่านี้ต้องเอามาคำนวณในสมการด้วย"ล่วงหน้า" เพื่อหาแผนรองรับ แต่ไม่ได้มีการคำนวณไว้ จึงเห็นชัดว่าเอกชนที่เห็นด้วยกับโครงการจำนำข้าวก็ไม่ได้คำนวณ"ทางเสีย"ไว้เลยเช่นกันครับ คำนวณแต่"ทางได้"

หากเราคำนวณทางเสียไว้ก่อนตั้งแต่แรก เมื่อตัวแปรเกิดขึ้น เราจะหาทางแก้ไขได้ด้วยแผนสำรอง แต่นี่ไม่มีเลย...




ปล. ชื่อในบล็อกโอเคของผม ตั้ง"ผึ้งน้อย"แล้วเว็บไม่ให้ใช้ครับ บอกว่าซ้ำ
ผมเลยเอาชื่อพระเอกนางเอกในนิยายของเพื่อนที่ส่งให้ผมลองอ่าน(ที่ชาตินี้เธอคงเขียนไม่เสร็จ)มาใส่แทน เพราะขี้เกียจคิดจริงๆ
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#2 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 04:53

*
POPULAR

ไม่มีมาตราการป้องกัน "การทุจริต"

ไม่มีแผนการรองรับ "ราคาตลาด"

ไม่มีการคิดถึงจำนวน "คู่้แข่งทางธุรกิจ"

ไม่มีการคำนวณถึง "ปริมาณที่ผลิตได้"

.........

......

...

..

.

และสุดท้าย

ไม่มี "ป้ญญา หาทางออกในเรื่องนี้"

ไม่มี "ทางลง สำหรับเรื่องนี้"

"จะเลิกก็ไม่ได้ จะหยุดก็ไม่ได้".........เอวัง ด้วยประการฉะนี้ -_- -_-

ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย


#3 Et tu Brute?

Et tu Brute?

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,529 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 05:30

ด้วยหลักการเดียวกันเราจะรับจำนำปลาร้าไหละหมื่นห้า
แล้วไปรวมหัวกับลาวและกัมพูเจีย กำหนดราคาในตลาดโลกกกกกก

It's us against the world


#4 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 05:39

*
POPULAR

หากยังยึดตรรกะข้าว คือ น้ำมัน

เลิกคุยเถอะ

#5 Kyubey

Kyubey

    รับสมัครสาวน้อยเวทมนตร์หลายอัตรา

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,482 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 05:57

สำหรับผม... นโยบาย 2 สูงเป็นหนึ่งในนโยบายที่ไม่ควรเอามาใช้ในประเทศไทยอย่างเด็ดขาด
เหตุผลคือ เศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ได้ใช้เทคโนโลยีระดับสูงในการขับเคลื่อนการผลิตเป็นหลัก ตามปกติเราเป็นผู้รับจ้างผลิตมากกว่า
ต่อให้เรามีเทคโนโลยีระดับสูงของตนเองแบบญี่ปุ่น หรืออเมริกาผมก็ไม่เห็นด้วย
เนื่องจากในคนประเทศเหล่านี้มีค่าแรงที่สูงมากเกินไปจะทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่่อนได้ยากจนทำให้เกิดคนตกงานจำนวนมาก เพราะไม่มีใครจ้างเนื่องจากค่าแรงแพง
ขนาดประเทศจีนซึ่งตอนนี้มีเทคโนโลยีระดับสูงอยู่เป็นจำนวนมาก ยังพยายามทำให้ค่าแรงและค่าเงินถูกลง ไม่งั้นเศรษฐกิจจีนมีปัญหาแน่
(แม้ว่าประเทศจีนช่วงนี้เริ่มมีการปรับค่าแรงบ้าง แต่เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ขึ้นพรวดเดียว 300 บาท 15,000 บาท)
อีกเหตุผลหนึ่งคือ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ย่อมทำให้เกิดการย้ายทุนได้อย่างอิสระ
ประเทศที่น่าสนใจคือประเทศพม่าเพิ่งเปิดประเทศ แม้ว่าสาธารณูปโภคยังไม่ดีเท่าไทย แต่เนื่องจากมีเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยตนเอง มีค่าแรงถูก มีวัตถุดิบหลายๆ อย่าง
การย้ายลงทุนจากไทยไปพม่าย่อมเกิดขึ้นแน่นอนเพราะค่าแรงงานไทยแพง เมื่อมีการย้ายโรงงานแบบนี้ รัฐบาลจะหาเงินด้วยการเก็บภาษีได้เหมือนเดิมหรือ?

ส่วนเรื่องการจัดตั้งกลุ่มการกำหนดราคาข้าว ปัญหาที่ผมเห็นคือ ไม่มีการจัดตั้งกลุ่มการกำหนดราคาข้าวอย่างจริงจัง แล้วมาใช้นโยบายจำนำข้าวแบบนี้ มันจะเจ๊งก็ไม่แปลกครับ (ไม่เจ๊งสิแปลก)
เอาเป็นว่า สมมุติมีการจัดตั้งกลุ่มกำหนดราคาข้าวแล้ว กำหนดให้ข้าว A จากเดิมราคา 10 เป็น 20 บาท พุ่งขึ้นเท่าตัว สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ประชาชนประท้วงเพราะค่าอาหารแพงแบบเดียวกับประท้วงเรื่องราคาน้ำมัน
สำหรับการขึ้นราคา ผมขอยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์พวกข้าวตัง... เออ...เอาเป็นว่ายกตัวอย่างข้าวผัด จากราคาเดิม 30 บาท เป็น 40-50 บาททั้งประเทศ บวกค่าแรงของพนักงานที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งหมดเป็น 60 บาท
ดังนั้น แม้ว่าค่าแรงจะสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายก็สูงตาม มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไรเลยครับ แถมทำให้การท่องเที่ยวไทยซบเซาเพราะชาวต่างชาติต้องจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อมาเที่ยวในประเทศไทย...
เผลอๆ คนอาจเลิกนิยมทานเข้ามาทานอย่างอื่นแทน เหมือนรถที่ใช้น้ำมัน หันมาใช้ก๊าซหรือพลังงานไฟฟ้าแทน เพราะราคาถูกกว่า...
ผมว่าถ้าจะรวมตัวกำหนดราคาข้าวจริงๆ การกำหนดราคาข้าวไม่ควรสูงเกิน 25% จากการขายข้าวราคาปกติทั่วไปครับ ไม่งั้นเกิดผลกระทบกับคนทั่วไปแน่ๆ

อันที่จริงถ้าอยากช่วยชาวนา ผมแนะนำให้รณรงค์ลดต้นทุนการทำนา งดใช้เครื่องจักรราคาแพง งดใช้ปุ๋ยเคมี งดใช้ยาฆ่าแมลง วิจัยพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพ เอาแบบเวียดนาม
ซึ่งผมเชื่อว่ามันเป็นการที่ทำให้คุณภาพชีวิตของชาวนาดีขึ้นแน่ๆ ครับ...
/人◕ ‿‿ ◕人\

╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\

╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\

ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!


#6 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 06:53

เพื่อนๆตอบกันมาดีๆน่าสนใจทั้งนั้นเลยครับ :)


หากยังยึดตรรกะข้าว คือ น้ำมัน

เลิกคุยเถอะ


อันนี้ผมสนใจถามต่อมากๆ เป็นความรู้
เพราะอะไรเราถึงจัดข้าวอยู่ในประเภทน้ำมันเหมือนโอเปคไม่ได้ครับ?


อันที่จริงถ้าอยากช่วยชาวนา ผมแนะนำให้รณรงค์ลดต้นทุนการทำนา งดใช้เครื่องจักรราคาแพง งดใช้ปุ๋ยเคมี งดใช้ยาฆ่าแมลง วิจัยพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพ เอาแบบเวียดนาม
ซึ่งผมเชื่อว่ามันเป็นการที่ทำให้คุณภาพชีวิตของชาวนาดีขึ้นแน่ๆ ครับ...
/人◕ ‿‿ ◕人\


เพิ่งอ่านเจอพอดิบพอดีเลยครับ


http://www.thaipost....ws/041012/63187



ภูฏานประกาศ จะเป็นชาติแรกในโลกที่จะทำการเกษตรอินทรีย์ 100% สร้างจุดเด่นในการแข่งขันกับตลาดโลก

ประเทศภูฏานที่เคยโด่งดังมาก่อนจากการวัดความสุขมวลรวมแห่งชาติ (จีเอ็นเอช) แทนที่การวัดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) กำลังพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการประกาศว่า ภูฏานจะยกเลิกการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงตลอดจนสารเคมีทางการเกษตรอื่นๆ และเป็นประเทศแรกที่เพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ 100% ภายใน 10 ปีข้างหน้า

ภีมะ นัมโช รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร กล่าวว่า ภูฏานได้ตัดสินใจเดินสู่เส้นทางเศรษฐกิจสีเขียว สวนทางกับที่มนุษย์เราสร้างแรงกดดันอย่างหนักให้กับโลกใบนี้ เขาอธิบายว่า หากภูฏานเลือกเส้นทางการเกษตรเข้มข้น เราจะต้องใช้สารเคมีอย่างมาก ซึ่งหนทางดังกล่าวไม่สอดคล้องกับความเชื่อในศาสนาพุทธที่เชื่อว่าเราควรจะ อยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ

นัมโชอธิบายว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ของภูฏานเพาะปลูกเกษตรอินทรีย์กันเป็นปกติอยู่แล้ว พวกเขาจะใช้ปุ๋ยหมักธรรมชาติในการเพาะปลูก มีเพียงชาวนาจำนวนไม่มากที่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้สะดวกที่มีสารเคมี ทางการเกษตรใช้

ปัจจุบันมีเพียงชาติเดียวที่จะแข่งขันกับภูฏานว่าจะเป็นชาติแรกที่เพาะปลูก เกษตรอินทรีย์ก็คือ รัฐปกครองตนเองนิอูเอ ที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเชื่อว่านิอูเอจะประสบความสำเร็จในการเพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ทั้งประเทศใน ปี 2558-2563

ปีเตอร์ เมลเฉ็ต ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายของสมาคมดินอินทรีย์อังกฤษ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงการเพาะปลูกในภูฏานมาเป็นเกษตรอินทรีย์ จะช่วยสร้างจุดเด่นในด้านคุณภาพของผลผลิต และทำให้สามารถขายพืชผลในราคาพิเศษได้ นอกจากนี้ การยกเลิกการใช้สารเคมีทางการเกษตร ยังช่วยลดรายจ่ายจากการนำเข้าสินค้าของภูฏานได้อีกด้วย

ปัจจุบันภูฏานเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรราคาแพงไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อินเดีย รวมไปถึงประเทศไทยด้วย.

Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 06:56.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#7 sudthorn

sudthorn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 06:58

อาจารย์สมคิดคงลืมไปว่า ข้าวเก็บไว้นานก็เสีย ผิดกับน้ำมัน ฉะนั้นการจะเรียกราคาสูง ๆ ตามใจเจ้าของข้าวในเวลาปกติคงลำบาก จะทำได้อย่างเดียวขึ้นราคาข้าวให้สูง ๆ แล้วภาวนาให้เกิดข้าวยากหมากแพงทั่วโลกเท่านั้น ราคาข้าวจะได้สูง
ตามความคิดของเรา นอกจากข้าวเก็บแล้วเสีย แถมยังมีอาหารอื่นทดแทนข้าวได้ ถ้าข้าวราคาดีมาก ๆ ก็สามารถมีทำให้ประเทศอื่นปลูกข้าวของตนเองได้ แล้วเราต้องหาสถานทีมาเก็บข้าวอีก แทนที่จะเอาพื้นที่พวกนั้นไปทำประโยชน์อย่างอื่น ส่วนน้ำมันอยากให้ราคาสูงก็ให้ผลิตน้อยได้ ไม่ต้องเอาขึ้นมาจากพื้นดิน และมิใช่ประเทศไหนจะสามารถขุดเจาะน้ำมันในที่ของตนเองได้ ไม่เช่นนั้นพระเจ้าอยู่หัวของเราถึงได้พยายามให้ประเทศไทยหาพลังงานทดแทนแทนน้ำมัน ท่านเป็นผู้ที่คิดและคิดอย่างรอบคอบเพื่อปวงชนชาวไทย เพื่อห้ประเทศพัฒนา ก้าวหน้าเสมอ เราถึงได้คิดว่าบุญของเราแล้วที่มีท่านเป็นในหลวงของเรา
เราเสียใจกับศาสตราจารย์ ดร. สมคิด อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สามารถออกมาเปลืองตัวเองด้วยความเห็นเช่นนี้ ทั้ง ๆ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์ออกมาต่อต้านมากมาย อย่าเอามหาวิทยาลัยของเราไปชนกับนิด้าเลย
คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

#8 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:10

จะทำได้อย่างเดียวขึ้นราคาข้าวให้สูง ๆ แล้วภาวนาให้เกิดข้าวยากหมากแพงทั่วโลกเท่านั้น ราคาข้าวจะได้สูง


ท่านsudthorn ทำให้ผมนึกได้....
เพิ่งมีประเทศไทยเรานี้มั้ง ที่ทำธุรกิจระดับโลกสำเร็จได้ด้วยการ "ภาวนา"smileyจุดธูป.gif
งงกับมันเจงเจง

ต่อไปข้าวจากประเทศไทยออกสู่ตลาดโลก แทนที่จะปั๊มตรารับรองคุณภาพ อย. ไอเอสโอห้าหมื่นสอง บลาบลาบลา
คงต้องปั๊มตรานี้แทน..

ไอ้ปิ๊ก-เสกขี้เป็นข้าว.gif "ผ่านการรับรองพิธีสวดภาวนามาแล้ว"จุดธูปเรียกมา.gif
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#9 roilee

roilee

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 922 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:21

ผมกลับเห็นว่าทฤษฎีสองสูงคือ ชาวนาขายข้าวได้ราคาสูงและชาวบ้านซื้อข้าวกินในราคาสูงด้วย
ในขณะที่รัฐเอาเงินภาษีจากชาวบ้าน ไปซื้อข้าวจากชาวนาราคาสูงๆ แต่ผู้จ่ายภาษีต้องเสียเงินซื้อข้าวราคาสูงๆด้วย
เป็นธรรมกับชาวบ้า่นแล้วหรือ

ต่อไปเสียงข้างมากฆ่าคนตายก็ไม่ผิด ตามสบายเลย ยุบได้ทุกศาล ต่อไปให้มีศาลประชาชนไปเลย ถ้าจำเลยฆ่าคนตายก็เอาเสียงข้างมากโหวตกันว่า คนนี้ไม่ต้องรับโทษเพราะเป็นพวกเสียงข้างมากสุดแล้วแต่..วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์


#10 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:34


จะทำได้อย่างเดียวขึ้นราคาข้าวให้สูง ๆ แล้วภาวนาให้เกิดข้าวยากหมากแพงทั่วโลกเท่านั้น ราคาข้าวจะได้สูง


ท่านsudthorn ทำให้ผมนึกได้....
เพิ่งมีประเทศไทยเรานี้มั้ง ที่ทำธุรกิจระดับโลกสำเร็จได้ด้วยการ "ภาวนา"
งงกับมันเจงเจง

ต่อไปข้าวจากประเทศไทยออกสู่ตลาดโลก แทนที่จะปั๊มตรารับรองคุณภาพ อย. ไอเอสโอห้าหมื่นสอง บลาบลาบลา
คงต้องปั๊มตรานี้แทน..

ไอ้ปิ๊ก-เสกขี้เป็นข้าว.gif "ผ่านการรับรองพิธีสวดภาวนามาแล้ว"จุดธูปเรียกมา.gif


ต่อไปจะมีการตั้งกระทรวงไสยศาสตร์ ควบคู่กับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ :lol: :( :(

ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#11 เสือน้อย

เสือน้อย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,990 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:43

ถ้าไทยปลูกข้าวรายเดียว หรือ ปลูกได้มากที่สุด / ผลผลิตต่อไร่สูงสุด / ต้นทุนต่ำที่สุด / คุณภาพดีที่สุด
ก็โอ...
หรือ ต้องรวมหัวประเทศที่ปลูกข้าวให้ได้ มันถึงได้ผล
แต่ .. ต้นทุนไม่ต่ำที่สุด / ผลผลิตต่อไร่ไม่สูงสุด / คุณภาพแย่ลง ....... และยังไม่มีการรวมตัวของประเทศผู้ปลูกข้าว
แล้วต้องการขายให้ได้ราคาสูง ได้หรือ .. :P
-- อรุณสวัสดิ์ทุกท่าน -- http://www.Arunsawat.com

#12 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:47



กีโฆเต้

ต่อไปจะมีการตั้งกระทรวงไสยศาสตร์ ควบคู่กับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ :lol: :( :(


^
^
หงายท้องกันเลยทีเดียวไอ้ปิ๊ก-ฮาตายหงายหลัง.gif

ผมกลับเห็นว่าทฤษฎีสองสูงคือ ชาวนาขายข้าวได้ราคาสูงและชาวบ้านซื้อข้าวกินในราคาสูงด้วย
ในขณะที่รัฐเอาเงินภาษีจากชาวบ้าน ไปซื้อข้าวจากชาวนาราคาสูงๆ แต่ผู้จ่ายภาษีต้องเสียเงินซื้อข้าวราคาสูงๆด้วย
เป็นธรรมกับชาวบ้า่นแล้วหรือ


ขบคิดตามดูแล้ว....นี่รัฐบาลกำลัง"ปั่นราคา"ข้าวชัดๆนะครับ!
เพราะราคาที่สูงกว่าท้องตลาด เป็นราคาที่"ไม่เป็นความจริง"
เหมือนมีมือลึกลับมาไล่ช้อนซื้อหุ้น ทำให้หุ้นมีราคาสูงกว่าความเป็นจริง แบบนี้เรียกว่า "หุ้นปั่น" นะครับ
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#13 อาวุโสโอเค

อาวุโสโอเค

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,790 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:57

ถ้าของเก็บได้นานไม่มีการเสื่อม ผมอาจจะพอกล้อมแกล้มเห็นด้วยกับ อ. สมคิด

แต่ข้าวต้องเก็บรอสัก 10 ปี ผมว่ามันคงเสื่อมจนใช้ไม่ได้ วาน อ.สมคิด อธิบายตรรกะนี้เพิ่มเติมด้วย

อย่าลืมนะครับ ข้าวปลูกเพิ่มเติมได้ง่ายมาก อย่าให้เขาว่าได้ว่า อ. ใช้ ตรรกะ ข้าว = น้ำมัน
การเมืองไม่ใช่เพื่อกลุ่มใด แต่เพื่อทุกคนในประเทศ

#14 ไทยทรนง

ไทยทรนง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,006 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:11

"ผมได้ฟังคำอธิบายแบบนี้แล้วเก็ต รู้สึกเห็นด้วย และมองว่ารัฐบาลไม่มีการอธิบายที่ดีพอ ไม่มีคนที่สามารถชี้แจงเรื่องยากๆ แบบนี้ให้สังคมเข้าใจได้ ทราบว่านโยบายจำนำข้าว หากจะทำให้สำเร็จหรือเป็นผู้กำหนดราคาตลาดได้จะต้องทำต่อเนื่องหลายปี ไม่ใช่ทำปีแรกแล้วเห็นผลทันที ฉะนั้นการทำความเข้าใจจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก" อธิการบดี มธ.ระบุ


รัฐบาลไม่มีการอธิบายที่ดีพอ คงไม่ใช่มังครับ สื่อรัฐ สื่ออวยรัฐเต็มบ้านเต็มเมือง โพลชี้นำ ไหนจะสร้างมวลชนมากดดันอีก สารพัด

การทำต่อเนื่องหลายปี ต้องใช้เงินมหาศาล แต่เงินนั้นกู้เขามานะครับ

เมื่อถามถึงการปลุกระดมมวลชนออกมาเคลื่อนไหว จะทำให้ประเด็นนี้บานปลายเป็นความขัดแย้งในบ้านเมืองหรือไม่ ศ.ดร.สมคิด มองว่า ไม่น่าจะบานปลาย เพราะการต่อสู้ของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายรับจำนำข้าว อยู่บนพื้นฐานของกฎหมายและวิชาการแท้ๆ ยังไม่มีใครออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลหรือต่อสู้นอกรูปแบบที่ควรจะเป็น ส่วนมวลชนที่ออกมาชุมนุมกดดันกลุ่มนักวิชาการจากนิด้า ถือเป็นปกติของกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลที่ใช้ต่อสู้กับกลุ่มที่เห็นต่างทุกกรณีอยู่แล้ว


ตรงนี้เห็นด้วย

รัฐประหาร ปกป้องชีวิตไทย พอกันที ประชาธิปไตย ด้วย M79   


#15 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:16

ข้าวไม่ใช่แค่อายุสั้น และผลิตเพิ่มได้ง่าย

แต่ข้าวไม่ใช่แหล่งคาร์โบไฮเดรตหลักที่หาอย่างอื่นมาแข่งได้ยาก เหมือนที่น้ำมันดิบเป็นแหล่งเชื้อเพลิงหลัก

คนในโลกสามารถหาคาร์โบไฮเดรตจากแหล่งอื่น ๆ ได้ง่ายมาก ทั้งข้าวสาลี ข้าวโพด มันฝรั่ง

ไม่ต้องง้อข้าวแบบที่ง้อน้ำมันกันอยู่



ส่วนนโยบายสองสูงเส็งเคร็งอะไรของไอ้หน้าเงินที่พยายามฮุบระบบการผลิตอาหารของประเทศนั่น

ทำในประเทศไทยที่โครงสร้างการเพาะปลูกเป็นแบบนี้ ยังไง ๆ เกษตรกรก็เป็นแค่เหยื่อหรือเครื่องมือของพ่อค้าพันธุ์ พ่อค้าปุ๋ย พ่อค้ายาปราบศัตรูพืช

เอาไปใช้กับภาคแรงงานก็ตลกสิ้นดี

ไม่พัฒนาคุณภาพแรงงาน แต่ถีบค่าแรงขึ้นไป

คิดว่าไม่มีเวียดนาม อินโด ฯลฯ เป็นคู่แข่งรึไง

ค่าแรงแพงกว่า คุณภาพแรงงานเท่า ๆ กัน จะไม่ตกงานกันมั่งก็ให้รู้ไป

อยากจะดันค่าแรงสูง มันก็ต้องยกคุณภาพแรงงานขึ้นไปด้วย

ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#16 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:17

*
POPULAR

ผมอยากให้เข้าใจกันก่อนนะครับ

ทุกประเทศที่กินข้าวล้วนปลูกข้าว และมีนโยบายให้ข้าวเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ทำให้มียอดบริโภคข้าวทั้งโลกถึง 460 ล้านตัน
แต่
ยอดการค้าข้าวระหว่างประเทศมีเพียง 32 ล้านตันหรือประมาณ 7 % ของยอดรวม

เฉพาะประเทศไทยที่ปลูกข้าวเหลือกินและส่งออกไปขายได้สูงถึง 10 ล้านตันทุกปี
ก็แค่ประมาณ 2 %เมื่อเทียบกับยอดรวมของทั้งโลก

นั้นคือเหตุผลว่า เมื่อไทยขายแพง และข้าวไทยขายไม่ออก ไม่มีผลใดๆเพราะข้าวทั้งโลกหายไปเพียง 2 %

และว่าตามความจริงนะ ต่อให้รวมตัวผู้ขายข้าวได้ การมีพลังยอดรวมเพียง 7 % มีอำนาจต่อรองหรือ?

ตรงนี้ต่างจากโอเปคที่รวมกันแล้วเขามียอดเกินกว่าครึ่งของการบริโภคทั้งโลก เขากำหนดราคาได้จริงๆ

อีกทั้ง น้ำมันเก็บได้เรื่อยไม่เสียหาย ไม่ลดลง ข้าวเก็บเกินปีไม่ได้

หากยังดื้อเอาของ 2 อย่างที่ทั้งธรรมชาติตัวมันเองต่าง สภาพตลาดต่างแล้ว

ผมเลยบอกว่า เลิกคุยเถอะ

Edited by sigree, 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:58.


#17 sudthorn

sudthorn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:22

คุณผึ้งน้อย, ยกย่องเราเกินไป ไม่ต้องเรียกเราว่าท่านหรอกเพราะเราไม่เป็นอำมาตย์ และแน่นอนที่สุดเราไม่ใช่"ไพร่"
ดูซิครับผม วันนี้บ้านเมืองทำอะไรตามหลักการบ้าง รัฐบาลทำทุกอย่าง เราก็ต้องนั่งภาวนากันกับการกระทำเพื่าติของเขา
- ช่วงนี้เราภาวนาว่าอย่าให้เกิดพายุ อย่าให้เกิดฝนเล้ย ไม่อย่างนั้นน้ำได้ท่วมอีก ถ้าฝนน้อยพายุไม่มา ก็ถือว่าโชคดีไป ไอ้เงิน 300,000 ล้านบาทที่ใช้พระราชกำหนดออกมาอย่างเร่งด่วน อยู่ไหนไม่รู้ ตอนนี้ภาวนาว่าอย่าไปอยู่ที่ฮ่องกงเลย
- ลดเงินแสนให้รถยนต์คันแรก เราก็เริ่มภาวนาให้คนอย่าซื้อเลย ก็ไม่เห็นสำเร็จ ดันได้ยินว่าคนซื้อใช้ก็เอาชื่อลูกหลานที่ไม่ใช้สิทธิ์ไปชื้อกันบ้าง ตอนนี้ก็เลยต้องภาวนาอีกว่าเวลาออกไปไหนอย่าให้รถติดน้อย ๆ หน่อย เพราะจะภาวนาให้ไม่ติด มัน ยากกกส์
- ที่ต้องใช้การภาวนาอย่างแรงกล้า ให้คนที่เอี้ย ๆ ทั้งหลายลดการหน้าด้านลดความเอี้ยลงไปมาก ๆ หน่อย ไอ้ดี 80% เลว 20% มันไม่ควรเกิดขึ้น ไม่หนีสภา
- ภาวนาให้นักโทษหนีคุกกลับใจ กลับมาใช้โทษที่ทำ เพื่อตายไปจะไม่ต้องไปใช้กรรมในนรกขั้นตำ่สุดนาน ที่ภาวนาเช่นนี้ เพราะเราเป็นชาวพุทธควรชักชวนให้คนทำดี ไม่อาฆาตมาดร้ายต่อกัน ภาวนาให้รักษาศีล 5 โดยเฉพาะ ศีลข้อ 4 ที่เป็นปัญหาของประเทศอยู่ขณะนี้ ทั้งทำให้คนแตกสามัคคีกัน
- ตอนนี้ภาวนาเผื่อลูกหลานว่า ถึงเวลานั้นเงินกู้ทั้งหลายที่ถูกถลุงวันนี้มีคนมาแก้ให้ หาเงินจ่ายให้ได้ ไม่ต้องขายประเทศ และภาวนาเผื่อ ปชป ไม่ต้องมาแก้ปัญหาให้แล้วต้องถูกด่าอีก
ยังมีอีกมากมายที่เราอยากภาวนา เราก็ได้พยายามภาวนาให้ประเทศได้นาน ๆ แต่คงนานไม่เท่าแป๊ะสวดมนต์ (ขอโทษที่เราปแขวะเขา พึ่งบอกให้มุ่งรักษาศีลข้อ 4 มันยังทำบ่ได้ดี) เพราะต้องไปทำกิจกรรมอื่นของตัวเองด้วย
จึงเห็นด้วยกับคุณกีโฆเต้ ให้ตั้งกระทรวงไสยศาสตร์ จะได้มีคนร่วมภาวนา และช่วยกันหาเรื่องมาภาวนามากขึ้น
แหม! แต่บางเรื่องก็คงภาวนาไม่ขึ้น เช่นพูดผิดพูดถูก กับความโง่ แต่ยังมีความหวังภาวนาให้ออกไปเลยทั้งคณะ
เขียนมาคลายเคลียดครับผม

คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

#18 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:41

จะ2สูง สูง7 จะยัดมายังไง ก็ยัดมาเถอะครับ ..ถ้า
*ผลประโยชน์ถึงประเทศชาติ ประชาชนอย่างแท้จริง และมีความั่นคงตลอดไป

แต่จำนำข้าว
*ถึงมือชาวนาแค่30% ของทุนที่ลง
*ชาวนาที่ได้รับเพียงล้านกว่าราย จากทั้งหมดกว่า3ล้านราย
*การระบายข้าวออก เป็นความลับว่าเป็น G to G เมื่อเป็นความลับ
มันก็คือ กิน กับ โกง
*นอกจากรับจำนำข้าวไทยแล้ว นส.ปู ยังเผื่อแผ่ไปยังชาวนาของ
ประเทศเพื่อนบ้านด้วย ..มนุษย์เงินเดือนไทยจ่ายภาษีให้ชาวนาตปท.ด้วย
*ที่สำคัญ ข้าวไทยจะเลวลงทุกวัน เพราะไม่มีการพัฒนาพันธ์ข้าว ทุกคน
เร่งปลูก ไม่จำกัดพันธ์ ..เพราะรับจำนำราคาเดียวกันหมด

*เรื่องกำหนดราคา ถ้านส.ปู รับซื้ออย่างเดียว ไม่ส่งออก ผมว่าอีก
10ปี คนบริโภคข้าวทั่วโลก ก็ยังมีข้าวกิน ..ไม่ต้องง้อข้าวไทย

ทั้งหมดที่ทำเพียงเพื่อการตลาด และการโกง ของพรรคการเมือง และ
พรรคพวก ..ถ้าไม่ชั่วโฉด แบบฝังเป็นสันดานจะทำไม่ได้ ..ผมจึงคัดค้าน

ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#19 ต้นหอม

ต้นหอม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,472 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:50

เอาปริมาณการผลิตไม่ถึง 10 %(เพราะเรายังฮั้วกับใครไม่ได้แต่ต่อให้ฮั้วกับเวียตนามก็ยังไม่ถึง 15%) ไปกดดัน 90 % มันแปลก!!!....ข้าวเป็นสินค้าสำคัญที่สำหรับประเทศเรา แต่ไม่ได้สำคัญนักในระดับโลก เพราะแทบจะทุกประเทศปลูกข้าวได้หมดนั่นแหละ เพียงแต่ที่เค้าไ่ม่ปลูกเพราะผลตอบแทนน้อย

ข้าวเป็นสินค้าที่มีการทดแทนสูงไม่ีกินข้าวกินอย่างอื่นได้ แต่สำหรับผู้มีรายได้น้อยกว่ามักจะเลือกคาร์โบไฮเดรตเช่นข้าวก่อน แต่สำหรับคนมีรายได้สูงเค้าเลือกตัวอื่น ดูจากตัวเราเอง ไม่กินข้าว กินสลัด กินสเต็ก กินมันฝรั่ง มันสำปะหลัง ฯลฯ................แต่น้ำมันยังไม่มีสินค้าทดแทนได้สมบูรณ์

มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต

และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต

แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น


#20 ypk

ypk

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,173 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:58

เหอ เหอ เหอ ดร สมคิด เห็นด้วยกับการทำทรัพย์สินให้ราคาสูง ด้วยวิธีคิด
แบบพ่อค้าหน้าเลือดเห็นแก่ตัวเนี่ยะนะ 555

ถ้า CP กักตุนสินค้า เพื่อทำให้สินค้าของ CP ราคาสูงขึ้น ดร สมคิด ก็คง
ต้องเห็นด้วยซินะ 555

ทรัพย์สินราคาสูง มันควรมีคุณภาพในตัวมันเองที่ทำให้ราคาสูง ไม่ใช่ใช้
วิธีของพ่อค้าหน้าเลือด ถ้าคุณภาพของมันไม่ทำให้ราคาสูง ก็ต้องพัฒนา
คุณภาพให้ดีขึ้น ไอ้วิธีคิดแบบ กักตุน ขึ้นราคา มันเป็นนิสัยถาวรของพ่อค้า
ไทยหรืออย่างไร การไปสนับสนุนวิธีคิดแบบนี้ ก็เหมือนกับยอมใช้ของไร้
คุณภาพที่ถูกปั่นราคาให้แพงนั่นแหละ 555

#21 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:17

ดร. สมคิด ไม่คิดจะลุงทุนสัก 1-2 ล้านตันหรอครับ :D ยังไงมันก็เป็นสินทรัพย์ของ ดร. นะ

“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#22 hinotori

hinotori

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,899 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:18

1. ดึงข้าวมาสู่มือรัฐบาลเพื่อหวังเก็งราคาตามดีมานด์ ซัพพลาย ข้าวขาดตลาดแล้วจะขายแพงได้

ในความคิดผม ประเทศเพื่อนบ้านเราปลูกข้าวได้ทั้งนั้น ได้ทั้งปีด้วย การเอาข้าวมาเก็บไว้โดยไม่ยอมส่งออก

ถือเป็นเรื่องที่ "คิดได้ไงอ่ะ" เพราะกลัวขาดทุนจึงไม่ยอมขาย และในเมื่อไม่ยอมขายก็มีแต่เจ๊ง

เวียดนาม พม่า เขมร ก็สบายไป ปั๊มข้าวส่งออกกันกระจายจนไทยหลุดจากอันดับ

เรื่องที่จะไปรอให้เกิดวิกฤตขาดแคลนอาหารก็เป็นเรื่องอนาคต ข้าวที่เก็บไว้ก็มีแต่เสียหาย

เอกชนในประเทศไม่มีทางหรอกที่จะซื้อข้าวแพงๆจากรัฐมาขาย เอาก็นำเข้ามาจากประเทศอื่นทั้งนั้น

ทางเลือกเดียวคือเอาไปทำจีทูจี แล้วยอมขาดทุนต่างชาติ งุบงิบบัญชีเพื่อไม่ให้โดนเล่นงาน

2. จับมือประเทศค้าข้าวเพื่อกำหนดราคาแบบโอเปก

ใครเขาจะยอมล่ะครับ เรากลายเป็นหมาหางด้วนไปแล้ว จะไปชวนคนอื่นตัดหางด้วยกัน เขาจะได้ด่าให้

#23 xueren

xueren

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 23 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:22

การบิดเบือนกลไกตลาด มันจะทำให้คุณภาพสินค้าด้อยลง
ระยะยาวยังไงก็มีแต่เสีย ตะแบงกันเข้าไป

#24 My Will

My Will

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 229 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:24

แบบนี้ถ้าโอเปกรวมหัวกันลดการผลิตนํ้ามัน ทำให้ราคานํ้ามันโลกสูงขึ้น ส่งผลกระทบมาถึงเราที่ต้องเติมนํ้ามันลิตรละ80บาท

ดร..สมคิดยังจะคิดแบบนี้อยู่หรือเปล่า

#25 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:26

เพื่อนๆตอบกันมาดีๆน่าสนใจทั้งนั้นเลยครับ :)



หากยังยึดตรรกะข้าว คือ น้ำมัน

เลิกคุยเถอะ


อันนี้ผมสนใจถามต่อมากๆ เป็นความรู้
เพราะอะไรเราถึงจัดข้าวอยู่ในประเภทน้ำมันเหมือนโอเปคไม่ได้ครับ?


อันที่จริงถ้าอยากช่วยชาวนา ผมแนะนำให้รณรงค์ลดต้นทุนการทำนา งดใช้เครื่องจักรราคาแพง งดใช้ปุ๋ยเคมี งดใช้ยาฆ่าแมลง วิจัยพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพ เอาแบบเวียดนาม
ซึ่งผมเชื่อว่ามันเป็นการที่ทำให้คุณภาพชีวิตของชาวนาดีขึ้นแน่ๆ ครับ...
/人◕ ‿‿ ◕人\


เพิ่งอ่านเจอพอดิบพอดีเลยครับ


http://www.thaipost....ws/041012/63187



ภูฏานประกาศ จะเป็นชาติแรกในโลกที่จะทำการเกษตรอินทรีย์ 100% สร้างจุดเด่นในการแข่งขันกับตลาดโลก

ประเทศภูฏานที่เคยโด่งดังมาก่อนจากการวัดความสุขมวลรวมแห่งชาติ (จีเอ็นเอช) แทนที่การวัดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) กำลังพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการประกาศว่า ภูฏานจะยกเลิกการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงตลอดจนสารเคมีทางการเกษตรอื่นๆ และเป็นประเทศแรกที่เพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ 100% ภายใน 10 ปีข้างหน้า

ภีมะ นัมโช รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร กล่าวว่า ภูฏานได้ตัดสินใจเดินสู่เส้นทางเศรษฐกิจสีเขียว สวนทางกับที่มนุษย์เราสร้างแรงกดดันอย่างหนักให้กับโลกใบนี้ เขาอธิบายว่า หากภูฏานเลือกเส้นทางการเกษตรเข้มข้น เราจะต้องใช้สารเคมีอย่างมาก ซึ่งหนทางดังกล่าวไม่สอดคล้องกับความเชื่อในศาสนาพุทธที่เชื่อว่าเราควรจะ อยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ

นัมโชอธิบายว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ของภูฏานเพาะปลูกเกษตรอินทรีย์กันเป็นปกติอยู่แล้ว พวกเขาจะใช้ปุ๋ยหมักธรรมชาติในการเพาะปลูก มีเพียงชาวนาจำนวนไม่มากที่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้สะดวกที่มีสารเคมี ทางการเกษตรใช้

ปัจจุบันมีเพียงชาติเดียวที่จะแข่งขันกับภูฏานว่าจะเป็นชาติแรกที่เพาะปลูก เกษตรอินทรีย์ก็คือ รัฐปกครองตนเองนิอูเอ ที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเชื่อว่านิอูเอจะประสบความสำเร็จในการเพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ทั้งประเทศใน ปี 2558-2563

ปีเตอร์ เมลเฉ็ต ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายของสมาคมดินอินทรีย์อังกฤษ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงการเพาะปลูกในภูฏานมาเป็นเกษตรอินทรีย์ จะช่วยสร้างจุดเด่นในด้านคุณภาพของผลผลิต และทำให้สามารถขายพืชผลในราคาพิเศษได้ นอกจากนี้ การยกเลิกการใช้สารเคมีทางการเกษตร ยังช่วยลดรายจ่ายจากการนำเข้าสินค้าของภูฏานได้อีกด้วย

ปัจจุบันภูฏานเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรราคาแพงไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อินเดีย รวมไปถึงประเทศไทยด้วย.


ผมอยากให้เข้ากันก่อนนะครับ

ทุกประเทศที่กินข้าวล้วนปลูกข้าว และมีนโยบายให้ข้าวเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ทำให้มียอดบริโภคข้าวทั้งโลกถึง 460 ล้านตัน
แต่
ยอดการค้าข้าวระหว่างประเทศมีเพียง 32 ล้านตันหรือประมาณ 7 % ของยอดรวม

เฉพาะประเทศไทยที่ปลูกข้าวเหลือกินและส่งออกไปขายได้สูงถึง 10 ล้านตันทุกปี
ก็แค่ประมาณ 2 %เมื่อเทียบกับยอดรวมของทั้งโลก

นั้นคือเหตุผลว่า เมื่อไทยขายแพง และข้าวไทยขายไม่ออก ไม่มีผลใดๆเพราะข้าวทั้งโลกหายไปเพียง 2 %

และว่าตามความจริงนะ ต่อให้รวมตัวผู้ขายข้าวได้ การมีพลังยอดรวมเพียง 7 % มีอำนาจต่อรองหรือ?

ตรงนี้ต่างจากโอเปคที่รวมกันแล้วเขามียอดเกินกว่าครึ่งของการบริโภคทั้งโลก เขากำหนดราคาได้จริงๆ

อีกทั้ง น้ำมันเก็บได้เรื่อยไม่เสียหาย ไม่ลดลง ข้าวเก็บเกินปีไม่ได้

หากยังดื้อเอาของ 2 อย่างที่ทั้งธรรมชาติตัวมันเองต่าง สภาพตลาดต่างแล้ว

ผมเลยบอกว่า เลิกคุยเถอะ


พี่ Sigree ตอบเชิงปริมาณไปแล้วผมจะตอบในแง่คุณภาพต่อในเมื่อทุกชาติสามารถปลูกเองได้แล้ว
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถกำหนดราคาได้คือในแง่คุณภาพน้ำมันสามารถเก็บไว้ในโกดังได้
โดยที่คุณภาพไม่ลดลง แต่ข้าวมันลดลงทุกวันไหนจะเรื่องของพันธุ์ข้าวอีกล่ะที่ในแต่ละที่ก็ไม่สามารถ
ปลูกข้าวในพันธุ์เดียวกันได้อีกไม่งั้นข้าวหอมมะลิคงเต็มประเทศไปหมด ไม่เหมือนนำมันที่จะสูบขึ้นมาจากที่ไหน
มันก็คือน้ำมันดิบเหมือนกัน
  • -3- likes this

เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#26 roilee

roilee

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 922 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:38

ในขณะที่รัฐบาลต้องการขายข้าวให้ชาวโลกราคาแพงๆนั้นยังทำไม่ได้
แต่คนไทยต้องซื้อข้าวกินแพงกว่าชาวโลกแล้ว

ข้าวหอมมะลิไทย ชั้น 1 THMR Grade A (54/55) 35.28 บาท/กก ราคา FOB เมื่อ 10 ตค. 55
ข้าวหอมมะลิตรา.. ....ถุงขนาด 5 กก.ราคา 225 บาท = 45.00 บาท/กก.


ข้อมูลจาก http://akericemill.c...e_update_th.php
และ http://www.welovesho...p?group=1367891

Edited by roilee, 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:42.

ต่อไปเสียงข้างมากฆ่าคนตายก็ไม่ผิด ตามสบายเลย ยุบได้ทุกศาล ต่อไปให้มีศาลประชาชนไปเลย ถ้าจำเลยฆ่าคนตายก็เอาเสียงข้างมากโหวตกันว่า คนนี้ไม่ต้องรับโทษเพราะเป็นพวกเสียงข้างมากสุดแล้วแต่..วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์


#27 Ricebeanoil

Ricebeanoil

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,320 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:45

ผมเห็นด้วย ถ้าเอาข้าวไปเทียบกับน้ำมันก็เลิกพูดเถอะ
เพราะจริงอยู่ทั้งข้าวและน้ำมันเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity)
แต่ความอ่อนตัว (flexibility) ต่อการปรับราคาต่างกัน
ข้าวเมื่อปลูกแล้วใช้เวลา 3 เดือน เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต ระหว่าง 3 เดือนนี้หากเกิดการแกว่งตัวของราคาผลิตผล ไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย
ยกเว้นจะใช้ประโยคที่ว่า "เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง" อันนั้นก็พอทำได้ แต่ก็มีค่าเสียโอกาสจากการลงทุนไปก่อนหน้านั้น
น้ำมันกลับไม่เป็นแบบนั้น ถ้าราคาแกว่งตัวเมื่อไหร่ กลุ่มโอเปกประชุมกันได้ผลสรุป พรุ่งนี้ลดอัตราการสูบน้ำมันดิบขึ้นมาจากหลุมได้ทันที
ค่าเสียโอกาสจากการลงทุนก็ไม่มี เพราะทรัพย์สินของการขุดน้ำมันตัดค่าเสื่อมอุตสาหกรรมหมดไปใน 5 ปีแรกแล้ว
น้ำมันดิบเก็บไว้ในบ่อน้ำมันล้านปีก็ไม่เน่าเสีย ข้าวเก็บได้ไม่เกิน 3 ปี
ถ้าไม่พิจารณาประเด็นพวกนี้ แล้วยังเอาข้าวไปเทียบกับน้ำมันอยู่ พูดกันให้ตายก็ไม่รู้เรื่อง
เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ

#28 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:49

เฉพาะประเทศไทยที่ปลูกข้าวเหลือกินและส่งออกไปขายได้สูงถึง 10 ล้านตันทุกปี
ก็แค่ประมาณ 2 %เมื่อเทียบกับยอดรวมของทั้งโลก

นั้นคือเหตุผลว่า เมื่อไทยขายแพง และข้าวไทยขายไม่ออก
ไม่มีผลใดๆเพราะข้าวทั้งโลกหายไปเพียง 2 %



ผมเลยบอกว่า เลิกคุยเถอะ


มาติดดาวให้เม้นท์นี้
เหลือเชื่อว่าอธิการบดีมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ
คิดได้ไม่เท่ากับเพื่อนสมาชิกเสรีไทยของเรา

คุณจะเอาสินค้า 2% ที่ใครๆ ก็ผลิตได้
ไปกำหนดราคาตลาดโลก



มารดามันโง่ทั้งสมคิด โง่ทั้งไอ้เจ๊กธนินทร์

#29 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:22

อ่านเมนท์ของเพื่อนๆทุกท่านแล้ว ตื่นรู้มากๆเลยครับ ^_^


2. จับมือประเทศค้าข้าวเพื่อกำหนดราคาแบบโอเปก

ใครเขาจะยอมล่ะครับ เรากลายเป็นหมาหางด้วนไปแล้ว จะไปชวนคนอื่นตัดหางด้วยกัน เขาจะได้ด่าให้


จริงนิ เขาแซงเราเป็นที่หนึ่งแล้ว เขาจะถอยหลังมา "ฉุดมือเธอขึ้นแล้วเดินคู่กับฉัน" ไปทำไำมเล่า???

ไอ้หนูจำมัยรบกวนถามต่อนะครับ
พอประชาคมอาเซียนเริ่มทำงานจริงๆ เป็นไปได้ไหมครับที่เราจะจับมือกำหนดราคาเดียวกัน?
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#30 sorrow

sorrow

    REFORM BEFORE ELECTION

  • Members
  • PipPipPip
  • 717 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:36

สำหรับผม... นโยบาย 2 สูงเป็นหนึ่งในนโยบายที่ไม่ควรเอามาใช้ในประเทศไทยอย่างเด็ดขาด
เหตุผลคือ เศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ได้ใช้เทคโนโลยีระดับสูงในการขับเคลื่อนการผลิตเป็นหลัก ตามปกติเราเป็นผู้รับจ้างผลิตมากกว่า
ต่อให้เรามีเทคโนโลยีระดับสูงของตนเองแบบญี่ปุ่น หรืออเมริกาผมก็ไม่เห็นด้วย
เนื่องจากในคนประเทศเหล่านี้มีค่าแรงที่สูงมากเกินไปจะทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่่อนได้ยากจนทำให้เกิดคนตกงานจำนวนมาก เพราะไม่มีใครจ้างเนื่องจากค่าแรงแพง
ขนาดประเทศจีนซึ่งตอนนี้มีเทคโนโลยีระดับสูงอยู่เป็นจำนวนมาก ยังพยายามทำให้ค่าแรงและค่าเงินถูกลง ไม่งั้นเศรษฐกิจจีนมีปัญหาแน่
(แม้ว่าประเทศจีนช่วงนี้เริ่มมีการปรับค่าแรงบ้าง แต่เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ขึ้นพรวดเดียว 300 บาท 15,000 บาท)
อีกเหตุผลหนึ่งคือ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ย่อมทำให้เกิดการย้ายทุนได้อย่างอิสระ
ประเทศที่น่าสนใจคือประเทศพม่าเพิ่งเปิดประเทศ แม้ว่าสาธารณูปโภคยังไม่ดีเท่าไทย แต่เนื่องจากมีเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยตนเอง มีค่าแรงถูก มีวัตถุดิบหลายๆ อย่าง
การย้ายลงทุนจากไทยไปพม่าย่อมเกิดขึ้นแน่นอนเพราะค่าแรงงานไทยแพง เมื่อมีการย้ายโรงงานแบบนี้ รัฐบาลจะหาเงินด้วยการเก็บภาษีได้เหมือนเดิมหรือ?

ส่วนเรื่องการจัดตั้งกลุ่มการกำหนดราคาข้าว ปัญหาที่ผมเห็นคือ ไม่มีการจัดตั้งกลุ่มการกำหนดราคาข้าวอย่างจริงจัง แล้วมาใช้นโยบายจำนำข้าวแบบนี้ มันจะเจ๊งก็ไม่แปลกครับ (ไม่เจ๊งสิแปลก)
เอาเป็นว่า สมมุติมีการจัดตั้งกลุ่มกำหนดราคาข้าวแล้ว กำหนดให้ข้าว A จากเดิมราคา 10 เป็น 20 บาท พุ่งขึ้นเท่าตัว สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ประชาชนประท้วงเพราะค่าอาหารแพงแบบเดียวกับประท้วงเรื่องราคาน้ำมัน
สำหรับการขึ้นราคา ผมขอยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์พวกข้าวตัง... เออ...เอาเป็นว่ายกตัวอย่างข้าวผัด จากราคาเดิม 30 บาท เป็น 40-50 บาททั้งประเทศ บวกค่าแรงของพนักงานที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งหมดเป็น 60 บาท
ดังนั้น แม้ว่าค่าแรงจะสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายก็สูงตาม มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไรเลยครับ แถมทำให้การท่องเที่ยวไทยซบเซาเพราะชาวต่างชาติต้องจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อมาเที่ยวในประเทศไทย...
เผลอๆ คนอาจเลิกนิยมทานเข้ามาทานอย่างอื่นแทน เหมือนรถที่ใช้น้ำมัน หันมาใช้ก๊าซหรือพลังงานไฟฟ้าแทน เพราะราคาถูกกว่า...
ผมว่าถ้าจะรวมตัวกำหนดราคาข้าวจริงๆ การกำหนดราคาข้าวไม่ควรสูงเกิน 25% จากการขายข้าวราคาปกติทั่วไปครับ ไม่งั้นเกิดผลกระทบกับคนทั่วไปแน่ๆ

อันที่จริงถ้าอยากช่วยชาวนา ผมแนะนำให้รณรงค์ลดต้นทุนการทำนา งดใช้เครื่องจักรราคาแพง งดใช้ปุ๋ยเคมี งดใช้ยาฆ่าแมลง วิจัยพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพ เอาแบบเวียดนาม
ซึ่งผมเชื่อว่ามันเป็นการที่ทำให้คุณภาพชีวิตของชาวนาดีขึ้นแน่ๆ ครับ...
/人◕ ‿‿ ◕人\


ชอบความเห็นนี้ครับ ถ้าเรามุ่งเพิ่มรายได้แต่ปล่อยให้รายจ่ายเพิ่มตามด้วยอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทั้งชาวนาและคนทำงานก็จะยังจนต่อไป เพราะเหลือเงินเท่าเดิม (มองโลกในแง่ดีว่าคงไม่น้อยกว่าเดิม) ถ้าอยากให้คนมีเงินเพิ่มขึ้น ต้องดูว่าทำอย่างไรจะช่วยให้เขามีเงินเหลือมากกว่าเดิม ถ้าอยากให้ชาวนามีเงิน ก็ต้องช่วยลดต้นทุนของชาวนาด้วย ไม่ใช่ขายข้าวได้แพงขึ้น แต่ต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่ายาปราบศัตรูพืช ก็แพงขึ้นไปด้วย แบบนี้มีแต่คนที่ขายของพวกนี้แหละที่จะได้ประโยชน์

ที่ผ่านๆ มาผมไม่เห็นรัฐบาลไทยใส่ใจเรื่องต้นทุนของชาวนากันสักเท่าไร แต่รัฐบาลนี้ยิ่งหนักเพราะผลักทั้งชาวนาและคนงานให้จนหนักกว่าเดิมในขณะที่ต้วเองกอบโกยผลประโยชน์บนความล่มจมของชาติและประชาชน

ร่วมกันทำลายล้างระบอบทักษิณ-เผด็จการชินวัตรให้หมดไปจากแผ่นดินไทย

 

โลกมนุษย์ย่อมจะดีกว่านี้แน่      เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน
คงยืนหยัดสู้ไปใฝ่ประจัญ      ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทย


#31 taze

taze

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 732 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:48

เพื่อนๆตอบกันมาดีๆน่าสนใจทั้งนั้นเลยครับ :)



หากยังยึดตรรกะข้าว คือ น้ำมัน

เลิกคุยเถอะ


อันนี้ผมสนใจถามต่อมากๆ เป็นความรู้
เพราะอะไรเราถึงจัดข้าวอยู่ในประเภทน้ำมันเหมือนโอเปคไม่ได้ครับ?


มันเป็นคนละประเภทกันเลยครับ ไม่นับว่าน้ำมันกักตุนได้ แต่ข้าว กักตุนไปก็ได้แต่มอด หรือไม่ก็แป้งข้าว ส่วนน้ำมันมันมีจำกัดปลูกเพิ่มไม่ได้เหมือนข้าว ข้าวคนปลูกเยอะก็มีล้นตลาด แต่น้ำมันมีแต่จะลดลง ต่อให้รวมตัวกันฮั้วราคาเหมือนโอเปคได้ แต่่ว่าสินค้าแบบข้าวมีของทดแทนเพียบ ทั้ง ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี พืชตะกูลถั่ว ฯลฯ ในขณะที่น้ำมันไม่มีอะไรทดแทนได้ 100% ครับ

"Power tends to corrupt, and absolute power corrupts absolutely."


#32 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:50

ที่ผ่านๆ มาผมไม่เห็นรัฐบาลไทยใส่ใจเรื่องต้นทุนของชาวนากันสักเท่าไร แต่รัฐบาลนี้ยิ่งหนักเพราะผลักทั้งชาวนาและคนงานให้จนหนักกว่าเดิมในขณะที่ต้วเองกอบโกยผลประโยชน์บนความล่มจมของชาติและประชาชน


เคยมีชาวนาเงินล้านแอบบ่นกับสื่อเหมือนกันครับเรื่องนี้
ว่าเขาทำนาแบบลดต้นทุน ด้วยเกษตรอินทรีย์ ทำให้ได้กำไรต่อผลผลิตสูงกว่าเดิมมาก
และเขาก็ปลูกพืชเกษตรอื่นระหว่างรอทำนาไปด้วย ทำให้เขามีเงินล้าน
แต่พอเขาเสนอสอนวิธีของเขาให้เพื่อนชาวนาฟรีๆ กลับถูกปฏิเสธครับ
ด้วยข้ออ้างต่างๆนานาว่ายากมั่งละ นานไปละ เคยชินกับวิธีเก่ามั่งละ
เขาเลยท้อ เลิกคิดเลย

ชาวนาที่เป็นแบบนี้มีเยอะมาก ก็เลยจนกันเป็นจำนวนมากให้รัฐอุ้มแบบนี้ไงครับ
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#33 sudthorn

sudthorn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:51

เพราะอะไรเราถึงจัดข้าวอยู่ในประเภทน้ำมันเหมือนโอเปคไม่ได้ครับ?

ขอร่วมคิดแบบชาวบ้าน

ความต้องการบริโภค - น้ำมันเป็นสิ่งที่ต้องการทั่วโลก และเป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนหลาย ๆ อย่าง เช่นใส่รถยนต์ เครื่องจักรในโรงงาน ในประเทศหนาวก็ใช้น้ำมันทำให้อุ่นได้เป็นต้น ถึงแม้มันจะมีอย่างอื่นทดแทนได้เช่นถ่านหิน มันก็ขุดขึ้นลำบาก หลายๆ ประเทศถึงกำลังหาพลังงานทดแทน ส่วนข้าวความต้องการบริโภคก็เป็นเพียงบางภาคของโลก และตามที่คุณsigree ที่ว่าคนที่บริโภคข้าวก็สามารถปลูกเองได้ ขณะเดียวกัน ข้าวแพงเราก็ไปบริโภคอย่างอื่นแทนได้ เช่นแทนที่จะทำข้าวผัดกระเพรา ก็ทำสปาเกตตี้ผัดกระเพรา เป็นต้น

การจัดเก็บ - ข้าวเป็นของที่มีความเสียหายในระยะสั้น ต้องหาที่จัดเก็บ เสื่อมคุณภาพลงได้ ราคาขายจะสูงเท่าไรเราก็ต้องคิดราคาค่าจัดเก็บ และรัฐบาลต้องไปกู้ยืมมาซื้อข้าวก็ต้องบวกค่าดอกเบี้ย และค่าต่าง ๆ เหล่านี้จะบวกเป็นต้นทุนแล้ว ราคาจะขยับไปเรื่อย ๆ ส่วนน้ำมันไม่ได้ตามราคาที่ต้องการก็เพียงหยุดการผลิต ไม่มีค่าเสียหาย ไม่มีการสะสมต้นทุน

คุณภาพ - ข้าวผลิตมากขึ้น หลายฤดู เราจะดำรงมาตรฐานของข้าวให้มีคุณภาพเยี่ยมอย่างที่เราเคยผลิตได้เป็นที่นิยมของคนบริโภคได้อย่างไร ยิ่งตอนนี้เราก็เสียแชมป์คุณภาพข้าวให้เขมรไปแล้ว ส่วนน้ำมันก็ยังคงเป็นนำ้มันที่ขุดขึ้นมาก็ขายได้

ปริมาณการผลิต - ง่ายต่อการกำหนดราคา น้ำมันผลิตน้อยราคาก็สูง และจะผลิตเพิ่มเมื่อไรก็ได้ ข้าวผลิตน้อยราคาสูง แต่ไม่มีข้าวขาย จะผลิตอีกก็ต้องรออย่างน้อย ๆ 3 เดือน จึงคิดว่าจะเอาข้าวมากำหนดราคาแบบน้ำมันคงยากสสสสสส์

เราจึงว่ารัฐบาลยอมรับเถอะว่าจำนำข้าวนะมันไม่ดี เราว่าน่าจะทำคำถามให้ชาวนาทั่วประเทศ และผู้ส่งออกข้าวเป็นผู้ตอบคำถาม ที่เลือกนี้ ก็ดูตามบริษัททั่ว ๆ ไป CEO (ชีอีโอ) น่าจะสนใจจาก ฝ่ายผลิต และฝ่ายขาย

เราก็มีความเห็นแบบการเอาชีวิตการทำงาน และการรับฟังทั้งหลาย มาวิเคราะห์โดยไม่เลือกฟังใคร และไม่เป็นเครื่องถ่ายเอกสารของใครครับผม





คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

#34 robbo

robbo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 580 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:54

ทฤษฎีสองสูงเป็นแนวคิดของพวกทุนนิยมสุดๆ คือประเภทมือใครยาว สาวได้สาวเอา
คนที่ได้มากกว่าคือคนที่มีต้นทุนมากกว่า และคนที่ได้มากสุดคือนายทุนระดับใหญ่ เจ้าสัวถึงเชียร์ :ph34r:
ถ้าสังคมที่มีความแตกต่างของชนชั้นไม่มาก ทฤษฎีนี้ก็อาจเป็นไปได้ในแง่ผลดีต่อพื้นฐานประเทศในระยะยาว

แต่สำหรับประเทศไทย แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงยังน่าเหมาะสมกว่าในภาวะปัจจุบัน

รอจนสามารถพัฒนาคน พัฒนาการศึกษา พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ได้ระดับหนึ่งก่อน ให้แต่ละภาคส่วนของสังคมไม่ได้เปรียบ เสียเปรียบ แตกต่างกันมากนัก
ค่อยว่าไปถึงแนวทางทุนนิยมสุดๆ

#35 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:55

อ๊ากก กระทู้ไปไว ดิทใหม่ ดิทใหม่

ความ ต้องการบริโภค - น้ำมันเป็นสิ่งที่ต้องการทั่วโลก และเป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนหลาย ๆ อย่าง เช่นใส่รถยนต์ เครื่องจักรในโรงงาน ในประเทศหนาวก็ใช้น้ำมันทำให้อุ่นได้เป็นต้น ถึงแม้มันจะมีอย่างอื่นทดแทนได้เช่นถ่านหิน มันก็ขุดขึ้นลำบาก หลายๆ ประเทศถึงกำลังหาพลังงานทดแทน ส่วนข้าวความต้องการบริโภคก็เป็นเพียงบางภาคของโลก และตามที่คุณsigree ที่ว่าคนที่บริโภคข้าวก็สามารถปลูกเองได้ ขณะเดียวกัน ข้าวแพงเราก็ไปบริโภคอย่างอื่นแทนได้ เช่นแทนที่จะทำข้าวผัดกระเพรา ก็ทำสปาเกตตี้ผัดกระเพรา เป็นต้น

การจัดเก็บ - ข้าวเป็นของที่มีความเสียหายในระยะสั้น ต้องหาที่จัดเก็บ เสื่อมคุณภาพลงได้ ราคาขายจะสูงเท่าไรเราก็ต้องคิดราคาค่าจัดเก็บ และรัฐบาลต้องไปกู้ยืมมาซื้อข้าวก็ต้องบวกค่าดอกเบี้ย และค่าต่าง ๆ เหล่านี้จะบวกเป็นต้นทุนแล้ว ราคาจะขยับไปเรื่อย ๆ ส่วนน้ำมันไม่ได้ตามราคาที่ต้องการก็เพียงหยุดการผลิต ไม่มีค่าเสียหาย ไม่มีการสะสมต้นทุน

คุณภาพ - ข้าวผลิตมากขึ้น หลายฤดู เราจะดำรงมาตรฐานของข้าวให้มีคุณภาพเยี่ยมอย่างที่เราเคยผลิตได้เป็นที่นิยม ของคนบริโภคได้อย่างไร ยิ่งตอนนี้เราก็เสียแชมป์คุณภาพข้าวให้เขมรไปแล้ว ส่วนน้ำมันก็ยังคงเป็นนำ้มันที่ขุดขึ้นมาก็ขายได้

ปริมาณการผลิต - ง่ายต่อการกำหนดราคา น้ำมันผลิตน้อยราคาก็สูง และจะผลิตเพิ่มเมื่อไรก็ได้ ข้าวผลิตน้อยราคาสูง แต่ไม่มีข้าวขาย จะผลิตอีกก็ต้องรออย่างน้อย ๆ 3 เดือน จึงคิดว่าจะเอาข้าวมากำหนดราคาแบบน้ำมันคงยากสสสสสส์

^
^
อธิบายได้ชัดเจน เห็นภาพตามได้ง่ายเลยครับท่าน

(ปล. ตอบท่าน sudthorn คห.ก่อนหน้านี้
ผมเรียกท่าน ตามนิยายกำลังภายในน่ะครับ แบบว่าบ้าวรรณกรรมกำลังภายในมาก แฮ่ๆ ท่านมีดบินลี้น้อยมิเคยพลาดเป้า ท่านจอมยุทธอินทรี...ประมาณนั้นน่ะคร้าบ)

Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:56.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#36 taze

taze

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 732 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:00

อีกอย่างต่อให้มีซักปี 2 ปีที่ราคาข้าวดี คนก็จะแห่กันปลูกข้าวทั่วโลกสุดท้่ายก็จะเป็นไปตามกลไกเศรษฐศาสตร์คือ ของเยอะกว่าความต้องการ ราคาก็ย่อมลดลง ในขณะที่น้ำมันมันผลิตเพิ่มไม่ได้แต่ความต้องการมีอยู่ตลอดเวลา มันคนละเรื่องกันเลย เรื่องชาวนาผมถือว่าเป็นความห่วยของกระทรวงเกษตรเบอร์ 1 เลย คุณส่งเสริมทุกอย่างที่เป็นต้้นทุนเพิ่มเข้าไปให้กับเค้า ในขณะที่ราคาขายขยับเพิ่มนิดหน่อย มาร์จิ้นจากไม่มีกลายเป็นติดลบ ว่าง่ายๆเดินผิดทาง ต้องเริ่มที่การลดต้นทุนของชาวนา เหมือนที่ในหลวงท่านทำให้เห็นในไร่นาผสมผสาน เกษตรพอเพียง ไม่เหมือนที่เป็นทุกวันนี้ไม่มีเงินแต่ก็ต้องไปกู้เงินติดหนี้ ซื้อปุ๋ย ซื้อเมล็ดพันธ์ ในขณะที่สมัยก่อนพันธ์ข้าวก็เอาในยุ้งนั้นแหละ ปุ๋ยก็ขี้วัวขี้ควายในคอก ไม่เสียเงินซักบาท -_-

"Power tends to corrupt, and absolute power corrupts absolutely."


#37 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:05

อีกอย่างต่อให้มีซักปี 2 ปีที่ราคาข้าวดี คนก็จะแห่กันปลูกข้าวทั่วโลกสุดท้่ายก็จะเป็นไปตามกลไกเศรษฐศาสตร์คือ ของเยอะกว่าความต้องการ ราคาก็ย่อมลดลง ในขณะที่น้ำมันมันผลิตเพิ่มไม่ได้แต่ความต้องการมีอยู่ตลอดเวลา


จริงด้วย! หลัก Demand กับ Supply ง่ายๆเลยนะครับ
ของที่ผลิตตามกันได้ ถ้าราคายิ่งสูง ยิ่งมีคู่แข่งแห่ทำตามมาก
ของที่ทำเลียนแบบไม่ได้(ใครจะ"ปลูกน้ำมัน"ได้บ้างครับ ไม่มีนะครับพี่) ปั่นราคาแค่ไหนก็ได้เพราะมันทำเลียนแบบกันไม่ได้นี่นา
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#38 ssa

ssa

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,120 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:09

1.สมคิดไม่ได้มองกฎหมายเอกชน
2.สมคิดไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์

#39 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:22

1.สมคิดไม่ได้มองกฎหมายเอกชน
2.สมคิดไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์


1. ท่าน ssa หมายถึง "การแทรกแซงตลาด" รึเปล่าครับ?
2. แต่พวกเราเสรีไทยไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ กลับคิดได้คมขาด โดยไม่ต้องเรียนศาสตร์โดยตรงก็ได้
แล้วไหงอจ.สมคิดแกคิดไม่ทันล่ะครับ

Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:22.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#40 ฟ้าเข้ม

ฟ้าเข้ม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 290 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:27

คิดว่าเวียดนามกับอินเดียจะยอมจับมือด้วยเหรอ ถ้าเค๊าไม่จับมือด้วยหรือกำหนดราคาต่ำกว่าราคาจำนำล่ะ

#41 ssa

ssa

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,120 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:28


1.สมคิดไม่ได้มองกฎหมายเอกชน
2.สมคิดไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์


1. ท่าน ssa หมายถึง "การแทรกแซงตลาด" รึเปล่าครับ?
2. แต่พวกเราเสรีไทยไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ กลับคิดได้คมขาด โดยไม่ต้องเรียนศาสตร์โดยตรงก็ได้
แล้วไหงอจ.สมคิดแกคิดไม่ทันล่ะครับ

สามปัจจัย
1.สมคิดอยู่ในฐานะอธิการฯ มีข้อจำกัดในการแสดงความเห็น (แต่ผมมองว่าสมคิดกังวลไปเอง)
2.สมคิดเป็นนักกฎหมายมหาชน อ่านจากข้อเขียนจะเห็นมุมมองทางมหาชนล้วนๆ กฎหมายเอกชนหมายรวมถึง "รัฐยอมตนเข้าผูกนิติสัมพันธ์กับเอกชนในฐานะที่เท่าเทียมกัน"
3.สมคิดมองที่ตัวนโยบาย แต่ไม่ได้มองแยกส่วนแต่ละองค์กร ตรงนั้นจะพบความไม่ชอบด้วยกฎหมายตามกฎหมายเอกชน และจะพาไปสู่กฎหมายมหาชน

Edited by ssa, 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:29.


#42 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:58


ที่ผ่านๆ มาผมไม่เห็นรัฐบาลไทยใส่ใจเรื่องต้นทุนของชาวนากันสักเท่าไร แต่รัฐบาลนี้ยิ่งหนักเพราะผลักทั้งชาวนาและคนงานให้จนหนักกว่าเดิมในขณะที่ต้วเองกอบโกยผลประโยชน์บนความล่มจมของชาติและประชาชน


เคยมีชาวนาเงินล้านแอบบ่นกับสื่อเหมือนกันครับเรื่องนี้
ว่าเขาทำนาแบบลดต้นทุน ด้วยเกษตรอินทรีย์ ทำให้ได้กำไรต่อผลผลิตสูงกว่าเดิมมาก
และเขาก็ปลูกพืชเกษตรอื่นระหว่างรอทำนาไปด้วย ทำให้เขามีเงินล้าน
แต่พอเขาเสนอสอนวิธีของเขาให้เพื่อนชาวนาฟรีๆ กลับถูกปฏิเสธครับ
ด้วยข้ออ้างต่างๆนานาว่ายากมั่งละ นานไปละ เคยชินกับวิธีเก่ามั่งละ
เขาเลยท้อ เลิกคิดเลย

ชาวนาที่เป็นแบบนี้มีเยอะมาก ก็เลยจนกันเป็นจำนวนมากให้รัฐอุ้มแบบนี้ไงครับ


เกษตรกรไทยจำนวนไม่น้อย นิยมถูกพ่อค้าปุ๋ย-ยาจูงจมูก แล้วก็พากันเดินลงเหว

ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#43 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:22

แต่ละประเทศที่ปลูกช้าวและบริโภคข้าวจะมีสต๊อกข้าวสำรองไว้
ผู้ซื้อรู้ตัวเลขว่าแต่ละประเทศมีข้าวอยู่ในมือเท่าไหร่
เขาเลือกที่จะรอ ไทยอยากขายแพง คนซื้อก็ยากซื้อถูก
ก็เลือกที่จะรอได้จนถึงฤดูการผลิตใหม่ก็ยังรอได้
ถึงตอนนั้นประเทศไทยแทบไม่พบกับโอกาสแบบนั้น
ที่ยังขายได้อยู่เพราะยังมีผู้ซื้อที่เจาะจงต้องข้าวไทยเท่านั้น
ถึงยังขายได้ ผ่านมาแล้วหนึ่งปีน่าเรียนรู้อะไรๆ บ้าง
และการรอให้ข้าวประเทศอื่นขายหมดก่อนแล้วค่อยเป็นโอกาสของไทยนั้น
ช่างเป็นวิธีที่มืดมนจริงๆ สงสัยต้องพึ่งท่านเต้นให้ไปเผาสต๊อกข้าวประเทศอื่นกระมัง

Edited by phoosana, 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:23.

We love fender.

#44 cassava

cassava

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 916 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:23

นำพาประเทศโดยใช้นโบายสองสูงของเจ้าสัว!!! ข้าวแพงทำให้ชาวนาหลายล้านคนมีกำลังซื้อ!!! ขึ้นค้าแรงให้คนใช้แรงงานหลายล้านมีกำลังซื้อ!!! ซื้อสินค้าที่ใครผูกขาดอยู่ ต้นทุนแทบทุกอย่างสูงขึ้นหมด แต่ต้นทุนของพ่อค้าผูกขาดเขาเพิ่มขึ้นน้อยมากๆ

#45 someone

someone

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,281 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:33

อาทิตย์ที่แล้วเคยดูรายการช่อง tpbs ที่ไปถ่ายทำสัมภาษณ์ในเวียดนาม เรื่องข้าว
เวียดนามเขาเริ่มโครงการนี้ เมื่อปี 2548 ผ่านมา 7 ปี เขาประสบความสำเร็จพอสมควร
เขาใช้ นโยบาย 3เพิ่ม 3ลด และประกันราคาข้าวให้ชาวนาควบคู่กันไป โดยประกันว่าชาวนาจะได้กำไรไม่ต่ำกว่า 30%
ถ้าราคาข้าวตลาดโลกดี ชาวนาก็จะได้กำไรมากกว่า 30% แต่ถ้าราคาตลาดโลกตกต่ำ ชาวนาก็จะไม่ขาดทุนแน่นอน

นโยบาย 3เพิ่ม 3ลด ของเขาก็รณรงค์และสื่อสารไปสู่ชาวนาให้ปฏิบัติตามอย่างจริงจัง
3ลด ก็คือ ลดต้นทุนลง โดย ลดการใช้การปุ๋ยเคมี ลดยาฆ่าแมลง ลดการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวลง (ถ้าหว่านเมล็ดพันธุ์มากเกินไป ไม่ได้ช่วยให้ได้ข้าวมากขึ้น แต่ต้นข้าวจะขึ้นอัดกันแน่นเกินไป และง่ายต่อการเกิดโรค)
3เพิ่ม ก็คือ การเพิ่มกำไร โดย เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวให้เหมาะสมกับดินและพื้นที่เพาะปลูก อะไรทำนองนั้น เจ้าหน้าที่วิจัยพันธุ์ข้าวเขาให้ความรู้กับชาวนาโดยพาชาวนาทัวร์แปลงวิจัย

สรุปแล้ว คือ ชาวนาเวียดนาม เขาสามารถปลูกข้าวได้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร สูงมาก สูงกว่าไทย 2เท่า และต้นทุนการปลูกข้าวของเขาก็ต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับชาวนาไทย ผมจำตัวเลขไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ถ้าคิดเป็นจำนวนเท่า ชาวนาเวียดนามใช้ต้นทุนต่ำกว่าไทยประมาณ 3 เท่าตัว

ในเมื่อต้นทุนการผลิตน้อยลง และผลผลิตต่อไร่ ก็ได้เพิ่มขึ้น อย่างนี้ ราคาข้าวตันละเท่าไหร่ ชาวนาก็ได้กำไรครับ

อาจจะไม่ตรงประเด็นกับหัวกระทู้ แต่ผมเห็นว่ามันเกี่ยวกับเรื่องข้าวเหมือนกัน ก็เลยเอามาแชร์น่ะครับ

#46 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:34

บอกอาจารย์ได้คำเดียวว่า วิสัยทัศน์ มันต่างจาก มายาคติ นะครับ
อย่าใช้จินตนาการ อนุมาน หรือการคาดเดา มาตัดสินเรื่องใหญ่แบบนี้
ถ้าโลกเราสวยและทุกอย่างมันเป็นไปได้แบบนั้น ป่านนี้ทั้งโลกคงเป็นยูโทเปียไปแล้ว -_-
" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#47 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:00

จะขายของราคาสูงกว่าตลาด คุณภาพ ก็ต้องแตกต่างจากตลาด
นี่คุณภาพเหมือนกัน แต่ขายแพงกว่า ใครหน้าไหนมันจะซื้อฟร่ะ

#48 nnnn43

nnnn43

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,771 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:19

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม หลังจากนี้เมื่อข้าวของอินเดียและเวียดนามหมดสต็อก ข้าวล็อตใหม่ที่ตลาดโลกต้องการก็จะเป็นโอกาสของไทย และไทยก็จะเป็นผู้กำหนดราคา


คิดไปเองป่าว
7723.JPG

เวียดนามก็มีข้าวเก็บไว้ในสค๊อกมากมาย
0210.JPG

ข้าวเก็บไว้นานก็มีแต่เสื่อมคุณภาพมันจะเหมือนน้ำมันได้ไง :lol:
ผู้ที่ขาดคุณธรรม ย่อมไม่มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ ผู้ที่ขาดความรู้ ย่อมไม่มีสายตาอันกว้างไกล พูดคนฉลาดหนี่งคำ พูดคนโง่ร้อยคำ

#49 คนดื่มเบียร์

คนดื่มเบียร์

    พอจะทนแดงได้หน่อยๆ

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,721 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:29

หากยังยึดตรรกะข้าว คือ น้ำมัน

เลิกคุยเถอะ

จริงครับ ข้าว=เก็บไว้นาน มีแต่เสื่อมสภาพ
น้ำมัน=เก็บไว้ใต้ดิน ยังไม่สูบขึ้นมา ไม่มีเสื่อมสภาพ

ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "


#50 Classic

Classic

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 364 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 14:20


ที่ผ่านๆ มาผมไม่เห็นรัฐบาลไทยใส่ใจเรื่องต้นทุนของชาวนากันสักเท่าไร แต่รัฐบาลนี้ยิ่งหนักเพราะผลักทั้งชาวนาและคนงานให้จนหนักกว่าเดิมในขณะที่ต้วเองกอบโกยผลประโยชน์บนความล่มจมของชาติและประชาชน


เคยมีชาวนาเงินล้านแอบบ่นกับสื่อเหมือนกันครับเรื่องนี้
ว่าเขาทำนาแบบลดต้นทุน ด้วยเกษตรอินทรีย์ ทำให้ได้กำไรต่อผลผลิตสูงกว่าเดิมมาก
และเขาก็ปลูกพืชเกษตรอื่นระหว่างรอทำนาไปด้วย ทำให้เขามีเงินล้าน
แต่พอเขาเสนอสอนวิธีของเขาให้เพื่อนชาวนาฟรีๆ กลับถูกปฏิเสธครับ
ด้วยข้ออ้างต่างๆนานาว่ายากมั่งละ นานไปละ เคยชินกับวิธีเก่ามั่งละ
เขาเลยท้อ เลิกคิดเลย

ชาวนาที่เป็นแบบนี้มีเยอะมาก ก็เลยจนกันเป็นจำนวนมากให้รัฐอุ้มแบบนี้ไงครับ


ด้วยเหตุนี้มันจึงมีคนจนมากกว่าคนรวยทั่น เป็นสัจธรรม ต่อให้มีสังคมของสิ่งมีชีิวตอีกกี่รูปแบบก็ตาม อวิชชาย่อมมีจำนวนมากกว่าเสมอ

อีกอย่าหนึ่ง ในตลาดค้าข้าวมันไม่มีพวก hedge fund มาคอยปั่นราคาเหมือนตลาดน้ำมันด้วยจิ




ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน