103 replies to this topic

[ypk]

เหอ เหอ เหอ ก็อย่างผมบอกนั่นแหละน้าบังทอง เสียดายความเข้มแข็ง เพราะม็อบ
แบบนี้ รัฐบาลเฮงซวย มันมักจะ ป๊อด มัน ป๊อด ก็คือมันไม่กล้าทำอะไรผิด แต่จริยธรรม
มันยังคงเลวเหมือนเดิมนั่นแหละ มีโอกาสเมื่อใด มันก็เอาอีก ผมจึงมองว่าควรเป็นม็อบ
คุมเชิงดีกว่า ส่วนระหว่างคุมเชิง จะทำกิจกรรมอะไร จะปลุกระดมสมาชิกอย่างไรก็ทำไป
ไม่ให้เหงา 555

ส่วนในสภานั้นมันแพ้อยู่แล้วละ และนี่ก็คือปัญหาหนึ่งที่ต้องมีม็อบเข้มแข็งไว้คุมเชิง สภาด้วย
เพราะถ้าทะลึ่งเสนออะไรที่มันไม่ชอบมาพากล เช่น ยกโทษให้ไอ้สัมภเวสี เนี่ยะ ในสภามัน
ทำได้อยู่แล้ว แต่ที่มันยังไม่กล้าก็เพราะกลัวม็อบนี่แหละ มันไม่ได้กลัวในสภาหรอก สิ่งที่ผมเน้น
คือความชอบธรรมของม็อบมากกว่า และความชอบธรรมของม็อบจะเกิดขึ้นได้ก็เมื่อประชาชน
จำนวนมากมายมหาศาลเห็นพ้องนั่นแหละ ถ้าจำนวนเท่ากับพวกเสื้อแดงผมว่ามันก็ยังตอบโจทย์
ความชอบธรรมไม่ได้หรอก มันถึงต้องเผาบ้านเผาเมืองแล้วมาดิ้นหนีคุกกันอุตลุตอยู่ทุกวันนี้แหละ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็แล้วแต่ว่า เสธอ้ายและทีม จะคิดอย่างไร เท่านั้น เขาอาจมีแผนที่เหนือชั้นกว่าที่
ผมมองอีกเยอะก็ได้ ยิ่งไอ้มะเขือเทศเริ่มหาเรื่องสุมไฟอย่างที่น้าบอก นี่ สงสัยงานนี้ ใครดีใครอยู่
รึเปล่าไม่รู้เหมือนกัน 555555

[หนูอ้อย]

สรุปว่า ขณะนี้มีม็อบไปแล้ว มีคนเชียร์ มีคนค้าน และมีคนวางเฉย เสรีภาพมีทุกท่านนี่เนาะ



ม็อบเมืองไทยรายสัปดาห์ครั้งแรกที่พากันเดินจากสวนลุมไปทำเนียบ
จำได้ว่ามีท่านประทิน สันติประภพเดินไปด้วย
ตอนนั้นลุงสนธิยังไม่ประสีประสาในการพาม็อบออกเดิน
จำได้ว่า แกนนำพาเดินคนนึงจำชื่อไม่ได้ (แต่รู้ว่าเป็นเพื่อนของลุงสุวิทย์ วัดหนู)
แกพาม็อบเข้าไปในทำเนียบที่ฝ่ายตำหนวดได้รับบัญชาให้เปิดประตูรอไว้ !
ชุมนุมวันนั้น "ไม่เป็นท่า" ม็อบถูกฝ่ายในทำเนียบตีเจ็บไปหลายคน


เมืองไทยรายสัปดาห์จัดต่ออีกสักหน่อย ก็ได้มือทำม็อบเจ๋งๆหลายคนมาร่วม
เช่นลุงสุวิทย์ ลุงพิภพ ธงไชย พี่ยะใส ลุงสมศักดิ์ โกศัยสุข ฯลฯ
ม็อบก็ค่อยเป็นรูปเป็นร่างขึ้น


วันนี้ทำม็อบง่ายกว่าเยอะ มวลชนก็ "เป็นงาน" อยู่แล้ว เช่นไม่เอารถส่วนตัวไป
ทานข้าวไปให้เรียบร้อย จิบน้ำน้อยๆ ไม่อึไม่ฉี่แยะ ไม่เคลื่อนไม่เดิน อยู่ในที่ตั้ง
ไม่กวนชาวบ้านข้างถนนหรือผู้ใช้ถนนอื่นให้ถูกด่า(ข้อหลังนี่ แกนนำเป็นฝ่ายกำหนด)


คนที่ขีดความทนต่อรัฐบาลปูได้ต่ำ -- พวกเค้ารอ "หัว" มานานเป็นปี
เมื่อ เสธ.อ้ายยอมนำม็อบ
" หัว" จึงเจอกับหางเมื่อ 28 ตุลา


แต่อย่าเข้าใจเรื่องม็อบผิดในเรื่องนึงนะ..
คือม็อบที่เห็นมา 2 ม็อบใหญ่ๆในเมืองไทย .. ไม่ได้ทำให้รัฐบาลโค่น

รัฐบาลสมชาย ณ.เวสอินน์ล้ม เพราะศาลยุบพรรคพลังประชาชน
ส่วนรัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่อยู่ก็เพราะอภิสิทธิ์ยุบสภา หาใช่ม็อบแดงทำให้รัฐบาลล้มไม่


ดังนั้น จึงสนใจกับคำว่า ม็อบคุมเชิง ของท่าน ypk เป็นอันมาก
ทำอย่างไรจะอุ่นเครื่องให้ม็อบเสธ.อ้าย(ที่ไหนๆก็เกิดขึ้นมาแล้ว)มีความอุ่นตัวอยู่พอประมาณ
ไม่ร้อนจนเดือดไปทำเถื่อนอะไรร้ายแรง (การทำม็อบมันมีอาถรรพ์ ปลุกขึ้นแต่มักกดไม่ลง - ฮา)
แต่ม็อบนี้ก็ต้องคุมเชิงอยู่อย่างนั้นจนรัฐบาลปูขยับตัวลำบากมากถึงลำบากมากที่สุด
เพื่อให้ประเทศเสียหายน้อยที่สุด

[พ็อกรอฟสกอย]

เราจะปล่อยให้รัฐบาลที่มาจากคนโง่ไร้การศึกษาบริหารบ้านเมืองไม่ได้อีกแล้ว หนึ่งปีมานี้สร้างความเสียหายไปเท่าไหร่แล้ว เราจะยอมไม่ได้อีกต่อไป

[บังทอง]

เมื่อคืนเผลอกดไปช่อง เอเซียอาบแดด ไปเจอคางคก กำลังกลัวเสธอ้ายอยู่พอดี ก็เลยนั่งดูและฟังคางคกสักหน่อย ผลปรากฏว่าคางคกบอกว่า การจัดม็อบครั้งนี้น่ากลัวกว่าม็อบไล่นายก 3 คน ที่ผ่านเสียอีก คางคกพูดเหมือนคนอกหักแค้นนังปู ที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี บอกนายกต้องอยู่ในสภาเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องตอบคนเดียว คนอื่นห้ามยุ่ง ห้ามเสือกว่าประมาณนั้น อ้างแต่สายข่าวตัวเอง พลเอกพัลลภ ยังงี้ แถมยังบอกพวกควายแดงอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเขา อย่างนี้เรียกว่า อาการออกชัดเจนไปหน่อย ส่วนเป็ดเหลิมที่ให้สัมภาษณ์นักข่าว นี่ยิ่งไปกันใหญ่อาการน็อตหลุดจนได้ บอก นังปูนี่เก่งอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง นายกต้องอยู่ในสภาตอบคำถามเอง ไม่ต้องมีองครักษ์คอยประท้วง อย่างนี้ เป็ดเหลิมคงแค้นน่าดู ก่อนแต่งตั้ง ครม.3 ยังปกป้องอยู่เลยนังปู อย่างนี้เขาเรียกว่าถีบหัวส่งนังปู