ญี่ปุุน เล็งย้านฐานผลิตชั่วคราว
#1
Posted 21 October 2011 - 06:41
ขณะที่นักวิเคราะห์จากฟรอสต์ แอนด์ ซุลลิแวน ในสิงคโปร์ มองว่า มีแนวโน้มที่ ผู้ผลิตรถยนต์ในไทย จะย้ายการผลิตไปยังเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียและมาเลเซียชั่วคราว เพื่อชดเชยกับการผลิตที่เสียไป อย่าง ฮอนด้า ซึ่งประกอบรถซีวิค แจ๊ส ซีอาร์-วี และรถรุ่นซิตี้ ที่โรงงานในไทย อาจเลือกไปผลิตแจ๊สในอินโดนีเซีย
กลัวแต่จะไม่ย้ายชั่วคราวน่ะซิ
แนวหน้า
#2
Posted 21 October 2011 - 06:46
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว. แรงงาน เปิดเผยถึงตัวเลขผู้ใช้แรงงานที่ได้รับ ผลกระทบว่า จากการประเมินพบว่ามีผู้ใช้แรงงานราว 6.2 แสนคน ที่ได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้ โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาวะ ว่างงานจากการที่ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินกิจการได้
6.2 แสนคน ตกงานแล้ว ปูว่าไง
#3
Posted 21 October 2011 - 06:51
แค่เสียงส่วนน้อยครับ ไว้เกิน 15 ล้านค่อยมาคุยพิษน้ำท่วมกระทบแรงงาน6.2แสนคน
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว. แรงงาน เปิดเผยถึงตัวเลขผู้ใช้แรงงานที่ได้รับ ผลกระทบว่า จากการประเมินพบว่ามีผู้ใช้แรงงานราว 6.2 แสนคน ที่ได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้ โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาวะ ว่างงานจากการที่ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินกิจการได้
6.2 แสนคน ตกงานแล้ว ปูว่าไง
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#4
Posted 21 October 2011 - 06:51
ตอนนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อรัฐบาลเริ่มต่ำมาก อยากให้รัฐบาลหาผู้ที่บริหารประเทศที่มีความสามารถมากกว่านี้ เพราะถ้าบริหาร ไม่ได้ก็ควรลาออกไปไม่ต้องรอให้คนออกมาไล่ซึ่งการป้องกันนิคมฯลาดกระบังเป็นการทดสอบที่สำคัญ อีกครั้งหนึ่ง
นายสุรพร กล่าวและว่าเอกชนต้องการให้รัฐบาลระบายน้ำเพื่อกระจายความเสี่ยงไปในพื้นที่ของกทม.บ้างเพื่อลดความเสียหายของนิคมฯ แทนที่จะปล่อยให้น้ำไหลมาที่ลาดกระบัง 100% ทั้งหมด เพราะหากนิคมฯลาดกระบังล่มอีก
ผลเสียหายจะมีมหาศาลกระทบต่ออัตราการเติบโต ของเศรษฐกิจของประเทศ ที่รัฐบอกว่าจะโต 5% แต่วันนี้บอกได้เลยว่าติดลบ 5% เพราะการส่งออก จะเสียหายมากโรงงานจมน้ำ ชิ้นส่วนต่างๆ ก็หาย อย่างบริษัทตั้งอยู่ในลาดกระบัง 5 แห่ง ที่แปดริ้วอีก 5 แห่งปีที่แล้วส่งออกกว่าหมื่นล้านบาท หากถูกน้ำท่วมจมจะเสียหายแค่ไหน
ที่รัฐบอกว่าจะโต 5% แต่วันนี้บอกได้เลยว่าติดลบ 5% โคตรห่วยจริงๆ
#5
Posted 21 October 2011 - 06:57
บอกคนไม่ตกงาน บอกว่าไม่สาหัสเท่า tsunami.ที่ญี่ปุ่น รัฐบาลโคลนนิงของอ้ายแม้วมันกำลังเสกให้ประเทศไทยเป็นประเทศด้อยพัฒนา
เท่าเทียมกับประเทศเขมร ประเทศในฝันของพรรคเผาไทยที่ไปก้มกราบผู้นำของเขา. ควายแดงคงได้สมใจกันแล้วคราวนี้. ประชาชนจะจนเท่าเทียมกัน.
ยกเว้นอ้ายแม้วกับโคลนของมันที่ควายแดงบูชามากกว่าพ่อแม่ตัวเอง
#6
Posted 21 October 2011 - 07:03
#7
Posted 21 October 2011 - 07:05
ผมเชื่ิอว่าคงไม่ชั่วคราวแล้วละครับ. และเชื่อว่ารัฐบาลประเมินสถานการณ์ผิดทั้งก่อนระหว่างและ หลังนำ้ท่วมผิด
บอกคนไม่ตกงาน บอกว่าไม่สาหัสเท่า tsunami.ที่ญี่ปุ่น รัฐบาลโคลนนิงของอ้ายแม้วมันกำลังเสกให้ประเทศไทยเป็นประเทศด้อยพัฒนา
เท่าเทียมกับประเทศเขมร ประเทศในฝันของพรรคเผาไทยที่ไปก้มกราบผู้นำของเขา. ควายแดงคงได้สมใจกันแล้วคราวนี้. ประชาชนจะจนเท่าเทียมกัน.
ยกเว้นอ้ายแม้วกับโคลนของมันที่ควายแดงบูชามากกว่าพ่อแม่ตัวเอง
ใครมันจะย้ายไปย้ายมา ไม่ใช่บ้า ถ้าย้ายแล้วก็หมายถึงย้ายเลยนะแหละ
แดงคงภูมิใจขนาดหนัก กับผลงานแม่ปู
#8
Posted 21 October 2011 - 07:31
เพราะในคำว่าชั่วคราวนี่ ผมคิดว่าคงต้องเปลี่ยนไลน์ผลิตส่วนอื่นๆมาทำแทนเพื่อชดเชยไปชั่วคราว เป็นนโยบายระยะสั้น
แต่ผมว่านี่เค้ากำลังออกอาวุธหนักมาขู่เราแล้วว่า ถ้าไม่ทำอะไรให้เค้าพอใจหรือมั่นใจได้ เค้าย้ายหนีแน่
ขรี้ไม่ออก? กรุณานึกถึงยาแก้ท้องผูกตรา ลีถือลูกท้อ
สถาบันกวดวิชาคณิตศาสตร์ชื่อก้องระดับประเทศ แถลงผลคำนวณ 161/2 = 37
#9
Posted 21 October 2011 - 07:57
ผมว่ายังบอกไม่ได้ชัดๆหรอกนะครับว่าจะย้ายถาวร
เพราะในคำว่าชั่วคราวนี่ ผมคิดว่าคงต้องเปลี่ยนไลน์ผลิตส่วนอื่นๆมาทำแทนเพื่อชดเชยไปชั่วคราว เป็นนโยบายระยะสั้น
แต่ผมว่านี่เค้ากำลังออกอาวุธหนักมาขู่เราแล้วว่า ถ้าไม่ทำอะไรให้เค้าพอใจหรือมั่นใจได้ เค้าย้ายหนีแน่
อาจจะขู่ ไม่ขู่ หรือประลองกำลังกัน ระหว่างนักลงทุนกับ รัฐบาล
แต่บอกตรงๆ นาทีนี้เห็นใจนักลงทุนมาก มันสาหัสจริงๆ กับความห่วยของรัฐบาล
#10
Posted 21 October 2011 - 09:10
#11
Posted 21 October 2011 - 09:26
#12
Posted 21 October 2011 - 09:36
ขืนเป็นรัฐบาลนี้อีกสงสัยปีหน้าคงไม่มีประกันภัยที่ไหนกล้ารับประกันความเสี่ยงให้ผู้ประกอบการในไทย
#13
Posted 21 October 2011 - 09:43
เขาบอกว่า อุบัติภัยครั้งนี้ เหมือนการกดปุ่มรีเซ็ทใหม่หมด
โรงงานก็เช่า/ เครื่องจักรคงซ่อมไม่ได้
คนงานส่วนมากเป็น ซับคอนแทร็ค...
เขาเสียดายแต่ "บุคลากรและคนงาน-แรงงานฝีมือ" ที่ฝึกฝนกันมา
แต่ถ้าจะอยู่แบบเสี่ยงๆ ไร้แผนการช่วยเหลือ หรือป้องกันใดๆ
เขาคงต้องรีบตัดสินใจ...
อันนี้เป็นภาษาการฑูต ที่ไม่ต้องตีความอะไรกันมาก...
แต่หนักใจว่า ท่านนายกปูลม จะเข้าใจความหมายนี้หรือเปล่า
หรือท่านจะนึกว่า ให้ รมต.ไปยืนกอดคอ บีบน้ำตากับนักลงทุน แล้ว
พวกเขาก็จะเออออ เห็นใจแล้วอยู่ต่อ รอลุ้นให้น้ำไม่ท่วมในปีต่อๆไป...
#14
Posted 21 October 2011 - 09:47
ย้ายฐานการผลิตชั่วคราวจนกว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลมั๊ง
ขืนเป็นรัฐบาลนี้อีกสงสัยปีหน้าคงไม่มีประกันภัยที่ไหนกล้ารับประกันความเสี่ยงให้ผู้ประกอบการในไทย
ประกันคงมีในไทย และต่างประเทศแบ่งกันไป แต่คงมีปัญหาในปีต่อไปแน่นอน
ณ ตอนนี้รัฐบาลต้องมืออาชีพจริงๆ
#15
Posted 21 October 2011 - 10:06
ประเทศเกษตร ไม่ง้ออุตสาหกรรม
แรงงานพม่าจะได้ไม่ชุกชุม
ค่าแรง 300 ก็ไม่ต้องจ่าย
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#16
Posted 21 October 2011 - 10:17
ย้ายฐานการผลิตชั่วคราวจนกว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลมั๊ง
ขืนเป็นรัฐบาลนี้อีกสงสัยปีหน้าคงไม่มีประกันภัยที่ไหนกล้ารับประกันความเสี่ยงให้ผู้ประกอบการในไทย
ประกันคงมีในไทย และต่างประเทศแบ่งกันไป แต่คงมีปัญหาในปีต่อไปแน่นอน
ณ ตอนนี้รัฐบาลต้องมืออาชีพจริงๆ
ปกติประกันภัยมีในประเทศไทยครับ แต่สำหรับการรับประกันในรายใหญ่ๆ ประกันภัยไทยจะไม่รับความเสี่ยงทั้งหมดและจะประกันภัยต่อไปยังผู้รับประกันภัยต่างประเทศ บางทีเก็บไว้ในเมืองไทยนิดเดียวและที่เหลือเอาไปประกันภัยต่อหมด ถ้าเป็นบริษัทญี่ปุ่นพวกนี้มักจะเลือกประกันภัยกับบริษัทญี่ปุ่นด้วยกัน
ปกติประกันภัยคุ้มครองทรัพย์สินจะครอบคลุมถึงความเสียหายจากน้ำท่วมด้วย แต่ไม่รวมถึง business interruption ซึ่งต้องซื้อเพิ่ม ผู้ประกอบการต่างประเทศน่าจะซื้อเอาไว้ แต่ผู้ประกอบการไทยซื้อกันเยอะหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน
พอหลังจากครบรอบระยะเวลาตามสัญญาประกันภัยแล้วจะต่อสัญญาใหม่ บริษัทประกันภัยคงต้องคำนวณเบี้ยประกันภัยเพิ่ม ซึ่งคงดูจากยอดเคลมของลูกค้าในรอบปีนี้และความเสี่ยงภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในปีต่อไปประกอบด้วย ส่วนนี้ก็กระทบต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการเหมือนกัน ดังนั้นผู้ประกอบการคงต้องเอาข้อมูลนี้ไปพิจารณาประกอบด้วยว่าควรจะย้ายฐานการผลิตหรือไม่
เมืองไทยตอนนี้ยังมีความได้เปรียบอยู่ก็คือแรงงานมีฝีมือและโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงโลจิสติกส์ที่ดีกว่าประเทศอื่นในแถบอินโดจีน แต่การบริหารงานของรัฐบาลนี้ก็ทำให้แต้มต่อตรงนี้ลดลงไปเยอะเหมือนกัน
#17
Posted 21 October 2011 - 10:19
พวกต่างชาติไปไกลๆ เลย เสียงส่วนน้อย แถมยังไม่ใช่คนไทยอีก
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#18
Posted 21 October 2011 - 10:24
มอมอ ชูตีนตบ ขึ้นมาดีดเผียะๆย้ายก็ย้ายไปสิครับ ที่เหลืออีก 15 ล้านเสียง ขอแช่น้ำอยู่ที่ประเทศไทยนี่แหละ
พวกต่างชาติไปไกลๆ เลย เสียงส่วนน้อย แถมยังไม่ใช่คนไทยอีก
อำมาตย์ญี่ปุ่น ออกไป๊
ขรี้ไม่ออก? กรุณานึกถึงยาแก้ท้องผูกตรา ลีถือลูกท้อ
สถาบันกวดวิชาคณิตศาสตร์ชื่อก้องระดับประเทศ แถลงผลคำนวณ 161/2 = 37
#19
Posted 21 October 2011 - 10:37
#20
Posted 21 October 2011 - 10:48
#21
Posted 21 October 2011 - 11:07
อาจได้เห็นนักลงทุนหันมาลงทุนด้านนี้มากขึ้นแทนก็ได้ครับ ปีหน้าเปิด AEC ด้วย ทีนี้แแหละพ่อคุณเอ๊ย .. มีหลากหลายโครงหน้าให้เลือกสรรค์
(ว่าไป ดร.โสฯ แกหายไปเลยตั้งแต่เปลี่ยนบอร์ด)
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.