นายกรัฐมนตรีย้ำประชาธิปไตยมีทั้งความเหมือนและความต่าง
นายกรัฐมนตรีย้ำประชาธิปไตยมีทั้งความเหมือนและความต่าง แต่ยึดหลัก นิติรัฐ การเคารพสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมทางโอกาสเหมือนกัน พร้อมขอให้ร่วมกันรักษาประชาธิปไตยโดยสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ตามระบบและวิถีประชาธิปไตย
วันนี้ (8 พ.ย. 55) ณ Nusa Indah Hall / BICC โรงแรม Westin เกาะบาหลี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุม Bali Democracy Forum ภายใต้หัวข้อหลัก “Advancing Democratic Principles at the Global Setting: How Democratic Governance Contributes to International Peace and Security, Economic Development and Effective Enjoyment of Human Rights” เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์พัฒนาการประชาธิปไตยในไทยร่วมกับผู้นำและบุคคล สำคัญต่อการส่งเสริมหลักประชาธิปไตย และตอกย้ำการ ยึดมั่นคุณค่าประชาธิปไตยที่เป็นพื้นฐานสำคัญของความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และความรุ่งเรืองของทุกประเทศและของโลก สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีกับสาธารณรัฐอินโดนีเซียสำหรับการเป็น เจ้าภาพจัดการประชุม Bali Democracy Forum ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นความริเริ่มที่ทำให้ทั่วโลกตระหนักถึงหลักประชาธิปไตย รวมทั้งผลักดันให้เกิดประชาธิปไตยมากขึ้น จากการยกระดับการหารือในลักษณะการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ (Forum) เป็นการประชุมระดับสุดยอด (Summit) นั้น แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของความริเริ่มดังกล่าว เช่นเดียวกับความคาดหวังที่สูงขึ้นที่จะได้รับจากการประชุมสุดยอดนี้ด้วย
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวรู้สึกยินดีที่ได้มาเยือนเกาะบาหลีเพื่อเข้าร่วม ประชุม Bali Democracy Forum ทั้งในฐานะหัวหน้าคณะรัฐบาลคนแรกของไทย และในฐานะผู้นำรัฐบาลที่เป็นสตรี นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวรู้สึกชื่นชมประสบการณ์ในการเป็นผู้นำระบอบการ ปกครองแบบประชาธิปไตยของผู้นำที่มาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แบ่งปันมุมมองประชาธิปไตยของไทย และกล่าวว่าพร้อมที่จะเรียนรู้หลักประชาธิปไตยจากผู้นำทุกท่าน
ปัจจัยที่หลากหลายและคล้ายคลึงกันในระบอบประชาธิปไตย
ในปัจจุบัน โลกต่างเห็นการแผ่ขยายของประชาธิปไตย ซึ่งแป็นรูปแบบหลักของรัฐบาลทั่วโลก การเปลี่ยนแปลง ไม่ว่า จากวิวัฒนาการที่เติบโตหรือโดดเด่นล้วนมาจากเจตนารมณ์เดียวกัน คือ ประชาชนต้องการเหมือนกัน คือ การรับฟังเสียงของประชาชน สิทธิได้รับการคุ้มครอง และนำการเปลี่ยนแปลงที่ดีสู่ชีวิต ซึ่งเหล่านี้เป็นความจริงของความเป็นมนุษย์ที่เป็นสากล ที่แม้กระทั่งในแต่ละประเทศหรือชุมชน ซึ่งอาจแตกต่างกันทั้งวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสังคม แต่หลักการพื้นฐานนี้ยังคงอยู่เหมือนกันทุกที่ ประชาชนต้องการเสรีภาพ เพราะว่าสร้างความรุ่งเรือง รวมทั้งต้องการสิทธิที่ได้รับการคุ้มครอง และเคารพในความเป็นตัวตน แต่เสรีภาพต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ กล่าวคือ ความจำเป็นของหลักนิติรัฐ สิทธมนุษยชน และความเท่าเทียมกันเพื่อนำทางและบรรลุความฝันของแต่ละคน
หลักนิติรัฐ
หลักนิติรัฐถือเป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย ความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมทั้งความสงบเรียบร้อยทางสังคม หลักนิติรัฐที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพจะช่วยปกป้องสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจใน กระบวนการและส่งเสริมให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างสันติ
หลักนิติรัฐยังให้พื้นที่ทางการเมืองสำหรับการเจรจา การมีส่วนร่วม และการแก้ปัญหาความขัดแย้งในขอบเขตของประชาสังคม ซึ่งทำให้เกิดทางเลือกทางการเมืองอย่างเสรี และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างสงบจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสู่อีก รัฐบาลหนึ่ง หลักนิติรัฐยังระบุให้ผู้นำทางการเมืองต้องตอบสนองความต้องการของประชาชน และคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของปัจเจกบุคคล นอกจากนี้ ความทั่วถึงที่บัญญัติไว้ในหลักนิติรัฐถือเป็นประเด็นสำคัญของประชาธิปไตย เสียงที่หลากหลายในประเทศ ไม่ว่าของกลุ่มคนหรือของบุคคล ส่วนน้อยหรือส่วนมาก ในเมืองหรือชนบทต้องได้รับการพิจารณา เพราะนำความหลากหลายสู่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสังคม
การเคารพต่อสิทธิมนุษยชน
สิทธิของประชาชนต้องได้รับการคุ้มครอง หากรัฐบาลประชาธิปไตยนั้น เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน อย่างแท้จริง สิทธิของประชาชนต้องได้รับการส่งเสริมและคุ้มครองโดยรัฐบาล ประวัติศาสตร์สอนว่า เสรีภาพมักจะถูกกดขี่และละเมิด ประเทศไทยมีประสบการณ์การปฏิวัติหลายครั้ง ที่ต่อต้านความต้องการของประชาชน และเมื่อรัฐบาลมาจากวิถีประชาธิปไตย ต้องมีความมั่นคงและยั่งยืน วิธีการที่ดีที่สุดในการปกป้องประชาธิปไตยคือ การให้พลังแก่ประชาชนในการยึดมั่นและเข้าร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งนำมาซึ่งการเลือกตั้ง เมื่อประชาชนมีส่วนร่วม จะสร้างความรู้สึกที่เป็นเจ้าของประชาธิปไตยและปลาบปลื้มในคุณค่า แต่เมือประชาธิปไตยถูกทิ้งขว้างหรือละเมิด ประชาชนจะลุกขึ้นเพื่อต่อสู้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยเมื่อปี 2553 ที่มีแต่การสูญเสีย ทั้งครอบครัวและบุคคลที่เป็นที่รัก และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บและทุกข์ทรมาน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้ร่วมรับรู้กับมารดาและบุตรสาวของประชาชนที่เข้าร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น และมีการสูญเสียชีวิต รู้สึกเศร้าใจ และตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นอีก โดยดำเนินการการปรองดองแห่งชาติ และดำเนินตามกรอบการดำเนินการของสิทธิมนุษยชน และจะดำเนินต่อไปจนกว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงเกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งนี้ แม้ว่าพรรคเพื่อไทยของนายกรัฐมนตรีได้รับเสียงข้างมากในรัฐสภา แต่นายกรัฐมนตรียืนยันที่จะรับฟังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด โดยเข้าใจว่าการให้ประชาธิปไตยมีความยืดหยุ่นนั้น ต้องมีเสรีภาพในการแสดงออก และการเคารพต่อความแตกต่างทางความคิดเห็น การเคารพและเข้าใจซึ่งกันและกันในหมู่ประชาชนในสังคม ช่วยป้องกันความขัดแย้งและทะเลาะเบาะแว้งกัน การไม่เลือกปฏิบัติช่วยให้ประชาชนทุกคนรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมโดย รวม ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด หรือรายได้เท่าใด
ความเสมอภาคทางโอกาส
การสร้างโอกาสแก่ประชาชนบนพื้นฐานที่เท่าเทียม ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพํฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของระบบประชาธิปไตย เพราะเศรษฐกิจที่รุ่งเรือง และศักยภาพของประชาชน นำมาซึ่งฐานะที่ดีขึ้นที่จะรับผิดชอบต่อการใช้สิทธิของ ตนเอง ซึ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ดังนั้น ทุกคนจึงต้องได้รับประโยชน์จากการเติบโตและความมั่นคง ซึ่งหมายถึงประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่ช่วยส่งเสริมความ มั่นคงของมนุษย์ การศึกษา สาธารณสุขและสวัสดิการอื่นๆ ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงได้เริ่มนโยบายที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง นับตั้งแต่ แรงงานขั้นต่ำ การขยายการบริการดูแลสุขภาพถ้วนหน้า การตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และการส่งเสริม SMEs นอกจากนี้ นโยบายด้านการศึกษา เช่น One Tablet Per Child ก็เพื่อให้เด็กสามารถพัฒนาทักษะ ความรู้ เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่รอบรู้ ซึ่งเป็นแกนสำคัญของประชาธิปไตย
โลกาภิบาล (Global Governance)
ในด้านระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรีกล่าวเห็นด้วยกับประธานาธิบดีอินโดนีเซียที่ว่า โลกาภิบาลดึงจุดแข็งจากความจริงที่ว่า ทุกประเทศมีสิทธิมีเสียง และสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างเท่าเทียมในประเด็นระหว่างประเทศ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีความยุติธรรม ภาระรับผิดชอบ (Accountability) และประชาธิปไตยอย่างแท้จริงในเวทีระหว่างประเทศ
ในขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนหลังปีค.ศ. 2015 (The post 2015 Sustainable Development Goals) เช่น การมีกระบวนการพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพ และเป็นประชาธิปไตย จะทำให้ทุกประเทศ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก สามารถจัดลำดับเป้าหมายสำคัญของตนให้อยู่ในวาระการพัฒนาหลังปีค.ศ. 2015 ได้
นอกจากนี้ เราจะต้องตระหนักถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในโลกด้วย เช่น ช่องว่างของการพัฒนา การส่งเสริมความริเริ่มการยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทั้งนี้ ประชาธิปไตยในระดับโลกจะทำให้เกิดความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา ความท้าทายในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันก็ยังสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในชาติด้วย ทั้งนี้ ที่สำคัญที่สุด ทุกประเทศจะต้องร่วมมือกันเพื่อให้ประชาธิปไตยอยู่รอด เมื่อถูกคุกคาม ด้วยเหตุผลนี้ นายกรัฐมนตรีจึงแสดงความขอบคุณมิตรทั้งหลายที่ยืนหยัดต่อต้านการยึดอำนาจ รัฐบาลประชาธิปไตยของไทยเมื่อปี 2549 และช่วยสนับสนุนไทยในเส้นทางสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง การรักษาประชาธิปไตยให้คงอยู่ นั้นขึ้นอยู่กับทุกคน และป้องกันความท้าทายต่างๆที่จะต่อต้านประชาธิปไตย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีย้ำว่าความมั่นคงเกิดขึ้นได้ด้วย ประชาธิปไตยเท่านั้น ความมั่นคงทางการเมืองช่วยลดความเสี่ยงของความขัดแย้งที่รุนแรง และในบรรยากาศที่มั่นคงนี้ ก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง โดยท้ายที่สุดแล้ว คือความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ในประเทศและในประชาคมโลกนี้
ด้วยความเคารพครับ
ผมว่าที่คุณยกมา มันไม่ใช่การแปลสิ่งที่คุณปูพูดครับ
ถ้าแปลไม่ออก บอกตรงๆได้ครับ
ตามลิงค์ที่ให้มา ตามไปอ่านแล้ว ของท่านอื่นๆ ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
ของเราเน้นประดิษฐ์ถ้อยคำ
เราชอบของคนนี้
Timor Leste Prime Minister Xanana Gusmao said that democracy cannot be imposed on a country, ignoring its entire historical, cultural and economic context.
“Instead, it is a process that must be nurtured continuously, and which must respect the timing and the idiosyncrasies of each society,” the former guerrilla leader told the forum.
กับของคนนี้
Afghanistan Hamid Karzai admitted that democracy was not only a manifestation of the quest for freedom, equality and self-determination, but also a result of the emergence of a globalized society, social activation and revolution in communication technologies.
“On the other hand, while the universal ideals of democracy are paramount, the question of democracy as a just and desirable system of government is far from settled,” he the forum’s first general debate.
Karzai maintained that the real test of the desirability of a democratic system is not only in bestowing individual freedoms, but actually to the degree in which it promotes inclusiveness, stability and progress.
“Democracy can be the most desirable mode of government as long as it is based on a balance between the realization of universal democratic ideals on the one hand, and the reality of indigenous conditions and circumstances,” he said.
สมดุลของคำว่าประชาธิปไตย มันออกมาจากธรรมชาติ มาจากตัวตน ความเป็นมนุษย์จริงๆ
ไม่ใช่ออกมาจากทฤษฎีแบบนกแก้วนกขุนทองอ่ะ