Jump to content


Photo
- - - - -

อ่านหน่อยก็ดีนะครับ ก่อนที่เงินในบัญชีของท่านจะกลายเป็นกระดาษ


  • Please log in to reply
42 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ramboboy26

ramboboy26

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,532 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:12

เห็นว่ามีสาระดีเลยเอามาแบ่งปันครับ
ใครมีเงินฝากธนาคารเกิน 1 ล้านบาทก็เตรียมเปิญบัญชีสำรองไว้ด้วยนะครับ

http://www.thairath....tent/eco/272656
กูขอปฏิญาณ ต่อหน้าสถูปสถานศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าอิฐหินดินทราย ขอจองล้างจองผลาญจนตาย ต่อผู้ทำลาย แผ่นดิน...

#2 ramboboy26

ramboboy26

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,532 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:19

สำหรับท่านที่อ่านหนังสือไม่เกิน 3 บรรทัด ผมย่อความให้ครับ (ไม่รวมบรรทัดนี้นะครับ)

ปกติรัฐบาลจะประกันเงินที่เราฝากไว้กับสถาบันการเงินให้เราทุกบาททุกสตางค์ ในกรณีสถาบันการเงินล้ม เราจะได้เงินคืนเท่ากับจำนวนที่ฝากไว้แน่นอน
แต่ 11 สิงหาคมปีที่แล้ว รัฐบาลประกาศว่าจะรับประกันเงินฝากต่อรายชื่อต่อสถาบันการเงินเหลือเพียง 50 ล้านบาท และจะลดความคุ้มครองลงเหลือ 1 ล้านบาทใน 11 สค.ปีหน้า
แปลว่าถ้าสถาบันการเงินที่ท่านฝากเงินไว้ล้ม ไม่ว่าท่านจะมีกี่สิบล้านบาท มันก็จะเหลือเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น...อาาาาาา
กูขอปฏิญาณ ต่อหน้าสถูปสถานศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าอิฐหินดินทราย ขอจองล้างจองผลาญจนตาย ต่อผู้ทำลาย แผ่นดิน...

#3 tuang

tuang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 424 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:26

ผมไม่กลัวครับ เนื่องจากผมไม่มีเงินฝาก มีแต่หนี้ครับ

#4 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:34

เหมือนเคยได้ฟังคุณกรณ์ พูดเรื่องนี้และก็น่าจะทำในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์หรืออาจจะก่อนหน้านั้นก็ได้
อยากจะให้คนไทยรู้จักการลงทุนมากกว่าเอาเงินไปฝากธนาคารกินดอก เพราะรัฐไม่ค้ำประกันเงินเต็มจำนวน
We love fender.

#5 mee-sua-man

mee-sua-man

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,218 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:36

แฮะ เก็บทองแท่งครับ แต่ตอนนี้ขาดทุนอยู่มีไม่ถึงกิโลครับ รอขึ้นจะขาย เข้าเนื้อจะร่วมปีแล้ว

#6 ramboboy26

ramboboy26

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,532 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:47

เหมือนเคยได้ฟังคุณกรณ์ พูดเรื่องนี้และก็น่าจะทำในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์หรืออาจจะก่อนหน้านั้นก็ได้
อยากจะให้คนไทยรู้จักการลงทุนมากกว่าเอาเงินไปฝากธนาคารกินดอก เพราะรัฐไม่ค้ำประกันเงินเต็มจำนวน

ผมเข้าใจในจุดนั้นครับ แต่ผมมองว่า 1 ล้านบาท/คน/สถาบันการเงินนั้นน้อยเกินไปครับ
แทนที่จะดีคือคนเอาเงินออกมาใช้ จะกลายเป็นคนเอาเงินไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือซื้อทองเก็บไว้เหมือนที่ท่านบนนี้บอก
มันจะกลายเป็นเงินจมและจะเฟ้อเอาง่ายๆครับ
กูขอปฏิญาณ ต่อหน้าสถูปสถานศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าอิฐหินดินทราย ขอจองล้างจองผลาญจนตาย ต่อผู้ทำลาย แผ่นดิน...

#7 Alanza 4.91

Alanza 4.91

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 121 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:55

ผมไม่กลัวครับ เนื่องจากผมไม่มีเงินฝาก มีแต่หนี้ครับ

เหมือนกันเลยครับ 555

#8 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:58

ผมมีเงินฝากไม่ถึงแสนบาทเลยด้วยซ้ำ

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#9 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:59

เคยถามเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน
เค้าบอกว่า ธนาคารของรัฐรับประกันเต็มจำนวนที่ฝากคะ

รอท่านผู้รู้อธิบาย
ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#10 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:02

จริงครึ่งเดียว เพราะคนที่เอาเงินไปซื้อที่ดิน ซื้อทองนั่นคือการนำเงินออกมาใช้แล้ว
คนที่ขายที่ดินหรือทองไปได้เงินมาแล้ว เขาก็ต้องเอาเงินไปทำอย่างอื่นถ้าคิดว่าฝากธนาคาร
แล้วมีความเสี่ยง มันก็จะผลักดันให้เงินนั้นมันหมุนเวียนในระบบเอง

Edited by phoosana, 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:05.

We love fender.

#11 kim

kim

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,724 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:08

สรุปว่าเอาไปฝากกับ ออมสิน ธกส. ธอส. ได้รับการคุ้มครองเต็มจำนวนไหม เห็นตามข่าวว่าเป็นสถาบันไม่อยู่ภายใต้คุ้มครองเงินฝาก

แล้วธนาคารอิสลามละครับคุ้มครองเต็มไหม

#12 Shart

Shart

    Secret Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,093 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:11

ผมมองว่า การกำหนดวงเงิน เป็นวิธีทางเศรษฐศาสตร์วิธีนึง

ผมเข้าใจว่า1ล้านสำหรับใครหลายคนคงน้อย (สำหรับผมก็ด้วย)
วิธีนี้ไม่ได้เอาไว้แก้เงินฝืดเท่านั้น แต่เป็นการบีบเงินให้หมุนเวียนในระบบมากขึ้น

ถ้ามองในมุมเศรษฐกิจ
การนำเงินไปลงทุน > ทำไปสู่การจ้างงาน > ลูกจ้างมีงานทำ > ลูกจ้างไปซื้อของ
มันทำให้เกิดการจ้างงาน เกิดการเติบโตทางธุรกิจ มีผลการส่งออก มีแบรนด์สินค้าไทยหรือธุรกิจมากขึ้น ฯลฯ
มันจะดีกว่านายทุน(หรือคนมีเงิน) เอาเงินเก็บไว้เฉยๆ ไม่ลงทุน ไม่เกิดการจ้างงาน และไม่เกิดผลต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย
ปล. รัฐจะเก็บภาษีได้มากด้วย

เรื่องปัญหาเงินเฟ้อ ใช่ครับมันอาจจะทำให้เงินเฟ้อ
แต่มันไม่ได้เกิดเงินเฟ้อมาก เนื่องจากปัญหาประเทศเราหนักไปที่ การไม่กระจายของธุรกิจ การรวมตัวของธุรกิจ ฯลฯ
หรือประเทศเราเป็นประเทศกำลังพัฒนา มันยังสามารถกระจายหรือส่งเสริมการลงทุนได้เยอะกว่านี้มาก

การเก็บออมเพื่อป้องกันความเสี่ยง (ผมก็คิดแบบนั้น)
การกำหนดวงเงิน ทำให้เราต้องเผชิญความเสี่ยง
แต่ยังไง ผมว่าฝากเงินเกินก็ไม่หน้าเป็นห่วงเท่าไหร่หรอกครับ สำหรับบางธนาคาร

#13 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:12

ทำไม ธนาคารของรัฐ กลับไม่คุ้มครอง :huh:

#14 Nabie

Nabie

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 155 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:13

ธนาคารบ้านเราเนี่ยน่าจะมีปัญหานะ
ลองดูพวกโปรโมชั่น 2.7- 3% 6 เดือนเนี่่ย
ออกมาบ่อยมากๆ ทั้งที่เมื่อก่อน ครึ่งปีมีทีนึงอะไรแบบนั้น
แล้วเรียกเงินที่ 200000 + ถึงจะเข้าร่วมโปรโมชั่นนี้ได้นะ
ยังดีผมมีไม่เยอะเท่าไร ก็เลยไม่กลัวมากนะ แต่ผมก็แยกเงินฝาก
ไว้เหมือนกันนะ hsbc ครึ่ง ธนาคารกรุงเทพครึง

#15 วิท

วิท

    ขาแพง

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,333 posts

ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:32

ธกส. ออมสินน่าห่วงมากๆ

#16 idecon

idecon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,580 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 01:26

ไม่ต้องตื่นเต้นไปครับ
ความหมายคือ ถ้าธนาคารล้ม เรามีความคุ้มครองไม่เกินหนึ่งล้าน
ในความเป็นจริง ถ้าธนาคารล้มนั่นคือความพินาศของระบบเศรษฐกิจแล้วครับ
ตลาดหุ้นก็น่าจะล้มตาม
เงินที่ลงทุนในตลาดหุ้นก็จะหายวับ
เก็บเงินไว้กับธนาคารที่น่าเชื่อถือน่าจะปลอดภัยกว่า ต่อให้ระบบมีปัญหา ตัวเลขของเรายังเท่าเดิม (มูลค่าของเงินตามเวลาไม่เกี่ยว)
ดังนั้น ธนาคารที่ให้ผลตอบแทนสูง น่าจะมีความเสี่ยงมาก

อมตวาจา
High risk high return
Low risk low return

การบริหารการเงินต้องใช้ทั้งสติและความรู้ครับ

#17 คนทุกที่

คนทุกที่

    ชนชั้นกลาง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,480 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 01:31

:D ไม่กลัว เพราะผึ้งไม่เคยมีตังในบัญชีเกินแสนเลย เอ๊ะ จะภูมิใจดีไหมนะ

#18 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 07:31

ตั้งแต่รู้ข่าวนี้ ผมก็กระจายเงินฝากไปหลายๆที่แล้วครับ
แบ่งตามประเภทของความจำเป็น บัญชีนี้เงินลงทุน บัญชีนี้เงินค่ารักษาพยาบาลแม่
(ค่ารักษาพยาบาลนี่ผมสำรองไว้ล้านนึงเลย เผื่อตัวเองด้วย เพราะไม่รู้ความเจ็บป่วยของเราจะเป็นโรครักษาง่ายหรือรักษายาก ประวัติบ้านผมเป็นมะเร็งกันหมดเลยด้วย)

ส่วนตัวผมเองรู้สึกว่าเรามีเงินสดออมหลายๆล้านบาทในธนาคารนี่ เงินมันจม น่ะครับ
ไม่มีการนำไปสร้างประโยชน์อย่างอื่น

การสร้างประโยชน์ทำได้หลายทาง อย่างที่ท่าน Shart แนะไว้น่ะแหละครับ
จะซื้อทองเก็บก็ได้ ซื้อที่ดินก็ได้ เอาไปทำทุน เอาไปให้คนยืม อาไปทำบุญ เอาไปเที่ยว ฯลฯ
อะไรก็ได้ที่ทำให้เงินนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนทั้งปวง

เงินฝากธนาคารเป็นสิบล้านนี่ไม่ไ่ด้ใช้ประโยชน์อะไรเลย
ขนาดเงินกำไรสะสมบริษัทที่ต้องมีเลขหลักสิบอยู่แล้ว "ส่วนเกินจากที่จำเป็นต้องสำรองไว้" ยังต้องนำไปลงทุนต่อเลย
จะในพันธบัตร ตราสารหนี้ ทองคำ ลงทุนในกิจการเพิ่มเติม หรืออะไรก็ได้
จมไว้เฉยๆทั้งก้อนมันน่าเสียดาย
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#19 korkang

korkang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,879 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 08:01

โชคดีครับ ไม่เคยมีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเลย :lol:

#20 patcha

patcha

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 319 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 08:39

ตั้งแต่รู้ข่าวนี้ ผมก็กระจายเงินฝากไปหลายๆที่แล้วครับ
แบ่งตามประเภทของความจำเป็น บัญชีนี้เงินลงทุน บัญชีนี้เงินค่ารักษาพยาบาลแม่
(ค่ารักษาพยาบาลนี่ผมสำรองไว้ล้านนึงเลย เผื่อตัวเองด้วย เพราะไม่รู้ความเจ็บป่วยของเราจะเป็นโรครักษาง่ายหรือรักษายาก ประวัติบ้านผมเป็นมะเร็งกันหมดเลยด้วย)

ส่วนตัวผมเองรู้สึกว่าเรามีเงินสดออมหลายๆล้านบาทในธนาคารนี่ เงินมันจม น่ะครับ
ไม่มีการนำไปสร้างประโยชน์อย่างอื่น

การสร้างประโยชน์ทำได้หลายทาง อย่างที่ท่าน Shart แนะไว้น่ะแหละครับ
จะซื้อทองเก็บก็ได้ ซื้อที่ดินก็ได้ เอาไปทำทุน เอาไปให้คนยืม อาไปทำบุญ เอาไปเที่ยว ฯลฯ
อะไรก็ได้ที่ทำให้เงินนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนทั้งปวง

เงินฝากธนาคารเป็นสิบล้านนี่ไม่ไ่ด้ใช้ประโยชน์อะไรเลย
ขนาดเงินกำไรสะสมบริษัทที่ต้องมีเลขหลักสิบอยู่แล้ว "ส่วนเกินจากที่จำเป็นต้องสำรองไว้" ยังต้องนำไปลงทุนต่อเลย
จะในพันธบัตร ตราสารหนี้ ทองคำ ลงทุนในกิจการเพิ่มเติม หรืออะไรก็ได้
จมไว้เฉยๆทั้งก้อนมันน่าเสียดาย


เห็นด้วยเรื่องการการะจายการลงทุนในหลากหลายทางเพื่อกระจายความเสี่ยง
แต่เรื่องสัดส่วนอะไรเท่าไร คงเป็นไปความเหมาะสมของแต่ละคน
เงินฝากในธนาคารได้ผลตอบแทนน้อยกว่าแต่ก็เสี่ยงน้อยกว่าเช่นกัน
เรามองว่าเงินฝากมีสภาพคล่อง หยิบฉวยมาใช้ง่ายกว่าทางอื่น
อย่างการส่งประกันก็ไม่ทำสูงเกินไปเพราะคือภาระเหมือนการผ่อนบ้านหรือรถ
หากเรามีรายได้ตลอดก็ดีไป ถ้าหากเกิดไม่มีปัญญาส่งหรือต้องกู้มาใช้ เท่ากับการขาดทุนเพราะเสียดอกเบี้ยสูงกว่าที่ได้

ความเป็นคนดีสำคัญที่สุด ถ้าคนไม่ดี จะระบบหรือระบอบใดก็ไม่ดีทั้งสิ้น

#21 ขี้ข้าทักษิณ

ขี้ข้าทักษิณ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,507 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 08:57

เหมือนกับเคยอ่านข่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ชะลอมาตรการไปแล้วนะคะ หรือเราจำผิดก็ต้องขออภัย

"ไม่เอานิรโทษกรรมของขี้ข้าทักษิณเพื่อทักษิณที่ขี้ขลาด"


#22 zutto

zutto

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,385 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:00

ออมสิน ธกส ธอส รับประกันทุกบาท...อันนี้ถามธนาคารมาแล้ว

#23 gears

gears

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,450 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:03

กระทู้นี้สาระดีครับ
ชอบๆ
ขอบคุณท่านสมาชิกครับ

#24 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:11

สำหรับท่านที่อ่านหนังสือไม่เกิน 3 บรรทัด ผมย่อความให้ครับ (ไม่รวมบรรทัดนี้นะครับ)

ปกติรัฐบาลจะประกันเงินที่เราฝากไว้กับสถาบันการเงินให้เราทุกบาททุกสตางค์ ในกรณีสถาบันการเงินล้ม เราจะได้เงินคืนเท่ากับจำนวนที่ฝากไว้แน่นอน
แต่ 11 สิงหาคมปีที่แล้ว รัฐบาลประกาศว่าจะรับประกันเงินฝากต่อรายชื่อต่อสถาบันการเงินเหลือเพียง 50 ล้านบาท และจะลดความคุ้มครองลงเหลือ 1 ล้านบาทใน 11 สค.ปีหน้า
แปลว่าถ้าสถาบันการเงินที่ท่านฝากเงินไว้ล้ม ไม่ว่าท่านจะมีกี่สิบล้านบาท มันก็จะเหลือเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น...อาาาาาา


รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกันครับ คนที่ค้ำประกันคือ สถาบันคุ้มครองเงินฝากครับ

#25 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:14

เคยถามเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน
เค้าบอกว่า ธนาคารของรัฐรับประกันเต็มจำนวนที่ฝากคะ

รอท่านผู้รู้อธิบาย


ถูกต้องครับ เนื่องจาก ธนาคารออมสิน , ธนาคารอาคารสงเคราะห์ , ธกส. , ธนาคารอิสลามฯ , SME bank เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ
จึงไม่อยู่ในขอบเขตของสถาบันคุ้่มครองเงินฝากครับ เงินฝากในธนาคารเหล่านี้ จึงค้ำประกันโดยรัฐบาล 100% ครับ
เหมือนอย่างที่ติดไว้ที่หน้า ธ.ออมสิน ทุกสาขา ว่า "รัฐบาลเป็นประกัน" ไงครับ

ส่วนธนาคารพาณิชย์อื่นๆ (รวมถึง ธ.กรุงไทย ด้วย) จะอยู่ในขอบเขตของสถาบันคุ้มครองเงินฝากครับ

ดูรายละเอียดได้ที่เว็บ http://www.dpa.or.th ครับ

Posted Image

Edited by promotion, 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:19.


#26 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:30

สบายไป ครอบครัวผมมีเงินฝากน้อย ... เอาไปลงทุนซื้อที่ดินจากไพร่ร้อนเงินไว้เท่าที่จะหาซื้อได้

ต้องขอบคุณรัฐบาลท่านปู ที่ปล่อยเรื่องภาษีที่ดินภาษีมรดกคาราคาซังอยู่ ... :wub:

Edited by DumpDump, 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:31.

อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#27 จีรนุช

จีรนุช

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,934 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:33

มีธุรกิจหลายร้อยบาท ขอขอบคุณค่ะ ตอนนี้เงินส่วนใหญ่อยูที่สวิต เเละตามโรงเรียนที่ทุรกันดารในชนบท

รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ

เอียนวะ   เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง


#28 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:35

ตั้งแต่รู้ข่าวนี้ ผมก็กระจายเงินฝากไปหลายๆที่แล้วครับ
แบ่งตามประเภทของความจำเป็น บัญชีนี้เงินลงทุน บัญชีนี้เงินค่ารักษาพยาบาลแม่
(ค่ารักษาพยาบาลนี่ผมสำรองไว้ล้านนึงเลย เผื่อตัวเองด้วย เพราะไม่รู้ความเจ็บป่วยของเราจะเป็นโรครักษาง่ายหรือรักษายาก ประวัติบ้านผมเป็นมะเร็งกันหมดเลยด้วย)

ส่วนตัวผมเองรู้สึกว่าเรามีเงินสดออมหลายๆล้านบาทในธนาคารนี่ เงินมันจม น่ะครับ
ไม่มีการนำไปสร้างประโยชน์อย่างอื่น

การสร้างประโยชน์ทำได้หลายทาง อย่างที่ท่าน Shart แนะไว้น่ะแหละครับ
จะซื้อทองเก็บก็ได้ ซื้อที่ดินก็ได้ เอาไปทำทุน เอาไปให้คนยืม อาไปทำบุญ เอาไปเที่ยว ฯลฯ
อะไรก็ได้ที่ทำให้เงินนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนทั้งปวง

เงินฝากธนาคารเป็นสิบล้านนี่ไม่ไ่ด้ใช้ประโยชน์อะไรเลย
ขนาดเงินกำไรสะสมบริษัทที่ต้องมีเลขหลักสิบอยู่แล้ว "ส่วนเกินจากที่จำเป็นต้องสำรองไว้" ยังต้องนำไปลงทุนต่อเลย
จะในพันธบัตร ตราสารหนี้ ทองคำ ลงทุนในกิจการเพิ่มเติม หรืออะไรก็ได้
จมไว้เฉยๆทั้งก้อนมันน่าเสียดาย


น่าจะแบ่งการลงทุนมาที่ประกันด้วยนะครับ อืม...ถ้าสนใจหลังไมค์บอกผมนะ -_-

#29 aumddd

aumddd

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 736 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:45

ถ้าสถาบันการเงินล้ม "หนี้" ที่มีอยู่ก็หายวับไปด้วยใช่ไหมครับ :lol:
งด "โควเต้" พวกกระทู้รับจ้างโพส --> [สมาชิกช่วยๆ กันนะครับ]

#30 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 16:26

ถ้าสถาบันการเงินล้ม "หนี้" ที่มีอยู่ก็หายวับไปด้วยใช่ไหมครับ :lol:


หนี้รู้สึกจะไม่หายนะครับ ส่วนผมมีแต่หนี้ เฮอะๆ
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#31 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 16:30

^_^ ล้มเลยๆๆ อยากให้ล้มครับ ถ้าหนี้สูญด้วยคน เอิ๊กๆๆๆ
:) Sometime...Sun shine through the rain...

#32 จูกัดขงเบ้ง

จูกัดขงเบ้ง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,226 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 16:31

เอามาฝากที่นี่ไหม ดอก 10กว่าเปอร์เซ็นแน่ะ














สกุล ด่ง นะจ๊ะ

แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง

จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน


#33 Emolution

Emolution

    โคตรพ่อโคตรแม่ควายแดง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,029 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 16:38

มีไม่เกิน 6000 555+

#34 ramboboy26

ramboboy26

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,532 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:49


สำหรับท่านที่อ่านหนังสือไม่เกิน 3 บรรทัด ผมย่อความให้ครับ (ไม่รวมบรรทัดนี้นะครับ)

ปกติรัฐบาลจะประกันเงินที่เราฝากไว้กับสถาบันการเงินให้เราทุกบาททุกสตางค์ ในกรณีสถาบันการเงินล้ม เราจะได้เงินคืนเท่ากับจำนวนที่ฝากไว้แน่นอน
แต่ 11 สิงหาคมปีที่แล้ว รัฐบาลประกาศว่าจะรับประกันเงินฝากต่อรายชื่อต่อสถาบันการเงินเหลือเพียง 50 ล้านบาท และจะลดความคุ้มครองลงเหลือ 1 ล้านบาทใน 11 สค.ปีหน้า
แปลว่าถ้าสถาบันการเงินที่ท่านฝากเงินไว้ล้ม ไม่ว่าท่านจะมีกี่สิบล้านบาท มันก็จะเหลือเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น...อาาาาาา


รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกันครับ คนที่ค้ำประกันคือ สถาบันคุ้มครองเงินฝากครับ

สถาบันคุ้มครองเงินฝากก็เป็นหน่วยงานของรัฐนี่ครับ
แถมพึ่งจะแยกงานออกเป็นเอกเทศเมื่อปี 51 นี่เองครับ ตามพรบ. ฉบับนี้ http://www.google.co...xLjpQl6dEaR6ebw
กูขอปฏิญาณ ต่อหน้าสถูปสถานศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าอิฐหินดินทราย ขอจองล้างจองผลาญจนตาย ต่อผู้ทำลาย แผ่นดิน...

#35 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:01

อายจังที่จะบอกว่า กระจายเงินฝากไว้ที่ กสิกร กรุงไทย ธอส ธนชาต
เหมือนจะรวยเนอะ แต่จริงๆ แต่ละทีมีกระจิ๊ดเดียว
ฝากที่ไหน ขึ้นกับโปรโมชั่น
เลยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่กับความเสี่ยงหากแบงค์ล้ม
ยังไงก็ได้รับการค้ำประกันชัวร์ๆ

#36 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:01



สำหรับท่านที่อ่านหนังสือไม่เกิน 3 บรรทัด ผมย่อความให้ครับ (ไม่รวมบรรทัดนี้นะครับ)

ปกติรัฐบาลจะประกันเงินที่เราฝากไว้กับสถาบันการเงินให้เราทุกบาททุกสตางค์ ในกรณีสถาบันการเงินล้ม เราจะได้เงินคืนเท่ากับจำนวนที่ฝากไว้แน่นอน
แต่ 11 สิงหาคมปีที่แล้ว รัฐบาลประกาศว่าจะรับประกันเงินฝากต่อรายชื่อต่อสถาบันการเงินเหลือเพียง 50 ล้านบาท และจะลดความคุ้มครองลงเหลือ 1 ล้านบาทใน 11 สค.ปีหน้า
แปลว่าถ้าสถาบันการเงินที่ท่านฝากเงินไว้ล้ม ไม่ว่าท่านจะมีกี่สิบล้านบาท มันก็จะเหลือเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น...อาาาาาา


รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกันครับ คนที่ค้ำประกันคือ สถาบันคุ้มครองเงินฝากครับ

สถาบันคุ้มครองเงินฝากก็เป็นหน่วยงานของรัฐนี่ครับ
แถมพึ่งจะแยกงานออกเป็นเอกเทศเมื่อปี 51 นี่เองครับ ตามพรบ. ฉบับนี้ http://www.google.co...xLjpQl6dEaR6ebw


อ้าว ผมก็ต้องพูดถึงสิ่งที่อยู่ในปัจจุบันสิครับคุณ คุยกันเรื่องปัจจุบันอยู่นี่ครับ

#37 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:02

ถ้าสถาบันการเงินล้ม "หนี้" ที่มีอยู่ก็หายวับไปด้วยใช่ไหมครับ :lol:


ไม่หายหรอกครับ :D

#38 ramboboy26

ramboboy26

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,532 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:21




สำหรับท่านที่อ่านหนังสือไม่เกิน 3 บรรทัด ผมย่อความให้ครับ (ไม่รวมบรรทัดนี้นะครับ)

ปกติรัฐบาลจะประกันเงินที่เราฝากไว้กับสถาบันการเงินให้เราทุกบาททุกสตางค์ ในกรณีสถาบันการเงินล้ม เราจะได้เงินคืนเท่ากับจำนวนที่ฝากไว้แน่นอน
แต่ 11 สิงหาคมปีที่แล้ว รัฐบาลประกาศว่าจะรับประกันเงินฝากต่อรายชื่อต่อสถาบันการเงินเหลือเพียง 50 ล้านบาท และจะลดความคุ้มครองลงเหลือ 1 ล้านบาทใน 11 สค.ปีหน้า
แปลว่าถ้าสถาบันการเงินที่ท่านฝากเงินไว้ล้ม ไม่ว่าท่านจะมีกี่สิบล้านบาท มันก็จะเหลือเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น...อาาาาาา


รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกันครับ คนที่ค้ำประกันคือ สถาบันคุ้มครองเงินฝากครับ

สถาบันคุ้มครองเงินฝากก็เป็นหน่วยงานของรัฐนี่ครับ
แถมพึ่งจะแยกงานออกเป็นเอกเทศเมื่อปี 51 นี่เองครับ ตามพรบ. ฉบับนี้ http://www.google.co...xLjpQl6dEaR6ebw


อ้าว ผมก็ต้องพูดถึงสิ่งที่อยู่ในปัจจุบันสิครับคุณ คุยกันเรื่องปัจจุบันอยู่นี่ครับ


เอ้า ก็มันยังคงเป็นหน่วยงานของรัฐมั้ยล่ะครับ? ดูจากบทบาทที่โพสข้างล่างนี้ก็ได้ หรือจะไปอ่านจากพรบ.ก็ได้ครับ

บทบาท
สถาบันคุ้มครองเงินฝากเป็นองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ ปี 2551 ตามพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551 เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินโดยเฉพาะผู้ฝากเงินรายย่อยที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศที่อาจจะไม่สามารถเข้าถึงข่าวสารทางการเงินได้อย่างเพียงพอ ในกรณีที่สถาบันการเงินซึ่งอยู่ภายใต้ความคุ้มครองถูกปิดกิจการ ผู้ฝากเงินจะได้รับเงินฝากคืนจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากอย่างรวดเร็วภายใต้วงเงินและภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่วนเงินฝากที่มีจำนวนเกินวงเงินจ่ายคืนดังกล่าว จะได้รับคืนเพิ่มเติมจากการชำระบัญชีสถาบันการเงินที่ปิดกิจการ
http://www.dpa.or.th...news.php?nid=25

ผมว่ามาคุยกันเรื่องนโยบายดีกว่านะครับ
สาระสำคัญคือเงินฝากถูกลดการรับประกันมันมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง
ไม่ใช่ใครมีหน้าที่รับประกันเงินฝากครับ
กูขอปฏิญาณ ต่อหน้าสถูปสถานศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าอิฐหินดินทราย ขอจองล้างจองผลาญจนตาย ต่อผู้ทำลาย แผ่นดิน...

#39 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:28





สำหรับท่านที่อ่านหนังสือไม่เกิน 3 บรรทัด ผมย่อความให้ครับ (ไม่รวมบรรทัดนี้นะครับ)

ปกติรัฐบาลจะประกันเงินที่เราฝากไว้กับสถาบันการเงินให้เราทุกบาททุกสตางค์ ในกรณีสถาบันการเงินล้ม เราจะได้เงินคืนเท่ากับจำนวนที่ฝากไว้แน่นอน
แต่ 11 สิงหาคมปีที่แล้ว รัฐบาลประกาศว่าจะรับประกันเงินฝากต่อรายชื่อต่อสถาบันการเงินเหลือเพียง 50 ล้านบาท และจะลดความคุ้มครองลงเหลือ 1 ล้านบาทใน 11 สค.ปีหน้า
แปลว่าถ้าสถาบันการเงินที่ท่านฝากเงินไว้ล้ม ไม่ว่าท่านจะมีกี่สิบล้านบาท มันก็จะเหลือเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น...อาาาาาา


รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกันครับ คนที่ค้ำประกันคือ สถาบันคุ้มครองเงินฝากครับ

สถาบันคุ้มครองเงินฝากก็เป็นหน่วยงานของรัฐนี่ครับ
แถมพึ่งจะแยกงานออกเป็นเอกเทศเมื่อปี 51 นี่เองครับ ตามพรบ. ฉบับนี้ http://www.google.co...xLjpQl6dEaR6ebw


อ้าว ผมก็ต้องพูดถึงสิ่งที่อยู่ในปัจจุบันสิครับคุณ คุยกันเรื่องปัจจุบันอยู่นี่ครับ


เอ้า ก็มันยังคงเป็นหน่วยงานของรัฐมั้ยล่ะครับ? ดูจากบทบาทที่โพสข้างล่างนี้ก็ได้ หรือจะไปอ่านจากพรบ.ก็ได้ครับ

บทบาท
สถาบันคุ้มครองเงินฝากเป็นองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ ปี 2551 ตามพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551 เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินโดยเฉพาะผู้ฝากเงินรายย่อยที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศที่อาจจะไม่สามารถเข้าถึงข่าวสารทางการเงินได้อย่างเพียงพอ ในกรณีที่สถาบันการเงินซึ่งอยู่ภายใต้ความคุ้มครองถูกปิดกิจการ ผู้ฝากเงินจะได้รับเงินฝากคืนจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากอย่างรวดเร็วภายใต้วงเงินและภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่วนเงินฝากที่มีจำนวนเกินวงเงินจ่ายคืนดังกล่าว จะได้รับคืนเพิ่มเติมจากการชำระบัญชีสถาบันการเงินที่ปิดกิจการ
http://www.dpa.or.th...news.php?nid=25

ผมว่ามาคุยกันเรื่องนโยบายดีกว่านะครับ
สาระสำคัญคือเงินฝากถูกลดการรับประกันมันมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง
ไม่ใช่ใครมีหน้าที่รับประกันเงินฝากครับ


มันเป็นองค์กรของรัฐจริงครับ แต่มันไม่ใช่ความหมายเดียวกับการรับประกันเงินฝากโดยรัฐบาลครับ
ผมต้องการชี้ตรงจุดนี้ครับ การรับประกันเงินฝากขององค์กรนี้จะนำเงินมาจากกองทุนคุ้มครองเงินฝากที่สถาบันการเงินนำส่งมาสะสมไว้ ครับ

#40 koong

koong

    ใช้ชีวิตกลางดงแดง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,147 posts

ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:30

ตายละหว่า :blink: กะจะถูกลอตเตอรี่ งวดนี้ :huh: เอาเงินเข้าแบงค์ไว้กินดอกเสียหน่อย <_<

#41 karasu

karasu

    Moderator

  • Moderators_S
  • 611 posts

ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 05:52

(ค่ารักษาพยาบาลนี่ผมสำรองไว้ล้านนึงเลย เผื่อตัวเองด้วย เพราะไม่รู้ความเจ็บป่วยของเราจะเป็นโรครักษาง่ายหรือรักษายาก ประวัติบ้านผมเป็นมะเร็งกันหมดเลยด้วย)


ไม่ทราบว่าได้มีการทำประกันสุขภาพ+โรคร้ายแรงเอาไว้หรือยังนะครับ ถ้ายังควรจะรีบหาข้อมูลด่วนเลยนะครับ เพราะผมว่าคุณมีความเสี่ยงสูงนะครับ

โรคมะเร็งถ้าเข้ารักษาตาม รพ ทุน ล้านนึงนี่ผมว่าเอาไม่อยู่นะครับ(จากข้อมูลที่ผมทราบ การฉายแสงรักษาโรคมะเร็งนี่ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ4แสนบาท ไปจนถึง1.2ล้านบาท ต่อครั้ง) แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพบโรคตั้งแต่ระยะแรกๆครับ


อย่างการส่งประกันก็ไม่ทำสูงเกินไปเพราะคือภาระเหมือนการผ่อนบ้านหรือรถ
หากเรามีรายได้ตลอดก็ดีไป ถ้าหากเกิดไม่มีปัญญาส่งหรือต้องกู้มาใช้ เท่ากับการขาดทุนเพราะเสียดอกเบี้ยสูงกว่าที่ได้

ผมว่าแนวคิดนี้ผิดนะครับ ถ้าคุณกำลังคิดแบบนี้อยู่ ผมคิดว่าคุณต้องลองสำรวจแบบประกันที่คุณมีอยู่ตอนนี้ก่อนแล้วล่ะครับ ว่าเป็นแบบที่เหมาะสมกับคุณแล้วหรือยัง และแบบประกันที่คุณทำให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับตัวคุณหรือไม่

ทั้ง 2 ท่านข้างบน ผมยินดีให้คำปรึกษาหลังไมค์นะครับ LOL

ขอกลับเข้าสู่กระทู้นิดนึง

คือที่ จขกท เอามาให้ดูนั้นเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่อย่าพึ่งตระหนกครับ ต้องทำความเข้าใจให้รอบด้านในหลายแง่มุม

ขออ้างอิงภาพนิดนึงนะครับ

Posted Image


ในที่นี้เค้าใช้คำว่าสถาบันการเงิน ซึ่ง ธนาคารจัดเป็นหนึ่งในสถาบันการเงิน แต่สถาบันการเงินไม่ได้มีเฉพาะธนาคารเท่านั้น พอเห็นภาพมั้ยครับ ^^

ผมขอแสดง คคห ในส่วนของธนาคารก็แล้วกันนะครับ จริงอยู่ว่า ธนาคารนั้นสามารถล้มได้ แต่มันต้องอยู่ในเงื่อนไขที่แย่จริงๆนะครับ และเงื่อนไขนั้นก็คือการที่คนแห่กันถอนเงินออกจากธนาคารในเวลาที่ธนาคารนั้นขาดสภาพคล่องทางการเงิน นั่นแหล่ะครับจะเป็นปัจจัยหลัก แต่ส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยมีหรอกครับหาได้ยากนะ เท่าที่ผมเคยจำได้ที่เป็นกรณีใหญ่โตจริงๆก็คงจะเป็นธนาคารศรีนครอ่ะครับ แต่ก็จำได้ว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ ก็ผ่านมาได้ด้วยดี มีการควบรวมกิจการกันไปมั้งถ้าจำไม่ผิดก็กลายเป็นธนาคารนครหลวงไทย(หรือเปล่า?)

แต่สมมติ ถ้าเกิดกรณีแบบธนาคารศรีนคร หลัง 11 สค 59 นี่น่าคิดนะครับ แต่ตามความเข้าใจของผมคือ เงื่นไขการรับประกันนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ธนาคารไม่มีเงินจ่ายคืนให้กับลูกค้าที่ต้องการมาถอนแล้วมากกว่านะครับ...

ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นนะครับ ธุรกิจธนาคารมักจะมีนายทุนใหม่ๆมารับช่วงต่อเสมออ่ะครับ เพราะฉนั้นทั้งหนี้ทั้งเงินฝากมันก็จะมีคนมาคอยจัดการต่อให้เสมอนะครับ ^^

ป.ล. เป็นแค่ คคห ของคนรู้มั่งไม่รู้มั่งนะครับ อย่าเชื่อทั้งหมด ขอให้หาข้อมูลเพิ่มเติมต่อด้วยตัวคุณเองด้วย เรื่องแบบนี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เงินใครเงินมันครับ ^^
ป.ล.1 เงินนั้นสำคัญแต่ก็ไม่ได้สำคัญที่สุดครับ ^^
ป.ล.2 ผมชอบประโยคนึงไม่รู้ใครคิด เค้าว่า "เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาคือของจริง" ผมอยากให้เพื่อนๆที่กำลังทำงานเพื่อหาเงิน ลองคิดทบทวนถึงประโยคนี้ดีๆ แล้วหาวิธีดีๆที่จะทำให้เราทำงานเพื่ออะไรที่มากกว่าเงินนะครับ ^^

Edited by karasu, 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 05:58.

หล่อกว่าผมก็มีแต่ ณเดช คูกิมิยะ เท่านั้นล่ะครับ[color=#ff0000;]รณรงค์งดตอบโต้ พูดคุย กับคนหน้าด้านไร้ยางอาย...[/color]


#42 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:37


(ค่ารักษาพยาบาลนี่ผมสำรองไว้ล้านนึงเลย เผื่อตัวเองด้วย เพราะไม่รู้ความเจ็บป่วยของเราจะเป็นโรครักษาง่ายหรือรักษายาก ประวัติบ้านผมเป็นมะเร็งกันหมดเลยด้วย)


ไม่ทราบว่าได้มีการทำประกันสุขภาพ+โรคร้ายแรงเอาไว้หรือยังนะครับ ถ้ายังควรจะรีบหาข้อมูลด่วนเลยนะครับ เพราะผมว่าคุณมีความเสี่ยงสูงนะครับ

โรคมะเร็งถ้าเข้ารักษาตาม รพ ทุน ล้านนึงนี่ผมว่าเอาไม่อยู่นะครับ(จากข้อมูลที่ผมทราบ การฉายแสงรักษาโรคมะเร็งนี่ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ4แสนบาท ไปจนถึง1.2ล้านบาท ต่อครั้ง) แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพบโรคตั้งแต่ระยะแรกๆครับ


อย่างการส่งประกันก็ไม่ทำสูงเกินไปเพราะคือภาระเหมือนการผ่อนบ้านหรือรถ
หากเรามีรายได้ตลอดก็ดีไป ถ้าหากเกิดไม่มีปัญญาส่งหรือต้องกู้มาใช้ เท่ากับการขาดทุนเพราะเสียดอกเบี้ยสูงกว่าที่ได้

ผมว่าแนวคิดนี้ผิดนะครับ ถ้าคุณกำลังคิดแบบนี้อยู่ ผมคิดว่าคุณต้องลองสำรวจแบบประกันที่คุณมีอยู่ตอนนี้ก่อนแล้วล่ะครับ ว่าเป็นแบบที่เหมาะสมกับคุณแล้วหรือยัง และแบบประกันที่คุณทำให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับตัวคุณหรือไม่

ทั้ง 2 ท่านข้างบน ผมยินดีให้คำปรึกษาหลังไมค์นะครับ LOL

ขอกลับเข้าสู่กระทู้นิดนึง

คือที่ จขกท เอามาให้ดูนั้นเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่อย่าพึ่งตระหนกครับ ต้องทำความเข้าใจให้รอบด้านในหลายแง่มุม

ขออ้างอิงภาพนิดนึงนะครับ

Posted Image


ในที่นี้เค้าใช้คำว่าสถาบันการเงิน ซึ่ง ธนาคารจัดเป็นหนึ่งในสถาบันการเงิน แต่สถาบันการเงินไม่ได้มีเฉพาะธนาคารเท่านั้น พอเห็นภาพมั้ยครับ ^^

ผมขอแสดง คคห ในส่วนของธนาคารก็แล้วกันนะครับ จริงอยู่ว่า ธนาคารนั้นสามารถล้มได้ แต่มันต้องอยู่ในเงื่อนไขที่แย่จริงๆนะครับ และเงื่อนไขนั้นก็คือการที่คนแห่กันถอนเงินออกจากธนาคารในเวลาที่ธนาคารนั้นขาดสภาพคล่องทางการเงิน นั่นแหล่ะครับจะเป็นปัจจัยหลัก แต่ส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยมีหรอกครับหาได้ยากนะ เท่าที่ผมเคยจำได้ที่เป็นกรณีใหญ่โตจริงๆก็คงจะเป็นธนาคารศรีนครอ่ะครับ แต่ก็จำได้ว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ ก็ผ่านมาได้ด้วยดี มีการควบรวมกิจการกันไปมั้งถ้าจำไม่ผิดก็กลายเป็นธนาคารนครหลวงไทย(หรือเปล่า?)

แต่สมมติ ถ้าเกิดกรณีแบบธนาคารศรีนคร หลัง 11 สค 59 นี่น่าคิดนะครับ แต่ตามความเข้าใจของผมคือ เงื่นไขการรับประกันนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ธนาคารไม่มีเงินจ่ายคืนให้กับลูกค้าที่ต้องการมาถอนแล้วมากกว่านะครับ...

ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นนะครับ ธุรกิจธนาคารมักจะมีนายทุนใหม่ๆมารับช่วงต่อเสมออ่ะครับ เพราะฉนั้นทั้งหนี้ทั้งเงินฝากมันก็จะมีคนมาคอยจัดการต่อให้เสมอนะครับ ^^

ป.ล. เป็นแค่ คคห ของคนรู้มั่งไม่รู้มั่งนะครับ อย่าเชื่อทั้งหมด ขอให้หาข้อมูลเพิ่มเติมต่อด้วยตัวคุณเองด้วย เรื่องแบบนี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เงินใครเงินมันครับ ^^
ป.ล.1 เงินนั้นสำคัญแต่ก็ไม่ได้สำคัญที่สุดครับ ^^
ป.ล.2 ผมชอบประโยคนึงไม่รู้ใครคิด เค้าว่า "เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาคือของจริง" ผมอยากให้เพื่อนๆที่กำลังทำงานเพื่อหาเงิน ลองคิดทบทวนถึงประโยคนี้ดีๆ แล้วหาวิธีดีๆที่จะทำให้เราทำงานเพื่ออะไรที่มากกว่าเงินนะครับ ^^


ถูกต้องแล้วครับ กรณีธนาคารศรีนครนั้น ผู้ฝากเงินไม่ได้รับผลกระทบใดๆครับ เนื่องจากทางการโดย ธปท. และกองทุนฟื้นฟูฯ ได้เข้ามาแก้ปัญหาโดย...
- สั่งลดทุนจดทะเบียน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นเดิมรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น (ใบหุ้นแทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ)
- แล้วสั่งเพิ่มทุนทันที โดยกองทุนฟื้นฟูฯ (ซึ่งก็๋มีจากเงินของประเทศชาตินั่นแหล่ะครับ) ส่งผลให้ธนาคารกลายเป็นของรัฐ
ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นกับธนาคารหลายแห่งในขณะนั้น ซึ่งรวมถึงธนาคารนครหลวงไทยด้วย
- ต่อมาทางการได้ส่งผู้บริหารไปแก้ปัญหาในธนาคารทั้งสองแห่ง จะทุกอย่างดีขึ้น แล้วตัดสินใจควบรวมกิจการของธนาคารทั้งสองแห่งเข้าด้วยกัน
โดยให้ธนาคารนครหลวงไทยเป็นธนาคารที่ดำเนินการต่อไป
- เมื่อประมาณ 2 ปี ก่อน ทางการก็หาคนมาซื้อธนาคารนครหลวงไทยได้ นั้นก็คือ กลุ่มธนชาต ปัจจุบันธนาคารนครหลวงไทย
ได้ถูกควบรวมกับธนาคารธนชาต เป็นที่เรียบร้อยมาประมาณ 1 ปีแล้วครับ

จะพบว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ฝากเงินไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เพราะรัฐบาลต้องเอาเงินของประเทศชาติ
มาแก้ปัญหาของธนาคารเหล่านี้ โดยผ่านกองทุนฟื้นฟู (เนื่องจากมีแนวคิดว่า แบงค์ล้มไม่ได้)
ซึ่งเงินตรงส่วนนี้ก็เป็นภาระของประเทศชาติ ดังนั้น จึงเกิด พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ขึ้นมา
เพื่อไม่ให้การคุ้มครองเงินฝากต้องมาเป็นภาระของรัฐ (ซึ่งก็มาจากภาษีของคนทั้งประเทศ) ครับ
โดยเงินที่จะเอามาใช้ในการคุ้มครองเงินฝาก ของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก นั้นจะนำมาจากการเก็บจากสถาบันการเงินต่างๆครับ

#43 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:44

สำหรับคำว่า "สถาบันการเงิน" นั้น ปัจจุบันมีดังนี้ครับ (ตาม ธปท.)


หมวด : 1. ธนาคารพาณิชย์ไทย ‎(14)
หมวด : 2. ธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย ‎(1)
หมวด : 3. ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศ ‎(1)
หมวด : 4. สาขาของธนาคารต่างประเทศ ‎(15)
หมวด : 5. บริษัทเงินทุน ‎(3)
หมวด : 6. บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ‎(3)
หมวด : 7. สำนักงานผู้แทนธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ‎(33)
หมวด : 8. บริษัทบริหารสินทรัพย์ ‎(21)
หมวด : 9. สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ‎(8)
หมวด : 10. บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ‎
หมวด : 11. บริษัทผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต ‎(11)
หมวด : 12. บริษัทผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ‎(26)

สำหรับสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของสถาบันคุ้มครองเงินฝากนั้น คือ หมวด 1,2,5,6 ทุกแห่ง ส่วนหมวด 3,4 ไม่แน่ใจว่าทุกแห่งหรือเปล่าแต่น่าจะส่วนใหญ่ครับ
เช็คได้จากเว็บ www.dpa.or.th ครับ (แต่เช้านี้เข้าไม่ได้ไม่รู้ทำไม)

สำหรับหมวด 9 ก็เช่น ธ.ออมสิน , ธกส. , ธอส. , ธ.อิสลาม , ธ. SMEs นั้น ไม่เป็นสมาชิกของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
เพราะรัฐบาลเป็นเจ้าของเอง ก็รับประกันโดยรัฐบาลเองครับ




ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน