พระราชดำรัสในหลวงวันที่ 4 ธันวาคม 2550
วันพุธที่ 05 ธันวาคม 2007 เวลา 15:03 น.
เมื่อเวลา 16.22 น.วานนี้ (4 ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะองคมนตรีและคู่สมรส นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และคณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2550
โอกาสนี้ ทรงมีพระราชดำรัสแก่คณะผู้เข้าเฝ้าฯ ความว่า ขอขอบใจนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวคำอวยพร และขอบใจท่านทั้งหลายที่ได้มาเยี่ยมและมาอวยพร ทำให้มีกำลังใจ
ความจริงการที่ท่านมานี้ เป็นการให้กำลังใจ ที่บอกว่าดูแข็งแรง ดูมีอนามัยที่ดี ความจริงไม่ใช่ เป็นความดีของเราที่ตั้งใจที่จะให้แข็งแรงเพื่อที่จะต้อนรับท่านได้ ถ้าไม่ได้ตั้งใจที่จะให้แข็งแรงที่จะมาต้อนรับท่าน ก็จะต้อนรับท่านไม่ได้ เพราะว่าเดินก็เดินขาล้ำไปข้างหน้าข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งไปข้างหลัง ไม่ค่อยยอมสามัคคี ต้องสามัคคี
แล้วก็ไปพูดเมื่อวานซืนนี้ ทหารก็ตาม พลเรือนก็ตามต้องสามัคคี เหมือนขาของเราที่จะต้องเดินสามัคคีกัน หมายความว่าก้าวไปข้างหน้า แล้วก็มีข้างหนึ่งยันข้างหลัง และเมื่อยันข้างหลังเรียบร้อยแล้ว ก็ก้าวไปข้างหน้าอีกข้าง อย่างนี้ก็สามารถเดินได้และไม่หกล้ม ซึ่งถ้าไม่สามัคคีก็บอกแล้วว่าประเทศจะประสบความหายนะ ไม่ได้ใช้คำว่าหายนะแต่คล้ายๆ กัน ว่าถ้าไม่สามัคคีกัน ไม่ปรองดองกัน ประเทศชาติล้ม
ถ้าล้มแล้วผลของการล้มนั้นมีหลายอย่าง ถ้าทางกายก็ร่างกายกระดูกหัก และต้องเข้ารักษา บางทีรักษานานๆ ไม่มีสิ้นสุด ถ้าไม่ระวัง ประเทศชาติก็ล่ม เมื่อล่มเราจะไปอยู่ที่ไหน ล่มก็หมายถึงว่าลงไป จม ล่มจม ถ้าเราไม่ระวัง ประเทศชาติล่มจม ก็หมายความว่าล่มลงไปในทะเล เพราะว่าเมืองไทยนี้ติดทะเล ถ้าล่มไปล่มมาก็ลงทะเล
สมัยนี้เขาก็ขู่กันว่าน้ำทะเลจะขึ้น เพราะว่าอากาศมันร้อน แต่ทำไปทำมาก็ไม่ได้ร้อนจริง ตั้งแต่ต้นธันวานี้ คนบ่นว่าอากาศเย็น อากาศหนาว เราไม่รู้จะเชื่อใครว่าตอนนี้จะหนาวหรือจะร้อน แต่ว่าคำว่าร้อน ร้อนจริงๆ คือเดือดร้อน เป็นเดือดร้อนมากกว่า ทุกคนที่มานั่งอยู่ที่นี่ก็จะเดือดร้อน ภาษาไทยใช้คำว่าเดือดร้อน ร้อนแล้วมันก็เดือด น้ำเดือดมันร้อน อากาศร้อน ก็อากาศทำให้ร่างกายเราไม่สบาย ถ้าไม่สบายแล้ว อยู่ไม่ค่อยได้
ที่อากาศร้อนก็เพราะว่าอากาศมันเจอความร้อนของ พระอาทิตย์ ซึ่งเมืองไทยก็เคราะห์ดีอยู่เหมือนกันว่าอากาศร้อน ไม่ได้เย็นเหมือนอเมริกา เดี๋ยวนี้ที่อเมริกากำลังเดือดร้อนเพราะอากาศเย็น อากาศหิมะตก ซึ่งตามปกติไม่น่าจะตกอย่างนี้ แต่ว่าอเมริกากำลังร้อน เดือดร้อนในความเย็น เมืองไทยนี้ก็มีความเดือดร้อนด้วยความเย็นเหมือนกัน แต่ว่าพูดว่าเดือดร้อน
แล้วก็พูดถึงว่าเมืองไทยบ่นว่าเดือด ที่จริงไม่ได้เดือด แต่คนน่ะเดือด ก็เหมือนทำให้คนเดือดร้อน แล้วเวลาเดือดร้อนมันไม่สบาย น้ำเดือดจะมีประโยชน์ ต้มไข่ได้ แต่ว่าถ้าเดือดเฉยๆ ไม่มีประโยชน์ ทำให้คนเดือดร้อน สิ้นเปลืองเปล่าๆ แล้วก็บ่นว่าประเทศลุกเป็นไฟ ก็ต้องระวังไม่ให้ลุกเป็นไฟ เพราะว่าจะทำให้ล่มจม ต่างประเทศเขาบอกว่าเมืองไทยจะล่ม จะจม ความจริงยังไม่ล่ม และไม่จม แต่ถ้าไม่ระวัง ก็จะล่มจม ฉะนั้นก็จะต้องระมัดระวัง
ทุกวันนี้ไม่ปรองดองกัน เมื่อไม่ปรองดอง ก็มีรู ก็จะล่มจมลงไป ที่จริงพยายามจะอุดช่องไว้อย่างมาก เช่น น้ำจะท่วม ก็ปิดกั้นไม่ให้น้ำท่วม แต่ที่เขาทำ น้ำจะท่วมก็ต้องสูบน้ำออกไปใส่ในทะเล ทะเลก็มีน้ำมากเกินไป น้ำก็ล้นเข้ามาในพื้นแผ่นดิน ประเทศชาติก็ล่มจม ฉะนั้นการป้องกันไม่ให้ล่มจม จะต้องระวังไม่ให้น้ำขึ้นมากเกินไป ซึ่งถ้าน้ำขึ้นมากเกินไป ก็ต้องแก้ไข
แก้ไขนี่มีหลายวิธี จะต้องทำเขื่อน แต่เขาก็ด่าก็ว่าถ้าทำเขื่อนเท่ากับประเทศจะจม จมในน้ำ เพราะว่าตั้งเขื่อน น้ำก็ต้องขังไว้ แต่ว่าการขังน้ำโดยใช้เขื่อนนั้นมันมีหลายวิธี ซึ่งบางทีไม่เข้าใจ บางเขื่อนน้ำก็ท่วม แต่ถ้าหากว่าทำเขื่อนแล้วไม่ระวัง ไม่ได้บริหารเขื่อนนั้นให้ดี มันก็อาจจะทำให้น้ำท่วม
อย่างที่เคยพูดถึงเขื่อนป่าสัก เขื่อนป่าสักนี้ถ้าไม่ได้ทำก็จะเสียเงินเป็นพันล้านทุกปี แล้วก็เสียเงินอย่างนี้แล้วไม่ได้อะไรเลย เดี๋ยวนี้ที่ได้ทำป่าสักมา ทุกปีมีผลดี ทำการเกษตรกสิกรรมได้ผล และเมื่อได้ผลแล้ว ก็ได้รายได้ ถ้าไม่ได้ผล ก็จะต้อง....(พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติทรงตรัสเสียงดัง) นี่ก็น้ำท่วมทุ่ง นี่อย่างนี้น้ำท่วมทุ่ง นี่เหมือนพ่อเขา พูดมาก ปู่พูดไม่มาก เวลาพูดเขาก็หาว่าน้ำท่วมทุ่ง
ไอ้น้ำท่วมทุ่งนี่มันไม่ดี เพราะว่าเวลาท่วมทุ่ง ทุ่งนั้นทำอะไรไม่ได้ พืชผลต่างๆ ก็เน่า แล้วก็ถ้าพืชผลเน่า ก็เท่ากับทำลายพืชผลนั้น ซึ่งตามปกติพืชผลขึ้นมาสามารถที่จะขายได้ แต่พืชผลที่เน่า ขายไม่ได้ พืชผลที่เน่าทำให้เสียหาย
แต่ที่ปลื้มใจที่ป่าสักนี้น้ำท่วมมีบ้าง แต่น้อยมาก คือว่าแต่ก่อนนี้ทุกปีต้องเสียเงินเป็นพันล้านสำหรับแก้ไขเรื่องน้ำท่วม เสียหายไปพันล้าน ไม่มีรายได้เลย มีแต่รายจ่าย ถ้ามีรายได้ ก็ไม่เป็นไร เวลามีน้ำท่วมขึ้นมาความจริงก็มีรายได้ เพราะว่าอย่างเช่นข้าว ถ้าไม่มีน้ำก็แห้งผาก ไม่มีผล แต่ยังไงไม่มีผลอย่างนั้น ยังงอกออกมาได้ ก็ยังมีข้าว แต่อย่างถ้าข้าวถูกท่วม และเน่า ต้องเสีย ข้าวนั้นเสีย ไม่ได้ผล มีแต่ทางเสีย ไม่มีทางได้
ฉะนั้นการที่ทำเขื่อนแล้วก็ไม่มีน้ำท่วม ก็มีจ่ายเงินสำหรับค่าทำเขื่อน แล้วก็ปีหนึ่งเสียหายเล็กน้อย จนถึงเดี๋ยวนี้เมืองไทยก็มีรายได้มากกว่ารายจ่าย แต่ว่าถ้าไม่ได้ทำโครงการป้องกันไม่ให้น้ำท่วม มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายได้ แล้วอย่างนี้เราก็อยู่ไม่ได้
อันนี้พูดเป็นปริศนาว่า ถ้าไม่มีรายได้ ก็ไม่มีรายจ่าย คือว่าถ้าไม่มีรายได้ ก็ไม่สามารถที่จะจ่ายอยู่ดี มีแต่ต้องจ่ายสำหรับป้องกันน้ำท่วมนั้น ป้องกันแล้วไม่มีกำไรเลย มีแต่เสีย ฉะนั้นก็ที่คนเขาว่าทำโครงการแล้วก็เสีย...จริง...เสียเงิน แต่ว่าไม่เสียผลประโยชน์ ก็ต้องคิดดีๆ ว่าที่ได้ทำโครงการนั้นก็มีจุดประสงค์ที่จะให้มีรายได้
แต่ถ้าพูดอย่างที่เขาพูด จ่ายเงินเยอะแยะ ไอ้ที่ต้องจ่ายแยะ แต่ว่าไม่ได้เสีย เพราะว่ามีรายได้ นี่เราพูดกลับไปกลับมาอย่างนี้ท่านก็งง ท่านมองหน้าว่าเอ๊ะ...จะไปไหน ต้องทำโครงการหรืออะไรก็ตาม ก็ต้องมีเหตุผล ก็ต้องบริหารงานการให้ดี
พูดถึงบริหารเวลานี้ก็มีฝ่ายที่เป็นรัฐบาล รัฐบาลก็คือการบริหาร แต่ว่าบริหารนี้มีทุกอย่าง บริหารโครงการ บริหารกิจการต่างๆ บริหารการเงินทุกอย่าง ก็ต้องบริหารดีๆ ฉะนั้นถ้าไม่บริหารก็ล่มจม แต่คนที่ไม่ได้เป็นฝ่ายบริหาร มีแต่ตำหนิติเตียนว่าไม่ทำ ที่จริงฝ่ายบริหารเขาก็ทำ คนที่ติเตียนนั้นก็เป็นคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ตรงข้ามมีแต่ทำลาย ฉะนั้นที่มาเมื่อ 2-3 วันนี้ ชักกลุ้มใจที่ฟังวิทยุ แล้วก็พูดว่าเมืองไทยนี้ไม่ก้าวหน้าเลย แต่ความจริงก็ก้าวหน้า ถ้าไม่ทำอะไรเลย ป่านนี้ก็ล่มจมแล้ว ถ้าไม่ทำก็ล่มจมเหมือนเรือน้ำท่วม ล่มจม
พูดถึงน้ำมากเกินไปแล้ว เดี๋ยวหาว่าพูดน้ำท่วมทุ่ง แต่ว่าอย่างไรก็ตามต้องพูด วันนี้ตั้งใจจะต้องพูดว่าถ้าไม่ทำอะไร ทำแต่พูด ก็จะไม่ดี อันนี้ก็พูดมามากแล้ว ในทางที่คล้ายๆ ปรามไม่ให้พูด แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ท่านเงียบหมด ทุกคนเงียบ ก็หมายความว่าท่านก็ตั้งใจจะไม่พูด เราก็เห็นว่าท่านไม่พูด เราก็จะไม่พูด แต่ก็พูดมากแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องอธิบายว่าไปเข้าโรงพยาบาลนี้ เข้าๆ ออกๆ เข้าๆ ออกๆ หนังสือพิมพ์ก็ลงวันนี้เข้าแต่งสีชมพู ออกมาแต่งสีฟ้า เหมือนตำหนิติเตียนว่าทำไมเปลี่ยน ก็เข้าๆ ออกๆ ก็ต้องเปลี่ยนบ้าง ถ้าเข้าๆ ออกๆ แล้วแต่งเครื่องแบบ มันก็น่าเบื่อ น่าเบื่อเขาก็...อย่างท่านนายกฯแต่งเครื่องแบบ แล้วท่านก็บอกว่าน่าเบื่อ เบื่อหน้าแล้ว ถ้าเบื่อหน้าก็ไล่ออกสิ ไล่เขา แต่ท่านนายกฯไม่ได้ยิน
เดี๋ยวหาว่าท่านนายกฯเดี๋ยวนี้แก่แล้ว เขาว่าแก่ ที่จริงหนุ่ม หนุ่มนิดเดียว ของเราหนุ่มแบบพรุ่งนี้อายุ 80 ไม่นึกเลยว่าจะถึงอายุ 80 อายุ 80 ใครจะว่าแก่ก็ไม่ว่า ใครตำหนิว่าแก่ไม่ว่า เพราะว่าแก่จริงๆ แต่คนที่อายุ 60 ไม่แก่ แต่ว่าท่านนายกฯก็น่าเบื่อ น่าเบื่อเพราะว่าเจอทีไรก็แต่งเครื่องแบบขาว ความจริงควรจะแต่งสีอื่นบ้าง ของเราวันนี้ไม่มีขาว สีเหลือง แล้วก็เนคไทด้วย สีชมพูก็มี เราก็แก่แล้วไม่อยากแต่งตัวให้น่าเบื่อ
วันนี้ก็เตรียมเสื้อคล้ายๆ ท่านองคมนตรี เสื้อเชิ้ตขาว ไม่ใช่ท่านองคมนตรี...ประธาน สีน้ำเงินแก่ เราก็แต่งสีเทา ที่จริงแต่งไม่น่าเบื่อ ยังมีเนคไทสีเหลือง ก็ให้เก๋หน่อย ยังดีไม่ได้ใส่สีชมพู แต่วันนั้นใส่สีชมพู โอ้โห...ก็ตื่นเต้น เวลาใส่สีชมพูแล้ว ก็ใส่สีเขียว สีอะไรก็ได้ สีแดงก็ได้ สีแดงนี่เป็นกาลกิณีของเรา คนที่ว่าเป็นกาลกิณีของเราไม่น่าจะใช่ ตั้งแต่แม่ท่านก็เกิดวันอาทิตย์ ท่านก็สีแดง พี่สาวก็เกิดวันอาทิตย์ พี่ชายก็เกิดวันอาทิตย์ ก็หมายความว่าสีแดง คนที่รับใช้ก็เกิดวันอาทิตย์ ยังดี ทองแดงนี่ดี ไม่ได้เกิดวันอาทิตย์ เขาเกิดวันเสาร์ เขาเป็นสีม่วง ทองแดงสีม่วง เราก็ไม่เดือดร้อน แต่สีม่วงน่ะดี วันก่อนนี้ใส่สีม่วง ก็เลยใส่ได้ทุกอย่าง ไม่เหมือนท่านนายกฯ ใส่เครื่องแบบขาวทุกวัน ทุกครั้ง มันน่าเบื่อ ก็จริง น่าเบื่อ แต่ว่าท่านเรียบร้อย แล้วก็แต่งชุดขาวท่านทำงานได้ดี ถ้าทำงานได้ดีก็ไม่น่าเบื่อ ท่านผู้หญิงสีเหลือง แต่เหลืองอ๋อย สีเหลืองนี้ความจริงต้องเป็นสีค่อนข้างจะเหลืองอ่อนมาก อย่างเมื่อวานนี้ใส่สีเหลือง สีเหลืองอ่อน นั่นเป็นสีเหลืองที่ถูกต้อง เพราะเป็นสีเหลืองที่สว่างของพระจันทร์
นี่เขาให้ มีกระต่ายอยู่ด้วย ก็เลยเป็นสีเหลืองที่ถูกต้อง แต่มาพูดบอกว่านายกฯแต่งขาว ก็ได้เหมือนกัน เพราะว่าวันจันทร์ก็เป็นสีขาว ฉะนั้นใครจะมาบอกว่าท่านนายกฯน่าเบื่อ จะบอกน่าเบื่อไม่ได้ ใส่สีขาวดีมาก สวยมาก ทำงานอะไรก็คล่องแคล่ว ไม่ใช่ทำงานไม่ดี ทำงานดี สีขาวก็หมายความว่าหมดจดดี
แล้วก็ตั้งแต่ครั้งแรกคนเขาตำหนิ เมื่อปีที่แล้ว ไปบอกว่านายกฯอายุมาก ก็เปรียบเทียบกับนายกฯเก่า นายกฯเก่าเขาเด็กกว่า แต่ว่าไม่เท่าไหร่ก็แก่ นายกฯกำลังดี 60 กว่าๆ ก็กำลังดี ไม่เหมือนเรา เราแก่เกินไป เราแก่ แล้วก็ประธานองคมนตรียิ้มๆ บอกว่าท่านแก่กว่า แต่ท่านก็แข็งแรง 80 กว่านี่ยังดูดี
พรุ่งนี้ข้าพเจ้าก็จะ 80 กว่า กำลังหนุ่ม กำลังแข็งแรง คนอื่นไม่แข็งแรง ยังไม่ 80 ต้อง 80 พี่สาวอายุ 84 ท่านค่อนข้างจะแก่ เมื่อวานเราไปเยี่ยม ที่จริงไม่ควรจะ...ควรจะมาพักที่สวนจิตรนี่ แต่ท่านไม่สบาย ไม่สบายอยู่มาก ก็ต้องไปให้กำลังใจท่าน วันนี้ก็ไปไม่ได้ เพราะว่ามีงาน พรุ่งนี้ก็ไปไม่ได้ มะรืนนี้ก็ไปไม่ได้ แต่ว่าต้องไปเยี่ยม ท่านไม่สบาย แต่ว่าดีอยู่ว่าประชาชนไปเยี่ยมอยู่มากมายที่โรงพยาบาล มีประชาชนไปเยี่ยมเต็มลาน ห้องชุมนุมนั่นเต็ม ก็เลยทำให้สบายใจว่ามีคนเอาใจใส่คนที่ไม่สบาย ให้กำลังใจ อันนี้ต้องชมคนไทยว่า คนไม่สบายก็ให้กำลังใจ คนไทยไม่สบายรู้ว่ามีคนเอาใจใส่ก็สบาย
อย่างที่ไปเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ตัวเลยสบาย เขาหาว่าเราจะแย่ ก็ดูแล คนเขาว่าว่าพิการที่สมอง สมองเรา เราก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไร ทำไปทำมาบอกว่าเป็นที่ลำไส้ เขาบอกว่าพิการ หรือป่วยที่ลำไส้ เขาก็หาใหญ่ ตามธรรมดาลำไส้ที่พิการเขาจะดูทางซ้าย แต่ทำไปทำมากลับดูว่าเป็นพิการทางขวา ทางขวาของเรา เขาไปดูทางซ้าย ทางซ้ายไม่มีอะไร เขาก็เคาะใหญ่ เคาะมัน ไม่เป็นไร แท้จริงเป็นทางขวา เขาก็บอกประหลาด มาพิการทางขวา เรานึกว่าพอเราเป็นคนประหลาด เวลาป่วยทางไหนก็มาป่วยทางขวา ก็แล้วไป
ทีหลังทำไปทำมาก็ดูแล้วไม่เป็นแล้ว เขาก็บอกว่าเป็นที่สมอง เป็นที่สมองไม่ใช่ของเรา เป็นที่สมองของหมอ เพราะว่าพิการ พิการที่สมองของหมอ แล้วไปเข้าเครื่อง ดังโป๊งๆๆๆ ไม่เป็นไร ไม่มีพิการ ก็เลยออกจากโรงพยาบาลดีกว่า ถ้าอยู่ในโรงพยาบาลจะพิการจริงๆ เพราะว่าโรงพยาบาลนี่แย่ ก็จะเปลี่ยนโรงพยาบาล เปลี่ยนไปโรงพยาบาลที่อยู่ฝั่งนี้ ไปอยู่ฝั่งโน้นจะเป็นบ้า แล้วก็เลยนึกไปดูว่าทำไมเป็นบ้า เป็นบ้าเพราะน้ำมันจะท่วม น้ำจะท่วม น้ำมันขึ้นเรื่อย ขึ้นไปขึ้นมาแล้วมาบอกว่าน้ำจะท่วม แต่น้ำไม่ท่วมเพราะมีโครงการที่พระประแดง
แต่พูดไปพูดมา เขาเอาเรือของกองทัพเรือที่เขาสร้าง มีเรือใหญ่ เขาบอกว่าให้ไปเรือนี้ ก็เอาเรือนั้นมาจอด เรือสวยด้วย ก็เลยร่ำลือกันใหญ่ว่าพรุ่งนี้จะเสด็จ เรายังไม่ไป เพราะว่ามีงาน มีงานตลอดปี ตลอดทั้งเดือน ก็เลยต้องปฏิเสธ ก็บอกว่าไม่ใช่พรุ่งนี้ มะรืนนี้สิไป บอกว่าจะไปเยี่ยมโครงการที่พระประแดง บอกว่ายังไม่ไป ไม่เชื่อ แต่ทำไปทำมาก็เชื่อ เรือไม่เอามาแล้ว ไม่งั้นเอาเรือมาจอดให้เราไป เราก็เลยบอกว่า เรือนี่ใช้น้ำมัน เปลืองน้ำมันเหมือนกัน แต่เราจะใช้ไบโอดีเซล เขาบอกว่าใช้ไม่ได้ ถ้าใช้ไม่ได้เราไม่ไป
เรือที่เป็นเรือแท็กซี่ เขาใช้ไบโอดีเซลได้ เดี๋ยวนี้กำลังพัฒนาไบโอดีเซล เพราะว่าใช้ดีเซลเปลือง แล้วก็ดีเซลจะหมดโลกแล้ว แต่ไบโอดีเซลแบบฝรั่ง 10% หมายถึงไบโอเพียง 10% เราไม่ยอม เราจะใช้ไบโอดีเซล 100% หมายความว่าดีเซลแบบไบโอ แบบพืช ใช้ 100% อย่างคราวก่อนนี้ไป แล้วก็นายกฯใช้ไบโอ 100% ไบโอใช้น้ำมันแบบแก๊สโซฮอล์ 100% ไม่ใช่ 10% อย่างที่เขาใช้ ขึ้นภูเขา ขึ้นตรงเขื่อน ขึ้นชันมันก็ไปได้ดี รถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แบบของเราก็ขึ้นได้ดี แต่ว่าราคาถูกกว่าดีเซล เดี๋ยวนี้ก็ใช้ดีเซลแบบแก๊สโซฮอล์ มาตอนนี้จะใช้ดีเซลแบบน้ำมันปาล์ม น้ำมันปาล์ม 100% ก็ใช้ได้ ไม่ต้องใช้ดีเซลสั่งมาจากเมืองแขก
ถ้าเราใช้ดีเซลจากเมืองแขกอีกหน่อยก็หมด อีกหน่อยหมดแล้วก็...เดี๋ยวนี้เขาก็ไม่ใช้ แต่ว่าเก็บเอาไว้สำหรับมาขายให้เรา ก็ต้องเสียแพงๆ เราจะใช้ไบโอดีเซลแบบน้ำมันปาล์มที่เราปลูกเอง เราปลูกเองอาจจะมีน้อยหน่อย ก็ใช้น้อยหน่อย อย่าไปฟุ่มเฟือยใช้มากเกินไป น้ำมันใช้น้อยๆ หน่อย แต่เราจะมีใช้ ปลูกต้นปาล์ม แล้วมาทำเชื้อเพลิง ต้นปาล์มมาทอดปลา ทอดอะไรต่างๆ ได้ แล้วก็มาใส่ในรถดีเซลได้ ใช้แล้วก็ใช้ได้ มันวิ่งช้าหน่อย วิ่งช้าก็ไม่เป็นไร เราอย่าเร่งรีบ ชีวิตอย่าให้เร่งรีบมากเกินไป แต่ราคาก็ถูก
ฉะนั้นถือหลักว่า ใช้ของราคาไม่แพงเกินไป อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับไฮสปีดดีเซล แต่ก็ไปได้ ก็ขอให้คิดว่าทำอะไรต้องประหยัด คนเขาว่าประหยัดๆ ดีกว่าไม่มีเลย ถ้าไม่มีดีเซล เราก็ต้องไปซื้ออยู่ดี เราไปซื้อก็มี 2 แห่งที่เขาขาย ก็คือของแขกกับของฝรั่ง ของฝรั่งก็คืออเมริกัน ของอเมริกันเขาไม่ค่อยขาย เขาบอกเขาไม่มี แท้จริงเขามีเยอะ แต่ว่าเขาไม่ขาย เพราะว่าเขาเก็บเอาไว้มาขายให้เราแพงๆ
น้ำมันจะเป็นดีเซลหรือน้ำมันเบนซิน มันราคาไม่ถึงที่ที่เขาขายกันอยู่นี้ จนกระทั่งเขาแย่ เพราะเขาขายแพงเหลือเกิน เลยขายไม่ได้ ขายไม่ออก บางทีก็ต้องลดราคา ฉะนั้นเราซื้อน้ำมันราคาถูกของเราเอง ถูกกว่าของฝรั่งของแขก แล้วก็อาจจะคุณภาพหรือกำลังน้อยกว่าดีเซลที่ขุดจากดิน แต่ที่จริงที่ขุดจากดินนั้น ราคาไม่น่าจะแพงอย่างนั้น แต่เราก็โลภอยากได้น้ำมันที่มีกำลัง ก็เลยยอมเสียเงิน เสียเงินซึ่งเราควรจะเอาไปใช้อย่างอื่น
การที่เราเสียทั้งฝรั่งทั้งแขก เสียเงินให้เขา ฝรั่งกับแขกเขาได้เงินเยอะๆ ก็ไปซื้ออาวุธสำหรับสู้รบกันเอง อิรักเขาก็มีน้ำมันมาก แต่ว่าเขาไม่ขาย เขาไม่ขายเพราะเขาขายไม่ได้ ไม่มีโรงที่จะกลั่น ก็ขายให้เรา แล้วเราเอามากลั่น แล้วเราก็ขายให้แขก แต่เขาซื้อในราคาถูก เขาขายในราคาแพง นี่มันไม่ค่อยถูกหลักของการค้า การค้าที่รัฐบาลมีผู้เชี่ยวชาญการค้า ต้องขายให้ราคาแพง จะได้กำไร แล้วซื้อให้ราคาถูก แต่เราทำตรงข้าม เราซื้อราคาแพง เราขายราคาถูก อย่างนี้เราแย่ เพราะเราไม่มีทางที่จะขายอะไรราคาแพง เพราะเขาก็บอกโอ๊...เขาขาดทุน
เวลาไปที่ร้าน...ผมขาดทุน เสียงภาษาแขก เสียงภาษาจีน ภาษาฝรั่ง ถ้าเราขายราคาแพง โอ๊...มันแพงเกินไป เขาบอกซื้อไม่ได้ เวลาเราจะซื้อเขา เขาบอกขายไม่ได้ เขาขาดทุน
ที่จริงคนไทยเรานี่ใจดีเกินไป เรายอมขาดทุนเรื่อย ความจริงถ้าเราขายอะไรไม่ให้ขาดทุน ซื้ออะไรไม่ให้ขาดทุน เรารวย เมืองไทยนี่รวย แต่ว่าเราใจดีเกินไป ต่างประเทศเขาบอกเขาขาดทุน เราก็ลงท้ายก็เชื่อเขา ไม่ดี เราขาดทุนไม่ได้ ไม่รู้รัฐบาลชุดนี้จะซื้ออะไรขายอะไรให้ขาดทุนหรือเปล่า แต่ว่าแต่ก่อนนี้ขาดทุน ฉะนั้นเราก็จะต้องพยายามที่จะทำอะไรที่เราไม่ขาดทุน ต้องทำเอง โดยที่รัฐบาลสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง
พอเพียงหมายความว่าเราไม่ทุกข์ว่าเขาจะว่าว่า เราเอากำไรมากเกินไป เราไม่เอากำไรมาก เราไม่ทำให้ขาดทุน เราไม่ทำให้มีกำไรมากเกินไป เพราะเราขายกันเอง ก็กันเอง ก็ไม่ต้องขายแพง กันเองไม่ต้องซื้อแพง
ฉะนั้นเศรษฐกิจพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่าขาด ทุน ขาดทุนก็ขาดทุน แต่ว่าขาดทุนกำไร ของเราเอง กันเอง นี่พูดถึงเศรษฐกิจพอเพียงมาหลายปีแล้ว ก็ไม่ค่อยเข้าใจกัน เพิ่งมาเข้าใจกันสักเดือนหนึ่งสองเดือนนี้ ฉะนั้นขอไปศึกษาต่อเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พอเพียงคืออะไร ไม่ใช่เพียงพอ ไม่ได้หมายความว่าให้ทำกำไรเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ทำกำไรก็ทำ ถ้าเราทำกำไรได้ดีมันก็ดี แต่ว่าขอให้มันพอเพียง คือถ้าเอากำไรหน้าเลือดมากเกินไปมันไม่ใช่พอเพียง
นักเศรษฐกิจก็ว่าพระเจ้าอยู่หัวนี่คิดอะไรแปลกๆ ก็แปลกสิ ขายไม่ให้ได้กำไร ซื้ออะไรไม่ขาดทุน เป็นเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ต้องหน้าเลือด ไม่ใช่มีกำไรมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ให้พอเพียง
ไม่ใช่เรื่องของการค้าอย่างเดียว เป็นเรื่องของการพอเหมาะพอดี เราทำพอเหมาะพอดีก็ดี พูดไปพูดมาเรื่อง เดี๋ยวก็จะโกรธเอา เราสร้างเรือ สร้างเรือให้พอเพียง เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ไอ้นั่นมันไม่พอเพียง มันเล็กเกินไป ยังเล็กเกินไป ควรจะใหญ่กว่าหน่อย แต่ถ้าใหญ่เกินไปไม่พอเพียง ถ้าเล็กเกินไปก็ไม่พอเพียง
เรือที่เขาจะทำ เรือดำน้ำ ดำลงไป แล้วลงไป ไปปักเลนเลย พูดเดี๋ยวเขาโกรธเอา เรือแล่นๆ ไป ลงไป ดำน้ำ ไม่พอ มาเครื่องบิน เห็นแจ๋วเลย ต้องไปจมเลนถึงจะไม่เห็น แล่นๆ ไป ปักเลน ถ้าอยากไปที่ที่ลึก ก็ไปอยู่นอกเส้น ก็รู้สึกว้าเหว่ กลายเป็นเรือดูแลไกลฝั่งนี่ดีกว่า แต่ลำที่เราทำ สร้างก็ใช้ได้ดีแล้ว แต่ที่ควรจะสร้างต่อไปให้ใหญ่กว่านี้หน่อย แต่ตอนนี้คงไม่มีเงินแล้ว ต้องใหญ่กว่าหน่อย เพราะว่าถ้าไม่ใหญ่ จะไม่สามารถปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง
นี่พูดราชการลับ เรือนี่ควรจะซื้อเรือของรัสเซีย เรือที่เขาสร้างใหม่ ใหญ่กว่าที่เราสร้างไม่มาก นั่นจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ถ้าซื้อของรัสเซีย ราคาไม่ถึงครึ่งของเยอรมนี ของอเมริกัน อเมริกันเขาโกรธแน่เราไปซื้อของรัสเซีย ลองไปดู ลองไปดูเรือของรัสเซีย แต่เขาอาจจะไม่ขายก็ได้ แต่ทำไปทำมาเขาอาจจะขายราคาแพง แต่ความจริงเขาควรจะขายเรา ไปขอเขาดู ของรัสเซียดีจริงๆ แต่รู้ไม่ได้ เขาอาจจะขายเราลำโปเกๆ ก็ได้ นี่พูดความลับราชการ
ในเมืองไทยนี่ ความลับราชการเผยเรื่อย เผยความลับราชการก็ไม่รู้...นะทองแดง ถ้าเผยความลับราชการอาจจะดีก็ได้ เพราะว่าความลับราชการก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดี ยังไงก็จะทำอะไรก็มาเผยเสียหมดก็ได้ กองทัพเรือก็มีเรือดำน้ำ กองทัพอากาศก็มีเรืออะไร สมัยใหม่ แต่จะมาซื้อลำนิดเดียว แต่ราคาแพงเหมือนลำใหญ่ แต่ตอนนั้นจะซื้อลำใหญ่ ราคานิดเดียวเหมือนลำเล็ก ก่อนนี้จะซื้อเครื่องบินลำใหญ่ในราคาลำเล็ก ก็ชอบกลอยู่นะ ก็รัสเซียเหมือนกัน ทำไปทำมาจะซื้อเรือบินรัสเซีย เราไม่เห็นด้วย แต่ถ้าจะซื้อเรือน้ำรัสเซียก็น่าใช้
กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็ได้ชนกัน ซื้อเครื่องบินอย่าซื้อเครื่องบินรัสเซีย ซื้อเรือรัสเซีย ไม่งั้นเดี๋ยวชนกัน เรือน้ำของรัสเซีย เข้าใจว่าดี เรือบินของรัสเซียเข้าใจว่าใช้ไม่ได้
นานๆ ทีได้พบกันก็ต้องปรารภว่าอะไรควรจะทำ ไม่ควรจะทำ เรือบินก็ดูตกลงกันแล้ว แต่ถึงเวลาได้เรือบินมา อาจจะล้าสมัยแล้ว 2 ปีกว่าจะได้ 2 ปีคงล้าสมัยแล้ว เรือบินไม่ใช่รัสเซีย เรือบินของสวีเดนก็ดูดีเพราะลำมันไม่ใหญ่ กองทัพบกก็จะไปซื้อรถล้าสมัย ล้าสมัยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าคนไทยชอบซื้ออะไรล้าสมัย เอามาเล่นก็ดีเหมือนกัน รถถังล้าสมัย แต่เมืองไทยนี่ใช้รถถังทันสมัยมันใช้ไม่ได้ มันจมเลน แล้วก็พอจมเลนปั๊บมันก็หมดสมัย ลำบาก...
เดี๋ยวนี้จะซื้อ รัฐบาลก็หมดสมัย อีกหน่อยก็หมดสมัย อีกไม่กี่เดือนก็หมดสมัย เอาไว้ให้รัฐบาลใหม่เขาซื้อรถถังรถอะไร แต่อย่างนี้มาแนะนำการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์กลางที่ประชุมนี้ ที่ประชุมนี้ก็ใหญ่กว่าสภา คนมากกว่า มีคนตั้ง 20,000 คน ลงท้ายเขาฟังเขางง ไม่รู้ว่าพูดเรื่องอะไร
แต่อย่างไรก็ตาม ที่พูดอย่างนี้ให้เห็นว่าเราต้องคิดดีๆ ว่าจะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จะซื้ออย่างไร รู้สึกท่านก็คงงงหมดแล้ว ว่าไม่ได้พูดถึงพลเรือนว่าจะซื้ออะไร มีแต่จะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ก็ต้องซื้อ ต้องมี เพราะว่าเดี๋ยวนี้น้ำท่วมก็ใช้กองทัพ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ไปช่วยชาวบ้าน ถ้าพวกพลเรือนไม่มีอาวุธที่จะไปช่วยพวกที่เดือดร้อน พวกที่ต้องการใช้ เรียกว่าอาวุธสำหรับช่วยประชาชน ยังไงก็พลเรือนก็ต้องมีอาวุธเหมือนกัน
แต่ก่อนนี้พูดถึงตำรวจ เป็นกองทัพ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่เป็นแล้ว แต่ว่าต้องใช้อาวุธสำหรับช่วยชาวบ้าน คงต้องเลิกพูด เพราะว่าถ้าพูดมากเดี๋ยวท่านจะงงว่าทำไมใช้เงินเยอะแยะ เดี๋ยวนี้เรารวยแล้ว เงินบาทมีราคาสูง สูงเกินไป ก็ใช้สิ เงินบาทสูงเกินไป ก็ใช้ ใช้ในที่ที่ควร เราเดี๋ยวนี้ไม่รู้เรื่อง อาจจะเป็นเหมือนที่หมอเขาว่าสมองเราฝ่อ แต่เรารู้สึกสมองเราไม่ฝ่อ แต่เขาว่าเราฝ่อ
ฟังว่ารัฐบาลหรือเมืองไทยประชาชนมีเงินเยอะ มีเงินเกิน ก็ใช้สิ เขาหาว่าเราเศรษฐกิจพอเพียง คำว่าพอเพียง ถ้ามีเงินก็ต้องใช้ ไม่ใช่ขี้เหนียว ถ้ามีเงิน ไม่ต้องขี้เหนียว ซื้อไปเถิด อะไรก็ตาม เครื่องบิน เรือ รถถัง...ซื้อ...ถ้ามีเงินเยอะ ก็ถือว่าสนับสนุนให้จ่าย เดี๋ยวนี้ในหนังสือพิมพ์เห็นว่าเขาสนับสนุนให้จ่าย คือว่าถ้ามีก็จ่าย แต่ถ้าไม่มีก็ระงับหน่อย มันเป็นอย่างนี้ คนเราก็พูดเกินไปเสมอ
ยังไงตอนนี้ที่ท่านมาให้พร อวยพร ก็นับว่าดีมาก ทำให้มีกำลังใจ แต่ไม่ทราบว่าคิดถูกหรือไม่ถูก เพราะว่าท่านไม่ได้บอกอะไร เรามีเงินเยอะใช่ไหม ดูท่าทางว่ามีเงินเยอะ ถ้ามีเงินเยอะก็จ่าย ใช้เงินให้สมกับที่เรามีเงิน ถ้าไม่มีเงิน เราจ่าย จะอันตราย แต่ถ้ามีเงินแล้วไม่จ่าย ก็อันตรายเหมือนกัน เพราะว่าคนที่มีเงินแล้วไม่จ่าย หมายความว่าจะเก็บไว้ทำกำไร บางคนมีเงินแล้วไม่จ่าย ให้คนอื่นจ่าย ก็หมายความว่าคนที่ไม่มีเงิน กลับใช้เงินเพื่อที่จะได้กำไร คนที่มีเงินยิ่งอยากได้กำไร...ฉะนั้นคนที่มีเงินก็จ่าย แล้วก็ช่วยคนที่ไม่มีเงิน
นี่รู้สึกตัวว่าพูดอะไรที่ถูกต้อง คนที่มีเงินต้องจ่าย คนที่ไม่มีเงินต้องไม่จ่าย แต่คนคิดตรงข้าม คนที่ไม่มีเงินต้องจ่าย อย่างสมัยนี้ คนไม่มีเงินให้ใช้เงิน ใช้เงินมากๆ เพราะว่าถ้าคนไม่มีเงินใช้เงินมากๆ ก็ต้องไปกู้ คนที่มีเงินมากๆ ก็ได้กำไร ไม่พอเพียง
ยังไงก็ขอให้ที่ท่านมานี้ได้ผลไปคิด ให้ไปคิดว่าควรจะทำอะไร แล้วท่านต้องมีความคิดดีอยู่แล้ว อย่าไปมีปมด้อยว่าไม่มีความคิด ซื้อเรือ ซื้อเครื่องบิน ซื้อรถถัง ก็ไปซื้อเถิด เรือสร้างเอง ให้เขาสร้าง เรืออันไหนที่สร้างไม่ได้ ไปสร้างที่อื่น เราก็ไปสร้างที่ที่เขาแล่นๆ ไปมันคลอนหมด ไปซื้อเรือที่แล่นๆ จะไปซื้อกับเขาไม่ได้ เพราะมันคลอนหมด สร้างเองดีกว่า นี่เขางงว่าทำไมยุให้สร้างเรือ สร้างเรือเองให้คุณภาพดี ไม่ให้คลอน แต่ถ้ามีเงินไปสร้างเอง
คงพูดมากเกินไป ทองแดงเขาเมื่อย พูดอะไรก็เห็นด้วยนะ ยังไม่ไป ขอบใจที่ท่านมา ขอให้ท่านสามารถที่จะมีจิตใจที่เข้มแข็ง แข็งแรง เพื่อที่จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับส่วนรวม ก็จะเป็นประโยชน์แก่ท่านเอง ขอขอบใจอีกทีที่มา
http://www.9digits.c...-news&Itemid=35คงอย่างนี้ พวกเสื้อแดงเลยยึดสีแดงเป็นชองพวกมัน
Edited by เกรียนประจัญบาน, 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:48.