Jump to content


Photo
- - - - -

ขอถกปัญหาสีเสื้อว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไร


  • Please log in to reply
31 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 อาตี๋

อาตี๋

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,267 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:11

ผมได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนมันเปรยเรื่องปัญหาสีเสื้อว่าเกิดจากปัญหา ๒ กลุ่มมีอคติกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้ตอบอะไรมากนัก แต่เพื่อนผมมันไม่ค่อยรู้เรื่องการเมืองของไทยจริงๆเท่าไหร่ (มันก็เหมือนคนกลางกลุ่มหนึ่งที่ไม่ค่อยสนใจการเมืองไทย ขนาดเลือกตั้งมันยังไม่ค่อยสนใจเลย) แต่มันเป็นนักวิจัยด้านมนุษยวิทยาและชอบวิจารณ์โครงสร้างสังคมในรูปแบบต่างๆ แม้แต่เรื่องการเมืองในรูปแบบต่างๆ

แต่ตามความเห็นผม ผมคิดว่าปัญหาสีเสื้อแต่เดิมมันไม่ได้เกิดจากการมีอคติกัน (อคติเกิดจากความรู้สึกที่ไม่ชอบ รังเกียจ หรือคิดว่าตนดีกว่าคนอื่น โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลประกอบ) ไม่ได้เกิดจากปัญหาความแตกต่างทางความคิดทางการเมือง (ซึ่งการมีความแตกต่างทางความคิดก็เป็นส่วนหนึ่งของปชต.ด้วยที่ต้องมี) แต่เกิดจากปัญหาการคอรัปชั่น และความผิดทางกฎหมายของคนกลุ่มหนึ่ง(ทักษิณ) ที่ถูกตัดสินโดยกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ในสังคมไม่น่าจะก่อให้เกิดอคติจากคนทั้ง ๒ กลุ่มได้

เพราะคนกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่าทักษิณผิด และศาลตัดสินว่าผิดจริง แต่ยังไม่ถูกลงโทษและไม่คิดจะรับโทษหรือสำนึก กลับคิดพยายามจะฟอกตัวอีกต่างหาก ก็ไม่น่าจะถือว่าเกิดอคติเพราะมีเหตุผลประกอบว่าเกลียดเพราะเป็นคนทำผิดกฎหมาย สวนอีกฝ่ายบอกว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่ยังหาหลักฐานมายืยันไม่ได้ว่าทักษิณไม่ผิด แถมยังแถตีความกฎหมายอีกต่างหาก ซึ่งอันนี้ย่อมเกิดอคติแน่ๆเพราะเกิดจากความเชื่อว่าอีกฝ่ายเลว ชอบกลั่นแกล้ง

ผมจึงมาถามถึงความเห็นของสมาชิกในเว็ปบอร์ดนี้ว่าเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร หรือมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพราะผมจะถามเพื่อความแน่ใจเพื่อตอบเพื่อนคนนี้ได้หนักแน่นเพียงพอ เพราะอย่างที่ว่าไปว่าเพื่อนคนนี้มันเป็นนักวิจัย เวลาพูดคุยแล้วเกิดโต้แย้งขึ้นมามันจะถามยังกับเป็นเวทีเสวนาทางวิชาการทันที(แม้จะเกิดการโต้แย้ในวงเหล้าก็ตาม)

และผมว่ามันอาจจะมีประโยชน์ต่อคนกลาง(ไม่ใช่พวกคนกลางหลายๆคนในบอร์ดนี้นะ) ที่เป็นพวกเบื่อการเมือง หรือไม่สนใจการเมืองไทย โดยเฉพาะพวกที่เห็นว่าทั้งสองฝ่ายเลวทั้งคู่จะได้เข้าใจว่า ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความคิดที่แตกต่างทางการเมืองแต่อย่างใด แต่เกิดจากฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับผิดทางกฎหมาย (ซึ่งแปลว่าอีกฝ่ายหึ่งเลวและผิดแน่นอน) และไม่คิดจะต่อสู้ แก้ต่างทางกฎหมายในกระบวนการยุติธรรม แต่กลับใช้วิธีดิสเครดิต กล่าวร้ายอีกฝ่าย และปลุกระดมผู้อื่นให้เกิดความเกลียดชังอีกฝ่าย เพื่อเป็นกำลังหนุนให้กับตนอีกด้วย

ปล.ผมรู้สึกว่าปัญหาสีเสื้อจริงๆมันเกิดจากปัญหาแค่เรื่องเดียว แต่ทุกวันนี้มันถูกคนกลุ่มเดียวเบี่ยงประเด็นให้มีหลายปัญหาไปต่างๆนานา เช่น ปัญหาชนชั้นบ้าง ปัญหาแนวความคิดทางการเมืองบ้าง ปัญหาความไม่เท่าเทียมบ้าง ฯลฯ ซึ่งปัญหาเหล่านี้มันตอบยากที่จะบอกว่าใครถูกหรือผิด (จากปัญหาผิดถูกทางกฎหมายซึ่งเป็นปัญหาที่แน่นอนกลายเป็นปัญหาทางความคิด อุดมการณ์ซึ่งไม่มีผิดมถูกที่แน่นอน) และมันทำให้หลายคนไม่แน่ใจว่าฝ่ายไหนผิดหรือถูกกันแน่ (ซึ่งผมว่า เพื่อนผมก็น่าจะคิดว่าปัญหาสีเสื้อเกิดจากปัญหาทางแนวความคิดทางการเมืองที่แตกต่าง จึงเกิดอคติ และไม่ยอมกันขึ้น)

ผมอาจจะเขียนยืดเยื้อหรือไม่เข้าใจบ้างก็ถามได้นะครับ เพราะผมไม่ค่อยถนัดเขียนข้อความจากความคิดของตนสักเท่าไหร่

*แก้ไขเพิ่มเตมเพื่อความเข้าใจ

Edited by อาตี๋, 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:41.

สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น


ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ


#2 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:40

ตอนแรกๆ พวกเสื้อแดงก็ใส่เสื้อสีเหลืองครับ แต่ตอนหลังก็มาเปลี่ยนเป็นสีแดง
ความจริงคำตอบมันง่ายๆ ก็แค่พวกรักทักษิณ กับเกลียดทักษิณ
อุดมการณ์ไม่เกี่ยวเลย หลังยุคคอมฯ แล้วประเทศไทยก็ไม่เคยมีความขัดแย้งด้านอุดมการณ์อีก
ถามว่าเสื้อเหลืองไม่ชอบประชาธิปไตยหรือ ไม่ชอบความยุติธรรมหรือ
ประชาธิปไตย ความยุติธรรม ใครก็ชอบทั้งนั้น
แต่การกระทำมันเป็นสิ่งเดียวกับที่เอ่ยอ้างหรือเปล่านั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง -_-
" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#3 plunk

plunk

    สลิปงินเดือนอยู่ไหนอ่ะ ไอ้คางครูด?

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,862 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:56

เสี้ยมให้แตกแยกมากๆ แบ่งออกเป็นฝ่ายๆ ง่ายต่อการชี้นำ
ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ พรรคไหนเห่าไว้ตอนหาเสียงวะ?และกระทู้ในตำนานของ คนขี้โกหก http://webboard.seri...้สลิปเงินเดือน/

#4 aopmeag

aopmeag

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 12 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:56

เริ่มจากสนธิ ลิ้ม กับ พวกชอบ ปชป ใช้เสื้อเหลืองเป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงข้าม
เสื้อเหลืองไม่ชอบประชาธิปไตย เพราะ เลือกตั้งทีไรแพ้ตลอด
ถึงได้สมยอมให้เกิดรัฐประหาร
ยกตัวอย่างอย่างกรณีม๊อบเสธอ้าย ที่ตอนแรกเปิดตัวเลยจะแช่แข็งประเทศไทย จะไม่ให้มีเลือกตั้ง 5 ปี
พอรู้ตัวว่าคนไม่ชอบ ก็แถไปว่า แช่แข็งนักการเมือง (เฉพาะฝ่ายตรงข้าม)
และถึงขนาดเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติอีกรอบ พวกกองเชียร์ปชป ก็ไม่เคยคิดห้ามปราม
เพราะเขารู้ว่า ตราบใดที่ยังให้ประชาชนเลือกตั้งและฝ่ายตรงข้ามลงแข่ง เขาจะแพ้

#5 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:57

ยังอ่านไม่จบ แต่ขอรีบมาโพสต์ เพราะเข้าใจผิด


คำว่า อคติ แปลว่า ไม่เดิน, ไม่ไป หมายความว่า ไม่ควรเดิน ไม่ควรไป หรือไม่ควรประพฤติ อคติ ศัพท์นี้ตรงกับภาษาไทยว่า ความลำเอียง ความไม่เที่ยงธรรม, ความไม่ยุติธรรม
(ฐานะอันไม่พึงถึง, ทางความประพฤติที่ผิด, ความไม่เที่ยงธรรม, ความลำเอียง )
- wrong course of behavior; prejudice)
มีอยู่ 4 อย่างคือ


1. ฉันทาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะรัก (prejudice caused by love or desire; partiality)
2. โทสาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะเกลียด (prejudice caused by hatred or enmity)
3. โมหาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะเขลาหรือเพราะความโง่หลงงมงาย ไม่พิจารณาให้ถ่องแท้ว่าอย่างไรถูกอย่างไรผิดอย่างไรควร อย่างไรไม่ควร (prejudice caused by delusion or stupidity)
4. ภยาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะกลัวหรือเพราะเกรงใจ (prejudice caused by fear)


ความลำเอียงทั้ง 4 ประการนี้ เป็นอันตรายอย่างมาก ทุกยุคทุกสมัยที่บุคคลที่เป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการปกครองบังคับบัญชาบุคคลอื่นด้วยแล้ว มีความลำเอียง (อคติ) อยู่เพียงข้อใดข้อหนึ่งเท่านั้น ก็จะทำให้สูญเสียความยุติธรรมขาดความอบอุ่น ขาดความมั่นใจของคนที่เกี่ยวข้องเป็นผู้น้อย เป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของบุคคลเหล่านั้น แต่ความลำเอียง (อคติ) ทั้ง 4 อย่างนี้ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั่น แม้แต่ผู้น้อยหรือเด็กๆ ก็อาจจะเกิดความลำเอียง (อคติ) ขึ้นมาได้เหมือนกัน เหตุนั้นพระองค์จึงตรัสเพื่อลดอคติและสร้างเสริมความเมตตาในกันและกัน ร่มกันเร่งปฏิบัติสรรพกิจการงานให้ประสานเกื้อกูลกัน เพื่อทุกคนจะได้สามารถนำพาประเทศชาติให้ก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง และบรรลุถึงความวัฒนาผาสุกได้โดยสวัสดิ์ดี



http://www.intaram.o...759434&Ntype=19


Edited by eAT, 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:57.


#6 MMMP

MMMP

    ราชาโพย

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,874 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:12

ผมกลับมองว่า
ปัญหานี้เกิดจากคนแค่สองคนที่แบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว
1คน โยงใยไปถึงสถาบัน เพื่ออ้างความชอบธรรมในการขับไล่ฝ่ายตรงข้าม
ทั้งๆที่มีเรื่องมากมายที่สามารถสร้างความชอบธรรมได้ แต่มันจุดติดช้า และหาที่รวมได้ยาก
สีนี้จึงถูกนำมาโยงใยกับสถาบัน จนฝ่ายตรงข้ามแยกแยะไม่ออก
ระหว่างสีเสื้อ กับจิตวิญญาณ์คนไทย
อีกสีนึง เกิดจาก การพยายามรักษาผลประโยชน์ของคนกลุ่มนึงที่ไม่เน้นความชอบธรรมในการเรียกร้อง
สร้างเรื่อง ยุยุง ให้คนที่แอนตี้มาเข้าร่วม เป็นการร่วมกลุ่มคนเข้ามา
ซึ่งสองฝ่ายที่เกิดจากรัก และจากไม่รัก
ย่อมไม่มีวันคืนดีกันได้ง่ายๆ มันจึงเป็นเรื่องที่หยั่งรากลึกลงไป
ถ้าตัดสีเสื้อออกจากการเมือง จะเห็นได้ชัดว่า มีแค่กลุ่มอยู่สองกลุ่มที่อิงสีเสื้อ
คือรักกับไม่รัก เพราะต่างฝ่ายต่างผลักไสอีกฝ่ายหรือคนกลางๆไปอยู่อีกฝ่ายเสมอ
ปัญหาสีเสื้อจะไม่จางหายไปเด็ดขาด แม้ตระกูลชินจะหายไปจากวงการเมือง
แม้สนธิจะหายไปจากสังคมไทย เพราะเรื่องนี้ได้ถูกจุดติดขึ้นมาแล้ว
ทำได้เพียงมองมันแบบมุมมองของศาสนา คือต่างคนต่างนับถือ
อยากให้เค้าเปลี่ยนศาสนา ก็ต้องชักจูงและชี้นำ
ประเด็นตอนนี้สีเสื้อไม่ใช่การเมืองอีกต่อไปแล้วครับ
มันคือความเห็นต่างของคนรักและไม่รัก ที่ไม่มีวันลงรอยกันได้แน่นอน
นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต กษัตริย์แนะเคล็ดวิชานักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราชห่วงประชา นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรค์ธรรมนักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ นักการเมืองยุให้รำฯ ในหลวงย้ำให้ทำดี

#7 Et tu Brute?

Et tu Brute?

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,529 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:15

คนที่แบ่งแยกประชาชนและทำลายกระบวนการยุติธรรมคือทักสินครับ
ถ้ายังจำกันได้ทักสินเป็นคนเริ่มเอาประชาชนมาอ้าง เพื่อให้ตัวเองอยู่เหนือกฎกติกาตั้งแต่คดีซุกหุ้น 1

หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ใช้วิธีเดียวกันเพื่อรักษาอำนาจของคัวเอง ทำให้ประชาธิปไตยเสื่อมทรามลงไป
เพราะปกครองด้วยกฎหมู่แปะป้ายประชาธิปไตย ขาดนิติรัฐและธรรมมาภิบาล
สภาพสังคมแบบนี้มีแต่จะนับถอยหลังสู่ความล่มสลาย แตกเป็นเสี่ยงๆ

It's us against the world


#8 alberteno

alberteno

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 285 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:20

แรกๆ มันมีสีเดียวครับ ปัญหาการแบ่งแยกมันบานปลายเพราะมีสีที่สองเข้ามา แล้วก็มาบอกว่าไอ้คนที่ไม่ใช่สีเค้าอยู่อีกสี ต้องให้บอกไม๊ว่าสีไหน

#9 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:44

คิดว่าแรกเลยมีสีเหลืองสีเดียว แล้วทักษินก็สร้างแดงขึ้นมาสนับสนุนตัวเอง
ต่อมาเหลืองก็แยกออกเป็นฟ้า ชมพูและหลากสี เพราะความคิดเห็นบางอย่างไม่ตรงกัน
นี่เป็นการแยกสีชัดมากๆแล้วนะคะ
พอดีในเหลือง ฟ้า ชมพู และหลากสี เนี่ย เกิดมีปัญหา
อะไรคือปัญหาแท้ๆ
ใครจะบอกได้ชัดกว่านี้มั่งคะ

#10 MuuSang

MuuSang

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,604 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:46

พระราชดำรัสในหลวงวันที่ 4 ธันวาคม 2550

วันพุธที่ 05 ธันวาคม 2007 เวลา 15:03 น.
เมื่อเวลา 16.22 น.วานนี้ (4 ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะองคมนตรีและคู่สมรส นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และคณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2550
โอกาสนี้ ทรงมีพระราชดำรัสแก่คณะผู้เข้าเฝ้าฯ ความว่า ขอขอบใจนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวคำอวยพร และขอบใจท่านทั้งหลายที่ได้มาเยี่ยมและมาอวยพร ทำให้มีกำลังใจ
ความจริงการที่ท่านมานี้ เป็นการให้กำลังใจ ที่บอกว่าดูแข็งแรง ดูมีอนามัยที่ดี ความจริงไม่ใช่ เป็นความดีของเราที่ตั้งใจที่จะให้แข็งแรงเพื่อที่จะต้อนรับท่านได้ ถ้าไม่ได้ตั้งใจที่จะให้แข็งแรงที่จะมาต้อนรับท่าน ก็จะต้อนรับท่านไม่ได้ เพราะว่าเดินก็เดินขาล้ำไปข้างหน้าข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งไปข้างหลัง ไม่ค่อยยอมสามัคคี ต้องสามัคคี
แล้วก็ไปพูดเมื่อวานซืนนี้ ทหารก็ตาม พลเรือนก็ตามต้องสามัคคี เหมือนขาของเราที่จะต้องเดินสามัคคีกัน หมายความว่าก้าวไปข้างหน้า แล้วก็มีข้างหนึ่งยันข้างหลัง และเมื่อยันข้างหลังเรียบร้อยแล้ว ก็ก้าวไปข้างหน้าอีกข้าง อย่างนี้ก็สามารถเดินได้และไม่หกล้ม ซึ่งถ้าไม่สามัคคีก็บอกแล้วว่าประเทศจะประสบความหายนะ ไม่ได้ใช้คำว่าหายนะแต่คล้ายๆ กัน ว่าถ้าไม่สามัคคีกัน ไม่ปรองดองกัน ประเทศชาติล้ม
ถ้าล้มแล้วผลของการล้มนั้นมีหลายอย่าง ถ้าทางกายก็ร่างกายกระดูกหัก และต้องเข้ารักษา บางทีรักษานานๆ ไม่มีสิ้นสุด ถ้าไม่ระวัง ประเทศชาติก็ล่ม เมื่อล่มเราจะไปอยู่ที่ไหน ล่มก็หมายถึงว่าลงไป จม ล่มจม ถ้าเราไม่ระวัง ประเทศชาติล่มจม ก็หมายความว่าล่มลงไปในทะเล เพราะว่าเมืองไทยนี้ติดทะเล ถ้าล่มไปล่มมาก็ลงทะเล
สมัยนี้เขาก็ขู่กันว่าน้ำทะเลจะขึ้น เพราะว่าอากาศมันร้อน แต่ทำไปทำมาก็ไม่ได้ร้อนจริง ตั้งแต่ต้นธันวานี้ คนบ่นว่าอากาศเย็น อากาศหนาว เราไม่รู้จะเชื่อใครว่าตอนนี้จะหนาวหรือจะร้อน แต่ว่าคำว่าร้อน ร้อนจริงๆ คือเดือดร้อน เป็นเดือดร้อนมากกว่า ทุกคนที่มานั่งอยู่ที่นี่ก็จะเดือดร้อน ภาษาไทยใช้คำว่าเดือดร้อน ร้อนแล้วมันก็เดือด น้ำเดือดมันร้อน อากาศร้อน ก็อากาศทำให้ร่างกายเราไม่สบาย ถ้าไม่สบายแล้ว อยู่ไม่ค่อยได้
ที่อากาศร้อนก็เพราะว่าอากาศมันเจอความร้อนของ พระอาทิตย์ ซึ่งเมืองไทยก็เคราะห์ดีอยู่เหมือนกันว่าอากาศร้อน ไม่ได้เย็นเหมือนอเมริกา เดี๋ยวนี้ที่อเมริกากำลังเดือดร้อนเพราะอากาศเย็น อากาศหิมะตก ซึ่งตามปกติไม่น่าจะตกอย่างนี้ แต่ว่าอเมริกากำลังร้อน เดือดร้อนในความเย็น เมืองไทยนี้ก็มีความเดือดร้อนด้วยความเย็นเหมือนกัน แต่ว่าพูดว่าเดือดร้อน
แล้วก็พูดถึงว่าเมืองไทยบ่นว่าเดือด ที่จริงไม่ได้เดือด แต่คนน่ะเดือด ก็เหมือนทำให้คนเดือดร้อน แล้วเวลาเดือดร้อนมันไม่สบาย น้ำเดือดจะมีประโยชน์ ต้มไข่ได้ แต่ว่าถ้าเดือดเฉยๆ ไม่มีประโยชน์ ทำให้คนเดือดร้อน สิ้นเปลืองเปล่าๆ แล้วก็บ่นว่าประเทศลุกเป็นไฟ ก็ต้องระวังไม่ให้ลุกเป็นไฟ เพราะว่าจะทำให้ล่มจม ต่างประเทศเขาบอกว่าเมืองไทยจะล่ม จะจม ความจริงยังไม่ล่ม และไม่จม แต่ถ้าไม่ระวัง ก็จะล่มจม ฉะนั้นก็จะต้องระมัดระวัง
ทุกวันนี้ไม่ปรองดองกัน เมื่อไม่ปรองดอง ก็มีรู ก็จะล่มจมลงไป ที่จริงพยายามจะอุดช่องไว้อย่างมาก เช่น น้ำจะท่วม ก็ปิดกั้นไม่ให้น้ำท่วม แต่ที่เขาทำ น้ำจะท่วมก็ต้องสูบน้ำออกไปใส่ในทะเล ทะเลก็มีน้ำมากเกินไป น้ำก็ล้นเข้ามาในพื้นแผ่นดิน ประเทศชาติก็ล่มจม ฉะนั้นการป้องกันไม่ให้ล่มจม จะต้องระวังไม่ให้น้ำขึ้นมากเกินไป ซึ่งถ้าน้ำขึ้นมากเกินไป ก็ต้องแก้ไข
แก้ไขนี่มีหลายวิธี จะต้องทำเขื่อน แต่เขาก็ด่าก็ว่าถ้าทำเขื่อนเท่ากับประเทศจะจม จมในน้ำ เพราะว่าตั้งเขื่อน น้ำก็ต้องขังไว้ แต่ว่าการขังน้ำโดยใช้เขื่อนนั้นมันมีหลายวิธี ซึ่งบางทีไม่เข้าใจ บางเขื่อนน้ำก็ท่วม แต่ถ้าหากว่าทำเขื่อนแล้วไม่ระวัง ไม่ได้บริหารเขื่อนนั้นให้ดี มันก็อาจจะทำให้น้ำท่วม
อย่างที่เคยพูดถึงเขื่อนป่าสัก เขื่อนป่าสักนี้ถ้าไม่ได้ทำก็จะเสียเงินเป็นพันล้านทุกปี แล้วก็เสียเงินอย่างนี้แล้วไม่ได้อะไรเลย เดี๋ยวนี้ที่ได้ทำป่าสักมา ทุกปีมีผลดี ทำการเกษตรกสิกรรมได้ผล และเมื่อได้ผลแล้ว ก็ได้รายได้ ถ้าไม่ได้ผล ก็จะต้อง....(พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติทรงตรัสเสียงดัง) นี่ก็น้ำท่วมทุ่ง นี่อย่างนี้น้ำท่วมทุ่ง นี่เหมือนพ่อเขา พูดมาก ปู่พูดไม่มาก เวลาพูดเขาก็หาว่าน้ำท่วมทุ่ง
ไอ้น้ำท่วมทุ่งนี่มันไม่ดี เพราะว่าเวลาท่วมทุ่ง ทุ่งนั้นทำอะไรไม่ได้ พืชผลต่างๆ ก็เน่า แล้วก็ถ้าพืชผลเน่า ก็เท่ากับทำลายพืชผลนั้น ซึ่งตามปกติพืชผลขึ้นมาสามารถที่จะขายได้ แต่พืชผลที่เน่า ขายไม่ได้ พืชผลที่เน่าทำให้เสียหาย
แต่ที่ปลื้มใจที่ป่าสักนี้น้ำท่วมมีบ้าง แต่น้อยมาก คือว่าแต่ก่อนนี้ทุกปีต้องเสียเงินเป็นพันล้านสำหรับแก้ไขเรื่องน้ำท่วม เสียหายไปพันล้าน ไม่มีรายได้เลย มีแต่รายจ่าย ถ้ามีรายได้ ก็ไม่เป็นไร เวลามีน้ำท่วมขึ้นมาความจริงก็มีรายได้ เพราะว่าอย่างเช่นข้าว ถ้าไม่มีน้ำก็แห้งผาก ไม่มีผล แต่ยังไงไม่มีผลอย่างนั้น ยังงอกออกมาได้ ก็ยังมีข้าว แต่อย่างถ้าข้าวถูกท่วม และเน่า ต้องเสีย ข้าวนั้นเสีย ไม่ได้ผล มีแต่ทางเสีย ไม่มีทางได้
ฉะนั้นการที่ทำเขื่อนแล้วก็ไม่มีน้ำท่วม ก็มีจ่ายเงินสำหรับค่าทำเขื่อน แล้วก็ปีหนึ่งเสียหายเล็กน้อย จนถึงเดี๋ยวนี้เมืองไทยก็มีรายได้มากกว่ารายจ่าย แต่ว่าถ้าไม่ได้ทำโครงการป้องกันไม่ให้น้ำท่วม มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายได้ แล้วอย่างนี้เราก็อยู่ไม่ได้
อันนี้พูดเป็นปริศนาว่า ถ้าไม่มีรายได้ ก็ไม่มีรายจ่าย คือว่าถ้าไม่มีรายได้ ก็ไม่สามารถที่จะจ่ายอยู่ดี มีแต่ต้องจ่ายสำหรับป้องกันน้ำท่วมนั้น ป้องกันแล้วไม่มีกำไรเลย มีแต่เสีย ฉะนั้นก็ที่คนเขาว่าทำโครงการแล้วก็เสีย...จริง...เสียเงิน แต่ว่าไม่เสียผลประโยชน์ ก็ต้องคิดดีๆ ว่าที่ได้ทำโครงการนั้นก็มีจุดประสงค์ที่จะให้มีรายได้
แต่ถ้าพูดอย่างที่เขาพูด จ่ายเงินเยอะแยะ ไอ้ที่ต้องจ่ายแยะ แต่ว่าไม่ได้เสีย เพราะว่ามีรายได้ นี่เราพูดกลับไปกลับมาอย่างนี้ท่านก็งง ท่านมองหน้าว่าเอ๊ะ...จะไปไหน ต้องทำโครงการหรืออะไรก็ตาม ก็ต้องมีเหตุผล ก็ต้องบริหารงานการให้ดี
พูดถึงบริหารเวลานี้ก็มีฝ่ายที่เป็นรัฐบาล รัฐบาลก็คือการบริหาร แต่ว่าบริหารนี้มีทุกอย่าง บริหารโครงการ บริหารกิจการต่างๆ บริหารการเงินทุกอย่าง ก็ต้องบริหารดีๆ ฉะนั้นถ้าไม่บริหารก็ล่มจม แต่คนที่ไม่ได้เป็นฝ่ายบริหาร มีแต่ตำหนิติเตียนว่าไม่ทำ ที่จริงฝ่ายบริหารเขาก็ทำ คนที่ติเตียนนั้นก็เป็นคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ตรงข้ามมีแต่ทำลาย ฉะนั้นที่มาเมื่อ 2-3 วันนี้ ชักกลุ้มใจที่ฟังวิทยุ แล้วก็พูดว่าเมืองไทยนี้ไม่ก้าวหน้าเลย แต่ความจริงก็ก้าวหน้า ถ้าไม่ทำอะไรเลย ป่านนี้ก็ล่มจมแล้ว ถ้าไม่ทำก็ล่มจมเหมือนเรือน้ำท่วม ล่มจม
พูดถึงน้ำมากเกินไปแล้ว เดี๋ยวหาว่าพูดน้ำท่วมทุ่ง แต่ว่าอย่างไรก็ตามต้องพูด วันนี้ตั้งใจจะต้องพูดว่าถ้าไม่ทำอะไร ทำแต่พูด ก็จะไม่ดี อันนี้ก็พูดมามากแล้ว ในทางที่คล้ายๆ ปรามไม่ให้พูด แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ท่านเงียบหมด ทุกคนเงียบ ก็หมายความว่าท่านก็ตั้งใจจะไม่พูด เราก็เห็นว่าท่านไม่พูด เราก็จะไม่พูด แต่ก็พูดมากแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องอธิบายว่าไปเข้าโรงพยาบาลนี้ เข้าๆ ออกๆ เข้าๆ ออกๆ หนังสือพิมพ์ก็ลงวันนี้เข้าแต่งสีชมพู ออกมาแต่งสีฟ้า เหมือนตำหนิติเตียนว่าทำไมเปลี่ยน ก็เข้าๆ ออกๆ ก็ต้องเปลี่ยนบ้าง ถ้าเข้าๆ ออกๆ แล้วแต่งเครื่องแบบ มันก็น่าเบื่อ น่าเบื่อเขาก็...อย่างท่านนายกฯแต่งเครื่องแบบ แล้วท่านก็บอกว่าน่าเบื่อ เบื่อหน้าแล้ว ถ้าเบื่อหน้าก็ไล่ออกสิ ไล่เขา แต่ท่านนายกฯไม่ได้ยิน
เดี๋ยวหาว่าท่านนายกฯเดี๋ยวนี้แก่แล้ว เขาว่าแก่ ที่จริงหนุ่ม หนุ่มนิดเดียว ของเราหนุ่มแบบพรุ่งนี้อายุ 80 ไม่นึกเลยว่าจะถึงอายุ 80 อายุ 80 ใครจะว่าแก่ก็ไม่ว่า ใครตำหนิว่าแก่ไม่ว่า เพราะว่าแก่จริงๆ แต่คนที่อายุ 60 ไม่แก่ แต่ว่าท่านนายกฯก็น่าเบื่อ น่าเบื่อเพราะว่าเจอทีไรก็แต่งเครื่องแบบขาว ความจริงควรจะแต่งสีอื่นบ้าง ของเราวันนี้ไม่มีขาว สีเหลือง แล้วก็เนคไทด้วย สีชมพูก็มี เราก็แก่แล้วไม่อยากแต่งตัวให้น่าเบื่อ
วันนี้ก็เตรียมเสื้อคล้ายๆ ท่านองคมนตรี เสื้อเชิ้ตขาว ไม่ใช่ท่านองคมนตรี...ประธาน สีน้ำเงินแก่ เราก็แต่งสีเทา ที่จริงแต่งไม่น่าเบื่อ ยังมีเนคไทสีเหลือง ก็ให้เก๋หน่อย ยังดีไม่ได้ใส่สีชมพู แต่วันนั้นใส่สีชมพู โอ้โห...ก็ตื่นเต้น เวลาใส่สีชมพูแล้ว ก็ใส่สีเขียว สีอะไรก็ได้ สีแดงก็ได้ สีแดงนี่เป็นกาลกิณีของเรา คนที่ว่าเป็นกาลกิณีของเราไม่น่าจะใช่ ตั้งแต่แม่ท่านก็เกิดวันอาทิตย์ ท่านก็สีแดง พี่สาวก็เกิดวันอาทิตย์ พี่ชายก็เกิดวันอาทิตย์ ก็หมายความว่าสีแดง คนที่รับใช้ก็เกิดวันอาทิตย์ ยังดี ทองแดงนี่ดี ไม่ได้เกิดวันอาทิตย์ เขาเกิดวันเสาร์ เขาเป็นสีม่วง ทองแดงสีม่วง เราก็ไม่เดือดร้อน
แต่สีม่วงน่ะดี วันก่อนนี้ใส่สีม่วง ก็เลยใส่ได้ทุกอย่าง ไม่เหมือนท่านนายกฯ ใส่เครื่องแบบขาวทุกวัน ทุกครั้ง มันน่าเบื่อ ก็จริง น่าเบื่อ แต่ว่าท่านเรียบร้อย แล้วก็แต่งชุดขาวท่านทำงานได้ดี ถ้าทำงานได้ดีก็ไม่น่าเบื่อ ท่านผู้หญิงสีเหลือง แต่เหลืองอ๋อย สีเหลืองนี้ความจริงต้องเป็นสีค่อนข้างจะเหลืองอ่อนมาก อย่างเมื่อวานนี้ใส่สีเหลือง สีเหลืองอ่อน นั่นเป็นสีเหลืองที่ถูกต้อง เพราะเป็นสีเหลืองที่สว่างของพระจันทร์
นี่เขาให้ มีกระต่ายอยู่ด้วย ก็เลยเป็นสีเหลืองที่ถูกต้อง แต่มาพูดบอกว่านายกฯแต่งขาว ก็ได้เหมือนกัน เพราะว่าวันจันทร์ก็เป็นสีขาว ฉะนั้นใครจะมาบอกว่าท่านนายกฯน่าเบื่อ จะบอกน่าเบื่อไม่ได้ ใส่สีขาวดีมาก สวยมาก ทำงานอะไรก็คล่องแคล่ว ไม่ใช่ทำงานไม่ดี ทำงานดี สีขาวก็หมายความว่าหมดจดดี
แล้วก็ตั้งแต่ครั้งแรกคนเขาตำหนิ เมื่อปีที่แล้ว ไปบอกว่านายกฯอายุมาก ก็เปรียบเทียบกับนายกฯเก่า นายกฯเก่าเขาเด็กกว่า แต่ว่าไม่เท่าไหร่ก็แก่ นายกฯกำลังดี 60 กว่าๆ ก็กำลังดี ไม่เหมือนเรา เราแก่เกินไป เราแก่ แล้วก็ประธานองคมนตรียิ้มๆ บอกว่าท่านแก่กว่า แต่ท่านก็แข็งแรง 80 กว่านี่ยังดูดี
พรุ่งนี้ข้าพเจ้าก็จะ 80 กว่า กำลังหนุ่ม กำลังแข็งแรง คนอื่นไม่แข็งแรง ยังไม่ 80 ต้อง 80 พี่สาวอายุ 84 ท่านค่อนข้างจะแก่ เมื่อวานเราไปเยี่ยม ที่จริงไม่ควรจะ...ควรจะมาพักที่สวนจิตรนี่ แต่ท่านไม่สบาย ไม่สบายอยู่มาก ก็ต้องไปให้กำลังใจท่าน วันนี้ก็ไปไม่ได้ เพราะว่ามีงาน พรุ่งนี้ก็ไปไม่ได้ มะรืนนี้ก็ไปไม่ได้ แต่ว่าต้องไปเยี่ยม ท่านไม่สบาย แต่ว่าดีอยู่ว่าประชาชนไปเยี่ยมอยู่มากมายที่โรงพยาบาล มีประชาชนไปเยี่ยมเต็มลาน ห้องชุมนุมนั่นเต็ม ก็เลยทำให้สบายใจว่ามีคนเอาใจใส่คนที่ไม่สบาย ให้กำลังใจ อันนี้ต้องชมคนไทยว่า คนไม่สบายก็ให้กำลังใจ คนไทยไม่สบายรู้ว่ามีคนเอาใจใส่ก็สบาย
อย่างที่ไปเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ตัวเลยสบาย เขาหาว่าเราจะแย่ ก็ดูแล คนเขาว่าว่าพิการที่สมอง สมองเรา เราก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไร ทำไปทำมาบอกว่าเป็นที่ลำไส้ เขาบอกว่าพิการ หรือป่วยที่ลำไส้ เขาก็หาใหญ่ ตามธรรมดาลำไส้ที่พิการเขาจะดูทางซ้าย แต่ทำไปทำมากลับดูว่าเป็นพิการทางขวา ทางขวาของเรา เขาไปดูทางซ้าย ทางซ้ายไม่มีอะไร เขาก็เคาะใหญ่ เคาะมัน ไม่เป็นไร แท้จริงเป็นทางขวา เขาก็บอกประหลาด มาพิการทางขวา เรานึกว่าพอเราเป็นคนประหลาด เวลาป่วยทางไหนก็มาป่วยทางขวา ก็แล้วไป
ทีหลังทำไปทำมาก็ดูแล้วไม่เป็นแล้ว เขาก็บอกว่าเป็นที่สมอง เป็นที่สมองไม่ใช่ของเรา เป็นที่สมองของหมอ เพราะว่าพิการ พิการที่สมองของหมอ แล้วไปเข้าเครื่อง ดังโป๊งๆๆๆ ไม่เป็นไร ไม่มีพิการ ก็เลยออกจากโรงพยาบาลดีกว่า ถ้าอยู่ในโรงพยาบาลจะพิการจริงๆ เพราะว่าโรงพยาบาลนี่แย่ ก็จะเปลี่ยนโรงพยาบาล เปลี่ยนไปโรงพยาบาลที่อยู่ฝั่งนี้ ไปอยู่ฝั่งโน้นจะเป็นบ้า แล้วก็เลยนึกไปดูว่าทำไมเป็นบ้า เป็นบ้าเพราะน้ำมันจะท่วม น้ำจะท่วม น้ำมันขึ้นเรื่อย ขึ้นไปขึ้นมาแล้วมาบอกว่าน้ำจะท่วม แต่น้ำไม่ท่วมเพราะมีโครงการที่พระประแดง
แต่พูดไปพูดมา เขาเอาเรือของกองทัพเรือที่เขาสร้าง มีเรือใหญ่ เขาบอกว่าให้ไปเรือนี้ ก็เอาเรือนั้นมาจอด เรือสวยด้วย ก็เลยร่ำลือกันใหญ่ว่าพรุ่งนี้จะเสด็จ เรายังไม่ไป เพราะว่ามีงาน มีงานตลอดปี ตลอดทั้งเดือน ก็เลยต้องปฏิเสธ ก็บอกว่าไม่ใช่พรุ่งนี้ มะรืนนี้สิไป บอกว่าจะไปเยี่ยมโครงการที่พระประแดง บอกว่ายังไม่ไป ไม่เชื่อ แต่ทำไปทำมาก็เชื่อ เรือไม่เอามาแล้ว ไม่งั้นเอาเรือมาจอดให้เราไป เราก็เลยบอกว่า เรือนี่ใช้น้ำมัน เปลืองน้ำมันเหมือนกัน แต่เราจะใช้ไบโอดีเซล เขาบอกว่าใช้ไม่ได้ ถ้าใช้ไม่ได้เราไม่ไป
เรือที่เป็นเรือแท็กซี่ เขาใช้ไบโอดีเซลได้ เดี๋ยวนี้กำลังพัฒนาไบโอดีเซล เพราะว่าใช้ดีเซลเปลือง แล้วก็ดีเซลจะหมดโลกแล้ว แต่ไบโอดีเซลแบบฝรั่ง 10% หมายถึงไบโอเพียง 10% เราไม่ยอม เราจะใช้ไบโอดีเซล 100% หมายความว่าดีเซลแบบไบโอ แบบพืช ใช้ 100% อย่างคราวก่อนนี้ไป แล้วก็นายกฯใช้ไบโอ 100% ไบโอใช้น้ำมันแบบแก๊สโซฮอล์ 100% ไม่ใช่ 10% อย่างที่เขาใช้ ขึ้นภูเขา ขึ้นตรงเขื่อน ขึ้นชันมันก็ไปได้ดี รถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แบบของเราก็ขึ้นได้ดี แต่ว่าราคาถูกกว่าดีเซล เดี๋ยวนี้ก็ใช้ดีเซลแบบแก๊สโซฮอล์ มาตอนนี้จะใช้ดีเซลแบบน้ำมันปาล์ม น้ำมันปาล์ม 100% ก็ใช้ได้ ไม่ต้องใช้ดีเซลสั่งมาจากเมืองแขก
ถ้าเราใช้ดีเซลจากเมืองแขกอีกหน่อยก็หมด อีกหน่อยหมดแล้วก็...เดี๋ยวนี้เขาก็ไม่ใช้ แต่ว่าเก็บเอาไว้สำหรับมาขายให้เรา ก็ต้องเสียแพงๆ เราจะใช้ไบโอดีเซลแบบน้ำมันปาล์มที่เราปลูกเอง เราปลูกเองอาจจะมีน้อยหน่อย ก็ใช้น้อยหน่อย อย่าไปฟุ่มเฟือยใช้มากเกินไป น้ำมันใช้น้อยๆ หน่อย แต่เราจะมีใช้ ปลูกต้นปาล์ม แล้วมาทำเชื้อเพลิง ต้นปาล์มมาทอดปลา ทอดอะไรต่างๆ ได้ แล้วก็มาใส่ในรถดีเซลได้ ใช้แล้วก็ใช้ได้ มันวิ่งช้าหน่อย วิ่งช้าก็ไม่เป็นไร เราอย่าเร่งรีบ ชีวิตอย่าให้เร่งรีบมากเกินไป แต่ราคาก็ถูก
ฉะนั้นถือหลักว่า ใช้ของราคาไม่แพงเกินไป อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับไฮสปีดดีเซล แต่ก็ไปได้ ก็ขอให้คิดว่าทำอะไรต้องประหยัด คนเขาว่าประหยัดๆ ดีกว่าไม่มีเลย ถ้าไม่มีดีเซล เราก็ต้องไปซื้ออยู่ดี เราไปซื้อก็มี 2 แห่งที่เขาขาย ก็คือของแขกกับของฝรั่ง ของฝรั่งก็คืออเมริกัน ของอเมริกันเขาไม่ค่อยขาย เขาบอกเขาไม่มี แท้จริงเขามีเยอะ แต่ว่าเขาไม่ขาย เพราะว่าเขาเก็บเอาไว้มาขายให้เราแพงๆ
น้ำมันจะเป็นดีเซลหรือน้ำมันเบนซิน มันราคาไม่ถึงที่ที่เขาขายกันอยู่นี้ จนกระทั่งเขาแย่ เพราะเขาขายแพงเหลือเกิน เลยขายไม่ได้ ขายไม่ออก บางทีก็ต้องลดราคา ฉะนั้นเราซื้อน้ำมันราคาถูกของเราเอง ถูกกว่าของฝรั่งของแขก แล้วก็อาจจะคุณภาพหรือกำลังน้อยกว่าดีเซลที่ขุดจากดิน แต่ที่จริงที่ขุดจากดินนั้น ราคาไม่น่าจะแพงอย่างนั้น แต่เราก็โลภอยากได้น้ำมันที่มีกำลัง ก็เลยยอมเสียเงิน เสียเงินซึ่งเราควรจะเอาไปใช้อย่างอื่น
การที่เราเสียทั้งฝรั่งทั้งแขก เสียเงินให้เขา ฝรั่งกับแขกเขาได้เงินเยอะๆ ก็ไปซื้ออาวุธสำหรับสู้รบกันเอง อิรักเขาก็มีน้ำมันมาก แต่ว่าเขาไม่ขาย เขาไม่ขายเพราะเขาขายไม่ได้ ไม่มีโรงที่จะกลั่น ก็ขายให้เรา แล้วเราเอามากลั่น แล้วเราก็ขายให้แขก แต่เขาซื้อในราคาถูก เขาขายในราคาแพง นี่มันไม่ค่อยถูกหลักของการค้า การค้าที่รัฐบาลมีผู้เชี่ยวชาญการค้า ต้องขายให้ราคาแพง จะได้กำไร แล้วซื้อให้ราคาถูก แต่เราทำตรงข้าม เราซื้อราคาแพง เราขายราคาถูก อย่างนี้เราแย่ เพราะเราไม่มีทางที่จะขายอะไรราคาแพง เพราะเขาก็บอกโอ๊...เขาขาดทุน
เวลาไปที่ร้าน...ผมขาดทุน เสียงภาษาแขก เสียงภาษาจีน ภาษาฝรั่ง ถ้าเราขายราคาแพง โอ๊...มันแพงเกินไป เขาบอกซื้อไม่ได้ เวลาเราจะซื้อเขา เขาบอกขายไม่ได้ เขาขาดทุน
ที่จริงคนไทยเรานี่ใจดีเกินไป เรายอมขาดทุนเรื่อย ความจริงถ้าเราขายอะไรไม่ให้ขาดทุน ซื้ออะไรไม่ให้ขาดทุน เรารวย เมืองไทยนี่รวย แต่ว่าเราใจดีเกินไป ต่างประเทศเขาบอกเขาขาดทุน เราก็ลงท้ายก็เชื่อเขา ไม่ดี เราขาดทุนไม่ได้ ไม่รู้รัฐบาลชุดนี้จะซื้ออะไรขายอะไรให้ขาดทุนหรือเปล่า แต่ว่าแต่ก่อนนี้ขาดทุน ฉะนั้นเราก็จะต้องพยายามที่จะทำอะไรที่เราไม่ขาดทุน ต้องทำเอง โดยที่รัฐบาลสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง
พอเพียงหมายความว่าเราไม่ทุกข์ว่าเขาจะว่าว่า เราเอากำไรมากเกินไป เราไม่เอากำไรมาก เราไม่ทำให้ขาดทุน เราไม่ทำให้มีกำไรมากเกินไป เพราะเราขายกันเอง ก็กันเอง ก็ไม่ต้องขายแพง กันเองไม่ต้องซื้อแพง
ฉะนั้นเศรษฐกิจพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่าขาด ทุน ขาดทุนก็ขาดทุน แต่ว่าขาดทุนกำไร ของเราเอง กันเอง นี่พูดถึงเศรษฐกิจพอเพียงมาหลายปีแล้ว ก็ไม่ค่อยเข้าใจกัน เพิ่งมาเข้าใจกันสักเดือนหนึ่งสองเดือนนี้ ฉะนั้นขอไปศึกษาต่อเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พอเพียงคืออะไร ไม่ใช่เพียงพอ ไม่ได้หมายความว่าให้ทำกำไรเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ทำกำไรก็ทำ ถ้าเราทำกำไรได้ดีมันก็ดี แต่ว่าขอให้มันพอเพียง คือถ้าเอากำไรหน้าเลือดมากเกินไปมันไม่ใช่พอเพียง
นักเศรษฐกิจก็ว่าพระเจ้าอยู่หัวนี่คิดอะไรแปลกๆ ก็แปลกสิ ขายไม่ให้ได้กำไร ซื้ออะไรไม่ขาดทุน เป็นเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ต้องหน้าเลือด ไม่ใช่มีกำไรมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ให้พอเพียง
ไม่ใช่เรื่องของการค้าอย่างเดียว เป็นเรื่องของการพอเหมาะพอดี เราทำพอเหมาะพอดีก็ดี พูดไปพูดมาเรื่อง เดี๋ยวก็จะโกรธเอา เราสร้างเรือ สร้างเรือให้พอเพียง เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ไอ้นั่นมันไม่พอเพียง มันเล็กเกินไป ยังเล็กเกินไป ควรจะใหญ่กว่าหน่อย แต่ถ้าใหญ่เกินไปไม่พอเพียง ถ้าเล็กเกินไปก็ไม่พอเพียง
เรือที่เขาจะทำ เรือดำน้ำ ดำลงไป แล้วลงไป ไปปักเลนเลย พูดเดี๋ยวเขาโกรธเอา เรือแล่นๆ ไป ลงไป ดำน้ำ ไม่พอ มาเครื่องบิน เห็นแจ๋วเลย ต้องไปจมเลนถึงจะไม่เห็น แล่นๆ ไป ปักเลน ถ้าอยากไปที่ที่ลึก ก็ไปอยู่นอกเส้น ก็รู้สึกว้าเหว่ กลายเป็นเรือดูแลไกลฝั่งนี่ดีกว่า แต่ลำที่เราทำ สร้างก็ใช้ได้ดีแล้ว แต่ที่ควรจะสร้างต่อไปให้ใหญ่กว่านี้หน่อย แต่ตอนนี้คงไม่มีเงินแล้ว ต้องใหญ่กว่าหน่อย เพราะว่าถ้าไม่ใหญ่ จะไม่สามารถปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง
นี่พูดราชการลับ เรือนี่ควรจะซื้อเรือของรัสเซีย เรือที่เขาสร้างใหม่ ใหญ่กว่าที่เราสร้างไม่มาก นั่นจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ถ้าซื้อของรัสเซีย ราคาไม่ถึงครึ่งของเยอรมนี ของอเมริกัน อเมริกันเขาโกรธแน่เราไปซื้อของรัสเซีย ลองไปดู ลองไปดูเรือของรัสเซีย แต่เขาอาจจะไม่ขายก็ได้ แต่ทำไปทำมาเขาอาจจะขายราคาแพง แต่ความจริงเขาควรจะขายเรา ไปขอเขาดู ของรัสเซียดีจริงๆ แต่รู้ไม่ได้ เขาอาจจะขายเราลำโปเกๆ ก็ได้ นี่พูดความลับราชการ
ในเมืองไทยนี่ ความลับราชการเผยเรื่อย เผยความลับราชการก็ไม่รู้...นะทองแดง ถ้าเผยความลับราชการอาจจะดีก็ได้ เพราะว่าความลับราชการก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดี ยังไงก็จะทำอะไรก็มาเผยเสียหมดก็ได้ กองทัพเรือก็มีเรือดำน้ำ กองทัพอากาศก็มีเรืออะไร สมัยใหม่ แต่จะมาซื้อลำนิดเดียว แต่ราคาแพงเหมือนลำใหญ่ แต่ตอนนั้นจะซื้อลำใหญ่ ราคานิดเดียวเหมือนลำเล็ก ก่อนนี้จะซื้อเครื่องบินลำใหญ่ในราคาลำเล็ก ก็ชอบกลอยู่นะ ก็รัสเซียเหมือนกัน ทำไปทำมาจะซื้อเรือบินรัสเซีย เราไม่เห็นด้วย แต่ถ้าจะซื้อเรือน้ำรัสเซียก็น่าใช้
กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็ได้ชนกัน ซื้อเครื่องบินอย่าซื้อเครื่องบินรัสเซีย ซื้อเรือรัสเซีย ไม่งั้นเดี๋ยวชนกัน เรือน้ำของรัสเซีย เข้าใจว่าดี เรือบินของรัสเซียเข้าใจว่าใช้ไม่ได้
นานๆ ทีได้พบกันก็ต้องปรารภว่าอะไรควรจะทำ ไม่ควรจะทำ เรือบินก็ดูตกลงกันแล้ว แต่ถึงเวลาได้เรือบินมา อาจจะล้าสมัยแล้ว 2 ปีกว่าจะได้ 2 ปีคงล้าสมัยแล้ว เรือบินไม่ใช่รัสเซีย เรือบินของสวีเดนก็ดูดีเพราะลำมันไม่ใหญ่ กองทัพบกก็จะไปซื้อรถล้าสมัย ล้าสมัยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าคนไทยชอบซื้ออะไรล้าสมัย เอามาเล่นก็ดีเหมือนกัน รถถังล้าสมัย แต่เมืองไทยนี่ใช้รถถังทันสมัยมันใช้ไม่ได้ มันจมเลน แล้วก็พอจมเลนปั๊บมันก็หมดสมัย ลำบาก...
เดี๋ยวนี้จะซื้อ รัฐบาลก็หมดสมัย อีกหน่อยก็หมดสมัย อีกไม่กี่เดือนก็หมดสมัย เอาไว้ให้รัฐบาลใหม่เขาซื้อรถถังรถอะไร แต่อย่างนี้มาแนะนำการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์กลางที่ประชุมนี้ ที่ประชุมนี้ก็ใหญ่กว่าสภา คนมากกว่า มีคนตั้ง 20,000 คน ลงท้ายเขาฟังเขางง ไม่รู้ว่าพูดเรื่องอะไร
แต่อย่างไรก็ตาม ที่พูดอย่างนี้ให้เห็นว่าเราต้องคิดดีๆ ว่าจะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จะซื้ออย่างไร รู้สึกท่านก็คงงงหมดแล้ว ว่าไม่ได้พูดถึงพลเรือนว่าจะซื้ออะไร มีแต่จะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ก็ต้องซื้อ ต้องมี เพราะว่าเดี๋ยวนี้น้ำท่วมก็ใช้กองทัพ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ไปช่วยชาวบ้าน ถ้าพวกพลเรือนไม่มีอาวุธที่จะไปช่วยพวกที่เดือดร้อน พวกที่ต้องการใช้ เรียกว่าอาวุธสำหรับช่วยประชาชน ยังไงก็พลเรือนก็ต้องมีอาวุธเหมือนกัน
แต่ก่อนนี้พูดถึงตำรวจ เป็นกองทัพ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่เป็นแล้ว แต่ว่าต้องใช้อาวุธสำหรับช่วยชาวบ้าน คงต้องเลิกพูด เพราะว่าถ้าพูดมากเดี๋ยวท่านจะงงว่าทำไมใช้เงินเยอะแยะ เดี๋ยวนี้เรารวยแล้ว เงินบาทมีราคาสูง สูงเกินไป ก็ใช้สิ เงินบาทสูงเกินไป ก็ใช้ ใช้ในที่ที่ควร เราเดี๋ยวนี้ไม่รู้เรื่อง อาจจะเป็นเหมือนที่หมอเขาว่าสมองเราฝ่อ แต่เรารู้สึกสมองเราไม่ฝ่อ แต่เขาว่าเราฝ่อ
ฟังว่ารัฐบาลหรือเมืองไทยประชาชนมีเงินเยอะ มีเงินเกิน ก็ใช้สิ เขาหาว่าเราเศรษฐกิจพอเพียง คำว่าพอเพียง ถ้ามีเงินก็ต้องใช้ ไม่ใช่ขี้เหนียว ถ้ามีเงิน ไม่ต้องขี้เหนียว ซื้อไปเถิด อะไรก็ตาม เครื่องบิน เรือ รถถัง...ซื้อ...ถ้ามีเงินเยอะ ก็ถือว่าสนับสนุนให้จ่าย เดี๋ยวนี้ในหนังสือพิมพ์เห็นว่าเขาสนับสนุนให้จ่าย คือว่าถ้ามีก็จ่าย แต่ถ้าไม่มีก็ระงับหน่อย มันเป็นอย่างนี้ คนเราก็พูดเกินไปเสมอ
ยังไงตอนนี้ที่ท่านมาให้พร อวยพร ก็นับว่าดีมาก ทำให้มีกำลังใจ แต่ไม่ทราบว่าคิดถูกหรือไม่ถูก เพราะว่าท่านไม่ได้บอกอะไร เรามีเงินเยอะใช่ไหม ดูท่าทางว่ามีเงินเยอะ ถ้ามีเงินเยอะก็จ่าย ใช้เงินให้สมกับที่เรามีเงิน ถ้าไม่มีเงิน เราจ่าย จะอันตราย แต่ถ้ามีเงินแล้วไม่จ่าย ก็อันตรายเหมือนกัน เพราะว่าคนที่มีเงินแล้วไม่จ่าย หมายความว่าจะเก็บไว้ทำกำไร บางคนมีเงินแล้วไม่จ่าย ให้คนอื่นจ่าย ก็หมายความว่าคนที่ไม่มีเงิน กลับใช้เงินเพื่อที่จะได้กำไร คนที่มีเงินยิ่งอยากได้กำไร...ฉะนั้นคนที่มีเงินก็จ่าย แล้วก็ช่วยคนที่ไม่มีเงิน
นี่รู้สึกตัวว่าพูดอะไรที่ถูกต้อง คนที่มีเงินต้องจ่าย คนที่ไม่มีเงินต้องไม่จ่าย แต่คนคิดตรงข้าม คนที่ไม่มีเงินต้องจ่าย อย่างสมัยนี้ คนไม่มีเงินให้ใช้เงิน ใช้เงินมากๆ เพราะว่าถ้าคนไม่มีเงินใช้เงินมากๆ ก็ต้องไปกู้ คนที่มีเงินมากๆ ก็ได้กำไร ไม่พอเพียง
ยังไงก็ขอให้ที่ท่านมานี้ได้ผลไปคิด ให้ไปคิดว่าควรจะทำอะไร แล้วท่านต้องมีความคิดดีอยู่แล้ว อย่าไปมีปมด้อยว่าไม่มีความคิด ซื้อเรือ ซื้อเครื่องบิน ซื้อรถถัง ก็ไปซื้อเถิด เรือสร้างเอง ให้เขาสร้าง เรืออันไหนที่สร้างไม่ได้ ไปสร้างที่อื่น เราก็ไปสร้างที่ที่เขาแล่นๆ ไปมันคลอนหมด ไปซื้อเรือที่แล่นๆ จะไปซื้อกับเขาไม่ได้ เพราะมันคลอนหมด สร้างเองดีกว่า นี่เขางงว่าทำไมยุให้สร้างเรือ สร้างเรือเองให้คุณภาพดี ไม่ให้คลอน แต่ถ้ามีเงินไปสร้างเอง
คงพูดมากเกินไป ทองแดงเขาเมื่อย พูดอะไรก็เห็นด้วยนะ ยังไม่ไป ขอบใจที่ท่านมา ขอให้ท่านสามารถที่จะมีจิตใจที่เข้มแข็ง แข็งแรง เพื่อที่จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับส่วนรวม ก็จะเป็นประโยชน์แก่ท่านเอง ขอขอบใจอีกทีที่มา

http://www.9digits.c...-news&Itemid=35

คงอย่างนี้ พวกเสื้อแดงเลยยึดสีแดงเป็นชองพวกมัน

Edited by เกรียนประจัญบาน, 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:48.

แม้นใครรัก รักมั่ง ชัง ชังตอบ

#11 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 14:20

มันเริ่มมาหลายสิบปีแล้ว ... นานมาก

จาก การที่โรงเรียนต่างๆปลูกฝังให้เด็ก แบ่งแยกด้วยการ จัด

กีฬาสี...


ดังนั้น ตอนนี้ เด็กสมัยนั้นที่โตขึ้นมาแล้วไม่มีความคิด... พอเจอคนแปลกหน้าตามเวป
ได้อ่านความเห็นต่าง แล้ว ไม่ถูกจริต...
ถามก่อนเลย เองสีไหน อย่าแอ็บ...
หรือ บางท่าน ตรัสรู้ได้เอง... จับเค้าเป็นฝ่ายตรงข้ามก่อนเลย...
:D

"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#12 bangkaa

bangkaa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,104 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 14:21

ขั้วการเมืองหลักของประเทศไทยตอนนี้แบ่งเป็น 2
ปชป. กับ พท.
เป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ของประเทศ

คนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ยึดติดกับ ทุนนิยมเสรีประชาธิปไตย
(เป็นคล้ายกัน ไม่ว่าขั้ว ปชป หรือ พท.)

ทุนนิยมเสรีประชาธิปไตย... ดีจริงหรือไม่ ต้องพิจารณา
ตัวระบบมันดี หรือไม่ดีกันแน่
หรือ ประชาชน นำมาใช้แบบ ไม่ดีกันแน่...


ขั้วหลักทั้งสอง ปชป กับ พท.
เป็นทุนนิยมเสรีประชาธิปไตยด้วยกัน แต่มีบางจุดที่แตกต่างกัน
เช่น
ปชป จะอนุรักษ์นิยมมากกว่า หลักการ พิธีการ จะมีเยอะกว่า
สืบเนื่องต่อไปยังทางด้านเศรษฐกิจ ก็จะ มีความเป็นทุนนิยมที่อ่อนกว่า
(แต่ก็ยังเป็น ทุนนิยมพรรคพวกพ้องอยู่ดี)

แต่ พท. ซึ่งมีแกนนำหลักคือ ท่านแม้ว
เป็นนักธุรกิจการเมืองทุนนิยมเต็มตัว... เข้ามาเพื่อทำธุรกิจให้พรรคพวกพ้องเป็นหลัก
พท. ไม่มีหลักการอะไรมาก นอกจาก ทุนนิยมคือ ความถูกต้อง
โดยใช้ ฉากเคลือบ คือ ประชาธิปไตย ที่อ้างว่าตนชนะการเลือกตั้ง
ขั้วนี้จึงทำทุกอย่างโดยไม่สนอะไร... สนแค่ เงิน จะทำประโยชน์ให้พรรคพวกพ้องตนอย่างไรเท่านั้น


ผู้มีอำนาจ หรือ นักธุรกิจการเมือง ที่อยู่คนละข้างกัน ก็ต่อสู้แย่งอำนาจกัน
โดย ชี้นำ ชักนำ ประชาชน ให้เข้าข้างตนเอง... ทำลายอีกข้างนึง..
โดยอ้างเหตุผลต่างๆนานา... เพื่อให้ตนได้เปรียบ ให้อีกฝ่ายเสียหาย
ซึ่ง ก็มีเรื่องที่จริงบ้าง มั่วบ้าง คละเคล้ากันไป

เป็นบ่อเกิดของการแบ่งแยกมวลชน... ให้มา ตีกัน อย่างที่เห็นๆ


สรุปอีกที..
จะเห็นได้ว่า ขั้วสองขั้ว เป็นทุนนิยมเสรีประชาธิปไตยเหมือนกัน
แต่ ต่างกันที่ ดีกรี ความเข้มข้นเท่านั้น...
เลยขัดแย้ง ห้ำหั่นกัน...



มันยังมีขั้วการเมือง หรือ กลุ่มอื่นๆ อีกเช่น
ขั้วทหาร ขั้วอำมาตย์ ฯลฯ อะไรก็ว่าไป ที่เป็นตัวละครสอดแทรก การสู้กัน ของสองขั้วหลักนั้น

แถมยังมี กลุ่มคนบางกลุ่มที่ไม่ได้ยึดติด กับขั้วการเมืองใดๆอยู่ด้วย
โดยมองว่า ขั้วไหนก็ไม่ไหวด้วยกันทั้งนั้น ทำประเทศแย่
และมองหาหนทางแก้ปัญหาประเทศโดยไม่ยึดติดกับกรอบสภาพการเมืองแย่ๆเดิมๆที่เป็นอยู่
แต่ก็ยังเป็นแค่ ชนกลุ่มน้อยในประเทศเท่านั้น
มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ...

#13 busaba

busaba

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 649 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 14:31

การที่กล่าวหาว่าคนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าทักษิณผิด ถามเจ้าของกระทู้หน่อยว่าเชื่อว่าทักษิณถูกต้องไม๊คะ แล้วคิดว่าทักษิณโกงหรือเปล่า เราไม่ได้เชื่อโดยใคร แต่ใช้วิจารณญาณและสิ่่งเราเห็นต่างหาก ไม่ได้เกิดจากอคติ แต่เกิดจาการสำนึกรักแผ่นดินที่เราอยู่ และหวงแหนแผ่นดินที่เราอยู่ ใครก็ตามที่คิดทำร้ายประเทศไทยคนนั้นก็ต้องได้รับโทษและบทลงโทษ สมควรแล้ว
อันชีวิตคนเราช่างสั้นนัก ต้องรู้จักทำประโยชน์ก่อนจะสายทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์หลังความตาย มีความหมายคงอยู่ตลอดไป

#14 mcs533

mcs533

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 237 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 14:32

ง่ายไม่ต้องคิดมาก มีไอ้พวกเสียงส่วนน้อยอยากเป็นใหญ่ ก่อหวอดเรื่องไม่เป็นเรื่อง เค้าจับได้ไล่ทัน สร้างเรื่องขึ้นมาโกหกใหม่ทันที พวกที่หัวอ่อนก็โดนกลืนกินกลายเป็นพวกซอมบี้ ทำอุบาทชาติชัวยึดสนามบิน ยึดทำเนียบ เอากันถุงยางกระจาย จนม๊าคต้องไปเก็บมาใส่ไว้บนหัว 555 ต่อมามีพวกโกรธแค้นพวกเฮียๆเหล่านี้โดยใส่สีแดง เป็นม๊อบที่ใหญ่สุดในไทยแล้วมั้ง ก่อกำเนิดเพราะความเกลียดสีขี้ ส่วนที่รักทักษิณน่าจะไม่ใช่ประเด็น ก่อนหน้าควายเหลืองถือกำเนิดไม่เห็นจะมีใครออกมารักทักษิณมากแบบนี้ แต่เพราะโดนกลั่นแกล้ง เค้าก็เลยรักกัน แค่นั้น

#15 จีรนุช

จีรนุช

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,934 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 14:34

เราเป็นคนกลางเเบบใน 3 บบรรทัดเเรกของจขกทนะ เลยไม่มีความเห็น ลงชื่อว่าเปิดอ่าน

รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ

เอียนวะ   เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง


#16 จูกัดขงเบ้ง

จูกัดขงเบ้ง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,226 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 15:32

เริ่มต้นมาจาก เสื้อเหลือง โดยการนำของแป๊ะลิ้ม ออกมาประท้วงไล่ทักษิณ
ทักษิณไม่ยอม เพราะบอกว่า ตัวเองชนะเลือกตั้งมา
ก็จัดตั้งกลุ่มม๊อบฝั่งตรงข้ามขึ้นมาต่อต้าน ตอนนั้น เนวิน เริ่มตั้ง สมัชชาคนจน เดินทางโดยรถอีแต๋นเข้ากรุงเทพ

พอดีมี ปฏิวัติก่อน ซึ่ง ทักษิณต้องลงจากอำนาจ
ปกติแล้ว เมื่อ ปว.และลงจากอำนาจแล้ว ก็จะต้องวางมือทั้งหมด
แต่ทักษิณ ไม่ยอม ใช้เงินที่มีอยู่เยอะ จัดตั้งกลุ่ม นปช. ขึ้น เริ่มต้นเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร
จุดเริ่มต้นของเสื้อแดง ก็เกิดขึ้นจากตรงนี้
ตั้ง ม๊อบขึ้นมา แล้ว ใส่ม๊อตโต้เข้าไปทีหลังว่าเป็นพวกอุดมการณ์รักประชาธิปไตยเหลือเกิน
นปช. ใช้คำว่ารัฐประหาร เพื่อเรียกร้องให้นิรโทษกรรมให้ทักษิณ
จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็น ไพร่ อำมาตย์
หนักเข้าเรื่อยๆ ก็เผาบ้านเมืองซะเลย
ความร้าวฉานในบ้านเมืองก็ยิ่งหนักขึ้น
เสื้อแดงและนปช. เป็นจัดตั้ง แต่เมื่อมีการกระจายแนวคิดผ่านหมู่บ้านเสื้อแดง
การโฆษณาชวนเชื่อผ่านเวปไซต์ และ ยูทูป หมิ่นสถาบัน
ทำให้ความแตกแยกยิ่งฝังรากลึกยิ่งขึ้น
จุดแข็งของเสื้อแดง คือ เงินทุนแน่น การจัดการเป็นเอกภาพ สั่งเผาคือเผา

หันมามองสีเหลือง
เมื่อ พรรค ปชป.เป็นรัฐบาล 2 ปี ก็เริ่มเกิดปัญหา
คือพรรคปชป.ก็ซวยจริงๆ เจอทั้งแดงทั้งเหลือง
เริ่มจากการประท้วงเพื่อปกป้องเขาพระวิหาร
จนกระทั่งกลายมาเป็นการประท้วงไล่ พรรคปชป.
ช่วงนี้ มีการแตกแยกทางความคิดอย่างหนัก
ระหว่าง พันธมิตรที่ ชอบ ปชป. และ อิสระชน
ความแตกแยกกันเริ่มที่ต่างก็ต่อว่ากันและกัน
จนแนวร่วมก็หายไปส่วนหนึ่ง ออกไปเป็นกลุ่มเสื้อหลากสี และ อีกหลายกลุ่ม
การแตกแยกตรงนี้ เกิดจาก ความเห็นที่ไม่ตรงกันในเรื่องนโยบาย บริหารบ้านเมือง
ก็เลย แยกกัน ออกไป

ความแตกแยกของกลุ่มเสื้อเหลืองนั้น
ทำให้เกิดความอ่อนแอย่างมากในกลุ่มผู้ต่อต้านทักษิณ
จนกระทั่งนำมาสู่ความพ่ายแพ้ในวันที่ 24 พย. ที่เสธ.อ้ายเป็นแกนนำ

แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง

จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน


#17 bangkaa

bangkaa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,104 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 15:49

ง่ายไม่ต้องคิดมาก มีไอ้พวกเสียงส่วนน้อยอยากเป็นใหญ่ ก่อหวอดเรื่องไม่เป็นเรื่อง เค้าจับได้ไล่ทัน สร้างเรื่องขึ้นมาโกหกใหม่ทันที พวกที่หัวอ่อนก็โดนกลืนกินกลายเป็นพวกซอมบี้ ทำอุบาทชาติชัวยึดสนามบิน ยึดทำเนียบ เอากันถุงยางกระจาย จนม๊าคต้องไปเก็บมาใส่ไว้บนหัว 555 ต่อมามีพวกโกรธแค้นพวกเฮียๆเหล่านี้โดยใส่สีแดง เป็นม๊อบที่ใหญ่สุดในไทยแล้วมั้ง ก่อกำเนิดเพราะความเกลียดสีขี้ ส่วนที่รักทักษิณน่าจะไม่ใช่ประเด็น ก่อนหน้าควายเหลืองถือกำเนิดไม่เห็นจะมีใครออกมารักทักษิณมากแบบนี้ แต่เพราะโดนกลั่นแกล้ง เค้าก็เลยรักกัน แค่นั้น



ต้องถามกันว่า...

เสียงส่วนใหญ่... ต้องถูกเสมอ ไม่สามารถ คัดค้าน ได้หรือไม่...
ทำไม มักจะอ้างกัน เพื่อเอาชนะคนอื่น (เลียนแบบนักการเมืองชอบอ้างกัน)


นักธุรกิจ การเมือง นั้น จัดได้ว่า เป็นอภิสิทธิชน ทีเดียว...
มีอำนาจสั่งคนอื่นให้ทำการใด หรือ ไม่ทำการใดได้
การเอาผิด กับ นักการเมืองผู้มีอำนาจ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย


มันเป็นจริงถึงเพียงนั้นเลยหรือ ที่ แม้ว ถูกกลั่นแกล้ง...
จริงอยู่ คุณอาจมองเห็นในด้านดี ของแม้ว
แต่ ด้านไม่ดี ก็มี... ทำไมจึงต้อง ออกมาปกป้องกันอย่างสุดตัวอย่างนั้น...

ไม่ต้องไปคิดหรอกว่า หากคนที่เราชอบ ที่เราเลือก ผิด... แล้ว เรา(คนที่เลือก) จะผิดไปด้วย...
มันไม่มีประโยชน์...
มันผิด ต่อส่วนรวม มากกว่า...


คนที่ เขาท้วง เขาว่า เขาติ เขาด่า....
ก็ใช่ว่า จะต้องไป เกลียดเขาอะไรนักหนา.....

ยึดทำเนียบ ชุมนุมสนามบิน มันคงไม่ใช่อะไรที่ถูกต้องนัก...
นักการเมือง โกงชาติ หลอกแดรก ประชาชน ก็ ไม่ถูกต้อง เช่นกัน
มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ...

#18 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 15:50

ง่ายไม่ต้องคิดมาก มีไอ้พวกเสียงส่วนน้อยอยากเป็นใหญ่ ก่อหวอดเรื่องไม่เป็นเรื่อง เค้าจับได้ไล่ทัน สร้างเรื่องขึ้นมาโกหกใหม่ทันที พวกที่หัวอ่อนก็โดนกลืนกินกลายเป็นพวกซอมบี้ ทำอุบาทชาติชัวยึดสนามบิน ยึดทำเนียบ เอากันถุงยางกระจาย จนม๊าคต้องไปเก็บมาใส่ไว้บนหัว 555 ต่อมามีพวกโกรธแค้นพวกเฮียๆเหล่านี้โดยใส่สีแดง เป็นม๊อบที่ใหญ่สุดในไทยแล้วมั้ง ก่อกำเนิดเพราะความเกลียดสีขี้ ส่วนที่รักทักษิณน่าจะไม่ใช่ประเด็น ก่อนหน้าควายเหลืองถือกำเนิดไม่เห็นจะมีใครออกมารักทักษิณมากแบบนี้ แต่เพราะโดนกลั่นแกล้ง เค้าก็เลยรักกัน แค่นั้น


เริ่มจากมีคนแบบนี้แหล่ะครับ :D

“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#19 DOLBY DIGITAL

DOLBY DIGITAL

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 284 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:15

ขอตอบจากคำถามจากหัวข้อกระทู้ง่ายๆเลยว่า สาเหตุมาจาก " ทักษิณ "
ดันเอานักธรุกิจมาเป็นนักการเมือง ก็เลยคิดทุกอย่างเป็น ต้นทุน กำไร ไปเสียหมด


ผมอยากได้นักการเมือง ที่มีจิตวิญญาณ ของนักการเมืองจริงๆครับ
เสียสละตนเพื่อส่วนรวม เพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ

สิ่งที่ควรปฏิรูปที่สุดไม่ใช่การเมือง แต่เป็นนักการเมือง

" นรชาติวางวาย  มลายสิ้นทั้งอินทรีย์

  สถิตทั่วแต่ชั่วดี  ประดับไว้ในโลกา "


#20 บุคคลทั่วไป

บุคคลทั่วไป

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:32

การที่กล่าวหาว่าคนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าทักษิณผิด ถามเจ้าของกระทู้หน่อยว่าเชื่อว่าทักษิณถูกต้องไม๊คะ แล้วคิดว่าทักษิณโกงหรือเปล่า เราไม่ได้เชื่อโดยใคร แต่ใช้วิจารณญาณและสิ่่งเราเห็นต่างหาก ไม่ได้เกิดจากอคติ แต่เกิดจาการสำนึกรักแผ่นดินที่เราอยู่ และหวงแหนแผ่นดินที่เราอยู่ ใครก็ตามที่คิดทำร้ายประเทศไทยคนนั้นก็ต้องได้รับโทษและบทลงโทษ สมควรแล้ว


อยากบอกเหมือนกันครับว่าไม่ได้อยากมีสี แต่เกลียดทักษินและขี้ข้าครับ
ความพึงพอใจของคนโง่ คือ หายนะ

#21 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:42

มันเริ่มมาหลายสิบปีแล้ว ... นานมาก

จาก การที่โรงเรียนต่างๆปลูกฝังให้เด็ก แบ่งแยกด้วยการ จัด

กีฬาสี...


ดังนั้น ตอนนี้ เด็กสมัยนั้นที่โตขึ้นมาแล้วไม่มีความคิด... พอเจอคนแปลกหน้าตามเวป
ได้อ่านความเห็นต่าง แล้ว ไม่ถูกจริต...
ถามก่อนเลย เองสีไหน อย่าแอ็บ...
หรือ บางท่าน ตรัสรู้ได้เอง... จับเค้าเป็นฝ่ายตรงข้ามก่อนเลย...
:D




กีฬาสีทำให้แตกแยก โอ เแม่เจ้า...เพิ่งรู้นะเนี่ย


แล้วใช้คำว่าตรัสรู้ด้วย เก่งจัง :rolleyes:

Edited by pinkpanda, 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:44.


#22 นารายณ์สังหาร

นารายณ์สังหาร

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,097 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:42

เห็นด้วยตามคุณมังกือดำครับ แต่ขอเสริมนิด ทำไมคนกลุ่มนี้ถึงใช้สีแดง.....และทำไมจึงเป็นแหล่งรวมคนล้มสถาบัน

ในหลวงของพวกเราทรงพระราชสมภพในวันจันทร์ สีประจำวันคือสีเหลือง .... สีแดง คือสีที่ป็นกาลกิณีต่อพระองค์ นี่คือสาเหตุนึงที่คนกลุ่มนี้ใช้สีแดงในการพยายามล้มสถาบัน.. ข้ออ้างกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง หรือกลุ่มอะไรก็ตามแล้วเอาเสื้อสีแดงมาเป็นสัญลักษณ์อะไรก็ตามนั้น ล้วนเกี่ยวพันกับเรื่องพวกนี้ทั้งสิ้น บางท่านอาจจะมองว่างมงาย แต่ศาสตร์พวกนี้บางครั้งก็สร้างอะไรแปลกๆหลายๆครั้ง

ไม่เชื่อลองดูสิครับว่า ในการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของประเทศเราแต่ละครั้ง ดาวแต่ละดวงอยู่ที่ไหน ...... และหลังวันที่ 16 ไป ...ดาว เหล่านั้นจะเข้าตำแหน่งอีกครั้ง ...ก็หวังว่าให้ประเทศของเราภายใต้พระบารมีจงพ้นภัย อันตรายทั้งปวงจากพวกที่มีสีเป็น "กาลกิณี" ต่อในหลวงของพวกเราครับ
ข้าพุทธเจ้า จักยอมตาย..เพื่อจะดำรงค์ไว้..ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ..แห่งพระมหากษัตริย์เจ้า

#23 ปลายแสง

ปลายแสง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 446 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:54

เริ่มต้นมาจาก เสื้อเหลือง โดยการนำของแป๊ะลิ้ม ออกมาประท้วงไล่ทักษิณ
ทักษิณไม่ยอม เพราะบอกว่า ตัวเองชนะเลือกตั้งมา
ก็จัดตั้งกลุ่มม๊อบฝั่งตรงข้ามขึ้นมาต่อต้าน ตอนนั้น เนวิน เริ่มตั้ง สมัชชาคนจน เดินทางโดยรถอีแต๋นเข้ากรุงเทพ

พอดีมี ปฏิวัติก่อน ซึ่ง ทักษิณต้องลงจากอำนาจ
ปกติแล้ว เมื่อ ปว.และลงจากอำนาจแล้ว ก็จะต้องวางมือทั้งหมด
แต่ทักษิณ ไม่ยอม ใช้เงินที่มีอยู่เยอะ จัดตั้งกลุ่ม นปช. ขึ้น เริ่มต้นเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร
จุดเริ่มต้นของเสื้อแดง ก็เกิดขึ้นจากตรงนี้
ตั้ง ม๊อบขึ้นมา แล้ว ใส่ม๊อตโต้เข้าไปทีหลังว่าเป็นพวกอุดมการณ์รักประชาธิปไตยเหลือเกิน
นปช. ใช้คำว่ารัฐประหาร เพื่อเรียกร้องให้นิรโทษกรรมให้ทักษิณ
จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็น ไพร่ อำมาตย์
หนักเข้าเรื่อยๆ ก็เผาบ้านเมืองซะเลย
ความร้าวฉานในบ้านเมืองก็ยิ่งหนักขึ้น
เสื้อแดงและนปช. เป็นจัดตั้ง แต่เมื่อมีการกระจายแนวคิดผ่านหมู่บ้านเสื้อแดง
การโฆษณาชวนเชื่อผ่านเวปไซต์ และ ยูทูป หมิ่นสถาบัน
ทำให้ความแตกแยกยิ่งฝังรากลึกยิ่งขึ้น
จุดแข็งของเสื้อแดง คือ เงินทุนแน่น การจัดการเป็นเอกภาพ สั่งเผาคือเผา

หันมามองสีเหลือง
เมื่อ พรรค ปชป.เป็นรัฐบาล 2 ปี ก็เริ่มเกิดปัญหา
คือพรรคปชป.ก็ซวยจริงๆ เจอทั้งแดงทั้งเหลือง
เริ่มจากการประท้วงเพื่อปกป้องเขาพระวิหาร
จนกระทั่งกลายมาเป็นการประท้วงไล่ พรรคปชป.
ช่วงนี้ มีการแตกแยกทางความคิดอย่างหนัก
ระหว่าง พันธมิตรที่ ชอบ ปชป. และ อิสระชน
ความแตกแยกกันเริ่มที่ต่างก็ต่อว่ากันและกัน
จนแนวร่วมก็หายไปส่วนหนึ่ง ออกไปเป็นกลุ่มเสื้อหลากสี และ อีกหลายกลุ่ม
การแตกแยกตรงนี้ เกิดจาก ความเห็นที่ไม่ตรงกันในเรื่องนโยบาย บริหารบ้านเมือง
ก็เลย แยกกัน ออกไป

ความแตกแยกของกลุ่มเสื้อเหลืองนั้น
ทำให้เกิดความอ่อนแอย่างมากในกลุ่มผู้ต่อต้านทักษิณ
จนกระทั่งนำมาสู่ความพ่ายแพ้ในวันที่ 24 พย. ที่เสธ.อ้ายเป็นแกนนำ

ถูกต้องที่สุดนี่คือที่มาที่ไปโดยแท้จริง...เพิ่มเติมให้อีกว่า เดิมทีกลุ่มพันธมิตรก็ไม่ได้ตั้งใจใส่เสื้อเหลืองมาชุมนุม แต่เหตุว่าปีนั้นมีการรณรงค์ตามหน่วยงานรัฐและเอกชนให้ใส่กันไปทำงานด้วย คนทั่วไปก็ซื้อมาใส่กันจนเป็นที่นิยม เมื่อเกิดการชุมนุมของพันธมิตรและจุดติดขึ้นมา คนที่ไปฟังปราศัยหลังเลิกงานจากที่ทำงานต่างๆ ก็สวมเสื้อเหลืองติดตัวไปด้วย...นานเข้าจึงกลายเป็นสัญญลักษณ์อัตโนมัติ
.....แต่ไอ้ที่ตั้งใจให้แตกแยกแตกต่าง ยุแยงตะแคงรั่ว ให้ความคิดคนไทยที่รู้ไม่ทันข่าวสารก็คือไอ้พวกแกนนำแดงเลวๆทุกวันนี้ที่รับเงินไอ้แม้วมาเคลื่อนไหวให้มันวุ่นวายทั้งประเทศ...สังเกตุง่ายเสื้อกูก็ใช้เป็นสีแดงซะ...มึงใช้มือตบ กรูก็ทำตีนตบขึ้นมาไม่ให้เหมือนกัน เป็นต้น ...ทีนี้รู้หรือยังต้นเหตุความระยำทำไทยแตกแยกมันมาจากคนกลุ่มไหน

Edited by ปลายแสง, 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:58.


#24 Anubitz

Anubitz

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,506 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:12

ปล.ผมรู้สึกว่าปัญหาสีเสื้อจริงๆมันเกิดจากปัญหาแค่เรื่องเดียว แต่ทุกวันนี้มันถูกคนกลุ่มเดียวเบี่ยงประเด็นให้มีหลายปัญหาไปต่างๆนานา เช่น ปัญหาชนชั้นบ้าง ปัญหาแนวความคิดทางการเมืองบ้าง ปัญหาความไม่เท่าเทียมบ้าง ฯลฯ ซึ่งปัญหาเหล่านี้มันตอบยากที่จะบอกว่าใครถูกหรือผิด (จากปัญหาผิดถูกทางกฎหมายซึ่งเป็นปัญหาที่แน่นอนกลายเป็นปัญหาทางความคิด อุดมการณ์ซึ่งไม่มีผิดมถูกที่แน่นอน) และมันทำให้หลายคนไม่แน่ใจว่าฝ่ายไหนผิดหรือถูกกันแน่ (ซึ่งผมว่า เพื่อนผมก็น่าจะคิดว่าปัญหาสีเสื้อเกิดจากปัญหาทางแนวความคิดทางการเมืองที่แตกต่าง จึงเกิดอคติ และไม่ยอมกันขึ้น)


ประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละครับ ฮาๆ :lol:

แล้วเรามาดูกันว่าเมื่อคนกลุ่มนี้เบี่ยงประเด็นแล้วทำให้คน คนนึงเป็นอย่างไร นี่คือ ตัวอย่าง

ตัวอย่าง

เริ่มจากสนธิ ลิ้ม กับ พวกชอบ ปชป ใช้เสื้อเหลืองเป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงข้าม
เสื้อเหลืองไม่ชอบประชาธิปไตย เพราะ เลือกตั้งทีไรแพ้ตลอด
ถึงได้สมยอมให้เกิดรัฐประหาร
ยกตัวอย่างอย่างกรณีม๊อบเสธอ้าย ที่ตอนแรกเปิดตัวเลยจะแช่แข็งประเทศไทย จะไม่ให้มีเลือกตั้ง 5 ปี
พอรู้ตัวว่าคนไม่ชอบ ก็แถไปว่า แช่แข็งนักการเมือง (เฉพาะฝ่ายตรงข้าม)
และถึงขนาดเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติอีกรอบ พวกกองเชียร์ปชป ก็ไม่เคยคิดห้ามปราม
เพราะเขารู้ว่า ตราบใดที่ยังให้ประชาชนเลือกตั้งและฝ่ายตรงข้ามลงแข่ง เขาจะแพ้


เรื่องของเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับ ชอบ - ไม่ชอบ ประชาธิปไตยเลยซะด้วยซ้ำ ฮาๆ (เพราะคนเกือบทั้งประเทศยึดหลักประชาธิปไตยทั้งนั้น ยกเว้น คอมหลงยุค)
แต่อำนาจหรือพลังของการเบี่ยงเบนประเด็น ก็ทำให้คน คนนี้ เชื่อว่าฝั่งตรงข้ามไม่ชอบปรชาธิปไตย ในขณะที่ฝ่ายตน กระทำสิ่งใดก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตยทุกอย่าง ^_^

#25 isa

isa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 447 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:33

ในความเห็นของผม มันมาจากปัญหาของการเมืองภาคชนบทกับภาคเมืองครับ แต่ถูกบุคคลหรือกลุ่มบุคคลนำไปใช้ประโยชน์จนเละเทะ บ้านเมืองเราเลยติดกับไปไหนไม่ได้

ขออ้างถึงทฤษฎี 2 นครา ที่มาของความขัดแย้ง นั่นก็คือนักการเมืองส่วนใหญ่จะโดนเลือกมาจากการเมืองภาคชนบท ซึ่งจะมีลักษณะเฉพาะตัวคือการพึ่งพาอาศัยกัน กับการเมืองภาคเมืองหรือคนชั้นกลางซึ่งเน้นหนักที่หน้าที่และกติกา ปัญหาก็คือนักการเมืองส่วนใหญ่ที่ถูกเลือกมาจากภาคชนบทนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้คุณภาพ มักจะมีปัญหาเรื่องความรู้ ความสามารถ และเรื่องการแย่งชิงผลประโยชน์ขาดกติกา แต่นักการเมืองที่รู้มากตัวแสบๆอย่างบิ๊กจิ๋ว ฯลฯ ก็จะพยายามเพิ่มสัดส่วนคนของตัวเองให้ได้เลือกตั้งเยอะๆ ไม่ว่าด้วยการแบ่งเขตหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เมื่อรัฐบาลของรากหญ้าที่เข้ามาและดำเนินนโยบายแบบไม่มีคุณภาพ ท้ายที่สุดก็จะโดนการเมืองภาคของคนชั้นกลางกดดันให้ต้องออกไป และมีการผลักดันให้มีการออกรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมา เพื่อควบคุมนักการเมืองให้ได้มากที่สุด และแน่นอนว่าคนที่จะโดนหนักกว่าก็คือนักการเมืองจากชนบทน่ะแหละ เพราะความทะเล่อทะล่า โกงกันซึ่งๆหน้าแบบหน้าด้านๆที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกนี้ยอมได้ยาก จนโดนสังคมกดดันให้ต้องยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับปี 49 (ผมอาจจะจำผิดนะ) ซึ่งว่ากันว่าเป็นฉบับที่ดีที่สุด

ปกติแล้วชนบทนั้นจะมีความเกรงใจภาคเมืองอยู่ แม้คนของตัวเองจะโดนภาคเมืองกดดันออกหลายครั้ง แต่ก็ยังยอมรับกันได้ว่ามันเป็นการคัดคุณภาพของนักการเมือง แม้จะมีความไม่พอใจอยู่บ้างก็ตาม

ในยุคที่บักเหลี่ยมทักษิณ ขึ้นมามีอำนาจ ก็อาศัยเครือข่ายของตัวเองควบคุมองคาพยบหลักๆของประเทศไว้แทบทั้งหมด ในสายศาล ก็มีน้องเขย โนบิตะสมชาย ในสายตำรวจ ก็มีพวกดามาพงศ์ ในสายทหาร ก็มีสายพี่ชายของตัวเองอยู่ แถมมีก.ล.ต. 3 หนาห้าห่วงไว้ในสายองค์กรอิสระ จากการเนียนวางกำลังของบักเหลี่ยม ทำให้องค์กรตรวจสอบของรัฐธรรมนูญใหม่เป็นอัมพาตไปโดยสิ้นเชิง ส่วนองค์กรในสภาน่ะ อยู่ในอันดับแรกๆที่เป็นง่อยแล้วล่ะครับ แถมยังมีกระบวนการล้มสื่อ บีบสื่อที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามตัวเองให้ไม่มีที่ยืน เมื่อกระบวนการตรวจสอบในระบบล้มเหลว ความอึดอัดคับข้องของประชาชนชั้นกลาง ก็ผลักดันให้ประชาชนออกไปสู่ท้องถนน และเมื่อมีการจุดไฟขึ้นมาโดยแป๊ะลิ้ม ที่เริ่มรายการเมืองไทยสัญจรที่สวนลุมขึ้นมา สังคมไทยที่เหมือนฟางที่แห้งกรอบอยู่แล้วก็ลุกพรึ่บทันที ขบวนการต่างๆขานรับกันอย่างคึกคัก นั่นคือจุดกำเนิดของพวกเสื้อเหลือง ที่ภายหลังจะมีการแยกตัวออกมาเป็นสีอื่นๆ เนื่องจากความขัดแย้งกับแกนนำ

แต่บักเหลี่ยมยังมีอีกอาวุธที่ยังไม่ได้ใช้เต็มที่เนื่องจากยังไม่ไว้ใจ ก็คือพวกซ้ายอกหักคนเดือนตุลา 19 พวกนี้ก็แนะยุทธศาสตร์ใหม่ให้ทำแบบเหมา คือหนีออกชนบท เอาชนบทเป็นหลังอิง เริ่มทัวร์นกขมิ้นเพื่อหาเสียงจากชนบท และมีการเริ่มนำคาราวานคนจนเข้ามาป่วนในกรุง นั่นแหละคือเชื้อชนวนของความแตกแยกแรก เพียงแต่เรายังไม่เห็นเสื้อสีที่ชัดเจน

อย่างไรก็ดี การปฏิวัติหน่อมแน้มครั้งที่ผ่านมา ทำให้ศึกครั้งนี้ถูกเลื่อนไปหน่อย แต่ด้วยความหน่อมแน้มของคณะปฏิวัติ หรือแม้แต่ประชาธิปัตย์เองก็เถอะที่ไม่ได้มีการดำเนินนโยบายยุทธศาสตร์ที่แข็งขัน ทำให้ไฟที่ถูกจุดขึ้นมาแล้ว ไม่ดับลงง่ายๆ แต่ลุกลามออกไป

นั่นก็คือบักเหลี่ยมที่ถูกปฏิวัติ ควรจะพ่ายแพ้ไปแล้ว คราวนี้ก็เลยต้องไปอาศัยพวกคอมมิวนิสต์เดือนตุลาเต็มตัว บรรดาเหล่าอาจารย์ซ้ายจ๋าทั้งหลาย รวมทั้งพวกที่ระแวงทหารจนขึ้นสมอง แค่เห็นการปฏิวัติก็กรี๊ดกร๊าดสติแตก ก็พากันมารวมหัว สร้างบักเหลี่ยมให้มีภาพเป็น "วีรบุรุษประชาธิปไตย" โดยเน้นจุดขายซ้ำๆซากๆที่ว่า "มาด้วยเสียงส่วนใหญ่" มีการเผยแพร่ความคิดผ่านสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นวิทยุชุมชน หรือแม้แต่ดาวเทียมที่เสื้อเหลืองไปเบิกทางไว้ให้ การเผยแพร่ก็คือการโฆษณาชวนเชื่อของคอมมิวนิสต์ที่ไปเรียนผ่านเขมรแดง หรือผ่านจีนแดงยุคเหมาน่ะแหละ ถ้าท่านนั่งคุยกับพวกรากหญ้าแดง จะรู้เลยว่าพวกนี้โดนอัดข้อมูลแบบไหนมา ทั้งเรื่องชนชั้น บลาๆๆๆ ซึ่งฟังไงๆก็รู้ว่านี่มันคอมฯ ชัดๆ นั่นแหละคือจุดกำเนิดของเสื้อแดง ซึ่งถ้าเป็นคนที่สูงวัยนิด ก็น่าจะรู้ได้ทันทีว่าสีแดงมันหมายถึงอะไร

และทำไมเสื้อแดงส่วนใหญ่ถึงนิยมความรุนแรง (ถ้าลองพลิกกลับไปดูพฤติกรรมของเยาวชนเหมา หรือแม้แต่พวกคอมฯสายเหมาอิสต์ ที่ก่อปัญหาอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลก จะรู้ว่าพวกนี้จริงๆแล้วเป็นพวกอนาคิสต์ นิยมความรุนแรง พวกระดับหัวกะทิที่ไปอบรมมา ก็ผ่านเขมรในยุคพลพต ที่ล้างผลาญเผ่าพันธ์คนเขมรนั้นเอง ก็เอาวิชานั้นแหละมาถ่ายทอดให้บรรดาสาวก) ทักษิณเลยได้แก้วสามประการมาไว้ในมือ ทั้งนักการเมืองขายตัวในสภา คนเสื้อแดงที่เป็นฐานมวลชน และอีกอย่างก็คือชายชุดดำที่น่าจะเป็นทหารพรานเก่าที่เซ้งมาจากบิ๊กจิ๋ว พ่อใหญ่ของพวกทหารพราน และส่งไปฝึกลับกับฮุนเซน ที่เป็นพันธมิตรกัน นั่นก็คือขบวนการคนเสื้อแดง เป็นขบวนการผ่านการจัดตั้ง ในรูปแบบของคอมมิวนิสต์นั่นเอง เริ่มจากการปลุกระดมมวลชน สร้างฐานมวลชน สร้างมวลชนติดอาวุธ รวมถึงเครือข่ายนักโพสต์ไซเบอร์ ไม่ใช่มวลชนธรรมชาติแบบเเสื้อเหลือง

ถ้าไปคุยกับพวกแดงจะรู้ได้อย่างหนึ่งว่า พื้นฐานคนพวกนี้ไม่นิยมกฎกติกา เพราะจริงๆแล้วขาดความสามารถที่จะแข่งขันตรงๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะขี้เกียจ ขาดความรู้ความเข้าใจ ไม่ประเมินตนเองก็ตาม แต่นิยมใช้เส้นสาย พรรคพวก ซิกแซก จะว่าไปก็คือเป็นโคลนติดล้อของประเทศ แต่กลายเป็นว่าเราแตะต้อง วิจารณ์คนกลุ่มนี้ไม่ได้เลย เพราะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งให้ท้าย

คนนี้ที่ผมขอประนามว่าเป็นพวกหนึ่งที่เลวทรามที่สุดของประเทศ ก็คือกลุ่มอาจารย์นิยมซ้าย ทั้งกลุ่มม.เที่ยงคืนหรือธรรมศาสตร์เองก็ตาม ที่มองคนชั้นกลางที่ออกมาต่อสู้เพื่อความถูกต้องว่าเป็นแค่พวกนายทุนน้อยที่ออกมารักษาผลประโยชน์ ริบความเป็นวีรบุรุษไปจากประชาชนที่ต่อสู้ด้วยมือเปล่ามาทุกยุคสมัย ไปยัดเยียดให้กับโจรเผาบ้านเผาเมืองที่ถูกจ้างวานมา หรือถูกปั่นหัวให้เกลียดชังกันจากกลุ่มผู้หลงไหลลัทธิคอมมิวนิสต์ตกยุคที่คร่าชีวิตคนมาแล้วนับร้อยล้านคนทั่วโลกนั่นเอง ถือว่าเป็นคนอสัตย์ที่ไม่คู่ควรกับความเป็นอาจารย์เลยแม้แต่น้อย

และนั่นคือที่มาเบื้องต้นของสองสีเสื้อในความคิดของผมครับ

#26 pop2518

pop2518

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 941 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:51

ผมคิดว่า คำว่าเหลือง แดง มันกลายเป็น จุดร่วมของแนวความคิด มากกว่าสีเสื้อไปแล้ว และผมว่ามันเบี่ยงเบนไปเยอะด้วย
ส่วนตัวผม มีเสื้อทุกสี เรียกว่าสลิ่มดีมั้ย จะใส่สีอะไรมันมีชื่อเรียกได้หมดเลยสิน่า

#27 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:54

ขอแจมค่ะ...

เริ่มต้น...กรณีซุกหุ้น 1 ที่มาพร้อมวาทกรรม..บกพร่องโดยสุจริต..และได้รับโอกาสให้แก้ไข
แม้บางกลุ่ม บางท่านอาจจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ยอมรับในคำพิพากษา...แต่ก็ไม่ได้ทำให้สำนึก
กลับทำให้กระหยิ่ม และเริ่มมองเห็นหนทาง เริ่มเทคโอเวอร์พรรคเล็กพรรคน้อย เพื่อสร้าง
ฐานเสียงตามกรอบของประชาธิปไตย...และสันดานแห่งความโลภก็เข้าครอบงำ

ผลประโยชน์ที่ควรจะจัดสรรแบ่งปัน ตามที่เคยตกลงกันไว้ กลับบิดพลิ้ว ตะกละตะกราม
รวบรัดเอาไว้ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายนอกจากจะเสียผลประโยชน์แล้ว ยังมีแนวโน้มโดนตัดแข้ง
ตัดขา ตัดมือตัดเท้า หมดหนทางทำมาหากิน ก็ถอยร่นมาตั้งกองกำลังในที่สาธารณะ
บางกลุ่มที่ไม่พอใจ จากซุกหุ้น จากพรรคเล็กพรรคน้อยที่ไม่เห็นด้วยกับการเทคโอเวอร์
จากผู้ที่เสียผลประโยชน์ จากผู้ที่พลาดตำแหน่งอันพึงปรารถนา ก็รวมผสมคละเคล้า
จนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน....จึงต้องสร้างสัญญลักษณ์ขึ้นมาทดแทน...เยลโล่

จากกลุ่มเล็ก ๆ ค่อย ๆ เติบโต ด้วยแรงสนับสนุนของกลุ่มนักธุรกิจ นักวิชาการ นักการเมือง
ท้องถิ่น ช่วยกันขยายข้อมูลจริงที่แต่งเติมสีสันเข้าไป...ให้สะดุดใจ......

จนกระทั่งกลุ่มพรรคที่ยิ่งใหญ่เริ่มจะกลัว เริ่มหวาดระแวง มีสัญญาณบ่งบอกถึงอันตราย
ที่กำลังย่างกรายเข้ามา พรรคจะยิ่งใหญ่ปานใด ก็อาจจะล้มครืนลงได้...

มือขวานายใหญ่ จึงจัดตั้งกลุ่มขึ้นมา เพื่อสนับสนุนกลุ่มพรรคใหญ่ โดยรวบรวมกลุ่มนักสู้
ในช่วงปี 35 รวมกับนักการเมืองท้องถิ่นในระดับหมู่บ้าน โดยใช้สัญญลักษณ์ที่ร้อนแรง
ยิ่งกว่า...เรด...

จุดเปลี่ยนที่สำคัญอยู่ที่ว่า...กลุ่มที่ 2 กลับพลาดท่าโดนครอบงำจากซ้ายสุดขีด เพราะคิดว่า
จะยืมกำลัง มาสนับสนุนให้กลุ่มตัวเองใหญ่ขึ้น หน้ามืดตามัวหลงไหลอำนาจ จนลิ่มนึกไปว่า
อุดมการณ์ของกลุ่มซ้ายสุดๆ นั้นสุดจนเกินจะคาดเดา...สุดท้าย...มือขวาก็คุมมวลชนไม่อยู่
จนต้องอัปเปหิตัวเองออกมา...กลายเป็นปลาเน่าที่โดนไล่ออกจากกลุ่ม...

แทนที่นายใหญ่ที่ถอยทัพ ถอนกำลัง กลับกว้าถลำลึกลงไป....ขึ้นหลังเห้น้อยแล้วลงไม่ได้...

ด้วยจิตใจที่ยังฝักใผ่ในอำนาจ ในเงินตรา จนยอมทุกอย่าง อุดมการณ์เริ่มแปรเปลี่ยน
ด้วยแรงยุ ด้วยคำเยินยอ...และด้วยปัญญาเขลา ๆ จึงยอมให้กลุ่มซ้ายสุด ๆ เข้ากุมหางเห้
ไปไหนไปกัน....จนเป็นที่มาของการเปลี่ยนสัญญลักษณ์...เรด NPCH....

ซึ่งมีพฤติกรรมรุนแรง เด่นชัด วาทกรรม ชนชั้นเริ่มเข้ามาให้เห็น....

ในขณะที่ เยลโล่...เริ่มอ่อนกำลัง เพราะผู้นำเริ่มลุ่มหลงในอำนาจ คิดว่าตนนั้นรู้แน่รู้จริง
รู้ทุกอย่าง เก่งคนเดียวใน 3 โลก จนพลาดท่าลบหลู่สิ่งสูง....จะตั้งใจหรือไม่...ไม่ทราบ
ทราบแต่ว่า...สิ่งที่พลาดพลั้ง..ทำให้ความศรัทธาเสิ่อมถอย...อย่างที่เห็น

กีฬาสี...คงยากที่จะจบ คงทำได้เพียง อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ...

เพิ่มเติม..

กลุ่มการเมืองเก่า...เคราะห์ซ้ำกรรมซัด...พลาดเพียงแค่ครั้งเดียว ที่ลานชุมนุมใหญ่
โดนลากไปเชื่อมโยง กล่าวหาว่าฝักใฝ่ฝ่ายเดียวกัน...เมื่อมีโอกาสได้ขึ้นเป็นฝ่ายบริหาร
โดน เรด เล่นงานหนักหน่วง พ่วงท้ายด้วย เยลโล่ ทวงบุญคุณ เพราะคิดว่าได้ขึ้นเป็น
ฝ่ายบริหารเพราะ เยลโล่ เป็นผู้จัดให้...ทั้ง ๆ ที่ เป็นคนละเรื่องเดียวกัน

เรื่องของเยลโล่จบลงตั้งแต่ กย.49 และ โหวตรับ 50 เพราะมีการเลือกตั้ง มีนายกผ่านไปแล้ว 2
เรื่องของเรด...เพราะแพ้โหวตนายกครั้งที่ 3 ไม่มีน้ำใจนักกีฬา ขี้แพ้ชวนตี...

เรื่องก็มีเท่านี้

Edited by bird, 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:03.


#28 idolation

idolation

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,996 posts

ตอบ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:56

ทักษิณตาย.. ประเทศไทยรอด
รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ร่วมกันต้าน ตระกูลชินวัตร

#29 การเดินทางของหัวใจ

การเดินทางของหัวใจ

    น้องเก่า

  • Banned
  • PipPip
  • 142 posts

ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:07

ขอถกปัญหาสีเสื้อว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไร


สาเหตุมาจากทักษิณขายชาติ

พวกเราเลยต้องออกมากู้ชาติกันคับ

ไม่เชื่อถามใครในนี้ก็ได้ -_-

#30 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:18

เกิดจากนายกฯ บางคน ... พยายามเลี่ยงภาษี แก้กฏหมายเพื่อให้บริษัทของครอบครัวตัวเองได้ครับผลประโยชน์จากเงินภาษีประชาชน เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ตัวเอง ... แต่กลับมีกาสรบางตัวไม่เข้าใจ
อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#31 คนบูรพา

คนบูรพา

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,290 posts

ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:24

อุปโลกน์......สีกันขึ้นมาเอง.......แล้วล้างสมองด้วยความเกลียดชัง
ถ้าไม่คิดจะตอบแทนแผ่นดิน ก็จงอย่าทำลาย

#32 อาตี๋

อาตี๋

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,267 posts

ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 14:25

เข้ามาลงชื่อว่ายังอ่านอยู่

สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น


ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน