มัลลิกาพลาดนิดเดียว คนเกือบดัง รุมถลมกันใหญ่ แล้วเว็บฝรั่งไม่ต้องสนใจกฎหมายไทย?
#1
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:21
นภพัฒน์จักษ์ http://blog.noppatja...allikaboon.html
ลองอ่านสองท่านข้างบน ที่ท่านหนึ่งอ้านว่าเป็นแฟนปชป. มาโดยตลอด
จากข่าวนี้ http://astv.mobi/AEKZhUv รองโฆษกประชาธิปัตย์ แจง กรณีเรียกร้องปิดยูทูป-เฟซบุ๊ก เป็นมาตรการสุดท้าย ให้รัฐบาลเอาไว้่ขู่ หากหมดปัญญาจัดการเว็บหมิ่น
ส่วนตัวผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการบล๊อกfbหรือยูทูปหรอก เพราะมันมีแต่เสียมากกว่าได้ แต่มันจะเป็นจะตายอะไรหรือครับ กับการเอาไว้ขู่ให้เป็นมาตรการขั้นสุดท้าย?
แล้ว fb ยูทูป กูเกิล มาทำมาหากินในประเทศไทยแล้วทำไมไม่ต้องมาทำกฎหมายของประเทศไทยครับ?
หรือกฎหมายไทยมันเป็นกฎหมายประเทศเล็กๆ ฝรั่งมันจึงไม่แคร์ ทีประเทศจีน กูเกิลมันไม่ทำตามกฎหมายจึน กูเกิลกระเด็น เฟสบุ๊คไม่ได้เปิด!
fb กับ ยูทูป อาจผิด พรบ.คอมพิวเตอร์และ มาตรา112 ของไทยนะครับอย่าลืม
#2
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:29
#3
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:39
Thai people use FB and YouTube a lot. This can be used as a bargaining power.
If FB and YouTube don't agree with requests by Thai government, they may lose the entire Thai community.
It's just a tactics for negotiation.
However, the way Mallika presented her suggestions must be improved.
People can get easily confused if her contents are not properly presented, especially when she's dealing with freedom issue.
keywords can't be missed and must be emphasized.
She should present that if Anudit is too stupid to handle this issue, "here are my ideas.
No.1 ...
and if No. 1 doesn't work, do No.2 which is...".
In terms of law, the jurisdiction is blur depending on the bargaining power of each country.
USA favors law of origin. Western Europe favors law of destination.
That's why I said above that Thai government must pressure these service providers to follow our law, that is law of destination, by using first reasons and then number of users.
Red shirts perhaps were not born idiots, but are acting idiotically and will die idiots. What a poor creature!
Red shirts in the cyber world are merely contract posters. These dumb fucks are worthless pieces of shit.
Stupidity and incompetence of the walking botox will run have run Thailand to the ground.
The magnitude of this disaster would have decreased exponentially if proper water management had been applied in time like since the inception of the Bang-Ra-Kum model.
#4
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:42
เพราะร้อยละ ๙๙ เวลาค้นหาอะไรก็ใช้ google เป็นตัวเลขที่สวย
เราเป็นประเทศเล็กๆครับแต่มีผู้ใช้ facebook อันดับต้นๆของโลกครับ
แล้วอย่างนี้ทั้ง ๒ บริษัทจะไม่มองเชียวเหรอ? ขนาดเรามีนโยบายจะเปลี่ยนไปใช้
โอเพ่นซอร์สไม่โครซอฟต์ก็ดิ้นด้วยการปล่อย Starter Edition ออกมาขาย
ให้โรงเรียนได้ใช้ Ms Office ได้ฟรี คงไม่สำคัญเท่าใหร่หรอกสำหรับวงการไอทีโลก
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#5
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:45
อีกอย่างสมัย ปชป ผมเสียแอ็คเค้าเฟชบุคไปอันนึงเพราะไปอยู่ในกรุ๊ปที่ไม่ควรอยู่ ผมก็สมัครใหม่ก็เท่านั้นเอง ผมเข้าใจว่า ICT สามารถสั่งให้เฟซบุคดิสเอเบิลแอ็คเค้าไดๆก็ได้ตามกฏหมายไทย ซึ่งผมโดนไปแล้ว ส่วนเรื่องจะบล๊อคกรุ๊ปทำได้ไม๊ ผมตอบได้เลยว่าน่าจะได้ เพราะกรุ๊ปแต่ละกรุ๊ปมีไอดีเฉพาะอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องเอาไปเม้นต์มันรู้สึกว่าจะเป็นข่าวจากมติชน ประมาณว่าให้ปิดเฟซกับยูทูปไปเลย เป็นการเปลี่ยนประเด็นที่ได้ผลจริง เพราะคนส่วนใหญ่อ่านไม่กี่บรรทัดเฉพาะพาดหัวอยู่
ตลกว่ะประเทศกรุ คนที่ชี้ความผิดอีกคน กลายเป็นคนผิดซะเอง
#6
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:46
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#7
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:50
ผมก็คิดว่ามัลลิกาแค่ประชด จึงรู้สึกอยาก...ไอ้คนดังสองคนนั้นเหลือเกินผมได้ฟังที่คุณมัลลิกาออกรายการในช่องสีฟ้าที่เพื่อนๆในนี้มาแปะลิ้งของยูทูปเอาไว้ ผมก็เข้าใจว่าเค้าประชด รมต ICT เป็นนัยๆ ประมาณว่าถ้าควายนักคิดไรไม่ออกก็ปิดซะ ผมแปลด้วยความรู้สึกของผมเป็นการส่วนตัวจากการฟัง
อีกอย่างสมัย ปชป ผมเสียแอ็คเค้าเฟชบุคไปอันนึงเพราะไปอยู่ในกรุ๊ปที่ไม่ควรอยู่ ผมก็สมัครใหม่ก็เท่านั้นเอง ผมเข้าใจว่า ICT สามารถสั่งให้เฟซบุคดิสเอเบิลแอ็คเค้าไดๆก็ได้ตามกฏหมายไทย ซึ่งผมโดนไปแล้ว ส่วนเรื่องจะบล๊อคกรุ๊ปทำได้ไม๊ ผมตอบได้เลยว่าน่าจะได้ เพราะกรุ๊ปแต่ละกรุ๊ปมีไอดีเฉพาะอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องเอาไปเม้นต์มันรู้สึกว่าจะเป็นข่าวจากมติชน ประมาณว่าให้ปิดเฟซกับยูทูปไปเลย เป็นการเปลี่ยนประเด็นที่ได้ผลจริง เพราะคนส่วนใหญ่อ่านไม่กี่บรรทัดเฉพาะพาดหัวอยู่
ตลกว่ะประเทศกรุ คนที่ชี้ความผิดอีกคน กลายเป็นคนผิดซะเอง
#8
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:51
ถ้าโง่นักก็ ให้คนสนิททำก็ได้ เท่ดี ดูเป็นคนวงในดี
#9
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:54
แปลกพวกมัน ด่าคนแฉ ไม่ด่าคนดูแล ..
.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..
ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม
#10
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:56
คุณมัลลิกาเธอก็เสนอให้ทำเป็นขั้นตอนแต่แรกครับ แต่มีมติชนฉบับเดียวที่ฟาดหัวข่าวเสี้ยมThis tactics can be used to gain some leverage.
Thai people use FB and YouTube a lot. This can be used as a bargaining power.
If FB and YouTube don't agree with requests by Thai government, they may lose the entire Thai community.
It's just a tactics for negotiation.
However, the way Mallika presented her suggestions must be improved.
People can get easily confused if her contents are not properly presented, especially when she's dealing with freedom issue.
keywords can't be missed and must be emphasized.
She should present that if Anudit is too stupid to handle this issue, "here are my ideas.
No.1 ...
and if No. 1 doesn't work, do No.2 which is...".
In terms of law, the jurisdiction is blur depending on the bargaining power of each country.
USA favors law of origin. Western Europe favors law of destination.
That's why I said above that Thai government must pressure these service providers to follow our law, that is law of destination, by using first reasons and then number of users.
ถ้าอ่านเนื้อข่าวจะรู้ว่ามัลลิกาเสนอให้ทำจากเบาไปหาหนัก และถ้าอ่านข่าวของสำนักอื่นจะรู้ว่ามัลลิกาประชดทำนองว่าถ้าICTไม่มีปัญญาทำก็ปิดมันไปเลยมากกว่าให้ทำจริง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น....เสื้อแดงอ่านแต่พาดหัวข่าว
อันนี้มติชนพาดหัว
ปชป.ชงปิด "ยูทูบ-เฟซบุ๊ก" สกัดเว็บหมิ่นฯ
http://www.matichon....catid==
ผู้จัดการพาดหัว
“มัลลิกา” จี้ “รมว.ไอซีที” เร่งปราบเว็บหมิ่น-เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ
http://astv.mobi/AYyY9Fq
ข่าวเดี่ยวกันแต่มติชนสื่อเสียม
( ถ้าตามที่คุณNo more บอก หมายความว่า อเมริกันมันไม่สนใจกฎหมายไทยหรือครับ? )
#11
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 22:26
#12
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 22:27
เพราะตัวหนังสือมันไม่มีน้ำเสียง จะไปรู้ได้อย่างไรว่าประชดหรือไม่
ในฐานะรองโฆษก มัลลิกาควรจะระมัดระวังในการสื่อสารมากกว่านี้
ในเมื่อคุณไม่ใช่คนใหญ่โต ดังนั้นพื้นที่ข่าวที่นำเสนอก็จะไม่มีอะไรมากมาย
ดังนั้นการสื่อสารต้องมีประเด็นตรงเป้า อย่าพูดอะไรให้ชวนเข้าใจผิด
blog ของคุณนภพัฒน์จักษ์ ผมเห็นด้วยและคิดว่าเขาทำถูกแล้ว
สื่อจะนำเสนออะไร จะมัวแต่ไปผ่านนักการเมืองให้นักการเมืองเซนเซอร์ก่อนคงไม่ได้
ไม่งั้นสื่อจะมีอิสระได้อย่างไรถ้ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันขนาดนั้น
แล้วสิ่งที่เขานำเสนอก็ออกมาจากปากมัลลิกาจริงๆ ปฎิเสธไม่ได้
หน้าที่ของโฆษก ก็คือการสื่อสารอย่างรัดกุมและชัดเจน
หากพูดในสิ่งที่ชวนให้เข้าใจผิดได้ง่าย ก็เป็นความผิดของโฆษกเองที่ไม่พูดให้ดี
จะไปโทษคนอื่นคงไม่ถูกนักเพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของโฆษกที่จะสร้างความเข้าใจ
ไม่ใช่ไปสร้างความเข้าใจผิดแล้วบอกว่าทำไมไม่เข้าใจให้ถูก
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#13
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 22:43
( ถ้าตามที่คุณNo more บอก หมายความว่า อเมริกันมันไม่สนใจกฎหมายไทยหรือครับ? )
I'm no law expert here.
US companies are concerned with local laws but it will be their advantages if US laws can be applied since they are following those laws already.
Remember Yahoo's case, if I'm not mistaken, in France? Yahoo lost so they had to remove some Nazi contents from their sites.
But Yahoo also filed a law suit in USA as well to declare that they didn't have to follow French court.
Eventually, Yahoo blocked the access to those Nazi contents for France only.
What if I registered my company in an underdeveloped country that does not have Internet law at all?
Law of origin doesn't exist. Law of destination cannot be applied. Basically, nobody can hold my company accountable for anything.
Similar to what Tax-sin did?
What I'm saying here is that which one, between law of origin and law of destination, should be applied is debatable.
This implies that it depends on bargaining power of each country.
If you want to make them follow your rules, create more power to yourself first.
Keep in mind that I'm no law expert here.
Red shirts perhaps were not born idiots, but are acting idiotically and will die idiots. What a poor creature!
Red shirts in the cyber world are merely contract posters. These dumb fucks are worthless pieces of shit.
Stupidity and incompetence of the walking botox will run have run Thailand to the ground.
The magnitude of this disaster would have decreased exponentially if proper water management had been applied in time like since the inception of the Bang-Ra-Kum model.
#14
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 23:40
มัลลิกาพูดมาแบบนี้ จะให้คนเข้าใจเป็นแบบที่เธอพูด ก็คงไม่แปลก
เพราะตัวหนังสือมันไม่มีน้ำเสียง จะไปรู้ได้อย่างไรว่าประชดหรือไม่
ในฐานะรองโฆษก มัลลิกาควรจะระมัดระวังในการสื่อสารมากกว่านี้
ในเมื่อคุณไม่ใช่คนใหญ่โต ดังนั้นพื้นที่ข่าวที่นำเสนอก็จะไม่มีอะไรมากมาย
ดังนั้นการสื่อสารต้องมีประเด็นตรงเป้า อย่าพูดอะไรให้ชวนเข้าใจผิด
blog ของคุณนภพัฒน์จักษ์ ผมเห็นด้วยและคิดว่าเขาทำถูกแล้ว
สื่อจะนำเสนออะไร จะมัวแต่ไปผ่านนักการเมืองให้นักการเมืองเซนเซอร์ก่อนคงไม่ได้
ไม่งั้นสื่อจะมีอิสระได้อย่างไรถ้ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันขนาดนั้น
แล้วสิ่งที่เขานำเสนอก็ออกมาจากปากมัลลิกาจริงๆ ปฎิเสธไม่ได้
หน้าที่ของโฆษก ก็คือการสื่อสารอย่างรัดกุมและชัดเจน
หากพูดในสิ่งที่ชวนให้เข้าใจผิดได้ง่าย ก็เป็นความผิดของโฆษกเองที่ไม่พูดให้ดี
จะไปโทษคนอื่นคงไม่ถูกนักเพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของโฆษกที่จะสร้างความเข้าใจ
ไม่ใช่ไปสร้างความเข้าใจผิดแล้วบอกว่าทำไมไม่เข้าใจให้ถูก
ความยากของ ปชป. คือฐานเสียงเป็นปัญญาชนพร้อมคิดเอง ถูกผิดก็ว่าไปตามเนื้อผ้า
ความง่ายของ ผท.(เผาไทย) คือฐานเสียงเป็นรากหญ้า พร้อมให้แกนนำจูงไปทุกที่
แต่สำหรับผม ให้น้ำหนักสถาบันมากกว่าเฟสบุ๊ค ยูทูป ผมไม่ได้หมายความให้ปิด
แต่ควรเจรจาต่อรอง ดังนั้นผมจึงมองข้ามสิ่งที่มัลลิกาพลาดไปเพราะเป็นเรื่องเล็ก
แต่ทำอย่างไรให้จัดการกับยูทูปและเฟสบุ๊ค ที่มีข้อความหมิ่นประมาทสถาบันอย่างร้ายแรง อันนี้ผมให้น้ำหนักมากกว่า
#15
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 23:45
การไปถาม ตอบว่า อย่างนี้หมิ่นหรือไม่หมิ่น เป็นเรื่องปัญญาอ่อนที่ไปตัดสินเอง
เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อนครับ คนเล่นต้องละเอียดอ่อนด้วย
#16
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 23:50
มัลลิกาพูดมาแบบนี้ จะให้คนเข้าใจเป็นแบบที่เธอพูด ก็คงไม่แปลก
เพราะตัวหนังสือมันไม่มีน้ำเสียง จะไปรู้ได้อย่างไรว่าประชดหรือไม่
ในฐานะรองโฆษก มัลลิกาควรจะระมัดระวังในการสื่อสารมากกว่านี้
ในเมื่อคุณไม่ใช่คนใหญ่โต ดังนั้นพื้นที่ข่าวที่นำเสนอก็จะไม่มีอะไรมากมาย
ดังนั้นการสื่อสารต้องมีประเด็นตรงเป้า อย่าพูดอะไรให้ชวนเข้าใจผิด
blog ของคุณนภพัฒน์จักษ์ ผมเห็นด้วยและคิดว่าเขาทำถูกแล้ว
สื่อจะนำเสนออะไร จะมัวแต่ไปผ่านนักการเมืองให้นักการเมืองเซนเซอร์ก่อนคงไม่ได้
ไม่งั้นสื่อจะมีอิสระได้อย่างไรถ้ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันขนาดนั้น
แล้วสิ่งที่เขานำเสนอก็ออกมาจากปากมัลลิกาจริงๆ ปฎิเสธไม่ได้
หน้าที่ของโฆษก ก็คือการสื่อสารอย่างรัดกุมและชัดเจน
หากพูดในสิ่งที่ชวนให้เข้าใจผิดได้ง่าย ก็เป็นความผิดของโฆษกเองที่ไม่พูดให้ดี
จะไปโทษคนอื่นคงไม่ถูกนักเพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของโฆษกที่จะสร้างความเข้าใจ
ไม่ใช่ไปสร้างความเข้าใจผิดแล้วบอกว่าทำไมไม่เข้าใจให้ถูก
ความยากของ ปชป. คือฐานเสียงเป็นปัญญาชนพร้อมคิดเอง ถูกผิดก็ว่าไปตามเนื้อผ้า
ความง่ายของ ผท.(เผาไทย) คือฐานเสียงเป็นรากหญ้า พร้อมให้แกนนำจูงไปทุกที่
แต่สำหรับผม ให้น้ำหนักสถาบันมากกว่าเฟสบุ๊ค ยูทูป ผมไม่ได้หมายความให้ปิด
แต่ควรเจรจาต่อรอง ดังนั้นผมจึงมองข้ามสิ่งที่มัลลิกาพลาดไปเพราะเป็นเรื่องเล็ก
แต่ทำอย่างไรให้จัดการกับยูทูปและเฟสบุ๊ค ที่มีข้อความหมิ่นประมาทสถาบันอย่างร้ายแรง อันนี้ผมให้น้ำหนักมากกว่า
ผมมองว่า การตามหาตัวคนกระทำผิดมาลงโทษ สำคัญกว่าการไล่ปิด
ทุกวันนี้เปิดกันให้มั่ว ก็เพราะรู้ว่าอย่างมากก็โดนปิดแค่นั้น
ถึงปิดพวกนี้ ก็หนีไปออกรูอื่นอยู่ดี ถ้าไม่มีการลงโทษแล้วเขาจะหยุดทำไม
แถมกลายเป็นความภาคภูมิใจของพวกมันซะอีกที่ทำจนเฟสบุ๊คถูกบล็อกได้
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#17
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 23:56
ผมมองว่า การตามหาตัวคนกระทำผิดมาลงโทษ สำคัญกว่าการไล่ปิด
ทุกวันนี้เปิดกันให้มั่ว ก็เพราะรู้ว่าอย่างมากก็โดนปิดแค่นั้น
ถึงปิดพวกนี้ ก็หนีไปออกรูอื่นอยู่ดี ถ้าไม่มีการลงโทษแล้วเขาจะหยุดทำไม
แถมกลายเป็นความภาคภูมิใจของพวกมันซะอีกที่ทำจนเฟสบุ๊คถูกบล็อกได้
อันนี้เห็นด้วย แต่รัฐบาลแกล้งหลับตาข้างเดียวปล่อยให้เว็บหมิ่นแพร่กระจายก็ไม่รู้จะทำยังไง
พอส่งคนกล้าลุยๆออกมาจัดการ ก็ดันพลาดซะอีก
กลายเป็นคนลืมเรื่องเว็บหมิ่นไปสนใจมัลลิกาแทน ไอ้เซเล็บ ข้างบนนั้นก็อะไรนักหนาไม่รู้ อย่างนี้คนกล้าลุยก็หมดกำลังใจพอดี
งั้นถามริกุ2ข้อแล้วกัน
1. รัฐบาลไม่สนใจตามจับจะให้ทำยังไง
2. มัลลิกาลุยไป ปชป. ควรเปลี่ยนใครมาลุยแทน
#18
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:03
หากยังใช้แนวคิดเผด็จการ ปิดการสื่อสารของประชาชน มันขัดรัฐธรรมนูญ
#19
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:07
ฝรั่งเศษก็เคยสั่งปิดยูทูปเพราะละเมิดกฎหมายลิขสิทธิไม่ใช่พลาดนิดเดียว แต่เป็นการผิดพลาดในหลักการประชาธิปไตย
หากยังใช้แนวคิดเผด็จการ ปิดการสื่อสารของประชาชน มันขัดรัฐธรรมนูญ
แล้วทำไม ยูทูปหรือเฟสบุ๊ค ละเมิดกฎหมายไทยแล้วเราทำอะไรไม่ได้? ผมไม่ได้บอกว่าอยู่ๆก็สั่งปิดครับ ดูในแง่กฎหมายไทยด้วย
แต่ยังไงเสียที่สำคัญคือลากคอคนทำผิดมาลงโทษ
#20
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:08
จะปิดกั้นทั้งหมดย่อมไม่ได้ แต่หากผิดกฎหมายไทย เจ้าหน้าที่ของรัฐก็สามารถแจ้งเรื่องไปปิดเป็นกรณีๆ ไป
ไม่ใช่ปิดกั้นทั้งหมด ต้องทำความเข้าใจให้ชัดแจ้ง ไม่ใช่ไปอ้างแบบจีน นั่นมันเผด็จการ
#21
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:10
คุณคนบาป ผมไม่ได้บอกให้เอากฎหมายไทยไปบังคับทั่วโลก แต่ฝรั่งเข้ามาหากินในไทย ได้เงินจากไทย ก็ควรให้ความสำคัญกับกฎหมายไทย
ผู้ใช้ในประเทศไทยได้ถูกปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ยูทูบ ตั้งแต่คืนวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2550 หลังจากนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในขณะนั้น พยายามขอความร่วมมือหลายครั้ง ให้กูเกิลนำคลิปวิดีโอตัดต่อพระบรมฉายาลักษณ์ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ออก แต่ถูกปฏิเสธโดยได้ให้เหตุผลว่าคลิปวิดีโออื่นที่โจมตีประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช รุนแรงมากกว่านี้ ยังให้อยู่ได้
ซึ่งคลิปวิดีโอดังกล่าว[โปรดขยายความ] อัปโหลดโดยผู้ใช้ชื่อ paddidda เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2550 มีผู้ชมไปแล้ว มากกว่า 16,000 ครั้ง และมีมากกว่า 500 ความคิดเห็นด้วยกัน [4] [5] หลังจากที่ได้มีการออกข่าว จำนวนผู้ชมไปขึ้นไปถึงกว่า 66,553 ครั้งก่อนที่คลิปวิดีโอดังกล่าวจะถูกย้ายออกจากระบบ แม้ว่าคลิปวิดีโอได้ถูกเอาออกไปแล้ว แต่เว็บไซต์ยังคงถูกบล็อกต่อไป โดยนายสิทธิชัย โภไคยอุดมได้ให้เหตุผลว่ายังมีภาพตัดต่อพระบรมฉายาลักษณ์คงเหลืออยู่ และต้องการให้เอาออกทั้งหมด[6][7]
ในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ได้มีการยกเลิกการบล็อกเว็บไซต์ยูทูบ จนสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว หลังจากที่ยูทูบตกลงที่จะบล็อกวิดีโอที่มีการหมิ่นประมาทในไทยต่าง ๆ[8]
#22
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:14
แก้ปัญหแบบเผด็จการมันดูเหมือนง่าย แต่มันขัดรัฐธรรมนูญ เข้าใจยัง
กรณีไหนผิดก็เอาผิดเฉพาะรายเฉพาะตัว ไม่ใช่ไปปิดสื่อ ปิดหนังสือพิมพ์ ปิดโรงพิมพ์ ปิดสื่อใหม่ทั้งหมด
นั่นมันแก้ปัญหาแบบโง่ ๆ
คิดได้แค่นั้นอย่ามาเป็นรองโฆษกพรรคการเมือง
แค่หลักการง่ายๆ แค่นี้ ยังไม่สามารถสื่อให้เข้าใจง่ายๆได้
เก็บเอาไว้ไปถีบไอ้เก่งดีกว่า
อีกหน่อยเห็นคนขับรถผิดกฎจราจร ก็สั่งปิดถนนไม่ใช้ยังงั้นหรือเปล่า?
#23
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:16
นั่นนอกประเด็น คนละเรื่องอีกหน่อยเค้า SMS หมิ่นฯ เราจะไม่ต้องงดใช้โทรศัพท์กันทั้งประเทศหรือ?
#24
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:17
เพราะผมว่าคนที่เขาติ ในที่่นี้ หมายถึง คุณ ทฤษฎี ณ พัทลุง - เเละ คุณ นภพัฒน์จักษ์ เขาติในเเง่เจตนาที่ดีนะครับ
เเละ มันไม่น่าจะใช่การรุมถล่ม
เเต่ผมอยากจะให้คิดว่า ที่เขาติ เพราะเขาหวังดี ถ้าเขาไม่หวังดี เขาอาจจะไม่ติแบบนี้ เเละเขาจะหัวเราะเยาะชอบใจด้วยซ้ำ
#25
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:19
ผมมองว่า การตามหาตัวคนกระทำผิดมาลงโทษ สำคัญกว่าการไล่ปิด
ทุกวันนี้เปิดกันให้มั่ว ก็เพราะรู้ว่าอย่างมากก็โดนปิดแค่นั้น
ถึงปิดพวกนี้ ก็หนีไปออกรูอื่นอยู่ดี ถ้าไม่มีการลงโทษแล้วเขาจะหยุดทำไม
แถมกลายเป็นความภาคภูมิใจของพวกมันซะอีกที่ทำจนเฟสบุ๊คถูกบล็อกได้
อันนี้เห็นด้วย แต่รัฐบาลแกล้งหลับตาข้างเดียวปล่อยให้เว็บหมิ่นแพร่กระจายก็ไม่รู้จะทำยังไง
พอส่งคนกล้าลุยๆออกมาจัดการ ก็ดันพลาดซะอีก
กลายเป็นคนลืมเรื่องเว็บหมิ่นไปสนใจมัลลิกาแทน ไอ้เซเล็บ ข้างบนนั้นก็อะไรนักหนาไม่รู้ อย่างนี้คนกล้าลุยก็หมดกำลังใจพอดี
งั้นถามริกุ2ข้อแล้วกัน
1. รัฐบาลไม่สนใจตามจับจะให้ทำยังไง
2. มัลลิกาลุยไป ปชป. ควรเปลี่ยนใครมาลุยแทน
1. ปชป. ในฐานะฝ่ายค้าน ต้องหาช่องทางในการดำเนินการ และชี้ช่องให้รัฐบาลและประชาชนรับทราบ อย่างเช่นเว็บเอกชนอย่าง facebook หรือ youtube เขาต้องมีข้อมูลเก็บไว้หมดอยู่แล้วว่าใครโพสมาจาก ip ไหน เพียงแต่เขาจะให้เราหรือไม่ขึ้นกับนโยบายของเขา และการประสานงานของเรา
2. ตัวบุคคลผมไม่ทราบจริงๆ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดังก็ได้ ถ้าตัวอย่างคือ อ.ธงทอง ที่ทำหน้าที่โฆษกให้ ศปภ. ก็เป็นตัวอย่างของโฆษกที่ทำหน้าที่ได้ดี ที่ผ่านมา ปชป. ค่อนข้างมีปัญหากับโฆษกพรรค เหมือนกับคัดเลือกโฆษกมาเพื่อกัดกับโฆษกพรรคเพื่อไทย ผมว่าวัตถุประสงค์มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น อย่างน้อยโฆษกพรรคกับหัวหน้าพรรคน่าจะมีท่าทีที่คล้ายกันในความคิดของผม
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#26
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:20
????
#27
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:22
จนได้มาเปิดดูคลิปถึงได้เข้าใจว่า ประสาทแดกกันตามท่อนฮุค ที่ตัดมาสั้นๆ
ไม่ได้หาที่มา ที่ไป ใดๆ เสียดายค่าเทอม เสียดายค่าไฟ เสียดายทรัพยากรณ์โลกจริงๆ
#28
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:23
ทำไมไม่เสนอปิด โทรศัพท์มือถือทั่วประเทศ
#29
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:23
#30
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:25
ในกรณีนี้ คุณมัลลิกา เเรงไปนะครับ
เพราะผมว่าคนที่เขาติ ในที่่นี้ หมายถึง คุณ ทฤษฎี ณ พัทลุง - เเละ คุณ นภพัฒน์จักษ์ เขาติในเเง่เจตณาที่ดีนะครับ
เเละ มันไม่น่าจะใช่การรุมถล่ม
เเต่ผมอยากจะให้คิดว่า ที่เขาติ เพราะเขาหวังดี ถ้าเขาไม่หวังดี เขาอาจจะไม่ติแบบนี้ เเละเขาจะหัวเราะเยาะชอบใจด้วยซ้ำ
ที่ผมหมั่นไส้เพราะ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ ออกมาชี้แจงว่าการปิดเว็บไชต์ที่หมิ่นสถาบันนั้นทำได้ยาก เนื่องจาเว็บไซต์ดังกล่าวอยู่ต่างประเทศนั้น
เซเล็บหายไปไหน? สำหรับเซเล็บ เจ้ากระทรวงICT ยังบอกว่ายาก แต่มัลลิกาประชดใส่เป็นเรื่องใหญ่ งั้นประชาชนอย่างผมก็ขอลา วางอุเบกขาแล้วครับ
#31
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:25
คดีหมิ่นเบื้องสูงของอาก๋งนั่น ก็จาก SMS`
ทำไมไม่เสนอปิด โทรศัพท์มือถือทั่วประเทศ
ส่งเข้ามือถือผมๆก็ฟ้อง ไม่เห็นยาก
FB มันเปิดเผย ค่อนข้างเป็นสาธารณะ
#32
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:25
ดักดานกันไปหมดได้ยังไง
#33
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:28
คดีหมิ่นเบื้องสูงของอาก๋งนั่น ก็จาก SMS`
ทำไมไม่เสนอปิด โทรศัพท์มือถือทั่วประเทศ
ก็บอกว่ามันคนละเรื่อง
ถ้าคุณคนบาปส่งข้อความหมิ่นประมาทมาหาผม ผมก็ตามตัวง่าย
หรือถ้าส่งมาจากต่างประเทศ ก็เรื่องของลุง จะส่งให้เปลืองตัง
เพราะมันไม่แพรกระจายเป็นวงกว้าง
#34
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:29
ในกรณีนี้ คุณมัลลิกา เเรงไปนะครับ
เพราะผมว่าคนที่เขาติ ในที่่นี้ หมายถึง คุณ ทฤษฎี ณ พัทลุง - เเละ คุณ นภพัฒน์จักษ์ เขาติในเเง่เจตณาที่ดีนะครับ
เเละ มันไม่น่าจะใช่การรุมถล่ม
เเต่ผมอยากจะให้คิดว่า ที่เขาติ เพราะเขาหวังดี ถ้าเขาไม่หวังดี เขาอาจจะไม่ติแบบนี้ เเละเขาจะหัวเราะเยาะชอบใจด้วยซ้ำ
ที่ผมหมั่นไส้เพราะ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ ออกมาชี้แจงว่าการปิดเว็บไชต์ที่หมิ่นสถาบันนั้นทำได้ยาก เนื่องจาเว็บไซต์ดังกล่าวอยู่ต่างประเทศนั้น
เซเล็บหายไปไหน? สำหรับเซเล็บ เจ้ากระทรวงICT ยังบอกว่ายาก แต่มัลลิกาประชดใส่เป็นเรื่องใหญ่ งั้นประชาชนอย่างผมก็ขอลา วางอุเบกขาแล้วครับ
ทำไมไม่เสนอปิด เอสเอ็มเอสละครับ
ประเด็นของมันคือตัวช่องทางสื่อสารมันไม่ได้ผิด แต่คนเอาไปใช้ในทางที่ผิด
ก็ต้องไปจับคนผิด ไม่ใช่ไปไล่ปิดสื่อ มันจะบ้ากันแล้ว
เข้าใจเรื่องรัฐธรรมนูญเรื่องกรปิดสื่อกันบ้างมั๊ยเนี่ย
คุณจะหมั่นไส้ใคร มันก็ไช่เสนอให้ปิดสื่อ บ้าไปหรือเปล่า
#35
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:29
นี่ลุงอย่างเบี่ยงประเด็นดิ ถ้าผมรายงานแล้วมันลบให้ผมไม่ว่าเลย (ระดมพรรคพวกเป็นร้อยนะครับ) นี่รายงานจนเซ็งแล้ว เฟสบุ๊คยังลบให้บ้างพวกโง่ๆ ยังไม่รู้ว่า เฟซบุ๊ค เค้าก็มีปุ่มรายงาน ยูทูป ก็มีปุ่มรายงาน
ดักดานกันไปหมดได้ยังไง
แต่ยูทูปแทบไม่ลบเลย
#36
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:30
#37
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:31
ในกรณีนี้ คุณมัลลิกา เเรงไปนะครับ
เพราะผมว่าคนที่เขาติ ในที่่นี้ หมายถึง คุณ ทฤษฎี ณ พัทลุง - เเละ คุณ นภพัฒน์จักษ์ เขาติในเเง่เจตณาที่ดีนะครับ
เเละ มันไม่น่าจะใช่การรุมถล่ม
เเต่ผมอยากจะให้คิดว่า ที่เขาติ เพราะเขาหวังดี ถ้าเขาไม่หวังดี เขาอาจจะไม่ติแบบนี้ เเละเขาจะหัวเราะเยาะชอบใจด้วยซ้ำ
ที่ผมหมั่นไส้เพราะ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ ออกมาชี้แจงว่าการปิดเว็บไชต์ที่หมิ่นสถาบันนั้นทำได้ยาก เนื่องจาเว็บไซต์ดังกล่าวอยู่ต่างประเทศนั้น
เซเล็บหายไปไหน? สำหรับเซเล็บ เจ้ากระทรวงICT ยังบอกว่ายาก แต่มัลลิกาประชดใส่เป็นเรื่องใหญ่ งั้นประชาชนอย่างผมก็ขอลา วางอุเบกขาแล้วครับ
ทำไมไม่เสนอปิด เอสเอ็มเอสละครับ
ประเด็นของมันคือตัวช่องทางสื่อสารมันไม่ได้ผิด แต่คนเอาไปใช้ในทางที่ผิด
ก็ต้องไปจับคนผิด ไม่ใช่ไปไล่ปิดสื่อ มันจะบ้ากันแล้ว
เข้าใจเรื่องรัฐธรรมนูญเรื่องกรปิดสื่อกันบ้างมั๊ยเนี่ย
คุณจะหมั่นไส้ใคร มันก็ไช่เสนอให้ปิดสื่อ บ้าไปหรือเปล่า
นี่ลุงครับ ผมบอกว่าคนละเรื่องเพราะ SMS มันไม่ผิด พรบ.คอมพิวเตอร์
แต่ ยูทูปและเฟสบุ๊ค มีแนวโนมที่จะผิด พรบ.คอมพิวเตอร์
ผมว่าตามกฎหมาย ไม่ใช้ตามใจฉัน ถ้าว่าตามกฎหมายแล้วลุงว่าเป็นเผด็จการตรงไหน
#38
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:34
เรียนกฎหมายมาบ้างหรือเปล่า?
รู้มั๊ยว่ากฎหมายประเทศอื่นเค้าก็มีของเค้า
เผด็จการตรงที่ปิดกั้นการสื่อสารของประชาชนไง
มัลลิกาจะให้เอาแบบประเทศจีน เข้าใจประเด็นมั๊ยเนี่ย
#39
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:35
ที่ผมหมั่นไส้เพราะ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ ออกมาชี้แจงว่าการปิดเว็บไชต์ที่หมิ่นสถาบันนั้นทำได้ยาก เนื่องจาเว็บไซต์ดังกล่าวอยู่ต่างประเทศนั้น
เซเล็บหายไปไหน? สำหรับเซเล็บ เจ้ากระทรวงICT ยังบอกว่ายาก แต่มัลลิกาประชดใส่เป็นเรื่องใหญ่ งั้นประชาชนอย่างผมก็ขอลา วางอุเบกขาแล้วครับ
การที่คุณมัลลิกาออกมาสู้ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เเต่บางครั้งคุณมัลลิกา อาจจะสู้เเละอาจจะเผลอออกนอกเส้นทาง เเล้วมีคนมาติชมให้คุณมัลลิกาเข้าสู่เส้นทางต่อสู้ที่ควรจะเดิน ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีครับ
ผมขอย้ำตรงจุดนี้....
#40
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:39
ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์คุณไปใช้กับเว็บต่างประเทศได้ยังไง
เรียนกฎหมายมาบ้างหรือเปล่า?
รู้มั๊ยว่ากฎหมายประเทศอื่นเค้าก็มีของเค้า
เผด็จการตรงที่ปิดกั้นการสื่อสารของประชาชนไง
มัลลิกาจะให้เอาแบบประเทศจีน เข้าใจประเด็นมั๊ยเนี่ย
บังคับได้ครับ
เอา พรบ.คอมพิวเตอร์ไปนอนอ่านเล่นก่อนได้ครับ http://www.yenta4.com/law/document.php
ประเด็นขอบคนบาปคืออะไรผมไม่รู้ เพราะเกิดไม่ทันเผด็จการทหาร
แต่ประเด็นของผมคือ ฝรั่งมาหากินค่าโฆษณาในเมืองไทย ก็ควรทำตามกฎหมายไทย
มาตรา ๑๗ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ
(๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ
(๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ
จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร
#41
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:43
ถ้าจะไปบังคับเว็บต่างประเทศต้องไปฟ้องศาลต่างประเทศ
หากฟ้องศาลไทยก็ได้แค่เมืองไทย แตมันได้ผลจริงหรือ?
แต่สิ่งที่สังคมกำลังรุมด่ามัลลิกา คือเสนอปิดแบบจีน เข้าใจยัง
นั่นแหละคือประเด็นความโง่ของรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์
#42
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:47
#43
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:48
เป็นเรื่องเฉพาะราย ไม่ใช่ไปปิดกั้นทั้งหมด
ถ้าจะไปบังคับเว็บต่างประเทศต้องไปฟ้องศาลต่างประเทศ
หากฟ้องศาลไทยก็ได้แค่เมืองไทย แตมันได้ผลจริงหรือ?
แต่สิ่งที่สังคมกำลังรุมด่ามัลลิกา คือเสนอปิดแบบจีน เข้าใจยัง
นั่นแหละคือประเด็นความโง่ของรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์
ผมว่ามัลลิกาเขาเจตนาดี ไปด่าคนตั้งใจด้วยคำแรงขนาดนั้น มันออกเกินไป
คนเราพลาดกันได้ไม่ใช้เรื่องใหญ่ คนบาปและเซเลบทั้งหลายมารุมด่าขนาดนี้ ผมว่าปากร้ายไม่แพ้แปะลิ้ม เนื้อแท้แล้วพวกเดียวกัน
และประเด็นของผมก็คือ กฎหมายไทยฝรั่งที่มาหากินเมืองไทยต้องปฎิบัติตามกฎหมายไทย
#44
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:49
แถลงชี้แจงกรณีหมิ่นและแบนยูทูบและเฟซบุ๊ก
"กลุ่มไม่หวังดีตัดต่อประเด็นแถลงของมัลลิกาสร้างกระแสต่อต้านการสู้เพื่อขจัดเว็บผิดกฎหมายโดยเฉพาะเว็บหมิ่นในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ย้ำจุดยืนไม่ใช่ให้ปิดยูทูบและเฟสบุ๊ก แต่ต้องมีมาตรการที่ผู้นำรัฐบาลต้องใช้ขู่และต่อรองหากรัฐมนตรีหมดปัญญาแล้วอ้างว่ายาก"
นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าชมรมนักรบไซเบอร์ ในฐานะที่รับผิดชอบการร้องเรียนเว็บผิดกฎหมายที่รัฐบาลไม่ดำเนินการและนาวสาวมัลลิกาได้เปิดตัวเป็นที่รับเรื่องร้องเรียนคู่ขนานกับการทำงานของรัฐบาลและกระทรวงไอซีทีในการขจัดเว็บผิดกฎหมายนั้น แถลงว่า เนื่องจากกลุ่มคนไม่หวังดีตัดต่อตัดแปะข้อความแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 แล้วนำไปใช้สร้างกระแสต่อต้านการรุกเรื่องนี้ของนางสาวมัลลิกา
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เบื้องต้นได้อธิบายผ่านทวิตเตอร์ @MallikaBoon และเฟซบุ๊กส่วนตัวเนื่องจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมายนำไปตกแต่งสร้างเรื่องให้คนเข้าใจไม่ครบถ้วน ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกความเห็นแต่ก่อนที่ใครจะแสดงออกกรุณาอ่านให้ครบทุกข้อความในทวิตใน @MallikaBoon หรือเฟซบุ๊กของมัลลิกาที่เพจ http://www.facebook....137530553003555
กรณีของการข้อความ "force แล้วถ้าไม่จบจึง ban ผู้นำต้องคิด" นั่นเป็นมาตรการต่อรองสำหรับผู้นำที่อ้างว่า "ยาก" และ "หมดปัญญา" ซึ่งทางแห่งความเป็นจริงนั้นมันเป็นไปไม่ได้ ในเนื้อข่าวที่แถลงและทวิตกับเฟซบุ๊กของมัลลิกาใช้คำว่าถ้ารัฐมนตรีไอซีที น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อ้างว่ายากและหมดปัญญาเช่นนั้นคุณก็ใช้ยาแรง ban เว็บแทนหากเขาไม่ให้ความร่วมมือคุณ การที่ผู้นำเต็มไปด้วยข้ออ้างแต่แท้จริงแล้วข้างหลังผู้นำมีมือโพสต์หมิ่นยืนประกบอยู่ข้างหลังตามที่เปิดประเด็นไปนั้นสิ่งใดที่จะทำให้ผู้นำหาข้ออ้างไม่ได้
"จุดยืนไม่ใช่เรื่องให้ไปปิดยูทูบ เฟซบุ๊ก แต่เป็นมาตรการที่ผู้นำต้องใช้ในการเจรจากดดันหรือขู่ห้าม อย่างไรก็ตามผู้นำประเทศต้องนำไปใช้เพื่อต่อรองนมาตรการคือ force ถ้าไม่จบจึง ban ผู้นำต้องคิดเป็นทางเลือกสุดท้ายหากรัฐมนตรีบอกว่ายากและหมดปัญญาซึ่งรัฐมนตรีอนุดิษฐ์ยอมรับเองว่ายากแต่ไม่พยายามและไม่วางเป้าหมายของนโยบาย จุดยืนเขาคืออะไร" นางสาวมัลลิกากล่าว
โดยรายละเอียดตามทวิตเตอร์ @MallikaBoon มีลำดับเป็นข้อๆดังนี้คือ
1.การใช้มาตรการแต่ละระดับ คือกลยุทธผู้นำในการจริงจังต่อการแก้ไขปัญหา การแก้ไขปัญหาเว็บหมิ่นต้องรู้ต้นตอแห่งปัญหาต้นตอมีแค่ 2 อย่าง
2.ต้นตอ 2 อย่างคือ คนตั้งใจทำลายกับช่องทางการใช้ทำลาย เมื่อเจอตอเจอเชื้อโรคแล้วก็ต้องหายามารักษาหรือหามาตรการมาแต่ละระดับ
3.การเป็นผู้นำคนผู้นำประเทศต้องใช้ทักษะเป็นกลยุทธเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย ขอแค่คุณตั้งเป้าหมายไว้หรือยัง?มีเป้าหมายหรือไม่ว่าจะขจัดปัญหา
4.ถ้าเป้ามายคือการขจัดออกให้สำเร็จ คุณต้องกำหนดกรอบและระยะเวลาเพื่อคนทำงานซึ่งคือราชการจะได้เดินหน้าตามเป้าหมายในคำสั่งนั้น!
5.ไล่ตั้งแต่สืบค้น ตรวจจับ ส่งสำนวนสู่ศาล นี่สำหรับบุคคลกระทำผิด!ส่วนผู้ให้บริการ (บริษัท) เว็บนั้นๆต้องเชิญมาประชุมขอความร่วมมือและเซนเซอร์
6.หากผู้ให้บริการขาดจริยธรรมปล่อยให้เพจหรือURLของคุณละเมิดและผิดกติกากับกฎหมายก็ส่งหลักฐานเสนอชั้นศาลปิดไป อยู่ในสังคมก็ต้องเคารพกติกา
7.ทีนี้สำหรับกรณีที่ผู้นำหมดปัญญา นั่นคืออ้างว่ามันยากเพราะเจ้าของเว็บอยู่ต่างประเทศซึ่งหมายถึงยูทูบกับเฟซบุ๊กที่ระบาดหนักช่วง 3 เดือนนี้
8.เช่นนั้นแล้วมาตรการคือ ผู้นำต้องประสานผู้นำประเทศเขาแล้วเอาผู้ให้บริการประเทศนั้นเข้ามาร่วมองค์เจรจา ขอความร่วมมือระหว่างกันให้เหตุผลไป
9.มันยากและไม่สำเร็จใช่ไหม? ก็มาตรการสุดท้ายให้ยาแรงคือมาตรการต่อรองแลกเปลี่ยนก่อนการยื่นจาก force แล้วไม่จบจึง ban ผู้นำต้องคิดและนำไปขู่เขา
10.อย่าดัดจริต ถ้าคิดจะเด็ดขาด!! ขบวนการทำลายไปไกลขนาดใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีจนฝรั่งงง! อย่าเอ่ยคำว่า "รักท่าน" แล้วใช้คำว่า "ยาก" !!
ทั้งหมดจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร และรัฐมนตรีไอซีที น.อ.อนุดิษฐ์นาครทรรพ วันจันทร์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2554 ต่อการแก้ไขปัญหาเว็บไซต์ในโซเชียลเน็ตเวิร์คชื่อดังๆ ระบาดหนักช่วงหลังการเปลี่ยนรัฐบาลตั้งแต่สิงหาคมถึงปัจจุบัน โดยนางสาวมัลลิกาจะนำเสนอพร้อมข้อมูลลิงค์หรือเพจ (URL) ของเว็บผิดกฎหมายประมาณ 200 URL ที่รับเรื่องร้องเรียนมาจากกลุ่มผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิคที่อ้างว่าไม่มั่นใจต่อการแก้ไขปัญหานี้ของรัฐบาล
นอกจากนี้ นางสาวมัลลิกายังย้ำว่าจะไม่หยุดต่อสู้เรื่องนี้แม้จะถูกกลุ่มคนที่น่าจะเป็นขบวนการส่งเสริมการลบหลู่ จาบจ้วง สถาบัน ตั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กชื่อปลอมๆ จำนวนมากโดยคนหนึ่งใช้ไอแพดเครื่องเดียวแต่มีเป็น 4-5 ชื่อที่ใช้เล่นทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก มาก่อกวนด่าหยาบคายในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กของเธอรวมทั้งโทรศัพท์ก่อกวนที่เข้ามามากขึ้นทุกวันแต่ประเภทโทรมาด่าแล้ววาง
ดังนั้นชมรมนักรบไซเบอร์จะเดินหน้าต่อไปเมื่อเจอใครเว็บหมิ่นเว็บผิดกฎหมายให้ทำตามขั้นตอนนี้ คือ
1)โทรแจ้ง ICT โดยตรงที่เบอร์โทร 1212 หรือ
2)แจ้งผ่านเว็บไซต์ของ ICT mict.go.th (แต่ถ้าไม่ได้เรื่ิองทำข้อ3)
3)ถ้าเว็บนั้นยังอยู่ค่อยแจ้ง FightBadWeb@gmail.com เพื่อให้มัลลิกาติดตามต่อโดยที่ไม่ต้องเอาลิงค์มาใส่ในเพจของ ทุกแห่ง ทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นใครและชมรมได้เปิดเฟซบุ๊ก FightBadWeb เป็นเพจหนึ่งในเฟซบุ๊กของมัลลิกามีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงซึ่งเป็นเจ้าพนักงานคอมพิวเตอร์ช่วยรับเรื่องและนำไปดำเนินตามกระบวนการของกฎหมาย
ข้อมูลประกอบที่สำคัญคือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การกระทำความผิดตาม พ. ร.บ.คอมพิวเตอร์ คือ กรณีที่คุณใช้คอมพิวเตอร์ ทุกรูปแบบ โซเชียลเน็ตเวิร์คทุกรูปแบบ เป็นเครื่องมือไปกระทำความผิด 4 ประการหลักคือ
1) ด้านความมั่นคงของชาติ เข่น การโพสต์ปล่อยข่าวที่ทำให้ประเทศเสียหาย เสี่ยงต่อความมั่นคง
2) ด้านยาเสพติด การพนัน เข่น การขายยาผิดกฎหมาย การยุยงเล่นเลข หวย บ่อน แทงบอล
3) ด้านลามก อนาจาร เช่น ไปส่งต่อเผยแพร่ภาพโป๊ คลิปลามก หนังลามก
4) ด้านหมิ่นสถาบันของชาติ พระบรมเดชานุภาพ เช่น ที่ตัดต่อคลิป ภาพ เพลง จาบจ้วง ล่วงละเมิด
ทั้งหมดเป็นฐานความผิดที่เจ้าพนักงานตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตั้งแต่รมต.ไอซีที เจ้าหน้าที่แต่งตั้งตามกฎหมายมั่น มีทั้งข้าราชการไอซีที ทหาร ตำรวจ ดีเอสไอ พลเรือนที่เชี่ยวชาญ จะมีบัตรเจ้าพนักงานสามารถเข้าไปตรวจค้น จับกุม ใครที่กระทำผิดกฎหมายนี้ได้แล้วทำสำนวนผ่านกระบวนการกฎหมายส่งฟ้องศาลมีโทษจำคุกหนักเบาแตกต่างกันไป
ขณะเดียวกัน นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช้ชื่อ Korn Chatikavanij ในเว็บไซต์เฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความโปรโมทโครงการของพรรคประชาธิปัตย์ คือ FightBadWeb โดยระบุข้อความต่อสาธารณะว่า ระยะหลังนี้มี "เว็บที่ไม่เหมาะสม" เพิ่มขึ้นมากและไม่มีท่าทีที่จะมีการดำเนินการใดๆ โดยรัฐบาล ดังนั้นทางพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้สร้างช่องทางการติดตามกดดันให้ทางรัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่มากขึ้น
ด้วยการสร้าง FB Page http://facebook.com/FightBadWeb ขึ้นมา ใครเจอ เว็บที่ผิดกฏหมาย ขอให้เข้าไปดูวิธีการร้องเรียนผ่าน Page นี้ได้ครับ พรรคประชาธิปัตย์โดย ส.ส.ศิริโชค โสภา ในฐานะ รมว.ICT เงา และ รองโฆษกฯ มัลลิกา บุญมีตระกูล อดีตที่ปรึกษารมว.ICT จะเป็นผู้คอยติดตามว่า...กระทรวง ICT มีการดำเนินการอย่างเต็มที่หรือไม่ ?
" รัฐมนตรีอนุดิษฐ์ งานเข้าแน่ครับ เพราะ... สังคมข้องใจอยู่แล้ว
ว่าทำไม ′ผู้เคยถูกกล่าวหาเกี่ยวกับคดีหมิ่น′ ถึงได้มาคอยเดินติดตามท่านตลอด และสิ่งนี้ เป็นเหตุให้มีเว็บหมิ่นแพร่หลายไปทั่ว ใช่หรือไม่
..ปล.วิธีแรกที่ FightBadWeb บอกคือ
..อย่าเอาลิงค์เว็บ หรือเพจหมิ่นมาแชร์ตอบใน Comment นะครับ." นายกรณ์โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก
รายงานจากหน้าเพจ FightBadWeb จัดตั้งขึ้นเพื่อให้คำแนะนำสำหรับ ผู้ที่ต้องการจะร้องเรียน รายงาน เว็บ หรือเพจหมิ่นฯ รวมทั้งเว็บที่ผิดกฏหมายต่างๆ ในการเปิดเพจนี้เพียงแค่วันเดียวปรากฎผู้เห็นด้วยกดชอบหรือlikeจำนวน 3,017 คนถูกใจสิ่งนี้แล้วและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
#45
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:51
เป็นเรื่องเฉพาะราย ไม่ใช่ไปปิดกั้นทั้งหมด
ถ้าจะไปบังคับเว็บต่างประเทศต้องไปฟ้องศาลต่างประเทศ
หากฟ้องศาลไทยก็ได้แค่เมืองไทย แตมันได้ผลจริงหรือ?
แต่สิ่งที่สังคมกำลังรุมด่ามัลลิกา คือเสนอปิดแบบจีน เข้าใจยัง
นั่นแหละคือประเด็นความโง่ของรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์
ผมว่ามัลลิกาเขาเจตนาดี ไปด่าคนตั้งใจด้วยคำแรงขนาดนั้น มันออกเกินไป
และประเด็นของผมก็คือ กฎหมายไทยฝรั่งที่มาหากินเมืองไทยต้องปฎิบัติตามกฎหมายไทย
ประเด็นมันคนละเรื่อง มัลลิกาสื่ออกมาทำนองว่าจะให้ใช้แบบประเทศจีนคือปิดกั้นทั้งหมด
นี่คือการสื่อสารที่ล้มเหลวของมัลลิกา บุญมีตระกูล
#46
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:54
ข่าวนั้นผมอ่านแล้ว มันมี 1-10 แต่ลุงเล่นอ่านแต่ข้อ 10
มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔
พรบ.คอมพิวเตอร์ที่ยกมาเพราะ ประเทศไทยก็มีศักดิ์ศรี มีกฎหมายของตัวเอง ถ้าฝรั่งมาทำมาหากินในแผ่นดินไทย ไม่สนใจกฎหมายไทยได้หรือ?
ผมไม่ใช้ขี้ข้าฝรั่งนะครับ
#47
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:55
ไม่มีใครบอกว่าปิด URL ไม่ได้
แต่สิ่งที่มัลลิกา บุญมีตระกูลสื่อออกมา ให้ทำเหมือนประเทศจีน เข้าใจยัง?
#48
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:57
แต่ถ้าเห็นด้วยกับมัลลิกานำเสนอคือพวกเผด็จการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน ผิดรัฐธรรมนูญ
กฎหมายใดจะยิ่งใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญคงจะไม่มีแล้ว ยกเว้นพวกเผด็จการ
#49
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 00:58
ตั้งแต่ข้อ1-10 ไม่มีคำว่าจีนซักคำ (อันนี้ล้อเล่น)ก็บอกแล้วว่าปิดได้เฉพาะ URL ที่ได้รับแจ้งเท่านั้น
ไม่มีใครบอกว่าปิด URL ไม่ได้
แต่สิ่งที่มัลลิกา บุญมีตระกูลสื่อออกมา ให้ทำเหมือนประเทศจีน เข้าใจยัง?
อ่านข้อ 1-8 ด้วยนะ
แล้วถามกลับ ทำตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ แล้วมันเผด็จการตรงไหน (หรือคนบาปยังไม่ได้อ่าน)
#50
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 01:01
ใครบอกว่าคุณเป็นขี้ข้าฝรั่ง
แต่ถ้าเห็นด้วยกับมัลลิกานำเสนอคือพวกเผด็จการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน ผิดรัฐธรรมนูญ
กฎหมายใดจะยิ่งใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญคงจะไม่มีแล้ว ยกเว้นพวกเผด็จการ
โทษทีนะคนบาป ผมบอกตรงๆที่ไม่อินเรื่องเสรีภาพ หรือเผด็จการใดๆเพราะเกิดไม่ทันยุคนั่นจริงๆ(พวกตุลา)
ผมเกิดมาก็ในยุดที่พบว่ากึ่งเผด็จการอย่างป๋าเปรมดีที่สุด และประชาธิปไตยจ๋าโกงที่สุด
แต่ผมก็ยึดหลักนิติรัฐนะ หรือลุงว่า พรบ.คอมพิวเตอร์ขัดรัฐธรรมนูญ?